วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 00:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 03:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอให้ทุกท่านที่รู้เกี่ยวกับ เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ว่ามีในพระไตรปิฎกหรือไม่นะงับ

ไม่รับแบบประสบการณ์นะงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 06:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มิ.ย. 2009, 17:52
โพสต์: 202

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เล่ม 40 หน้า 2 , 66

ก็ชนเหล่าใด เข้าไปผูกความโกรธนั้นว่า ผู้โน้นได้ด่าเรา ผู้โน้นได้ตีเรา ผู้โน้นได้ชนะเรา
ผู้โน้นได้ลักสิ่งของของเราแล้ว เวรของชนเหล่านั้นย่อมไม่ระงับได้

ส่วนชนเหล่าใด ไม่เข้าไปผูกความโกรธนั้นไว้ว่า ผู้โน้นได้ด่าเรา ผู้โน้นได้ตีเรา
ผู้โน้นได้ชนะเรา ผู้โน้นได้ลักสิ่งของของเราแล้ว เวรของชนเหล่านั้นย่อมระงับ

ในกาลไหนๆ เวรทั้งหลายในโลกนี้ ย่อมไม่ระงับด้วยเวรเลย
ก็แต่ย่อมระงับได้ด้วยความไม่มีเวร และธรรมนี้เป็นของเก่า.

บาทพระคาถาว่า เย จ ตํ นูปนยฺหติ ความว่า

ชนเหล่าใดไม่เข้าไปผูกความโกรธนั้น คือมีคำด่าเป็นต้นเป็นที่ตั้ง
ด้วยอำนาจแห่งการไม่ระลึกถึงและการไม่ทำไว้ในใจบ้าง ด้วยอำนาจการพิจารณาเห็นกรรมอย่างนี้ว่า

"ใครๆ ผู้หาโทษมิได้ แม้ท่าน (หมายถึงตัวเราเอง) คงจักด่าแล้วในภพก่อน คงจักประหารแล้ว(ในภพก่อน )
คงจักเบิกพยานโกงชนะแล้ว (ในภพก่อน) สิ่งของอะไรๆของใครๆท่านคงจักข่มแหงชิงเอาแล้ว(ในภพก่อน).
เพราะฉะนั้น ท่านแม้เป็นผู้ไม่มีโทษ (ในปัจจุบันนี้) จึงได้ผลที่ไม่น่าปรารถนา มีคำด่าเป็นต้น" ดังนี้บ้าง
เวรของชนเหล่านั้น แม้เกิดแล้วเพราะความประมาท ย่อมสงบได้ด้วยการไม่ผูกโกรธ
นี้ดุจไฟไม่มีเชื้อ เกิดขึ้นแล้วดับไปฉะนั้นแล.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 07:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณขงเบ้งคับ

หลวงปู่เทสก์ท่านก็อยากรู้เหมือนคุณนี่แหละ

ท่านว่า

หลวงปู่เทสก์ เขียน:
อนึ่ง เรื่องการทำบุญใช้หนี้เจ้ากรรมนายเวร เรื่องนี้ผู้เขียนไม่รู้จริงๆ จึงตอบไม่ได้ ขอผู้รู้ทั้งหลายได้
เมตตาแนะแนวให้ผู้เขียนได้ทราบบ้างก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง


ลองดูเต็มๆนะ
viewtopic.php?f=4&t=21462


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 20:12
โพสต์: 791

แนวปฏิบัติ: พุทโธและสัมมาอรหัง
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ใต้ร่มโพธิญาณ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




_4_645.jpg
_4_645.jpg [ 187.32 KiB | เปิดดู 3704 ครั้ง ]
พระท่านเคยเทศนาสั่งสอนอยู่เสมอว่า

เจ้ากรรมนายเวรนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน หรือพระเจ้าองค์ใดที่จะมาดลบัดาลให้เราเป็นอย่างนั้นเป็นนี้ได้หรอก นอกจากกรรม 3 ในอดีตหรือในปัจจุบัน ที่เรากระทำขึ้นมาเอง ได้มาส่งผลให้เราอยู่ดีมีสุข หรือมีทุกข์ ในปัจจุบันนี้

กรรม 3 ที่ว่านี้ คือ กาย วาจา และใจ

หากเราคิดแต่สิ่งดี ๆ พูดแต่สิ่งดี ๆ มีสาระ การกระทำก็กระทำแต่กรรมดีสั่งสมแต่กรรมดี ผู้ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา คือ กรรมดีของเรา ก็จะนำพาเราให้ไปพบแต่คนดี ๆ พบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต ชีวิตของเราจึงพบแต่ความสุข ความเย็นกายเย็นใจ ความเจริญในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ทว่าหากใครเกิดมาไม่รู้จักรักษาศีลรักษาธรรม ได้แต่สั่งสมกรรมชั่วกรรมเลว ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ เกิดมาได้แต่ก่อกรรมทำเข็ญ ทำให้พ่อแม่หรือผู้อื่น สัตว์อื่นได้รับความเดือดร้อน

เจ้ากรรมนายเวรของเขาคือ

ผลแห่งการกระทำชั่วของเขานั่นแหละ จะนำพาเขาไปทิศทางที่ต่ำที่เลว ชีวิตพบแต่ความเดือดเนื้อร้อนใจ ได้รับความทุกข์ทรมานทั้งกายและจิตใจ หรือบางทีทำเอาชีวิตถึงตายก็มี

.....................................................
ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมี 30 ทัศ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จนิพพานไปแล้ว มากยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง 4 ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพ พระธรรมมานุภาพ พระสังฆานุภาพ พระบารมีพระโพธิสัตว์ พระปัจเจกโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายและพระบารมีขององค์พระสมณะโคดมบรมครู ขอได้ส่งพลังมายังตัวข้าพเจ้า จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บและสรรพเคราะห์ทั้งหลายในกายของข้าพเจ้า จงหายไปสิ้นทั้งหมดขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ชนะต่ออุปสรรคและมารทั้งหลาย
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


apisit555 เขียน:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
๕. จูฬกัมมวิภังคสูตร (๑๓๕)

[๕๘๑] พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ตรัสว่า

ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้ ฯ


ด้วยเหตุนี้ เจ้ากรรม ที่แท้จริง = ท่านและผู้ที่โดนท่านทำ ที่เรียกว่า "กรรม" เพราะว่า กรรมจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีผู้ทำและผู้โดนกระทำ ส่วนนายเวรเป็นใครล่ะ

นายเวรก็คือ คนหรือสัตว์ที่เขาผูกใจโกรธพยาบาทอาฆาตเรา เป็นนายเวรทางด้านลบ คนหรือสัตว์ที่เขาผู้ใจจะตอบแทนคุณความดีของเรา ก็เป็นนายเวรทางด้านบวก เช่น เราเดินไปเหยียบมดตาย ตัวเราไม่ได้มีเจตนาฆ่ามด จิตเราจงไม่มีอกุศล และไม่มีใครเป็นเจ้ากรรมของเราแม้แต่ตัวเราเองหรือผู้อื่น ส่วนนายเวรคือมด มดที่ตายลง ถ้าจิตของมันผูกใจโกรธพยาบาทอาฆาตเรา ก็อาจจะส่งผลให้เรารับเคราะห์ไม่ดีได้เช่นกัน


ตลกจัง
ช่วยอธิบายได้ไหมว่า แล้วผมเป้นเจ้ากรรมนายเวรใคร? จะได้ไปเช็คบิล

ทำไมผมนึกไม่ออกมาผมไปแค้นใครไว้บ้างในชาติที่ผ่านๆมา
ผมอยากจะตามๆไปเอาคืนสักหน่อย คงจะมีเยอะ
แต่นึกยังไงก้นึกไม่ออกจริงๆ เลยไม่รู้จะไปเช็นบิลกับใคร เลย-อด-เป้นเจ้ากรรมนายเวร

มีแต่โมโหคุณนี่แหละ แต่มันก็กรรมของชาตินี้นะ ของเดือนกรกฏา 2552
ไม่ได้ชาตินี้ชาติโน้น

คุณพลศักดิ์เมื่อไหร่จะพ้นบ่วงกรรมเสียที เจ้ากรรมนายเวรเขาเป้นใครเหรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 21:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
คุณขงเบ้งคับ

หลวงปู่เทสก์ท่านก็อยากรู้เหมือนคุณนี่แหละ

ท่านว่า

หลวงปู่เทสก์ เขียน:
อนึ่ง เรื่องการทำบุญใช้หนี้เจ้ากรรมนายเวร เรื่องนี้ผู้เขียนไม่รู้จริงๆ จึงตอบไม่ได้ ขอผู้รู้ทั้งหลายได้
เมตตาแนะแนวให้ผู้เขียนได้ทราบบ้างก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง


ลองดูเต็มๆนะ
viewtopic.php?f=4&t=21462



สาธุงับ ผมก็นับถือหลวงปู่เทศน์งับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2009, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


ไหว้พระปล่อยปลา เขียน:
พระท่านเคยเทศนาสั่งสอนอยู่เสมอว่า

เจ้ากรรมนายเวรนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน หรือพระเจ้าองค์ใดที่จะมาดลบัดาลให้เราเป็นอย่างนั้นเป็นนี้ได้หรอก นอกจากกรรม 3 ในอดีตหรือในปัจจุบัน ที่เรากระทำขึ้นมาเอง ได้มาส่งผลให้เราอยู่ดีมีสุข หรือมีทุกข์ ในปัจจุบันนี้

กรรม 3 ที่ว่านี้ คือ กาย วาจา และใจ

หากเราคิดแต่สิ่งดี ๆ พูดแต่สิ่งดี ๆ มีสาระ การกระทำก็กระทำแต่กรรมดีสั่งสมแต่กรรมดี ผู้ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา คือ กรรมดีของเรา ก็จะนำพาเราให้ไปพบแต่คนดี ๆ พบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต ชีวิตของเราจึงพบแต่ความสุข ความเย็นกายเย็นใจ ความเจริญในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ทว่าหากใครเกิดมาไม่รู้จักรักษาศีลรักษาธรรม ได้แต่สั่งสมกรรมชั่วกรรมเลว ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ เกิดมาได้แต่ก่อกรรมทำเข็ญ ทำให้พ่อแม่หรือผู้อื่น สัตว์อื่นได้รับความเดือดร้อน

เจ้ากรรมนายเวรของเขาคือ

ผลแห่งการกระทำชั่วของเขานั่นแหละ จะนำพาเขาไปทิศทางที่ต่ำที่เลว ชีวิตพบแต่ความเดือดเนื้อร้อนใจ ได้รับความทุกข์ทรมานทั้งกายและจิตใจ หรือบางทีทำเอาชีวิตถึงตายก็มี


สาธุงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2009, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2009, 01:02
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ผมขอยกข้อความจากหนังสือ "ลมหายใจสุดท้าย" ของพระมหางามพล กิตฺติโสภโณ มาให้ครับ :b6:

เจ้ากรรมนายเวรมีจริงไหม

:b48: :b48: :b48: ..........มนุษย์ทั้งหลายเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ ย่อมต้องมีการกระทำ อันเป็นการล่วงเกินหรือกระทบกระทั่งผู้อื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะมีความเชื่อ เรื่องเจ้ากรรมนายเวร อยู่ในบริบทของสังคมชาวพุทธ คำว่า
"เจ้ากรรมนายเวร" นี้ไม่มีในพระไตรปิฎก แต่เรื่องราวการจองเวรกันนั้น มีอยู่ในหลายแห่งด้วยกัน ดังปรากฎ เรื่องของหญิงผู้หนึ่งหอบลูกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระพุทธองค์ เพราะเหตุว่ามีนางยักษิณีตนหนึ่ง จะแย่งเอาบุตรีของตนไปกิน :b45:

พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนทั้งสองฝ่าย โดยการเล่าเรื่องการจองเวรกันของทั้งสองฝ่าย ยังผลให้เกิดการเลิกการจองเวรกัน หันหน้ามาเป็นมิตรที่ดีต่อกัน :b45:

จุดเริ่มต้นของการจองเวรของทั้งคู่ เกิดขึ้นในอดีตกาลอันล่วงมานาน มีภรรยาหลวงของชายคนหนึ่งได้วางแผนทำร้ายอนุภรรยา โดยการทำให้แท้งลูกถึง ๓ ครั้ง ในครั้งสุดท้ายอนุภรรยาก็ได้แท้งลูกและเสียชีวิตด้วย :b45:

หล่อนเริ่มก่อการจองเวรกันขึ้น โดยฝ่ายอนุภรรยาซึ่งถูกอีกฝ่ายฆ่าตาย อาฆาตไว้ว่า ขอจองเวรในชาติหน้า จากนั้นอนุภรรยาก็ได้เกิดเป็นแมว แล้วไปทำร้ายอีกฝ่ายที่เกิดเป็นแม่ไก่พร้อมกับลูกไก่ จนถึงแก่ความตาย ทำให้แม่ไก่จองเวรต่อมา แล้วก็ผลัดกันทำร้าย โดยเกิดเป็นเสือกับกวาง แล้วจึงเกิดเป็นมนุษย์กับยักษิณีในชาตินี้เอง ตามลำดับ :b45:

เหตุการณ์ในลักษณะนี้แสดงให้เห็นว่า การสร้างเวรให้แก่กัน และการจองเวรกันนั้นย่อมจะไม่เป็นผลดีแก่ทั้งสองฝ่าย เพราะนอกจากจะสร้างความทุกข์ร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นแล้ว ยังมีผลเสียหายไปถึงชาติต่อไปอีก หนทางที่ดีก็คือ การไม่มุ่งร้ายทำลายผู้ใด ด้วยทางกาย วาจา และใจ และรู้จักให้อภัยต่อผู้ที่กระทำการต่าง ๆ ล่วงเกินตน หรือหากมีการล่วงล้ำก้ำเกินเกิดขึ้นแล้ว ก็ควรจะต้องขออโหสิกรรมและให้อภัยแก่กันเสีย :b45:

การขออโหสิกรรมนั้น กระทำได้ทั้งในขณะที่อีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ หรือจากไปแล้ว สามารถกระทำได้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่หากกระทำในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ และเป็นการกระทำต่อหน้า ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย..........
:b48: :b48: :b48:


เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
ราตรีของผู้ตื่นอยู่นาน...โยชน์ของผู้ล้าแล้วไกล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 14:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 14:34
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าท่านที่ตั้งกระทู้คงรู้แล้วละครับ กรรมเป็นของเราเอง ส่วนผลของกรรมที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องมีเรื่องราวที่มีบุคคนเข้ามาร่วมด้วยเหมือนจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรจริงๆนั้นแหละแต่ไม่ใช่เป็นเจ้ากรรมนายเวรหลอกครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2009, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


redbroks เขียน:
ผมว่าท่านที่ตั้งกระทู้คงรู้แล้วละครับ กรรมเป็นของเราเอง ส่วนผลของกรรมที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องมีเรื่องราวที่มีบุคคนเข้ามาร่วมด้วยเหมือนจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรจริงๆนั้นแหละแต่ไม่ใช่เป็นเจ้ากรรมนายเวรหลอกครับ



สาธุงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 10 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร