กลับมาพร้อมคำถามค่ะ รบกวนถามท่านผู้รู้ค่ะ ว่า คำสาปแช่ง ที่พูดไปด้วยความโมโห
มันจะเป็นจริงได้ไม๊คะ คือตอนเราเด็กๆ เคยได้ยินคุณยายของเพื่อน แกแก่มากแล้วเวลาแกดุหลานแก คือเพื่อนเราน่ะ แล้วแกก็จะตามด้วยคำแช่งตามประสาคนแก่ เช่นขอให้ฉิ......ขอให้ไม่เจริญ
แต่ตอนนี้แกเสียชีวิตไปนานแล้ว เพื่อนเราก็เป็นคนดีนะเรารับรอง แต่มักจะมีปัญหาบ่อยๆ คือชีวิตไม่ค่อยราบรื่น เราว่ามันก็เป็นธรรมดาของคน แต่เพื่อนเรามักท้อและจะพูดกับเราว่า เป็นเพราะคำแช่งของยายในตอนเด็กๆ
ทำให้บางครั้งชีวิตติดขัดอุปสรรคอยู่ตลอด จนเราก็รู้สึกเหมือนว่ามันจะเป็นจริง
คุณๆ ว่ามันเป็นจริงได้ไม๊คะ

ไม่รู้แน่ชัดหรอกนะครับ
แต่รู้แน่ๆ ว่าถ้าพ่อแม่เป็นคนแช่ง อันนี้เห็นมาเยอะแล้วว่ามีผล
ในทำนองเดียวกัน ถ้าพ่อแม่อวยพร ก็จะเจริญรุ่งเรืองตามคำอวยพร

แค่คนที่พูดอะไรแล้วมักจะเป็นจริง หรือเรียกว่า "มีวาจาสิทธิ์"
อันนี้เป็นบารมีเฉพาะคนของผู้ปฏิบัติธรรมบางท่าน

อย่างหลวงปู่เสาร์ พระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น
หลวงปู่มั่นเล่าว่า หลวงปู่เสาร์นั้น ปกติพูดน้อยคำ แต่มีวาจาสิทธิ์
พูดอะไรแล้วเป็นดังนั้น
เช่นตอนที่พูดกับญาติโยม ทำคำไม่ได้เป๊ะๆนะ แต่ทำนองว่า
ศาลาเก่าแล้ว ให้ช่วยกันจัดสร้างขึ้นมา
ไม่นานนักชาวบ้านก็ช่วยกันทำเสร็จไวทันใจ

หรืออย่างในหลวงของเรา มีบารมีมาก มีวาจาสิทธิ์
พูดอะไรแล้วมักจะสำเร็จตามที่พูด
ผู้คนตลอดจนเทวดาได้ฟังแล้วก็สนับสนุนส่งเสริม

หลวงปู่เสาร์กับในหลวงมีวาจาสิทธิ์
แต่ไม่เคยแช่งใครนะ

คนที่ปกติแช่งคน แสดงว่ามีโทสะมาก มีอาฆาตมาก
แสดงให้รู้ว่า ขาดมุทิตา ขาดอุเบกขา อย่างรุนแรง
รับรองว่าไม่ชอบทำทาน ศีลนี้ไม่ต้องพูดถึง
บุญก็ไม่ค่อยมี

น่าจะไม่มีบารมีพอ
คงยังห่างไกลจากคำว่า "วาจาสิทธิ์" แบบที่หลวงปู่เสาร์ หรือในหลวง

เราว่า มันเป็นจิตวิทยามากกว่า
พ่อแม่ถ้าแช่งลูก จะมีผลมาก เพราะคำแช่งนั้นจะไปบั่นทอนจิตใจโดยตรง (แช่งบ่อยๆ ทำให้ประทับลงไปในจิตใต้สำนึก ว่าตนเองไม่มีคุณค่า) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างกันด้วย ถ้าพ่อแม่มีระยะห่างกับลูกมาก การแช่งก็ไม่ต่างกับคนอื่นแช่ง คือ ไม่มีผลอะไรนัก

พ่อแม่ที่เอาลูกไปเปรียบกับคนอื่น ในทางที่ด้อยกว่า หรือตำหนิติเตียนตลอดเวลา จะทำให้เด็กเกิดปมด้อย และกลายเป็นบุคลิกภาพในที่สุด ส่วนถ้าคนอื่นแช่ง มันจะมีผลในกรณีที่ เราเอาคำแช่งนั้นมาไว้ในใจ เมื่อใจฝ่อเสียแล้ว ทำอะไรก็ไม่มีทางดีไปได้

ส่วนคนที่มี วาจาสิทธิ์ นั้น มันเป็นเรื่องของ บารมี มากกว่า เพราะว่ามีบารมีสูง มีคนนับถือมาก เอ่ยอะไรขึ้นมา คนก็พร้อมจะทำให้ เวลาด่าใคร คนที่ถูกด่า ก็รู้สึกกระทบมาก พอไปเจอเหตุการณ์ไม่ดี ก็พาลคิดไปว่า เป็นวาจาสิทธิ์ หรือคำสาปแช่ง

วาจาสิทธิ์ ในเชิงอำนาจจิตนั้น เราไม่ค่อยเชื่อเท่าไร...

1. หายไปไหนมา หรอครับ K OWAN เหนว่า "ไม่สบาย" จริงหรือป่าว

ยังไงก็อย่ามีโรคภัยไข้เจ็บนะครับ จะได้มาโพสท์และอ่านในนี้เรื่อยๆ

2. คำพูดตะกี้นี้เหมือนคำอธิษฐาน หวังดีให้มีสุขภาพสมบูรณ์ดี

แต่คำที่คุณยายว่าไว้ เหมือนคำสาปแช่ง คือพูดเพราะความโกรธในตัวหลานเลยไม่ทันคิด

แต่จริงๆไม่ได้หวังร้าย ====> คำพูดนี้คงไม่มีผลอะไรต่อหลานคนนี้

แต่หากคิดว่าแล้วถ้าคำพูดยายเป็นจริงละ ?? จะต้องทำไงดี หากว่าคุณยายเสียชีวิตไปแล้ว


- หากคุณยายมีชีวิต ก็ให้นำ้ดอกไม้เครื่องหอมไปกราบอโหสิกรรมกับท่าน เพื่อให้ท่านสบายใจรับอโหสิกรรมด้วย และรับรู้กับเราถึงเรื่องในอดีตนี้

- แต่ถ้าคุณยายจากเราไปแล้ว เราก็ต้องทำอย่างที่ K owan ทำอยู่ทุกวัน ก็คือตักบาตร สวดมนต์ กรวดน้ำ แผ่เมตตาให้ท่าน โดยก่อนแผ่เมตตา ให้ท่องคำอธิษฐานอโหสิกรรมเสียก่อน แล้วก็แผ่เมตตาออกไป ก็ทำอย่างนี้บ่อยๆ เมื่อคุณยายได้ีรับบุญนี้ตอนไหน นึกถึงบุญเราที่แผ่ไปให้ท่านย่อมอโหสิกรรมให้เราเหมือน ถึงแม้ว่าท่านจะอยู่ภพภูมิไหนก็แล้วแต่

3. ไม่ต้องห่วงว่า คำสาปแช่งอันนี้ จะมีผลทำให้ชีวิตตกต่ำไม่รุ่งเรืองวัฒนาสถาพร เพราะเรื่องของกรรมดี กรรมชั่ว ที่ส่งผล มันขึ้นกับน้ำหนักข้างไหนมีกำลังมากกว่ากัน ถ้าข้างไหนมีกำลังมากข้างนั้นจะส่งผลก่อน จนกว่าจะอ่อนกำลัง ผลมันถึงเ บาบางลงครับ

คุณอินทรีย์5 ขอบคุณที่เป็นห่วง พอดีไม่สบายมา 1 อาทิตย์เต็มๆ แต่ก็ได้อ่านโพสต์ค่ะแต่ไม่มีใจจะตอบน่ะค่ะ พอดีที่คุณบอกว่า
K owan ทำอยู่ทุกวัน ก็คือตักบาตร สวดมนต์ กรวดน้ำ แผ่เมตตา
อยากถามค่ะว่า ช่วงที่ไม่ค่อยสบายก็ไม่ได้ทำเลยค่ะ ที่จริงคิดว่าตัวเองทำได้ แต่รู้สึกใจไม่อยากทำ
ก่อนนอนก็ไม่ได้สวดมนต์เลยมา 2 อาทิตย์แล้วค่ะ เหมือนพอช่วงที่ป่วยใจมันเนือยๆ บอกไม่ถูกค่ะ พอตอนนี้หายมันก็ดูท้อแท้ไปค่ะ พอมีคำแนะนำไม๊คะ รู้สึกสับสนกับตัวเองน่ะค่ะ

ยิ่งไม่สบายยิ่งควรสวดมนต์นะครับ (ถ้าไหวอ่ะนะครับ) มนุษย์ ยิ่งเมื่อเจอความทุกข์ยาก
ยิ่งจำเป็นต้องหมั่นสวดมนต์ ต้องบำเพ็ญปฏิบัติธรรม น่ะครับ อย่าได้ท้อแท้
พระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านเคยให้โอวาทไว้ว่า สวดมนต์ 1 ครั้ง ได้ 1 บุญ
สวดมนต์แล้ว อธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพ่อแม่ ได้อีก 3 บุญ
การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เพียงแค่คิดทำความดี ยังได้ บุญเลยครับ

ส่วนเรื่องคำสาปแช่ง ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า มันอาจจะเป็นไปได้น่ะครับ
แต่ว่าจะให้ผลมากหรือน้อย คงแล้วแต่ว่า จะมีการจองเวรกันต่อไป
หรือ อโหสิกรรรม ให้กัน หมั่นสวดมนต์ แผ่เมตตาให้คนที่เขาแช่งเราดีกว่าครับ
อุปสรรคต่างๆ จะได้เบาบางลง

สุดท้าย ฝากพระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม ตัดมาบางส่วน ฝากให้คุณ o.wan นะครับ

พื้นฐานการบำเพ็ญธรรม
พระโพธิสัตว์กวนอิม

พื้นฐานการบำเพ็ญธรรม คือ
1. ผู้ที่กินเจ ห้ามพูดคำหยาบหรือด่าทอ มิเช่นนั้นเจขาด
2. ผู้ที่ไม่ได้กินเจ ห้ามกินเนื้อวัวหรือเนื้อสุนัข ผู้ใดละเมิดฟ้ารังเกียจ
3. เมื่อพบการกุศลไม่ทำเพราะยึดมั่นว่าต่างนิกายต่างสำนักไม่อาจขึ้นสวรรค์
4. ไม่ซื่อสัตย์ภักดีต่อชาติ ทำผิดกฏหมาย เป็นการละเมิดกฏสวรรค์ ย่อมห่างไกลธรรม
5. วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิศาสนาอื่น เป็นการสร้างวจีกรรมไม่อาจบรรลุธรรม
6. นั่งรถนั่งเรือ ต้องเอื้อเฟื้อสละที่นั่งแก่เด็ก สตรี คนชรา และผู้อ่อนแอ
7. ไม่เข้าสถานเริงรมย์ มิเช่นนั้น ไม่มีสิทธิ์จุติแดนสุขาวดี
8. ถึงเทศกาลวันสาร์ทวันตรุษ ต้องเซ่นไหว้บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมในอดีต มีความกตัญญูต่อบิดามารดา มิเช่นนั้นหนทางแห่งสวรรค์จักถูกตัดขาด
9. ผู้ไม่เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย่อมไม่ได้รับการช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเย่อหยิ่ง ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา หรืออุตริมนุษยธรรม อวดฌานญาณที่ไม่มีในตน เป็นการละเมิดกฏแห่งฟ้า ไม่อาจบรรลุธรรม

การบรรลุธรรม
พระโพธิสัตว์กวนอิม

1.จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนมีจิตใจแน่วแน่ไม่ท้อถอยไม่เลิกกลางคัน
2. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนที่มีมหาปณิธาน
3. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวเราของเรา
4. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนที่มีจิตใจเมตตากรุณา
5. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียร
6. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนที่รักษาศีล 5
7. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนมีจิตกุศล ทำแต่ความดีหมั่นสร้างบุญบารมี
8. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนรู้จักแยกแยะชั่วดี
9. จะบรรลุธรรม ต้องมีความขันติอดทน
10. จะบรรลุธรรม ต้องเป็นคนมีจิตสงบเป็นสมาธิ
10 ข้อข้างต้นนี้ คือเงื่อนไขปัจจัยการบรรลุธรรมของพระโพธิสัตว์ ปัจจัยการบรรลุธรรมเหล่านี้ ชาวโลกมักจะเห็นว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยยากจะปฏิบัติ โดยเข้าใจว่าการบรรลุธรรมเป็นเรื่องไกลสุดเอื้อม จึงไม่กล้าก้าวสู่หนทางการบำเพ็ญธรรม ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ปฏิบัติได้ ก็คืออยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ปฏิบัติตนเป็นอภิมหาซื่อสัตย์สุจริต มหากตัญญู มหาเมตตากรุณา ซึ่งอย่างน้อยก็ยังสามารถบรรลุเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา แล้วไปฝึกบำเพ็ญทางจิตต่อที่สวรรค์จนรู้แจ้งเห็นจริง ภายหน้าก็สามารถบรรลุอนุตตรธรรมได้ ดังนั้นอุบาสกอุบาสิกาที่บำเพ็ญอยู่ในบ้านไม่ต้องไปกลัวเรื่องการบรรลุธรรมยาก ขอให้มีความพยายามไม่ย่อท้อ แม้ปฏิบัติยากก็ต้องปฏิบัติ บำเพ็ญยากก็ต้องบำเพ็ญ ถึงจะเป็นหลักประกันแห่งการบรรลุธรรม

คำสาปแช่ง เป็นพลังจิตที่ออกไป

ถ้าคนนั้นเพ่งอารมณ์อยู่ในความโกรธมาก พลังจิตของเขาก็ย่อมมากด้วย

จะให้แนะนำยังไงดี หลังจากหายป่วยมาแต่ไม่อยากสวดมนต์

1. ก็ต้องบอกว่า ให้ทำตัวปกติ เพราะช่วงที่ป่วย ร่างกายพักผ่อนมาก พอหายแล้วก็ยังคุ้นเคยกับอาการที่ไม่ได้ทำไรเหมือนกับช่วงที่นอนป่วย ไม่ต้องไปสับสน ถึงจะสับสนก้ต้องปล่อยมัน ครับ

2. แล้วให้ทำไงดีหลังจากหายป่วยแล้วรู้สึกสับสนตอนนี้ ===>
- ก็ต้องออกกำลังกายบ้าง หรือ ทำนั่นทำนี่ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว == ตอบแบบทั่วไป

- แต่ถ้าจะกลับมาสวดมนต์ทำจิตให้สงบเหมือนเดิม ก็ขอตอบว่าให้ทำอย่างที่ K อมิตาพุทธ แนะนำไว้ก็คือต้องทำ ถ้าหากทำไหว(***มันต้องฝืนใจทำน่ะครับถึงจะทำได้) ซึ่งตอนนี้อาจจะท้อแท้และเบื่อหรือสับสน จนไม่อยากทำ ผมมีวิธีง่ายๆ ก็คือ สวดบทที่สั้นๆ เช่น บทบูชาพระรัตนตรัย กับ อิติปิโสฯ 1 จบ
+ แผ่เมตตาให้ตัวเอง แล้วก็กราบลงไปกับหมอน 3 ครั้ง นี่ไงครับ เสร็จแล้ว แล้วถ้าไม่ไหว ก็นอนแล้วระลึกว่าเราได้กราบต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งอยู่ข้างหน้าเรา แล้วก็นึกให้ท่านคุ้มครองเรากับครอบครัว แล้วก็นอนต่อไป ซึ่งถ้ายังมีอาการป่วยอยู่ ไม่สบายกาย ก็ให้กำหนดป่วยหนอ ป่วยหนอ หรือไม่สบายหนอ ไม่สบายหนอ สัก 5 ครั้ง โดยหายใจยาวๆลึก ทำอย่างช้าๆๆ สบายๆ แล้วก็ค่อยปล่อยให้ตัวเองหลับไป ดูแล้วไม่ยากเท่าไร.... ===ตอบแบบให้ K owan กลับไปปฏิบัติได้อีก(เรียกง่ายๆคือทำเอาบุญน่ะ

อ้างอิง K อมิตาพุทธนะครับ====>พระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านเคยให้โอวาทไว้ว่า สวดมนต์ 1 ครั้ง ได้ 1 บุญ
สวดมนต์แล้ว อธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพ่อแม่ ได้อีก 3 บุญ
การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เพียงแค่คิดทำความดี ยังได้ บุญเลยครับ====> (สรุปก้คือเพียงแค่เรานึกแปปนึงก็ยังเป็นบุญเลยแล้วถ้าบ่อยๆมากๆละ หรือทำได้นานละ เป็นเหตุผลหลักว่าต้องฝืนทำเมื่อเราป่วยแต่ทำไม่ได้ก้ไม่เปนไรครับ ทำแบบง่ายๆไปก่อนน่าจะดีกว่าครับ )

ปล... ยังไงก็ K Owan กลับมาปฏิบัติให้ได้อีกครั้งนะครับให้ทำได้ดีกว่าเดิมเลย ผมอธิษฐานให้แล้ว
คิดว่าทำได้แน่ๆ

ขอบคุณ K. อมิตาพุทธ และ K.อินทรีย์5 ที่แนะนำ เมื่อเช้าได้ใส่บาตร และสวดมนต์สั้นตามที่
K.อินทรีย์5 แนะนำบางครั้งของง่ายๆเราก็มองข้ามไปนะ เพราะมัวแต่กังวลเคยสวดยาวๆน่ะค่ะ
การที่เราเข้ามาคุยกันในบอร์ดนี้ มันคุ้มค่าจริงนะคะ

คุณน้ำ สวัสดีนะคะ อุตส่าห์แวะ ให้พี่ ช่วงนี้ไม่ได้ทักทาย แต่ก็อ่านโพสต์อยู่นะคะ
โดยเฉพาะเรื่องของผู้หญิงเรา แต่เพราะสุขภาพไม่อำนวยตอนนี้เลยอ่านอย่างเดียว รอ Fitๆ
เป็นหญิงแกร่งเหมือนเดิมแล้วจะหาคำถามมานะคะ

K.O.Wan ลองไปปฎิบัติธรรมดูไหมคะ ถ้าสนใจลองหาที่ใกล้บ้านก่อนก็ดีนะคะ

สวัสดียามสายค่ะ


กำลังจะไปทำงานค่ะ เลยแวะมาดูว่าพี่เป็นยังไงบ้าง ... ดีใจด้วยค่ะที่เห็นพี่สดใสขึ้น

ทุกอย่างอยู่ที่การกระทำค่ะพี่ ถ้าเราหมั่นสร้างเหตุดี ผลตอบกลับมาย่อมดีแน่นอนค่ะ

น้ำ .. ดูพี่อยู่ตลอดค่ะ คอยเป็นกำลังใจให้ เพียงแต่เห็นว่า มีคำแนะนำดีๆมากมาย น้ำเลยดูอยู่ห่างๆค่ะ ..น้ำนำเพลงมาฝากนะคะ

หากวันนี้เราล้มลงยังคงลุกขึ้นได้ใหม่
ก็ยังคงมีหนทางถ้ายังมียิ้มสดใสก้าวไป
อย่าหวั่นไหวหวาดกลัว
พร้อมทนทุกข์หมองหม่น
ผจญความมืดหมองมัว
ไม่กลัวจะฝันถึงวันใหม่

* หากวันใดอ่อนแอท้อแท้อย่าหวั่นไหว
ขอให้ใจไม่สิ้นหวัง
ปัญหาแม้จะหนัก ก็คงไม่เกินกำลัง
อย่าหยุดยั้งก้าวไป

** ขออย่ายอมแพ้ อย่าอ่อนแอแม้จะร้องไห้
จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง

แม้วันที่รอ...อยู่ห่างเพียงใด
หนทางแสนไกล...จงฝ่าฟันไป
สูงสุดแผ่นดิน...เสียดฟ้ากว้างใหญ่
ก็ไม่เกิน..มือเราจะเอื้อมไปถึง...

หลงทางล้มลง...บาดเจ็บบางที
ขอเพียงให้มี...กำลังแรงใจ
พลั้งผิดเป็นครู...เรียนรู้เริ่มใหม่
ก้าวเดินไป..พาใจไปสู่จุดหมาย

อย่ายอมแพ้...แค่โชคชะตามันวกวน
สับสนวุ่นวายไม่นานก็คลาย
อย่ายอมแพ้...แค่โชคชะตาพิสูจน์คน
สู้ทนเดินต่อไป...

แม้วันนี้ยัง...มืดมนเต็มที
ทุกข์ภัยย่ำยี...กระหน่ำในใจ
ขอแต่เรามี..มีฝันยิ่งใหญ่
อีกไม่นาน...อรุณสวัสดิ์ยามเช้า...

ไม่มี...ก็คงต้องมีซักวัน
ความฝัน...เป็นจริงต้องทนสู้ไป
ไม่นาน..เราคงจะได้สมใจ
มุ่งมั่นทุ่มเทเพียงใดกว่าจะได้มา...

เส้นชัย...ไม่มาต้องไปหามัน
รางวัล...มีไว้ให้คนตั้งใจ
ขวากหนาม...ทิ่มแทงก่อนผ่านพ้นไป
โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย

ใจสู้หรือเปล่า
ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า
ศรัทธา...ไม่มีท้อ

ที่มา...รู้ดีไม่รู้ที่ไป
คนเรา..มันเลือกเกิดเองไม่ได้
แต่เรา...เลือกได้จะเป็นเช่นไร
เลือกได้จะทำตามใจด้วยตัวของเรา

หลายคน...เชื่อในเรื่องโชคชะตา
บางคน..เชื่อมั่นในตัวเอง
ชีวิต...เรากำหนดของเราเอง
จะแพ้ชนะไม่เกรงจะสักเท่าไร...

ใจสู้หรือเปล่า
ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า
ศรัทธา...ไม่มีท้อ

เรื่องราวมากมายบีบคั้น
กายและใจโอนอ่อนหวั่นไหว
ต่างก็มีเหตุผลสำคัญ
ให้บางคนยอมถอดใจ...

ใจสู้หรือเปล่า
ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า
ศรัทธา...ไม่มีท้อ...

http://www.imeem.com/aom/music/BHt7XQBb//

สู้ๆนะคะ ทุกอย่างเป็นครูมาสอนค่ะ

เราคิดว่าจริงนะ เพราะเราสังเกตุ "อันตี้" อยู่ใกล้ๆกับบ้านของเรา
ไม่รู้ว่าวันๆหนึ่ง แกแช่งใครต่อใคร แกแช่งได้ทุกวัน
แต่เราเห็นเข้าตัวแกเองทุกที
มีอยู่ครั้งหนึ่ง คนข้างบ้านเราเค้าไม่สบาย
อยู่ ร.พ เคยทะเลาะกับแก แก็แช่งเค้าทุกวันว่า "ปิ้งสื่อทาๆๆ" (ให้เจ็บจนตายไปเลย)
แต่ผลออกมาคือ....หลานสาวแกตายไปซะเอง!
แล้วก็อีกครั้งคือ มีคนแก่ผู้หญิงอยู่กับสามี2คน สามีของคนแก่ผู้หญิงคนนี้ก็ล้ม
แล้วก็เสียชีวิต
อันตี้.....คนนี้ก็ว่าผู้หญิงคนแก่ว่า
"สาโผๆๆ" (คนโง่ๆๆ) จริงๆแล้วต้องไม่ตายหรอกแค่ล้มเท่านั้นเอง
แต่พอไม่ถึง1อาทิตย์ สามีของอันตี้ก็ล้มบ้าง สามีของอันตี้ก็เสียชีวิตอีก
เราเชื่อว่า...คำสาปแช่งมีจริง ถ้าไปแช่งเค้า แล้วเค้าไม่ผิดอะไร
สิ่งนั้น....จะย้อนกลับมาที่ตัวผู้พูดเอง.....เราคิดว่าต้องเป็นอย่างนี้นะ!

คุณ 0.wan เลยได้โอกาส ตามดูกายตอนที่มันเจ็บมันป่วยนี่เลยนะคะ
เห็นชัดเลยว่ามันมีเจ็บเป็นธรรมดา มันเป็นทุกข์(ชักจูงให้ใจอ่อนล้าในการงานที่ควรไปด้วย)
มันบังคับไม่ได้ไม่ควรยึดมั่นว่าเป็นเรา เป็นของเราเพราะเราบังคับควบคุมให้มันสุขสบายหายป่วยไม่ได้

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 แมวฯ ทำลูกตาลลอยแก้วไปทำบุญเลี้ยงพระ 9 รูป ที่สมาคมฯ มาค่ะ
ขอนำบุญมาฝากทุกท่านที่อ่านโพสนี้ค่ะ
ขอให้คุณ 0.wan หายป่วยไข้โดยเร็ว มีพลังทั้งทางกายและปัญญาสามารถทำความเห็นได้ตรง เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ