วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 01:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ขณะจิต เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ปุจฉา : อนัตตา เป็นเช่นไรหนอ

ท่่านทั้งหลายช่วย วิสัชนา ให้ยิ่งๆขึ้นด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ


ที่อยากมีก็ไม่มี แต่บางทีก็มี

ที่ไม่อยากมีก็มี แต่บางทีก็ไม่มี

แล้วแต่เหตุปัจจัย ไม่แล้วแต่ใจ เฮ้อ ...เหนื่อย :b23:



เป็น อิทัป แฝงใน :b17:
แล้ว มี หรือ ไม่มี
แล้ว มีแล้วเป็นไง และ ไม่มีแล้วเป็นไง :b20:

เป็นเช่นนั้นเอง



:b1: ก็อย่างว่าเป็นตามเหตุ-ปัจจัย ไม่ตามใจ

ดูตอนก่อนมี ตอนกำลังมีอยู่ หลังมีแล้ว

ไม่ว่ามี(สมหวัง) หรือไม่มี(ผิดหวัง) ก็เหนื่อย ทุกข์ ไม่อาจบังคับเอาได้ :b31:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 19:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิต เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ขณะจิต เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ปุจฉา : อนัตตา เป็นเช่นไรหนอ

ท่่านทั้งหลายช่วย วิสัชนา ให้ยิ่งๆขึ้นด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ


ที่อยากมีก็ไม่มี แต่บางทีก็มี

ที่ไม่อยากมีก็มี แต่บางทีก็ไม่มี

แล้วแต่เหตุปัจจัย ไม่แล้วแต่ใจ เฮ้อ ...เหนื่อย :b23:



เป็น อิทัป แฝงใน :b17:
แล้ว มี หรือ ไม่มี
แล้ว มีแล้วเป็นไง และ ไม่มีแล้วเป็นไง :b20:

เป็นเช่นนั้นเอง



:b1: ก็อย่างว่าเป็นตามเหตุ-ปัจจัย ไม่ตามใจ

ดูตอนก่อนมี ตอนกำลังมีอยู่ หลังมีแล้ว

ไม่ว่ามี(สมหวัง) หรือไม่มี(ผิดหวัง) ก็เหนื่อย ทุกข์ ไม่อาจบังคับเอาได้ :b31:


แล้วขันธ์5 เป็น อนัตตา ไฉน เอ่ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2012, 23:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
แล้วขันธ์5 เป็น อนัตตา ไฉน เอ่ย
[/quote][/quote]


Kiss ขันธ์5=กาย+ใจ นี่แหละที่มันทุกข์มันกำลังเปลี่ยนแปลง บังคับเอาไม่ได้

เพราะมันเป็นไปตามกฎ ปกิจสมุปบาท-อิทัปปัจจยตา

(ปล่อยไปตามโลกก็เป็นไปฝ่ายทุกข์ ถ้าจะดับทุกข์ก็เอาความรู้มาแก้ที่นี่ ที่ปกิจจสมุปบาท-อิทัปปัจจยตา ฝ่ายดับทุกข์นี่ มันทุกข์มากเพราะมีตน(อัตตา) ถ้าเห็นว่ามีตนน้อยก็ทุกข์น้อย ถ้าหมดตนก็หมดทุกข์ วางภาระหมดแล้วอย่างพระท่านว่า) :b39:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2012, 05:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16:
:b12:
คุณฝึกจิตประมวลและสรุปความรู้เรื่อง "อนัตตา"มานำเสนอไว้ดีมากแล้วครับ
แต่ !.....ความรู้และเรื่องที่สรุปไว้ทั้งหมด หรือหลักทฤษฎีอันวิจิตรพิสดารทั้งหลายนั้น นั่นแหละคือสิ่งที่บัง"อนัตตา"ไว้ครับ
เปลื้องความเห็นความรู้ทั้งหมดลงกองไว้หน้าเบาะนั่งภาวนาแล้วนั่งลงสงบกายใจหลับตา ทีเหลือหลังจากนั้นให้ธรรมชาติในกายในใจเขาทำงานกันไปตามระบบทางธรรมชาติของเขา จนกว่ากระบวนการปรับสมดุลย์ของกาย ใจ หรือกายแลจิตเขาจะจบกระบวนการ เมื่อกาายและจิตปรับสมดุลย์ของตนเองได้สมดุลย์ดีแล้ว ปกติ ศีล ว่าง อนัตตา นิพพาน เขาก็อยู่ต่อถัดๆกันไปจากนั้นเองครับ

:b8:
:b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2012, 09:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 10:42
โพสต์: 249

แนวปฏิบัติ: ไม่เอา ไม่เป็น ไม่ยึด
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มของท่านพุทธทาส
อายุ: 32
ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: คุณasoka

.....................................................
วงว่างยงอยู่ยั้ง อนันตกาล
ในถิ่นที่ทุกสถาน แหล่งหล้า
ยึดมั่นไป่พบพาน ประจักษ์
ยามปล่อยหยุดไขว่คว้า ถึงได้โดยพลัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2012, 11:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปมิใช่ตัวตน. ก็หากว่ารูปนี้จักเป็นตัวตนแล้วไซร้ รูปนี้ ก็คงไม่เป็น
ไปเพื่ออาพาธ ทั้งยังจะได้ตามความปรารถนาในรูปว่า ขอรูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้
เป็นอย่างนั้นเลย.
ฯลฯ.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เวทนา มิใช่ตัวตน.ก็หากเวทนานี้ จักเป็นตัวตนแล้วไซร้ ก็คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ
ทั้งยังจะได้ตามความปรารถนาว่า ขอเวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย.
ฯลฯ.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัญญามิใช่ตัวตน. ก็หากสัญญานี้จักเป็นตัวตนแล้วไซร้ ก็คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งยังจะได้
ตามความปรารถนาในสัญญาว่า ขอสัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย.
ฯลฯ.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สังขารมิใช่ตัวตน. ก็หากสังขารนี้ จักเป็นตัวตนแล้วไซร้ ก็คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งยังจะได้
ตามความปรารถนาในสังขารว่า ขอสังขารของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย.
ฯลฯ.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
วิญญาณมิใช่ตัวตน ก็หากวิญญาณนี้ จักเป็นตัวตนแล้วไซร้ ก็คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งยังจะ
ได้ตามความปรารถนาในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้น
เลย.
ฯลฯ.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... agebreak=0

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2012, 11:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b16:
:b12:
คุณฝึกจิตประมวลและสรุปความรู้เรื่อง "อนัตตา"มานำเสนอไว้ดีมากแล้วครับ
แต่ !.....ความรู้และเรื่องที่สรุปไว้ทั้งหมด หรือหลักทฤษฎีอันวิจิตรพิสดารทั้งหลายนั้น นั่นแหละคือสิ่งที่บัง"อนัตตา"ไว้ครับ
เปลื้องความเห็นความรู้ทั้งหมดลงกองไว้หน้าเบาะนั่งภาวนาแล้วนั่งลงสงบกายใจหลับตา ทีเหลือหลังจากนั้นให้ธรรมชาติในกายในใจเขาทำงานกันไปตามระบบทางธรรมชาติของเขา จนกว่ากระบวนการปรับสมดุลย์ของกาย ใจ หรือกายแลจิตเขาจะจบกระบวนการ เมื่อกาายและจิตปรับสมดุลย์ของตนเองได้สมดุลย์ดีแล้ว ปกติ ศีล ว่าง อนัตตา นิพพาน เขาก็อยู่ต่อถัดๆกันไปจากนั้นเองครับ

:b8:
:b12: :b12: :b12:


ยึดความหมายที่เขียนกันนั้นแล บังความจริง จนเข้าไม่ถึง แต่ก็ยังต้องใช้ความหมายนั้นแลเพื่อเข้าถึง :b12:
นั่งหลับตาภาวนาอย่างเดียวแล้ว เห็นอนิจจตา จนได้ อมันตยตา ก็คงดีเนาะ ด้วยธรรมชาติเช่นไรละหนอ นานเท่าไดละหนอ :b16:
อนัตตา นั้นวิจิตรพิสดารนัก
เห็น อนัตตา สู่ความว่าง สูญญตา เห็นกริยา ที่ไม่มีผู้กระทำ ของใครละนี้ :b12:

หากไม่เห็น อนัตตา ให้ชัดเจน ก็อย่าวัง จะเห็น อิทัปยตา ได้ชัดเลย :b1:
สนทนาธรรม เป็นเส้นทางไปหน้าประตูจุดหมาย แต่จะเข้าไปได้ ก็แล้วแต่ใครจะมีกุญแจนั้น :b1:

แล้วจะเข้าใจ อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ. : ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน :b8:

เอาเท่ๆ ไม่รู้จะมีประโยชน์มั้ย
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตไม่เกิดดับ...ผมไม่เคย กล่าว พาโลโฮฮับอย่าออกตัวกล่าวตู่...นิสัยแบบ underground ให้มันมาก

วาทะดิ้นได้ไม่ตายตัว เยี่ยง โฮฮับ เช่นนี้ เลิกซะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 22:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b16:
:b12:
คุณฝึกจิตประมวลและสรุปความรู้เรื่อง "อนัตตา"มานำเสนอไว้ดีมากแล้วครับ
แต่ !.....ความรู้และเรื่องที่สรุปไว้ทั้งหมด หรือหลักทฤษฎีอันวิจิตรพิสดารทั้งหลายนั้น นั่นแหละคือสิ่งที่บัง"อนัตตา"ไว้ครับ
เปลื้องความเห็นความรู้ทั้งหมดลงกองไว้หน้าเบาะนั่งภาวนาแล้วนั่งลงสงบกายใจหลับตา ทีเหลือหลังจากนั้นให้ธรรมชาติในกายในใจเขาทำงานกันไปตามระบบทางธรรมชาติของเขา จนกว่ากระบวนการปรับสมดุลย์ของกาย ใจ หรือกายแลจิตเขาจะจบกระบวนการ เมื่อกาายและจิตปรับสมดุลย์ของตนเองได้สมดุลย์ดีแล้ว ปกติ ศีล ว่าง อนัตตา นิพพาน เขาก็อยู่ต่อถัดๆกันไปจากนั้นเองครับ

:b8:
:b12: :b12: :b12:


ของคนอื่นละ....ผิดหมด

แต่ของตนเกาะซะแน่น...ไม่ใช่บังแล้วละ...มันครอบซะมิดละไม่ว่า :b13:

ตกลง...เรามีอะไรให้ชำระมั้ย(ปกติ ศีล)...ไม่มีเราแล้วจะไปชำระอะไร.(วาง อนัตตา).. :b32:

นิพพาน...ก็ว่าง ๆ นั้นงั้ย... rolleyes

งั้นรึ..อโสกะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 22:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b16:
:b12:
คุณฝึกจิตประมวลและสรุปความรู้เรื่อง "อนัตตา"มานำเสนอไว้ดีมากแล้วครับ
แต่ !.....ความรู้และเรื่องที่สรุปไว้ทั้งหมด หรือหลักทฤษฎีอันวิจิตรพิสดารทั้งหลายนั้น นั่นแหละคือสิ่งที่บัง"อนัตตา"ไว้ครับ
เปลื้องความเห็นความรู้ทั้งหมดลงกองไว้หน้าเบาะนั่งภาวนาแล้วนั่งลงสงบกายใจหลับตา ทีเหลือหลังจากนั้นให้ธรรมชาติในกายในใจเขาทำงานกันไปตามระบบทางธรรมชาติของเขา จนกว่ากระบวนการปรับสมดุลย์ของกาย ใจ หรือกายแลจิตเขาจะจบกระบวนการ เมื่อกาายและจิตปรับสมดุลย์ของตนเองได้สมดุลย์ดีแล้ว ปกติ ศีล ว่าง อนัตตา นิพพาน เขาก็อยู่ต่อถัดๆกันไปจากนั้นเองครับ

:b8:
:b12: :b12: :b12:


ของคนอื่นละ....ผิดหมด

แต่ของตนเกาะซะแน่น...ไม่ใช่บังแล้วละ...มันครอบซะมิดละไม่ว่า :b13:

ตกลง...เรามีอะไรให้ชำระมั้ย(ปกติ ศีล)...ไม่มีเราแล้วจะไปชำระอะไร.(วาง อนัตตา).. :b32:

นิพพาน...ก็ว่าง ๆ นั้นงั้ย... rolleyes

งั้นรึ..อโสกะ



ข้ามมันให้ได้ท่านกบ เห็นกระแส มั้ย มันเอาอะไรมาให้ หรือไม่มี ผมคิดเอาเอง

ช่างมันเถอะ
ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 23:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่มี....

ใจสบายดี.....

เอ๊ะ....มีสบายดี..ด้วย...จะว่าไม่มีก็คงไม่ได้แล้วซะละมั้ง... :b12:

ตอนสมาทานพระกรรมฐาน...

มีบท...ขอมอบกายถวายชีวิต...รับใช้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...

หากพูดได้ด้วยความสัจจริง...ไม่ใช่เพียงแค่ท่องตามบท..นะ

มันจะซึ่งมาก...

หากจะต้องตาย...เพื่อรักษาธรรมของพระองค์...ทำได้จริงมั้ย?

หากทำได้...เรื่องแค่นี้มันขี้ประติว...


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 15 มิ.ย. 2012, 23:22, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 23:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ไม่มี....ใจสบายดี

เอ๊ะ....มีสบายดี...จะว่าไม่มีก็คงไม่ได้แล้วซะละมั้ง... :b12:



ไม่มีก็ดี ครับ ถ้ามี ต้องยอมรับตัวเองนะครับ เห็นมัน ถึงจะบางๆ ก็เห็นมัน จะได้เห็นว่า อะไร ทำให้ทุกข์

แล้วเบื่อมันเสีย

ผมยังเห็น ไอ้ตัวมารเนีย นำผมเข้ามาที่เนี่ย ทุกวัน :b12: :b12: :b12:

ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 23:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มันไม่มี...ก็เพราะปัญญาเราตอนนี้..เห็นเท่านี้...

หากมากว่านี้...จะเห็นว่ามันมี...ก็เป็นเรื่องของตอนนั้น...

ยังไม่เป็นพระอรหันต์...มันจะมีก็เป็นเรื่องธรรมดา...ของมัน

ยังงัย..ยังงัย....มันก็เป็นของอนิจจัง...อยู่แล้ว

ไม่เร่งรีบ.... :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 23:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
มันไม่มี...ก็เพราะปัญญาเราตอนนี้..เห็นเท่านี้...

หากมากว่านี้...จะเห็นว่ามันมี...ก็เป็นเรื่องของตอนนั้น...

ยังไม่เป็นพระอรหันต์...มันจะมีก็เป็นเรื่องธรรมดา...ของมัน

ยังงัย..ยังงัย....มันก็เป็นของอนิจจัง...อยู่แล้ว

ไม่เร่งรีบ.... :b9: :b9:


s007 อย่าให้การเกิดทุกข์ เป็นเรื่องธรรมดาเลยครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2012, 23:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สุขหนอ.....สุขหนอ.....หากได้รับใช้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า... rolleyes

อิ....อิ.....อิ...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร