วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 04:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2009, 12:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อถึง "กาล" ที่กรรม จะให้ผล

ในขณะที่เป็น............วิบากจิต.


ชอบไหม.........ที่จะได้รับผลของกรรม.?

ทั้งการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การรู้รส

และ รู้การกระทบสัมผัส ทางกาย.


นี่แสดงให้เห็น "การสะสมความติดข้อง"

ใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ.



.



เพราะฉะนั้น เมื่อมี "ทาง"

ที่จะทำให้ ผลของกรรม คือ วิบากจิต เกิดขึ้น

โดยมี อารมณ์ ปรากฏให้จิตรู้ได้.



.



ปัญจทวาราวัชชนจิต ซึ่งเป็น กิริยาจิต

เป็น "แดนเกิดของธรรม"

"ธรรม"

ที่แสดงให้เห็นถึง การสะสม ของแต่ละคน.



.



เมื่อ ปัญจทวาราวัชชนจิต ดับไปแล้ว

ถ้าเป็น ทางตา...จักขุวิญญาณเกิด คือ การเห็น

การเห็น เป็น วิบากจิต.


การเห็น ชั่วขณะหนึ่งๆ นี้

ยากไหม.............ที่จะรู้ถึง ความรวดเร็ว ของจิต

ซึ่งเกิดดับ สืบต่อ ทำกิจต่างๆกัน แต่ละประเภท.


เป็น กุศลจิต ก็มี.........เป็น อกุศลจิต ก็มี

เป็น วิบากจิต ก็มี.........เป็น กิริยาจิต ก็มี

ในแต่ละ หนึ่ง ขณะ.



.



นี้เป็น ความอัศจรรย์ของ "ธรรม"

ที่ใคร........ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้.!



.



เพราะฉะนั้น..........ถ้าเป็น ทางตา

จักขุทวาราวัชชนจิต เป็น กิริยาจิต

เกิดขึ้น แล้ว ดับไป

เป็นปัจจัยให้ จักขุวิญญาณจิต เกิดขึ้น.


จักขุวิญญาณจิต

ต้องอาศัย ตา คือ จักขุปสาท เป็นปัจจัย

การเห็น จึงเกิดขึ้น

และ เห็น สิ่งที่กำลังปรากฏ ทางตา.


ขณะที่เห็น เป็นวิบากจิต เป็นผลของกรรม

ขณะนั้น......ยังไม่ใช่กุศลจิต และ อกุศลจิต.


หลังจาก เห็น ซึ่งเป็น วิบากจิต

เกิด และ ดับไปแล้ว

ก็ถึง "กาล" ของสิ่งที่ได้สะสมมา

จะเกิด ปรากฏขึ้นได้.


เพราะฉะนั้น

เมื่อ จักขุวิญญาณจิต คือ การเห็น ดับไปแล้ว

ก็เป็นปัจจัยให้ "วิถีจิต" ซึ่ง กรรมทำให้เกิดขึ้น.


โดยวิถีจิตขณะนี้ ทำกิจ คือ สัมปฏิจฉันนกิจ

ซึ่ง....รับรู้ อารมณ์ ต่อจาก จักขุวิญญาณจิต.


แต่ สัมปฏิจฉันนจิต ไม่ใช่ ขณะที่เห็น

หมายความว่า........ไม่ได้ทำ ทัสสนกิจ

แต่ทำ สัมปฏิจฉันนกิจ

คือ รู้อารมณ์ ต่อจาก ขณะจิต ที่แล้ว.


และ เมื่อ สัมปฏิจฉันนจิต ดับไป

ก็จะเป็นปัจจัยให้ วิถีจิต อีกหนึ่งขณะ

คือ สันตีรณจิต เกิดขึ้น

ทำกิจ พิจารณา อารมณ์ หนึ่งขณะ.


วิถีจิต แต่ละขณะๆ เกิดดับเร็วมาก

คือ เกิดขึ้นทำกิจต่างกัน แล้วดับไป.


เมื่อ สันตีรณจิต ดับไปแล้ว ก็เป็นปัจจัยให้

ชวนปฏิปาทกมนสิการ เกิดขึ้น ทำกิจของตน

หมายความ ว่า....................

จิต ซึ่งเป็นบาท โดยเฉพาะ

ที่จะเป็นปัจจัย ทำให้ กุศลจิต อกุศลจิต

หรือ กิริยาจิตของพระอรหันต์ เกิดขึ้นได้

โดยไม่กล่าวถึง.........โลกุตตรจิต .



.



นี่คือ "กาล" ของกรรมที่จะให้ผล

จาก สิ่งที่ได้สะสมมาแล้ว ทั้งหมด

แล้วแต่ว่า....ใครจะสะสมอะไรมา.!



.



เพราะฉะนั้น.....เลือกไม่ได้ใช่ไหม.?

เวลาที่ โวฏฐัพพนชวนปฏิปาทกมนสิการ (จิต)

ซึ่ง เป็นบาทเบื้องต้น

ที่เป็นปัจจัยให้ กุศล หรือ อกุศล ที่สะสมมาแล้ว

ได้โอกาส ที่จะเกิดขึ้น.



.



เร็วแค่ไหน......แค่เห็นนี้ละ.!

ที่พร้อมจะเป็น อกุศล ประเภทหนึ่ง ประเภทใด

หรือ เป็นกุศล ประเภทหนึ่ง ประเภทใด.


แต่ก็ยาก.......ใช่ไหม.?

สำหรับ ขณะที่เป็น กุศล

เพราะว่า..........................

ส่วนใหญ่ ก็จะเป็น อกุศล.



.



เพราะฉะนั้น

ก็จะเห็นได้ ว่า......เรา ไม่รู้อะไรเลย.!

ขณะนี้...มีใครรู้บ้างว่า เห็นที่ดับไปแล้วนั้น

โดย ขณะที่ "รูปารมณ์"........ยังไม่ทันดับ

ขณะนั้น จิต เป็น อกุศล ประเภทใด........?

เป็นโมหมูลจิต โลภมูลจิต หรือ โทสมูลจิต.


ถ้าเป็น อารมณ์ ที่ไม่น่าพอใจ

เช่น..............เสียงดังๆ ทางหู

ทุกคน ก็คงจะเหมือนกันหมด

คือ เป็นเสียงที่ไม่น่าพอใจเลย.


เพราะฉะนั้น

ทันทีที่ โสตวิญญาณจิต......ได้ยิน

สัมปฏิจฉันนจิต รับรู้.........สันตีรณจิต พิจารณา

เมื่อ โวฏฐัพพนจิต เกิดขึ้น...โทสมูลจิต ก็เกิดขึ้น.

โดยที่ใคร ก็ไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้.!

ในเมื่อ อารมณ์นั้น เป็น อารมณ์ ที่ไม่น่าพอใจ

อันนี้.....พูดถึงโดยทั่วๆไป.



.



แต่จะเห็นว่า...........การที่ สังขารขันธ์ จะปรุงแต่งจิต

จนกระทั่ง...แม้ในขณะ หลังจากที่เห็นแล้ว ได้ยินแล้ว

ก็ไม่มี อกุศลใดๆ เกิดขึ้นได้เลย

แม้แต่ กุศล.......ก็เกิดขึ้นไม่ได้.!

เพราะหมดกิเลส เป็นพระอรหันต์.



.



นี่คือ...........กว่าจะถึง การเป็นพระอรหันต์

ต้องเข้าใจ สภาพธรรม ตามความเป็นจริง.


ถ้าไม่เข้าใจ สภาพธรรม ตามความเป็นจริง

ก็ เป็น "เรา"......เป็นเรา ที่พยายามจะไปทำ

อย่างหนึ่ง อย่างใด

โดยที่ไม่รู้ ความเป็นจริง ของสภาพธรรม

เพราะฉะนั้น......จึงไม่สามารถดับกิเลสได้.



.



ด้วยเหตุนี้......ชวนปฏิปาทกะ

จึงเป็นปัจจัยให้ สิ่งที่ได้สะสมมา เกิดขึ้นได้

คือ เป็นแดนเกิด ของ กุศล และ อกุศล

ซึ่งก่อนหน้านั้นเกิดไม่ได้เลย

ในขณะที่ จิต เป็น ภวังค์.



.



ขณะที่ จิต เป็น ภวังค์..........กุศล หรือ อกุศล ก็เกิดไม่ได้

ขณะที่ จิต เป็น กิริยา คือ ขณะที่เป็น ปัญจทวาราวัชชนจิต

กุศล หรือ อกุศล ก็เกิดขึ้นไม่ได้.


เพราะว่า.......จิต ทั้งสองประเภท ไม่ประกอบด้วย "เหตุ"

ขณะที่เป็น สัมปฏิจฉันนจิต สันตีรณจิต โวฏฐัพพนจิต

ก็ยังไม่ใช่......."กาล"

ที่ กุศลจิต และ อกุศลจิต ที่ได้สะสมมาแล้ว

จะเกิดขึ้นได้.



.



แต่ โวฏฐพพนจิต..........ทางปัญจทวาร

และ มโนทวาราวัชชนจิต ทางมโนทวาร

ดับไปแล้ว เท่านั้น........จึงจะถึง "กาล"

ที่อกุศลจิต และ กุศลจิต จะเกิดขึ้นได้

ขณะที่เป็น.......ชวนวถีจิต

ซึ่งเกิดทันที รวดเร็วมาก ยับยั้งไม่ได้

แล้วแต่ เหตุปัจจัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจยากจัง ศัพท์แสงเยอะ ขอแบบง่ายๆหน่อยครับ

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มี.ค. 2009, 16:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เข้าใจยากจัง ศัพท์แสงเยอะ ขอแบบง่ายๆหน่อยครับ-kokorado


เป็นภาษาจากพระอภิธรรมอธิบายการทำงานของจิต เรียนรู้ได้ ไม่ยากครับ สอนโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ (เสียงของท่าน ฟังแล้วชื่นใจมากๆ) :b8: :b8: :b8:

สนใจเชิญที่นี่
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11076
[url]
posting.php?mode=reply&f=1&t=21264[/url]

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร