วันเวลาปัจจุบัน 16 มิ.ย. 2024, 10:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 940 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 48, 49, 50, 51, 52, 53, 54 ... 63  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2017, 20:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
EU น่าจะมาหลังเลือกตั้งเสร็จแล้ว...จะได้ไม่ต้องหาเหตุผลกระบุุงโกยมาอ้างให้เสียเวลา...เลือกตั้งเสร็จก็ค่อยมา....สง่างามกว่าเยอะ....จะรีบมาทำไมหน่อ?..อิอิ

เด้วจะกลายเป็นการเมืองจ้า....
กลับมาที่รากเง้าของกระทู้..ดีกว่านะ...:b13: :b13: :b13:

กบนอกกะลา เขียน:
ตามหัวข้อกระทู้..เลยคับ..

ระบบของประชาธิปไตย์..จะทำงานได้...ก็ต่อเมื่อคนมีคุณธรรม..พอ

ไม่เช่นนั้นแล้ว....ก็ต้องเป็นเครื่องมือของคนแสวงหาลาภ..อำนาจ...อยู่ดี


มีนักประชาธิปไตย์จ้า..ท่านหนึ่ง...กว่าจะรู้ตัว..อายุก็ปาไปซะเยอะแล้ว..
http://m.naewna.com/view/columntoday/26022





“บิ๊กตู่”ขู่ไม่มี“บิ๊กป้อม”อยู่ด้วย-จะ ดุ กว่าเดิม-ใช้อำนาจเต็มที่

https://mgronline.com/daily/detail/9600000125263

กบว่าไง ไหนว่าไปสิ ไม่แสวงหาอำนาจหรือแบบนี้ :b10: ตอบให้ตรงคำถามเพื่อให้กรัชกายนอนตายตาหลับสักทีสิเอ้า คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2017, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองแบบหนึ่ง ซึ่งบริหารอำนาจรัฐ มาจากเสียงข้างมากของพลเมือง ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย โดยพลเมือง อาจใช้อำนาจของตนโดยตรง หรือ ผ่านผู้แทนที่ตนเลือกไปใช้อำนาจแทนก็ได้


รูปภาพ

เผ่าพื้นเมืองในปาปัวนิวกินี ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง


ซึ่งไม่ต้องรอให้ตนให้คนหมดกิเลส คือ เป็นอรหันต์ก่อนจึงเลือกผู้แทนราษฎร อย่างกบนอกกะลามโน ถ้าแบบกบว่านั่นนะ ไม่รู้ว่าอีกกี่กัปป์กี่กัลป์จึงมีระบบการปกครองขึ้นในโลกมนุษย์ :b1: :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2017, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้นำไอเดียสุดเจ๋ง

รูปภาพ

กบแบบนี้ ปชต.สมบูรณ์มีธรรมหรือยัง :b10: ถาม เช่นนั้น ด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2017, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รัฐขาลงเดินหน้าลงพื้นที่แจกงบไม่หยุด ล่าสุด ประยุทธ์ไปกาฬสินธุ์วันเดียวแต่หว่านงบ 2 พันล้าน ระบุไม่ได้ทำเพื่อหาเสียง จวกนักการเมืองดีแต่พูด โวไม่มีใครพูดและทำดีเท่ารัฐบาลนี้ แอบถามชาวบ้านอยากให้ใครเป็นนายก วอนประชาชนอย่าเลือกนักการเมืองที่ให้เงินสร้างคะแนนนิยม ชี้นโยบายพยุงราคาสินค้าเกษตรใช้ไม่ได้ สั่งประชาชนเลิกถามเรื่องปลดล๊อคพรรคการเมืองเสียที

https://www.voicetv.co.th/watch/rJk5_s0Wz

ประชารัฐ ไม่ใช่ประชานิยม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 04:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

๓. จักกวัตติสูตร (๒๖)



[๓๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว มีพระราชาจักรพรรดิ
พระนามว่า ทัลหเนมิ ผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชำนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง สมบูรณ์
ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว
คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้ว เป็นที่ ๗ พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วน
กล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์
ทรงชำนะโดยธรรม มิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศัสตราครอบครองแผ่นดิน มีสาคร
เป็นขอบเขต ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น โดยล่วงไปหลายปี หลายร้อยปี หลาย
พันปี ท้าวเธอตรัสเรียกบุรุษคนหนึ่งมารับสั่งว่า ดูกรบุรุษผู้เจริญ ท่านเห็นจักรแก้ว
อันเป็นทิพย์ถอยเคลื่อนจากที่ในกาลใด พึงบอกแก่เราในกาลนั้นทีเดียว ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บุรุษนั้นทูลสนองพระราชดำรัสของท้าวเธอแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย
โดยล่วงไปอีกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี บุรุษนั้นได้เห็นจักรแก้วอันเป็น
ทิพย์ถอยเคลื่อนจากที่ จึงเข้าไปเฝ้าท้าวเธอถึงที่ประทับ แล้วได้กราบทูลว่า ขอเดชะ
พระพุทธเจ้าข้า ขอพระองค์พึงทรงทราบ จักรแก้วอันเป็นทิพย์ของพระองค์ถอย-
*เคลื่อนจากที่แล้ว ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น ท้าวเธอตรัสเรียกพระกุมารองค์ใหญ่มา
รับสั่งว่า ดูกรพ่อกุมาร ได้ยินว่า จักรแก้วอันเป็นทิพย์ของพ่อถอยเคลื่อนจากที่แล้ว
ก็พ่อได้สดับมาดังนี้ว่า จักรแก้วอันเป็นทิพย์ของพระเจ้าจักรพรรดิองค์ใด ถอย
เคลื่อนจากที่ พระเจ้าจักรพรรดิพระองค์นั้น พึงทรงพระชนม์อยู่ได้ไม่นานในบัดนี้
ก็กามทั้งหลายอันเป็นของมนุษย์ พ่อได้บริโภคแล้ว บัดนี้เป็นสมัยที่จะแสวงหากาม
ทั้งหลายอันเป็นทิพย์ของพ่อ มาเถิดพ่อกุมาร พ่อจงปกครองแผ่นดิน อันมีสมุทร
เป็นขอบเขตนี้ ฝ่ายพ่อจักปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้าย้อมน้ำฝาด ออกจาก
เรือนบวชเป็นบรรพชิต ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น ท้าวเธอทรงสั่งสอนพระกุมารองค์ใหญ่
ในราชสมบัติเรียบร้อยแล้ว ทรงปลงพระเกศาและพระมัสสุ ทรงครองผ้าย้อม-
*น้ำฝาด เสด็จออกจากเรือน ทรงผนวชเป็นบรรพชิตแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็เมื่อพระราชฤาษี ทรงผนวชได้ ๗ วัน จักรแก้วอันเป็นทิพย์อันตรธานไปแล้ว ฯ

[๓๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น ราชบุรุษคนหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระราชา
ผู้เป็นกษัตริย์ ซึ่งได้มูรธาภิเษกแล้ว ถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ขอเดชะ
พระพุทธเจ้าข้า พระองค์พึงทรงทราบเถิด จักรแก้วอันเป็นทิพย์อันตรธานไปแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น เมื่อจักรแก้วอันเป็นทิพย์อันตรธานไปแล้ว
ท้าวเธอได้ทรงเสียพระทัยและทรงเสวยแต่ความเสียพระทัย ท้าวเธอเสด็จเข้าไป
หาพระราชฤาษีถึงที่ประทับ แล้วได้กราบทูลว่า ขอเดชะ พระพุทธเจ้าข้า
พระองค์พึงทรงทราบว่าจักรแก้วอันเป็นทิพย์อันตรธานไปแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เมื่อท้าวเธอกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระราชฤาษีจึงตรัสกะท้าวเธอว่า ดูกรพ่อ พ่อ
อย่าเสียใจ และอย่าเสวยแต่ความเสียใจไปเลย ในเมื่อจักรแก้วอันเป็นทิพย์
อันตรธานไปแล้ว ดูกรพ่อ ด้วยว่าจักรแก้วอันเป็นทิพย์หาใช่สมบัติสืบมาจาก
บิดาของพ่อไม่ ดูกรพ่อ เชิญพ่อประพฤติในจักกวัตติวัตรอันประเสริฐเถิด ข้อนี้
เป็นฐานะที่จะมีได้แล เมื่อพ่อประพฤติในจักกวัตติวัตรอันประเสริฐ จักรแก้ว
อันเป็นทิพย์ซึ่งมีกำพันหนึ่ง มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทุกอย่าง จักปรากฏมี
แก่พ่อผู้สระพระเศียร แล้วรักษาอุโบสถอยู่ ณ ปราสาทอันประเสริฐชั้นบน ใน
วันอุโบสถ ๑๕ ค่ำ ฯ


ร. พระพุทธเจ้าข้า ก็จักกวัตติวัตรอันประเสริฐนั้น เป็นไฉน ฯ
ราช. ดูกรพ่อ ถ้าเช่นนั้น พ่อจงอาศัยธรรมเท่านั้น สักการะธรรม
ทำความเคารพธรรม นับถือธรรม บูชาธรรม ยำเกรงธรรม มีธรรมเป็นธงชัย
มีธรรมเป็นยอด มีธรรมเป็นใหญ่ จงจัดการรักษาป้องกันและคุ้มครองอันเป็นธรรม
ในชนภายใน ในหมู่พล ในพวกกษัตริย์ผู้เป็นอนุยนต์ ในพวกพราหมณ์และ
คฤหบดี
ในชาวนิคมและชาวชนบททั้งหลาย ในพวกสมณพราหมณ์ ในเหล่าเนื้อ
และนก
ดูกรพ่อ การอธรรมอย่าให้มีได้ในแว่นแคว้นของพ่อเลย ดูกรพ่อ อนึ่ง
บุคคลเหล่าใดในแว่นแคว้นของพ่อ ไม่มีทรัพย์ พ่อพึงให้ทรัพย์แก่บุคคลเหล่านั้น

ด้วย ดูกรพ่อ อนึ่ง สมณพราหมณ์เหล่าใด ในแว่นแคว้นของพ่อ งดเว้นจาก
ความเมาและความประมาท ตั้งมั่นอยู่ในขันติและโสรัจจะ ฝึกตนแต่ผู้เดียว สงบ
ตนแต่ผู้เดียว ให้ตนดับกิเลสอยู่แต่ผู้เดียว พึงเข้าไปหาสมณพราหมณ์เหล่านั้น
โดยกาลอันควร
แล้วไต่ถามสอบถามว่า ท่านขอรับ กุศลคืออะไร ท่านขอรับ
อกุศลคืออะไร กรรมมีโทษคืออะไร กรรมไม่มีโทษคืออะไร กรรมอะไรควรเสพ
กรรมอะไรไม่ควรเสพ กรรมอะไรอันข้าพเจ้ากระทำอยู่ พึงมีเพื่อไม่เป็นประโยชน์
เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน หรือว่ากรรมอะไรที่ข้าพเจ้ากระทำอยู่ พึงมีเพื่อประโยชน์
เพื่อความสุข สิ้นกาลนาน พ่อได้ฟังคำของสมณพราหมณ์เหล่านั้นแล้ว สิ่งใด
เป็นอกุศล พึงละเว้นสิ่งนั้นเสีย สิ่งใดเป็นกุศลพึงถือมั่นสิ่งนั้นประพฤติ ดูกรพ่อ
นี้แล คือจักกวัตติวัตรอันประเสริฐนั้น ฯ


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ท้าวเธอรับสนองพระดำรัสพระราชฤาษีแล้ว ทรง
ประพฤติในจักกวัตติวัตรอันประเสริฐ เมื่อท้าวเธอทรงประพฤติจักกวัตติวัตรอัน
ประเสริฐอยู่ จักรแก้วอันเป็นทิพย์ซึ่งมีกำพันหนึ่ง มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วย
อาการทุกอย่าง ปรากฏมีแก่ท้าวเธอผู้สระพระเศียร ทรงรักษาอุโบสถอยู่ ณ
ปราสาทอันประเสริฐชั้นบน ในวันอุโบสถ ๑๕ ค่ำ ท้าวเธอทอดพระเนตรเห็นแล้ว
มีพระดำริว่า ก็เราได้สดับมาว่า จักรแก้วอันเป็นทิพย์ มีกำพันหนึ่ง มีกง มีดุม
บริบูรณ์ด้วยอาการทุกอย่าง ปรากฏมีแก่พระราชาผู้เป็นกษัตริย์พระองค์ใด ผู้ได้
มูรธาภิเษก สระพระเศียร ทรงรักษาอุโบสถอยู่ ณ ปราสาทอันประเสริฐชั้นบน
ในวันอุโบสถ ๑๕ ค่ำ พระราชาพระองค์นั้น เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เราได้เป็น
พระเจ้าจักรพรรดิหรือหนอ ฯ


http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=11&A=1189&Z=1702


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 14 ธ.ค. 2017, 07:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 04:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E ... 4%E0%B8%B4

อ้างคำพูด:

แก้ว 7 ประการ[แก้]
พระเจ้าจักรพรรดิเป็นผู้ครอบครองแก้ว 7 ประการ อันได้แก่


จักรแก้ว (จกฺกรตฺตนํ)
เมื่อผู้ที่จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ พระองค์ทรงรักษาศีลอุโบสถ ชำระจิตให้สะอาดแล้วทรงทำสมาธิ จักรแก้วก็บังเกิดขึ้น ทำจากโลหะมีค่า ส่องแสงสว่างไสว แล้วพาพระเจ้าจักรพรรดิพร้อมเหล่าเสนาบดีลอยไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปทั้ง 4 ประเทศต่างๆ ก็ยอมสวามิภักดิ์ ไม่มีการสู้รบกัน เมื่อจะถวายเครื่องบรรณาการพระเจ้าจักรพรรดิก็ทรงไม่รับแต่พระราชทานโอวาทศีล 5 ให้

ช้างแก้ว (หตฺถีรตฺตนํ)
ช้างแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นพญาช้าง มีชื่อว่า อุโบสถ สีขาวเผือก สง่างาม มีฤทธิ์เดชสามารถเหาะได้ คล่องแคล่วว่องไว ฝึกหัดได้เอง สามารถพาพระเจ้าจักรพรรดิไปรอบชมพูทวีป จรดขอบมหาสมุทร ได้ตั้งแต่เช้ารุ่ง และกลับมาทันเวลาเสวยพระกระยาหารเช้า

ม้าแก้ว (อสฺสรตฺตนํ)
ม้าแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นพญาม้า มีชื่อว่า วลาหกะ เป็นอัศวราชผู้สง่างาม ขนงาม มีหางเป็นพวง ตรงปลายคล้ายดอกบัวตูม มีฤทธิ์เดชเหาะเหินเดินบนอากาศได้ คล่องแคล่วว่องไว ฝึกหัดได้เอง สามารถพาพระเจ้าจักรพรรดิไปรอบชมพูทวีป จรดขอบมหาสมุทร ได้ตั้งแต่เช้ารุ่ง และกลับมาทันเวลาเสวยพระกระยาหารเช้า

มณีแก้ว (มณิรตฺตนํ)
มณีแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นแก้วมณีเปล่งแสงสุกสกาว ใสแวววาวยิ่งกว่าเพชร เปล่งรังสีแสงสว่างไสวโดยรอบถึง 1 โยชน์ คอยบันดาลความอุดมสมบูรณ์ทุกอย่างให้เกิดขึ้น ดึงดูดสมบัติทั้งหลายมาให้ สามารถเลี้ยงคนได้ทั้งชมพูทวีปโดยไม่ต้องทำมาหากิน เมื่อพระมหาจักรพรรดิทรงทดลองแก้วมณีกับกองทัพ โดยติดแก้วมณีไว้บนยอดธงนำทัพ แก้วมณีก็เปล่งแสงสว่างไสว ทำให้กองทัพเดินทางได้สะดวกสบาย เหมือนเดินทัพในเวลากลางวัน

นางแก้ว (อิตถรตฺตนํ)
นางแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นหญิงที่มีบุญญาธิการ รูปร่างน่าดูชม ผิวพรรณเปล่งปลั่งผ่องใส สวยงามกว่ามนุษย์ทั่วไป พูดจาสุภาพ ไม่โกหก มีกลิ่นดอกบัวหอมฟุ้งออกจากปาก มีกลิ่นจันทน์หอมฟุ้งรอบกาย นางแก้วเป็นผู้คอยปรนนิบัติพระเจ้าจักรพรรดิอย่างไม่ขาดสาย ตื่นก่อนนอนทีหลังพระเจ้าจักรพรรดิ คอยรับฟังคำสั่งของพระเจ้าจักรพรรดิ ประพฤติชอบต่อพระเจ้าจักรพรรดิเสมอ

ขุนคลังแก้ว (คหปติรตฺตนํ)
คฤหบดีแก้ว หรือขุนคลังแก้ว สามารถนำทรัพย์สินมาให้แด่พระเจ้าจักรพรรดิได้ ขุมทรัพย์อยู่ที่ไหนก็เห็นไปหมด

ขุนพลแก้ว (ปริณายกรตฺตนํ)
ปริณายกแก้ว หรือขุนพลแก้ว คือพระราชโอรสองค์โตของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นขุนศึกคู่ใจ เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ มีความฉลาดเฉลียว รู้สิ่งใดควรไม่ควร คอยให้คำแนะนำปรึกษาแด่พระเจ้าจักรพรรดิอยู่เสมอ


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 14 ธ.ค. 2017, 07:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 04:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: :b1: :b1:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 14 ธ.ค. 2017, 07:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 04:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
]ธรรมมะของพระจักรพรรดิ์ (ในพระไตรปิฏก)

โดยมีว่า..ให้อารักขาธรรมแด่…

1)พลกาย (กองทหารที่อยู่ใกล้ชิด) ว่าอยู่ดีมีสุข กายใจครอบครัว และดูแลบ้านเมืองให้สงบสุขดีรึไม่

2)กษัตริย์ (ผู้ว่าราชการ) ดูแลปชชใช้อยู่ดีมีสุข เดือดร้อนอะไรไหม

3)ผู้ติดตาม อำมาตย์และผู้รับใช้ 3อำนาจทำให้ประเทศเป้นสุขไหม

4)พราหมณ์ คหบดี อยู่ในศีลธรรมช่วยปชชบ้างรึไม่

5)ชาวนิคมชนบท เดือดร้อนอะไรไหม

6)สมณพราหมณ์(พระสงฆ์) และในศาสนาอื่น อยู่ในศีลธรรม การเป็นอยู่เป็นอย่างไร โดนรังแกเดือดร้อนปัจจัยทั้ง5รึไม่

7)เนื้อ นก ยังมีอยู่อุดมสมบูรณ์ไหม มีลำบากการใช้ชีวิต มนุษย์รังเเก รึไม่ พร้อมเป้นอาหารอุดมสมบูรณ์รึเปล่า

8)ขัดขวางผู้ทำการไม่เป็นธรรม …ได้ทำตามทุกหมู่เหล่าตามหน้าที่กันรึไม่

9)เพิ่มทรัพย์แก่ผู้ไม่มีทรัพย์ ให้การศึกษา การดูแลปัจจัย4 การให้สัมมาอาชีพ การดำรงอยู่ได้ด้วยศักดิ์ศรีทรนงในสัมมาอาชีพและมีเกียรติปัจจัย5ในสังคม รึไม่

10)เข้าหาสมณพราหมณ์ สอบถามปัญหาบ้านเมือง และเเก้ไข ปัญหา ให้อาณาประชาราษฏร์มีสงบ สันติ และสุข


https://mekaje.wordpress.com/2011/01/21 ... %E0%B8%A3/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 05:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

๓. จักกวัตติสูตร (๒๖)

[๓๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น ท้าวเธอเสด็จลุกจากพระที่แล้ว
ทรงทำผ้าอุตราสงค์เฉวียงพระอังสาข้างหนึ่ง จับพระเต้าด้วยพระหัตถ์ซ้าย ทรง
ประคองจักรแก้วด้วยพระหัตถ์ขวา แล้วตรัสว่า ขอจักรแก้วอันประเสริฐ จงเป็น
ไปเถิด ขอจักรแก้วอันประเสริฐ จงชนะโลกทั้งปวงเถิด ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ขณะนั้น จักรแก้วนั้นก็เป็นไปทางทิศบูรพา พระเจ้า
จักรพรรดิพร้อมด้วยจตุรงคินีเสนา ก็เสด็จติดตามไป ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายพระเจ้าแผ่นดินที่อยู่ ณ ทิศบูรพาพากันเสด็จ
เข้าไปเฝ้าพระเจ้าจักรพรรดิ ได้กราบทูลอย่างนี้ว่า ขอเชิญเสด็จมาเถิด มหาราช-
*เจ้า พระองค์เสด็จมาดีแล้ว ราชอาณาจักรเหล่านี้ เป็นของพระองค์ทั้งสิ้น ขอ
พระองค์พระราชทานพระบรมราโชวาทเถิด มหาราชเจ้า ท้าวเธอจึงตรัสอย่างนี้ว่า
พวกท่านไม่พึงฆ่าสัตว์
ไม่พึงถือเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้
ไม่พึงประพฤติผิดในกามทั้งหลาย
ไม่พึงกล่าวคำเท็จ
ไม่พึงดื่มน้ำเมา
จงบริโภคตามเดิมเถิด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกพระเจ้าแผ่นดินที่อยู่ ณ ทิศบูรพาได้พากันตาม
เสด็จท้าวเธอไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย ลำดับนั้น จักรแก้วนั้น ก็ลงไปสู่สมุทร
ด้านบูรพา แล้วโผล่ขึ้นไปลงที่สมุทรด้านทักษิณ แล้วโผล่ขึ้นไปสู่ทิศปัจฉิม
ท้าวเธอพร้อมด้วยจตุรงคินีเสนาก็เสด็จติดตามไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักรแก้ว
ประดิษฐานอยู่ ณ ประเทศใด ท้าวเธอก็เสด็จเข้าไปพักอยู่ ณ ประเทศนั้น
พร้อมด้วยจตุรงคินีเสนา ฯ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 05:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
https://mekaje.wordpress.com/2011/01/21/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3-%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%A3/

อ้างคำพูด:
แก้ว 7 ประการ (รัตนะ7)


พระเจ้าจักรพรรดิเป็นผู้ครอบครองแก้ว 7 ประการ อันได้แก่

จักรแก้ว (จกฺกรตฺตนํ)

เมื่อผู้ที่จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ พระองค์ทรงรักษาศีลอุโบสถ ชำระจิตให้สะอาดแล้วทรงทำสมาธิ จักรแก้วก็บังเกิดขึ้น ทำจากโลหะมีค่า ส่องแสงสว่างไสว แล้วพาพระเจ้าจักรพรรดิพร้อมเหล่าเสนาบดีลอยไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปทั้ง 4 ประเทศต่างๆ ก็ยอมสวามิภักดิ์ ไม่มีการสู้รบกัน เมื่อจะถวายเครื่องบรรณาการพระเจ้าจักรพรรดิก็ไม่ยอมรับแต่พระราชทานโอวาทศีล 5 ให้

ช้างแก้ว (หตฺถีรตฺตนํ)

ช้างแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นพญาช้าง มีชื่อว่า อุโบสถ สีขาวเผือก สง่างาม มีฤทธิ์เดชสามารถเหาะได้ คล่องแคล่วว่องไว ฝึกหัดได้เอง สามารถพาพระเจ้าจักรพรรดิไปรอบชมพูทวีป จรดขอบมหาสมุทร ได้ตั้งแต่เช้ารุ่ง และกลับมาทันเวลาเสวยพระกระยาหารเช้า

ม้าแก้ว (อสฺสรตฺตนํ)

ม้าแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นพญา ม้า มีชื่อว่า วลาหกะ เป็นอัศวราชผู้สง่างาม ขนงาม มีหางเป็นพวง ตรงปลายคล้ายดอกบัวตูม มีฤทธิ์เดชเหาะเหินเดินบนอากาศได้ คล่องแคล่วว่องไง ฝึกหัดได้เอง สามารถพาพระเจ้าจักรพรรดิไปรอบชมพูทวีป จรดขอบมหาสมุทร ได้ตั้งแต่เช้ารุ่ง และกลับมาทันเวลาเสวยพระกระยาหารเช้า

มณีแก้ว (มณิรตฺตนํ)

มณีแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นแก้วมณีเปล่งแสงสุกสกาว ใสแวววาวยิ่งกว่าเพชร เปล่งรังสีแสงสว่างไสวโดยรอบถึง 1 โยชน์ คอยบันดาลความอุดมสมบูรณ์ทุกอย่างให้บังเกิดขึ้น ดึงดูดสมบัติทั้งหลายมาให้ สามารถเลี้ยงคนได้ทั้งชมพูทวีปโดยไม่ต้องทำมาหากิน เมื่อพระมหาจักรพรรดิทรงทดลองแก้วมณีกับกองทัพ โดยติดแก้วมณีไว้บนยอดธงนำทัพ แก้วมณีก็เปล่งแสงสว่างไสว ทำให้กองทัพเดินทางได้สะดวกสบาย เหมือนเดินทัพในเวลากลางวัน

นางแก้ว (อิตถรตฺตนํ)

นางแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นหญิงที่มีบุญญาธิการ รูปร่างน่าดูชม ผิวพรรณเปล่งปลั่งผ่องใส สวยงามกว่ามนุษย์ทั่วไป พูดจาไพเราะ ไม่โกหก มีกลิ่นดอกบัวหอมฟุ้งออกจากปาก มีกลิ่นจันทน์หอมฟุ้งรอบกาย นางแก้วเป็นผู้คอยปรนนิบัติพระเจ้าจักรพรรดิอย่างไม่ขาดสาย ตื่นก่อนนอนทีหลังพระเจ้าจักรพรรดิ คอยฟังรับสั่งของพระเจ้าจักรพรรดิ ประพฤติชอบต่อพระเจ้าจักรพรรดิเสมอ

ขุนคลังแก้ว (คหปติรตฺตนํ)

คฤหบดีแก้ว หรือขุนคลังแก้ว สามารถนำทรัพย์สินมาให้แด่พระเจ้าจักรพรรดิได้ ขุมทรัพย์อยู่ที่ไหน ขุนคลังแก้วเห็นหมด

ขุนพลแก้ว (ปริณายกรตฺตนํ)

ปริณายกแก้ว หรือขุนพลแก้ว คือพระราชโอรสองค์โตของพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นขุนศึกคู่ใจ เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ มีความฉลาดเฉลียว รู้สิ่งใดควรไม่ควร คอยให้คำแนะนำปรึกษาแด่พระเจ้าจักรพรรดิอยู่เสมอ

อานิสงส์ผลบุญที่ทำให้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

ทำบุญทำทานด้วยจิตใจงดงาม
เป็นเจ้าในงานทอดกฐิน หรือเป็นเจ้าภาพในการสร้างวัด พระอุโบสถ พระวิหาร พระพุทธรูป ฯลฯ
เป็นประธานในการเทศนาธรรม การสังคายนาพระไตรปิฏก ฯลฯ
บูชาเจดีย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า




กบยกพระสูตรมาเยอะแยะ ต้องการสื่อประเด็นไหน ไม่ทราบ อิอิ

หรือจะให้เอาช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว เจ้าจักรพรรดิ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 07:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตามหัวข้อกระทู้..เลยคับ..

ระบบของประชาธิปไตย์..จะทำงานได้...ก็ต่อเมื่อคนมีคุณธรรม..พอ

ไม่เช่นนั้นแล้ว....ก็ต้องเป็นเครื่องมือของคนแสวงหาลาภ..อำนาจ...อยู่ดี


มีนักประชาธิปไตย์จ้า..ท่านหนึ่ง...กว่าจะรู้ตัว..อายุก็ปาไปซะเยอะแล้ว..
http://m.naewna.com/view/columntoday/26022




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตามหัวข้อกระทู้..เลยคับ..

ระบบของประชาธิปไตย์..จะทำงานได้...ก็ต่อเมื่อคนมีคุณธรรม..พอ

ไม่เช่นนั้นแล้ว....ก็ต้องเป็นเครื่องมือของคนแสวงหาลาภ..อำนาจ...อยู่ดี


มีนักประชาธิปไตย์จ้า..ท่านหนึ่ง...กว่าจะรู้ตัว..อายุก็ปาไปซะเยอะแล้ว..
http://m.naewna.com/view/columntoday/26022




ให้ตีความเองอีก ไหนเอาชัดๆสิ ปชต.ในความคิดของกบคืออะไร เผด็จการคืออะไร เอ้าว่ามาชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 18:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ระบบเครือข่าย ที่ทรงพลังที่สุดในยุครัฐบาล คสช. เมื่อประชารัฐ คือ ระบอบที่ค้ำยันให้ คสช.ไปต่อได้

แม้ว่ากรมสรรพากรจะออกมาปฏิเสธว่ามาตรการสนับสนุนการดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐว่าเป็นมาตรการที่ยกเว้นภาษีให้แก่บริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เพื่อเป็นการช่วยเหลือต่างตอบแทน แต่สิ่งที่ทำให้เราเห็นอย่างแท้จริงก็คือเครือข่ายอำนาจที่ค้ำยันรัฐบาลของคสช.

"ประชารัฐ" คือไอเดียทางเศรษฐกิจที่ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจริเริ่มในการดึงภาคเอกชนและประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมกับการบริหารนโยบายภาครัฐ แต่แท้ที่จริงมีอะไรที่ลึกลับกว่านั้นหรือไม่?

ประชารัฐไม่ได้ลดความเหลื่อมล้ำ แต่ยิ่งเหลื่อมล้ำ

ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวีพูดคุยกับ ผศ.ดร.เดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าโดยปกติรัฐกับทุนไม่ได้แยกขาดจากกัน เพียงแต่มีรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันไป โดยปกติจะมีประชาชนที่เป็นฐานเสียงมาเป็นตัวกลางให้รัฐจัดสรรผลประโยชน์ไม่ให้เอื้อกลุ่มทุนมากไป

เดชรัตชี้ว่าเมื่อเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชนกลไกตรงนี้จึงหายไปรัฐบาลคสช.อาจจะฟังเพียงประชาชนบางส่วนที่เป็นฐานอำนาจของพวกเขา เมื่อทุนมาผนวกกับรัฐเกิดเป็น "แบรนด์ประชารัฐ" ที่เข้มแข็งไม่ใช่เป็นเพียงกลุ่มแนวคิดที่เปิดกว้าง

"แบรนด์ประชารัฐ"ที่มีปัญหาสำหรับเดชรัตก็คือ เป็นกลุ่มปิดที่รัฐเลือกกลุ่มทุนเพียงบางกลุ่มเข้ามามีอำนาจบริหารนโยบายร่วมกัน เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งเพราะไม่เปิดกว้างให้ทุกทุนเข้าถึงโอกาสเท่าเทียมกัน เพราะถ้าเป็น "แนวคิด"ทุกกลุ่มจะสามารถเข้าถึงได้ แต่พอเป็น "แบรนด์" รัฐกลายเป็นผู้กำหนดทั้งหมด

ประเด็นการลดหย่อนภาษีให้กับกลุ่มประชารัฐ เดชรัตอธิบายว่าไม่ใช่เรื่องใหม่รัฐบาลก่อนหน้านี้มีการผลักดันพ.ร.บ.กิจการเพื่อสังคมเพื่อให้ทุนที่ทำเพื่อสังคมสามารถลดหย่อนภาษีได้ แต่รัฐบาลคสช.กลับไม่ใช้กลไกทางกฎหมายที่ค้างอยู่ในสภา แต่กลับไปเลือกว่าเฉพาะกลุ่ม "แบรนด์ประชารัฐ"เท่านั้นที่จะได้รับสิทธิพิเศษตรงนี้

การเข้ามาร่วมของกลุ่มทุนกับรัฐบาลคสช.รอบนี้ต่างจากสมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะจะบริหารผ่านกลไกประธานสภาธุรกิจการค้าต่างๆ เดชรัตชี้ว่านี่อาจเป็นครั้งแรกๆที่กลุ่มทุนเปิดหน้าเล่นการเมืองว่าอยู่ฝั่งดีกับรัฐบาลคสช.

ถามว่าการเปิดตัวหนุนคสช.จะส่งผลดีหรือไม่ ก็ต้องแลกเปลี่ยนกันจะเห็นว่าหลายครั้งรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งสามารถใช้กลไกนอกกฎหมายในการเอื้อกลุ่มทุนประชารัฐได้ ส่วนรัฐบาลก็เหมือนมีแนวร่วมในทางการเมือง เหมือนเป็นฐานอำนาจของคสช. แต่ก็ต้องดูว่าถ้าการเมืองเปลี่ยนขั้วอำนาจ กลุ่มเหล่านี้จะถูกมองในฐานะผู้สนับสนุนคสช.มาก่อนหรือไม่?

ท้ายที่สุดแล้วเดชรัตมองว่าการที่คสช.เคยอ้างการเข้ามารัฐประหารเพื่อลดความเหลื่อมล้ำนั้น ไม่เป็นจริงเพราะการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ที่เป็นแบรนด์ประชารัฐจะกลายเป็นการสร้างความเหลืื่อมล้ำมากขึ้นเสียมากกว่า

https://www.voicetv.co.th/read/HJ-f4uyfG

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 19:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตามหัวข้อกระทู้..เลยคับ..

ระบบของประชาธิปไตย์..จะทำงานได้...ก็ต่อเมื่อคนมีคุณธรรม..พอ

ไม่เช่นนั้นแล้ว....ก็ต้องเป็นเครื่องมือของคนแสวงหาลาภ..อำนาจ...อยู่ดี


มีนักประชาธิปไตย์จ้า..ท่านหนึ่ง...กว่าจะรู้ตัว..อายุก็ปาไปซะเยอะแล้ว..
http://m.naewna.com/view/columntoday/26022




ให้ตีความเองอีก ไหนเอาชัดๆสิ ปชต.ในความคิดของกบคืออะไร เผด็จการคืออะไร เอ้าว่ามาชัดๆ


อิอิ....ลานธรรมครับ...ไม่ใช่ลานการเมือง..อิอิ


กบนอกกะลา เขียน:
ตามหัวข้อกระทู้..เลยคับ..

ระบบของประชาธิปไตย์..จะทำงานได้...ก็ต่อเมื่อคนมีคุณธรรม..พอ

ไม่เช่นนั้นแล้ว....ก็ต้องเป็นเครื่องมือของคนแสวงหาลาภ..อำนาจ...อยู่ดี


มีนักประชาธิปไตย์จ้า..ท่านหนึ่ง...กว่าจะรู้ตัว..อายุก็ปาไปซะเยอะแล้ว..
http://m.naewna.com/view/columntoday/26022




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2017, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตามหัวข้อกระทู้..เลยคับ..

ระบบของประชาธิปไตย์..จะทำงานได้...ก็ต่อเมื่อคนมีคุณธรรม..พอ

ไม่เช่นนั้นแล้ว....ก็ต้องเป็นเครื่องมือของคนแสวงหาลาภ..อำนาจ...อยู่ดี


มีนักประชาธิปไตย์จ้า..ท่านหนึ่ง...กว่าจะรู้ตัว..อายุก็ปาไปซะเยอะแล้ว..
http://m.naewna.com/view/columntoday/26022




ให้ตีความเองอีก ไหนเอาชัดๆสิ ปชต.ในความคิดของกบคืออะไร เผด็จการคืออะไร เอ้าว่ามาชัดๆ


อิอิ....ลานธรรมครับ...ไม่ใช่ลานการเมือง..อิอิ


กบนอกกะลา เขียน:
ตามหัวข้อกระทู้..เลยคับ..

ระบบของประชาธิปไตย์..จะทำงานได้...ก็ต่อเมื่อคนมีคุณธรรม..พอ

ไม่เช่นนั้นแล้ว....ก็ต้องเป็นเครื่องมือของคนแสวงหาลาภ..อำนาจ...อยู่ดี


มีนักประชาธิปไตย์จ้า..ท่านหนึ่ง...กว่าจะรู้ตัว..อายุก็ปาไปซะเยอะแล้ว..
http://m.naewna.com/view/columntoday/26022




จอด อ้าวก็เห็นชื่อกระทู้มีปชต.ไม่ใช่หรา คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 940 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 48, 49, 50, 51, 52, 53, 54 ... 63  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร