วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2025, 07:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 มี.ค. 2009, 23:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2007, 19:15
โพสต์: 96


 ข้อมูลส่วนตัว


นับตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลก มีสิ่งหนึ่งที่เกิดมาพร้อมกับตัวเราทุกคน นั่นก็คือการเรียนรู้ชีวิตที่ได้มา เพื่อทำความรู้จักกับรายละเอียดที่มีอย่างรู้เท่าทัน ซึ่งถือว่าเป็นการดิ้นรนเพื่อที่จะให้ตัวเองมีชีวิตอยู่รอด

เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้ที่จะอยู่ในท้องของแม่ด้วยความหวังว่าจะรอดออกมาดูโลกด้วยความปลอดภัย

การพยายามลืมตาให้มองเห็นสิ่งต่างๆที่ล้อมรอบตัวเองโดยไม่ต้องหวาดผวาว่า โลกที่ควรมองเห็นจะเป็นความมือดสนิทเพราะตาบอด

การฝึกพูดด้วยถ้อยคำที่อ้อแอ้ในเบื้องต้น เพื่อการเปล่งเสียงที่ดังชัดเจนในเวลาต่อมา
การเริ่มต้นเดินจากการเดินตั้งไข่ให้ได้ เพื่อให้ก้าวต่อไปมีความเข้นแข็ง ลักษณะการต่อสู้เหล่านี้ เมื่อมองผิวเผิน ประหนึ่งว่าเป็นธรรมดาที่ชีวิตต้องเรียนรู้ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปในรายละเอียดของการต่อสู้เพื่อให้ชีวิตมีคุณค่ามากกว่าเดิม มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราฉลาดขึ้นก็คือ "ความผิดะลาดที่ซ่อนอยู่ในตัวของเราเอง"

เพราะในทุกรายละเอียดที่เราได้มานั้น มีความผิดพลาดซ่อนอยู่เสมอ เป็นรายละเอียดที่เราไม่สามารถให้เป็นไปได้อย่างที่ใจมุ่งหวัง เพราะมีตัวแปรต่างๆมาคอยเปลี่ยนทิศทางให้เพี้ยนไป

ทว่าในรายละเอียดที่แปลกแยกและไม่เป็นดั่งหวังนั้น ก็มีสิ่งดีๆซ่อนอยู่มากมาย อย่างน้อยก็ทำให้เห็นความแตกต่างของสิ่งอื่นๆด้วย เป็นการจำแนกให้เห็นว่า เพราะมีสิ่งที่หลากหลายปรากฏ การเกิดมาจึงมีสีสันให้ชวนมอง

แต่การที่จะมองสิ่งต่างๆใบทิศทางที่เป็นบวกได้ เราก็ต้องฝึกวิธีมองให้กับตัวเองด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นการสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในใจของเรา เพื่อให้ความเชื่อนั้นเป็นพลังในการผลักดันไปสู่การกระทำที่ถูกต้องดีงาม และเป็นอาภรณ์ประดับชีวิตให้ทรงคุณค่าในตัวเอง

วิลเลี่ยม เจมส์ นักจิตวิทยาและนาปราชญ์ชาวอเมริกันกล่าวไว้ว่า
"หากคุณเชื่อว่าชีวิตของคุณ มีความคุ้มค่าพอที่คุณจะได้ใช้ชีวิต ความเชื่ออันนั้นของคุณ จะช่วยสร้างให้มันเป็นความจริงขึ้นมาได้"

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราก็เช่นเดียวกันหากรู้จักปรับทิศทางของความคิดที่มาจากความไม่พอใจให้เป็นไปในแง่บวก เพื่อให้เห็นมุมมองใหม่ที่ดีกว่า เราย่อมรู้ว่าในสิ่งที่ไม่เป็นดั่งหวัง ก็มีสิ่งดีๆที่มีความแปลกใหม่ให้ค้นหาเสมอ

"เพราะความผิดพลาก ชีวิตจึงฉลาดขึ้น" จึงเป็นนิยามของการค้นหาชีวิต เพื่อให้รู้จักมองสิ่งต่างๆรอบด้านด้วยความใส่ใจ และรู้จักระวังไม่ให้ตัวเองกลับไปผิดพลาดเหมือนวันวานที่ผ่านมา
เมื่อฉลาดแล้วก็ควรเรียนรู้ต่อไปว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นแก่เราเลยจะดีกว่า เพราะความผิดพลาดที่ผ่านเข้ามา มักทำให้คุณค่าหล่นหายไปจากชีวิตอย่างน่าเสียดาย กว่าจะดึงคุณค่าที่หายไปกลับมาได้ ทุกอย่างที่มีอยู่ก็มักเหลือน้องเกินไป

คัดลอกมาจาก หนังสือ จะยากอะไร ถ้าอยากให้ใจมีสุข หน้า 43

.....................................................
ความรื่นนมย์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ไม่จำเป็นต้องได้อะไรที่ยิ่งใหญ่มาครอบครอง แต่ควรเป็นชีวิตที่เกิดจากความเข้าใจ อันเป็นภาวะของความรู้สึกตัว ความตื่นจากปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างรู้เท่าทันตามความเป็นจริงด้วยปัญญา


แก้ไขล่าสุดโดย nattakarn เมื่อ 02 เม.ย. 2009, 00:02, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2009, 16:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


โมทนาด้วยครับกับเจ้าของกระทู้ คือผมอ่านไปเรื่อยๆก็ดีครับ
การมองโลกในเชิงบวกตามปรัชญาตะวันตก
ให้มองความพิดพลาดเป็นครู เป็นพลังในการเดินต่อไป
มาสะดุดตรงนี้ครับ ขออนุญาตินะครับ ว่าจะเลยไปก็อดไม่ได้ครับ ขอหน่อยครับ

อ้างคำพูด:
พระพุทธเจ้า ผ่านความผิดพลาด เพราะไม่สามารถเรียนรู้ชีวิตตามความเป็นจริงเมื่อวัยเยาว์ ถูกปิดบังจากผู้เป็นพ่อ และคนรอบข้าง เพราะกลัวลูกของตนจะออกบวช แล้วไม่ยอมครองตนเป็นจักรพรรดิ
ทำให้พระองค์ครั้งเป็นเจ้าชายต้องอยู่กับลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุขแบบชาวโลกทั่วไป แต่เมื่อวันหนึ่งถูกเปิดตาให้มองเห็นความจริง จึงรู้ว่าชีวิตที่เกิดมาบนความไม่รู้นั้นเป็นสิ่งที่น่าเศร้ายิ่งนัก ทำให้พระองค์เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต เพื่อก้าวสู่มรรคาแห่งการตรัสรู้ในเวลาต่อมา


ถ้าเราลองศึกษาพุทธประวัติอย่างละเอียด ไม่ผิวเผินหรือฉาบฉวยนั้นจะพบว่า
พระพุทธองค์ได้เรียนรู้ชีวิตตามความเป็นจริงตั้งแต่วัยเยาว์โดยตลอด
เช่นช่วยนกที่ถูกยิงจากเทวทัต การเข้าฌานใต้ร่มหว้า
การเห็นพระราชบิดาแม้เป็นกษัตริย์ยังต้องทำนา
แม้ปู่ก็เช่นกัน....เห็นทุกข์ตลอด จนพระราชบิดาต้องสร้างปราสาทให้อยู่แต่ภายใน

รูปภาพ

แม้จะถูกปิดบังจากพระราชบิดา พระองค์ก็หามีความสุขสบายพระทัยไม่
ทรงรู้ตามความเป็นจริงว่า โลกนี้มีแต่ทุกข์เท่านั้น(ไม่ได้มองเชิงบวกเช่นตะวันตก)
พระองค์ทรงรอโอกาสที่จะออกบวชตลอด จนกระทั่งมีพระราหุล บ่วงเกิดขึ้นแล้ว

จึงได้โอกาสก้าวสู่มรรคา ผมจึงอยากบอกว่าชีวิตในวัยพระเยาว์ของพระองค์นั้นไม่ได้ผ่านความผิดพลาด แล้วมาฉลาดขึ้นภายหลัง ผมว่าพระองค์ฉลาดที่รู้โลกตามความเป็นจริงมาโดยตลอดมากกว่า
ทั้งในอดีตชาติโดยเฉพาะทศชาติที่บำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวดเพื่อการบรรลุพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีคำว่าผิดพลาดแน่นอนครับ

การยกตัวอย่างความผิดพลาดของผู้แต่งหนังสือเป็นพระพุทธองค์จึงไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไรครับ....

:b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 เม.ย. 2009, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 มี.ค. 2009, 16:53
โพสต์: 113

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอบคุณผู้แต่งและผู้โพสต์ค่ะ อ่านแล้วมีแรงมีเยอะเลยค่ะ :b4:

.....................................................
คำของหลวงพ่อชา
“ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด”


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2009, 00:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2007, 19:15
โพสต์: 96


 ข้อมูลส่วนตัว


ค่ะ

ขอโทษด้วยนะคะ
ที่โพสต์ไป คือพิมพ์ตามหนังสืออ่า

^^

เดี๋ยวแก้ไขให้นะคะ

.....................................................
ความรื่นนมย์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ไม่จำเป็นต้องได้อะไรที่ยิ่งใหญ่มาครอบครอง แต่ควรเป็นชีวิตที่เกิดจากความเข้าใจ อันเป็นภาวะของความรู้สึกตัว ความตื่นจากปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างรู้เท่าทันตามความเป็นจริงด้วยปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2009, 08:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:

ขอบพระคุณอย่างสูงครับคุณ nattarkan :b4: :b4: :b4:

และการตอบกระทู้ในครั้งนี้ทำให้ผมได้ดาวดวงที่ 9
แปรสภาพเป็นบัวทองแล้ว ไชโย ไชโย :b22: :b13:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2009, 09:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2008, 09:39
โพสต์: 219


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ..อย่างนี้แหละครับที่ท่านเรียก "สนทนาธรรม"

:b8: :b20: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 เม.ย. 2009, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มี.ค. 2009, 18:08
โพสต์: 27


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: สาธุครับ เราบอกหรือสอนใคร เขาคนนั้นจะไม่เรียนรู้หากแต่ ถ้าเขานำไปปฏิบัติแล้วเขาจะได้ประสบการณ์ไม่ว่าจะผิดหรือถูกเขาก็จะเรียนรู้และเข้าใจด้วยตัวของเขาเอง :b8:

.....................................................
จะไม่พูดว่าตนดี เมื่อไรที่ว่าตนดีแปลว่า เราเองนั้นเลวสุดๆ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร