วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 17:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 122 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 11:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีอะไรก็ไว่าไปซี่เช่นนั้น อโศก จะมั่วขี่ม้ารอบค่ายอยู่ทำไม รบเถอะอรชุน คิกๆๆๆ

จะให้รอ พ.ศ.ไหน

http://www.youtube.com/watch?v=W59JdArDio8

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 11:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เพ้อเจ้อจริงๆ กรัชกายนี่ เอาสิ่งดีๆเรียบง่ายมาให้ ยังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ ตะแบงไปเรื่อย ก็เลยเป็นอันว่ากรัชกายนี่ไม่สมควรรับธรรมะดีๆที่เรียบง่าย คงต้องให้คำสอนแบบจูงมือทำ ปรามด้วยไม้เรียวคำพูด เพราะกรัชกายไม่มีความคิดและสมองที่จะตีความข้อธรรม กระทู้ธรรมให้แตกฉาน ชำนาญแต่ ก้อปแปะ ๆ ๆ ๆ ๆ มีปัญหาก็เอาไปแหมะถามคนโน้นคนนี้ ไม่มีปัญญาตอบแก้เอง ปฏิบัติได้ดีแต่คำพูด รู้แต่พุทโธ พองยุบหนอ แค่นี้ก็มาอวดว่าเป็นผู้เคยปฏิบัติ แถมยังขลาดกลัวความจริง ยิ่งถามให้ตอบยิ่งหลบถอย เอาแต่ตะบอยบ่นบ้า ชักจูงคนเข้าป่าวิชาการ





เจ้าป่าเจ้าเขารับทราบด้วยเถอะขอรับ สาธุ ลูกบอกให้เขาว่า มีอะไรก็ว่าไป แต่เปล่าเลย ไม่หือไม่อือ นอกจากไม่หือไม่อือแล้ว เขาทั้งสองยังกลับพูดทับถมกระแทกแดกดันให้ลูกระทมตรมใจอีก

เจริญธรรม

s006 s006 s004 s004
เอ้อ...ลูกช้างกรัชกายเอ้ย ถึงเวลาต้องปิดวาจา เข้าป่ามาอยู่กับเจ้าพ่อ ล่อแต่ผัก ผลไม้ ตั้งใจปฏิบัติจริง ทิ้งตำหรับตำรา วิชาการชวนบ้าทั้งหลาย ไปหันหน้าสู้ความจริง โดยนิ่งรู้นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ หยุดยั้งการงมโข่ง โต่งเต้นตามตำรา มันไม่พาถึงสุข กลับเพิ่มทุกข์ให้สมอง อยากพ้นต้องทำจริง เอาสูตรเดียว ภาษิตเดียว ธรรมข้อเดียวที่รู้จริง อันความรู้ รู้จริงแม้สิ่งเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล จะได้ชักเชิดชูฟูสกนธ์ แม้ยากจน พงษ์ไพร่ คงได้ดี
:b38:
:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 11:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b7:
เพ้อเจ้อจริงๆ กรัชกายนี่ เอาสิ่งดีๆเรียบง่ายมาให้ ยังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ ตะแบงไปเรื่อย ก็
เลยเป็นอันว่ากรัชกายนี่ไม่สมควรรับธรรมะดีๆที่เรียบง่าย คงต้องให้คำสอนแบบจูงมือทำ ปรามด้วยไม้เรียวคำพูด เพราะ กรัชกายไม่มีความคิดและสมองที่จะตีความข้อธรรม กระทู้ธรรมให้แตกฉาน ชำนาญแต่ ก้อปแปะ ๆ ๆ ๆ ๆ มีปัญหาก็เอาไปแหมะถามคนโน้นคนนี้ ไม่มีปัญญาตอบแก้เอง ปฏิบัติได้ดีแต่คำพูด รู้แต่พุทโธ พองยุบหนอ แค่นี้ก็มาอวดว่าเป็นผู้เคยปฏิบัติ แถมยังขลาดกลัวความจริง ยิ่งถามให้ตอบยิ่งหลบถอย เอาแต่ตะบอยบ่นบ้า ชักจูงคนเข้าป่าวิชาการ
s004 s004
:b3:


โสดาบัน....เขาไม่พูดส่อเสียด..นะครับ....คิดจะพูดมันก็ทุกข์....พูดไปแล้วมันก็ทุกข์อีก...เขาจึงไม่พูดครับ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 12:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
อ้างคำพูด:
เพ้อเจ้อจริงๆ กรัชกายนี่ เอาสิ่งดีๆเรียบง่ายมาให้ ยังไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ ตะแบงไปเรื่อย ก็เลยเป็นอันว่ากรัชกายนี่ไม่สมควรรับธรรมะดีๆที่เรียบง่าย คงต้องให้คำสอนแบบจูงมือทำ ปรามด้วยไม้เรียวคำพูด เพราะกรัชกายไม่มีความคิดและสมองที่จะตีความข้อธรรม กระทู้ธรรมให้แตกฉาน ชำนาญแต่ ก้อปแปะ ๆ ๆ ๆ ๆ มีปัญหาก็เอาไปแหมะถามคนโน้นคนนี้ ไม่มีปัญญาตอบแก้เอง ปฏิบัติได้ดีแต่คำพูด รู้แต่พุทโธ พองยุบหนอ แค่นี้ก็มาอวดว่าเป็นผู้เคยปฏิบัติ แถมยังขลาดกลัวความจริง ยิ่งถามให้ตอบยิ่งหลบถอย เอาแต่ตะบอยบ่นบ้า ชักจูงคนเข้าป่าวิชาการ





เจ้าป่าเจ้าเขารับทราบด้วยเถอะขอรับ สาธุ ลูกบอกให้เขาว่า มีอะไรก็ว่าไป แต่เปล่าเลย ไม่หือไม่อือ นอกจากไม่หือไม่อือแล้ว เขาทั้งสองยังกลับพูดทับถมกระแทกแดกดันให้ลูกระทมตรมใจอีก

เจริญธรรม


เอ้อ...ลูกช้างกรัชกายเอ้ย ถึงเวลาต้องปิดวาจา เข้าป่ามาอยู่กับเจ้าพ่อ ล่อแต่ผัก ผลไม้ ตั้งใจปฏิบัติจริง ทิ้งตำหรับตำรา วิชาการชวนบ้าทั้งหลาย ไปหันหน้าสู้ความจริง โดยนิ่งรู้นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ หยุดยั้งการงมโข่ง โต่งเต้นตามตำรา มันไม่พาถึงสุข กลับเพิ่มทุกข์ให้สมอง อยากพ้นต้องทำจริง เอาสูตรเดียว ภาษิตเดียว ธรรมข้อเดียวที่รู้จริง อันความรู้ รู้จริงแม้สิ่งเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล จะได้ชักเชิดชูฟูสกนธ์ แม้ยากจน พงษ์ไพร่ คงได้ดี
:b38:
:b37:



ถามหลายรอบแล้ว ไม่มีคำตอบจากอโศก และเช่นนั้น :b1:

ถามทีไรก็ทำท่าฉุนเฉียวโมโหโทโส เหมือนชายหนีเมียไปเที่ยว คิกๆๆ กลับบ้านดึก เค้าถาม ไปไหนมาหรอ กลับบ้านเอาป่านนี้ แน่ะ ๆ ทำตาขวางโวยวายนั่นนี่ เพื่อให้อีกฝ่ายเงียบไม่ถามต่อ อโศกกับเช่นนั้น ก็ฉันนั้น อ้าวจริง ๆ บอกไม่เชื่อ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 13:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด

อย่างไร....จึงเรียกว่า... " สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด "....ครับ


บางสำนวน....ใช้คำว่า....เธอพึงอบรมศึกษาว่า...แทนคำว่าสำเนียก...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด
อย่างไร....จึงเรียกว่า... " สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด "....ครับ

บางสำนวน....ใช้คำว่า....เธอพึงอบรมศึกษาว่า...แทนคำว่าสำเนียก...

สพฺพกายปฏิสํเวที....สิกฺขติ.
การให้ความหมายว่า .... สำเนียก
ซึ่งสำนวนการแปล ที่ชัดและนำไปใช้ในการปฏิบัติได้ง่าย เช่น ย่อมทำในบทศึกษาว่า เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง.

การสำเหนียก หรือการทำในบทศึกษาว่า เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะ จึงมีความหมายหรืออาการภาวะเหมือนกัน
คือ ให้ทำการสังเกต ให้รู้ชัดโดยสภาวะ ที่สัมผัสอยู่. ไม่ได้เป็นการรู้โดยชื่อ โดยถ้อยคำ ซึ่งหมายความว่า
ในขณะที่ ทำความศึกษา เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะนั้น จะบริบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ และปัญญาในเรื่องที่ทำการพิจารณาต่อสภาวะนั้นอยู่.

ศีล...เพราะขณะนี้มีความสำรวมระวังจิตอยู่
สมาธิ เพราะอาศัยสติยังจิตให้เกิดความสงบตั้งมั่นในภายใน
ปัญญา เพราะ อาศัยการพิจารณา ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก จึงเห็นชัด โดยความเป็นธาตุ โดยลักษณะรอบด้าน ความไหว ความกระด้าง ความเย็น ความร้อน ความหยาบ ความประณีต ฯลฯ เป็นต้น.

ดังนั้นการรู้พร้อมเฉพาะ จึงเป็นญาณที่ประณีตกว่าการทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ใน ขั้น 1-2.

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




7g9kl.gif
7g9kl.gif [ 4.27 KiB | เปิดดู 2720 ครั้ง ]
เช่นนั้น เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด
อย่างไร....จึงเรียกว่า... " สำเหนียกว่า จักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด "....ครับ

บางสำนวน....ใช้คำว่า....เธอพึงอบรมศึกษาว่า...แทนคำว่าสำเนียก...

สพฺพกายปฏิสํเวที....สิกฺขติ.
การให้ความหมายว่า .... สำเนียก
ซึ่งสำนวนการแปล ที่ชัดและนำไปใช้ในการปฏิบัติได้ง่าย เช่น ย่อมทำในบทศึกษาว่า เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง.

การสำเหนียก หรือการทำในบทศึกษาว่า เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะ จึงมีความหมายหรืออาการภาวะเหมือนกัน
คือ ให้ทำการสังเกต ให้รู้ชัดโดยสภาวะ ที่สัมผัสอยู่. ไม่ได้เป็นการรู้โดยชื่อ โดยถ้อยคำ ซึ่งหมายความว่า
ในขณะที่ ทำความศึกษา เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะนั้น จะบริบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ และปัญญาในเรื่องที่ทำการพิจารณาต่อสภาวะนั้นอยู่.

ศีล...เพราะขณะนี้มีความสำรวมระวังจิตอยู่
สมาธิ เพราะอาศัยสติยังจิตให้เกิดความสงบตั้งมั่นในภายใน
ปัญญา เพราะ อาศัยการพิจารณา ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก จึงเห็นชัด โดยความเป็นธาตุ โดยลักษณะรอบด้าน ความไหว ความกระด้าง ความเย็น ความร้อน ความหยาบ ความประณีต ฯลฯ เป็นต้น.

ดังนั้นการรู้พร้อมเฉพาะ จึงเป็นญาณที่ประณีตกว่าการทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ใน ขั้น 1-2.


เท่าที่พูดมาทั้งหมดนั่น ยังเป็นลักษณะธรรมะตีเลขเด็ดธรรมะขูดต้นไม้หาตัวเลขอยู่นะ

ที่ว่า ชัดและปฏิบัติได้ง่ายเนี่ยนะ ปฏิบัติได้ง่าย ปฏิบัติยังไง เอาชัดๆสักทีเถอะครับ กราบๆๆ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2014, 18:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:

การสำเหนียก หรือการทำในบทศึกษาว่า เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะ จึงมีความหมายหรืออาการภาวะเหมือนกัน
คือ ให้ทำการสังเกต ให้รู้ชัดโดยสภาวะ ที่สัมผัสอยู่. ไม่ได้เป็นการรู้โดยชื่อ โดยถ้อยคำ ซึ่งหมายความว่า
ในขณะที่ ทำความศึกษา เป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะนั้น จะบริบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ และปัญญาในเรื่องที่ทำการพิจารณาต่อสภาวะนั้นอยู่.


ศีล...เพราะขณะนี้มีความสำรวมระวังจิตอยู่
สมาธิ เพราะอาศัยสติยังจิตให้เกิดความสงบตั้งมั่นในภายใน
ปัญญา เพราะ อาศัยการพิจารณา ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก จึงเห็นชัด โดยความเป็นธาตุ โดยลักษณะรอบด้าน ความไหว ความกระด้าง ความเย็น ความร้อน ความหยาบ ความประณีต ฯลฯ เป็นต้น.

ดังนั้นการรู้พร้อมเฉพาะ จึงเป็นญาณที่ประณีตกว่าการทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ใน ขั้น 1-2.

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2014, 05:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธศาสนา ท่านก็วางหลักเป็นขั้นๆไว้ให้แล้ว ที่เรียกว่า ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

ปริยัติ ก็คือการเรียนรู้ จากตำรา (ครั้งพุทธกาลก็เรียนจากพระพุทธเจ้าโดยตรง) จากครูอาจารย์ เมื่อพอรู้แล้ว ก็เอามาฝึกหัดทำดู เมื่อทำเป็นทำถูก ก็สำเร็จ ก็เป็นปฏิเวธ

แต่เมื่อสังเกตดูจะเห็นว่า พวกเราจะวนๆเวียนๆอยู่แค่ปริยัติ เก๋ๆขึ้นมาหน่อยก็นำเอาสำนวนคำแปลเค้ามาคิด ผสมนั่นนิดนี่หน่อย คิดอร่อยเพลินไป ยิ่งคิดยิ่งเพลิน ยิ่งเพลินยิ่งคิด อย่างเช่นนั้น กับ อโศก นี่ชัดเลย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2014, 09:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกายไม่บอกหน่อยบ้างหรือ..ว่า...สำเนียก..หรือ..ทำในบทศึกษาว่า...นั้น...ทำอย่างไร? เผื่อจะเป็นปริยัติสำหรับเพื่อนๆ...ได้พิจารณากัน..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2014, 09:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกายไม่บอกหน่อยบ้างหรือ..ว่า...สำเนียก..หรือ..ทำในบทศึกษาว่า...นั้น...ทำอย่างไร? เผื่อจะเป็นปริยัติสำหรับเพื่อนๆ...ได้พิจารณากัน..


กรัชกาย เขียน:
ภาคปฏิบัตินะ วางตำรา วางหนังสือไว้หน้าหน้าประตู เข้าห้องไปแต่ตัวกับความเข้าใจ เช่น มีลมหายใจเข้า-ออก อยู่แล้ว ก็อย่างว่า หายใจเข้า ว่าพูท หายใจออกว่า โธ ท้องพอง ว่าพองหนอ ท้องยุบ ว่ายุบหนอ ว่าไปร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง

จะเรียกจะแปลว่าสำเหนียก หรือสำปะหลัง หรือสำเลเทเมา ไม่ต้องสนใจ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออก ว่าโธ ท้องพอง ว่าพองหนอ ท้องยุบ ว่ายุบหนอ คิดหนอๆ เห็นหนอๆ ตามที่เห็น ตามที่คิด นี่คือภาคปฏิบัติ


อึ่งอ่าง...ก็สำเนียกได้ 55555

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2014, 10:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกายไม่บอกหน่อยบ้างหรือ..ว่า...สำเนียก..หรือ..ทำในบทศึกษาว่า...นั้น...ทำอย่างไร? เผื่อจะเป็นปริยัติสำหรับเพื่อนๆ...ได้พิจารณากัน..


พิจารณา สำเหนียก นะหรือครับ :b9:


ก็ผู้แปล เขาแปลศัพท์บาลีนั่นว่า สำเหนียก เราตอนนี้เห็นแต่ "สำเหนียก" ไม่เห็นศัพท์เดิม ถ้าเห็นอาจแปลเป็นอื่นได้อีก เช่นแปลว่า ศึกษา เป็นต้นได้

ปัญหาตอนนี้มีว่า พวกเรามานั่งคิดว่า สำเหนียก สำเหนียกทำยังไง ถูกไหม คือจะเอาไป สำเหนียก เพื่อให้เข้าถึงธรรมว่างั้นเถอะ คิกๆๆ

มีตัวอย่างเทียบเคียง เหมือนคำว่า พุทโธ ซึ่งแปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เหมือนให้มีคำถามต่อไปอีกว่า รู้ ตื่น เบิกบานทำยังไง ระดับพวกเราตอนนี้ คิดตีคำแปล ซึ่งผู้แปลบาลีเขาแปลมา

ทีนี้มาดูรุ่นพระอรรถกถาจารย์ ท่านบอกให้นับเลขกำกับพุทธพจน์นั่นด้วย

เราจะเอายังไง


แต่สำหรับกรัชกาย ลงมือทำเลย ใช้หายใจเข้า สำเหนียกว่า พุท หายใจออก สำเหนียกว่า โธ ฯลฯ

อีกแบบหนึ่ง ท้องพอง สำเหนียกว่า พองหนอ ท้องยุบ สำเหนียกว่า ยุบหนอ เห็นนั่นนี่ สำเหนียกว่า เห็นหนอๆๆๆ รู้สึกกลัว สำเหนียกว่า กลัวหนอๆๆๆๆ ขณะนั้นๆ รู้สึกยังไง เป็นยังไง สำเหนียกตามที่มันเป็นของมัน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2014, 10:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกายไม่บอกหน่อยบ้างหรือ..ว่า...สำเนียก..หรือ..ทำในบทศึกษาว่า...นั้น...ทำอย่างไร? เผื่อจะเป็นปริยัติสำหรับเพื่อนๆ...ได้พิจารณากัน..


กรัชกาย เขียน:
ภาคปฏิบัตินะ วางตำรา วางหนังสือไว้หน้าหน้าประตู เข้าห้องไปแต่ตัวกับความเข้าใจ เช่น มีลมหายใจเข้า-ออก อยู่แล้ว ก็อย่างว่า หายใจเข้า ว่าพูท หายใจออกว่า โธ ท้องพอง ว่าพองหนอ ท้องยุบ ว่ายุบหนอ ว่าไปร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง

จะเรียกจะแปลว่าสำเหนียก หรือสำปะหลัง หรือสำเลเทเมา ไม่ต้องสนใจ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออก ว่าโธ ท้องพอง ว่าพองหนอ ท้องยุบ ว่ายุบหนอ คิดหนอๆ เห็นหนอๆ ตามที่เห็น ตามที่คิด นี่คือภาคปฏิบัติ


อึ่งอ่าง...ก็สำเนียกได้ 55555



เช่นนั้น เห็นศัพท์บาลีที่เขาแปลนี่หรือยัง ยัง นี่หมายความว่า ทั้งเราและท่าน มาติดสำนวนสำเหนียก ค้นหาความหมายสำเหนียก ก็ไปเปิดพจนานุกรมดูซี่ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2014, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เห็นศัพท์บาลีที่เขาแปลนี่หรือยัง ยัง นี่หมายความว่า ทั้งเราและท่าน มาติดสำนวนสำเหนียก ค้นหาความหมายสำเหนียก ก็ไปเปิดพจนานุกรมดูซี่ คิกๆๆ


กรัชโก๊ะเอ๊ย ... สมแล้ว นกแก้วนกขุนทองกรัชกาย สำเร็จธรรมจากการท่องศัพท์
พอถามภาคปฏิบัติจริงๆ แบ๊ะๆๆๆ

อึ่งอ่าง กรัชโก๊ะ พองหนอ ยุบหนอ 55555


.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2014, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เห็นศัพท์บาลีที่เขาแปลนี่หรือยัง ยัง นี่หมายความว่า ทั้งเราและท่าน มาติดสำนวนสำเหนียก ค้นหาความหมายสำเหนียก ก็ไปเปิดพจนานุกรมดูซี่ คิกๆๆ


กรัชโก๊ะเอ๊ย ... สมแล้ว นกแก้วนกขุนทองกรัชกาย สำเร็จธรรมจากการท่องศัพท์
พอถามภาคปฏิบัติจริงๆ แบ๊ะๆๆๆ

อึ่งอ่าง กรัชโก๊ะ พองหนอ ยุบหนอ 55555





อ้างคำพูด:
พอถามภาคปฏิบัติจริงๆ แบ๊ะๆๆๆ


ภาคปฏิบัติจริงของเช่นนั้น คือ ทำยังไง ตอบด้วย ถามหลายครั้งแล้ว :b1:

แต่ภาคปฏิบัติจริงของกรัชกาย คือ ลงมือทำ ตามหลักสติปัฏฐาน คือใช้ กาย กับ ความรู้สึก เป็นที่เรียนรู้ธรรมะ ระดับปรมัตถธรรม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 122 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร