วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 16:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


จริต6
๑. ราคะจริต คือ คนที่มีนิสัยสั่งสมแสวงหามาในทางสิ่งที่ประณีตสวยงาม และชอบในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และคิดนึก คนประเภทนี้จะมีปัญญาปานกลาง
๒. ศรัทธาจริต คือ คนที่มีนิสัยสั่งสมแสวงหามาในทางสิ่งที่ประณีตสวยงาม มักจะเชื่อหรือศรัทธาอะไรง่ายๆๆเช่นได้ยินแค่คำล่ำลือก็จะเชื่อทันที คนประเภทนี้จะมีปัญญาน้อย
๓. โทสจริต คือ คนที่มีนิสัยสั่งสมปัญญากล้า ทิ้งขว้างได้ไม่ติดพันในอารมณ์ เมื่อเจอสิ่งที่ไม่พอใจจะแสดงความโกรธออกมาทันที คนประเภทนี้จะมีปัญญามาก
๔. พุทธิจริต คือ คนที่มีนิสัยสั่งสมปัญญากล้า ทิ้งขว้างได้ไม่ติดพันไม่เอื้อเฟื้อในสังขาร เป็นพวกที่มีปัญญามากและพิจารณาเห็นตามความเป็นจริง คนประเภทนี้สั่งสมบารมีมามาก คนประเภทนี้จะมีปัญญามาก
๕. โมหะจริต คือ คนที่มีนิสัยสั่งสมตรึกในอารมณ์ที่โอนเอน ไม่แน่นอน ตัดสินไม่ได้ สร้างวิมานในอากาศ สงสัยปักใจไม่ลง ไม่ครุ่นคิด คนประเภทนี้จะมีปัญญาน้อย
๖. วิตกจริต คือ คนที่มีนิสัยสั่งสมตรึกในอารมณ์ ลักษณะคล้ายคลึงกับคนโมหะจริต มักจะวิตกหรือคิดมากไปก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น คนประเภทนี้จะมีปัญญาน้อย
***********************************************

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 08:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 06:25
โพสต์: 2058


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่อง "จริต กับ การปฏิบัติธรรม" จากพระสูตรดั้งเดิมที่สุด น่ะครับ


อ้างอิง : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๐ สุตตันตปิฎกที่ ๒๒ ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส

"....พระผู้มีพระภาคย่อมทรงทราบว่า

บุคคลนี้เป็นราคจริต
บุคคลนี้เป็นโทสจริต
บุคคลนี้เป็นโมหจริต
บุคคลนี้เป็นวิตักกจริต
บุคคลนี้เป็นศรัทธาจริต
บุคคลนี้เป็นญาณจริต.

พระผู้มีพระภาคตรัสบอกอสุภกถาแก่บุคคลผู้เป็นราคจริต .

ตรัสบอกเมตตาภาวนาแก่บุคคลผู้เป็นโทสจริต.

ทรงแนะนำบุคคลผู้เป็นโมหจริตให้ตั้งอยู่ในเพราะอุเทศ และปริปุจฉา ในการฟังธรรมโดยกาล ในการสนทนาธรรมโดยกาล ในการอยู่ร่วมกับครู.

ตรัสบอกอนาปานัสสติแก่บุคคลผู้เป็นวิตักกจริต

ตรัสบอก ความตรัสรู้ดีแห่งพระพุทธเจ้า ความที่ธรรมเป็นธรรมดี ความที่สงฆ์ปฏิบัติดี และศีลทั้งหลายของตน ซึ่งเป็นนิมิต เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส แก่บุคคลผู้เป็นศรัทธาจริต.

ตรัสบอกอาการไม่เที่ยง อาการเป็นทุกข์ อาการเป็นอนัตตา อันเป็นวิปัสสนานิมิตแก่บุคคลผู้เป็นญาณจริต. ...."




ความจริงแล้ว
ไม่ว่าจริตใดๆก็ตาม ในที่สุดแล้ว ถ้าจะพ้นทุกข์ก็จักต้องบังเกิดสัมมาญาณะ-สัมมาวิมุติ ด้วยการเกิดวิปัสสนาญาณเห็นแจ้งในไตรลักษณ์ จึงจักพ้นทุกข์ได้...

ซึ่ง ก็คือ ทุกจริตจะต้องมาจบที่การเห็นแจ้งในไตรลักษณ์ เช่นเดียวกันกับการปฏิบัติของผู้เป็นญาณจริต.
ญาณจริต คือ ผู้มีปัญญามาก โดย มีศีล และ จิตพื้นฐานไม่ฟุ้งซ่านมาก อยู่แล้ว น่ะครับ.

ท่านที่เป็นญาณจริต อาจจะไม่จำเป็นต้องไปเจริญสมาธิภาวนา(เช่น อานาปานสติ เมตตาภาวนา อสุภกรรมฐาน พุทธานุสติๆลๆ)มาก่อน ก็สามารถเจริญวิปัสสนาโดยตรง(เจริญวิปัสสนามีสมถะเป็นเบื้องหน้า ไม่ใช่วิปัสสนาล้วน) และ พ้นทุกข์ได้เลย..เพราะสภาพพื้นฐานจิตของท่านนั้น เอื้อต่อการเห็นแจ้งในไตรลักษณ์อยู่แล้ว นั้นเอง

แต่ ทุกคนหาใช่ว่าจะเป็นญาณจริตทั้งหมด
และ ก็หาใช่ว่าคนเมืองที่สภาพสังคมวุ่นวาย ส่วนใหญ่จะเป็นญาณจริต...คนเมืองส่วนใหญ่น่าจะเป็นวิตกจริต เพราะ ปัจจุบันคนเมืองเป็นโรคประสาทกันเยอะครับ
(ญาณจริต อาจถูกเข้าใจผิดว่า เป็นจริตของคนคิดมาก ในสภาพสังคมวุ่นวาย)

คำสอนดั้งเดิม ที่แสดงกรรมฐานต่างๆที่หลากหลาย ซึ่งทรงแสดงไว้ เพื่อช่วยปรับสภาพจิตของบุคคลที่มีจริตต่างๆกัน ให้เหมาะสมกับการเห็นแจ้งในไตรลักษณ์ นั้น....จึงเป็นสิ่งที่สมควรศึกษาให้เข้าใจชัดเจนอย่างยิ่งครับ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2009, 16:10
โพสต์: 298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ความรู้มากมายค่ะ :b20: :b20:

ขออนุโมทนาบุญค่ะ :b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร