กบอ่านไม่เข้าใจเอง

รูปกรรมฐาน เพ่งสิ่งที่มีรูปร่างเป็นอารมณ์ เมื่อปฏิบัติแล้วทำให้เกิดรูปฌาณไปตั้งแต่ฌาณ 1 ถึงฌาณ 4 มีอัปณาฌาณเป็นผลพลอยได้

อรูปกรรมฐาน เพ่งสิ่งที่ไม่มีรูปร่างเป็นอารมณ์ จึงมีอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนมากกว่ารูปกรรมฐาน เมื่อเริ่มต้นก็ต้องไต่จากปฐมฌาณขึ้นไปนั้นแหละเพราะต้องมาวิตกวิจารณ์อรูปกรรมฐานนั้นๆจนจิตสงบละเอียดอ่อนลึกซึ้งไปตามลำดับฌาณผ่านฌาณ 4 ต่อขึ้นไปอีก ที่ฌาณ 5 ถ้าเพ่งอากาศเป็นอารมณ์ ที่ฌาณ 6 ถ้าเพ่งวิญญาณเป็นอารมณ์ จนถึง อากิญจัญญายตนะ ฌาณที่ 7 เนวสัญญานา สัญญายตนะ ฌาณที่ 8 ซึ่งละเอียดอ่อนที่สุดก็ได้อัปปณาฌาณเป็นผลพลอยได้เช่นกัน

เก้อเขินแล้วหรือจึงทำเป็นโงกง่วง หาวเรอ

อัปปนาฌาน...กับฌาน 1 2 3 4 แยกออกจากกันรึ?

อัปปณาฌาณถ้าแปลว่าแนบแน่นนั้นมันประกอบไปทุกฌาณ

อัปปณาถ้าแปลว่าไม่มีลมหายใจนั้นมันต่อยอดขึ้นไปจากฌาณ 4 5 6 7 8

อัปปนาสมาธิ นั้นจิตตั้งมั่นจนเต็มขีด แม้ขณะจิตนิดหน่อยก็มิได้ปล่อยให้หลงเพลินไปตามอารมณ์ เอกัคคตารมณ์จมดิ่งนิ่งแน่ว ใจใสแจ๋วเฉพาะอันเดียว มิได้เกี่ยวเกาะเสาะแส่หาอัตตาแลอนัตตาอีกต่อไป สติสมาธิภายในนั้น หากพอดีสมสัดส่วน ไม่ต้องระวัง ไม่ต้องตั้งสติรักษา ตัวสติสัมปชัญญะสมาธิ มันหากรักษาตัวมันเอง อัปปนาสมาธินี้ละเอียดมาก เมื่อเข้าถึงที่แล้ว ลมหายใจแทบจะไม่ปรากฏ ขณะมันจะลง ทีแรกคล้ายกับว่าจะเคลิ้มไป แต่ว่าไม่ถึงกับเผลอสติเข้าสู่ภวังค์ ขณะสนธิกันนี้ท่านเรียกว่า โคตรภูจิต ถ้าลงถึงอัปปนาเต็มที่แล้วมีสติรู้อยู่ เรียกว่า อัปปนาสมาธิ ถ้าหาสติมิได้ ใจน้อมลงสู่ภวังค์เข้าถึงความสงบหน้าเดียว หรือมีสติอยู่บ้างแต่เพ่งหรือยินดีชมแต่ความสุขอันเกิดจากความสงบอันละเอียด อยู่เท่านั้น เรียกว่า อัปปนาฌาน

อัปปนาสมาธินี้มีลักษณะคล้ายกับผู้ที่เข้าอัปปนาฌานชำนาญแล้ว ย่อมเข้าหรือออกได้สมประสงค์ จะตั้งอยู่ตรงไหน ช้านานสักเท่าไรก็ได้ ซึ่งเรียกว่าโลกุตรฌาน อันเป็นวิหารธรรมของพระอริยเจ้า อัปปนาสมาธิเมื่อมันจะเข้าทีแรก หากสติไม่พอเผลอตัวเข้า กลายเป็นอัปปนาฌานไปเสีย

หลวงปูเทศก์

อัปปนา..แปลว่า..ไม่มีลม..หรือ?

เมื่อเข้าถึงอัปปนาเต็มองค์แล้วย่อมไม่มีลมหรือไม่รู้ลม

แรก ๆ ก็แข็งขัน...
หลัง ๆ เริ่มแทงกั๊ก..

อริยะเล่นการพนันเป็นด้วยหรือ ที่ว่า "แทงกั๊ก" เนียะนะ

ถ้าเล่นการพนันแล้วละก้อ....ก้อคงไม่ใช่อะนะ

ตัวอย่าง....มีหลาย..ถ้า..

เละ

ตุ้มเป้ะ..

มีปัญญาพูดได้แค่นี้หละหรือ

ไม่ลองแจงให้ฟังหน่อยหรือว่า เละยังไง ตุ้มเป๊ะยังไง

อย่างนี้ถือว่าไม่รู้จริงแล้วพูด