วันเวลาปัจจุบัน 25 ก.ค. 2025, 21:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 65 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2013, 08:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่อ้างอิงข้อความที่คุณอโศกสร้างสรรค์เกินจำเป็นแระ เช่น เน้นตัวใหญ่เท่าหม้อแกง สีแดง (เอาเท่าที่จำเป็นก็พอรับได้) มากเกินไปก็รกหูรกตา กรัชกายชอบอะไรๆ ที่เรียบง่าย ไม่รุงรังเกินจำเป็น :b1:

เข้าเรือง คือเคยเห็นหลายบอร์ดแระ หมดปัญญาหมดหนทางจะสนทนากันด้วยเหตุด้วยผล ก็ข่มขู่เขาอย่านะ อยาว่าพระอริยะน่ะ เดี๋ยวเถอะปากเบี้ยวตูดบิด ฟันคุดอะไรก็ว่าไป ยกเอานรกขึ้นขู่ เอาสวรรค์มาล่อ คิกๆๆ

ก็เห็นว่า ไม่หายใจ กรัชกายจึงให้พิสูจน์การไม่หายใจด้วยการดำน้ำดู ก็ถูกแล้วนี่ครับ ถ้าไม่หายใจจริงก็ดำน้ำได้ 30 นาที...ถ้าของจริงไม่หายใจจริงอย่ากลัวครับ อย่าทำเป็นมนต์สิทธิ์ คำสร้อย :b32:

"กลัว"

http://www.youtube.com/watch?v=bZxwHVu_pdk


ของจริง "อย่ากลัว" ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=2PGy4AC5p_E

เอาอย่างฝนเนี่ย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2013, 08:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


การสนทนา ใครว่าใคร ใครกดข่มใคร หรือ เรียกคำสวยๆก็ได้ ใครปรามาสใคร
ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่มีต่อกัน

วลัยพรเชื่อมั่น ในคำสอนของพระพุทธเจ้า
เพราะสิ่งที่พระพุทธเจ้า ทรงตรัสสอนไว้ มีแต่การกระทำเพื่อดับเหตุแห่งทุกข์ คือ การเกิด


ส่วนคำสอนอื่นๆ ที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ที่ไม่ได้มุ่งดับเหตุที่ตนเอง(หยุดสร้างเหตุของการเกิด)
มีแต่การอวดอิทธิฤทธิ์ อวดอ้างความวิเศษของสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ไม่สามารถนำมากระทำเพื่อดับเหตุแห่งทุกข์ได้
ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยของผู้ที่นำมาสอน และผู้ที่นำมากล่าวอ้าง




พระผู้มีพระภาค ทรงตรัสสอนไว้ว่า

ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคล บางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้น นำเขาไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมาก ต่อไปเลย…

ภิกษุทั้งหลาย ! ใครกล่าวว่า
คนทำกรรม อย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนั้นๆ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีไม่ได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า
คนทำกรรมอันจะพึงให้ผล อย่างใดๆ ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้
เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ.
ติก. อํ. ๒๐/๓๒๐/๕๔๐.




ปัญหา คน ๒ คน ทำกรรมอย่างเดียวกัน แต่ได้รับผลต่างกันมีหรือไม่ ?

พุทธดำรัส ตอบ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ผู้ใดแลพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำกรรมไว้อย่างไร ?
เขาจะต้องเสวยกรรมนั้นอย่างนั้น ๆ

เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ของผู้นั้นย่อมมีไม่ได้
โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบย่อมไม่ปรากฏ

ส่วนผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำกรรมที่จะต้องเสวยผลไว้ด้วยอาการใด ๆ
เขาจะต้องเสวยวิบากของกรรมนั้นด้วยอาการนั้น ๆ

เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ของผู้นั้นย่อมมีได้
โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบย่อมปรากฏ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคลในโลกนี้
ทำบาปกรรมแม้เล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก

ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อยเช่นนั้นแหละ
บาปกรรมนั้นย่อมได้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะส่วนที่มา

บุคคลเช่นไร ทำบาปกรรมแม้เล็กน้อย
บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล
ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา มีคุณน้อย มีอัตตภาพเล็ก มีอัตตภาพอยู่เป็นทุกข์เพราะวิบากเล็กน้อย

บุคคลเห็นปานนี้ทำบาปกรรมแม้เล็กน้อย
บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเช่นไรเล่า ทำบาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้น เหมือนกัน
บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะส่วนมาก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้อบรมกาย อบรมศีล อบรมจิต อบรมปัญญา
มีคุณไม่น้อย มีอัตตภาพใหญ่ มีธรรมเป็นเครื่องอยู่หาประมาณมิได้

บุคคลเช่นนี้ ทำบาปกรรมเช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น
แต่ส่วนน้อยไม่ปรากกฎ ปรากฏเฉพาะแต่ส่วนมาก

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในขันใบน้อย
น้ำในขันเล็กน้อยนั้น พึงมีรสเค็ม ดื่มกินไม่ได้
เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในแม่น้ำคงคา

โสณกสูตร ติ. อํ. (๕๔๐)

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2013, 11:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ธรรมะ ไ้ด้แก่ ชีวิต (ทุกๆชีวิต) และความเป็นอยู่ (-ของชีวิตทุกๆชีวิต) นี่แหละๆ พุทธธรรม มองเข้ามาที่นี่ ดูที่นี่ (ทั้งเราทั้งเขาที่โลดแล่นอยู่ในสังคมนี่) ทำความเข้าใจมัน แล้วจะรู้เข้าใจธรรมะ (=โลกและชีวิต) อย่าคิดเตลิดไปไกล :b32: เสียของ

กรัชกายพูดเหมือนนิยายน้ำเน่าเลย ไม่ผิดหรอกที่กรัชกายพูดนะนั้นมันเป็นธรรมะของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่วนเวียนไม่รู้จักจบ นิพพานคือการเข้าถึงสภาวะธรรมสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะเข้าถึงได้ จำเป็นต้องมีทั้งสมถะและวิปัสนา ไอ้ความคิดของกรัชกายมันก้อได้แต่คิดมันไม่ไดรับรุ้รสของสภาวะนิพพานหรอก มันอยู่ในตัวเรานี่แหล่ะ มันคือการดับสังขารทั้งหลายนั้นเอง ส่วนที่กรัชการเข้าใจอะไรต่อมิอะไรนั้นมันเข้าใจบัญญัติ ไม่ใช่สภาวะนิพพาน


amazing บอกความหมายคำว่า บัญญัติ,นิพพาน, สภาวธรรม,ชีวิต ตามที่ตนเองเข้าใจทีละอย่างๆสิเอ้า :b1: อย่าให้เสียของนะขอรับ คราวนี้โดนจัดหนักแบบไม่เกรงใจนะเอ้อ :b32:



รอ amazing นิยายน้ำีดี ตอบคำถามอยู่นะขอรับกระโผม อย่าหายไปนานนะครับ คิดถึง หรือว่า...คิกๆๆ

หรือว่าไปเขาเขียวทำกรรมฐานไม่หายใจอยู่ สำเร็จแล้วบอกนะครับ จะทดสอบด้วยการใช้ถุงดำคลุมหัว :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2013, 12:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ธรรมะ ไ้ด้แก่ ชีวิต (ทุกๆชีวิต) และความเป็นอยู่ (-ของชีวิตทุกๆชีวิต) นี่แหละๆ พุทธธรรม มองเข้ามาที่นี่ ดูที่นี่ (ทั้งเราทั้งเขาที่โลดแล่นอยู่ในสังคมนี่) ทำความเข้าใจมัน แล้วจะรู้เข้าใจธรรมะ (=โลกและชีวิต) อย่าคิดเตลิดไปไกล :b32: เสียของ

กรัชกายพูดเหมือนนิยายน้ำเน่าเลย ไม่ผิดหรอกที่กรัชกายพูดนะนั้นมันเป็นธรรมะของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่วนเวียนไม่รู้จักจบ นิพพานคือการเข้าถึงสภาวะธรรมสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะเข้าถึงได้ จำเป็นต้องมีทั้งสมถะและวิปัสนา ไอ้ความคิดของกรัชกายมันก้อได้แต่คิดมันไม่ไดรับรุ้รสของสภาวะนิพพานหรอก มันอยู่ในตัวเรานี่แหล่ะ มันคือการดับสังขารทั้งหลายนั้นเอง ส่วนที่กรัชการเข้าใจอะไรต่อมิอะไรนั้นมันเข้าใจบัญญัติ ไม่ใช่สภาวะนิพพาน


amazing บอกความหมายคำว่า บัญญัติ,นิพพาน, สภาวธรรม,ชีวิต ตามที่ตนเองเข้าใจทีละอย่างๆสิเอ้า :b1: อย่าให้เสียของนะขอรับ คราวนี้โดนจัดหนักแบบไม่เกรงใจนะเอ้อ :b32:



รอ amazing นิยายน้ำีดี ตอบคำถามอยู่นะขอรับกระโผม อย่าหายไปนานนะครับ คิดถึง หรือว่า...คิกๆๆ

หรือว่าไปเขาเขียวทำกรรมฐานไม่หายใจอยู่ สำเร็จแล้วบอกนะครับ จะทดสอบด้วยการใช้ถุงดำคลุมหัว :b32:
มีระอรหันต์ท่านหนึ่งไม่รุ้เรื่องอะไรมากแม้แต่จะจำคำสักคำยังได้ยาก ยังเป็นอรหันต์ได้ ไม่ได้รุ้อะไรมากมายอย่างกรัชกาย อย่าเยอะอย่าเยอะกรัชกาย เอาพอดีสภาวะนิพพานนั้นกับคำว่านิพพานมันต่างกัน คำว่านิพพานใครก้อพุดได้มันเป้นบัญญัติ ปีใหม่แต่งตัวหล่อๆนะเดี๋ยวสาวไม่ชอบ อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2013, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ธรรมะ ไ้ด้แก่ ชีวิต (ทุกๆชีวิต) และความเป็นอยู่ (-ของชีวิตทุกๆชีวิต) นี่แหละๆ พุทธธรรม มองเข้ามาที่นี่ ดูที่นี่ (ทั้งเราทั้งเขาที่โลดแล่นอยู่ในสังคมนี่) ทำความเข้าใจมัน แล้วจะรู้เข้าใจธรรมะ (=โลกและชีวิต) อย่าคิดเตลิดไปไกล :b32: เสียของ

กรัชกายพูดเหมือนนิยายน้ำเน่าเลย ไม่ผิดหรอกที่กรัชกายพูดนะนั้นมันเป็นธรรมะของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่วนเวียนไม่รู้จักจบ นิพพานคือการเข้าถึงสภาวะธรรมสูงสุดเท่าที่มนุษย์จะเข้าถึงได้ จำเป็นต้องมีทั้งสมถะและวิปัสนา ไอ้ความคิดของกรัชกายมันก้อได้แต่คิดมันไม่ไดรับรุ้รสของสภาวะนิพพานหรอก มันอยู่ในตัวเรานี่แหล่ะ มันคือการดับสังขารทั้งหลายนั้นเอง ส่วนที่กรัชการเข้าใจอะไรต่อมิอะไรนั้นมันเข้าใจบัญญัติ ไม่ใช่สภาวะนิพพาน


amazing บอกความหมายคำว่า บัญญัติ,นิพพาน, สภาวธรรม,ชีวิต ตามที่ตนเองเข้าใจทีละอย่างๆสิเอ้า :b1: อย่าให้เสียของนะขอรับ คราวนี้โดนจัดหนักแบบไม่เกรงใจนะเอ้อ :b32:



รอ amazing นิยายน้ำีดี ตอบคำถามอยู่นะขอรับกระโผม อย่าหายไปนานนะครับ คิดถึง หรือว่า...คิกๆๆ

หรือว่าไปเขาเขียวทำกรรมฐานไม่หายใจอยู่ สำเร็จแล้วบอกนะครับ จะทดสอบด้วยการใช้ถุงดำคลุมหัว :b32:
มีระอรหันต์ท่านหนึ่งไม่รุ้เรื่องอะไรมากแม้แต่จะจำคำสักคำยังได้ยาก ยังเป็นอรหันต์ได้ ไม่ได้รุ้อะไรมากมายอย่างกรัชกาย อย่าเยอะอย่าเยอะกรัชกาย เอาพอดีสภาวะนิพพานนั้นกับคำว่านิพพานมันต่างกัน คำว่านิพพานใครก้อพุดได้มันเป้นบัญญัติ ปีใหม่แต่งตัวหล่อๆนะเดี๋ยวสาวไม่ชอบ อิอิ



เข้าตำรา ถามว่า ไปไหนมา แน่ะ ตอบ สามวาสองศอก เฉยเลย :b13:

เขาถามสิ่งที่ตัวเองพูดทั้งนั้น เช่น บัญญัติ,นิพพาน, สภาวธรรม,ชีวิต พูดแล้วไม่เข้าใจความหมายเนี่ยได้อะไร

เอาอีกแระ อรหันต์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :b32: อะไรยังไง อรหันต์ หรืออรหันต์เมสซิ่ง คิกๆๆ รำคาญ คนดีแต่พูดเนี่ย :b1:
เอางี้ไหมล่ะจะตั้งชื่อให้ "อะระหมุน amazing" :b13: ไม่ไ้ด้รู้เรื่อง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 65 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร