วันเวลาปัจจุบัน 15 ก.ค. 2025, 17:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2018, 17:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เยาวชนยุโรป-สหรัฐสนใจทำสมาธิภาวนามากขึ้น

จากปรากฏการณ์โค้ชเอก หรือนายเอกพล จันทะวงษ์ อายุ 25 ปี ผู้ช่วยโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย จ.เชียงราย ที่สามารถดูแลนักฟุตบอลเยาวชนของทีมจำนวน 12 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่ฝึกให้เยาวชนนั่งสมาธิอยู่นิ่งๆ เพื่อบรรเทาความหิวและความกังวล
เมื่อนักดำน้ำชาวอังกฤษพบในวันที่ 2 ก.ค.2561 ถึงกับทึ่ง เพราะสุขภาพไม่ได้อ่อนเพลียมากนัก
ส่งผลให้สื่อต่างประเทศ หลายสำนัก เช่น เดอะ สเตรทไทมส์ ได้รายงานถึงอานิสงส์ของการนั่งสมาธิ รายการสื่อต่างประเทศได้เชิญผู้เชียวชาญมาแสดงความเห็น

รวมถึงเว็บไซต์ Vox ก็ได้รายงานถึงความแปลกใจที่เด็กๆทีมหมูป่าอะคาเดมี่ อยู่ในอาการสงบนิ่ง มีสติ ไม่ตื่นตระหนก เมื่อเจอนักดำน้ำอังกฤษที่ได้ไปพบเป็นกลุ่มแรก ซึ่งทำให้ต่างชาติถึงกับต้องทึ่ง เพราะเด็ก ๆ ติดถ้ำมานาน 9 วัน นั่นก็เป็นเพราะว่าโค้ชเอกของเด็ก ๆ เคยบวชเป็นพระมานานกว่า 10 ปี จึงได้สอนวิธีทำสมาธิให้กับเยาวชน

รูปภาพ


https://siampongsnews.blogspot.com/2018 ... st_43.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2018, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ภาวนา การทำให้มีขึ้นเป็นขึ้น, การทำให้เกิดขึ้น, การเจริญ, การบำเพ็ญ, การพัฒนา 1. การฝึกอบรม หรือการเจริญพัฒนา มี ๒ อย่าง คือ 1. สมถภาวนา ฝึกอบรมจิตใจให้อยู่กับความดีงามเกิดความสงบ 2. วิปัสสนาภาวนา ฝึกอบรมเจริญปัญญาให้เกิดความรู้แจ้งชัดตามเป็นจริง

อีกนัยหนึ่ง จัดเป็น ๒ เหมือนกัน คือ 1. จิตตภาวนา ฝึกอบรมจิตใจให้เจริญงอกงามด้วยคุณธรรม มีความเข้มแข็งมั่นคง เบิกบาน สงบสุขผ่องใส พร้อมด้วยความเพียร สติ และสมาธิ 2. ปัญญาภาวนา ฝึกอบรมเจริญปัญญา ให้รู้เท่าทันเข้าใจสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง จนมีจิตใจเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำด้วยกิเลส และความทุกข์



สมาธิ ความมีใจตั้งมั่น, ความตั้งมั่นแห่งจิต, การทำให้ใจสงบแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน, ภาวะที่จิตตั้งเรียบแน่วอยู่ในอารมณ์ คือ สิ่งอันหนึ่งอันเดียว, มักใช้เป็นคำเรียกง่ายๆ สำหรับอธิจิตตสิกขา

สมถะ ธรรมเป็นเครื่องสงบระงับจิต, ธรรมยังจิตให้สงบระงับจากนิวรณูปกิเลส, การฝึกจิตให้สงบเป็นสมาธิ

สมาธิขันธ์ หมวดธรรมจำพวกสมาธิ เช่น ฉันทะ วิริยะ จิตตะ ชาคริยานุโยค กายคตาสติ เป็นต้น

(ถึงจะยักเยื้องเรียกไปอย่างไร แก่นแท้ ก็คือ สมาธิ กับปัญญา เท่านั้นเอง)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ค. 2018, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูอีกมุมหนึ่ง


สิกขา การศึกษา, การสำเหนียก, การเรียน, การฝึกฝนปฏิบัติ, การเล่าเรียนให้รู้เข้าใจ และฝึกหัดปฏิบัติให้เป็นคุณสมบัติที่เกิดมีขึ้นในตน หรือให้ทำได้ทำเป็น ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปจนถึงสมบูรณ์, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรมพัฒนาบุคคล, สิกขา ๓ คือ

๑. อธิสีลสิกขา สิกขาคือศีลอันยิ่ง, อธิศีลอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาศีลอย่างสูง (ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ เป็นศีล, ปฏิโมกขสังวรศีล เป็นอธิศีล แต่ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ที่รักษาด้วยความเข้าใจ ให้เป็นเครื่องหนุนนำออกจากวัฏฏะ ก็เป็นอธิศีล)


๒. อธิจิตตสิกขา สิกขาคือจิตอันยิ่ง, อธิจิตอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาจิตใจให้มีสมาธิเป็นต้นอย่างสูง (กุศลจิตทั้งหลายจนถึงสมาบัติ ๘ เป็นจิต, ฌานสมาบัติที่เป็นบาทแห่งวิปัสสนา เป็นอธิศีล แต่สมาบัติ ๘ นั่นแหละ ถ้าปฏิบัติด้วยความเข้าใจ มุ่งให้เป็นเครื่องหนุนนำออกจากวัฏฏะ ก็เป็นอธิจิต)


๓. อธิปัญญาสิกขา สิกขาคือปัญญาอันยิ่ง, อธิปัญญาอันเป็นข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติเพื่อการฝึกอบรมพัฒนาปัญญาอย่างสูง (ความรู้เข้าใจหลักเหตุผลถูกต้องอย่างสามัญ อันเป็นกัมมัสสกตาญาณ คือ ความรู้จักว่าทุกคนเป็นเจ้าของแห่งกรรมของตน เป็นปัญญา, วิปัสสนาปัญญาที่กำหนดรู้ความจริงแห่งไตรลักษณ์ เป็นอธิปัญญา แต่โดยนัยอย่างเพลา กัมมัสสกตาปัญญาที่โยงไปให้มองเห็นทุกข์ที่เนื่องด้วยวัฏฏะ หรือแม้กระทั่งความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ก้าวไปในมรรค ก็เป็นอธิปัญญา)


สิกขา ๓ นี้ นิยมเรียกว่า ไตรสิกขา และเรียกข้อย่อยทั้งสามง่ายๆสั้นๆ ว่า ศีล สมาธิ ปัญญา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เอาอีกหน่อย เช่น ในสมถะ สติกำหนดอารมณ์ที่นิ่งอยู่กับที่ หรือเคลื่อนไหวเป็นรูปแบบจำเพาะซ้ำไปซ้ำมาภายในขอบเขตจำกัด
ส่วนในวิปัสสนา สติตามกำหนดอารมณ์ที่กำลังเคลื่อนไหวหรือเป็นไปในสภาพใดๆก็ได้ ไม่จำกัดขอบเขต

ในสมถะ นิยมให้เลือกกำหนดอารมณ์บางอย่าง ในบรรดาอารมณ์ที่สรรแล้ว ซึ่งจะเป็นอุบายช่วยให้จิตใจสงบแน่วแน่ได้ง่าย
ส่วนในวิปัสสนา ใช้อารมณ์ได้ทุกอย่างไม่จำกัด สุดแต่อะไรปรากฏขึ้นให้พิจารณา และอะไรก็ตามที่จะให้เห็นความจริง (สรุปลงได้ทั้งหมด ใน ร่างกาย เวทนา จิต ธรรม หรือ ในนามและรูป)


ถ้าจับหลักข้างบนได้ คำถามทำนองนี้จะหมดไปจากประเทศไทย :b32: แต่ถ้ายังจับหลักไม่ได้ก็ยังมีอีกต่อไปชั่วกัลปาวสาน แล้วก็จะปฏิบัติผิดเข้าใจผิดกันต่อไปอีกตราบนานเท่านาน

อ้างคำพูด:
ฝึกวิปัสสนาแบบสายพุทโธฝึกยังไงกันเจ้ารึเจ้าคะ

ช่วงนี้ อยากจะย้ายค่ายสักพัก จากสายหนอ มาพุทโธ คืออยากเน้นสมถะช่วงนี้เยอะๆ สักหน่อย จะเอามาเป็นฐานวิปัสสนา

แต่ถามเผื่อเรื่องวิปัสสนาสายนี้ ตอนกำหนดเวทนา จิต ธรรม กำหนดยังไงรึเจ้าคะ

1. นึกรู้เฉยๆ โดยไม่มีคำบริกรรม
2. หรือพอเกิดเวทนา จิต ธรรม ก็กำหนดพุทโธทุกอย่าง ตามฐานที่เกิด คล้ายๆ สายหนอ หรืออะไรยังไง วานอธิบาย ขอบพระคุนเจ้าค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 10:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาอีกหน่อย เช่น ในสมถะ สติกำหนดอารมณ์ที่นิ่งอยู่กับที่ หรือเคลื่อนไหวเป็นรูปแบบจำเพาะซ้ำไปซ้ำมาภายในขอบเขตจำกัด
ส่วนในวิปัสสนา สติตามกำหนดอารมณ์ที่กำลังเคลื่อนไหวหรือเป็นไปในสภาพใดๆก็ได้ ไม่จำกัดขอบเขต

ในสมถะ นิยมให้เลือกกำหนดอารมณ์บางอย่าง ในบรรดาอารมณ์ที่สรรแล้ว ซึ่งจะเป็นอุบายช่วยให้จิตใจสงบแน่วแน่ได้ง่าย
ส่วนในวิปัสสนา ใช้อารมณ์ได้ทุกอย่างไม่จำกัด สุดแต่อะไรปรากฏขึ้นให้พิจารณา และอะไรก็ตามที่จะให้เห็นความจริง (สรุปลงได้ทั้งหมด ใน ร่างกาย เวทนา จิต ธรรม หรือ ในนามและรูป)


ถ้าจับหลักข้างบนได้ คำถามทำนองนี้จะหมดไปจากประเทศไทย :b32: แต่ถ้ายังจับหลักไม่ได้ก็ยังมีอีกต่อไปชั่วกัลปาวสาน แล้วก็จะปฏิบัติผิดเข้าใจผิดกันต่อไปอีกตราบนานเท่านาน

อ้างคำพูด:
ฝึกวิปัสสนาแบบสายพุทโธฝึกยังไงกันเจ้ารึเจ้าคะ

ช่วงนี้ อยากจะย้ายค่ายสักพัก จากสายหนอ มาพุทโธ คืออยากเน้นสมถะช่วงนี้เยอะๆ สักหน่อย จะเอามาเป็นฐานวิปัสสนา

แต่ถามเผื่อเรื่องวิปัสสนาสายนี้ ตอนกำหนดเวทนา จิต ธรรม กำหนดยังไงรึเจ้าคะ

1. นึกรู้เฉยๆ โดยไม่มีคำบริกรรม
2. หรือพอเกิดเวทนา จิต ธรรม ก็กำหนดพุทโธทุกอย่าง ตามฐานที่เกิด คล้ายๆ สายหนอ หรืออะไรยังไง วานอธิบาย ขอบพระคุนเจ้าค่ะ

:b12:
วิปัสสนาภาวนาต้องเข้าใจคำสอนจากการฟังเป็นปัญญารู้ความจริง
ลักษณะของปรมัตถธรรมที่กำลังปรากฏตอนลืมตามีครบ6ทวารและ
มีวิถีจิตแต่ละทางซึ่งเป็นทางเกิดของกิเลสที่มีอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่ามีแล้ว
เริ่มปฏิบัติวิปัสสนาจากการฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ
คือเดี๋ยวนี้เลยตรงปัจจุบันขณะต้องรู้ลักษณะตัวธัมมะที่ปรากฏแต่ละทาง
ทั่วถึงว่าเกิดได้อย่างไรลักษณะที่ปรากฏมีอะไรที่ปรากฏให้ทราบตรงที่กายใจตนกำลังมี
ส่วนการทำสมถภาวนาเป็นการหลับตาทำความไม่รู้ความจริงที่กำลังปรากฏจึงไม่ใช่การดับกิเลส
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 15:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เอาอีกหน่อย เช่น ในสมถะ สติกำหนดอารมณ์ที่นิ่งอยู่กับที่ หรือเคลื่อนไหวเป็นรูปแบบจำเพาะซ้ำไปซ้ำมาภายในขอบเขตจำกัด
ส่วนในวิปัสสนา สติตามกำหนดอารมณ์ที่กำลังเคลื่อนไหวหรือเป็นไปในสภาพใดๆก็ได้ ไม่จำกัดขอบเขต

ในสมถะ นิยมให้เลือกกำหนดอารมณ์บางอย่าง ในบรรดาอารมณ์ที่สรรแล้ว ซึ่งจะเป็นอุบายช่วยให้จิตใจสงบแน่วแน่ได้ง่าย
ส่วนในวิปัสสนา ใช้อารมณ์ได้ทุกอย่างไม่จำกัด สุดแต่อะไรปรากฏขึ้นให้พิจารณา และอะไรก็ตามที่จะให้เห็นความจริง (สรุปลงได้ทั้งหมด ใน ร่างกาย เวทนา จิต ธรรม หรือ ในนามและรูป)


ถ้าจับหลักข้างบนได้ คำถามทำนองนี้จะหมดไปจากประเทศไทย :b32: แต่ถ้ายังจับหลักไม่ได้ก็ยังมีอีกต่อไปชั่วกัลปาวสาน แล้วก็จะปฏิบัติผิดเข้าใจผิดกันต่อไปอีกตราบนานเท่านาน

อ้างคำพูด:
ฝึกวิปัสสนาแบบสายพุทโธฝึกยังไงกันเจ้ารึเจ้าคะ

ช่วงนี้ อยากจะย้ายค่ายสักพัก จากสายหนอ มาพุทโธ คืออยากเน้นสมถะช่วงนี้เยอะๆ สักหน่อย จะเอามาเป็นฐานวิปัสสนา

แต่ถามเผื่อเรื่องวิปัสสนาสายนี้ ตอนกำหนดเวทนา จิต ธรรม กำหนดยังไงรึเจ้าคะ

1. นึกรู้เฉยๆ โดยไม่มีคำบริกรรม
2. หรือพอเกิดเวทนา จิต ธรรม ก็กำหนดพุทโธทุกอย่าง ตามฐานที่เกิด คล้ายๆ สายหนอ หรืออะไรยังไง วานอธิบาย ขอบพระคุนเจ้าค่ะ

:b12:
วิปัสสนาภาวนาต้องเข้าใจคำสอนจากการฟังเป็นปัญญารู้ความจริง
ลักษณะของปรมัตถธรรมที่กำลังปรากฏตอนลืมตามีครบ6ทวารและ
มีวิถีจิตแต่ละทางซึ่งเป็นทางเกิดของกิเลสที่มีอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่ามีแล้ว
เริ่มปฏิบัติวิปัสสนาจากการฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ
คือเดี๋ยวนี้เลยตรงปัจจุบันขณะต้องรู้ลักษณะตัวธัมมะที่ปรากฏแต่ละทาง
ทั่วถึงว่าเกิดได้อย่างไรลักษณะที่ปรากฏมีอะไรที่ปรากฏให้ทราบตรงที่กายใจตนกำลังมี
ส่วนการทำสมถภาวนาเป็นการหลับตาทำความไม่รู้ความจริงที่กำลังปรากฏจึงไม่ใช่การดับกิเลส
:b4: :b4:



คิกๆๆ หมดคำเว้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 17:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระเอกคนดังเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men’s Health ว่าการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด

"การนั่งสมาธิช่วยฝึกจิตใจ ทำให้สถานะทางด้านอารมณ์ของผมมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ลดการปรุงแต่งอารมณ์ลงได้ พอผมได้ลองทำดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องนั่งสมาธิก่อนสวดมนต์ สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิหมายถึงการวางทุกสิ่งทุกอย่างลง เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้กลับไปบ้าน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี เพราะว่าเราไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าในแต่ละวันจะพบเจอกับสถานการณ์อะไรในชีวิตประจำวันบ้าง การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีจิตใจที่นิ่งสงบ บังเกิดสันติขึ้นในใจ จนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่านี่คือวิถีทางอันทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็ตาม" ฮิวจ์กล่าว

"สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร เป็นเหมือนการพักผ่อนขั้นสูงสุด มันดีกว่าการนอนหลับ มันคือความเงียบของใจ ทำให้ทุกอย่างคมชัดและดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซาบซึ้งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ ทำให้ชีวิตสดชื่น"

https://siampongsnews.blogspot.com/2018 ... st_66.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ค. 2018, 18:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พระเอกคนดังเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men’s Health ว่าการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด

"การนั่งสมาธิช่วยฝึกจิตใจ ทำให้สถานะทางด้านอารมณ์ของผมมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ลดการปรุงแต่งอารมณ์ลงได้ พอผมได้ลองทำดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องนั่งสมาธิก่อนสวดมนต์ สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิหมายถึงการวางทุกสิ่งทุกอย่างลง เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้กลับไปบ้าน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี เพราะว่าเราไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าในแต่ละวันจะพบเจอกับสถานการณ์อะไรในชีวิตประจำวันบ้าง การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีจิตใจที่นิ่งสงบ บังเกิดสันติขึ้นในใจ จนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่านี่คือวิถีทางอันทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็ตาม" ฮิวจ์กล่าว

"สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร เป็นเหมือนการพักผ่อนขั้นสูงสุด มันดีกว่าการนอนหลับ มันคือความเงียบของใจ ทำให้ทุกอย่างคมชัดและดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซาบซึ้งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ ทำให้ชีวิตสดชื่น"

httpxs://siampongsnews.blogspot.com/201 ... st_66.html


:b12:
อันนี้ต้องไตร่ตรองให้มากๆก็อยากสงบไม่ใช่เหรอถึงไปนั่งนั่นน่ะสงบตถาคตคือสงบจากกิเลสคือสงบจากไม่รู้
สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร
คริคริคริข้างบนที่บอกว่าไม่แสวงหาอะไรน่ะคือแสวงหาแล้วถึงไปทำคำตอบคือข้างล่าง
การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี
ดีคืออะไรก็ไม่รู้นั่งแบบไม่รู้ความจริงตามคำสอนเขาเรียกไม่รู้คือมีกิเลสค่ะไม่ดีเพราะเป็นสงบแบบเป็นอวิชชา
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 11:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระเอกคนดังเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men’s Health ว่าการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด

"การนั่งสมาธิช่วยฝึกจิตใจ ทำให้สถานะทางด้านอารมณ์ของผมมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ลดการปรุงแต่งอารมณ์ลงได้ พอผมได้ลองทำดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องนั่งสมาธิก่อนสวดมนต์ สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิหมายถึงการวางทุกสิ่งทุกอย่างลง เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้กลับไปบ้าน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี เพราะว่าเราไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าในแต่ละวันจะพบเจอกับสถานการณ์อะไรในชีวิตประจำวันบ้าง การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีจิตใจที่นิ่งสงบ บังเกิดสันติขึ้นในใจ จนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่านี่คือวิถีทางอันทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็ตาม" ฮิวจ์กล่าว

"สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร เป็นเหมือนการพักผ่อนขั้นสูงสุด มันดีกว่าการนอนหลับ มันคือความเงียบของใจ ทำให้ทุกอย่างคมชัดและดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซาบซึ้งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ ทำให้ชีวิตสดชื่น"

httpxs://siampongsnews.blogspot.com/201 ... st_66.html


:b12:
อันนี้ต้องไตร่ตรองให้มากๆก็อยากสงบไม่ใช่เหรอถึงไปนั่งนั่นน่ะสงบตถาคตคือสงบจากกิเลสคือสงบจากไม่รู้
สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร
คริคริคริข้างบนที่บอกว่าไม่แสวงหาอะไรน่ะคือแสวงหาแล้วถึงไปทำคำตอบคือข้างล่าง
การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี
ดีคืออะไรก็ไม่รู้นั่งแบบไม่รู้ความจริงตามคำสอนเขาเรียกไม่รู้คือมีกิเลสค่ะไม่ดีเพราะเป็นสงบแบบเป็นอวิชชา
:b32: :b32:



มันสงบจากกิเลส อย่างน้อยๆนิวรณ์ก็สงบ ถูกไหม :b1:

อย่างคุณโรสนี่ ฟุ้งซ่านเพราะกิเลสนิวรณ์ ถูกบ่คับ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสมาอีกแว้ว (แล้ว) :b13:

อ้างคำพูด:
สวัสดีครับผม ขออนุญาตสอบถามครับผม : สวดมนต์เป็นประจำทุกวัน นั่งสมาธิบ้างไม่ทุกวัน อาการที่ตามมาคือ จะมีความสงบเบากายเบาใจ นั่ง ยืน เดิน นอน ก็สุขทั้งๆที่กิเลสก็ยังมีอยู่ (แต่กิเลสก็เบาบางลงมาก ) นั่งอยู่คนเดียวก็ได้ทั้งวัน ข้าวปลาไม่กินก็ได้ รู้สึกเบาสบายในกาย ในใจ อาการนี้เรียกว่าเช่นไรอ่ะครับผม จึงเรียนถามจากท่านหน่อยครับผม



เคยพูดหลายครั้งว่า ผู้ปฏิบัติมักพูดว่า ผม/หนู/ดิฉัน ไม่รู้ครับ/ค่ะ ส่วนคนไม่เคยทำไม่เคยปฏิบัติไม่เคยภาวนาอะไรมาเลย จะรู้ทุกอย่าง ตัวอย่าง ก็คุณโรสไง :b16: :b12: ไม่น่าถามว่าใคร

ที่เป็นดังนั้น เพราะอะไร เพราะว่า ชีวิตจิตใจ รู้ได้ยาก ยิ่งทำไปปฏิบัติไปมันจะลึกละเอียดซับซ้อนซ้อนขึ้นทุกทีๆ ส่วนผู้ที่พูดพูดเนี่ย ใช้จินตนาการคือนึกคิดเอา จะมโนนึกไปนึกเอานึกให้เป็นออระหันก็นึกไปได้ ไปได้หมด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 14:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระเอกคนดังเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men’s Health ว่าการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด

"การนั่งสมาธิช่วยฝึกจิตใจ ทำให้สถานะทางด้านอารมณ์ของผมมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ลดการปรุงแต่งอารมณ์ลงได้ พอผมได้ลองทำดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องนั่งสมาธิก่อนสวดมนต์ สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิหมายถึงการวางทุกสิ่งทุกอย่างลง เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้กลับไปบ้าน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี เพราะว่าเราไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าในแต่ละวันจะพบเจอกับสถานการณ์อะไรในชีวิตประจำวันบ้าง การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีจิตใจที่นิ่งสงบ บังเกิดสันติขึ้นในใจ จนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่านี่คือวิถีทางอันทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็ตาม" ฮิวจ์กล่าว

"สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร เป็นเหมือนการพักผ่อนขั้นสูงสุด มันดีกว่าการนอนหลับ มันคือความเงียบของใจ ทำให้ทุกอย่างคมชัดและดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซาบซึ้งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ ทำให้ชีวิตสดชื่น"

httpxs://siampongsnews.blogspot.com/201 ... st_66.html


:b12:
อันนี้ต้องไตร่ตรองให้มากๆก็อยากสงบไม่ใช่เหรอถึงไปนั่งนั่นน่ะสงบตถาคตคือสงบจากกิเลสคือสงบจากไม่รู้
สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร
คริคริคริข้างบนที่บอกว่าไม่แสวงหาอะไรน่ะคือแสวงหาแล้วถึงไปทำคำตอบคือข้างล่าง
การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี
ดีคืออะไรก็ไม่รู้นั่งแบบไม่รู้ความจริงตามคำสอนเขาเรียกไม่รู้คือมีกิเลสค่ะไม่ดีเพราะเป็นสงบแบบเป็นอวิชชา
:b32: :b32:



มันสงบจากกิเลส อย่างน้อยๆนิวรณ์ก็สงบ ถูกไหม :b1:

อย่างคุณโรสนี่ ฟุ้งซ่านเพราะกิเลสนิวรณ์ ถูกบ่คับ :b13:

:b1:
ความจริงตรงปัจจุบันที่กำลังลืมตาดูมีก็ไม่ดูก็ไม่รู้ไงคะจึงเรียกว่ามีกิเลสค่ะ
ถึงคิดว่าต้องไปนั่งค้นหลับตาหาคริคริคริเขาเรียกว่ามีกิเลสแปลว่าไม่รู้ว่าไม่รู้
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระเอกคนดังเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men’s Health ว่าการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด

"การนั่งสมาธิช่วยฝึกจิตใจ ทำให้สถานะทางด้านอารมณ์ของผมมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ลดการปรุงแต่งอารมณ์ลงได้ พอผมได้ลองทำดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องนั่งสมาธิก่อนสวดมนต์ สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิหมายถึงการวางทุกสิ่งทุกอย่างลง เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้กลับไปบ้าน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี เพราะว่าเราไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าในแต่ละวันจะพบเจอกับสถานการณ์อะไรในชีวิตประจำวันบ้าง การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีจิตใจที่นิ่งสงบ บังเกิดสันติขึ้นในใจ จนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่านี่คือวิถีทางอันทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็ตาม" ฮิวจ์กล่าว

"สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร เป็นเหมือนการพักผ่อนขั้นสูงสุด มันดีกว่าการนอนหลับ มันคือความเงียบของใจ ทำให้ทุกอย่างคมชัดและดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซาบซึ้งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ ทำให้ชีวิตสดชื่น"

httpxs://siampongsnews.blogspot.com/201 ... st_66.html


:b12:
อันนี้ต้องไตร่ตรองให้มากๆก็อยากสงบไม่ใช่เหรอถึงไปนั่งนั่นน่ะสงบตถาคตคือสงบจากกิเลสคือสงบจากไม่รู้
สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร
คริคริคริข้างบนที่บอกว่าไม่แสวงหาอะไรน่ะคือแสวงหาแล้วถึงไปทำคำตอบคือข้างล่าง
การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี
ดีคืออะไรก็ไม่รู้นั่งแบบไม่รู้ความจริงตามคำสอนเขาเรียกไม่รู้คือมีกิเลสค่ะไม่ดีเพราะเป็นสงบแบบเป็นอวิชชา
:b32: :b32:



มันสงบจากกิเลส อย่างน้อยๆนิวรณ์ก็สงบ ถูกไหม :b1:

อย่างคุณโรสนี่ ฟุ้งซ่านเพราะกิเลสนิวรณ์ ถูกบ่คับ :b13:

:b1:
ความจริงตรงปัจจุบันที่กำลังลืมตาดูมีก็ไม่ดูก็ไม่รู้ไงคะจึงเรียกว่ามีกิเลสค่ะ
ถึงคิดว่าต้องไปนั่งค้นหลับตาหาคริคริคริเขาเรียกว่ามีกิเลสแปลว่าไม่รู้ว่าไม่รู้


ถ้ายังงั้น ลืมตาก็ไม่มีกิเลส ถูกไหมครับ ตอบแค่ถูกไม่ถูกก็พอ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ค. 2018, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เจโตวิมุตติ ความหลุดพ้นแห่งจิต, การหลุดพ้นจากกิเลสด้วยอำนาจการฝึกจิตหรือด้วยกำลังสมาธิ เช่น สมาบัติ ๘ เป็นเจโตวิมุตติอันละเอียดประณีต (สันตเจโตวิมุตติ)


ปัญญาวิมุต “ผู้หลุดพ้นด้วยปัญญา” หมายถึง พระอรหันต์ผู้สำเร็จด้วยบำเพ็ญวิปัสสนาโดยมิได้อรูปสมาบัติมาก่อน

ปัญญาวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยปัญญา, ความหลุดพ้นที่บรรลุด้วยการกำจัดอวิชชาได้ ทำให้สำเร็จอรหัตผล และทำให้เจโตวิมุตติ เป็นเจโตวิมุตติที่ไม่กำเริบ คือไม่กลับกลายได้อีกต่อไป

ปัญญา ความรู้ทั่ว, ปรีชาหยั่งรู้เหตุผล, ความรู้เข้าใจชัดเจน, ความรู้เข้าใจหยั่งแยกได้ในเหตุผล ดีชั่ว คุณโทษ ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ เป็นต้น และรู้ที่จะจัดแจง จัดสรร จัดการ ดำเนินการทำให้ลุผล ล่วงพ้นปัญหา, ความรอบรู้ในกองสังขารมองเห็นตามเป็นจริง

จิต, จิตต์ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์, สภาพที่นึกคิด, ความคิด, ใจ,

เจตสิก ธรรมที่ประกอบกับจิต, อาการหรือคุณสมบัติต่างๆของจิต เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง ศรัทธา เมตตา สติ ปัญญา

เจตนา ความตั้งใจ, ความมุ่งใจหมายจะทำ, เจตจำนง, ความจำนง, ความจงใจ,

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2018, 13:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระเอกคนดังเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men’s Health ว่าการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด

"การนั่งสมาธิช่วยฝึกจิตใจ ทำให้สถานะทางด้านอารมณ์ของผมมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ลดการปรุงแต่งอารมณ์ลงได้ พอผมได้ลองทำดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องนั่งสมาธิก่อนสวดมนต์ สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิหมายถึงการวางทุกสิ่งทุกอย่างลง เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้กลับไปบ้าน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี เพราะว่าเราไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าในแต่ละวันจะพบเจอกับสถานการณ์อะไรในชีวิตประจำวันบ้าง การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีจิตใจที่นิ่งสงบ บังเกิดสันติขึ้นในใจ จนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่านี่คือวิถีทางอันทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็ตาม" ฮิวจ์กล่าว

"สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร เป็นเหมือนการพักผ่อนขั้นสูงสุด มันดีกว่าการนอนหลับ มันคือความเงียบของใจ ทำให้ทุกอย่างคมชัดและดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซาบซึ้งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ ทำให้ชีวิตสดชื่น"

httpxs://siampongsnews.blogspot.com/201 ... st_66.html


:b12:
อันนี้ต้องไตร่ตรองให้มากๆก็อยากสงบไม่ใช่เหรอถึงไปนั่งนั่นน่ะสงบตถาคตคือสงบจากกิเลสคือสงบจากไม่รู้
สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร
คริคริคริข้างบนที่บอกว่าไม่แสวงหาอะไรน่ะคือแสวงหาแล้วถึงไปทำคำตอบคือข้างล่าง
การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี
ดีคืออะไรก็ไม่รู้นั่งแบบไม่รู้ความจริงตามคำสอนเขาเรียกไม่รู้คือมีกิเลสค่ะไม่ดีเพราะเป็นสงบแบบเป็นอวิชชา
:b32: :b32:



มันสงบจากกิเลส อย่างน้อยๆนิวรณ์ก็สงบ ถูกไหม :b1:

อย่างคุณโรสนี่ ฟุ้งซ่านเพราะกิเลสนิวรณ์ ถูกบ่คับ :b13:

:b1:
ความจริงตรงปัจจุบันที่กำลังลืมตาดูมีก็ไม่ดูก็ไม่รู้ไงคะจึงเรียกว่ามีกิเลสค่ะ
ถึงคิดว่าต้องไปนั่งค้นหลับตาหาคริคริคริเขาเรียกว่ามีกิเลสแปลว่าไม่รู้ว่าไม่รู้


ถ้ายังงั้น ลืมตาก็ไม่มีกิเลส ถูกไหมครับ ตอบแค่ถูกไม่ถูกก็พอ

ไม่มีคำตอบที่ถูกมาให้เลือกเหตุผลคือข้างล่างอ่านสิเข้าใจไหมคะ
กิเลสมีมาก่อนเกิดโน่นน่ะมีความไม่รู้ไงคะถึงเกิดมาอยู่นี้น่ะ
จะลืมตาหรือจะหลับตากิเลสความไม่รู้อวิชชามันอยู่ที่จิตแล้วนี่
แต่ปัญญาจะเริ่มมีตอนเริ่มสะสมสุตมยปัญญาถ้าไม่ทำปัญญากิเลสใหม่ก็เกิดต่อไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ค. 2018, 16:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
พระเอกคนดังเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Men’s Health ว่าการนั่งสมาธิในทางพระพุทธศาสนาช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างเห็นได้ชัด

"การนั่งสมาธิช่วยฝึกจิตใจ ทำให้สถานะทางด้านอารมณ์ของผมมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ลดการปรุงแต่งอารมณ์ลงได้ พอผมได้ลองทำดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงต้องนั่งสมาธิก่อนสวดมนต์ สำหรับผมแล้วการนั่งสมาธิหมายถึงการวางทุกสิ่งทุกอย่างลง เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้กลับไปบ้าน นั่นคือความรู้สึกของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี เพราะว่าเราไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อนว่าในแต่ละวันจะพบเจอกับสถานการณ์อะไรในชีวิตประจำวันบ้าง การฝึกสมาธิจะทำให้เรามีจิตใจที่นิ่งสงบ บังเกิดสันติขึ้นในใจ จนเราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่านี่คือวิถีทางอันทรงพลังมากที่สุดซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็ตาม" ฮิวจ์กล่าว

"สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร เป็นเหมือนการพักผ่อนขั้นสูงสุด มันดีกว่าการนอนหลับ มันคือความเงียบของใจ ทำให้ทุกอย่างคมชัดและดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซาบซึ้งกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ ทำให้ชีวิตสดชื่น"

httpxs://siampongsnews.blogspot.com/201 ... st_66.html


:b12:
อันนี้ต้องไตร่ตรองให้มากๆก็อยากสงบไม่ใช่เหรอถึงไปนั่งนั่นน่ะสงบตถาคตคือสงบจากกิเลสคือสงบจากไม่รู้
สมาธิคือการไม่แสวงหาอะไร
คริคริคริข้างบนที่บอกว่าไม่แสวงหาอะไรน่ะคือแสวงหาแล้วถึงไปทำคำตอบคือข้างล่าง
การนั่งสมาธิช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นเรื่องดี
ดีคืออะไรก็ไม่รู้นั่งแบบไม่รู้ความจริงตามคำสอนเขาเรียกไม่รู้คือมีกิเลสค่ะไม่ดีเพราะเป็นสงบแบบเป็นอวิชชา
:b32: :b32:



มันสงบจากกิเลส อย่างน้อยๆนิวรณ์ก็สงบ ถูกไหม :b1:

อย่างคุณโรสนี่ ฟุ้งซ่านเพราะกิเลสนิวรณ์ ถูกบ่คับ :b13:

:b1:
ความจริงตรงปัจจุบันที่กำลังลืมตาดูมีก็ไม่ดูก็ไม่รู้ไงคะจึงเรียกว่ามีกิเลสค่ะ
ถึงคิดว่าต้องไปนั่งค้นหลับตาหาคริคริคริเขาเรียกว่ามีกิเลสแปลว่าไม่รู้ว่าไม่รู้


ถ้ายังงั้น ลืมตาก็ไม่มีกิเลส ถูกไหมครับ ตอบแค่ถูกไม่ถูกก็พอ

ไม่มีคำตอบที่ถูกมาให้เลือกเหตุผลคือข้างล่างอ่านสิเข้าใจไหมคะ
กิเลสมีมาก่อนเกิดโน่นน่ะมีความไม่รู้ไงคะถึงเกิดมาอยู่นี้น่ะ
จะลืมตาหรือจะหลับตากิเลสความไม่รู้อวิชชามันอยู่ที่จิตแล้วนี่
แต่ปัญญาจะเริ่มมีตอนเริ่มสะสมสุตมยปัญญาถ้าไม่ทำปัญญากิเลสใหม่ก็เกิดต่อไงคะ
:b32: :b32:


มาอีกแระสุตมยปัญญา คิกๆๆ แม่บริหาร ฯ พูดแต่สุตะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สุตมยปัญญาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แค่นี้น่าหรือ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร