วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 12:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2016, 22:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆๆ :b8:

".. 'สมาพันธ์ชาวพุทธเชียงราย' เกิดแล้ว

สมาพันธ์ชาวพุทธภาคเหนือและเชียงใหม่หนุนลูกหลานพระยามังรายสองเมืองคึกคักประกาศก้อง
เวียงป่าเป้า มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำหมู่บ้าน"


@ การประกาศตั้งสมาพันธ์ชาวพุทธเชียงรายเกืดขึ้นต่อหน้าคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวเชีบงรายจำนวนมาก ณ ที่แห่งหนึ่งซึ่งถือว่าเป็น "Landmark" แห่งหนึ่งของจังหวัด

@ เชียงรายเป็นจังหวัดหนึ่งที่ถูกหมายตาโดยศาสนาจากอาหรับแย่งชิงพื่นที่ โดยศาสนานั้นชอบอ้างสิทธืในความเป็นคนไทย สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมมนูญ ดังนั้นเขาจะทำอะไรที่ไหนก็ได้ตามสิทธิทางกฏหมาย

@ ชาวเชียงรายเห็นว่ารัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธและกฏหมายไทยในยุคปัจจุบันคงจะรักษาศาสนาของบรรพบุรุษไว้คู่แผ่นดินเชียงรายไม่ได้แน่ จึงรวมตัวกันเองและประกาศก้องขอพิทักษ์ศาสนาของเชียงรายคือพระพุทธศาสนาไว้ให้ลูกหลานนานเท่านาน

@ ไม่น่าเชื่อว่าพระสงฆ์เชียงรายจะตื่นตัวกันมากในเรื่องนี้ พระครูรูปหนึ่งเล่าว่า..
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการพยายามกว้านซื้อที่ดืนสร้างมัสยิดในอำเภอ...ท่านเองคัดค้านและเรียกกำนันผู้ใหญ่บ้านพร้อมเจ้าหน้าที่ของรัฐมาชี้แจง สุดท้ายท่านประกาศว่า หากจะมีมัสยิดเกิดขึ้นในอำเภอนี้ให้ข้ามศพท่านไปก่อน

@ เชียงรายเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการต่อต้านการสร้างมัสยิดสูงมาก เมื่อปีที่แล้วก็มีการระดมคนต่อต้านการที่จะสร้างมัสยิดริมแม่น้ำกก แม้ว่าจะถูกทหารขัดขวางก็ตาม

@ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการที่ระดับแกนนำศาสนาอิสลามเร่งเปิดเกมระดมสร้างมัสยิดเพื่อให้ปิดเกมได้ทันในรัฐบาลทหารชุดนี้ จึงทำให้ชาวพุทธรู้ตัวไหวทันและเห็นเป็นภัยที่ร้ายแรงต่อศาสนาของเขา

@ ชาวเชียงรายเหมือนคนเหนือมั่วไปคือมีนิสัยอ่อนโยนยึดมั่นในพระพุทธศาสนา
ต้อนรับคนแปลกหน้าด้วยมิตรไมตรี ยิ่งสำหรับเรื่องศาสนาแล้วเขามีทัศนคติที่ดีต่อทุกศาสนา แต่มาระยะไม่กี่ปีมานี้พวกเขาเริ่มไม่ไว้วางใจบางศาสนาที่ทำงานเชืงรุกอย่างหนักโดยหวังจะรีบปืดบัญชีการสร้างศาสนสถานของตนให้เร็วที่สุดในยุคที่รัฐบาลทหารเป็นใจ จึงทำให้กระแสการต่อต้านเกืดขึ้นสวนกลับอย่างแรงทุกเรื่อง

"ขอบคุณเขามากที่รีบรุก เราจึงตั้งรับได้ทัน ขอบคุณจริงๆ แต่ก็ระวังอยู่ว่าจะมาไม้ไหนอีก"

ชาวเชียงรายคนหนึ่งกล่าว พลางยกมือไหว้อนุสาวรีย์พ่อขุนมังรายมหาราช ผู้ฝากพระพุทธศาสนาไว้ให้เป็นศาสนาของชาวช้างหาย.

@ ทั้งหมดนี้ เบื้องหลังที่แข็งแกร่ง คือ สมาพันธ์ชาวพุทธภาคเหนือ นำโดย อ.มาณพ และสมาพันธ์ชาวพุทธเชียงใหม่ นำโดย ดร.อภิรมย์ และทีมงานที่แข็งแกร่งเดินทางมาร่วมประชุมร่วมคิดและให้คำปรึกษา ทุกคนควักเงินตัวเองมาเป็นค่าเดินทาง น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ....

https://th-th.facebook.com/BuddhistsNews/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2016, 22:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆๆ ครับกับข่าวดี อนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่ร่วมมือร่วมใจ

มาว่าถึงคำถามคุณกรัธกายที่ถามว่าจะรับมือกับลัทธิอื่นอย่างไร?


มาพูดถึงความเชื่อในลัทธินั้นว่า ความเชื่อและคำสอนไม่ตรงสัจธรรมเหมือนพุทธศาสนา

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าจะถามคำถาม ถึงสาเหตุความเชื่อ และซักไซ้ใล่ความจนไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะหลักความเชื่อในลัทธิอื่นๆนั้นพอถูกโยงไปโยงมา จะขัดแย้งกันเอง

เมื่อลัทธิใดๆก็ตามที่ถูกตั้งขึ้นมาจากความเชื่อ จุดอ่อนที่เขากลัวมากคือการถูกตั้งคำถามซักไซ้ใล่เรียง

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2016, 05:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"ข้อสังเกต
'แฉแผนการครอบงำ เกษตรกรไทยพุทธ
ผ่าน พ.ร.บ.ฮาลาล - คนไทยพุทธทุกคนต้องอ่าน
ขอย้ำว่า ต้องอ่านทุกคน'...
พร้อมบทสรุปถึงฝ่ายความมั่นคง-สำนักตรวจเงินแผ่นดิน - และ ปปช."

+×÷÷=

@ ผมไม่สันทัดนักกับเรื่อง ฮาลาล และไม่ได้คิดมายุ่งเกี่ยวแต่แรก เพราะกลัวจะถูกข้อหาว่ายุ่งทุกเรื่อง และเมื่อมีเพื่อนมุสลิมมาอ้างว่าเป็นเรื่องของกฏหมายเท่านั้นไม่เกี่ยวกับศาสนาอีกทั้งมีจุดก่อกำเนิดมาจากนักวิชาการมุสลิมจากจุฬาฯมหาวิทยาลัยที่ผมเคยเรียนและร่วมใช้ชีวิตเป็นอาจารย์มาเกือบ ๒๐ ปี จึงไม่ได้ระแวงอะไร ได้แต่ศึกษาและตั้งข้อสังเกต ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ายิ่งอ่านยิ่งวิเคราะห์ยิ่งลึกซึ้งยิ่งแยบยล แต่ไม่เกินความสามารถจะเข้าใจได้ ส่วนจะเข้าใจอย่างไรลองอาานบทวิเคราะห์ของคนบึงกาฬข้างล่างดู..

"ถ้ามองดูอย่างทั่วไป ก็คิดว่า พ.ร.บ.ฮาลาล นั้นครอบคลุมเฉพาะเรื่องอาหาร และเครื่องสำอาง เท่านั้น

ใช่ครับ! … นั่นคือการมองผิวเผิน เท่านั้น แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว พ.ร.บ.ฮาลาล ยังมีบทเฉพาะกาล แตกย่อย อีกหลายข้อ ถือได้ว่า เป็นกลยุทธ์ “ลับ-ลวง-พราง” ที่ซ่อนเร้นแฝงมากับ พ.ร.บ. ฉบับนี้

หน้าฉากของ พ.ร.บ.ฮาลาล ก็เพื่อผลิตอาหาร ที่ไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม (ข้ออ้างที่อิสลามชอบใช้ทั่วโลก) สำหรับชาวอิสลาม แต่ในเนื้อแท้แล้ว นี่คือจุดเริ่มต้น ของกระบวนการครอบงำ

เริ่มต้นด้วยการใช้ ความโลภมาล่อเจ้าของกิจการ ให้หลงเชื่อว่า ถ้าสินค้า ที่ต้องการได้ตราฮาลาล มาติดบนตราสินค้าของตน จะต้องผ่านการรับรอง จากหน่วยงานของอิสลาม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อิสลาม ให้คำปรึกษา และ ทุกขั้นตอนการผลิต จะต้องทำตามที่แนะนำ อย่างเคร่งครัด

ดังนั้น เงื่อนไขหนึ่งในนั้นก็คือ จะต้องมีฝ่ายจัดซื้อ เป็นคนมุสลิม อยู่ด้วย (พวกนี้ถือว่า เป็นคนของเขานะ แต่เจ้าของกิจการจ่ายเงินเดือน) และ ในขั้นตอนการผลิต จะต้องแยกกันเด็ดขาด จากสายการผลิตทั่วไป ห้ามปนกัน ผลิตเสร็จแล้ว ต้องแยกเก็บจากสินค้าทั่วไป เวลาส่งสินค้า ก็ต้องแยกกัน รถคนละคัน ป้องกันการสับสน สุดท้ายที่ร้านขายก็ต้องวางแยกชั้นกัน (เอากะมันสิ ... นี่ต้นทุนเจ้าของทั้งนั้น)

จากนี้ไปเป็น มีดที่แฝงซ่อนไว้ คอยโอกาสทิ่มแทงคนไทยพุทธ สุดท้ายก็คือ เชือดให้ตายสนิท มาดูกันครับ...

ดาบที่ 1 :- เจ้าของโรงงาน จะต้องซื้อสินค้า ที่มีตราฮาลาลแล้ว เท่านั้น จึงจะนำมาผลิต สินค้าฮาลาลได้ หมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ต่อไปต้องมีฮาลาล จึงใช้ผลิตได้ ซึ่ง รวมถึงผลผลิต ทางการเกษตรด้วย ไม่ว่าจะเป็น ข้าว ผัก ผลไม้ รวมไปถึง น้ำด้วย ก็ต้องมีฮาลาล

ดาบที่ 2 :- พืชผล ที่จะปลูกต้องมั่นใจว่า ไม่มีขี้หมูปนเปื้อน ดังนั้น จึงต้องใช้ปุ๋ยฮาลาล เท่านั้นในการปลูก นี่จึงเท่ากับเป็นการบีบบังคับให้เกษตรกร ต้องซื้อปุ๋ยที่แพงขึ้นไปอีก (จากเดิมที่แพงอยู่แล้ว) ถ้าอยากจะขายผลิตผลให้กับทางโรงงาน

ดาบที่ 3 :- จะต้องมีเจ้าหน้าที่ฮาลาล ตรวจสอบการปลูก พืชผลเกษตรว่า ได้ปลูกตามหลักเกณฑ์ ของฮาลาลหรือไม่ ... นั่นหมายความว่า ต้องมีการจ้าง เจ้าหน้าที่ฮาลาล มาคุมเกษตรกรไทย อีกที ซึ่งแน่นอนว่า เกษตรกรไทย ต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ให้เจ้าหน้าที่ฮาลาลเอง

ดาบที่ 4 :- ต่อเนื่องจากดาบที่ 3 เป็นการเปิดช่องให้เกษตรกร ถ้ากรณี ไม่มีเจ้าหน้าที่ฮาลาล ก็ต้องมีชาวมุสลิม มีส่วนร่วมในการปลูกนั้น ... ดาบนี้แรงสุด นั่นหมายความว่า ถ้าเกษตรกรไทย ไม่สามารถหาเงินมาจ้าง เจ้าหน้าที่ฮาลาลได้ ก็สามารถเปลี่ยนศาสนา มารับศาสนาอิสลามได้ ก็จะสามารถขายพืชผลทางการเกษตร ให้กับโรงงานได้...

นี่หละครับ... แผนการกลืนเกษตรกรชาวพุทธ ที่เป็นรากหญ้าของประเทศ ให้หันมานับถือศาสนาอิสลามได้ อย่างแยบยลที่สุด อิสลามพวกนี้รู้จักใช้แรงกดดัน และบีบคั้น มาใช้งาน จนท้ายที่สุด เมื่อเกษตรกรทนไม่ไหว ก็ต้องหันมารับอิสลามทั้งหมด

ดาบทั้งหมดนี้ จะค่อยๆ เผยออกมาทีละเล่ม เพื่อไม่ให้คนไทยพุทธไหวตัวทัน ที่กล่าวมานี้ พวกเราพอจะเริ่มเห็นบ้างแล้ว (นอกจากสินค้าฮาลาล) เช่น ระบบขนส่งสินค้าฮาลาล (Halal Logistic) การแยกชั้นจำหน่ายสินค้าฮาลาล (Halal Shelf) ซึ่งเริ่มต้นที่มีฮาลาลใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีพวกนี้ มีการสอดแทรกเข้ามาภายหลัง ครับ...

"ทั้งหมดนี้มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ที่พวกเราชาวพุทธต้องลุกขึ้นมาต่อต้าน พ.ร.บ.ฮาลาล ฉบับนี้ และรวมไปถึง พ.ร.บ.อื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต กว่า 100 ฉบับ ซึ่งแต่ละฉบับ ก็ล้วนแต่มีดาบซ่อนไว้ทั้งสิ้น ที่พร้อมจะเชือดคนไทยพุทธให้หมดไปจากแผ่นดิน ที่บรรพชนเราสร้างมา...

Cr.บึงกาฬไม่เอามัสยิด "

@ อ่านจบแล้วมีทางออก ๒ ทาง คือ เชื่อกับไม่เชื่อ แต่ไม่ว่าทางไหนก็ล้วนมีคำถามตามมาทั้งสิ้น ถ้าเชื่อก็มีคำถามว่า ทำไม ? ถ้าไม่เชื่อก็มีคำถามว่า ทำไม ?
สำหรับผมอยู่ก้ำกึ่งระหว่างเชื่อกับไม่เชื่อ แต่ "ค่อนข้างจะเชื่อ" กลับมีน้ำหนักมากกว่าเพราะวิเคราะห์ตามหลักฐานแผนยึดครองประเทศไทย ๔๓ ข้อแล้วเป็นไปตามขั้นตอนนั้นเป๊ะเลย

@ เมื่อมุสลิมยึดครองประเทศไทย ความเป็นไทยซึ่งหลักๆมาจากวิถีพุทธก็จะถูกทำให้เลือนหายไป..ผองเพื่อนชาวพุทธเราเริ่มรู้สึกเสียดาย จึงบอกกันว่าขอขัดใจพวกโลกสวยทั้งหลายและออกมาโหวกเหวก มากกว่านั้นอาจจะถึงขั้นรวมพลังคัดค้านขัดขวางนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลที่จะสร้างทุกๆที่

@ ประเทศไทยอยู่ได้ครับ แม้จะไม่มีรายได้จากสินค้าตราฮาลา ภาษีจากชาวพุทธส่วนใหญ่ยังมีให้พี่น้องมุสลิมบินไปทำพิธีฮัจทีตะวันออกกลางและสร้างมัสยิดแข่งวัดไทยไปอีกนาน เพราะถึงอย่างไรรายได้จากการขายตราฮาลาลก็ไม่เข้ากระทรวงการคลัง เมืองไทยคนไทยไม่ว่าพุทธคริสต์อิสลามระดับชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์จากรายได้ที่เกิดจากขายตราฮาลาล

มิหนำซ้ำรายได้ส่วนนี้อาจจะถูกใช้มาเบียดเบียนชาวพุทธไทยด้วยซ้ำด้วยการใช้ซื้อที่ดิน ซื้อข้าราชการ ซื้อนักการเมือง ซื้อตัวชาวพุทธที่ยากจนไปแต่งงานกับคนมุสลิมอาจไม่ใช่คนไทย อย่างที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดับล่างเคยกระซิบให้ผมทราบว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตามพื้นที่ตะเข็บชายแเดนระหว่างไทยกับพม่า แต่ผู้ใหญ่ฝ่ายความมั่นคงไม่สนใจ

แม้บางท่านจากสภาความมั่นคงมาตอนนี้ได้เป็นใหญ่เป็นโตอยู่ในรัฐบาลทหาร เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ว่าเป็นภัยต่อบ้านเมืองหรือไม่ก็กลับพูดหน้าตาเฉยว่า ไม่เห็นเป็นภัยอะไร ? แต่กลับปักหมุดลงไปว่าการทำของวัดพุทธบางที่เสียอีกมี่ทีคนมามากมายในแต่ละอาทิตย์แต่ละเดือนและแต่ละเทศกาลเป็นภัย ผมกับผองเพื่อนฟังแล้วงงเต็กเลย...ไม่รู้จะหูหนวกตาบอดกันไปถึงไหน

เลยทำให้เชื่อมติดว่า ทำไมเขาต้องไปซื้อที่ไใกล้วัดพระธรรมกาย ? แล้วทำไมวัดพระธรรมกายจึงตกอยู่ในสถานะที่คนมีอำนาจหลายคนต้องการให้ล้ม ? ล้มแค่วัดพระธรรมกายแค่นั้นหรือ ? หรือว่าเป้าหมายต่อไปคือสถาบันสงฆ์ไทยทั้งระบบ ? แล้วจากนั้นต่อไปก็ชาวพุทธไทยทั้งประเทศ ?

โอ..แยบยล แหลมคม ลึกซึ้ง หลอกชาวพุทธพวกโลกสวยและปิดปากชาวพุทธผู้หลงใหลในยศศักดิ์ได้สนิท...

@ จึงขอฝากฝ่ายความมั่นคง สำนักตรวจเงินแผ่นดิน และสำนัก ปปช. ช่วยตรวจสอบว่า

"พี่น้องมุสลิมของผมกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่นี้มีเงินมาจากไหนมากมายขนาดซื้อที่ดินได้เป็นแสนๆไร่ ...ขนาดซื้อโรงเรียนเอกชนได้เป็นโรงเรียน...ขนาดซื้อชาวพุทธให้เปลี่ยนศาสนาได้ทั้งครอบครัว...ขนาดซื้อข้าราชการพุทธให้ออกหน้ามาท้ารบกับพุทธด้วยกันอย่างไม่อายบรรพบุรุษ..."

https://th-th.facebook.com/BuddhistsNews/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2016, 05:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
สาธุๆๆ ครับกับข่าวดี อนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่ร่วมมือร่วมใจ

มาว่าถึงคำถามคุณกรัธกายที่ถามว่าจะรับมือกับลัทธิอื่นอย่างไร?


มาพูดถึงความเชื่อในลัทธินั้นว่า ความเชื่อและคำสอนไม่ตรงสัจธรรมเหมือนพุทธศาสนา

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าจะถามคำถาม ถึงสาเหตุความเชื่อ และซักไซ้ใล่ความจนไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะหลักความเชื่อในลัทธิอื่นๆนั้นพอถูกโยงไปโยงมา จะขัดแย้งกันเอง

เมื่อลัทธิใดๆก็ตามที่ถูกตั้งขึ้นมาจากความเชื่อ จุดอ่อนที่เขากลัวมากคือการถูกตั้งคำถามซักไซ้ใล่เรียง



ตั้งนโม 3 จบช่วยไม่ได้หรือครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2016, 05:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ยุทธการ ตีโอบสังฆมณฑล ตอน

" ขบวนการทำลายพุทธ "

ช่วง จ้างบวชเพื่อทำลาย

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ปรากฏว่ามีการตีพิมพ์รูปบุคคลแต่งกายคล้ายพระ หลายภาพด้วยกัน โดยเห็นหน้าบุคคลทั้งสอง อย่างชัดเจน
ก็มีกระแสวิพากวิจารณ์ อย่างมากในกระแสโซเชียล

ผมขอตั้งขอสังเกต ดังนี้

1.บุคคลทั้งสอง ตั้งใจถ่ายรูปนี้ สังเกตจาก หันหน้าให้กล้องและยิ้มอย่างตั้งใจ
2.บุคคลทั้งสอง มีหลายรูปไม่ได้ถ่ายรูปเอง แสดงว่า ในที่ดังกล่าว มีบุคคลมากกว่า สองคน (ซึ่งอาจจะมีอีกนับสิบ ทั้งคนบอกบท คนแต่งหน้า คนจัดฉาก คนส่องไฟ และผู้กำกับ)
3.ตั้งใจ จงใจ ปล่อยให้ภาพนี้เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ

ถามว่า พวกเขาทำไปทำไม

คงได้แค่ย้อนพูดว่า อืม น่าคิด

รับรองว่า รู้อยู่แล้วว่า เมื่อภาพที่ตั้งใจปล่อยให้หลุดนี้ออกไปเมื่อไหร่ จะส่งผลคือ

1.คนจะเสื่อมศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา
2.โทษสูงสุด แค่สึก ไม่มีโทษอย่างอื่นเลย

ถามว่า ก็บุคคลคนนี้บวชจริงไม่ใช่หรือ

ตอบว่า บวชจริงอย่างแน่นอน เพราะในยุคนี้ หาคนบวชยาก เมื่อมีคนมาบอกว่า อยากบวช พระอุปัชฌาย์ ดีใจที่มีคนมาบวช เพื่อจะได้สืบทอดต่อพระพุทธศาสนา

และทราบในภายหลังว่า บุคคลดังกล่าว บวชเป็นพระจริง ที่จังหวัดกระบี่ โดยปรากฏเอกสารการจับสึกดังกล่าวของสำนักงานพระพุทธศาสนาผ่านสื่อต่างๆ

ผลที่อาจเกิดกับคนทั้งสองหลังจากที่ถูกจับสึกไปแล้ว

1.ทั้งสองคน อาจนั่งหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน อาจพากันนั่งนับเงินแบ่งเงินกันอย่างมีความสุข หลังจากทำงานได้ผล
2.เลี้ยงฉลองทีมงาน ที่ช่วยให้ไม่ต้องรำคาญใส่ผ้าเหลืองต่อ

ใครจะว่าอย่างไรผมไม่รู้ ปกติถ้าเป็นการบวชด้วยศรัทธาจริงและหากพ่ายแพ้ต่อกิเลสจริง เขาก็แอบกระทำอย่างลับๆ เพราะปกติคนที่ทำความผิดใดๆ เขาจะปกปิดความผิดของตัวเองอย่างที่สุด ไม่มีทางเปิดเผยให้คนอื่นได้เห็นได้รู้อย่างเด็ดขาด แต่กรณีนี้กลับตรงกันข้าม

ผมเชื่อด้วยการคาดเดาครับ ว่า ดังนั้นน่าจะเป็นขบวนการจ้างมาบวช เหตุผลคือ ตั้งใจถ่าย มีคนถ่ายให้ มีคนจัดฉากให้ และตั้งใจปล่อยภาพ ก็เพื่อทำลายศรัทธาต่อพระพุทธศาสนานั่นเอง

We Are Buddhists
พวกเราคือชาวพุทธ

นายกรณ์ มีดี
เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
นายกสมาคมทางสายกลาง
6 ต.ค. 59

https://www.facebook.com/56438445366528 ... =3&theater

(แค่โกนหัวเอาสัญลักษณ์พระนุ่งห่ม ถ่ายรูปลงเฟสแล้วก็ถอดออก แค่นี้ก็เสร็จภาระกิจแล้ว) :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2016, 07:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฟ้องเอาผิดทางโลกด้วย...อย่าแค่จับสึกอย่างเดียว...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2016, 07:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
สาธุๆๆ ครับกับข่าวดี อนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่ร่วมมือร่วมใจ

มาว่าถึงคำถามคุณกรัธกายที่ถามว่าจะรับมือกับลัทธิอื่นอย่างไร?


มาพูดถึงความเชื่อในลัทธินั้นว่า ความเชื่อและคำสอนไม่ตรงสัจธรรมเหมือนพุทธศาสนา

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าจะถามคำถาม ถึงสาเหตุความเชื่อ และซักไซ้ใล่ความจนไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะหลักความเชื่อในลัทธิอื่นๆนั้นพอถูกโยงไปโยงมา จะขัดแย้งกันเอง

เมื่อลัทธิใดๆก็ตามที่ถูกตั้งขึ้นมาจากความเชื่อ จุดอ่อนที่เขากลัวมากคือการถูกตั้งคำถามซักไซ้ใล่เรียง



ตั้งนโม 3 จบช่วยไม่ได้หรือครับ


ตั้งนะโมคือศรัทธาอยู่แล้ว

ท่องนะโม คนรู้ทันทีว่าเกี่ยวกับบูชาพุทธ

จิตจะจับกับพุทธะ คือองค์ธรรมภายใน

เรียนพุทธก็เรียนองค์ธรรมภายในครับ

หรือคุณกรัธกายคิดว่าช่วยไม่ได้?

ตั้งคำถามเหมือนสงสัยใน คาถานี้?

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2016, 07:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
สาธุๆๆ ครับกับข่าวดี อนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่ร่วมมือร่วมใจ

มาว่าถึงคำถามคุณกรัธกายที่ถามว่าจะรับมือกับลัทธิอื่นอย่างไร?


มาพูดถึงความเชื่อในลัทธินั้นว่า ความเชื่อและคำสอนไม่ตรงสัจธรรมเหมือนพุทธศาสนา

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าจะถามคำถาม ถึงสาเหตุความเชื่อ และซักไซ้ใล่ความจนไม่สามารถตอบคำถามได้ เพราะหลักความเชื่อในลัทธิอื่นๆนั้นพอถูกโยงไปโยงมา จะขัดแย้งกันเอง

เมื่อลัทธิใดๆก็ตามที่ถูกตั้งขึ้นมาจากความเชื่อ จุดอ่อนที่เขากลัวมากคือการถูกตั้งคำถามซักไซ้ใล่เรียง



ตั้งนโม 3 จบช่วยไม่ได้หรือครับ


ตั้งนะโมคือศรัทธาอยู่แล้ว

ท่องนะโม คนรู้ทันทีว่าเกี่ยวกับบูชาพุทธ

จิตจะจับกับพุทธะ คือองค์ธรรมภายใน

เรียนพุทธก็เรียนองค์ธรรมภายในครับ

หรือคุณกรัธกายคิดว่าช่วยไม่ได้?

ตั้งคำถามเหมือนสงสัยใน คาถานี้?



เหมือนเราพูดกันคนละเรื่องเดียวกันเนอะ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2016, 05:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องนี้อย่ามองแคบๆสั้นๆ ต้องศึกษากันยาวๆย้อนกลับไปดูอดีตอีกด้วย ถอยไปอีกๆๆ แล้วดูปัจจุบัน ก็พอเห็นอนาคตข้างหน้า

http://www.surasiha.com/hijab1.htm

ฟังพระพูดบ้างที่

https://www.youtube.com/watch?v=ENweo0FkCi0

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2016, 09:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รัฐบาลเอาเงินภาษีที่ส่วนใหญ่ชาวщиsจ่าย 47,000 ล้านบาท ไปอุดหนุนธนาคารōáaרมแห่งประเทศไทย เพื่ออุ้มหนี้เสีย ไม่ยอมให้ธนาคารōáaרมเจ๊ง

> อนุมัติ พรบ.ฮัจญ์ แต่ไม่อนุมัติ พ.ร.บ.นมัสการ 4 สังเวชนียสถาน

> ōáaרมขอตั้งมัáยิด 3 แห่งต่อจังหวัด อนุมัติทันที แถมงบก่อสร้างจาก อบต. ให้เสร็จสรรพ

สถานการณ์แบบนี้คือ ประเทศไทยโดนยึดหมดทั้งอำนาจการเมือง อำนาจการเงิน อำนาจการทหาร อำนาจการศึกษา อำนาจการเผยแผ่ศาสนา และอำนาจการปกครองท้องถิ่นแล้ว

และทั้งหมดนี้......... เกิดขึ้นได้ในยุครัฐบาลคสช.

https://www.facebook.com/45125281501996 ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2016, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อสังเกต. อยู่ที่ไหนตรงไหน เขาจะรวมตัวกันตั้งเป็นชมรม,เป็นสมาคมนั่นนี่ เพื่อช่วยเหลือกัน รวมตัวกันเขาจึงมีพลังต่อรองกับภาครัฐ

รูปภาพ

https://www.facebook.com/45125281501996 ... =3&theater

https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/ ... e=58AB1402

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2016, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ประโยชน์อย่างหนึ่งของมัáยิด คือ เอาไว้เปิดเสียงดังเพื่อให้ชาวψиśทนเสียงดังไม่ไหวแล้วไม่อยากอยู่ และจะได้ขายที่ดินไปในราคาถูกๆ หนีไป เมื่อมีใครจะคัดค้านมัáยิด ก็จะเจอแผนขั้นต่อไปของพวกōáaרม คือ พวกōáaרมจะอ้างว่า “ฉันอยู่มานาน ฉันเป็นเจ้าถิ่น พวกคุณทนเสียงมัáยิดไม่ได้ ก็ออกไปไม่ต้องอยู่” ใครอยากโดนไล่ออกจากถิ่นบ้านเกิด ก็ยอมให้พวกเขาสร้างมัáยิดใกล้บ้านท่าน สักวันหนึ่งภาพแบบนี้จะได้เกิดแถวบ้านท่าน

ตัวอย่าง

https://scontent.fbkk5-1.fna.fbcdn.net/ ... e=586D816A

https://www.facebook.com/16863586615843 ... =3&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2016, 16:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระราชปณิธาน พุทธสาวกพระเจ้าตากสินมหาราช

อันตัวพ่อ ชื่อว่า พระยาตาก
ทนทุกข์ยาก กู้ชาติ พระศาสนา
ถวายแผ่นดิน ให้เป็น พุทธบูชา
แด่พระศาสนา สมณะ พระพุทธโคดม

ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี
สมณะพราหมณ์ชี ปฏิบัติ ให้พอสม
เจริญสมถะ วิปัสสนา พ่อชื่นชม
ถวายบังคม รอยบาท พระศาสดา

คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า
ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา
พุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตรา
พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน

จารึกในศาลพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอรุณราชวราราม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2016, 20:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ข่าวไม่ดีของพระช่วงนี้ บังเอิญหรือมีพวกตั้งใจอยากให้เกิด

สำหรับพุทธศาสนิกชน บุคคลผู้มีปัญญาอันประเสริฐ
เคยตั้งข้อสงสัยไหมครับว่า ช่วงเทศกาลทอดกฐินของทุกๆปี มักจะมีข่าวไม่ดีของพระออกมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งข่าวเช่นนี้มุ่งทำลายศรัทธาโดยตรง
ยิ่งเป็นช่วงกฐินด้วยแล้ว เหมือนกลุ่มคนพวกนี้จะรู้ว่าวัดทั้งสังฆมณฑลได้ปัจจัยมาบริหารวัดจากบริวารกฐิน
การเร่งให้ออกข่าวช่วงนี้ ถือเป็นการบ่อนทำลายศาสนาพุทธอย่างแท้จริง
ข่าวแปลกล่าสุด

https://www.khaosod.co.th/featured/news_45087


หลวงปู่ ซึ่งหลงๆลืมๆเพราะอายุมาก ( 86 ปี ) ถูกใครก็ไม่รู้หลอกให้กินเหล้า
แล้วถ่ายคลิปประจาน จิตใจพวกคุณทำด้วยอะไร

หลังจากที่มีข่าวพระดื่มเหล้า ปรากฎเป็นข่าว จนทำให้สังคมออนไลน์เกิดการวิพากษ์วิจารณ์พระกันอย่างหนักทั้งด่าทอและต่อว่า โดยไม่สืบสาวหาเหตุถึงความไม่ชอบมาพากลอะไรเลย

วันนี้อาตมาได้รับข้อมูลเพิ่มเติม จากพระมหาเสาร์ สีหสุวณฺณปุตฺโต
ซึ่งท่านเป็นพระวินยาธิการที่ทำการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น ท่านกรุณาเล่าให้ฟังดังนี้ว่า

ขออนุญาตท่านพระอาจารย์มหาไพรวัลย์ชี้แจงกรณีนี้ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว

ปรากฏว่า ท่านเป็นพระจริง อายุ 86 ปี มีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส แต่มีอาการหลงลืมเป็นบางขณะเพราะอายุมาก ข้อเท็จจริงปรากฏว่า วันเกิดเหตุวันที่ 9 ต.ค.59 เวลาประมาณ 10.05 น.ท่านเดินทางไปตลาด ผ่านร้านค้านั้นที่เป็นข่าว

และมีกล้องวงจรปิด ร้านใกล้เคียงบันทึกเหตุการณ์ไว้ว่า

ท่านเข้าไปถามทางกลับวัด เพราะหลงลืมกับพ่อค้าขายไก่ย่างหน้าร้าน
สักครู่ มีผู้ชายใส่เสื้อขาวตามคลิปที่เป็นข่าวเดินออกมาจากร้านนั้น ชี้บอกทางท่าน
เหตุการณ์น่าจะจบเพียงแค่นี้ แต่ผู้ชายชุดขาวกลับจับแขนท่านจูงเข้าไปในร้านค้า
แล้วสั่งข้าวผัดพร้อมโค้กมาให้ แล้วยกแก้วสีเหลืองส่งให้ท่าน ครั้งแรกท่านไม่รับ ครั้งที่ส่งมาอีกจึงรับมาดื่ม

จะเศร้าใจยิ่งกว่านี้ หากทราบว่า คนที่ส่งแก้วให้เป็นครู มีตำรวจนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
และสำคัญที่สุดร้านนั้นเป็นร้านของนักข่าวที่เสนอข่าวนี้เป็นคนแรก
กับหลวงตาอายุ 86 ที่หลงลืมหาทางกลับไม่ได้ เสร็จแล้วเขาก็พาท่านขึ้นรถมอเตอร์ไซต์ไปส่งที่วัด ทั้งหมดนี้มีปรากฏในกล้องวงจรปิด...

ประเด็นที่อาตมาอยากจะฝากสังคมไว้ คือ เวลาที่มีกรณีอย่างชาวบ้าน อย่างคนทั่วไป
เกิดทำอะไรที่ผิดพลาด เช่น การฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง แสดงพฤติกรรมแปลกแปลก
หรืออะไรก็ตามแต่ เรายังมีการตั้งคำถาม ให้ความเป็นธรรมกับเขา
ให้ความเห็นใจสงสารว่า คนคนนี้ เป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า มีอาการทางจิตหรือเปล่า

แต่กับพระ ไม่รู้ว่าเราเคยใช้มาตรฐานแบบเดียวกันไหม
เราเคยตั้งคำถามกับพระแต๊วที่ด่าโยมบนรถเมล์หรือไม่
ว่าแกมีอาการทางจิตหรือเปล่า ตั้งคำถามกับพระแก่ที่จำทางกลับวัดไม่ได้
ว่าท่านมีอาการทางประสาทหรือไม่ เราให้ความเป็นธรรมกับนักบวชพวกนี้แค่ไหน

นี่ยังไม่รวมถึงว่า ทำไมเราไม่ตั้งคำถามกับครูหรือตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า
เหตุใดถึงไร้สามัญสำนึก ทำไมรู้ทั้งรู้ว่าท่านมีอาการหลงลืม
จึงไม่อนุเคราะห์พาท่านไปส่งที่วัดอย่างที่ควรจะทำ
ทำไมกลับจูงแขนท่านมานั่งดื่มเหล้าแล้วถ่ายคลิปประจาน
นี่คือคำถามที่อาตมาอยากถามว่าทำไม หรือพระป่วย ดูเป็นตัวตลกในสายตาของชาวบ้าน

เคดิตพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวินยาธิการ

http://pantip.com/topic/35698216

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2016, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลักการสร้างเสริมสัมมาทิฏฐิ

"ภิกษุทั้งหลาย ปัจจัยเพื่อความเกิดขึ้นแห่งสัมมาทิฏฐิ มี ๒ ประการ ดังนี้ คือ ปรโตโฆสะ และโยนิโสมนสิการ"

ปัจจัยแห่งสัมมาทิฏฐิ ๒ อย่าง ตามพุทธพจน์ที่ตรัสไว้นี้ คือ

๑. ปรโตโฆสะ = เสียงจากผู้อื่น การกระตุ้นหรือชักจูงจากภายนอก เช่น การสั่งสอน แนะนำ การถ่ายทอด การโฆษณา คำบอกเล่า ข่าวสาร ข้อเขียน คำชี้แจง อธิบาย การเรียนรู้จากผู้อื่น ในที่นี้ หมายเอาเฉพาะส่วนที่ดีงามถูกต้อง เฉพาะอย่างยิ่งการรับฟังธรรม ความรู้ หรือคำแนะนำจากบุคคลที่เป็นกัลยาณมิตร

ข้อแรกนี้ เป็นองค์ประกอบฝ่ายภายนอก ได้แก่ ปัจจัยทางสังคม อาจเรียกง่ายว่า วิธีการแห่งศรัทธา


๒. โยนิโสมนสิการ = การทำในใจโดยแยบคาย = การใช้ความคิดถูกวิธี ความรู้จักคิด คิดเป็น หรือคิดอย่างมีระเบียบ หมายถึง การรู้จักมอง รู้จักพิจารณาสิ่งทั้งหลาย โดยมองตรงตามที่สิ่งนั้นๆ มันเป็นของมัน และโดยวิธีคิดหาเหตุผล สืบค้นถึงต้นเค้า สืบสาวให้ตลอดสาย แยกแยะสิ่งนั้นๆ หรือปัญหานั้นๆ ออก ให้เห็นตามสภาวะ และตามความสัมพันธ์สืบทอดแห่งเหตุปัจจัย โดยไม่เอาความรู้สึกด้วยตัณหาอุปาทานของตนเข้าจับ

ข้อสองนี้ เป็นองค์ประกอบฝ่ายภายใน ได้แก่ ปัจจัยในตัวบุคคล อาจเรียกง่ายๆว่า วิธีการแห่งปัญญา


(ส่วนปัจจัยที่ให้เกิดมิจฉาทิฐิ ก็มี ๒ ตรงข้ามจากนี้ คือ ปรโตโฆสะที่ไม่ถูกต้อง และอโยนิโสมนสิการ (องฺ.ทสก.24/93/201)


ธรรมะกับอธรรมก็อยู่รอบๆตัวกับในตัวนี่แหละ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร