วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 23:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 28 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากถามว่าผิดศีลข้อไหน บาปสุดๆครับ
ผมเดาว่าข้อ 1 เพราะทำลายชีวิตแล้ว เราไม่สามารถสร้างชีวิตใหม่ทดแทนใช่ไหมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้ยินว่า ความแรงมันอยู่ที่เจตนาน่ะคับ
เจตนายิ่งกล้าเท่าไหร่ บาปยิ่งแรงเท่านั้น

ถ้าลักทรัพย์ ดูเหมือนเบากว่าฆ่าคน
แต่ภ้าไปลักพระบรมสารีริกธาตุ หรือไปขโมยไตคน ขโมยประเทศเขา พรากลูกพรากแม่เขา อะไรทำนองนั้น
...อูยสสส์ สยึ๋มกึ๋ย :b23: :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามความเห็นส่วนตัว ข้าพเจ้าคิดว่า น่าจะเป็นข้อที่1 คือปาณาติบาต(ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต)
เพราะในบรรดาศีลห้า พระพุทธองค์ บัญญัติข้อนี้เป็นข้อแรก. :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: ร่วมด้วยช่วยกัน

ปมาโท มจฺจุโน ปทํ ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย.

ศีลข้อที่ ๕ เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากฐานะอันประมาทคือการดื่มของมัวเมาคือสุราและเมรัย.

ข้อนี่แน่นอน ลงถ้าเมา ประมาท ทำ ๔ ข้อเบื้องต้นได้สบายๆเลย
ทั้งประมาท และมัวเมา ก็ลองตรองดูเถิดครับ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 เม.ย. 2009, 19:25
โพสต์: 579

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อเสพสุราน่าจะเบากว่าเพื่อน หากเสพสุราแล้ว
ไม่มีการล่วงศีลข้ออื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาด้วย


ความหนักเบาของบาปอันเกิดจากการล่วงศีล
มีความหนักเบา ไม่เท่ากันแม้จะผิดศีลข้อเดียวกัน

เช่น ฆ่าสัตว์ ก็ต้องดูว่าฆ่าสัตว์อะไร มีประมาณขนาดไหน
ส่วนแห่งเจตนามีความเข้มข้น และมีทิศทางเป็นอย่างไร

การลักขโมย ก็ต้องดูว่าลักอะไร ความสูญเสียเดือดร้อน
มีประมาณขนาดไหน

การพูด คำโกหก สามารถนำความวิบัติ หลายหลากรูปแบบ
มาสู่ตน มาสู่คน มาสู่กลุ่มคน จนถึงระดับมวลมนุษยชาติ
บาปจากการโกหก จึงมีหลายระดับ ตั้งแต่เบาสุด จนถึง
ระดับไม่สามารถหยั่งคำนวนปริมาณบาปได้


ศีลข้อกระทำผิดในกาม จัดเป็นบาปที่มีน้ำหนักของบาป
ที่เข้มข้นทันที ที่มีการกระทำ ความหนักรุนแรงของบาป
จะมีความต่างกัน ตรงที่ ไปกระทำกับใคร

กระทำกับเด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา หรือนักบวช หรือภิกษุณีอรหันต์
และอาจจะมีข้อปลีกย่อยอื่นๆอีกมาก ที่มีผลทำให้บาปหนักเบาต่างกัน


ความหนักเบาของการล่วงศีล จึงไม่น่าจะอาศัยแค่เกณฑ์การวัด
เปรียบเทียบระหว่างศีลแต่ละข้อ ว่าล่วงข้อไหนบาปกว่ากัน
แต่ควรต้องดูองค์ประกอบปลีกย่อยที่แตกต่างด้วย

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 14:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2007, 16:38
โพสต์: 107


 ข้อมูลส่วนตัว


ถามว่า.. ศีลข้อไหนร้ายแรงสุด ๆ ..

น่าจะขึ้นอยู่กับเจตนา เป็นที่สุดนะ..

^_^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 16:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ผิดศีลข้อ 5 ร้ายแรงที่สุดครับ เพราะผิดข้อนี้แล้วก็พร้อมจะทำผิดทุกๆข้อเลยล่ะ...กับแกล้มหมด ฆ่าสัตว์ก็ทำได้...เงินหมดอยากจะกินต่อลักทรัพย์ก็ทำได้...มุสาวาจานี่เป็นเรื่องปกติ...เกิดความกำหนัดขึ้นมาก็ผิดกาเมได้ทันที....น่ากลัวมั้ยล่ะ :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 18:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: แถมๆๆ
ข้อ กาเม น่าจะผิดยากที่สุดนะ ระยะเวลาทำผิดเฉลี่ยห่างหน่อย

เอิ๊กๆๆ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 20:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


ผิดศีลข้อไหนร้ายแรงสุดๆ

ผิดศีลคือการขาดสติสัมปชัญญะ แล้วมีเจตนาก่อกรรมทำเข็ญกับผู้อื่น

การก่อกรรมทำเข็ญกับผู้อื่น - จะเห็นว่าการฆ่าเขานั้น ชีวิตของเขาเอาคืนไม่ได้แล้ว ตายแล้วตายเลย จึงน่าจะหนักกว่าเพื่อน ไปลักทรัพย์ โกหก ไปผิดลูกผิดเมียเขา เจ้าทุกข์เขายังอภัยให้ได้ แต่ไปฆ่าเขา เจ้าทุกข์เขาจะฟื้นคืนชีพมาอภัยได้ยังไง ผมจึงว่าการฆ่าคนจึงน่าจะบาปกว่าเพื่อน

ส่วนการดื่มสุราเมลัย ถ้าไม่ขาดสติสัมปชัญญะก็ไม่บาป จะเห็นได้ว่าหลายศาสนา เขาก็ไม่ถือว่าการดื่มสุราเมลัยเป็นบาป การดื่มสุราเมลัยที่เป็นบาป คือ การดื่มสุราเมลัยจนขาดสติสัมปชัญญะเท่านั้น ทำให้กล้าทำสิ่งที่ผิดศิลข้อ 1-4


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 20:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


กามโภคี เขียน:
:b12: :b12: แถมๆๆ
ข้อ กาเม น่าจะผิดยากที่สุดนะ ระยะเวลาทำผิดเฉลี่ยห่างหน่อย

เอิ๊กๆๆ


ผิดกาเมไม่ได้บาปนะ เป็นเรื่องของธรรมชาติ ผิดกาเมที่เป็นบาป ต้องละเมิดผู้ที่มีเมียหรือผัวแล้วเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีเมีย ไม่มีผัว เขาเต็มใจร่วมสนุกกับเรา ย่อมเป็นบาปไม่ได้ เพราะไม่มีผู้เสียหายหรือผู้ถูกละเมิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

ผมเห็นด้วยครับ กับคำที่ว่ามีเจตนาเป็นที่ตั้ง
ผิดมาก ผิดน้อย เราใช้เจตนาเป็นเครื่องกำหนด
(อันนี้ตามความรู้สึกของผมเอง)
ผิดถูกยังไงขออภัยด้วยครับ


:b8: :b8: :b8:

"จงคิดก่อนทำ"

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 22:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2009, 20:15
โพสต์: 78


 ข้อมูลส่วนตัว


น่าจะร้ายแรงทุกข้อเท่าๆกันนะคะ

ถ้าไม่ร้ายแรง ก็คงไม่กำหนดให้เป็นศีลมั้งคะ

อันนี้คิดเองนะ อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
ส่วนการดื่มสุราเมลัย ถ้าไม่ขาดสติสัมปชัญญะก็ไม่บาป จะเห็นได้ว่าหลายศาสนา เขาก็ไม่ถือว่าการดื่มสุราเมลัยเป็นบาป การดื่มสุราเมลัยที่เป็นบาป คือ การดื่มสุราเมลัยจนขาดสติสัมปชัญญะเท่านั้น ทำให้กล้าทำสิ่งที่ผิดศิลข้อ 1-4



(อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑ )

สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐาน ก็มีองค์ ๔ คือ

๑.สุราทีนํ อญฺญตรํ ของมึนเมามีสุราเป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง
๒.มทนียปาตุกมฺยตาจิตฺตํ จิตคิดอยากจะดื่มจองมึนเมา
๓.ตชฺชํ วายามํ อาปชฺชติ ความพยายามเกิดแต่จิตนั้น
๔.ปีเต จ ปวิสติ ดื่มเข้าไปในลำคอ
ในข้อนี้ พึงทราบวินิจฉัย แม้โดยองค์ ด้วยประการดังกล่าวมาฉะนี้.

ยังไม่เห็นองค์ประกอบข้อไหนเลยที่บอกว่า การดื่มสุราและเมรัยที่เป็นบาป คือการดื่มสุราเมรัยจน
ขาดสติสัมปชัญญะเท่านั้น อย่างที่คุณบอกเลย
อีกอย่างหนึ่ง หลายศาสนาของคุณผมไม่รู้ว่าศาสนาอะไร แต่คงไม่ไช่ศาสนาพุทธแน่
การตีความอย่าได้คิดเองก่อน นักปราชญ์ในศาสนาเราสมัยก่อนมีเยอะ ยิ่งอรรถกถาแล้วสมัยนั้นพระอรหันต์ยังมีอยู่มาก เมื่อมีที่ให้เราอาศัยตีความ ก็ควรอย่างยิ่งที่จะเข้าไปหาศึกษาก่อนครับ จนปัญญาจริงๆค่อยหาการตีความที่อื่นเถอะ

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 23:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
ผิดกาเมไม่ได้บาปนะ เป็นเรื่องของธรรมชาติ ผิดกาเมที่เป็นบาป ต้องละเมิดผู้ที่มีเมียหรือผัวแล้วเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีเมีย ไม่มีผัว เขาเต็มใจร่วมสนุกกับเรา ย่อมเป็นบาปไม่ได้ เพราะไม่มีผู้เสียหายหรือผู้ถูกละเมิด



อรรถกถา พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑

ก็พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า กาเมสุ มิจฉาจาร ต่อไป
คำว่า กาเมสุ ได้แก่การเสพเมถุน. การประพฤติลามกอันบัณฑิต
ติเตียนโดยส่วนเดียว ชื่อว่า มิจฉาจาร. แต่เมื่อว่าโดยลักษณะ ได้แก่
เจตนาเป็นเหตุก้าวล่วงฐานะที่ไม่ควรเกี่ยวข้อง(อคมนียวัตถุ)ที่เป็นไปทางกายทวารโดยประสงค์
อสัทธรรม ชื่อว่า กาเมสุมิจฉาจาร.


และ อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔

กาเมสุมิจฉาจารนั้นมีองค์ ๔ คือ
๑.อคมนียวัตถุ
(วัตถุที่จะพึงล่วงเกิน)
๒.ตตฺถ เสวนจิตฺตํ (จิตคิดจะเสพในอคมนียวัตถุนั้น)
๓.เสวนปโยโค (ประโยคในการเสพ)ท่วงท่าลีลาการพยายามเป็นต้น เช่น จีบกัน เจรจา นัดแนะ เป็นต้น จนถึงเล้าโลมนั่นแหละ-ผู้เขียน
๔.มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺตึ อธิวาสนํ (การยังมรรคให้ดำเนินไปทางมรรคหรือหยุดอยู่)

หญิง(ชายก็อนุโลมด้วย)ที่เป็น อคมนียวัตถุมี ๒๐ จำพวก แต่ในที่นี้ประสงค์ ๑๒ คือ

๑.หญิงที่รับหมั้นแล้ว
๒.หญิงที่กฎหมายคุ้มครอง
และหญิงที่เป็นภรรยามีการซื้อมาด้วยทรัพย์เป็นต้นเหล่านี้ คือ

๑. ภรรยาที่ซื้อไถ่มาด้วยทรัพย์
๒. ภรรยาที่อยู่ด้วยความพอใจ
๓. ภรรยาที่อยู่ด้วยโภคะ
๔. ภรรยาที่อยู่ด้วยผ้า
๕. ภรรยาที่ทำพิธีรดน้ำ (จุ่มน้ำ)
๖. ภรรยาที่ชายปลงเทริดลงจากศีรษะ.
๗. ภรรยาที่เป็นทาสีในบ้าน
๘. ภรรยาที่จ้างมาทำงาน
๙. ภรรยาที่เป็นเชลย
๑๐.ภรรยาที่อยู่ด้วยกันครู่หนึ่ง
(ข้อ.10 อันนี้ต้องระวังครับ ใช้ทรัพย์ซื้อมาอยู่ครู่หนึ่ง พวกเด็กออฟหรือบรรดาที่เราหิ้วไปด้วยทรัพย์,หญิงขายบริการ)


ฉนั้นจะเป็นเรื่องของธรรมชาติหรือเปล่าผมไม่รู้ ในความเห็นผมต้องตามหลักเกณฑ์ของศีล
เพราะถ้าตามธรรมชาติ อาจพูดได้ว่า ตามใจตัวเองมากกว่า

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2009, 23:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12: :b12:
จะหนัก จะบาป ขนาดไหน ผมเจอแล้วในอรรถกถา แต่อธิบายกันยาวเพราะเป็น
ภาษาคัมภีร์ ถ้าว่างจริงๆจะลองรวบรวมมา ท่านมีหลักวินิฉัยเรื่องศีลที่ละเอียดมาก

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 28 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร