57242.อานาปานสติ กาย เวทนา จิต ธรรม

แค่อากาศ

โลกสวย เขียน:

แค่อากาศ เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอามาให้ฟังกันอีกที น๊ะค๊ะ

Love j กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

ว่า

ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ""""""

แต่ๆๆๆๆ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

โอย...... ไม่รู้จะพูดยังไงดี กะคำกล่าวเลอะเทอะ ของคุณ Love j
จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว แล้วสัตว์บริสุทธิ์ อย่างคุณ ยังมาเศร้าหมอง ทำกิจอะไร น้อค๊ะ

5555
คุณ Love j นี่เป้นตัวอย่าง คนที่ไม่เรียนพระปริยัติ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว
เรย มโน ไปเลอะเทอะว่า จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว

ก็ขอชม อีกที แระกันน๊ะค๊ะ เพราะอยากได้แต่คำชม สรรเสริญ rolleyes

โอว....มานเป็น มโน สุดยอด มหามโน มั๊กๆๆ น้อค๊ะ rolleyes

ท่านเลิฟเจพูดถูกแล้ว

จิตผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คือ พุทโธ กิริยาจิตที่ถึงความเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม ผู้เข้าถึงจิตแห่งพุทธะย่อมรู้ได้ ความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

โดยความนี้เมื่อเห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม ก็พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้รู้

แม้จิตเดินเข้าสู่โคตรภูญาณ น้อมลงมรรคก็ดี น้อมไปหาผลก็ดี เพื่อตัดชำระล้างสำรอกออกซึ่งการเอาใจเข้ายึดครองสิ่งมั้งปวง ก็ชื่อว่า พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอม

ขออนุโมทนาท่านเจ ความแยบคายดีแล้วครับ

โอ้วว..... cry

ซาบซึ้งซะเนี่ยกระไร

จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ

เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

อย่างนี้ ก็ต้อง

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

โอว........

สุดยอด มหามโน อย่างแยบคาย ของคุณแค่อากาศ ซะจน ไม่มีใครสามารถจับได้

พระพุทธเจ้าบังเกิดแล้ว ถึงสองพระองค์ ในสมัยพระสมณโคดม

แซงหน้าพระศรีอาริยเมตไตรไป เรย

สงสัยอากาศร้อน ทำสติแตกไป หนนึงแร๊ว

คราวนี้ ไปอเวจี เรย

นี่แหละตัวอย่าง ของคนที่ไม่เรียนพระปริยัติ ไม่เรียนพระอภิธรรม
ไม่ศึกษาพระไตรปิฎก
เรยเขลาเบาปัญญา อย่างไม่รู้จะกล่าวเช่นไร จึงเหมาะสมน๊ะค๊ะ

tongue

ปรกติของเม คือเป็นคนจิตไม่ปรกติ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ จิตเป็นพุทโธ กับจิตถึงพุทธะยังไม่รู้จัก แยกแยะไม่ได้ แล้วจะไปรู้อะไรได้อีก ยังหน้าด้านอ้างอภิธรรมอีก :b32:

ท่านเจก็จะบ้าเถียงกับคนบ้าไปทำไมครับ คนปรกติเขาเป็นแบบนี้ที่ไหน

คนที่ถึงพระรัตนตรัยแล้วจะไม่กล่าวตู่ การกรรมฐานที่มีมูลกรรมฐาน คือ พุทโธ พุทธะ นะมะพะทะ สัมมาอรหัง แม้หน่อยหนึ่งก็จะไม่ก้าวล่วง
ส่วนคนที่ไม่ถึงพระรัตนตรัยแต่อ้างธรรมพระพุทธเจ้าก็เป็นปรกติที่จะตำหนิพุทธคุณ

พุทธานุสสตินี้สูงมากเป็นมูลแห่งกรรมฐานทั้งปวง เพราะมีพระพุทธเจ้าจึงมีกรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัฏฐาน วิปัสสนา จะยกองค์กสินก็ได้ ยกเข้าอรูปก็ได้ ยกเข้าวิปัสสนาก็ได้ แต่ท่านจำแนกไว้จำเพาะ นั่นเพราะกำลังจิตของคนไม่เหมือนกัน ปัญญาต่างกัน บางคนรู้จักแค่คำบริกรรมก็ได้แค่สมถะ มากสุดได้แค่อุปจารสมาธิยกเข้าฌาณยังไม่ได้เลย ท่านจึงยกไว้ในอุปจาระที่คนเข้าถึงได้ง่าย แต่คนที่แยบคายแล้วจับเอาคุณ ๓ หรือคุณ ๙ หรือคุณข้อใดข้อหนึ่งท่านยกเข้าฌาณ เข้ากสินฌาณ เข้าอรูปก็ได้ เข้าวิปัสนาก็ได้ อย่างอานาปานสติก็เป็นสมถะ แต่ยกเข้าวิปัสสนาได้ คนไม่แยลคายก็ไม่รู้จัก อสุภะกรรมฐานก็เป็นสมถะ ยกเข้าวิปัสสนาได้ ธาตุกรรมฐานได้ทั้งกสิน ทั้งวิปัสสนา บางคนมักโง่อ้างมหาสติปัฏฐานแต่กลับไม่รู้ว่าสมถะกรรมฐานเหล่านี้คือกายานุปัสสนา เหมือนดั่งว่าคนนับถือพระธรรมบริกรรมธัมโมๆ สังโฆๆ แต่มูลเหตุของธัมโม สังโฆ มาจากพุทโธเขายังไม่รู้เลย อิอิอิ

เอาง่ายๆนะครับ พรหมวิหาร ๔ นี้คนปกติทำได้แค่บริกรรมได้ขณิกสมาธิ สงบใจบ้าง อุปจาระบ้าง ก็เห็นพรหมวิหาร ๔ แค่นั้น แต่แท้จริงยกเข้ามหาสติปัฏฐานก็ได้ เข้าอรูปฌาณก็ได้ เข้าวิปสสนาก็ได้

ท่านรู้ดังนี้แล้งยังจะตามคนจิตไม่ปรกติไม่รู้ธรรมแท้อีกหราครับ

Love J.

แค่อากาศ :
ปรกติของเม คือเป็นคนจิตไม่ปรกติ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ จิตเป็นพุทโธ กับจิตถึงพุทธะยังไม่รู้จัก แยกแยะไม่ได้ แล้วจะไปรู้อะไรได้อีก ยังหน้าด้านอ้างอภิธรรมอีก :b32:

ท่านเจก็จะบ้าเถียงกับคนบ้าไปทำไมครับ คนปรกติเขาเป็นแบบนี้ที่ไหน

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)

Love j. :
คนแบบนี้แม้ไม่เถียงกับผม ก็เถียงกับคนอื่นเพราะอาศัยพระธรรมคำสอนพูดคำที่ทำให้คนอื่นทุกข์ ยกตัวเองข่มคนอื่น หากผมไม่เถียงเค้าไม่แย้งเค้า ๆ ก็ยิ่งได้ใจว่าตนเอาชนะคนอื่นได้ว่าตนมีปัญญาแตกฉานเชี่ยวชาญปริยัติ คนอื่นไม่มีปัญญา ไม่รู้ปริยัติ

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็มาเถียงกับผมเถอะเมื่อผมพูดด้วยสติ อิงอรรถอิงธรรม หากเค้าจะข่มคำพูดที่เป็นธรรม ด้วยคำพูดที่ไม่ใช่ธรรม ผมก็จะเอาคำพูดที่ไม่ใช่ธรรมนั้นแหละกดข่มเค้าให้ยิ่งต่ำลงไป แต่ถ้าหากว่าเค้าเกิดสติ ใช้สติพิจารณากล่าวคำจริง เป็นธรรม เป็นคำสอน มีหรือผมจะแย้งเค้าได้ผมก็ยิ่งชื่นชมโมทนา สาธุ

สจฺเจนาลิกวาทินํ : พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง
ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกฺโข จ เวรวา : อ่อนไป...ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป...ก็มีภัยเวร
ครุ โหติ สคารโว : ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีผู้เคารพตนเอง
พุทธศาสนสุภาษิต
.........................................................
แค่อากาศ :
เอาง่ายๆนะครับ พรหมวิหาร ๔ นี้คนปกติทำได้แค่บริกรรมได้ขณิกสมาธิ สงบใจบ้าง อุปจาระบ้าง ก็เห็นพรหมวิหาร ๔ แค่นั้น แต่แท้จริงยกเข้ามหาสติปัฏฐานก็ได้ เข้าอรูปฌาณก็ได้ เข้าวิปสสนาก็ได้

Love j. : ผมก็ยังไม่ได้สมถะ ยังไม่ได้ฌานเหมือนกันครับแต่ไม่สงสัยวว่าสมถะสำคัญอย่างไร ไม่สงสัยว่า
บริกรรมพุทโธ พุทธานุสติชำระล้างจิตใจอย่างไร และทำความเพียรอยู่เรื่อย ๆ ครับ

แค่อากาศ

Love J. เขียน:

แค่อากาศ :
ปรกติของเม คือเป็นคนจิตไม่ปรกติ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ จิตเป็นพุทโธ กับจิตถึงพุทธะยังไม่รู้จัก แยกแยะไม่ได้ แล้วจะไปรู้อะไรได้อีก ยังหน้าด้านอ้างอภิธรรมอีก :b32:

ท่านเจก็จะบ้าเถียงกับคนบ้าไปทำไมครับ คนปรกติเขาเป็นแบบนี้ที่ไหน

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)

Love j. :
คนแบบนี้แม้ไม่เถียงกับผม ก็เถียงกับคนอื่นเพราะอาศัยพระธรรมคำสอนพูดคำที่ทำให้คนอื่นทุกข์ ยกตัวเองข่มคนอื่น หากผมไม่เถียงเค้าไม่แย้งเค้า ๆ ก็ยิ่งได้ใจว่าตนเอาชนะคนอื่นได้ว่าตนมีปัญญาแตกฉานเชี่ยวชาญปริยัติ คนอื่นไม่มีปัญญา ไม่รู้ปริยัติ

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็มาเถียงกับผมเถอะเมื่อผมพูดด้วยสติ อิงอรรถอิงธรรม หากเค้าจะข่มคำพูดที่เป็นธรรม ด้วยคำพูดที่ไม่ใช่ธรรม ผมก็จะเอาคำพูดที่ไม่ใช่ธรรมนั้นแหละกดข่มเค้าให้ยิ่งต่ำลงไป แต่ถ้าหากว่าเค้าเกิดสติ ใช้สติพิจารณากล่าวคำจริง เป็นธรรม เป็นคำสอน มีหรือผมจะแย้งเค้าได้ผมก็ยิ่งชื่นชมโมทนา สาธุ

สจฺเจนาลิกวาทินํ : พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง
ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกฺโข จ เวรวา : อ่อนไป...ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป...ก็มีภัยเวร
ครุ โหติ สคารโว : ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีผู้เคารพตนเอง
พุทธศาสนสุภาษิต
.........................................................
แค่อากาศ :
เอาง่ายๆนะครับ พรหมวิหาร ๔ นี้คนปกติทำได้แค่บริกรรมได้ขณิกสมาธิ สงบใจบ้าง อุปจาระบ้าง ก็เห็นพรหมวิหาร ๔ แค่นั้น แต่แท้จริงยกเข้ามหาสติปัฏฐานก็ได้ เข้าอรูปฌาณก็ได้ เข้าวิปสสนาก็ได้

Love j. : ผมก็ยังไม่ได้สมถะ ยังไม่ได้ฌานเหมือนกันครับแต่ไม่สงสัยวว่าสมถะสำคัญอย่างไร ไม่สงสัยว่า
บริกรรมพุทโธ พุทธานุสติชำระล้างจิตใจอย่างไร และทำความเพียรอยู่เรื่อย ๆ ครับ

เพราะเขาไม่ถึงธรรมแท้ไงครับถึงแต่ความคิดดขาก็ได้แค่นี้ครับ ไม่รู้จัก พละ ๔ ว่าด้วยคำสอนของพระพุทะเจ้าที่ไม่ถือตน ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่หลู่คุณท่าน ไม่ตีตนเสมอท่าน ซึ่งข้อนี้เป็นการละมานะทิฏฐิโดยตรง

คนไม่ถึงของจริงมักกล่าวอ้างพระธรรมของพระพุทธเจ้า แต่กล่าวตู่พระรัตนตรัย

เหมือนไปบอกคิดนึกตามกันดูอาการของโทสะว่า มันขุ่นมัวใจ รู้อย่างนี้คือวิปัสสนา ซึ่งนี้มันแค่คิดเอาของจริงคนละอย่างกันเลย
..อย่างเป็นผมก็จะบอกว่าไม่ต้องไปอะไรมากไม่ต้องไปคิดตาม แค่จิตสงบ จิตรู้ลักษณะของมันขณะที่เกิดโทสะ แค่รู้ว่าโทสะมันร้อน มันร้อนรุ่มสุมใจ มีอาการที่เป็นแรงต้าน นี้วิปัสสนาแท้ๆ ไม่ใช่คิดตามเอา แต่รู้ทันทีที่เกิด กิเลสคือร้อน คือไฟ มันร้อนทุกตัวต่างที่แรงตาม แรงต่อต้าน และแรงรู้ทัดทานแยกแยะ

เห็นไหมครับการท่องจำมาโม้กับการปฏิบัติเห็นจริงมันบอกง่ายต่างกัน และสามารถรู้ได้ทันทีไม่ต้องคิดตามอนุมานเอา

เหมิอนโสภณจิต คนท่องจำไม่เคยเห็นจะรู้แค่อาการที่จิตแจ้มใสเบาสบาย อาศัยกุศลตัวโน้นร่วมกุศลตัวนี้ เกิดเป็นโสภณจิต แต่คนที่เข้าถึงจะบอกต่างกัน
..อย่างผมจะพูดแค่อกุศลดับ จิตปราศจากอกุศล โสภณจิตจึงเกิดขึ้นแค่นี้เอง คนฟังเขารู้ก็อ๋อเพราะอกุศลดับเขาก็ละอกุศลเพื่อเจอโสภณจิต ส่วนคนที้จับผลัดจับผลูไปเจอเข้าเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเพราอกุศลจิตเขาดับ ไม่มีอกุศลเขาจึงมีอาการนี้ได้เขาก็ยิ่งเพียรละอกุศลเขาให้ยิ่งๆขึ้น

ต่างกันมั้ยครับ สอ่งที่ผมพูดมันง่ายใช่มะ
อย่างนี้ท่านเจยังจะหลงตามของปลอมอีกหราครับ

โลกสวย

Love J. เขียน:

แค่อากาศ :
ปรกติของเม คือเป็นคนจิตไม่ปรกติ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ จิตเป็นพุทโธ กับจิตถึงพุทธะยังไม่รู้จัก แยกแยะไม่ได้ แล้วจะไปรู้อะไรได้อีก ยังหน้าด้านอ้างอภิธรรมอีก :b32:

ท่านเจก็จะบ้าเถียงกับคนบ้าไปทำไมครับ คนปรกติเขาเป็นแบบนี้ที่ไหน

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)

Love j. :
คนแบบนี้แม้ไม่เถียงกับผม ก็เถียงกับคนอื่นเพราะอาศัยพระธรรมคำสอนพูดคำที่ทำให้คนอื่นทุกข์ ยกตัวเองข่มคนอื่น หากผมไม่เถียงเค้าไม่แย้งเค้า ๆ ก็ยิ่งได้ใจว่าตนเอาชนะคนอื่นได้ว่าตนมีปัญญาแตกฉานเชี่ยวชาญปริยัติ คนอื่นไม่มีปัญญา ไม่รู้ปริยัติ

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็มาเถียงกับผมเถอะเมื่อผมพูดด้วยสติ อิงอรรถอิงธรรม หากเค้าจะข่มคำพูดที่เป็นธรรม ด้วยคำพูดที่ไม่ใช่ธรรม ผมก็จะเอาคำพูดที่ไม่ใช่ธรรมนั้นแหละกดข่มเค้าให้ยิ่งต่ำลงไป แต่ถ้าหากว่าเค้าเกิดสติ ใช้สติพิจารณากล่าวคำจริง เป็นธรรม เป็นคำสอน มีหรือผมจะแย้งเค้าได้ผมก็ยิ่งชื่นชมโมทนา สาธุ

สจฺเจนาลิกวาทินํ : พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง
ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกฺโข จ เวรวา : อ่อนไป...ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป...ก็มีภัยเวร
ครุ โหติ สคารโว : ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีผู้เคารพตนเอง
พุทธศาสนสุภาษิต
.........................................................
แค่อากาศ :
เอาง่ายๆนะครับ พรหมวิหาร ๔ นี้คนปกติทำได้แค่บริกรรมได้ขณิกสมาธิ สงบใจบ้าง อุปจาระบ้าง ก็เห็นพรหมวิหาร ๔ แค่นั้น แต่แท้จริงยกเข้ามหาสติปัฏฐานก็ได้ เข้าอรูปฌาณก็ได้ เข้าวิปสสนาก็ได้

Love j. : ผมก็ยังไม่ได้สมถะ ยังไม่ได้ฌานเหมือนกันครับแต่ไม่สงสัยวว่าสมถะสำคัญอย่างไร ไม่สงสัยว่า
บริกรรมพุทโธ พุทธานุสติชำระล้างจิตใจอย่างไร และทำความเพียรอยู่เรื่อย ๆ ครับ

5555
คุณ แค่อากาศ กับ คุณ LOVE J
สองแรง แข็งขัน ร่วมมือ กัน มาช่วยกันแถ ดับเบิ้ล มหา มโนๆๆ ต่อ 555
เพราะถูกจับได้

ว่า
จิตพุทธโธ ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานอันบริสุทธิ์ ของพวกคุณ นั้น
มหามโน มหามั่ว
ไม่มี ๆๆๆๆๆ

ไม่มีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาสธารณะญาน 6 แบบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นพระญาน เฉพาะ พระพุทธเจ้าเท่านั้น

จิตพุทโธ พุทธธะ มโน มหามั่วๆ แหลกราญ ของพวกคุณสองคน เรยไม่ตรงพระธรรม ที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดงไว้ดีแล้ว

ห้องสนทนาธรรมทั่วไป ธรรมทั่วไปนั้น มีทั้งกุศลาธัมมา อกุศลาธัมา และอัพพยากตธัมา น๊อ ค๊ะ

ที่จิต คุณ Love J กับ คุณแค่อากาศ หมองหม่น สติแตกกระจาย จากคำสนทนาธรรมทั่วไป

ก็เพราะว่า ไม่ โยนิโสมนการไว้ในใจ โดยแยบคายเองเรย สติแตกกระจายเองอ่ะค่ะ

มาบอกว่ายกตนข่ม ท่าน

เพราะ ไม่รู้อีก ว่า คำว่ายกตนข่มท่าน คือ มานะเจตสิก
และพระพุทธองค์กล่าวไว้ ในพระอภิธรรมว่า
มานะเจตสิก ก็ยังเป็นปัจจัย ให้เกิดปัญญาได้ ด้วยอำนาจ นิสสยปัจจัย น๊ะค๊ะ

เพราะ คุณ LOVE J คุณ แค่อากาศ โดนจับได้ ที่แสดงความเขลาเบาปัญญา ออกมา ไม่ตรงพระไตรปิฎก

ที่กล่าวว่าตนใช้ จิตพุทโธ จิตพุทธะ ที่เป็นผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์ดด้วยประการทั้งปวง
แต่จิตพุทธะ พุทโธ ของคุณ ที่อ้างโดนจับ ได้ ว่า
ไม่มีทศพล10 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีอาสาธารณญาน 6 อันเป็นพระญาน ของ พระพุทธเจ้าเท่านั้น
ที่พระสาวก พระอรหันต์ก็ไม่มี

สองแรงแข็งขัน มหามโน มหามั่ว แต่ถูก จับได้ คาหนังคาเขา

ปลาตาย น้ำตื้น ๆๆๆสองตัว

rolleyes

โลกสวย

Love J. เขียน:

แค่อากาศ :
ปรกติของเม คือเป็นคนจิตไม่ปรกติ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ จิตเป็นพุทโธ กับจิตถึงพุทธะยังไม่รู้จัก แยกแยะไม่ได้ แล้วจะไปรู้อะไรได้อีก ยังหน้าด้านอ้างอภิธรรมอีก :b32:

ท่านเจก็จะบ้าเถียงกับคนบ้าไปทำไมครับ คนปรกติเขาเป็นแบบนี้ที่ไหน

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)

Love j. :
คนแบบนี้แม้ไม่เถียงกับผม ก็เถียงกับคนอื่นเพราะอาศัยพระธรรมคำสอนพูดคำที่ทำให้คนอื่นทุกข์ ยกตัวเองข่มคนอื่น หากผมไม่เถียงเค้าไม่แย้งเค้า ๆ ก็ยิ่งได้ใจว่าตนเอาชนะคนอื่นได้ว่าตนมีปัญญาแตกฉานเชี่ยวชาญปริยัติ คนอื่นไม่มีปัญญา ไม่รู้ปริยัติ

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็มาเถียงกับผมเถอะเมื่อผมพูดด้วยสติ อิงอรรถอิงธรรม หากเค้าจะข่มคำพูดที่เป็นธรรม ด้วยคำพูดที่ไม่ใช่ธรรม ผมก็จะเอาคำพูดที่ไม่ใช่ธรรมนั้นแหละกดข่มเค้าให้ยิ่งต่ำลงไป แต่ถ้าหากว่าเค้าเกิดสติ ใช้สติพิจารณากล่าวคำจริง เป็นธรรม เป็นคำสอน มีหรือผมจะแย้งเค้าได้ผมก็ยิ่งชื่นชมโมทนา สาธุ

สจฺเจนาลิกวาทินํ : พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง
ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกฺโข จ เวรวา : อ่อนไป...ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป...ก็มีภัยเวร
ครุ โหติ สคารโว : ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีผู้เคารพตนเอง
พุทธศาสนสุภาษิต
.........................................................
แค่อากาศ :
เอาง่ายๆนะครับ พรหมวิหาร ๔ นี้คนปกติทำได้แค่บริกรรมได้ขณิกสมาธิ สงบใจบ้าง อุปจาระบ้าง ก็เห็นพรหมวิหาร ๔ แค่นั้น แต่แท้จริงยกเข้ามหาสติปัฏฐานก็ได้ เข้าอรูปฌาณก็ได้ เข้าวิปสสนาก็ได้

Love j. : ผมก็ยังไม่ได้สมถะ ยังไม่ได้ฌานเหมือนกันครับแต่ไม่สงสัยวว่าสมถะสำคัญอย่างไร ไม่สงสัยว่า
บริกรรมพุทโธ พุทธานุสติชำระล้างจิตใจอย่างไร และทำความเพียรอยู่เรื่อย ๆ ครับ

5555
คุณ แค่อากาศ กับ คุณ LOVE J
สองแรง แข็งขัน ร่วมมือ กัน มาช่วยกันแถ ดับเบิ้ล มหา มโนๆๆ ต่อ 555
เพราะถูกจับได้

ว่า
จิตพุทธโธ ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานอันบริสุทธิ์ ของพวกคุณ นั้น
มหามโน มหามั่ว
ไม่มี ๆๆๆๆๆ

ไม่มีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาสธารณะญาน 6 แบบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นพระญาน เฉพาะ พระพุทธเจ้าเท่านั้น

จิตพุทโธ พุทธธะ มโน มหามั่วๆ แหลกราญ ของพวกคุณสองคน เรยไม่ตรงพระธรรม ที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดงไว้ดีแล้ว

ห้องสนทนาธรรมทั่วไป ธรรมทั่วไปนั้น มีทั้งกุศลาธัมมา อกุศลาธัมา และอัพพยากตธัมา น๊อ ค๊ะ

ที่จิต คุณ Love J กับ คุณแค่อากาศ หมองหม่น สติแตกกระจาย จากคำสนทนาธรรมทั่วไป

ก็เพราะว่า ไม่ โยนิโสมนการไว้ในใจ โดยแยบคายเองเรย สติแตกกระจายเองอ่ะค่ะ

มาบอกว่ายกตนข่ม ท่าน

เพราะ ไม่รู้อีก ว่า คำว่ายกตนข่มท่าน คือ มานะเจตสิก
และพระพุทธองค์กล่าวไว้ ในพระอภิธรรมว่า
มานะเจตสิก ก็ยังเป็นปัจจัย ให้เกิดปัญญาได้ ด้วยอำนาจ นิสสยปัจจัย น๊ะค๊ะ

เพราะ คุณ LOVE J คุณ แค่อากาศ โดนจับได้ ที่แสดงความเขลาเบาปัญญา ออกมา ไม่ตรงพระไตรปิฎก

ที่กล่าวว่าตนใช้ จิตพุทโธ จิตพุทธะ ที่เป็นผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์ดด้วยประการทั้งปวง
แต่จิตพุทธะ พุทโธ ของคุณ ที่อ้างโดนจับ ได้ ว่า
ไม่มีทศพล10 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีอาสาธารณญาน 6 อันเป็นพระญาน ของ พระพุทธเจ้าเท่านั้น
ที่พระสาวก พระอรหันต์ก็ไม่มี

สองแรงแข็งขัน มหามโน มหามั่ว แต่ถูก จับได้ คาหนังคาเขา

ปลาตาย น้ำตื้น ๆๆๆสองตัว

rolleyes

โลกสวย

แค่อากาศ เขียน:

Love J. เขียน:

แค่อากาศ :
ปรกติของเม คือเป็นคนจิตไม่ปรกติ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ จิตเป็นพุทโธ กับจิตถึงพุทธะยังไม่รู้จัก แยกแยะไม่ได้ แล้วจะไปรู้อะไรได้อีก ยังหน้าด้านอ้างอภิธรรมอีก :b32:

ท่านเจก็จะบ้าเถียงกับคนบ้าไปทำไมครับ คนปรกติเขาเป็นแบบนี้ที่ไหน

.....................................................
(จิตรู้สมมติ เป็นสมุทัย)
(ผลอันเกิดจากจิตรู้สมมติ เป็นทุกข์)
(จิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นมรรค)
(ผลอันเกิดจากจิตเห็นจริงต่างหากจากสมมติ เป็นนิโรธ)

Love j. :
คนแบบนี้แม้ไม่เถียงกับผม ก็เถียงกับคนอื่นเพราะอาศัยพระธรรมคำสอนพูดคำที่ทำให้คนอื่นทุกข์ ยกตัวเองข่มคนอื่น หากผมไม่เถียงเค้าไม่แย้งเค้า ๆ ก็ยิ่งได้ใจว่าตนเอาชนะคนอื่นได้ว่าตนมีปัญญาแตกฉานเชี่ยวชาญปริยัติ คนอื่นไม่มีปัญญา ไม่รู้ปริยัติ

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็มาเถียงกับผมเถอะเมื่อผมพูดด้วยสติ อิงอรรถอิงธรรม หากเค้าจะข่มคำพูดที่เป็นธรรม ด้วยคำพูดที่ไม่ใช่ธรรม ผมก็จะเอาคำพูดที่ไม่ใช่ธรรมนั้นแหละกดข่มเค้าให้ยิ่งต่ำลงไป แต่ถ้าหากว่าเค้าเกิดสติ ใช้สติพิจารณากล่าวคำจริง เป็นธรรม เป็นคำสอน มีหรือผมจะแย้งเค้าได้ผมก็ยิ่งชื่นชมโมทนา สาธุ

สจฺเจนาลิกวาทินํ : พึงชนะคนพูดปดด้วยคำจริง
ปริภูโต มุทุ โหติ อติติกฺโข จ เวรวา : อ่อนไป...ก็ถูกเขาหมิ่น แข็งไป...ก็มีภัยเวร
ครุ โหติ สคารโว : ผู้เคารพผู้อื่น ย่อมมีผู้เคารพตนเอง
พุทธศาสนสุภาษิต
.........................................................
แค่อากาศ :
เอาง่ายๆนะครับ พรหมวิหาร ๔ นี้คนปกติทำได้แค่บริกรรมได้ขณิกสมาธิ สงบใจบ้าง อุปจาระบ้าง ก็เห็นพรหมวิหาร ๔ แค่นั้น แต่แท้จริงยกเข้ามหาสติปัฏฐานก็ได้ เข้าอรูปฌาณก็ได้ เข้าวิปสสนาก็ได้

Love j. : ผมก็ยังไม่ได้สมถะ ยังไม่ได้ฌานเหมือนกันครับแต่ไม่สงสัยวว่าสมถะสำคัญอย่างไร ไม่สงสัยว่า
บริกรรมพุทโธ พุทธานุสติชำระล้างจิตใจอย่างไร และทำความเพียรอยู่เรื่อย ๆ ครับ

เพราะเขาไม่ถึงธรรมแท้ไงครับถึงแต่ความคิดดขาก็ได้แค่นี้ครับ ไม่รู้จัก พละ ๔ ว่าด้วยคำสอนของพระพุทะเจ้าที่ไม่ถือตน ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่หลู่คุณท่าน ไม่ตีตนเสมอท่าน ซึ่งข้อนี้เป็นการละมานะทิฏฐิโดยตรง

คนไม่ถึงของจริงมักกล่าวอ้างพระธรรมของพระพุทธเจ้า แต่กล่าวตู่พระรัตนตรัย

เหมือนไปบอกคิดนึกตามกันดูอาการของโทสะว่า มันขุ่นมัวใจ รู้อย่างนี้คือวิปัสสนา ซึ่งนี้มันแค่คิดเอาของจริงคนละอย่างกันเลย
..อย่างเป็นผมก็จะบอกว่าไม่ต้องไปอะไรมากไม่ต้องไปคิดตาม แค่จิตสงบ จิตรู้ลักษณะของมันขณะที่เกิดโทสะ แค่รู้ว่าโทสะมันร้อน มันร้อนรุ่มสุมใจ มีอาการที่เป็นแรงต้าน นี้วิปัสสนาแท้ๆ ไม่ใช่คิดตามเอา แต่รู้ทันทีที่เกิด กิเลสคือร้อน คือไฟ มันร้อนทุกตัวต่างที่แรงตาม แรงต่อต้าน และแรงรู้ทัดทานแยกแยะ

เห็นไหมครับการท่องจำมาโม้กับการปฏิบัติเห็นจริงมันบอกง่ายต่างกัน และสามารถรู้ได้ทันทีไม่ต้องคิดตามอนุมานเอา

เหมิอนโสภณจิต คนท่องจำไม่เคยเห็นจะรู้แค่อาการที่จิตแจ้มใสเบาสบาย อาศัยกุศลตัวโน้นร่วมกุศลตัวนี้ เกิดเป็นโสภณจิต แต่คนที่เข้าถึงจะบอกต่างกัน
..อย่างผมจะพูดแค่อกุศลดับ จิตปราศจากอกุศล โสภณจิตจึงเกิดขึ้นแค่นี้เอง คนฟังเขารู้ก็อ๋อเพราะอกุศลดับเขาก็ละอกุศลเพื่อเจอโสภณจิต ส่วนคนที้จับผลัดจับผลูไปเจอเข้าเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเพราอกุศลจิตเขาดับ ไม่มีอกุศลเขาจึงมีอาการนี้ได้เขาก็ยิ่งเพียรละอกุศลเขาให้ยิ่งๆขึ้น

ต่างกันมั้ยครับ สอ่งที่ผมพูดมันง่ายใช่มะ
อย่างนี้ท่านเจยังจะหลงตามของปลอมอีกหราครับ

5555
คุณ แค่อากาศ กับ คุณ LOVE J
สองแรง แข็งขัน ร่วมมือ กัน มาช่วยกันแถ ดับเบิ้ล มหา มโนๆๆ ต่อ 555
เพราะถูกจับได้

ว่า
จิตพุทธโธ ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานอันบริสุทธิ์ ของพวกคุณ นั้น
มหามโน มหามั่ว
ไม่มี ๆๆๆๆๆ

ไม่มีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาสธารณะญาน 6 แบบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นพระญาน เฉพาะ พระพุทธเจ้าเท่านั้น

จิตพุทโธ พุทธธะ มโน มหามั่วๆ แหลกราญ ของพวกคุณสองคน เรยไม่ตรงพระธรรม ที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดงไว้ดีแล้ว

ห้องสนทนาธรรมทั่วไป ธรรมทั่วไปนั้น มีทั้งกุศลาธัมมา อกุศลาธัมา และอัพพยากตธัมา น๊อ ค๊ะ

ที่จิต คุณ Love J กับ คุณแค่อากาศ หมองหม่น สติแตกกระจาย จากคำสนทนาธรรมทั่วไป

ก็เพราะว่า ไม่ โยนิโสมนการไว้ในใจ โดยแยบคายเองเรย สติแตกกระจายเองอ่ะค่ะ

มาบอกว่ายกตนข่ม ท่าน

เพราะ ไม่รู้อีก ว่า คำว่ายกตนข่มท่าน คือ มานะเจตสิก
และพระพุทธองค์กล่าวไว้ ในพระอภิธรรมว่า
มานะเจตสิก ก็ยังเป็นปัจจัย ให้เกิดปัญญาได้ ด้วยอำนาจ นิสสยปัจจัย น๊ะค๊ะ

เพราะ คุณ LOVE J คุณ แค่อากาศ โดนจับได้ ที่แสดงความเขลาเบาปัญญา ออกมา ไม่ตรงพระไตรปิฎก

ที่กล่าวว่าตนใช้ จิตพุทโธ จิตพุทธะ ที่เป็นผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์ดด้วยประการทั้งปวง
แต่จิตพุทธะ พุทโธ ของคุณ ที่อ้างโดนจับ ได้ ว่า
ไม่มีทศพล10 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีอาสาธารณญาน 6 อันเป็นพระญาน ของ พระพุทธเจ้าเท่านั้น
ที่พระสาวก พระอรหันต์ก็ไม่มี

สองแรงแข็งขัน มหามโน มหามั่ว แต่ถูก จับได้ คาหนังคาเขา

ปลาตาย น้ำตื้น ๆๆๆสองตัว

rolleyes

โลกสวย

ยกมาให้ฟังอีกที นะคะ

เพราะเห็นคุณ กลับไป ไปแก้ข้อความหลังที่ตอบแล้วประจำ

โชคดีน๊ะ ที่เมอ้างอิงข้อความไว้ก่อน ไอ้ที่คุณแอบไปแก้ไขข้อความ เรยเป็นหมัน 5555 rolleyes

เพราะไม่รู้จะแอบกลับไปแก้ไขข้อความอีกกี่ครั้งก็ไม่รุ้ 555 rolleyes

เอามาให้ฟังกันอีกที น๊ะค๊ะ

Love j กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

ว่า

ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ""""""

แต่ๆๆๆๆ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

โอย...... ไม่รู้จะพูดยังไงดี กะคำกล่าวเลอะเทอะ ของคุณ Love j
จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว แล้วสัตว์บริสุทธิ์ อย่างคุณ ยังมาเศร้าหมอง ทำกิจอะไร น้อค๊ะ

5555
คุณ Love j นี่เป้นตัวอย่าง คนที่ไม่เรียนพระปริยัติ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว
เรย มโน ไปเลอะเทอะว่า จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว

ก็ขอชม อีกที แระกันน๊ะค๊ะ เพราะอยากได้แต่คำชม สรรเสริญ rolleyes

โลกสวย

โลกสวย เขียน:

แค่อากาศ เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอามาให้ฟังกันอีกที น๊ะค๊ะ

Love j กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

ว่า

ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ""""""

แต่ๆๆๆๆ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

โอย...... ไม่รู้จะพูดยังไงดี กะคำกล่าวเลอะเทอะ ของคุณ Love j
จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว แล้วสัตว์บริสุทธิ์ อย่างคุณ ยังมาเศร้าหมอง ทำกิจอะไร น้อค๊ะ

5555
คุณ Love j นี่เป้นตัวอย่าง คนที่ไม่เรียนพระปริยัติ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว
เรย มโน ไปเลอะเทอะว่า จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว

ก็ขอชม อีกที แระกันน๊ะค๊ะ เพราะอยากได้แต่คำชม สรรเสริญ rolleyes

โอว....มานเป็น มโน สุดยอด มหามโน มั๊กๆๆ น้อค๊ะ rolleyes

ท่านเลิฟเจพูดถูกแล้ว

จิตผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คือ พุทโธ กิริยาจิตที่ถึงความเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม ผู้เข้าถึงจิตแห่งพุทธะย่อมรู้ได้ ความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

โดยความนี้เมื่อเห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม ก็พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้รู้

แม้จิตเดินเข้าสู่โคตรภูญาณ น้อมลงมรรคก็ดี น้อมไปหาผลก็ดี เพื่อตัดชำระล้างสำรอกออกซึ่งการเอาใจเข้ายึดครองสิ่งมั้งปวง ก็ชื่อว่า พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอม

ขออนุโมทนาท่านเจ ความแยบคายดีแล้วครับ

โอ้วว..... cry

ซาบซึ้งซะเนี่ยกระไร

จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ

เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

อย่างนี้ ก็ต้อง

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

โอว........

สุดยอด มหามโน อย่างแยบคาย ของคุณแค่อากาศ ซะจน ไม่มีใครสามารถจับได้

พระพุทธเจ้าบังเกิดแล้ว ถึงสองพระองค์ ในสมัยพระสมณโคดม

แซงหน้าพระศรีอาริยเมตไตรไป เรย

สงสัยอากาศร้อน ทำสติแตกไป หนนึงแร๊ว

คราวนี้ ไปอเวจี เรย

นี่แหละตัวอย่าง ของคนที่ไม่เรียนพระปริยัติ ไม่เรียนพระอภิธรรม
ไม่ศึกษาพระไตรปิฎก
เรยเขลาเบาปัญญา อย่างไม่รู้จะกล่าวเช่นไร จึงเหมาะสมน๊ะค๊ะ

tongue

ยกมาให้ดูอีกทีนะค๊ะ

ว่าคุณแค่อากาศ กะคุณ LOve J

สองแรงแถไถ พยายากลบเกลื่อน ความเห็นผิดของตัวเอง
ด้วยการ กลบ กระทู้ ที่ เม ตอบไปแล้ว และก้อ ยังกลับไป ไปแก้ไขข้อความตัวเอง อีก หลังจากที่ตอบไปแล้ว

ดีน๊ะ ที่บ๊อทของบอร์ด จับได้ ว่าแอบมาแก้ข้อความ
เรย ขึ้นตัวเขียวๆ ว่า แอบไปแก้อีกกี่ครั้ง
และก้อดีน๊ะ ที่เม อ้างอิงเอาไว้

ปลาสองตัว สองแรงแถไถ กำลังแถน้ำตื้นๆๆ กำลังจะตาย

rolleyes

อย่างนี้ เม ต้องชม ต้องช่วยเชียร์หน่อยแระ ว่าความพยายามดีเลิศ เอาใจช่วยน๊ะค๊ะ

คริคริ

โลกสวย

ตอบให้ฟังอีกครั้งน๊ะค๊ะ

ก่อนที่คุณๆ จะแอบไปแก้ไขข้อความ ที่คุณ แสดงไว้ อีกไม่รู้กี่รอบ ?
สำหรับความเห็นคุณ เม ได้อ้างอิงไว้แระ

ขี้เกียจจะกลับไปตอบ ที่คุณแอบไปแก้ข้อความน๊ะค๊ะ เดี๋ยวแก้ เดี๋ยวแก้ เดี๋ยวแก้ ๆ

อ้วว..... cry

ซาบซึ้งซะเนี่ยกระไร

จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ

เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

อย่างนี้ ก็ต้อง

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

โอว........

สุดยอด มหามโน อย่างแยบคาย ของคุณแค่อากาศ ซะจน ไม่มีใครสามารถจับได้

พระพุทธเจ้าบังเกิดแล้ว ถึงสองพระองค์ ในสมัยพระสมณโคดม

แซงหน้าพระศรีอาริยเมตไตรไป เรย

สงสัยอากาศร้อน ทำสติแตกไป หนนึงแร๊ว

คราวนี้ ไปอเวจี เรย

นี่แหละตัวอย่าง ของคนที่ไม่เรียนพระปริยัติ ไม่เรียนพระอภิธรรม
ไม่ศึกษาพระไตรปิฎก
เรยเขลาเบาปัญญา อย่างไม่รู้จะกล่าวเช่นไร จึงเหมาะสมน๊ะค๊ะ

tongue

โลกสวย

ถามสั้นๆแค่นั้นแหล่ะ

ว่า จิตพุทธะ พุทโธ ที่คุณกล่าวอ้างว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่ คุณเอามาใช้น่ะ

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

หรือเปล่า?

ถ้าไม่มีทศพลญาน เป็นจิตพุทธะ พุทโธ จริงๆๆ หราจ๊ะ ?

และเมื่อคุณสำเร็จอรหันต์แล้ว คุณยังมีจิตพุทโธ พุทธะ ที่ประกอบด้วยทศพลญาณ ได้หราจ๊ะ ?

Love J.

โลกสวย เขียน:

แค่อากาศ เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอามาให้ฟังกันอีกที น๊ะค๊ะ

Love j กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

ว่า

ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ""""""

แต่ๆๆๆๆ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

โอย...... ไม่รู้จะพูดยังไงดี กะคำกล่าวเลอะเทอะ ของคุณ Love j
จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว แล้วสัตว์บริสุทธิ์ อย่างคุณ ยังมาเศร้าหมอง ทำกิจอะไร น้อค๊ะ

5555
คุณ Love j นี่เป้นตัวอย่าง คนที่ไม่เรียนพระปริยัติ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว
เรย มโน ไปเลอะเทอะว่า จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว

ก็ขอชม อีกที แระกันน๊ะค๊ะ เพราะอยากได้แต่คำชม สรรเสริญ rolleyes

โอว....มานเป็น มโน สุดยอด มหามโน มั๊กๆๆ น้อค๊ะ rolleyes

ท่านเลิฟเจพูดถูกแล้ว

จิตผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คือ พุทโธ กิริยาจิตที่ถึงความเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม ผู้เข้าถึงจิตแห่งพุทธะย่อมรู้ได้ ความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

โดยความนี้เมื่อเห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม ก็พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้รู้

แม้จิตเดินเข้าสู่โคตรภูญาณ น้อมลงมรรคก็ดี น้อมไปหาผลก็ดี เพื่อตัดชำระล้างสำรอกออกซึ่งการเอาใจเข้ายึดครองสิ่งมั้งปวง ก็ชื่อว่า พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอม

ขออนุโมทนาท่านเจ ความแยบคายดีแล้วครับ

โอ้วว..... cry

ซาบซึ้งซะเนี่ยกระไร

จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ

เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

อย่างนี้ ก็ต้อง

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

โอว........

สุดยอด มหามโน อย่างแยบคาย ของคุณแค่อากาศ ซะจน ไม่มีใครสามารถจับได้

พระพุทธเจ้าบังเกิดแล้ว ถึงสองพระองค์ ในสมัยพระสมณโคดม

แซงหน้าพระศรีอาริยเมตไตรไป เรย

สงสัยอากาศร้อน ทำสติแตกไป หนนึงแร๊ว

คราวนี้ ไปอเวจี เรย

นี่แหละตัวอย่าง ของคนที่ไม่เรียนพระปริยัติ ไม่เรียนพระอภิธรรม
ไม่ศึกษาพระไตรปิฎก
เรยเขลาเบาปัญญา อย่างไม่รู้จะกล่าวเช่นไร จึงเหมาะสมน๊ะค๊ะ

tongue

ยกมาให้ดูอีกทีนะค๊ะ

ว่าคุณแค่อากาศ กะคุณ LOve J

สองแรงแถไถ พยายากลบเกลื่อน ความเห็นผิดของตัวเอง
ด้วยการ กลบ กระทู้ ที่ เม ตอบไปแล้ว และก้อ ยังกลับไป ไปแก้ไขข้อความตัวเอง อีก หลังจากที่ตอบไปแล้ว

ดีน๊ะ ที่บ๊อทของบอร์ด จับได้ ว่าแอบมาแก้ข้อความ
เรย ขึ้นตัวเขียวๆ ว่า แอบไปแก้อีกกี่ครั้ง
และก้อดีน๊ะ ที่เม อ้างอิงเอาไว้

ปลาสองตัว สองแรงแถไถ กำลังแถน้ำตื้นๆๆ กำลังจะตาย

rolleyes

อย่างนี้ เม ต้องชม ต้องช่วยเชียร์หน่อยแระ ว่าความพยายามดีเลิศ เอาใจช่วยน๊ะค๊ะ

คริคริ

โลกสวย : สองแรงแถไถ พยายากลบเกลื่อน ความเห็นผิดของตัวเองด้วยการ กลบ กระทู้ ที่ เม ตอบไปแล้ว และก้อ ยังกลับไป ไปแก้ไขข้อความตัวเอง อีก หลังจากที่ตอบไปแล้ว
Love j. : ผมแก้คำผิด เพิมเติมที่ตกหล่นเพราะไม่อยากเปลืองหน้ากระดานไหม่ แล้วการแก้ไขข้อความมันผิดตรงไหนครับ กลบข้อความอะไรอันไหนข้ามไปผมไม่ได้ตอบ ยกมาโพสไหม่โจทย์มาเป็นข้อ ๆ หากจะปรามาสผม ผมชอบตอบ

โลกสวย : ดีน๊ะ ที่บ๊อทของบอร์ด จับได้ ว่าแอบมาแก้ข้อความเรย ขึ้นตัวเขียวๆ ว่า แอบไปแก้อีกกี่ครั้งและก้อดีน๊ะ ที่เม อ้างอิงเอาไว้
Love j : บอทจับได้อะไร ผมไม่ได้ปกปิดอะไรผมรู้ว่ามันแจ้งเตือนการแก้ไข แม้ผมพูดผิดกล่าวผิดจริงแล้วผมแก้ไข การแก้ไขมันผิด ต้องปกปิด น่าอายตรงไหนครับ

โลกสวย : ปลาสองตัว สองแรงแถไถ กำลังแถน้ำตื้นๆๆ กำลังจะตาย
Love : แถ ดิ้น แถน้ำตื้น ๆ กำลังจะตายเป็นแบบไหน เบี่ยงเบนประเด็น เลี่ยงสิ่งที่ตนเองพูดผิด ไม่ตอบชี้เเจ้งคำพูดตนเองโดยดี เอาเรื่องที่ไม่ใช่สาระประเด็นมากลบเกลื่อนแบบนี้รึเปล่าครับ แบบนั้นคุณนั่นแหละที่กำลังแถ ไม่ใช่
Love : ผม ๆ ชี้แจงคำพูดผมได้เพราะผมแม้ผิดจริงผมก็ยอมรับคำตำหนิติเตียนได้ ไม่จำเป็นต้องดิ้น ไม่เคยประกาศตนว่าเก่ง ฉลาด ไม่เคยไปข่มใครว่าไม่ฉลาด มีปัญญาน้อย ปัญญากะจิดริด ปัญญาตื้นเขิน เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่า มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่กล่าววาจาเหล่านั้น

โลกสวย

ถามสั้นๆแค่นั้นแหล่ะ

ว่า จิตพุทธะ พุทโธ ที่คุณกล่าวอ้างว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่ คุณเอามาใช้น่ะ

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

หรือเปล่า?

ถ้าไม่มีทศพลญาน เป็นจิตพุทธะ พุทโธ จริงๆๆ หราจ๊ะ ?

และเมื่อคุณสำเร็จอรหันต์แล้ว คุณยังมีจิตพุทโธ พุทธะ ที่ประกอบด้วยทศพลญาณ ได้หราจ๊ะ ?

และถามเพิ่มอีกข้อว่า คุณเป็นพระพุทธเจ้าแล้วใช่มั๊ย จึงมีจิตพุทธะ พุทโธ ที่ประกอบด้วยอาสาธารณญาฯ 6
ที่พระสาวก พระอรหันต์ไม่มี หราจ๊ะ ?

โลกสวย

Love J. เขียน:

โลกสวย เขียน:

แค่อากาศ เขียน:

โลกสวย เขียน:

เอามาให้ฟังกันอีกที น๊ะค๊ะ

Love j กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

ว่า

ใช้บริกรรมพุทโธชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิผ่องแผ้ว จิตใจบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
แล้วก็อาศัยจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วนั้นพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ พิจารณา
เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีสติ สัมปชัญญะกำจัด
อภิชชาโทรมนัสในโลกได้ >>> สัมมาสติ""""""

แต่ๆๆๆๆ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต
เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว"

โอย...... ไม่รู้จะพูดยังไงดี กะคำกล่าวเลอะเทอะ ของคุณ Love j
จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว แล้วสัตว์บริสุทธิ์ อย่างคุณ ยังมาเศร้าหมอง ทำกิจอะไร น้อค๊ะ

5555
คุณ Love j นี่เป้นตัวอย่าง คนที่ไม่เรียนพระปริยัติ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ดีแล้ว
เรย มโน ไปเลอะเทอะว่า จิตบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว

ก็ขอชม อีกที แระกันน๊ะค๊ะ เพราะอยากได้แต่คำชม สรรเสริญ rolleyes

โอว....มานเป็น มโน สุดยอด มหามโน มั๊กๆๆ น้อค๊ะ rolleyes

ท่านเลิฟเจพูดถูกแล้ว

จิตผ่องแผ้วบริสุทธิ์ คือ พุทโธ กิริยาจิตที่ถึงความเบิกบานพ้นจากสมมติกิเลสของปลอม ผู้เข้าถึงจิตแห่งพุทธะย่อมรู้ได้ ความบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

โดยความนี้เมื่อเห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต เห็นธรรมในธรรม ก็พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้รู้

แม้จิตเดินเข้าสู่โคตรภูญาณ น้อมลงมรรคก็ดี น้อมไปหาผลก็ดี เพื่อตัดชำระล้างสำรอกออกซึ่งการเอาใจเข้ายึดครองสิ่งมั้งปวง ก็ชื่อว่า พุทโธ คือ กิริยาจิตที่ถึงความเป็นผู้ตื่นจากสมมติกิเลสของปลอม

ขออนุโมทนาท่านเจ ความแยบคายดีแล้วครับ

โอ้วว..... cry

ซาบซึ้งซะเนี่ยกระไร

จิตพุทโธ เป็นผู้เข้าถึง พุทธะ

เป็น ผุ้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิงด้วยปัญญาตามพระศาสดานั้น

อย่างนี้ ก็ต้อง

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

โอว........

สุดยอด มหามโน อย่างแยบคาย ของคุณแค่อากาศ ซะจน ไม่มีใครสามารถจับได้

พระพุทธเจ้าบังเกิดแล้ว ถึงสองพระองค์ ในสมัยพระสมณโคดม

แซงหน้าพระศรีอาริยเมตไตรไป เรย

สงสัยอากาศร้อน ทำสติแตกไป หนนึงแร๊ว

คราวนี้ ไปอเวจี เรย

นี่แหละตัวอย่าง ของคนที่ไม่เรียนพระปริยัติ ไม่เรียนพระอภิธรรม
ไม่ศึกษาพระไตรปิฎก
เรยเขลาเบาปัญญา อย่างไม่รู้จะกล่าวเช่นไร จึงเหมาะสมน๊ะค๊ะ

tongue

ยกมาให้ดูอีกทีนะค๊ะ

ว่าคุณแค่อากาศ กะคุณ LOve J

สองแรงแถไถ พยายากลบเกลื่อน ความเห็นผิดของตัวเอง
ด้วยการ กลบ กระทู้ ที่ เม ตอบไปแล้ว และก้อ ยังกลับไป ไปแก้ไขข้อความตัวเอง อีก หลังจากที่ตอบไปแล้ว

ดีน๊ะ ที่บ๊อทของบอร์ด จับได้ ว่าแอบมาแก้ข้อความ
เรย ขึ้นตัวเขียวๆ ว่า แอบไปแก้อีกกี่ครั้ง
และก้อดีน๊ะ ที่เม อ้างอิงเอาไว้

ปลาสองตัว สองแรงแถไถ กำลังแถน้ำตื้นๆๆ กำลังจะตาย

rolleyes

อย่างนี้ เม ต้องชม ต้องช่วยเชียร์หน่อยแระ ว่าความพยายามดีเลิศ เอาใจช่วยน๊ะค๊ะ

คริคริ

โลกสวย : สองแรงแถไถ พยายากลบเกลื่อน ความเห็นผิดของตัวเองด้วยการ กลบ กระทู้ ที่ เม ตอบไปแล้ว และก้อ ยังกลับไป ไปแก้ไขข้อความตัวเอง อีก หลังจากที่ตอบไปแล้ว
Love j. : ผมแก้คำผิด เพิมเติมที่ตกหล่นเพราะไม่อยากเปลืองหน้ากระดานไหม่ แล้วการแก้ไขข้อความมันผิดตรงไหนครับ กลบข้อความอะไรอันไหนข้ามไปผมไม่ได้ตอบ ยกมาโพสไหม่โจทย์มาเป็นข้อ ๆ หากจะปรามาสผม ผมชอบตอบ

โลกสวย : ดีน๊ะ ที่บ๊อทของบอร์ด จับได้ ว่าแอบมาแก้ข้อความเรย ขึ้นตัวเขียวๆ ว่า แอบไปแก้อีกกี่ครั้งและก้อดีน๊ะ ที่เม อ้างอิงเอาไว้
Love j : บอทจับได้อะไร ผมไม่ได้ปกปิดอะไรผมรู้ว่ามันแจ้งเตือนการแก้ไข แม้ผมพูดผิดกล่าวผิดจริงแล้วผมแก้ไข การแก้ไขมันผิด ต้องปกปิด น่าอายตรงไหนครับ

โลกสวย : ปลาสองตัว สองแรงแถไถ กำลังแถน้ำตื้นๆๆ กำลังจะตาย
Love : แถ ดิ้น แถน้ำตื้น ๆ กำลังจะตายเป็นแบบไหน เบี่ยงเบนประเด็น เลี่ยงสิ่งที่ตนเองพูดผิด ไม่ตอบชี้เเจ้งคำพูดตนเองโดยดี เอาเรื่องที่ไม่ใช่สาระประเด็นมากลบเกลื่อนแบบนี้รึเปล่าครับ แบบนั้นคุณนั่นแหละที่กำลังแถ ไม่ใช่
Love : ผม ๆ ชี้แจงคำพูดผมได้เพราะผมแม้ผิดจริงผมก็ยอมรับคำตำหนิติเตียนได้ ไม่จำเป็นต้องดิ้น ไม่เคยประกาศตนว่าเก่ง ฉลาด ไม่เคยไปข่มใครว่าไม่ฉลาด มีปัญญาน้อย ปัญญากะจิดริด ปัญญาตื้นเขิน เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่า มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่กล่าววาจาเหล่านั้น

คริคริ
กลับไปแก้ไข อะไรบ้างหราจ๊ะ ?
ตอบไปหลายวันแล้ว แอบกลับไปแก้ เพื่อให้ดูดีหราจ๊ะ ?

ยอดเยี่ยมๆๆ

โลกสวย

ถามสั้นๆแค่นั้นแหล่ะ

ว่า จิตพุทธะ พุทโธ ที่คุณกล่าวอ้างว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่ คุณเอามาใช้น่ะ

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

หรือเปล่า?

ถ้าไม่มีทศพลญาน เป็นจิตพุทธะ พุทโธ จริงๆๆ หราจ๊ะ ?

และเมื่อคุณสำเร็จอรหันต์แล้ว คุณยังมีจิตพุทโธ พุทธะ ที่ประกอบด้วยทศพลญาณ ได้หราจ๊ะ ?

และถามเพิ่มอีกข้อว่า คุณเป็นพระพุทธเจ้าแล้วใช่มั๊ย จึงมีจิตพุทธะ พุทโธ ที่ประกอบด้วยอาสาธารณญาฯ 6
ที่พระสาวก พระอรหันต์ไม่มี หราจ๊ะ ?

Love J.

โลกสวย เขียน:

ถามสั้นๆแค่นั้นแหล่ะ

ว่า จิตพุทธะ พุทโธ ที่คุณกล่าวอ้างว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ที่ คุณเอามาใช้น่ะ

ประกอบด้วยทศพลญาณ 10

โดยเฉพาะ อสาธารณญาณ 6 ที่มีเฉพาะสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ไม่มีในพระสาวกองค์ใดๆๆ ไม่มีในพระอรหันต์องค์ใดๆ

หรือเปล่า?

ถ้าไม่มีทศพลญาน เป็นจิตพุทธะ พุทโธ จริงๆๆ หราจ๊ะ ?

และเมื่อคุณสำเร็จอรหันต์แล้ว คุณยังมีจิตพุทโธ พุทธะ ที่ประกอบด้วยทศพลญาณ ได้หราจ๊ะ ?

และถามเพิ่มอีกข้อว่า คุณเป็นพระพุทธเจ้าแล้วใช่มั๊ย จึงมีจิตพุทธะ พุทโธ ที่ประกอบด้วยอาสาธารณญาฯ 6
ที่พระสาวก พระอรหันต์ไม่มี หราจ๊ะ ?

ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ เกี่ยวอะไร ใครกล่าวว่าพระสาวกพระอรหันต์มี ทศพลญาณ ๑๐ อสาธารญาณ ๖ ใครกล่าวว่าผมเป็นพระพุทธเจ้า

ผมกล่าวเรื่อง การบริกรรมพุทโธมีพุทโธเป็นเครื่องรู้ของจิต หรือ พุทธานุสติ มีพุทโธเป็นเครื่องระลึกของสติ เพื่ออบรมศีล สมาธิ ปัญญา ว่าเป็นการปฏิบัติชอบไม่ได้ผิดไปจากพระธรรมคำสอน

ไม่ได้ปฏิบัติผิด ตามที่คุณปรามาสโดยอ้างความเห็นของคุณที่ว่า ต้องศึกษาปริยัติศึกษาพระอภิธรรมจึงจะปฏิบัติถูกต้อง ปฏิบัติตรง

ปรามาสผู้ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมตำราว่าปฏิบัติผิด มีปัญญาน้อย ผมจึงอธิบายชี้แจงอิงอรรถ อิงธรรม อิงพระปริยัติ คุณแย้งไม่ได้ก็เบี่ยงประเด็น พูดคำที่ไม่เป็นความจริง พูดไม่ตรงตาปริยัติซะเองเพื่อปิดคำพูดผิด ๆ ของตนเอง

57242.อานาปานสติ กาย เวทนา จิต ธรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้