วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 128 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2016, 06:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มาที่การกลั้นลมหายใจ..

เคยบอกไปแล้วว่า..เด็ก ๆ

ถ้าลุงหมานมาอ่าน..ก็คงจะว่าผมชอบพูดยกตนข่มอโสกะ.. :b32: :b32:

แต่..เด็ก ๆ จริง ๆ..คือ..ทำตั้งสมัยเด็ก ๆ...อายุราว 10-12 ขวบ

ก็เลยอยากรู้ว่า..อโสกะเจออะไรบ้าง (คาดใว้แล้วว่าอโสกะต้องแปลกๆแน่..อิอิ)

asoka เขียน:
grin
โธ่เอ๋ยพากันฟุ้งกระจายไปกันเสียไกลเลยทั้งกบทั้งกรัชกาย เรื่องง่ายๆมาโยงไปหาเรื่องยากๆ

กลับมาก่อนมาตอบว่า ลองทำแบบฝึกหัดสังเกตลมหายใจแล้วมีอะไรเกิดขึ้นที่กายบ้าง มีอะไรเกิดขึ้นที่จิตบ้าง

ถ้าลงมือทำจริงๆพอกลั้นลมหายใจจะเห็นอาการที่กายซึ่งเป็นของหยาบก่อน คือ อึดอัด แน่นหน้าอกเหงื่อซึม หูอื้อ
หัวใจเต้นแรงอาจมีอาการอื่นๆอีกหลายอย่างตามแต่ผู้ปฏิบัติจะสังเกตเห็นรวมๆแล้วก็คือทุกข์ทางกายจะเกิดขึ้นและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อย จนเห็นความทุกข์ทางใจคือทุรนทุราย จิตดิ้นรน อยากหายใจออก บีบคั้น คับแค้น กลัวตายทนแทบไม่ได้ กลั้นใจสู้ต่อ สุดท้ายทุกข์สุดขีดทนกลั้นหายใจต่อไม่ได้ ปล่อยลมหายใจออกอย่างแรง

สังเกตต่อก็จะเห็นความเบา สบาย โล่ง หมดทุกข์หมดความบีบคั้น เป็นสุข

วิเคราะห์ผลการทดลองทำตามแบบฝึกหัดนี้โดยอิงหลักธรรมของพระพุทธเจ้าทำให้ได้พบว่า

เริ่มต้นเอาอัตตา กู มาสั่งบังคับลมหายใจให้สูดเข้าปอดให้เต็มที่แล้วห้ามไม่ให้หายใจออก
ธรรมชาติของการหายใจถูกขัดขวาง จึงเกิดทุกขังขึ้นทั้งในกายและในใจทวีแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดวิกฤต ทนอยู่ไม่ได้ ซึ่งก็คือตัวทุกขังหรือทุกขสัจจะจริงๆนั่นเอง
ในที่สุดก็ต้องปล่อยลมหายใจออกเป็นอนิจจัง ทันใดนั้น นิโรธ ความดับทุกข์หรือสุขก็เกิดขึ้นมาแทนทันทีเมื่อปล่อยคำสั่งของอัตตา กู จิตใจตอนที่โล่ง โปร่งเบาสบายเป็นสุขนั้นเป็นตอนที่จิตเป็นอนัตตา ไม่มีกู นิโรธก็เกิดขึ้นแทนทันที

มีอัตตาก็มีทุกข์ หมดอัตตาหรือใจเป็นอนัตตาสุขก็เกิดทันที

มีอัตตาไปขัดขวางธรรมชาติ ทุกข์ก็เกิดทันที หมดอัตตา สุขก็เกิดทันที และยิ่งซึ้งยิ่งขึ้นว่า ธรรมทั้งหมดทั่งปวงเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้จริงๆ ความโง่ ความเห็นผิด ยึดผิด ที่เรียกว่าอวิชชานี้เองที่ทำให้ไปหลงพยายามบังคับธรรมชาติที่บังคับไม่ได้ ทุกข์จึงเกิดตลอดกาล

เพียงแค่การทดลองปฏิบัติเรื่องการสังเกตลมหายใจนี้ เราก็สามารถลัดเข้าไปเห็นความจริงตัวอย่างตามธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อัตตา นิโรธ สุข ทุกข์ เหตุทุกข์ ผลทุกข์ เหตุสุข ผลสุขเป็นอย่างไร


ก็น่าชมอโสกะอยู่นะ..ที่รู้จักคิดหาธรรมะจากสิ่งที่ประสพพบเห็น

แต่การใช้ศัพท์แสงพระธรรมของพระบรมศาสดา...ต้องระมัดระวัง...อโสกะอาจจะกลายเป็นผู้ทำลายพระธรรมซะเองก็เป็นได้..

จาก....เริ่มต้นเอาอัตตา กู มาสั่งบังคับลมหายใจให้สูดเข้าปอดให้เต็มที่แล้วห้ามไม่ให้หายใจออก
ธรรมชาติของการหายใจถูกขัดขวาง จึงเกิดทุกขังขึ้นทั้งในกายและในใจทวีแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดวิกฤต ทนอยู่ไม่ได้ ซึ่งก็คือตัวทุกขังหรือทุกขสัจจะจริงๆนั่นเอง


ทุกขัง...ตัวนี้..อโสกะหมายถึง..ทุกขังในไตรลักษณะ..รึ..ทุกข์ในอริยะสัจ.(คงหมายถึงทุกข์ในอริยะสัจ)

เด้วมาดูกันว่า..อโสกะเข้าใจหรือเห็นตามจริงรึไม..นะ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 02:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ (อึดอัดขัดเคือง กลัวตาย อยากหายใจออก) นี่ทุกขสัจจะ

ที่สุดทนอยู่ไม่ได้ต้องหายใจออก นี่ทุกขัง
:b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 06:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
ประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ (อึดอัดขัดเคือง กลัวตาย อยากหายใจออก) นี่ทุกขสัจจะ

ที่สุดทนอยู่ไม่ได้ต้องหายใจออก นี่ทุกขัง
:b11:


:b9: :b9: :b9:

ทุกข์...ทุกข์..ทุกข์อะไรก็ไม่รู้.. huh huh huh

ทุกขเวทนา....นี้ก็ทุกข์มั้ย?...

ทุกขสัจจ..ทุกข์ในอริยะสัจ

ทุกขัง...ทุกข์ในพระไตรลักษณ์..

ทุกข์...ทุกข์...ทุกข์...นี้มันเหมือนกันมั้ย? huh huh


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 06:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

วิเคราะห์ผลการทดลองทำตามแบบฝึกหัดนี้โดยอิงหลักธรรมของพระพุทธเจ้าทำให้ได้พบว่า

เริ่มต้นเอาอัตตา กู มาสั่งบังคับลมหายใจให้สูดเข้าปอดให้เต็มที่แล้วห้ามไม่ให้หายใจออก
ธรรมชาติของการหายใจถูกขัดขวาง จึงเกิดทุกขังขึ้นทั้งในกายและในใจทวีแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดวิกฤต ทนอยู่ไม่ได้ ซึ่งก็คือตัวทุกขังหรือทุกขสัจจะจริงๆนั่นเอง
ในที่สุดก็ต้องปล่อยลมหายใจออกเป็นอนิจจัง ทันใดนั้น นิโรธ ความดับทุกข์หรือสุขก็เกิดขึ้นมาแทนทันทีเมื่อปล่อยคำสั่งของอัตตา กู จิตใจตอนที่โล่ง โปร่งเบาสบายเป็นสุขนั้นเป็นตอนที่จิตเป็นอนัตตา ไม่มีกู นิโรธก็เกิดขึ้นแทนทันที

มีอัตตาก็มีทุกข์ หมดอัตตาหรือใจเป็นอนัตตาสุขก็เกิดทันที

มีอัตตาไปขัดขวางธรรมชาติ ทุกข์ก็เกิดทันที หมดอัตตา สุขก็เกิดทันที และยิ่งซึ้งยิ่งขึ้นว่า ธรรมทั้งหมดทั่งปวงเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้จริงๆ ความโง่ ความเห็นผิด ยึดผิด ที่เรียกว่าอวิชชานี้เองที่ทำให้ไปหลงพยายามบังคับธรรมชาติที่บังคับไม่ได้ ทุกข์จึงเกิดตลอดกาล



ในบทเรียก...การกลั้นลมหายใจ...สุดสุุด...
สิ่งที่จะพบในบทเรียนนี้...

..จะเห็นทุกขเวทนา...ที่ร่างกายมันสร้าง...
..จะเห็นว่า...ระบบของร่างกาย(ขันธ์5)มีการจัดการรักษาปกป้องตัวเองอยู่นอกเหนือการสั่งการของสมอง..การหายใจอยู่อีกระบบหนึ่งที่ทำงานได้ไม่ขึ้นกับการสั่งการของเรา...เราจึงไม่มีทางฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจได้เลย..

อโสกะ...อึดอัดเจอทุกขเวทนา...ก็เข้าใจว่าทุกขสัจจะก็เป็นอย่างนี้แหละ

พอโล่งจากการหายใจออก..เจอสุขเวทนา..ก็เข้าใจว่านิโรธก็เป็นอย่างนี้แหละ

หากกล่าวแต่พอเป็นการอุปมาอุปมัย...ก็พอจะรับฟังได้

แต่ไม่อย่างนั้นนะซิ.....อโสกะ...มักเข้าใจผิดในอัตตา..(ถ้าติดตามความคิดอโสกะเรื่อยๆ)

อโสกะ...มักคิดว่าความจงใจ..เจตนา..เป็นอัตตา..ดั่งที่การยกตัวอย่างเรื่องการกลั้นลมหายใจ..."เอาอัตตา..กู..มาสั่งบังคับลมหายใจ"

พออโสกะ..เข้าใจว่า..เจตนา..การจงใจ..เป็นอัตตา
บ่อยครั้งที่อโสกะ...แสดงทรรศนะทำนอง..การพิจารณาเป็นอัตตาจะเป็นการวิปัสสนาได้อย่างไร...
อโสกะ...จึงมาท่าเดียว..คือ...ดูปัจจุบัน..อย่าใส่เจตนา..อย่าจงใจ....เป็นวิปัสสนา

ปัญหา...มันอยู่ก็ตรงความคิดของอโสกะ..นี้แหละ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ (อึดอัดขัดเคือง กลัวตาย อยากหายใจออก) นี่ทุกขสัจจะ

ที่สุดทนอยู่ไม่ได้ต้องหายใจออก นี่ทุกขัง


แล้วท่านอโศกจะกลั้นหายใจทำไมครับ หรือจะค้นหาทุกข์หาธรรม คิกๆๆ ทำเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น แม่ไม่ซื้อให้ ก็ว่า ถ้ายังงั้นหนูจะกลั้นใจตาย :b32: เวรกรรมแท้ๆ ทำเหมือนผู้ใหญ่มีปัญหา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ (อึดอัดขัดเคือง กลัวตาย อยากหายใจออก) นี่ทุกขสัจจะ

ที่สุดทนอยู่ไม่ได้ต้องหายใจออกนี่ทุกขัง



ถามวิธีกลั้นลมหายใจ เพ่ิ่มเติมหน่อย คือ ท่านอโศกกลั้นลมหายใจไว้ได้กี่นาทีแล้วครับ

ขั้นที่ 1. กลั้นลมไว้ได้ 2 นาทีแล้วปล่อย =โสดาบัน

ขั้นที่ 2. กลั้นลมไว้ได้ 3 นาทีแล้วปล่อย =สกทาคามี

ขั้นที่ 3. กลั้นลมไว้ได้ 4 นาทีแล้วปล่อย = อนาคามี

ขั้นที่ 4. กลั้นลมไว้ได้ 5 นาทีแล้วปล่อย = อรหันต์ จบกิจ ไม่เวียนตายเกิดอีกแล้ว ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย พอกันทีเบื่อชีวิตเหลือทนแล้ว

ท่านอโศกกลั้นลมถึงระดับขั้นไหนแล้วครับ :b10: :b14:


ขั้นพิเศษ กลั้นใจได้ 6 นาที เป็นพุทธะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 07:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศกขอรับ :b8:

ยอมรับมั้ยว่า ตนเองปฏิบัติผิด คือ เป็นมิจฉาปฏิปทา สร้างทุกข์ทับตนเข้าไปอีก

รับมั้ยว่าผิดไปแล้ว :b10: :b14:

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 08:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

ประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ (อึดอัดขัดเคือง กลัวตาย อยากหายใจออก) นี่ทุกขสัจจะ

ที่สุดทนอยู่ไม่ได้ต้องหายใจออก นี่ทุกขัง


แล้วท่านอโศกจะกลั้นหายใจทำไมครับ หรือจะค้นหาทุกข์หาธรรม คิกๆๆ ทำเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น แม่ไม่ซื้อให้ ก็ว่า ถ้ายังงั้นหนูจะกลั้นใจตาย :b32: เวรกรรมแท้ๆ ทำเหมือนผู้ใหญ่มีปัญหา

s004
โห!..?.......ไม่น่าจะเป็นกรัชกายผู้เรืองวิชาเลยนะนี่?€£¥₩

บอกแต่ต้นแล้วว่านี่คือแบบฝึกหัดหรือบทศึกษา สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ หรือผู้เก่าที่หลงจนหาทางออกไม่ได้

:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

ประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์ (อึดอัดขัดเคือง กลัวตาย อยากหายใจออก) นี่ทุกขสัจจะ

ที่สุดทนอยู่ไม่ได้ต้องหายใจออก นี่ทุกขัง


แล้วท่านอโศกจะกลั้นหายใจทำไมครับ หรือจะค้นหาทุกข์หาธรรม คิกๆๆ ทำเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น แม่ไม่ซื้อให้ ก็ว่า ถ้ายังงั้นหนูจะกลั้นใจตาย :b32: เวรกรรมแท้ๆ ทำเหมือนผู้ใหญ่มีปัญหา

s004
โห!..?.......ไม่น่าจะเป็นกรัชกายผู้เรืองวิชาเลยนะนี่?€£¥₩

บอกแต่ต้นแล้วว่านี่คือแบบฝึกหัดหรือบทศึกษา สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ หรือผู้เก่าที่หลงจนหาทางออกไม่ได้

:b13: :b13: :b13:



รับกลายๆแล้วใช่ไหมว่า ท่านอโศกหลงจนหาทางออกไม่ได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 08:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งแต่เราสนทนาเรื่องนี้กันมา กรัชกายพอรู้แล้วว่า ท่านอโศกรู้ตัวแล้วว่า ปฏิบัติผิดมานาน แต่จะรับตรงๆว่าผิด ก็ยังไว้ลาย (ลายอัตตา)

ถ้าพอรู้ว่าเข้าใจผิดแล้ว กรัชกายไม่ต้องการคำตอบจากปากโดยตรงแล้วก็ได้ครับ :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อัตตา - อนัตตา เป็นหลักทางปัญญาที่สำคัญยิ่ง

พระพุทธศาสนาสอนเรื่องนี้ไว้ ถ้าพูดเป็นภาษาธรรมดา ก็ว่าอัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถอะ ได้ประโยชน์ดีจริงๆ ท่านสอนให้พัฒนาไปจนถึงที่สุด แล้วจะประสบพบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีขึ้นเมื่อไรเป็นปัญหาทุกที เกิดอัตตาขึ้นมาเมื่อไรก็ยุ่งเมื่อนั้น มีปัญหา เกิดทุกข์ เกิดการกระทบกระทั่งอะไรต่างๆ

พระพุทธศาสนามีคำสอนว่าด้วยอัตตา หรือตัวตนนี้มากมาย เช่น

อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนเป็นทีพึ่งของตน

อตฺตทีปา อตฺตสรณา จงมีตนเป็นเกาะ จงมีตนเป็นที่พึ่ง

อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตัว

อตฺตานญฺจ ปิยํ ชญฺญา น นํ ปาเปน สํยุเช หากรู้ว่าตัวนี้เป็นที่รัก ก็ไม่ควรเอาตัวนั้นไปเกลือกกลั้วกับความชั่ว

ฯลฯ

เรื่องตัวเรื่องตนนี้ พระพุทธศาสนาสอนไว้มากมาย ในระดับตัวตนสมมตินี้ ที่มันไม่มีนี่แหละ พระพุทธศาสนาพูดเต็มที่เลย ให้ใช้ ให้ปฏิบัติ ให้พัฒนามัน จะเป็นประโยชน์ดีเหลือเกิน ท่านไม่มาเที่ยวพูดยุ่งในระดับสมมติ ว่าไม่มีอัตตา

แต่ในระดับปรมัตถ์ ท่านให้รู้เท่าทันว่าอัตตามันไม่ใช่เป็นของจริง ถ้ามันมีขึ้นมาเมื่อไร เกิดยึดถือขึ้นเมื่อไร เป็นเกิดโทษทุกที ปัญหาจะมา

จึงบอกว่า อัตตาที่ไม่มีนั้น พัฒนาไปเถิด จะประสบสิ่งที่เลิศประเสริฐยิ่ง แต่อัตตามีเมื่อไร เกิดปัญหาทุกที

อัตตาที่ไม่มีนั้น ใช้มันไปเถิดอย่างรู้กันและรู้ทัน ส่วนอัตตาที่จะมีก็ให้รู้แจ้งรู้ทัน มันจะได้ไม่เกิดขึ้นมา

ยิ่งพัฒนาอัตตาที่ไม่มีขึ้นไป อัตตาที่จะมีก็ยิ่งไม่เกิดขึ้นมา อันนี้ ก็ตีให้แตกด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 08:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:

วิเคราะห์ผลการทดลองทำตามแบบฝึกหัดนี้โดยอิงหลักธรรมของพระพุทธเจ้าทำให้ได้พบว่า

เริ่มต้นเอาอัตตา กู มาสั่งบังคับลมหายใจให้สูดเข้าปอดให้เต็มที่แล้วห้ามไม่ให้หายใจออก
ธรรมชาติของการหายใจถูกขัดขวาง จึงเกิดทุกขังขึ้นทั้งในกายและในใจทวีแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดวิกฤต ทนอยู่ไม่ได้ ซึ่งก็คือตัวทุกขังหรือทุกขสัจจะจริงๆนั่นเอง
ในที่สุดก็ต้องปล่อยลมหายใจออกเป็นอนิจจัง ทันใดนั้น นิโรธ ความดับทุกข์หรือสุขก็เกิดขึ้นมาแทนทันทีเมื่อปล่อยคำสั่งของอัตตา กู จิตใจตอนที่โล่ง โปร่งเบาสบายเป็นสุขนั้นเป็นตอนที่จิตเป็นอนัตตา ไม่มีกู นิโรธก็เกิดขึ้นแทนทันที

มีอัตตาก็มีทุกข์ หมดอัตตาหรือใจเป็นอนัตตาสุขก็เกิดทันที

มีอัตตาไปขัดขวางธรรมชาติ ทุกข์ก็เกิดทันที หมดอัตตา สุขก็เกิดทันที และยิ่งซึ้งยิ่งขึ้นว่า ธรรมทั้งหมดทั่งปวงเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้จริงๆ ความโง่ ความเห็นผิด ยึดผิด ที่เรียกว่าอวิชชานี้เองที่ทำให้ไปหลงพยายามบังคับธรรมชาติที่บังคับไม่ได้ ทุกข์จึงเกิดตลอดกาล



ในบทเรียก...การกลั้นลมหายใจ...สุดสุุด...
สิ่งที่จะพบในบทเรียนนี้...

..จะเห็นทุกขเวทนา...ที่ร่างกายมันสร้าง...
..จะเห็นว่า...ระบบของร่างกาย(ขันธ์5)มีการจัดการรักษาปกป้องตัวเองอยู่นอกเหนือการสั่งการของสมอง..การหายใจอยู่อีกระบบหนึ่งที่ทำงานได้ไม่ขึ้นกับการสั่งการของเรา...เราจึงไม่มีทางฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจได้เลย..

อโสกะ...อึดอัดเจอทุกขเวทนา...ก็เข้าใจว่าทุกขสัจจะก็เป็นอย่างนี้แหละ

พอโล่งจากการหายใจออก..เจอสุขเวทนา..ก็เข้าใจว่านิโรธก็เป็นอย่างนี้แหละ

หากกล่าวแต่พอเป็นการอุปมาอุปมัย...ก็พอจะรับฟังได้

แต่ไม่อย่างนั้นนะซิ.....อโสกะ...มักเข้าใจผิดในอัตตา..(ถ้าติดตามความคิดอโสกะเรื่อยๆ)

อโสกะ...มักคิดว่าความจงใจ..เจตนา..เป็นอัตตา..ดั่งที่การยกตัวอย่างเรื่องการกลั้นลมหายใจ..."เอาอัตตา..กู..มาสั่งบังคับลมหายใจ"

พออโสกะ..เข้าใจว่า..เจตนา..การจงใจ..เป็นอัตตา
บ่อยครั้งที่อโสกะ...แสดงทรรศนะทำนอง..การพิจารณาเป็นอัตตาจะเป็นการวิปัสสนาได้อย่างไร...
อโสกะ...จึงมาท่าเดียว..คือ...ดูปัจจุบัน..อย่าใส่เจตนา..อย่าจงใจ....เป็นวิปัสสนา

ปัญหา...มันอยู่ก็ตรงความคิดของอโสกะ..นี้แหละ

s004
อืม!.....กบนี่ก็วิเคราะห์ได้เก่งเข้าเค้าอยู่นะที่เห็นการภาวนาแบบไร้กู

:b4:
ถามว่าตอนที่กลั้นหายใจนั้นทุกขสัจจะเกิดขึ้นใช่ไหม? = ทุกข์เกิด เกิดขึ้นที่กายก่อนพอรุนแรงมากขึ้นๆก็เกิดขึ้นที่ใจ
..........
พอถึงจุดวิกฤตสุดขีดสุดทนที่จะกลั้นไว้ได้นั่นเป็น ทุกขัง จริง ใช่ไหม? ลองทำดูจริงๆหรือยังหรือนั่งคิดนั่งเทียนเอาเดาเอา

ปล่อยลมหายใจออก(โซ่......)ปั๊บ ทุกข์ดับ ทุกขสัจจะทั้งในกายในใจดับ
ตอนที่ทุกดับนี้เป็น นิโรธะสัจจะ ใช่ไหม? ใช่ไม่ใช่ ตอบมา

หลังจากนั้น สุขเกิด ที่กบเรียกว่า "สุขเวทนา"นั้นใช่แล้ว สุขเวทนาเป็นผลพลอยได้จากการที่ นิโรธ หรือ ทุกข์ดับ มันเกิดแต่เกิดชั่วพริบตาเดียว สติปัญญาหยาบกร้านอย่างกบและกรัชกายมองไม่ทันเห็นหรอก ต้องมาฝึกทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนาอย่างจริงจังด้วยกันสักครั้งจนสติปัญญาคมกล้าจึงจะเห็นทันได้

อ้อ!....ลงท้ายทั้งหมดเป็นแบบฝึกหัดหรือบทเรียนเพื่อลัดเข้าไปดูเข้าไปรู้จักและเห็นตัวอย่างของอริยสัจ 4 มรรค 8 และอัตตา อนัตตา แถมด้วยการชิมนิพพานตัวอย่างเพียงเสี้ยววินาที หลังจากนั้นแล้วใครจะไปขยายความต่อ ประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติในฐานอื่นๆก็แล้วแต่เหตุปัจจัยของใครจะสร้างสมมาอย่างไร ไม่เหมือนกัน เรียนแบบกันไม่ได้ มันเป็นทางเฉพาะตัวของเอกบุคคล เป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหีติ

onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 22:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
อืม!.....กบนี่ก็วิเคราะห์ได้เก่งเข้าเค้าอยู่นะที่เห็นการภาวนาแบบไร้กู

:b4:
ถามว่าตอนที่กลั้นหายใจนั้นทุกขสัจจะเกิดขึ้นใช่ไหม? = ทุกข์เกิด เกิดขึ้นที่กายก่อนพอรุนแรงมากขึ้นๆก็เกิดขึ้นที่ใจ
..........
พอถึงจุดวิกฤตสุดขีดสุดทนที่จะกลั้นไว้ได้นั่นเป็น ทุกขัง จริง ใช่ไหม? ลองทำดูจริงๆหรือยังหรือนั่งคิดนั่งเทียนเอาเดาเอา

ปล่อยลมหายใจออก(โซ่......)ปั๊บ ทุกข์ดับ ทุกขสัจจะทั้งในกายในใจดับ
ตอนที่ทุกดับนี้เป็น นิโรธะสัจจะ ใช่ไหม? ใช่ไม่ใช่ ตอบมา


เข้ารกเข้าพง...

ปล่อยลมออก...ทุกข์เวทนา..ดับไป...สุขเวทนาทางกายเกิด...มันก็แค่นั้นเอง...ทั้งหมดมันก็ล้วนแต่ทุกข์

ทุกขสัจจะดับ..นิโรธสัจจะเกิด..ที่ไหนละ...อโสกะ
ก็ดูอโสกะซิ....ยังเป็นปุถุชนอยู่ไม่ใช่รึ??


asoka เขียน:
หลังจากนั้น สุขเกิด ที่กบเรียกว่า "สุขเวทนา"นั้นใช่แล้ว สุขเวทนาเป็นผลพลอยได้จากการที่ นิโรธ หรือ ทุกข์ดับ มันเกิดแต่เกิดชั่วพริบตาเดียว สติปัญญาหยาบกร้านอย่างกบและกรัชกายมองไม่ทันเห็นหรอก ต้องมาฝึกทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนาอย่างจริงจังด้วยกันสักครั้งจนสติปัญญาคมกล้าจึงจะเห็นทันได้

onion onion onion


อีตาอโสกะ....แยกสุขเวทนา...กับ..สุข..ไม่ออก... :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2016, 05:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เด้วอโสกะ..ไม่เห็น.. :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2016, 06:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เพื่อน ๆ..คิดยังงัยคับ..

สุขเวทนา(เวทนา)..กับ..สุข..(ตย. เช่นสุขที่เกิดจากสมาธิ..สุขที่เกิดจากปีติ)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 128 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร