วันเวลาปัจจุบัน 14 มิ.ย. 2025, 03:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2009, 01:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ธ.ค. 2008, 23:48
โพสต์: 217

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

โทษของกามสุข
: พระจุลนายก (สุชาติ อภิชาโต)


จากหนังสือ กำลังใจ 9 ตอน ทำดี ละชั่ว

ต่อจากนั้นก็ยังมีความรัก ความชอบในสิ่งต่างๆ ที่ต้องปล่อยวางอีก เช่น กามสุข ที่เกิดจากกามตัณหาความอยากในกาม เราก็ต้องปล่อยวางต้องเห็นว่าสิ่งที่เราไปรักไปชอบนั้น ไม่ใช่สิ่งที่สวยงาม รูปร่างหน้าตาของคนเรานั้น พอดูได้แต่เพียงเฉพาะเปลือกนอก คือผิวหนังเท่านั้นเอง

ถ้ามองทะลุเข้าไปใต้ผิวหนังแล้ว ก็จะเห็นอวัยวะต่างๆ น้อยใหญ่ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในของร่างกาย รวมถึงสิ่งที่เป็นปฎิกูลต่างๆ ที่ร่างกายจะต้องขับถ่ายออกมา

ถ้าพิจารณาอย่างสม่ำเสมอด้วยปัญญา ด้วยความแยบคาย ก็จะเห็นว่าร่างกายนี้ไม่สวยงามเลย ไม่สะอาดหมดจด แต่เป็นร่างกายที่สกปรก มีความไม่สวยไม่งามซ่อนเร้นอยู่ ในขณะที่ยังมีชิวตอยู่ก็ยังเป็นอย่างนี้ ในขณะที่ตายไป ยิ่งสกปรก ยิ่งน่าเกลียด น่ากลัวขึ้นไปใหญ่

แต่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่ค่อยพิจารณากัน ไม่ค่อยคิดอัน ก็เลยเกิดความรักความยินดีในร่างกาย เห็นเพศตรงกันข้ามแล้ว เกิดความอยากจะอยู่ใกล้ด้วย อยากจะสัมผัสด้วย เพราะเห็นเพียงแต่อาการภายนอกไม่เห็น อาการภายในจึงทำให้มีความยึดติดกับร่างกายของเพศตรงกันข้าม

แต่ถ้าได้ศึกษาได้พิจารณาอย่างต่อเนื่อง อย่างสม่ำเสมอต่อไป เวลาเห็นร่างกายของเพศตรงกันข้าม หรือเพศเดียวกันก็ตาม จะเห็นทะลุไปถึงอาการทั้ง ๓๒ อาการ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย คลายความกำหนัดยินดีในร่างกายของผู้อื่น

เมื่อคลายความกำหนัดความยินดี จิตก็หลุดพ้นจากความเป็นทาสของกามตัณหา ความอยากในกาม สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังโดยไม่ต้องมีคู่ครองอีอต่อไป

คนที่อยู่ตามลำพังได้เป็นคนมีบุญมีกุศลเพราะไม่ต้องทุกข์กับคู่ครองเพราะเวลามีคู่แล้วถึงแม้จะมีความสุขบ้าง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับความทุกข์ที่ได้มาแล้ว มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว

เพราะเมื่ออยู่ด้วยกันก็ต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งกันมีการขัดใจกันมีความไม่พอใจกัน หรือถ้าไม่มีการทะเลาะกัน ไม่มีการขัดแย้งกัน มีแต่ความรักต่อกัน ก็ต้องมีความห่วงใยกัน กลัวว่าเขาจะเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ไปเป็นต้น ล้วนแต่เป็นความทุกข์ทั้งนั้น

แต่เนื่องจากว่าเรายังอยู่ตามลำพังไม่ได้ ยังมีความหลงอยู่ ยังมีความยินดีในกามอยู่ จึงทำให้ ไม่สามารถที่จะอยู่ตามลำพังได้ จึงต้องยอมรับความทุกข์ ที่มาจากความสุขที่เกิดจาก การเสพกาม

ถ้าเป็นคนฉลาด ก็จะเจริญธรรม ให้เห็นว่าร่างกายนี้ เป็นร่างกายที่ไม่สวยงาม เป็นปฎิกูลของสกปรก จนปล่อยวางได้ ก็จะไม่ยินดีกับการมีคู่ครองอีกต่อไป ก็จะสามารถอยู่ตามลำพังได้ เพราะจิตที่ไม่มีกามตัณหานั้น เป็นจิตที่สงบสงัดจากกาม เป็นจิตที่มีความสงบนิ่ง เป็นสมาธิ เป็นจิตที่มีความสุขโดยธรรมชาติของจิตเอง เป็นความสุขที่ประเสริฐเป็นความสุขที่เลิศกว่าความสุขที่ได้จากการเสพกาม

ดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่า ไม่มีความสุขอันใดในโลกนี้ จะดีเท่ากับความสุขที่เกิดจากความสงบของจิต ที่เรียกว่าสันติสุข นี่แหละคือความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขที่อยู่กับเราไปตลอด เพราะอยู่ในจิตของเราไม่ต้องอาศัยสิ่งหนึ่งสิ่งใด มาทำให้จิตมีความสุข

ไม่มีใครสามารถแย่งชิงความสุขนี้จากเราไปได้ไม่เหมือนกับกามสุขที่ต้องอาศัยบุคคลอื่น เป็นเครื่องให้ความสุขอับเรา ถ้าเผลอก็อาจจะถูกคนอื่นแย่งคนๆ นั้น จากเราไปก็ได้ ถ้าถูกแย่งไป เราก็จะต้องเศร้าโศกเสียใจ เป็นความทุกข์ขึ้นมาทันที

นี่แหละคือโทษของกามสุข กามสุขไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง

กามสุขมีโทษซ่อนอยู่ มีความทุกข์ซ่อนอยู่ เปรียบเหมือนกับระเบิดเวลาที่จะระเบิดขึ้นมาเวลาไหนเราก็ไม่รู้ สามีของเรา ภรรยาของเราจะจากเราไปแบบไหน เมื่อไร เราก็ไม่รู้ จะหย่ากัน จะไปมีสามีใหม่ ภรรยาใหม่ หรือจะตายจากเราไป อย่างใดอย่างหนึ่ง เราก็ไม่รู้

แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเรายังหวง ยังยึด ยังติดกับเขาอยู่ เราก็จะต้องเศร้าโศกเสียใจ ร้องห่มร้องไห้ไปเป็นธรรมดา นี่คือปัญหาของพวกเราเพราะไม่ใช้ลิ้นของเราให้เป็นประโยชน์ กลับไปใช้ทัพพี คือใจของเรานั้นเป็นได้ทั้ง ๒ อย่าง เป็นทัพพีก็ได้ เป็นลิ้นก็ได้ ถ้าเป็นลิ้นก็ต้องสำเหนียกเตือนสติสอนใจเราอยู่เสมอ ต้องเข้าหาธรรมอยู่เสมอ ฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่เสมอ ถ้าไม่มีโอกาสได้ฟังเทศน์ฟังธรรม ก็หาหนังสือธรรมะมาอ่านอยู่เสมอ เพราะเมื่อได้อ่านแล้วก็จะได้จดจำ แล้วธรรมก็จะไม่ห่างจากใจของเรา

นำมาจาก
http://www.mindcyber.com/content/data/12/0014-1.html

.....................................................
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2009, 01:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2009, 22:06
โพสต์: 194

อายุ: 38
ที่อยู่: นันทบุรีศรีนครน่าน

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกียสุขทุกอย่าง ย่อมเจืออยู่ด้วยทุกข์ไม่มากก็น้อย
เป็นความสุขที่ไม่ปลอดภัยนัก ส่วนความสุขทีได้จาก
การปฏิบัติธรรมจนใจสงบปราศจากนิวรณ์ เป็นความสุขอัน
ไม่เจือด้วยโทษ มีแต่ความปลอดภัย...
ผู้อิ่มเอิบในธรรม ย่อมมีจิตใจฝ่องใสเป็นสุข...

อนุโมทนาครับ beby


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 10:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.พ. 2009, 11:53
โพสต์: 39


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุค่ะ...อนุโมทนาบุญกับบทความธรรมะดีๆที่นำมาให้ได้อ่านค่ะ อ่านแล้วทำให้รู้สึก
เห็นโทษของกิเลสตัวกามสุขและลดกิเลสภายในของตัวเองให้เบาบางลงได้บ้างค่ะ แต่ก็คง
ต้องค่อยๆฝึกต่อไปค่ะ :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


s001 s001 s001


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 05:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่น่ารักน่าฟูใจทั้งหลายที่เรียกกันว่า กามคุณ เป็นเหตุให้เกิดความสุข แต่ต้องอาศัยความกำหนัด ความรัก ความยั่วยวน ความพอใจเข้าช่วย จึงจะเป็นความสุขไปได้ เมื่อมีความสมหวังแล้วก็เคยชิน เบื่อและแส่หาใหม่สืบไป จึงเป็นของเผาลนอยู่เสมอ และชั่วขณะเหมือนของยืมผู้อื่นเขามา

และเมื่อกำลังมัวเมาหลงรักอยู่ ก็ต้องอุทิศหัวใจตนให้เป็นเหมือนเขียงรองสับเนื้อ ยอมรับทุกๆ ประการ เพื่อบำรุงบำเรอของรักจนกว่าจะเบื่อหน่าย และพร้อมกันนั้นยังเป็นทางเกิดขึ้นแห่งความหึงหวง อิจฉาริษยา ซึ่งเป็นเครื่องเผาลนอีกเป็นอย่างมาก

ความกำหนัดรัก เป็นบ่อเกิดของความโศก ความกลัว ความระแวง ความอาลัย ความสะดุ้ง ความหึงหวง ฯลฯ เพราะฉะนั้นในนาทีแห่งความรัก ก็คือนาทีแห่งความชั่วร้ายที่ออกนามมาแล้ว ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ในทำนองอันตรงกันข้าม นาทีแห่งความจืดสนิทแห่งความรัก ก็คือนาทีแห่งความโปร่งใสเยือกเย็นของใจนั่นเอง

หลงใหลสุขทางโลกคงทุกข์โศกยั่งยืนยาว
แรกเกิดถึงหนุ่มสาวจนแก่เฒ่าทุกข์เข้าครอง
หวังสุขอันยั่งยืนทุกวันคืนควรใตร่ตรอง
ตัดใจไม่เกี่ยวข้องกามคุณให้วุ่นวาย :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 14:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไผ่ เขียน:
โลกียสุขทุกอย่าง ย่อมเจืออยู่ด้วยทุกข์ไม่มากก็น้อย
เป็นความสุขที่ไม่ปลอดภัยนัก ส่วนความสุขทีได้จาก
การปฏิบัติธรรมจนใจสงบปราศจากนิวรณ์ เป็นความสุขอัน
ไม่เจือด้วยโทษ มีแต่ความปลอดภัย...
ผู้อิ่มเอิบในธรรม ย่อมมีจิตใจฝ่องใสเป็นสุข...

อนุโมทนาครับ beby


สงสัยเราต้องเก็บประเด็นนี้กลับพิจารณาใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะแล้วมั๊งนี่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 16:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

yahoo เขียน:
สงสัยเราต้องเก็บประเด็นนี้กลับพิจารณาใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะแล้วมั๊งนี่
ไผ่ เขียน:
โลกียสุขทุกอย่าง ย่อมเจืออยู่ด้วยทุกข์ไม่มากก็น้อย
เป็นความสุขที่ไม่ปลอดภัยนัก ส่วนความสุขทีได้จาก
การปฏิบัติธรรมจนใจสงบปราศจากนิวรณ์ เป็นความสุขอัน
ไม่เจือด้วยโทษ มีแต่ความปลอดภัย...
ผู้อิ่มเอิบในธรรม ย่อมมีจิตใจฝ่องใสเป็นสุข...

อนุโมทนาครับ beby


สงสัยเราต้องเก็บประเด็นนี้กลับพิจารณาใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะแล้วมั๊งนี่


ผมกำลังพยายามอยู่ครับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2009, 16:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 เม.ย. 2009, 19:55
โพสต์: 548

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

yahoo เขียน:
สงสัยเราต้องเก็บประเด็นนี้กลับพิจารณาใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะแล้วมั๊งนี่
ไผ่ เขียน:
โลกียสุขทุกอย่าง ย่อมเจืออยู่ด้วยทุกข์ไม่มากก็น้อย
เป็นความสุขที่ไม่ปลอดภัยนัก ส่วนความสุขทีได้จาก
การปฏิบัติธรรมจนใจสงบปราศจากนิวรณ์ เป็นความสุขอัน
ไม่เจือด้วยโทษ มีแต่ความปลอดภัย...
ผู้อิ่มเอิบในธรรม ย่อมมีจิตใจฝ่องใสเป็นสุข...

อนุโมทนาครับ beby


yahoo เขียน:
สงสัยเราต้องเก็บประเด็นนี้กลับพิจารณาใหม่อย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะแล้วมั๊งนี่


ผมกำลังพยายามอยู่ครับ

:b8: :b8: :b8:

กำลังพยายามจะช่วยให้กำลังใจผม...ในการพิจารณา
หรือว่า คุณเองก็กำลังพยายามพิจารณา/ทำอยู่..เช่นกันครับนี่
ผมงง...
:b10: :b10: :b10:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร