เงียบ

คำตอบมันโยงกันได้หมดแหละ


สงสัยคือนิวรณธรรม...หัดเป็นผู้ฟังที่ดีเองบ้าง
ไม่ใช่ฟังไปอคติไปแต่งต่อเติมเสริมเข้าไปอีก
ฟังให้เข้าใจสิ่งที่กำลังฟังตรงตามที่กำลังฟัง
จะได้เริ่มมีปัญญาเป็นของตนเองบ้างนะคะ

คือพูดไปยังงั้นเอง ไม่ได้เข้าใจอะไรหรอก นี่ขนาดถามชัดๆ เป็นข้อๆ ขนาดนั้นแล้วนะ คิกๆๆ

ถาม จิต เจตสิก รูป เป็นคนๆหนึ่งๆไหม

1. ไม่ใช่คน

2. เป็นรูปนาม

ตอบข้อไหน

ไม่เข้าใจหรือคะว่าทุกอย่างเป็นธัมมะคือสิ่งที่กำลังมีจริงๆทีละ1ปรมัตถสัจจะเป็นอภิธัมมะ
ที่เป็นจิตหรือเป็นเจตสิกหรือเป็นรูปหรือเป็นนิพพานที่สะสมแต่ละ1ไม่มีเราไม่เขาหรือคน
ตนต้องรู้ทันสิ่งที่กำลังปรากฏว่ามีทีละ1ของตนไม่ทันคือไม่รู้แปลว่ามีกิเลสอวิชชาไงคะ

ปหาน ไม่ใช่ประหาร

ปริญญา การกำหนดรู้, การทำความเข้าใจโดยครบถ้วน มี ๓ คือ

๑. ญาตปริญญา กำหนดรู้ขั้นรู้จัก

๒. ตีรณปริญญา กำหนดรู้ขั้นพิจารณา

๓. ปหานปริญญา กำหนดรู้ขั้นละได้



1. อุทยัพพยานุปัสสนา หรือเรียกสั้นๆว่า อุทยัพพยญาณ ญาณหรือปัญญา อันตามเห็นความเกิดดับ คือ พิจารณาความเกิดขึ้นและความดับไปแห่งเบญจขันธ์ จนเห็นปัจจุบันธรรมที่กำลังเกิดขึ้น และดับสลายไปๆ ชัดเจน เข้าใจภาวะที่เป็นของไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่อยู่ในบังคับบัญชาตามความอยากของใคร หยั่งทราบว่า สิ่งทั้งหลาย เกิดขึ้น ครั้นแล้ว ก็ต้องดับไป ล้วนเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปทั้งหมด เมื่อเกิดการรับรู้ หรือเคลื่อนไหวใดๆ ในแต่ละขณะ ก็มองเห็นนามธรรม รูปธรรม และตัวรู้หรือผู้รู้ที่เกิดขึ้นแล้วทั้งรูปธรรม นามธรรม และตัวรู้นั้นก็ดับไปพร้อมกันทั้งหมด เป็นความรู้เห็นชัดแก่กล้า (พลววิปัสสนา) ทำให้ละนิจจสัญญา สุขสัญญา และอัตตสัญญาได้

จุดสตาร์ท

ถาม จิต เจตสิก รูป เป็นคนๆหนึ่งๆไหม เพิ่มช้อยให้เลือกมากขึ้น

1. ไม่ใช่คน

2.เป็นคน

3. เป็นรูปนาม

4. ผิดทั้งหมด

5.ถูกทั้งหมด

ตอบข้อไหน

เอาละ...นี้คือหนึ่งในอาการของคนหลับในสมาธิ..หลับไปจริงจริง...หลับสนิท

ใครที่เข้าใจอย่างนี้....รู้น้อยเต็มทน

ใครที่สอนคนให้เข้าใจอย่างนี้....นอกจากจะรักษาพระศาสนาไม่ได้แล้ว...ยังเป็นสนิมเนื้อในเหล็กอีกด้วย..เพราะรู้น้อยแต่ขยันสอนซะเหลือเกิน

หลับสนิทน่ะเป็นภวังค์นาน1ชั่วโมงเป็นภวังคจิตไม่ใช่วิถีจิตที่จะคิดตามคำสอนได้เลยแม้แต่น้อย
แต่เดี๋ยวนี้ที่ลืมตาอยู่นี้มีวิถีจิตที่จะคิดเข้าใจตามคำสอนได้เป็นขณะๆแต่เมื่อไม่ฟังจึงเกิดแต่กิเลส
มีภวังคจิตแทรกคั่นจิตทุกขณะเมื่อไม่คิดตามคำสอนจึงมีความจริงเกิดกะอวิชชาของตนเองไงคะ
อ่านทบทวนคิดตามหลับสนิทไม่มีวิถีจิตเลยคือ( )แต่วิถีจิตตอนลืมตาตื่นมีภวังค์คั่นนิดๆ(..........)
วิถีจิตเป็นเป็นที่เกิดของกิเลสและปัญญาและขณะจิตมีกิเลสเป็นอกุศล/ขณะจิตมีสติปัญญาเป็นกุศล
และสติไม่เกิดกับอกุศล...จิตและเจตสิกเป็นนามธรรม...รูปคือรูปธรรม...นิพพานคือนิพพานเป็นธัมมะ

https://teen.mthai.com/variety/86533.html

ทำให้นึกถึงพุทธทำนายอันหนึ่งขึ้นมาได้
.............................................


12. ทรงฝันเห็น กระโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้

พระพุทธองค์ทรงทำนายว่า ต่อไปคำพูดของคน ที่ไม่ควรจะ ได้รับความเชื่อถือ กลับจะได้รับความเชื่อถือ โดยเปรียบถ้อยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้ำหนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติจะลอยน้ำ แต่เมื่อคนเชื่อว่าคำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนัก หรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้นว่ามีน้ำหนักราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้
.............................................

กบจ๋าปัญญาเกิดเองไม่ได้เลยนะคะต้องอาศัยการฟังเพื่อเข้าใจเท่านั้นไม่ใช่ไปทำตาม
คนไม่เข้าใจก็คิดว่าต้องทำเพราะพระพุทธเจ้าทำมาก่อน555แต่รู้ไหมเพราะรู้ไงคะว่า
คนจะไม่ฟังเพราะคิดว่าแสดงอิทธิฤทธิ์ได้เป็นปัญญาดูอย่างพระเทวทัตสิคะไปนรก
เพราะยังไม่ถึงโสดาบันถูกไหมแล้วที่พากันนั่งหลับตาทำฌานน่ะไม่ใช่ทำญาณนะคะ
คำสอนตรงไปตรงมาทำฌานที่เขาสอนๆกันคือเริ่มที่หลับตานั่งขัดสมาธิแล้วจะรู้เอง
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้าให้เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานตอนฟังแล้วเข้าใจถูกตามเท่านั้น
ไม่ใช่ไปหลับตาหาจิตเห็นรู้เปล่าฉลาดไหมคิดว่าหนังที่มาฉายให้ดูในชาติสุดท้ายทำนั่งหลับตา555
อ่านตรงนี้ให้เข้าใจชัดๆยุคพันปีที่3ไม่มีพระอรหันต์และบรรลุได้แค่อนาคามีและบวชรับเงินปิดกั้นมรรคผล
และนิพพานไปไม่ได้แน่นอนเพราะอาบัติกั้นมรรคผลนิพพานได้ฌานแบบพระเทวทัตไงคะคิดว่ามีฤทธิ์แต่
บรรลุคุณธรรมไม่ได้ไงคะส่วนฆราวาสอุบาสกอุบาสิกาบรรลุได้ถึงอรหันต์ได้เหมือนกันบวชตอนถึงอรหันต์
เพราะฉะนั้นก็บรรลุอนาคามีได้โดยไม่ต้องถือครองจีวรถูกไหมแต่ครองจีวรใช้เงินต้องตกนรกแทนไงล่ะคะ
การบอกความจริงให้เข้าใจไม่ใช่สอนค่ะเพราะไม่มีใครสอนใครได้แต่บอกกล่าวตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
พุทธบริษัท4คือผู้รักษาร่วมกันเมื่อบริษัทใดทำผิดต้องป่าวประกาศ/ปิดกันให้แซดเลยนี่บวชรับเงินเนี่ย...หือๆๆๆ

พระพุทธเจ้าแสดงความจริงเกี่ยวกับภิกษุในธรรมวินัยที่รับเงินว่างี้นะคะ
ภิกษุหยากเยื่อ อลัชชี ไม่ละอาย ปล้นศาสนาของตถาคตทำเพื่อลาภสักการะ
ย่ำยีสิกขาบทน้อยใหญ่ทำลายคำสอนเป็นมหาโจรเศรษฐีหัวโล้นตรงจริงไหม
ดูความจริงของพฤติกรรมผู้ที่เรียกตนเองว่าบรรพชิตเทียบคำสอนดูก็เห็นนี่คะ

รู้ได้ยังไงว่ากรัชกายพูดจริง กบจึงรับรองเช่นนั้น

พุทธศาสนาจะหมดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะมีคนเช่นคุณโรสมากล้น คิกๆๆ อ้าวนี่พูดจริงๆนะ

เห็นคุณโรสพูดหลายครั้ง จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน นี่ลงไว้ก่อน เดี๋ยวตัวอย่างมีตามมา

เอกัคคตา ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว คือ ความมีจิตต์แน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียว ได้แก่ สมาธิ (ในพจนานุกรม เขียน เอกัคตา)