วันเวลาปัจจุบัน 02 พ.ย. 2025, 03:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 12:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b32:
bigtoo เขียน:
น้ำตาไหลเขาเรียกร้องไห้. ปีติไปดูที่พระองค์กล่าวไว้ซิคืออะไร


ผมไม่ได้ไม่เชื่อ....แต่ Bigtoo พูดว่า..พระองค์กล่าว..นะ...กระผมก็ว่าให้เอามาให้ดู..

พูดอะไรโดยเฉพาะ..กล่าวว่าพระองค์กล่าว...นี้...ต้องมีหลักฐานจริง

โดยเฉพาะ..Bigtoo มักบอกว่า..ควรกล่าวแต่คำตถาคต..ด้วยแล้ว...ยิ่งต้องมีหลักฐาน

กระผมแปลกใจนะ...
กบ บางอย่างอ่านมาได้ฟังมาบางครั้งผมก็อยากเอามาให้ดูนะ แต่บางทีไม่ได้จำว่าอยู่ตรงไหน. แต่ที่ไม่ได้เอามาให้อ่านเพราะย้อนกลับไปหาไม่เจอเพราะมันเยอะมาก แต่ขอบอกว่าผมศึกษาแต่พุทธวจน. และคำที่เปรียบเทียบลงกันได้ซึ่งมันอาจจะเป็นคำขยายความของสาวกผมไม่เคยรังเกลียดคำสาวกนะ. เพราะทุกคนสามารถที่จะขยายความได้แต่ต้องไม่ออกนอกจากความจริงพระองค์ก็ให้ตรวจสอบได้ สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ถูกต้องเช่นกัน. ส่วนท่านใดจะหมายความว่าพุทธวจนจะต้องเป็นอย่างไร. ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้สิทธิ์ส่วนบุคคล มตั้งแต่ผมได้ยินได้ฟังพุทธวจน(คำที่ออกจากพระโอษฐ์)ผมไม่มีเส้นแบ่งอะไรทั้งนั้นมีแต่ธรรมชาติล้วนๆ. ไม่ยึดมั่นสำนักใดๆ ไม่ยึดมั่นพระรูปใด ต้องมีตนมีธรรมเป็นที่พึ่งเท่านั้น

wink
การไม่ได้หลักของใจที่มั่นคง พึ่งตัวเองที่ยังมีกิเลสก็พึ่งกิเลสตัวเองพาคิดผิดๆ
อะไรๆก็ไม่ยั่งยืน ที่เที่ยงไม่ยอมรับ ธรรมทั้งหลายเที่ยงแน่นอนคือพระพุทธเจ้า
ไม่เข้าใจว่าปัญญาที่หยั่งทราบแยกได้อะไรถูกผิดฟังอะไรดูอะไรผิวเผินไม่ได้
ที่ดีย่อมมีเสียที่เสียย่อมมีดี ทางสายกลางคือรู้ได้ด้วยตาปัญญาอะไรถูกผิดก็รู้
ที่มีความแตกแยกเป็นความคิดที่แตกแยก พระธรรมของจริงมีจิตอันเดียวที่จะรู้
ถ้ายังไม่หยั่งลงถึงจิต ก็ไม่ถึงธรรมจริงๆ เพราะธรรมที่เห็นมีมหาศาลเลือกไม่ได้
ต้องทำเหตุให้ตรงทาง ท่านผู้รู้ท่านลงลึกในจิตตภาวนา สงสัยคือจิตไม่ถึงสัจจะ
อ่านไปสงสัยไปจะถึงสัจจะไม่ได้ ต้องใช้ปัญญาจากจิต ทำให้เกิดผลงานขึ้นมา
ได้ผลงานเกิดขึ้นที่จิตแล้วจะกี่ตำราก็เหอะเขียนแบบคิดเอาใครก็คิดเอาได้ง่ายๆ
พระธรรมอยู่คู่กับโลกตลอดเวลาเป็นธรรมดาสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมเอวังฯ
:b45:
ความลังเลสงสัยย่อมเป็นเหตุทำให้มีความคิดแตกแยกต้นเหตุอยู่ที่จิตที่ส่งออกนะ
ผู้รู้ท่านไม่ได้รู้แค่ผิวเผินน๊าปัญญาสามารถแตกแขนงหยั่งทราบความจริงแม่นยำ
เพราะทราบชัดเจน กาลามสูตรเป็นสภาวะที่้กิดกับจิตผู้ที่ท่านรู้ความจริงไม่ใช่จำ
ไม่ใช่อ่านแล้วจำได้ว่ามี10ข้อแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงตลอดเวลาเป็นอัตโนมัติเลย
:b44:
onion onion onion
ที่กล่าวมาก็น่าสนใจดีเหมือนกัน แต่คนกล่าวยังเข้าใจไม่ถึงที่สุด จึงต้องวิ่งหาความดี วิ่งหาอรหันต์. ท่องคาถา รดน้ำมนต์อยู่เลย. เลิกซะจะเห็นแสงสว่างมากกว่าที่เห็นอยู่. ที่เห็นอยู่นั้นมันหิ่งห้อย. ยังไม่ใช่แสงตะวันนะ มันเป็นตัวทิ้งถ่วง

:b12:
สัตว์โลกจะเป็นยังไง ท่านผู้รู้แจ้งแล้วท่านไม่ได้บอกคำที่ดูเหมือนผิวเผิน ทุกข์เพราะประมาทผู้อื่นน๊า
ธรรมทั้งหลายเค้าเป็นไปแบบอัตโนมัติ จิตรู้เองแล้วไม่ต้องไปเหนื่อยกำหนด เกิด-ดับตามเหตุปัจจัยแล้ว
ปัญญาต่างกัน รู้จริงคือการหยั่งทราบความหมายคำ รู้กะไม่รู้ต่างกันลิบฟ้ากับเหว บอกไปก็ไม่รู้อยู่นั่นเอง
:b39: :b39: :b39:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ส.ค. 2015, 19:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
:b32:
bigtoo เขียน:
น้ำตาไหลเขาเรียกร้องไห้. ปีติไปดูที่พระองค์กล่าวไว้ซิคืออะไร


ผมไม่ได้ไม่เชื่อ....แต่ Bigtoo พูดว่า..พระองค์กล่าว..นะ...กระผมก็ว่าให้เอามาให้ดู..

พูดอะไรโดยเฉพาะ..กล่าวว่าพระองค์กล่าว...นี้...ต้องมีหลักฐานจริง

โดยเฉพาะ..Bigtoo มักบอกว่า..ควรกล่าวแต่คำตถาคต..ด้วยแล้ว...ยิ่งต้องมีหลักฐาน

กระผมแปลกใจนะ...
กบ บางอย่างอ่านมาได้ฟังมาบางครั้งผมก็อยากเอามาให้ดูนะ แต่บางทีไม่ได้จำว่าอยู่ตรงไหน. แต่ที่ไม่ได้เอามาให้อ่านเพราะย้อนกลับไปหาไม่เจอเพราะมันเยอะมาก แต่ขอบอกว่าผมศึกษาแต่พุทธวจน. และคำที่เปรียบเทียบลงกันได้ซึ่งมันอาจจะเป็นคำขยายความของสาวกผมไม่เคยรังเกลียดคำสาวกนะ. เพราะทุกคนสามารถที่จะขยายความได้แต่ต้องไม่ออกนอกจากความจริงพระองค์ก็ให้ตรวจสอบได้ สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ถูกต้องเช่นกัน. ส่วนท่านใดจะหมายความว่าพุทธวจนจะต้องเป็นอย่างไร. ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้สิทธิ์ส่วนบุคคล มตั้งแต่ผมได้ยินได้ฟังพุทธวจน(คำที่ออกจากพระโอษฐ์)ผมไม่มีเส้นแบ่งอะไรทั้งนั้นมีแต่ธรรมชาติล้วนๆ. ไม่ยึดมั่นสำนักใดๆ ไม่ยึดมั่นพระรูปใด ต้องมีตนมีธรรมเป็นที่พึ่งเท่านั้น

wink
การไม่ได้หลักของใจที่มั่นคง พึ่งตัวเองที่ยังมีกิเลสก็พึ่งกิเลสตัวเองพาคิดผิดๆ
อะไรๆก็ไม่ยั่งยืน ที่เที่ยงไม่ยอมรับ ธรรมทั้งหลายเที่ยงแน่นอนคือพระพุทธเจ้า
ไม่เข้าใจว่าปัญญาที่หยั่งทราบแยกได้อะไรถูกผิดฟังอะไรดูอะไรผิวเผินไม่ได้
ที่ดีย่อมมีเสียที่เสียย่อมมีดี ทางสายกลางคือรู้ได้ด้วยตาปัญญาอะไรถูกผิดก็รู้
ที่มีความแตกแยกเป็นความคิดที่แตกแยก พระธรรมของจริงมีจิตอันเดียวที่จะรู้
ถ้ายังไม่หยั่งลงถึงจิต ก็ไม่ถึงธรรมจริงๆ เพราะธรรมที่เห็นมีมหาศาลเลือกไม่ได้
ต้องทำเหตุให้ตรงทาง ท่านผู้รู้ท่านลงลึกในจิตตภาวนา สงสัยคือจิตไม่ถึงสัจจะ
อ่านไปสงสัยไปจะถึงสัจจะไม่ได้ ต้องใช้ปัญญาจากจิต ทำให้เกิดผลงานขึ้นมา
ได้ผลงานเกิดขึ้นที่จิตแล้วจะกี่ตำราก็เหอะเขียนแบบคิดเอาใครก็คิดเอาได้ง่ายๆ
พระธรรมอยู่คู่กับโลกตลอดเวลาเป็นธรรมดาสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมเอวังฯ
:b45:
ความลังเลสงสัยย่อมเป็นเหตุทำให้มีความคิดแตกแยกต้นเหตุอยู่ที่จิตที่ส่งออกนะ
ผู้รู้ท่านไม่ได้รู้แค่ผิวเผินน๊าปัญญาสามารถแตกแขนงหยั่งทราบความจริงแม่นยำ
เพราะทราบชัดเจน กาลามสูตรเป็นสภาวะที่้กิดกับจิตผู้ที่ท่านรู้ความจริงไม่ใช่จำ
ไม่ใช่อ่านแล้วจำได้ว่ามี10ข้อแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงตลอดเวลาเป็นอัตโนมัติเลย
:b44:
onion onion onion
ที่กล่าวมาก็น่าสนใจดีเหมือนกัน แต่คนกล่าวยังเข้าใจไม่ถึงที่สุด จึงต้องวิ่งหาความดี วิ่งหาอรหันต์. ท่องคาถา รดน้ำมนต์อยู่เลย. เลิกซะจะเห็นแสงสว่างมากกว่าที่เห็นอยู่. ที่เห็นอยู่นั้นมันหิ่งห้อย. ยังไม่ใช่แสงตะวันนะ มันเป็นตัวทิ้งถ่วง

:b12:
สัตว์โลกจะเป็นยังไง ท่านผู้รู้แจ้งแล้วท่านไม่ได้บอกคำที่ดูเหมือนผิวเผิน ทุกข์เพราะประมาทผู้อื่นน๊า
ธรรมทั้งหลายเค้าเป็นไปแบบอัตโนมัติ จิตรู้เองแล้วไม่ต้องไปเหนื่อยกำหนด เกิด-ดับตามเหตุปัจจัยแล้ว
ปัญญาต่างกัน รู้จริงคือการหยั่งทราบความหมายคำ รู้กะไม่รู้ต่างกันลิบฟ้ากับเหว บอกไปก็ไม่รู้อยู่นั่นเอง
:b39: :b39: :b39:
:b16: :b16:
นี่ไม่ได้ประมาทผู้อื่น. ที่เห็นท่านทำอยู่มันก็ดีแต่ยังไม่เพียงพอที่พระองค์อยากให้เป็น. ส่วนเรื่องเกิดับอะไรนั้นเราสัมผัสได้เป็นล้านครั้งต่อวินาทีๆเราเข้าถึงความจริงที่อยู่เหนือความจริงขั้นสมมุติ เราจึงละทิ้งเรื่องราวต่างๆเหลือแค่ตนและธรรมเป็นที่พึ่ง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร