วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 03:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 86 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มี.ค. 2012, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


อพิโธ่ น่าสมเพช เวทนาในความคิดของคนนอกศาสนาอย่างเจ้าซะจริงๆ คนที่ยืมจมูกของคนอื่นหายใจไม่ใช่ข้าพเจ้าดอกนะ แต่เป็นเอ็งนั่นแหละ แถมยังยืมเอาจมูกของพวก มาร แล ของพวกที่มีจิตใจสมองสติปัญญาที่มีแต่ ขี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตรงไหนที่เรียกว่า ยืมจมูกมาหายใจ อยากได้หลักธรรมของข้าพเจ้าละซิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า อีกล้านปี เอ็งก็ไม่มีทางรู้หรือปฏิบัติได้ดอกนะ ขนาดสอนให้ได้รุ้ว่า การเขียนกระทู้ธรรม หรือ บทความธรรมะ ก็ต้องยกเอาหลักธรรมขึ้นมาแล้วอธิบาย ยังไม่รู้อีก ดีแต่กล่าวเพ้อเจ้อ ทุเรศ ความคิด จริง ๆ ฮ่า ฮ่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มี.ค. 2012, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
อพิโธ่ น่าสมเพช เวทนาในความคิดของคนนอกศาสนาอย่างเจ้าซะจริงๆ คนที่ยืมจมูกของคนอื่นหายใจไม่ใช่ข้าพเจ้าดอกนะ แต่เป็นเอ็งนั่นแหละ แถมยังยืมเอาจมูกของพวก มาร แล ของพวกที่มีจิตใจสมองสติปัญญาที่มีแต่ ขี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตรงไหนที่เรียกว่า ยืมจมูกมาหายใจ อยากได้หลักธรรมของข้าพเจ้าละซิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า อีกล้านปี เอ็งก็ไม่มีทางรู้หรือปฏิบัติได้ดอกนะ ขนาดสอนให้ได้รุ้ว่า การเขียนกระทู้ธรรม หรือ บทความธรรมะ ก็ต้องยกเอาหลักธรรมขึ้นมาแล้วอธิบาย ยังไม่รู้อีก ดีแต่กล่าวเพ้อเจ้อ ทุเรศ ความคิด จริง ๆ ฮ่า ฮ่า


อ่ะปัตติโถ่ อปัตติเถเถนา อะปัตติยา จั๊ดจ๊า จั๊ดจาดี่ดา ดี่ดาด๊าดา...โถ่เอ๊ย เฒ่าศรีธญญา เอ๊ย ไปก๊อบบทความของจ่าเทวแล้วเอามาตอกไข่ละเลงความคิดของตัวเองลงไปอีกที แถมไปสรุปให้ลุงจ่าแกเสร็จศัพท์โดยไม่รู้เหนือรู้ใต้ ยังจะกล้ามาบอกว่าตัวเองปัญญาสูงลิ่วเท่าหอไอเฟลอีกแน่ะ ยังงี้เขาเรียกว่าปัญญาล้นนะจ๊ะตัวเอง ขายหน้าจริง บ๊ะ

อ่อ แล้วหลักธรรมอะไรของเฒ่าศรีธัญญา ไม่ต้องกลัวว่าใครจะแย่งหรืออยากได้หรืออยากรู้หรอกนะ แล้วไม่ต้องกลัวว่าใครเขาจะเอาหลักธรรมของเฒ่าศรีไปปฏิบัติหรอกนะ ไม่ต้องรอล้านปีหรอกนะเจ้าข่ะ แหมๆ หวงซะด้วยแน่ะ หึหึหึ เฒ่าศรีธัญญาเก็บหลักธรรมของตัวเองไว้ใช้คนเดียวเหอะนะ เวลาละร่างสังขารก็ฝังหรือไม่ก็เผาไปกับเฒ่าศรีเลยนะ ไม่ต้องเหลือหลักฐานอะไรไว้หรอกจ้ะ ไม่มีใครเขาอยากรู้จักหลักธรรมของลัทธิศรีธัญญา หรอกนะเจ้าฆ่ะ

เพราะกระผมไม่เสียเวลาไปคุ้ยเขี่ยหลักธรรมหน่อมแน๊มนิกายศรีธญญาของเฒ่าศรีหรอกนะเจ้าฆ่ะ แม่แต่เศษเสี้ยวความคิดก็ยังไม่เคยเลยนะเจ้าฆ่ะ หรือเรียกให้ดูเป็นสำนวนง่ายเข้าไปอีกคือ แม้แต่หางตาข้าพเจ้าก็ไม่เคยเหลียวมองเจ้ามะฮะ

เพราะว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้านั้นมีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว ถูกต้องอยู่แล้ว หลักปฏิบัติต่างๆของพระพุทธเจ้าก็มีอยู่แล้วเจ้ามะฮะ เรื่องอะไรจะไปสนใจหลักธรรมไร้สาระของลัทธิศรีธัญญาด้วยล่ะเจ้าข่ะ กระผมศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้นแหละเจ้ามะฮะ ไม่เสียเวลาเหลียวหางตามองหลักอธรรมของเฒ่าศรีธัญญา หรอกเจ้าข่ะ เก็บหลักธรรมหน่อมแน๊มของลัทธิศรีธัญญา เอาไว้สำหรับเฒ่าศรีธัญญาปฏิบัติคนเดียวไปเถอค่ะ ตามสบายเลยเจ้าข่ะ

วู๊ คนอะไรคิดจะตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิ แถมบัญญัติหลักธรรมหน่อมแน๊ม มิหนำซ้ำยังกลัวคนอื่นจะมาแย่งหลักของตัวเองไปปฏิบัติอีกแน่ะ หลงตัวเองซะจริ๊ง หน้าไม่อายเจ้าฆ่ะ คร๊ายยย เขาจะไปอยากรู้จักนิกายศรีธัญญา มิทราบ :b28:

เอ้า หุยยยย ฮ๊าาาาาา :b22: :b22: :b22:

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2012, 08:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


- กฏกติกาบอร์ด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=11&t=39777

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


คัก..คัก...คัก...คัก
ที่แท้สมองของเจ้าปลงซะ นั่นก็แค่เด็กปัญญาหน่อม ไร้สาระ พล่ามเพ้อเจ้อ ใส่ร้ายไม่หูรูดเอาซะเลย
ไม่ได้รู้เรื่องภาษาไทย ไม่ได้รู้เรื่องว่า เขาเขียนเรื่องอะไร สอนอะไร
ตั้งท่าทำตัวเป็น เจ้ามารร้าย ทำตัวเป็นอันธพาล อย่างเดียว เที่ยวคัดค้านไม่รู้เหนือรู้ใต้
ฮะ....ฮะ....ฮะ..ฮะ.....ไม่ใช่จิตใจต่ำแบบจมโคลนนะเจ้าปลงซะ แต่จิตใจต่ำลงไปในนรกโน่นแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อู๊ย เจ้าเฒ่าศรีธัญญา เอ๊ย ขนาดหลวงพี่พุทธฎีกา ท่านมาเตือนแถมยืนเฝ้าอยู่หน้าวัดแล้ว เจ้ายังไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจอีก ไปได้เรื่อยๆอย่างทุลักทุเล เป๋ไปเป๋มา มั่วนิ่มก็เอา จ้องแต่จะเอาชนะข้าพเจ้า เหอะๆๆ ตามสบ๊าย ตามสบาย เพราะข้าพเจ้าไม่มายเจ้าม่ะฮะ แหม แบบนี้ต้องขอยืมคำพูดของคุณวิสิษฐ์ จากรายการคดีเด็ด ที่ว่า

"แหม ทำไปด๊ายยย"


ฮาฮ๊าฮา นะเจ้ามะฮะ

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 20:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


อิ...อิ...อิ...อิ...ยังพล่ามไม่หยุดอีกแฮะ นิ่มๆ เหลือเกินนะเจ้าปลงซะ อะ..อะ...อะ...อะ...ทำตัวเป็นบ่างช่างยุ,,,อวดฉลาด น่าเวทนาจริงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ไม่รูัจักธรรม ไม่รุ้จักที่สูงที่ต่ำ ทำตัวเป็นพวกปัญญาหน่อมคอยคัดค้านตะพรึด เขลาเบาปัญญาจริงๆ น่าเวทนา น่าเวทนา......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 20:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
อิ...อิ...อิ...อิ...ยังพล่ามไม่หยุดอีกแฮะ นิ่มๆ เหลือเกินนะเจ้าปลงซะ อะ..อะ...อะ...อะ...ทำตัวเป็นบ่างช่างยุ,,,อวดฉลาด น่าเวทนาจริงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ไม่รูัจักธรรม ไม่รุ้จักที่สูงที่ต่ำ ทำตัวเป็นพวกปัญญาหน่อมคอยคัดค้านตะพรึด เขลาเบาปัญญาจริงๆ น่าเวทนา น่าเวทนา......




ต๊ายยยยยย มีการห้ามคนอื่นแสดงความคิดเห็นคัดค้านตนเองอีกด้วยแน่ะ คุณจะมาบังคับให้ทุกคนเห็นด้วยกับคุณทั้งหมดทุกคนเลยเหรอเจ้าม่ะฮะ เจ้าเฒ่าศรีธญญาเอ๊ยยยย บ้องตื้นจริงจริ๊งงงงงง

ฮาขน๊าด บ๊ะๆๆๆ เปิ้ลซี๊ซั๊วอู้จ้าดขน๊าด

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย นายฏีกาน้อย เมื่อ 27 มี.ค. 2012, 08:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
กฏกติกา การนำเสนอรูป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่าสนใจไอ้พวกจิตทรามเลยขอรับไร้สาระ ที่พวกมันทำอย่างนั้น ก็เพื่อให้กระทู้ถูกล๊อค ไม่ใช่จิตทรามอย่างเดียวนะ ความคิดก็ทรามด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

สนใจหลักธรรมดีกว่าขอรับ

หลักไตรลักษณ์ ดังที่ข้าพเจ้าได้อธิบายไปในบทความแล้วว่า เป็นการพิจารณาหรือการปฏิบัติแบบย่อของ "สติปัฏฐาน๔"
การพิจารณาไตรลักษณ์ นั้น สามารถใช้ได้ทั้งในสถานะการณ์เฉพาะหน้า และสถานะการอื่นๆ เพียงแต่ต้องมี สมาธิ เพื่อให้เกิดมี สติ ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ล้วนต้องมี สมาธิ และ สติ ตามติดกันมา อีกทั้งยังหมายรวมถึง สัมปชัญญะด้วย

ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า "ไตรลักษณ์ เป็นทางลัดของผู้ไม่ต้องการคิดมาก" ย่อมหมายความว่า ทุกท่านที่สนใจใฝ่ศึกษา ปรารถนาใคร่รู้ซึ้งในหลักธรรมทางพุทธศาสนา หากใช้หลักไตรลักษณ์ เป็นเครื่องพิจารณา เมื่อได้สัมผัสกับอายตนะภายนอก ก็ย่อมเกิดความเป็นปกติในสภาพสภาวะจิตใจ มีความโลภ ความโกรธ ความหลง น้อยลง ถ้าหากมีเวลาได้คิดพิจารณาเพิ่มเติม ก็จักนำพาให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้บรรลุธรรม เห็นแจ้งในหลักความจริง ในหลักธรรมชาติอย่างแท้จริง
หลักไตรลักษณ์นั้นซ่อนไว้ซึ่งความลับอย่างหนึ่ง ซึ่งหากท่านทั้งหลายมีเวลาที่จะคิดพิจารณา ก็จักเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เมื่อเกิดความเข้าใจแล้ว ก็เพียงใช้หัวข้อหลักการเป็นข้อขจัดซึ่งอาสวะทีเกิดขึ้น ก็จักทำให้พุทธศาสนิกชน เข้าใจ เข้าถึง หลักธรรมทางพุทธศาสนาได้อย่างถ่องแท้ขอรับ


แก้ไขล่าสุดโดย จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ เมื่อ 26 มี.ค. 2012, 21:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 21:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 21:59
โพสต์: 234

สิ่งที่ชื่นชอบ: ในตัวเอง
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าน่าจะมีกฏ ห้ามพิมพ์คำ หัวเราะ หรือส่งเสียงดังกันในบอร์ดนะครับ
พออ่านแล้ว รู้สึกเหมือนไม่ค่อยสงบยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งหัวเราะแบบประหลาดๆควรต้องยิ่งพิจารณา

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 21:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


จางบาง เขียน:
ผมว่าน่าจะมีกฏ ห้ามพิมพ์คำ หัวเราะ หรือส่งเสียงดังกันในบอร์ดนะครับ
พออ่านแล้ว รู้สึกเหมือนไม่ค่อยสงบยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งหัวเราะแบบประหลาดๆควรต้องยิ่งพิจารณา

onion


ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณขอรับ การพิมพ์คำหัวร่อ.หัวเราะนั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่า อารมณ์ดีขอรับ แต่คนอ่านจะคิดอย่างไรมันก็เป็นเรื่องสภาพสภาวะจิตใจและสภาพธรรมที่ประกอบอยู่ในจิต ของแต่ละบุคคลขอรับ.....
ไร้สาระ อ่านหลักธรรมดีกว่าขอรับ

หลักไตรลักษณ์ ดังที่ข้าพเจ้าได้อธิบายไปในบทความแล้วว่า เป็นการพิจารณาหรือการปฏิบัติแบบย่อของ "สติปัฏฐาน๔"
การพิจารณาไตรลักษณ์ นั้น สามารถใช้ได้ทั้งในสถานะการณ์เฉพาะหน้า และสถานะการอื่นๆ เพียงแต่ต้องมี สมาธิ เพื่อให้เกิดมี สติ ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ล้วนต้องมี สมาธิ และ สติ ตามติดกันมา อีกทั้งยังหมายรวมถึง สัมปชัญญะด้วย

ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า "ไตรลักษณ์ เป็นทางลัดของผู้ไม่ต้องการคิดมาก" ย่อมหมายความว่า ทุกท่านที่สนใจใฝ่ศึกษา ปรารถนาใคร่รู้ซึ้งในหลักธรรมทางพุทธศาสนา หากใช้หลักไตรลักษณ์ เป็นเครื่องพิจารณา เมื่อได้สัมผัสกับอายตนะภายนอก ก็ย่อมเกิดความเป็นปกติในสภาพสภาวะจิตใจ มีความโลภ ความโกรธ ความหลง น้อยลง ถ้าหากมีเวลาได้คิดพิจารณาเพิ่มเติม ก็จักนำพาให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้บรรลุธรรม เห็นแจ้งในหลักความจริง ในหลักธรรมชาติอย่างแท้จริง
หลักไตรลักษณ์นั้นซ่อนไว้ซึ่งความลับอย่างหนึ่ง ซึ่งหากท่านทั้งหลายมีเวลาที่จะคิดพิจารณา ก็จักเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เมื่อเกิดความเข้าใจแล้ว ก็เพียงใช้หัวข้อหลักการเป็นข้อขจัดซึ่งอาสวะทีเกิดขึ้น ก็จักทำให้พุทธศาสนิกชน เข้าใจ เข้าถึง หลักธรรมทางพุทธศาสนาได้อย่างถ่องแท้ขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 เม.ย. 2012, 20:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นเขาเถียงกันเรื่อง ของไตรลักษณ์ ว่าเป็น "ธรรมนิยาม" อันหมายความว่า กำหนดแน่นอนแห่งธรรมดา กฎธรรมชาติที่ว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง, สังขารทั้งปวง เป็นทุกข์, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา (ตามพจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับพระธรรมปิฏก)
ก็ให้มีอารมณ์ขบขัน ไม่รู้ว่าจะเถียงกันทำไม

ไตรลักษณ์ มีความลับซ่อนอยู่ เพียงแต่ข้าพเจ้ายังไม่เปิดเผย จะปล่อยให้พวกผู้(อวด)รู้ และ (แสน)รู้มาก หลงเข้าใจผิดกันไป ซึ่งความจริงพวกเขาก็หลงเข้าใจผิดกันมาตั้งนานแล้ว
ความรุ้เรื่องไตรลักษณ์นี้ ไม่ใช่ข้าพเจ้าคิดเอาเองนะขอรับ ครูบาอาจารย์ ผู้รู้ ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่มีความรู้แตกฉาน ได้สอน ได้แนะนำข้าพเจ้าเอาไว้
เหตุเพราะไม่ว่าจะเป็นผู้เกี่ยวข้องทางพุทธศาสนา ไม่ว่าจะมีความรู้ในระดับไหนก็ตาม มักเข้าใจผิด ดังที่ข้าพเจ้าได้ยกตัวอย่างอันคัดมาจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับพระธรรมปิฏก มาให้ได้พิจารณากัน
ในตอนนี้ยังจะไม่อธิบายให้มากนัก เพียงเกริ่นเพื่อให้ท่านทั้งหลายที่สนใจ ใฝ่ศึกษาได้คิด ได้พิจารณา อันจักทำให้สมองสติปัญญาของท่านได้พัฒนาไประดับหนึ่ง ถึงแม้จะคิดได้พิจารณาได้ หรือคิดพิจารณาไม่ได้ก็ตาม
ก็ยังดีกว่า มัวนั่งเถียงกัน อย่างกับว่าจะไปสอบเปรียญธรรมซะงั้นแหละ อิ อิ อิ อย่าหาว่าส่อเสียดถากถางนะขอรับ เพียงกล่าวถึงเท่านั้นขอรับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 86 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร