วันเวลาปัจจุบัน 18 พ.ค. 2025, 23:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 223 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 15  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 13:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้าวว ไหนใครก็ได้ ช่วยบอกรายละเอียดมหาภูตรูป 4 (ที่เรียกกันง่ายๆว่าธาตุ 4) คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม แต่ละอย่างที่ประกอบกันขึ้นเป็นกายหรือร่างกายโด่ๆนี่หน่อยดิ มีรางวัล :b36:

ตอบธาตุลม ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาไปแล้วง่ะ ไหนอ่ะรางวัลชมเชย :b12: ธาตุอื่นๆรอผู้รู้มาตอบก็ได้ม้าง :b9:


ยังไม่สมบูรณ์ ตอบให้หมด และตอบให้ครบ มหาภูตรูป 4 ว่าไปแต่ละอย่างๆอะไรบ้าง อ้าว ๆ ช่วยกัน :b32:

คุนน้องตอบแบบวิทยาศาสตร์โดยไม่อ้างอิงตำรานะค่ะ เพราะจะอธิบายจากการทำกายานุปัสนาของตน ว่าร่างกายเราทำไมถึงเป็นธาตุ4 คือศาสนาพุทธสามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ เราขาดธาตุใดธาตุนึงไปไม่ได้ ถ้าขาดธาตุใดไป เราก็ไม่มีชีวิต หรือ มหาภูตรูป4
ธาตุดิน สำหรับคุนน้องคือ ผิวหนัง เส้นเอ็น ตับไต ไส้พุง กระดูก หัวใจ สมอง เป็นต้น
ธาตุน้ำ สำหรับคุนน้องคือ เลือด ฝี หนอง สิ่งที่ถูกขับออกมาจากกายเราก็เป็นธาตุน้ำเช่น เหงื่อ ปัสสาวะ เป็นต้น ร่างกายเราไม่มีเลือดก็ตายอยู่ไม่ได้ แล้วร่างกายเราต้องมีน้ำไปหล่อเลี้ยงเพื่อให้เรามีชีวิตดำรงอยู่ ลองไม่กินน้ำ 3 วันก็ไม่น่าจะเหลือแล้วม้าง :b32: (นี่อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าร่างกายเราขาดน้ำไม่ได้)
ธาตุลม ขอ ผ่าน ตอบไปแล้ว :b32:
ธาตุไฟ หมายถึง อุนหภูมิในร่างกาย ปกติจะอยู่ 37องศา อุนหภูมิในกายเรา ถ้าน้อยกว่านั้นหรือมากกว่านั้นก็ผิดปกติ ร่างกายเราจะเย็นไปก็ไม่ได้ จะร้อนไปก็ไม่ได้ เด่วจะช็อคเข้าห้องไอซียู นี่คือธาตุไฟ หรือที่สัมผัสได้ว่ารู้สึกเย็นไปรู้สึกร้อนไป นี่คือ ธรรมชาติของกายเราค่ะ อธิบายคร่าวๆแค่นี้แหละ ถ้าไม่ใช่พี่กรัชกายสั่งคุนน้องไม่ตอบให้เสียเวลานะเนียะ :b12: อธิบายแบบนี้น่าจะเข้าใจกันได้ตั้งแต่ประถมถึงมหาลัยเนอะ คนไม่ได้เรียนธรรมมะจะได้เข้าใจด้วยไง :b12:
ผิดถูกก็พิจารณาเพิ่มเติมด้วยนะเจ้าค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้าวว ไหนใครก็ได้ ช่วยบอกรายละเอียดมหาภูตรูป 4 (ที่เรียกกันง่ายๆว่าธาตุ 4) คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม แต่ละอย่างที่ประกอบกันขึ้นเป็นกายหรือร่างกายโด่ๆนี่หน่อยดิ มีรางวัล :b36:

ตอบธาตุลม ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาไปแล้วง่ะ ไหนอ่ะรางวัลชมเชย :b12: ธาตุอื่นๆรอผู้รู้มาตอบก็ได้ม้าง :b9:


ยังไม่สมบูรณ์ ตอบให้หมด และตอบให้ครบ มหาภูตรูป 4 ว่าไปแต่ละอย่างๆอะไรบ้าง อ้าว ๆ ช่วยกัน :b32:

คุนน้องตอบแบบวิทยาศาสตร์โดยไม่อ้างอิงตำรานะค่ะ เพราะจะอธิบายจากการทำกายานุปัสนาของตน ว่าร่างกายเราทำไมถึงเป็นธาตุ4 คือศาสนาพุทธสามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ เราขาดธาตุใดธาตุนึงไปไม่ได้ ถ้าขาดธาตุใดไป เราก็ไม่มีชีวิต หรือ มหาภูตรูป4
ธาตุดิน สำหรับคุนน้องคือ ผิวหนัง เส้นเอ็น ตับไต ไส้พุง กระดูก หัวใจ สมอง เป็นต้น
ธาตุน้ำ สำหรับคุนน้องคือ เลือด ฝี หนอง สิ่งที่ถูกขับออกมาจากกายเราก็เป็นธาตุน้ำเช่น เหงื่อ ปัสสาวะ เป็นต้น ร่างกายเราไม่มีเลือดก็ตายอยู่ไม่ได้ แล้วร่างกายเราต้องมีน้ำไปหล่อเลี้ยงเพื่อให้เรามีชีวิตดำรงอยู่ ลองไม่กินน้ำ 3 วันก็ไม่น่าจะเหลือแล้วม้าง :b32: (นี่อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าร่างกายเราขาดน้ำไม่ได้)
ธาตุลม ขอ ผ่าน ตอบไปแล้ว :b32:
ธาตุไฟ หมายถึง อุนหภูมิในร่างกาย ปกติจะอยู่ 37องศา อุนหภูมิในกายเรา ถ้าน้อยกว่านั้นหรือมากกว่านั้นก็ผิดปกติ ร่างกายเราจะเย็นไปก็ไม่ได้ จะร้อนไปก็ไม่ได้ เด่วจะช็อคเข้าห้องไอซียู นี่คือธาตุไฟ หรือที่สัมผัสได้ว่ารู้สึกเย็นไปรู้สึกร้อนไป นี่คือ ธรรมชาติของกายเราค่ะ อธิบายคร่าวๆแค่นี้แหละ ถ้าไม่ใช่พี่กรัชกายสั่งคุนน้องไม่ตอบให้เสียเวลานะเนียะ :b12: อธิบายแบบนี้น่าจะเข้าใจกันได้ตั้งแต่ประถมถึงมหาลัยเนอะ คนไม่ได้เรียนธรรมมะจะได้เข้าใจด้วยไง :b12:
ผิดถูกก็พิจารณาเพิ่มเติมด้วยนะเจ้าค่ะ :b8:


พอฟังได้ พอมองเห็นแนวน่ะ :b1:

แต่ถ้าจะคิดตามหลักปรมัตถ์ ต้องไม่มีคำว่า กายเรา (แต่เข้าใจสมมติแล้วพูดได้) เพราะมันเป็นธรรมชาติ ที่เห็นๆโด่ๆเนี่ย ว่าโดยปรมัตถ์คือธรรมชาติ ภาษาทางธรรมเรียก รูป (อย่าเพี่งแยกเป็นรูปยี่แปดยี่เก้าอะไรนะเดี๋ยววุ่นอีก) แต่คนยึดติดที่เขาสมมุติชือเรียกธรรมชาติก้อนนี้ เช่น เขา สมมุติว่า นาย ก. นาย ข. น้องนางสาวอุบลคนบ้านนอก นายกรัชกายรูปงาม :b32: ....ก็โกรธ...ยินดีพอใจ นี่ยึดมั่นถือมั่นในสมมุติแล้ว มองไม่ทะลุถึงปรมัตถ์ มันซ้อนกันอยู่

เข้าใจสมมุติเข้าใจปรมัตถ์แล้ว ก็ไม่ต้องไปไหนหรอก อยู่ที่เดิมนั่นแหละ บ้านเก่าบ้านใหม่อย่างที่ลุงหมานพูดนั่นก็ไม่ต้อง ไม่ต้องพูดถึง เข้าใจสะแล้วก็อยู่กับมันนี่แหละ จะดิ้นรนไปไหนกันหรอ ที่ดิ้นนั่นแสดงว่าไม่เข้าใจธรรมะ (ธรรมชาติ) ไม่เข้าใจสมมุติ หรือจะเถียง :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 15:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มหาภูตรูป - รูปใหญ่ รูปที่เป็นหลักเป็นแกน (เรียกง่ายๆว่า ธาตุ 4)

ธาตุ 4 คือ ธาตุดิน เรียกปฐวีธาตุ

ธาตุน้ำ เรียกอาโปธาตุ

ธาตุไฟเรียกเตโชธาตุ

ธาตุลม เรียกวาโยธาตุ


ธาตุอันใดมีลักษณะแข้นแข็ง ธาตุนั้นเป็นปฐวีธาตุ ปฐวีธาตุนั้น ที่เป็นภายใน คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดู ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า


ธาตุอันใดมีลักษณะเอิบอาบ ธาตุนั้นเป็นอาโปธาตุ อาโปธาตุนั้น ที่เป็นภายใน คือ ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร


ธาตุอันใดมีลักษณะร้อน ธาตุนั้นเป็นเตโชธาตุ เตโชธาตุนั้น ที่เป็นภายใน คือ ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย ไฟที่เผาอาหารให้ย่อย


ธาตุอันใดมีลักษณะพัดไปมา ธาตุนั้นเป็นวาโยธาตุ วาโยธาตุนั้น ที่เป็นภายใน คือ ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมพัดไปตามตัว ลมหายใจ

ความกำหนดพิจารณากายนี้ ให้เห็นว่าเป็นแต่เพียงธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประชุมกันอยู่ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา



อุปาทายรูป คือ รูปที่อาศัยหรือรูปที่สืบเนื่องมาจากมหาภูรูป มี 24

จะไม่แจกแจงรายละเอียดเดี๋ยวหลงกันไปใหญ่ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 16:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


น้ำฝน เป็นธาตุอะไรครับ ท่านกรัชกาย

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ธาตุทั้ง ๔ หรือมหาภูตรูปทั้ง ๔ อันได้แก่ ปฐวี อาโป เตโช วาโย นี้เป็น สหชาตธรรม เป็นธรรมที่เกิดพร้อมกันเกิดร่วมกัน กล่าวคือไม่ว่าจะปรากฏ ณ ที่ ใด จะต้องปรากฏ ณ ที่นั้นครบทั้งคณะ คือทั้ง ๔ ธาตุเสมอ เป็นนิจและแน่นอน ต่างกันแต่เพียงว่า อาจจะมีธาตุใดธาตุหนึ่งยิ่งและหย่อนกว่ากันเท่านั้น จะขาดธาตุ ใด ธาตุหนึ่งใน ๔ ธาตุนี้ไปแม้แต่เพียงธาตุเดียว เป็นไม่มีเลย


ทำให้รู้กันชัดๆ ว่า ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เอ็น กระดูก
หนักไปทาง ปฐวี แต่ ก็ประกอบด้วยรูปอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน และที่ขาดไม่ได้ คือ น้ำ ไฟ ลม

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
อวินิพโภครูป แปลว่า รูปที่แยกออกจากกันไม่ได้ องค์ธรรมได้แก่ ปฐวี อาโป เตโช วาโย วัณณะ คันธะ รสะ และโอชา (คืออาหารรูป) รวม ๘ รูป

อวินิพโภครูป เป็นรูปที่แยกออกจากกันไม่ได้ หมายความว่าในบรรดารูป ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่ว่ารูปหนึ่งรูปใดก็ตาม รูปนั้นอย่างน้อยต้องมีอวินิพโภครูป ทั้ง ๘ อยู่เสมออย่างแน่นอน ขึ้นชื่อว่ารูปแล้ว จะมีรูปธรรมน้อยกว่า ๘ รูป ที่มีชื่อว่า อวินิพโภครูปนี้ไม่มีเลย จะต้องเกิดร่วมกัน อยู่ด้วยกันทั้ง ๘ นี้ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ จะแตกแยกต่างรูปต่างเกิด ต่างรูป ต่างอยู่เป็นไม่มีเลย ดังนั้นจึงว่า เป็นรูปที่แตกแยกกันไม่ได้


สรุป กันอีกที

ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เอ็น กระดูก อย่างน้อย ก็มีส่วนประกอบ 8 รูป ขึ้นไป
คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา ......................แต่หนักไปทาง ดิน

น้ำฝน ...................... อย่างน้อย ก็มีส่วนประกอบ 8 รูป ขึ้นไป
คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา .................. แต่หนักไปทาง น้ำ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2013, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
น้ำฝน เป็นธาตุอะไรครับ ท่านกรัชกาย



เขาพูดถึงธาตุน้ำ ซึ่งเป็นธาตุ 1 ใน 4 ซึ่งประกอบกันเป็นคนหรือมนุษย์ หรือรูปกาย แต่ท่านโกวิท ถามน้ำฝน คิดยังงี้แล้วเมือไรจะเข้าใจชีวิตล่ะ :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 03:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
ถกธรรมกันเหมือนกับคุนหมอผุ้เชียวชาญ :b9: ที่ทำแบบแผนการสอนนักศึกษา ว่าร่างกายมนุษย์มีอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง แล้วก็ลงมือชำแหละ ตับ ไต ไส้ หัวใจ ปอด wink อยุ่บริเวณไหน ตรงนั้นสมอง ตรงนี้ชีพจร ตรงนี้เส้นเลือดใหญ่ ตรงนี้ทัดดอกไม้ :b32: :b32: โดยเฉพาะบริเวณทัดดอกไม้ ถ้าโดนกระทบกระเทือนรุนแรงอาจจะทำให้สลบหมดสติหรืออาจเสียชีวิตได้ :b14:



ขำ ทัดดอกไม้นั่นแหละธาตุดิน ทำไปทำมาพวกเราคิดไปไกลจากธรรมะมากๆ ถึงว่า กายานุปัสสนาไม่เข้าใจ รูปารมณ์ก็ไม่เข้าใจ คิกๆ คือท่านยักเรียกยังเยื้องศัพท์หน่อยงงเป็นไก่ตาแตก

เจริญธรรม :b1:


ตลกกับอาการของกรัชกายจริงๆ เที่ยวได้ไปนั่งขำชาวบ้าน
ที่ยัยน้องเขาพูด ไม่มีอะไรน่าขำดันมานั่งขำ แบบนี้เขาเรียก เล่นของจนรั่ว

ทำมาพูด.."ยักเยื้องศัพท์" กรัชกายเล่นไม่เลิก สอนเท่าไรไม่จำ บอกว่าอย่าไปจ้ำจี้กับคำศัพท์
หมั่นมีสมาธิกับธรรมที่อยู่ตรงหน้า นี่มาอีกแล่ะ เห็นคำศัพท์ไม่ได้รีบตารีตาลานเปิดพจนานุกรม
มันไม่ได้มีสมาธิในการอ่านความเห็นคนอื่นเลยสักนิด :b32:

แหม่! เว้ามาแต่ล่ะคำ กายานุปัสนาเอย รูปารมณ์เอย ดีแต่พูดจริงๆ

กรัชกายมาฟังพี่โฮจะสอนสั่ง คำพูดพูดของยัยที่ว่า....
"ทัดดอกไม้ ถ้าโดนกระทบกระเทือนรุนแรงอาจจะทำให้สลบหมดสติหรืออาจเสียชีวิตได้"


ถามหน่อยที่บอกว่า"ทัดดอกไม้คือธาตุดิน คิดก่อนตอบหรือเปล่า หรือมัวเปิดพจนานุกรมเลยลืมคิด
พี่โฮจะบอกให้ว่า ที่ยัยน้องเขาพูด จับใจความทั้งประโยค .........
ทัดดอกไม้....คือชีวิตินทรีย์



ร่างกายของคนเรา มันมีธาตุทั้งสี่ผสมปนกันไปทั่วร่างกาย จะมาบอกส่วนหนึ่งส่วนใด
เป็นธาตุโน้น ธาตุนี้ไม่ได้

ที่สำคัญการกล่าวถึงมหาภูติรูปสี่ถ้าไม่ได้เน้นลงไปว่าเป็นรูปปรมัตถ์
จะมาบอกว่า มหาภูติรูปสี่เป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่ได้
เพราะในมหาภูติรูปสี่ ไม่ได้มีเพียงธาตุสี่แต่ยังมีธาตุรู้อีกหนึ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 03:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
govit2552 เขียน:
น้ำฝน เป็นธาตุอะไรครับ ท่านกรัชกาย



เขาพูดถึงธาตุน้ำ ซึ่งเป็นธาตุ 1 ใน 4 ซึ่งประกอบกันเป็นคนหรือมนุษย์ หรือรูปกาย แต่ท่านโกวิท ถามน้ำฝน คิดยังงี้แล้วเมือไรจะเข้าใจชีวิตล่ะ :b9:

กรัชกายไม่ต้องไปว่าเขา มันก็พอกันนั้นแหละ :b32:
มัวแต่ท่องจำคำศัพท์อย่างเดียว ไร้สติขาดสมาธิ

บอกว่า ธาตุน้ำเป็น1ใน4ซึ่งประกอบกันเป็นคนหรือมนุษย์
ถามหน่อยที่บอกว่า..1ใน4 แสดงว่ามีแค่ธาตุสี่ธาตุที่ประกอบเป็นคนหรือมนุษย์

ถ้าสิ่งที่กรัชกายบอกมีแค่สี่ธาตุ เขาไม่เรียกว่าคนหรือมนุษย์
แต่เขาเรียก............
ซากศพ :b9:

ชอบเอาคำศัพท์หลวงพ่อปยุตมาอวด แต่ดันเอามาแต่คำศัพท์
ไม่เอาสติปัญญาของท่านมาด้วย :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 06:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8564


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เหมือนหลายคนในนี้ เห็นธรรมใดธรรมหนึ่งอยากรู้แทนที่จะไปหาเหตุหรือหาธรรมตัวอื่น
ที่เป็นเหตุให้เกิดธรรตัวดังว่า ดันไปหาคำแปล หาคำศัพท์แบบนี้มันก็วนอยู่ในอ่างนั้นแหล่ะ


บานจนหุบไม่ลง คือ กายหรือรูปก็เห็นอยู่โด่ๆ แต่พวกเราชาวพุด (บางส่วน) ไปศึกษาที่ท่านจำแนกแจกแจงละเอียดออกไปๆ เช่น จำแนกออกเป็นรูป 28 เจตสิกสิก 52 จิต 89 หุบกลับมาที่เดิมคือที่กายกับใจไม่ได้ (จิตใจเอาไว้ก่อนเกินสามารถแล้วแบบนี้) เอาแค่ร่างกาย หรือกาย หรือรูป นี่ก็กู่ไม่กลับแล้ว

นี่นะถ้าไปศึกษาที่ท่านจำแนกแจกแจงชีวิตหรือกายกับใจละเอียดยิบๆ เข่น จำแนกโดยความเป็น ขันธ์ 5 (ยังจำแนกออกได้อีก) อายตนะ 12 ธาตุ 18 อินทรีย์ 22 น่าจะเตลิดเปิดเปิงไปสุดชีวิตกระมัง :b1: ไม่ไหวจะเคลีย :b32:

กรัชกาย เขียน:
ชีวิตมันก็ดำเนินไปตามธรรมชาติของมัน อวัยวะน้อยใหญ่ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ก็ทำงานไปตามหน้าที่ของมัน ไม่มีใครที่ไหนไปทำหน้าที่แทนมัน แต่คนไปคิดจัดการมันจนเละเทะยับเยืนไปหมด คิกๆๆ

ต้องการอะไรกัน ? ตอบ เพื่อต้องการรู้ธรรม แต่เปล่า ไม่ใช่การรู้ธรรม แต่ล่วงเลยธรรม ฟุ้งซ่านธรรม :b9:


มีความคิดอย่างนี้ แสดงว่ายังห่วงบ้านเก่า



มีบ้านเก่า แสดงว่าต้องมีบ้านใหม่ เหมือนกับมีบ้านเหนือ ก็ต้องมีบ้านใต้ คิกๆๆ

ถามลุงหมาน บ้านเก่าดังว่า ได้แก่อะไร? :b10:


นรกครับ !

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 06:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8564


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
น้ำฝน เป็นธาตุอะไรครับ ท่านกรัชกาย


ฝน ก็มีธาตุ ๔
บางธาตุปรากฎชัด บางธาตุไม่ปรากฎชัด
ฝน เป็นธาตุดิน ปรากฎชัด เช่น ฝนตกมาโดนตัวเราจะมีความรู้สึกเจ็บ ที่เจ็บเพราะความแข็ง (แข็งและอ่อนเป็นธาตุดิน)
ฝน เป็นธาตุน้ำ ปรากฏชัดได้ทางใจ (ไหล เกาะกุม เอิบอาบ) น้ำไม่สามารถสัมผัสได้ทางกาย
ฝน เป็นธาตุไฟ ปรากฎชัด เช่น ฝนตกมาโดนตัวเราจะมีความรู้สึกเย็น (ร้อนและเย็นเป็นธาตุไฟ)
ฝนเป็นธาตุลม แต่ปรากฎไม่ชัดเจน เช่นว่าฝนตกมาโดนตัวเราพอมีความรู้สึก แต่ว่าไม่เจ็บ พอรู้ว่าตึงๆ (ไหว และเคร่งตึง เป็นธาตุลม)

ไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่า ถ้าไม่เข้าใจก็อ่านผ่านไปก็แล้วกัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถ้า น้ำฝน มีแค่ 4 ธาตุ แล้วลุงหมาน จะมองเห็น น้ำฝน ได้อย่างไรล่ะครับ ช่วยอธิบายหน่อย

อ้างคำพูด:
น้ำฝน ...................... อย่างน้อย ก็มีส่วนประกอบ 8 รูป ขึ้นไป
คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา .................. แต่หนักไปทาง น้ำ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 07:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8564


 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
ถ้า น้ำฝน มีแค่ 4 ธาตุ แล้วลุงหมาน จะมองเห็น น้ำฝน ได้อย่างไรล่ะครับ ช่วยอธิบายหน่อย


น้ำฝนเป็นคำบัญญัติขึ้นเรียก ฝนมองเห็นไม่ได้ด้วยตา ฝนเป็นธาตุน้ำ
น้ำฝนรู้ได้ด้วยใจ รู้ได้ทางใจ (ผ่านทางทวารตา)
ที่เราคิดว่าเราเห็นน้ำฝนได้นั้นไม่ใช่ ตาไม่สามารถเห็นน้ำฝนได้ ตาเขาเห็นได้แค่สีเท่านั้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
ตาเขาเห็นได้แค่สีเท่านั้น


ก็ในน้ำฝน มีวัณณะรูป(สี) ไง ลุงหมาน ถึงได้มองเห็น สี นั้น (ไม่งั้น จะเอาอะไรของน้ำฝนเป็นรูปารมณ์ กระทบทวารตา ล่ะครับ)
ส่วนที่รู้ว่า สีที่เห็นนั้นคือ น้ำฝน เป็นสิ่งที่ใจคิด
ส่วนที่รู้ว่า ในน้ำฝนนั้น ประกอบด้วย อวินิพโพครูปทั้งหลายนั้น ก็เพราะใจคิด เพราะเคยอ่านมา เลยจำเอาไว้ด้วยสัญญา

อ้างคำพูด:
มหาภูตรูป (รูปที่เป็นใหญ่เป็นประธาน) ๔ ได้แก่

ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) เป็นรูปที่อ่อนหรือแข็ง

อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ) เป็นรูปที่เอิบอาบหรือเกาะกุม

เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) เป็นรูปที่ร้อนหรือเย็น

วาโยธาตุ (ธาตุลม) เป็นรูปที่ไหวหรือตึง

มหาภูตรูป ๔ นี้ ต้องอาศัยกันเกิดขึ้น จึงแยกกันไม่ได้เลย และมหาภูตรูป ๔ นี้

เป็นปัจจัย โดยเป็นที่อาศัยเกิดของรูปอีก ๔ รูป ที่เกิดร่วมกับมหาภูตรูปในกลาป

เดียวกัน คือ อุปาทายรูป ๔ ได้แก่

วัณโณ (แสงสี) เป็นรูปที่ปรากฏทางตา

คันโธ ( กลิ่น) เป็นรูปที่ปรากฏทางจมูก

รโส (รส) เป็นรูปที่ปรากฏทางลิ้น

โอชา (อาหาร) เป็นรูปที่เป็นปัจจัยให้เกิดรูป

รูป ๘ นี้แยกกันไม่ได้เลย เป็นกลุ่มของรูปที่เล็กที่สุดที่เกิดพร้อมกันและดับพร้อมกัน

อย่างรวดเร็ว จะมีแต่มหาภูตรูป ๔ โดยไม่มี อุปาทายรูป (รูปที่อาศัยมหาภูตรูปเกิด)

๔ รูปนี้ไม่ได้เลย

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2013, 09:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
govit2552 เขียน:
น้ำฝน เป็นธาตุอะไรครับ ท่านกรัชกาย



เขาพูดถึงธาตุน้ำ ซึ่งเป็นธาตุ 1 ใน 4 ซึ่งประกอบกันเป็นคนหรือมนุษย์ หรือรูปกาย แต่ท่านโกวิท ถามน้ำฝน คิดยังงี้แล้วเมือไรจะเข้าใจชีวิตล่ะ :b9:

กรัชกายไม่ต้องไปว่าเขา มันก็พอกันนั้นแหละ :b32:
มัวแต่ท่องจำคำศัพท์อย่างเดียว ไร้สติขาดสมาธิ

บอกว่า ธาตุน้ำเป็น1ใน4ซึ่งประกอบกันเป็นคนหรือมนุษย์
ถามหน่อยที่บอกว่า..1ใน4 แสดงว่ามีแค่ธาตุสี่ธาตุที่ประกอบเป็นคนหรือมนุษย์

ถ้าสิ่งที่กรัชกายบอกมีแค่สี่ธาตุ เขาไม่เรียกว่าคนหรือมนุษย์
แต่เขาเรียก............
ซากศพ :b9:

ชอบเอาคำศัพท์หลวงพ่อปยุตมาอวด แต่ดันเอามาแต่คำศัพท์
ไม่เอาสติปัญญาของท่านมาด้วย :b6:

พี่โฮฮับจ๋า :b12: ว่าแต่ผู้อื่นจะของกะคือกันนั่นหละ :b32: :b32:
พี่ก็ขาดสมาธิตรงประโยค ถ้าสิ่งที่กรัชกายบอกมีแค่สี่ธาตุ เขาไม่เรียกว่าคนหรือมนุษย์
แต่เขาเรียก............
[/b]ซากศพ :b9:
พี่แน่ใจหรอว่า ซากศพ มันมี ธาตุทั้ง4 :b14: คุนน้องให้พี่กลับไปอ่านความเห็นเกี่ยวกับมหาภูติรูปสี่ ของคุนน้องใหม่เด้อ :b28:
พี่โฮฮับนี้ทำให้คุนน้องขำแต่เช้าเลย :b9:
สงสัยซากศพที่พี่โฮฮับเคยเจอ มีธาตุลม(หายใจได้เป็นปกติ ยุบหนอ พองหนอ :b32: )และอีกอย่างซากศพมีธาตุไฟ อุนภูมิในร่างกายโดยเฉลี่ย 37 องศาโดยปกติของร่างกายมนุษย์ :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย nongkong เมื่อ 27 พ.ค. 2013, 09:36, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 223 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 15  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร