วันเวลาปัจจุบัน 15 พ.ค. 2025, 19:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 13:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไม ทำไม :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 14:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2008, 17:19
โพสต์: 139

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


3 มื้อ ก็เป็นโรคกระเพาะได้ค่ะ หรือจะ 4 มื้อ 5 มื้อก็เป็นได้เหมือนกัน ถ้าทานไม่ตรงเวลา หรือทานจุบจิบ
พระสงฆ์ท่านทาน 2 มื้อ หรือมื้อเดียว แต่ทานตรงเวลาเป็นประจำ จะไม่เป็นโรคกระเพาะค่ะ

จากที่เคยวิ่งเข้าวัด ช่วงที่เข้าวัดวันสองวัน อยู่บ้านวันสองวัน ช่วงนั้นจะเป็นโรคกระเพาะ
เพราะอยู่ที่วัด 2 มื้อ ที่บ้าน 3 มื้อ
แต่ถ้าอยู่ที่วัดเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน เคยทานแค่วันละมื้อเดียว อยู่ได้สบาย เบาตัว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเลยค่ะ
(มีแต่โรคอยากกิน ตอนที่นั่งสมาธิ หรือเดินจงกรมตอนดึกๆ :b3: )

พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้พระภิกษุฉันแค่มื้อเดียว เพื่อให้ตัวเบา จิตเบา ง่ายแก่ความเพียร
ภายหลังทรงอนุโลมให้ฉันสองมื้อได้

ต้องลองฝึกดู แล้วจะรู้ว่าเป็นประโยชน์ต่อการภาวนามากแค่ไหนระหว่างฉัน 1 มื้อ 2 มื้อ 3 มื้อค่ะ

.....................................................
สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2009, 16:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2008, 09:18
โพสต์: 635

อายุ: 0
ที่อยู่: กองทุกข์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาครับ คุณ โปเต้ :b4:

.....................................................
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"
คิดเท่าไหรก็ไม่รู้ หยุดคิดจึงจะรู้

http://www.luangta.com
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 17:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


กินมาก แล้วกามมันจะมากตามไปด้วยครับ อาหารเย็นนี่ถือเป็นอาหารบำรุงกาม พระท่านบวชเพื่อละกาม อะไรบำรุงกามก็งดซะให้หมด

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 01:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ย. 2008, 22:30
โพสต์: 222

ที่อยู่: เวียนว่ายในวัฏสงสาร (-_-!)

 ข้อมูลส่วนตัว


:b20: คุณ boom_manman ขยันตั้งกระทู้จัง :b12: สงสัยจะเร่งสะสมดาวใช่เปล่า :b12: :b27:
:b19: ไม่ได้แล้วเดี๋ยวกระผมต้องเร่งบ้างแล้ว.... :b19: สะสมดาว...สะสมดาว.... :b19:

.....................................................
ขอประสบความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2009, 11:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะการฉัน 3 มื้อนั้นมันเกินความจำเป็นครับสำหรับพระ

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2009, 07:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2009, 17:37
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


ในสมัยพุทธกาลเมื่อพระบิณบาตในตอนเย็นทำให้ญาติโยมไม่ค่อยมีเวลามาใส่บาตร และยุ่งกับเรื่องลูกและทำมาหากินจึงเป็นประเด็นหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้บัญญัติไว้ และอีกเรื่องหนึ่งเมื่อกินข้าวอิ่มในตอนเย็นสักพักเข้าปฎิบัติธรรม เช่น นั่งสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำให้ง่วงนอนง่ายมาก และท้องอืด ตดด้วย ทำให้เป็นอุปสรรค์ที่สำคัญเมื่อกินอิ่มธรรมดาจะตื่นสายด้วย ดังนี้แล

ดงไม้หอม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2009, 08:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18
โพสต์: 731

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากประสบการณ์ที่เคยบวชมา การฉัน 2 มื้อไม่ทำให้ผมเป็นโรคกระเพาะ
และเท่าที่สังเกตดูคนที่เป็นโรคกระเพาะส่วนใหญ่เป็นฆราวาสทั้งๆที่ทานอาหารจุกจิก(มากกว่า 3 มื้อ)
สาหตุคิดว่าน่าจะมาจากการทานอาหารไม่ตรงเวลามากกว่า ปลาอยให้นำย่อยทำลายกระเพาะอาหาร
ส่วนพระคุณเจ้านั้นการฉันภัตตาหารวันละ 2 ครั้ง ก็เพียงพอต่อฐานานุรูปและความต้องการของร่างกาย
และฉันตรงต่อเวลาเนื่องจากวินัยพุทธบัญญัติกำหนดไว้เรื่องวิกาลโภชนา :b51:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 เม.ย. 2009, 10:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้แล้วก็ไม่ต้องถามสิครับ...พอใครมาตอบก็บอกว่ารู้แล้วๆ...แล้วจะถามไปทำไม รู้แล้วก็ปล่อยวางซะจะได้ไม่ต้องถืออะไรไว้มากมายให้มันเป็นภาระหรอก ท่านเห็นใจพระเพราะท่านปรุงแต่งไปเอง การที่พระท่านปฏิบัตินั้นอาจดูเหมือนท่านเหล่านั้นลำบาก แต่ความจริงแล้วท่านทั้งหลายเหล่านั้นกลับมีความสุขนักหนา..กลับกัน การที่ต้องมานั่งกินข้าวนี่สิเป็นความทุกข์.... :b13:

และก็ขอบใจกับชื่อที่ตั้งขึ้นใหม่ให้เป็นฉายาของกระผม แต่ว่ามันไม่มีความหมายหรอกครับ

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 02:22
โพสต์: 83

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะอะไรจะบอกให้ทราบ เวลาเช้าจนก่อนเที่ยงเป็นเวลาผู้บำเพ็ญ เทพเทวดา อินพรหม จะฉันหรือรัขของใหว้หากเราจะทำพิธีกรรมใหว้เทพอินพรหมต่างต้องใหว้ก่อนเที่ยง หลังเที่ยงไปแล้วเป็นเวลาของเดรัจฉานหากินหรือเทพชั้นต่ำจากนั้น หลังอาทิตตก เป็นของภูตผี ส่วนหลังเที่ยงคืนจะเป็นเวลาหากินของเปรต อสุร ผู้บำเพ็ญจำเป็นต้องรู้จักประมาณในการกิน นอกจากนั้นคือผู้ประมาณการกินไม่เป็น อีกอย่างการกินไม่เหมาะกับการกรรมฐาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2009, 05:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

พระท่านฉัน 2 มื้อ มา 2,500 ปีแล้ว
คุณห่วงเรื่องอะไรไม่ทราบ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 เม.ย. 2009, 01:52
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


วรานนท์ เขียน:
:b8: :b8: :b8:

พระท่านฉัน 2 มื้อ มา 2,500 ปีแล้ว
คุณห่วงเรื่องอะไรไม่ทราบ

:b8: :b8: :b8:


:b8:
นั่นสินะครับ
ถ้ารู้แล้วแล้วจะตั้งกระทู้ถามทำไมไม่ทราบ

.....................................................
ทำความดีเพื่อความดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 07:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


โรคกระเพาะเกิดจากกินอาหาร 2 มื้อหรอครับ
ไม่จริงมั้ง ผมกิน 3-4 มื้อก็เป็น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 08:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2009, 13:23
โพสต์: 607


 ข้อมูลส่วนตัว


หล่อ ลูกแม่อ้วน เขียน:
โรคกระเพาะเกิดจากกินอาหาร 2 มื้อหรอครับ
ไม่จริงมั้ง ผมกิน 3-4 มื้อก็เป็น

ถ้าพูดตามหลักวิทยาศาสตร์คือ โรคกระเพราะเกิดจากน้ำย่อยมาแล้ว (ทำให้หิว) แต่เราไม่กิน
พอไม่กิน น้ำย่อยก็ย่อยกระเพราะจนเป็นแผล :b28:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ม.ค. 2009, 21:10
โพสต์: 66


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณหมอครับ หิวผมก็กินเลยนะ ยังเป็นโรคนี้เลย ไม่อดอยาก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร