วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 23:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 107 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2018, 16:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากพุทธธรรมหมวดสมาธิ (อธิจิตตสิกขา) ตัดๆหน้าโน่นบ้างหน้านี้บ้างมา มีหน้า ๗๘๔ เป็นต้น
เพื่อสนองปรารถนาเช่นนั้น กับ กบนอกกะลา :b13: :b32:


รูปภาพ


บทความที่เป็นหลักวิชาเกือบจะทั้งหมดนำมาจากพุทธธรรมนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2018, 16:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เห็นคุณโรสพูดหลายครั้ง จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน นี่ลงไว้ก่อน เดี๋ยวตัวอย่างมีตามมา

เอกัคคตา ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว คือ ความมีจิตต์แน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียว ได้แก่ สมาธิ (ในพจนานุกรม เขียน เอกัคตา)

Kiss
เมื่อขาดสุตมยปัญญา
จึงเกิดมิจฉาสมาธิ
เกิดสัมมาสมาธิ
เมื่อเริ่มต้นฟัง
สมาธิคือเจตสิก
เกิดกับจิตทุกดวง
ที่เกิดดับทีละ1ขณะ
เพราะจิตแต่ละดวงนั้น
เกิดทีละ1ทางไม่ออกนอกทาง
และเกิดดับทีละ1ทางทีละ1ขณะ
จิตจึงเป็นเอกคือเป็นหนึ่งมั่นคงตรงทาง
สมาธิมีชื่อว่าเอกัคตาเจตสิกกะเกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิต
:b4: :b4:



มาอีกแล้วสุตะ กี่ทีกี่ครั้งกี่หนกี่ คคห. ก็สุตะ สุตะ สุตมยปัญญา สุตมยปัญญา สุตมยปัญญา

ถามให้คิดนะ ตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราไปนั่งฟังคนพูด ซึ่งเขาเป็นคนที่เราเองนับถือมากที่สุดในโลกบอกว่า เมื่อวานฉันไปเที่ยวเขาใหญ่มา เดินไปเดินไป ไปเจอะมดตัวเท่าช้าง (อย่าลืมนะคนพูดเป็นคนที่เรานับถือมาก) คุณโรสเชื่อไหม ?

Kiss
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาหรือบ้านธัมมะเนี่ย
เขาสนทนาข้อความในพระไตรปิฎกโดยแปลบาลีตรงภาษา
และแปลให้เข้าใจในภาษาไทยโดยมีอ.คำปั่นที่ชำนาญแปลบาลี
อ.คำปั่นเคยบวชเป็นสามเณรและจบป.9ประโยคตั้งแต่เป็นสามเณร
ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ฝึกหัดดัดตนจากฟังพระพุทธพจน์นะคะ
:b32:
:b4: :b4:



ถามให้คิด คิดได้ยังไง ก็ตอบมา

Kiss
ลืมไหม...ก็บอกแล้วไง...ที่ต้องใช้ในการฟัง
อยากถามไหมว่าเคารพใครมากที่สุดในโลก
คนที่เคยบอกให้ใช้หลักกาลามสูตร10คนแรก
ของโลกคือตถาคตส่วนที่คุยกันก็บอกกี่ครั้งแล้ว
หลักกาลามสูตร10ต้องใช้ตรงปัจจุบัน...ไม่รู้จักจำนะ :b34:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2018, 16:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เห็นคุณโรสพูดหลายครั้ง จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน นี่ลงไว้ก่อน เดี๋ยวตัวอย่างมีตามมา

เอกัคคตา ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว คือ ความมีจิตต์แน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียว ได้แก่ สมาธิ (ในพจนานุกรม เขียน เอกัคตา)

Kiss
เมื่อขาดสุตมยปัญญา
จึงเกิดมิจฉาสมาธิ
เกิดสัมมาสมาธิ
เมื่อเริ่มต้นฟัง
สมาธิคือเจตสิก
เกิดกับจิตทุกดวง
ที่เกิดดับทีละ1ขณะ
เพราะจิตแต่ละดวงนั้น
เกิดทีละ1ทางไม่ออกนอกทาง
และเกิดดับทีละ1ทางทีละ1ขณะ
จิตจึงเป็นเอกคือเป็นหนึ่งมั่นคงตรงทาง
สมาธิมีชื่อว่าเอกัคตาเจตสิกกะเกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิต
:b4: :b4:



มาอีกแล้วสุตะ กี่ทีกี่ครั้งกี่หนกี่ คคห. ก็สุตะ สุตะ สุตมยปัญญา สุตมยปัญญา สุตมยปัญญา

ถามให้คิดนะ ตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราไปนั่งฟังคนพูด ซึ่งเขาเป็นคนที่เราเองนับถือมากที่สุดในโลกบอกว่า เมื่อวานฉันไปเที่ยวเขาใหญ่มา เดินไปเดินไป ไปเจอะมดตัวเท่าช้าง (อย่าลืมนะคนพูดเป็นคนที่เรานับถือมาก) คุณโรสเชื่อไหม ?

Kiss
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาหรือบ้านธัมมะเนี่ย
เขาสนทนาข้อความในพระไตรปิฎกโดยแปลบาลีตรงภาษา
และแปลให้เข้าใจในภาษาไทยโดยมีอ.คำปั่นที่ชำนาญแปลบาลี
อ.คำปั่นเคยบวชเป็นสามเณรและจบป.9ประโยคตั้งแต่เป็นสามเณร
ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ฝึกหัดดัดตนจากฟังพระพุทธพจน์นะคะ
:b32:
:b4: :b4:



ถามให้คิด คิดได้ยังไง ก็ตอบมา

Kiss
ลืมไหม...ก็บอกแล้วไง...ที่ต้องใช้ในการฟัง
อยากถามไหมว่าเคารพใครมากที่สุดในโลก
คนที่เคยบอกให้ใช้หลักกาลามสูตร10คนแรก
ของโลกคือตถาคตส่วนที่คุยกันก็บอกกี่ครั้งแล้ว
หลักกาลามสูตร10ต้องใช้ตรงปัจจุบัน...ไม่รู้จักจำนะ :b34:
:b32: :b32:



กาลามสูตรอีกแระ ไหนตรงไหนที่ต้องการให้จำ ยกมาให้ดูหน่อยดิ เอ้า เอามา จะได้จำ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ค. 2018, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เห็นคุณโรสพูดหลายครั้ง จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน นี่ลงไว้ก่อน เดี๋ยวตัวอย่างมีตามมา

เอกัคคตา ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว คือ ความมีจิตต์แน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียว ได้แก่ สมาธิ (ในพจนานุกรม เขียน เอกัคตา)

Kiss
เมื่อขาดสุตมยปัญญา
จึงเกิดมิจฉาสมาธิ
เกิดสัมมาสมาธิ
เมื่อเริ่มต้นฟัง
สมาธิคือเจตสิก
เกิดกับจิตทุกดวง
ที่เกิดดับทีละ1ขณะ
เพราะจิตแต่ละดวงนั้น
เกิดทีละ1ทางไม่ออกนอกทาง
และเกิดดับทีละ1ทางทีละ1ขณะ
จิตจึงเป็นเอกคือเป็นหนึ่งมั่นคงตรงทาง
สมาธิมีชื่อว่าเอกัคตาเจตสิกกะเกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิต
:b4: :b4:



มาอีกแล้วสุตะ กี่ทีกี่ครั้งกี่หนกี่ คคห. ก็สุตะ สุตะ สุตมยปัญญา สุตมยปัญญา สุตมยปัญญา

ถามให้คิดนะ ตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราไปนั่งฟังคนพูด ซึ่งเขาเป็นคนที่เราเองนับถือมากที่สุดในโลกบอกว่า เมื่อวานฉันไปเที่ยวเขาใหญ่มา เดินไปเดินไป ไปเจอะมดตัวเท่าช้าง (อย่าลืมนะคนพูดเป็นคนที่เรานับถือมาก) คุณโรสเชื่อไหม ?

Kiss
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาหรือบ้านธัมมะเนี่ย
เขาสนทนาข้อความในพระไตรปิฎกโดยแปลบาลีตรงภาษา
และแปลให้เข้าใจในภาษาไทยโดยมีอ.คำปั่นที่ชำนาญแปลบาลี
อ.คำปั่นเคยบวชเป็นสามเณรและจบป.9ประโยคตั้งแต่เป็นสามเณร
ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ฝึกหัดดัดตนจากฟังพระพุทธพจน์นะคะ
:b32:
:b4: :b4:



ถามให้คิด คิดได้ยังไง ก็ตอบมา

Kiss
ลืมไหม...ก็บอกแล้วไง...ที่ต้องใช้ในการฟัง
อยากถามไหมว่าเคารพใครมากที่สุดในโลก
คนที่เคยบอกให้ใช้หลักกาลามสูตร10คนแรก
ของโลกคือตถาคตส่วนที่คุยกันก็บอกกี่ครั้งแล้ว
หลักกาลามสูตร10ต้องใช้ตรงปัจจุบัน...ไม่รู้จักจำนะ :b34:
:b32: :b32:



กาลามสูตรอีกแระ ไหนตรงไหนที่ต้องการให้จำ ยกมาให้ดูหน่อยดิ เอ้า เอามา จะได้จำ

Kiss
ก็คิดไตร่ตรองเทียบกับสิ่งที่ตนเองกำลังมีเดี๋ยวนี้เลย
1ขณะจิตของตถาคตแต่ละทางไม่เกิดพร้อมกันไม่ปนกันและเกิดดับสลับกันทีละ1ทาง
จิตแต่ละ1แต่ละทางเกิดแล้วดับทันทีแบบนี้นะ
จิตเห็นสีทีละ1สีพร้อมแสงดับส่วนจิตทางอื่นไม่มีแสงเกิดดับสลับทีละ1ทาง
จิตได้ยินเสียงทีละ1เสียงแค่สูงๆต่ำๆยังไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไรดับ
จิตรู้กลิ่นทีละ1กลิ่นยังไม่รู้ว่าหอมหรือเหม็นดับ
จิตลิ้มรสทีละ1รสดับยังไม่รู้ว่าเปรี้ยวหวานมันเค็ม
จิตรับสัมผัสที่กายทีละ1ตัวธัมมะดับ
จิตรู้คิดทีละ1คำดับยังไม่แปลความหมาย
:b12:
ทั้ง6ทางเกิดไม่พร้อมกันเดี๋ยวนี้เลย
เทียบความจริงที่ตัวเองกำลังมีดูสิคะ
:b55: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 12:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
จะหนีสมาธิหลับ..ไปไหน...

กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
งั้นกลับมาที่..ที่ควรก็แล้วกัน..

กบนอกกะลา เขียน:
อาการของคนที่มีสมาธิขณะหลับ....ต่างกับคนหลับไม่มีสมาธิ..ยังงัยหรือ?..

เห็นว่า ตย. ที่กักกายยกมา..กักกายคิดว่าเขามีสมาธิขณะหลับ...ก็เลยอยากรู้..ว่ากักกายรู้จริงป้าว?



ว่าไป..ว่าไป..


เรื่องศีลเห็นๆกบยังไม่เข้าใจ จะไปเข้าเรื่องสมาธิซึ่งเป็นนามธรรมนั้นไม่มีทางเลยจริงๆ :b32:

วางภาพไตรสิกขาให้ดู

ศีล

สมาธิ

ปัญญา


เอาหน่อยน่า..หลับในสมาธิ..ต่างจากหลับแบบไม่มีสมาธิยังงัย?



หลับแบบคนมีสติมีสมาธิก็คือจะหลับลึกหลับสนิทแม้เพียง 1 ชั่วโมงก็รู้สึกอิ่มสดชื่น ซึ่งต่างจากคนทั่วๆไป นอนทั้งคืนก็รู้สึกมึนซึม




เอาละ...นี้คือหนึ่งในอาการของคนหลับในสมาธิ..หลับไปจริงจริง...หลับสนิท



รู้ได้ยังไงว่ากรัชกายพูดจริง กบจึงรับรองเช่นนั้น



เห็นเงียบหายไป เลยถามย้ำอีกที กบรู้ได้ยังไงว่ากรัชกายพูดจริง กบรู้ได้ยังไง :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 12:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
จะหนีสมาธิหลับ..ไปไหน...

กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
งั้นกลับมาที่..ที่ควรก็แล้วกัน..

กบนอกกะลา เขียน:
อาการของคนที่มีสมาธิขณะหลับ....ต่างกับคนหลับไม่มีสมาธิ..ยังงัยหรือ?..

เห็นว่า ตย. ที่กักกายยกมา..กักกายคิดว่าเขามีสมาธิขณะหลับ...ก็เลยอยากรู้..ว่ากักกายรู้จริงป้าว?



ว่าไป..ว่าไป..


เรื่องศีลเห็นๆกบยังไม่เข้าใจ จะไปเข้าเรื่องสมาธิซึ่งเป็นนามธรรมนั้นไม่มีทางเลยจริงๆ :b32:

วางภาพไตรสิกขาให้ดู

ศีล

สมาธิ

ปัญญา


เอาหน่อยน่า..หลับในสมาธิ..ต่างจากหลับแบบไม่มีสมาธิยังงัย?



หลับแบบคนมีสติมีสมาธิก็คือจะหลับลึกหลับสนิทแม้เพียง 1 ชั่วโมงก็รู้สึกอิ่มสดชื่น ซึ่งต่างจากคนทั่วๆไป นอนทั้งคืนก็รู้สึกมึนซึม




เอาละ...นี้คือหนึ่งในอาการของคนหลับในสมาธิ..หลับไปจริงจริง...หลับสนิท



รู้ได้ยังไงว่ากรัชกายพูดจริง กบจึงรับรองเช่นนั้น



เห็นเงียบหายไป เลยถามย้ำอีกที กบรู้ได้ยังไงว่ากรัชกายพูดจริง กบรู้ได้ยังไง :b10:

:b12:
หลับแล้วฝันคือมีจิตคิดนึกแทรกระหว่างหลับ
หลับสนิทไม่ฝันไม่มีสภาพรู้อารมณ์ทั้ง6โลก
ก็หลับจริงๆรู้ได้ตามปกติเพราะตื่นรู้ไม่ง่วง
และไม่หลับก็ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง
ไม่รู้ทั้งตื่นและหลับว่าความจริงมีแล้วและ
กำลังเกิดดับทางอายตนะ6มีครบแล้วค่ะ
ทั้งธาตุ4และขันธ์5ก็กำลังมีไม่ไปไหนก็มี
ที่ไปไหนๆเพื่อไปทำเพราะอยากรู้แต่ไม่รู้
เพราะขาดการระลึกตามการฟังเพื่อเข้าใจ
อันเป็นการนำมาซึ่งลาภอันประเสริฐคือเข้าใจ
ความเข้าใจคำสอนตามปกตินี้เองคือคิดถูกตามได้
:b11:
:b39: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

หลับแล้วฝันคือมีจิตคิดนึกแทรกระหว่างหลับ
หลับสนิทไม่ฝันไม่มีสภาพรู้อารมณ์ทั้ง6โลก
ก็หลับจริงๆรู้ได้ตามปกติเพราะตื่นรู้ไม่ง่วง
และไม่หลับก็ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง
ไม่รู้ทั้งตื่นและหลับว่าความจริงมีแล้วและ
กำลังเกิดดับทางอายตนะ6มีครบแล้วค่ะ
ทั้งธาตุ4และขันธ์5ก็กำลังมีไม่ไปไหนก็มี
ที่ไปไหนๆเพื่อไปทำเพราะอยากรู้แต่ไม่รู้
เพราะขาดการระลึกตามการฟังเพื่อเข้าใจ
อันเป็นการนำมาซึ่งลาภอันประเสริฐคือเข้าใจ
ความเข้าใจคำสอนตามปกตินี้เองคือคิดถูกตามได้



หลับสนิทจะไม่ฝัน ฝันนั่นคือหลับไม่สนิท คือ กึ่งหลับกึ่งตื่น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

หลับแล้วฝันคือมีจิตคิดนึกแทรกระหว่างหลับ
หลับสนิทไม่ฝันไม่มีสภาพรู้อารมณ์ทั้ง6โลก
ก็หลับจริงๆรู้ได้ตามปกติเพราะตื่นรู้ไม่ง่วง
และไม่หลับก็ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง
ไม่รู้ทั้งตื่นและหลับว่าความจริงมีแล้วและ
กำลังเกิดดับทางอายตนะ6มีครบแล้วค่ะ
ทั้งธาตุ4และขันธ์5ก็กำลังมีไม่ไปไหนก็มี
ที่ไปไหนๆเพื่อไปทำเพราะอยากรู้แต่ไม่รู้
เพราะขาดการระลึกตามการฟังเพื่อเข้าใจ
อันเป็นการนำมาซึ่งลาภอันประเสริฐคือเข้าใจ
ความเข้าใจคำสอนตามปกตินี้เองคือคิดถูกตามได้



หลับสนิทจะไม่ฝัน ฝันนั่นคือหลับไม่สนิท คือ กึ่งหลับกึ่งตื่น

:b12:
ง่วงเหงาหาวนอนหาวิธีหลับกิเลสไหมคะ
เวลาตื่นมีวิถีจิตจึงจะเกิดกิเลสหรือปัญญา
เวลาหลับไม่มีวิถีจิตทางตาหลับแล้วฝันมีคิด
หลับสนิทไม่ฝันนี่เป็นภวังค์ยาวนานไม่รู้อารมณ์
ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจใดๆทั้งสิ้นเป็นไม่รู้หลายชั่วโมง
ปกติที่ลืมตาดูจิตเกิดดับแต่ละ1ขณะมีภวังคจิตคั่นทุกขณะ
มีภวังค์คั่นคืออากาศธาตุแทรกทุกขณะคือไม่มีอะไรทั้งนั้น
เมื่อมีสภาพไม่รู้อารมณ์ตอนภวังค์สั้นๆทุกขณะจิต
จึงไม่รู้การเกิดดับคือไม่รู้ว่าดับคือไม่มีอะไรเหลือเลย
หลงจำสิ่งที่ดับไปแล้วหลายขณะเป็นสิ่งต่างๆ
เป็นภาพนิมิตที่ปรากฏเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด
อยู่ในโลกของความคิดตั้งแต่ตื่นจนหลับ
นิมิตตามภพภูมิคือสิ่งต่างๆที่ปรากฏว่ามี
คนสัตว์วัตถุแม่น้ำป่าไม้เต็มไปหมดนั้น
เป็นมายาคือภาพลวงตาที่ดับไปมากมาย
แต่จริงๆคือมันว่างเปล่ามีแต่ความหลงผิด
ยึดมั่นถือมั่นว่ามีตัวตนคนสัตว์วัตถุจริงๆ
จนกว่าจะเข้าใจคำสอนแล้วรู้ถูกต้องตามได้
เวลานอนหลับไม่สนิทมีจิตคิดภาพในฝัน
เห็นในฝันไม่ใช่จิตเห็นดังนั้นเวลาที่นั่งสมาธิ
หลับตาแล้วส่งจิตออกนั้นจึงเป็นจิตคิดนึก
เพราะจิตเห็นต้องตื่นลืมตาไม่ง่วงไม่หลับตา
ดังนั้นเห็นตอนตื่นกะเห็นตอนหลับก็คือจิตคิดนึก
แปลว่าเป็นสมมุติไม่มีอยู่จริงลองไตร่ตรองช้าๆหลายๆครั้ง
:b55: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 18:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

หลับแล้วฝันคือมีจิตคิดนึกแทรกระหว่างหลับ
หลับสนิทไม่ฝันไม่มีสภาพรู้อารมณ์ทั้ง6โลก
ก็หลับจริงๆรู้ได้ตามปกติเพราะตื่นรู้ไม่ง่วง
และไม่หลับก็ไม่รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง
ไม่รู้ทั้งตื่นและหลับว่าความจริงมีแล้วและ
กำลังเกิดดับทางอายตนะ6มีครบแล้วค่ะ
ทั้งธาตุ4และขันธ์5ก็กำลังมีไม่ไปไหนก็มี
ที่ไปไหนๆเพื่อไปทำเพราะอยากรู้แต่ไม่รู้
เพราะขาดการระลึกตามการฟังเพื่อเข้าใจ
อันเป็นการนำมาซึ่งลาภอันประเสริฐคือเข้าใจ
ความเข้าใจคำสอนตามปกตินี้เองคือคิดถูกตามได้



หลับสนิทจะไม่ฝัน ฝันนั่นคือหลับไม่สนิท คือ กึ่งหลับกึ่งตื่น

:b12:
ง่วงเหงาหาวนอนหาวิธีหลับกิเลสไหมคะ
เวลาตื่นมีวิถีจิตจึงจะเกิดกิเลสหรือปัญญา
เวลาหลับไม่มีวิถีจิตทางตาหลับแล้วฝันมีคิด
หลับสนิทไม่ฝันนี่เป็นภวังค์ยาวนานไม่รู้อารมณ์
ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจใดๆทั้งสิ้นเป็นไม่รู้หลายชั่วโมง
ปกติที่ลืมตาดูจิตเกิดดับแต่ละ1ขณะมีภวังคจิตคั่นทุกขณะ
มีภวังค์คั่นคืออากาศธาตุแทรกทุกขณะคือไม่มีอะไรทั้งนั้น
เมื่อมีสภาพไม่รู้อารมณ์ตอนภวังค์สั้นๆทุกขณะจิต
จึงไม่รู้การเกิดดับคือไม่รู้ว่าดับคือไม่มีอะไรเหลือเลย
หลงจำสิ่งที่ดับไปแล้วหลายขณะเป็นสิ่งต่างๆ
เป็นภาพนิมิตที่ปรากฏเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด
อยู่ในโลกของความคิดตั้งแต่ตื่นจนหลับ
นิมิตตามภพภูมิคือสิ่งต่างๆที่ปรากฏว่ามี
คนสัตว์วัตถุแม่น้ำป่าไม้เต็มไปหมดนั้น
เป็นมายาคือภาพลวงตาที่ดับไปมากมาย
แต่จริงๆคือมันว่างเปล่ามีแต่ความหลงผิด
ยึดมั่นถือมั่นว่ามีตัวตนคนสัตว์วัตถุจริงๆ
จนกว่าจะเข้าใจคำสอนแล้วรู้ถูกต้องตามได้
เวลานอนหลับไม่สนิทมีจิตคิดภาพในฝัน
เห็นในฝันไม่ใช่จิตเห็นดังนั้นเวลาที่นั่งสมาธิ
หลับตาแล้วส่งจิตออกนั้นจึงเป็นจิตคิดนึก
เพราะจิตเห็นต้องตื่นลืมตาไม่ง่วงไม่หลับตา
ดังนั้นเห็นตอนตื่นกะเห็นตอนหลับก็คือจิตคิดนึก
แปลว่าเป็นสมมุติไม่มีอยู่จริงลองไตร่ตรองช้าๆหลายๆครั้ง
:b55: :b55:


เครื่องวัดกิเลสของคุณโรส ตั้งแต่กรัชกายลืมตาดูโลก ยังไม่เคยได้ยินใครเอาขี้เป็นผลว่า คนขี้เหม็นเป็นคนมีกิเลส คนขี้หอมไม่มีกิเลสเลยครับ นี่ยังฮงไม่หายนะขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12:
เครื่องวัดกิเลสคือปัญญารู้ชัดในสิ่งที่กำลังปรากฏ
ไม่ใช่ตัวตนแต่เป็นสติปัฏฐาน4เลือกฐานไม่ได้แต่
เป็นการตามรู้ความจริงมาจากการฟังโดยไม่มีเรา
เข้าไปจัดการสิ่งใดเพราะทุกอย่างมีตามเหตุปัจจัย
คือมีแล้วการอบรมจิตจากการฟังทำให้เข้าใจถูกต้อง
ตามคำสอนจนรู้ตรงขณะตรงปรมัตถสัจจะจนรู้สึกตัว
ถึงสิ่งที่กำลังปรากฏจริงๆตรงตามความจริงที่มีแล้วและ
ปัญญาที่เพิ่มจากการฟังต่อเนื่องทำกิจหน้าที่เองไม่มีเรา
เข้าไปจัดการอะไรได้เพียงรู้สิ่งที่กำลังมีนั้นชำนาญขึ้นและ
ผลที่ตามมาคือรู้เท่าทันสิ่งที่กำลังปรากฏทั้ง6ทางทั่วตัวตาม
ปัญญาที่อบรมจิตจากการฟังเจริญขึ้นโดยลำดับจนกิเลสแทรกไม่ได้
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 19:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
เครื่องวัดกิเลสคือปัญญารู้ชัดในสิ่งที่กำลังปรากฏ
ไม่ใช่ตัวตนแต่เป็นสติปัฏฐาน4เลือกฐานไม่ได้แต่
เป็นการตามรู้ความจริงมาจากการฟังโดยไม่มีเรา
เข้าไปจัดการสิ่งใดเพราะทุกอย่างมีตามเหตุปัจจัย
คือมีแล้วการอบรมจิตจากการฟังทำให้เข้าใจถูกต้อง
ตามคำสอนจนรู้ตรงขณะตรงปรมัตถสัจจะจนรู้สึกตัว
ถึงสิ่งที่กำลังปรากฏจริงๆตรงตามความจริงที่มีแล้วและ
ปัญญาที่เพิ่มจากการฟังต่อเนื่องทำกิจหน้าที่เองไม่มีเรา
เข้าไปจัดการอะไรได้เพียงรู้สิ่งที่กำลังมีนั้นชำนาญขึ้นและ
ผลที่ตามมาคือรู้เท่าทันสิ่งที่กำลังปรากฏทั้ง6ทางทั่วตัวตาม
ปัญญาที่อบรมจิตจากการฟังเจริญขึ้นโดยลำดับจนกิเลสแทรกไม่ได้


คุณโรสนี่ยังไงนะ พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย ก็เพิ่งพูดไปหยกๆ ว่าขี้เหม็นเป็นกิเลส คิกๆๆ ไปโน่นอีกแล้ว้ สติปัฏฐาน 4

เอาอีกสักดอกสิ สติปัฏฐาน 4 ร่างกาย เวทนา จิต ธัมม์ ไม่ใช่คนหรือ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2018, 21:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
เครื่องวัดกิเลสคือปัญญารู้ชัดในสิ่งที่กำลังปรากฏ
ไม่ใช่ตัวตนแต่เป็นสติปัฏฐาน4เลือกฐานไม่ได้แต่
เป็นการตามรู้ความจริงมาจากการฟังโดยไม่มีเรา
เข้าไปจัดการสิ่งใดเพราะทุกอย่างมีตามเหตุปัจจัย
คือมีแล้วการอบรมจิตจากการฟังทำให้เข้าใจถูกต้อง
ตามคำสอนจนรู้ตรงขณะตรงปรมัตถสัจจะจนรู้สึกตัว
ถึงสิ่งที่กำลังปรากฏจริงๆตรงตามความจริงที่มีแล้วและ
ปัญญาที่เพิ่มจากการฟังต่อเนื่องทำกิจหน้าที่เองไม่มีเรา
เข้าไปจัดการอะไรได้เพียงรู้สิ่งที่กำลังมีนั้นชำนาญขึ้นและ
ผลที่ตามมาคือรู้เท่าทันสิ่งที่กำลังปรากฏทั้ง6ทางทั่วตัวตาม
ปัญญาที่อบรมจิตจากการฟังเจริญขึ้นโดยลำดับจนกิเลสแทรกไม่ได้


คุณโรสนี่ยังไงนะ พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย ก็เพิ่งพูดไปหยกๆ ว่าขี้เหม็นเป็นกิเลส คิกๆๆ ไปโน่นอีกแล้ว้ สติปัฏฐาน 4

เอาอีกสักดอกสิ สติปัฏฐาน 4 ร่างกาย เวทนา จิต ธัมม์ ไม่ใช่คนหรือ

คิดให้ตายก็ไม่เกิดปัญญาเพราะอ่านหรอกนะ
ถ้าจะมัวแต่มาอ่านแล้วก็วิจารณ์อยู่แบบนี้
คิดไหมเวลาที่พระพุทธเจ้าเทศน์นะคะ
คนที่ฟังบรรลุธรรมคนละชั้นกันนะ
จากฟังสิ่งเดียวกันจะบอกให้รู้ว่า
ที่มาอ่านปัญญาที่คนอื่นเข้าใจ
จะเข้าใจเท่าเขาเลยหรือคะ
หัดฟังซะบ้างนะตายแล้วลืม
ที่เอาสัญญาแบบท่องมา
เอามาแปลไม่ใช่จริง
จริงของตนคือฟัง
เข้าใจคือปัญญา
สะสมทีละ1คำ
ตรงจริงที่กายใจมี
ไม่ใช่เอาตำรามาทั้งดุ้น
ทำความเข้าใจตรงนี้นะ
ฟังต้องทำฟังจริงๆตามปกติ
คนที่1ฟังไม่เข้าใจกลับบ้านนอน
คนที่2ฟังไม่รู้เรื่องฟังเพลงดีกว่า
คนที่3ฟังแล้วเบื่อไปดูหนังสนุกดี
คนที่4ฟังเข้าใจฟังต่อเข้าใจเพิ่มขึ้น
ตัวเองเป็นประเภทไหนคะคุณกรัชกาย
หรือไม่เคยฟังเพราะเห็นว่าคนพูดไม่ใช่ตถาคต
ประมาทไหมคะอุปติสสะฟังจากพระอัสสชิบรรลุโสดาบันน๊าคิดสิ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2018, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b1:
พระอาจารย์อาฬารดาบสกับพระอุทกดาบส
มีมิจฉาสมาธิและตายก่อนฟังพระพุทธพจน์
ถามว่าพระพุทธเจ้าเรียนสมาธินั่งหลับตาจาก
2อาจารย์2ชื่อข้างบนนั้นคือทำฌานใช่ไหมคะ
แต่การบรรลุธรรมของตถาคตเป็นทศพลญาณ
เอกัคตาเจตสิกคือสมาธิที่ตั้งมั่นในการฟังทีละคำ
ในพระพุทธพจน์เท่านั้นไม่ไปทำอย่างอื่นมีศรัทธา
ตั้งมั่นในการฟังมั่นคงไหมที่จะไม่ไปฟังคำไม่จริง
การอธิบายสิ่งที่ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้ความจริงที่กำลังมี
ตรงกับสิ่งที่กำลังฟังเป็นมิจฉาสมาธิเข้าใจไหมคะ
คำสอนเพื่อเข้าใจถูกตามได้เท่านั้นบาลีคือปัญญา
https://youtu.be/jnqjYTWKhrE
:b11:
:b16: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2018, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b1:
พระอาจารย์อาฬารดาบสกับพระอุทกดาบส
มีมิจฉาสมาธิและตายก่อนฟังพระพุทธพจน์
ถามว่าพระพุทธเจ้าเรียนสมาธินั่งหลับตาจาก
2อาจารย์2ชื่อข้างบนนั้นคือทำฌานใช่ไหมคะ
แต่การบรรลุธรรมของตถาคตเป็นทศพลญาณ
เอกัคตาเจตสิกคือสมาธิที่ตั้งมั่นในการฟังทีละคำ
ในพระพุทธพจน์เท่านั้นไม่ไปทำอย่างอื่นมีศรัทธา
ตั้งมั่นในการฟังมั่นคงไหมที่จะไม่ไปฟังคำไม่จริง
การอธิบายสิ่งที่ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้ความจริงที่กำลังมี
ตรงกับสิ่งที่กำลังฟังเป็นมิจฉาสมาธิเข้าใจไหมคะ
คำสอนเพื่อเข้าใจถูกตามได้เท่านั้นบาลีคือปัญญา
https://youtu.be/jnqjYTWKhrE
:b11:
:b16: :b12:



เอาตามที่สบายใจเถอะนะขอรับงั้น จะขออยู่อย่างพระอรหันต์แบบกบนอกกะลาบ้างล่ะ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ค. 2018, 17:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใครที่ชอบพูดเรื่องเกิดดับ ดูตัวอย่างนี้

อ้างคำพูด:
ทำไมคนเราถึงเหงาเกิดจากอะไรหรอคะ แล้วทำไมพอทำบางอย่างมีความสุขแปปๆแล้วก็กลับมาเหงาอีก


....ความรู้สึกเหงาๆเกิด มันดับเพราะรู้สึกสุข สุขดับ ความรู้สึกเหงาเกิด เป็นต้น มันคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่องอะไรต่ออะไรเยอะแยะ เกิด-ดับทั้งวันทั้งคืน

จิต, มโน, หรือวิญญาณ (เพื่อให้เห็นภาพ) ภาษาอภิธรรมว่าดวง ดวงนี้เกิด มันคิดอะไรแล้ว มันก็ดับ ดวงเก่าดับ ความคิดเรื่องใหม่เกิด คิดแล้วดับ ดวงใหม่เกิด ฯลฯ

ใช้วิปัสสนาญาณเทียบ

อ้างคำพูด:
อุทยัพพยานุปัสสนา หรือเรียกสั้นๆว่า อุทยัพพยญาณ ญาณหรือปัญญา อันตามเห็นความเกิดดับ คือ พิจารณาความเกิดขึ้นและความดับไปแห่งเบญจขันธ์ จนเห็นปัจจุบันธรรมที่กำลังเกิดขึ้น และดับสลายไปๆ ชัดเจน เข้าใจภาวะที่เป็นของไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่อยู่ในบังคับบัญชาตามความอยากของใคร หยั่งทราบว่า สิ่งทั้งหลาย เกิดขึ้น ครั้นแล้ว ก็ต้องดับไป ล้วนเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปทั้งหมด เมื่อเกิดการรับรู้ หรือเคลื่อนไหวใดๆ ในแต่ละขณะ ก็มองเห็นนามธรรม รูปธรรม และตัวรู้หรือผู้รู้ที่เกิดขึ้นแล้วทั้งรูปธรรม นามธรรม และตัวรู้นั้นก็ดับไปพร้อมกันทั้งหมด เป็นความรู้เห็นชัดแก่กล้า (พลววิปัสสนา) ทำให้ละนิจจสัญญา สุขสัญญา และอัตตสัญญาได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 107 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron