กรัชกายเริ่มออกอาการแล้ว ไม่เป็นไรพี่โฮไม่ถือ

แต่อยากจะบอกให้ ไอ้ที่บอกว่า.."ไม่ใช่ของจริง"นั้นน่ะ มันไม่เรียกสมมุติ
แต่เขาเรียกว่า........ฟุ้งซ่าน มันเกิดจากสังโยชน์ อุธัจจะ เข้าใจมั้ย

ที่ถามไว้ คำไหน แปลว่า ตาม คำไหนแปลว่า รู้ เป็นภาษาอะไร ทำไมจึงแปลยังงั้นล่ะนะ

อิๆๆ ที่ถามไม่ตอบ พร่ำนอกเรื่อง น่าเบื่อหน่าย พูดๆๆ เป็นนกแก้วนอกขุนทอง

ที่พูดไว้ แล้วกรัชกายถามยังเหลืออีกนะขอรับ ตอบให้หมดเลย อยากรู้ว่ามันเป็นอะไรยังไง

มาว่าพี่โฮน่าเบื่อหน่าย แล้วจะมาเซ้าซี้ถามซ้ำซากทำไม
มาว่าพี่โฮ"พูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง" กรัชกายไม่รู้ตัวว่า อาการของกรัชกายตอนนี้
มันไม่ผิดกับนกนกขุนทอง ยังมีหน้ามาว่าคนอื่น

จะบอกให้ที่กรัชกายทำอยู่เขาเรียกว่า...กล่าวตู่พุทธพจน์
การพูดธรรมต้องยึดเอาพุทธพจน์เป็นหลัก นี่ดันเอาภาษาทางโลกมาเป็นหลัก
เอาจินตนาการความคิดทางโลกเป็นที่ตั้ง แล้วเอาพุทธพจน์มาเป็นคำแปล

ทำแบบนี้พุทธพจน์ก็มีความหมายผิดจากธรรมชาติน่ะซิ
กรัชกายทำให้พุทธวจนผิดเพี้ยนยังไม่รู้ตัวอีก

มันมีเยี่ยงอย่างที่ไหน มาบอกว่า คน สัตว์ กรัชกาย โฮฮับ ไม่จริง
ดันสรุปหน้าเฉยว่า คน สัตว์ กรัชกาย โฮฮับ ไม่มีจริง เพราะเป็นสมมติ
แล้วคิดเอาเองว่า สมมติแปลว่าไม่มีอยู่จริง ตลก



ขาดสติสัมปชัญญะแยกแยะภาษาทางโลกกับภาษาทางธรรม
จะพูดธรรมต้องเอา พุทธพจน์มาเป็นหลัก แล้วจึงแปลเป็นภาษาทางโลก
ไม่ใช่เอาภาษาทางโลกมาเป็นหลัก แล้วไปเอาพุทธพจน์มาเป็นคำแปล

แบบนี้เรียกว่า กล่าวตู่พุทธพจน์ ทำให้พุทธวจนผิดเพี้ยน

อ้าวววอุตส่าห์คิดพิมพ์ตั้ง 2 คห. แต่ยังไม่ได้คำตอบ

ที่ตัวเองพูดว่า "สมมติ" แปลว่า รู้ตาม นั่นน่า ไปเอาคำแปลมาแต่ไหน เป็นภาษาอะไร คำไหนแปลว่า รู้ คำไหน แปลว่า ตาม หรือคิดเดาเอา ตอบมาคำเดียว ใช่ ไม่ใช่ คิกๆๆ

เอามาจากอวิชชาของตัวเองที่พูกพูนครับ
ถ้าอยากได้สิ่งที่สนับสนุนความเห็น ก็ไปดูได้ในบาลีสยามรัฐ
แล้วเข้าไปดูในแปลบาลี ถ้าให้ดีดูในพจนานุกรมแปลบาลีสยามรัฐ

เว็บบาลีสยามรัฐไปหาโหลดเอาเอง มันวางลิ้งไม่ได้

อยากจะโชว์ดีอวดเก่งคำศัพท์ มันต้องอ้างบาลี
ไม่ใช่ไปเอาคำแปลมาจาก ดิกชั่นนารี หรือเอามาจากเว็บเด็กดี

ลักษณะของกัมมัฏฐานเป็นไงขอรับ ลักษณะกรรมฐาน

พูดกับคนไม่รู้นี่ยากลำบาก ก็คำว่า สมมติ หรือสมมุติ นี่แหละบาลี คิกๆๆ เออ ถามหาเสือ เสือยืนอยู่ตรงหน้ากลับไม่รู้จัก คิกๆๆ

มอบเพลงนี้ให้โดยเฉพาะเรย

http://www.youtube.com/watch?v=-oIGM8XowCU

พูดไปเรื่อยเปื่อยโฮฮับชอบ ครั้นให้ตอบ โฮฮับ ไม่ คริๆๆ

พูดได้เป็นคุ้งเป็นแคว พอเราถามว่า พูดอะไรขอรับ ตอบ "ไม่รู้" แล้วจะพูดทำไมขอรับ ไม่เข้าใจ

ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า...
เจ้ากรัชกาย ขอรับ คุณคงเถียงกับเจ้า โฮฮับ อย่างสนุกเลยนะ แล้วคุณรุ้ไหมว่า ทำไมข้าพเจ้าไม่อยากจะเสวนากับเจ้าผู้ใช้ชื่อว่าโฮฮับ เพราะ เจ้านั่น มันอวดรู้ อวดฉลาด ความจริงแล้วมันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว รู้หลักความจริงอะไรเลย อ้างเอา พุทธวจนะ พุทธพจน์ แบบเอาสีข้างเข้าถูก ทำเป็นอวดความรู้ ที่เป็นความรู้ที่ผิดๆ แถมผิดหลักศาสนาด้วยซ้ำไป
แค่เจ้าโฮฮับ กล่าวว่า "ภาษาทางโลก ภาษาทางธรรม" มากล่าว เจ้ากรัชกาย ก็คงจะรู้แล้วว่า เจ้าโฮฮับนั้น ไม่ได้รู้หลักความจริงตามหลักศาสนาเลย
มันทำอย่างกับว่า พุทธศาสนา เกิดขึ้นนอกโลกอย่างนั้นแหละ มันทำอย่างกับว่า ภาษาในทางศาสนา ไม่ใช่ภาษาของมนุษย์โลกอย่างนั้นแหละ
มันไม่ได้ดูเงาหัวของมันเลยแม้แต่น้อย มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ภาษาในทางศาสนานั้น มันเป็นสำนวนภาษาที่เกิดขึ้นนับหลายพันปีผ่านมาแล้ว มันเข้าใจว่า ภาษาปัจจุบัน เป็นภาษาทางโลก ส่วนภาษาเมื่อหลายพันปีนั้น เป็นภาษาทางธรรม
ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า..... เจ้าโฮฮับเอ๋ย ทิฏฐิ ของเจ้ารักษาเอาไว้ จนตัวเจ้าตายไปจากโลกเถิดขอรับ

เห็นด้วยนะครับ
ทิฏฐิของตนย่อมนำไปสู่ภพภูมิในอนาคตครับ

ตกลง นอกจากจะอยู่ในสายตาของผู้รักษาลานแล้ว ยังมีกัลยาณมิตรอีกหลายท่าน มาช่วยกันตัดสินโฮฮับ........(ขึ้นบันไดขั้นที่ 16 แล้วนะ ท่านโฮฮับ สูงมากแล้ว ถ้าตกลงมาก็จะเจ็บมากนะครับ)

ธรรมะแท้จริง นั้นเรียบง่าย
แต่อาจถูก ทำให้ ดูสับสน
เนื่องจากความไม่รู้ (อวิชชา)ของบางคน
ธรรมก็โดน ทำให้ยาก ลำบากใจ

เสวนาไร้พุทธธรรม นำเป็นหลัก
ย่อมจะชักพาให้ ได้ฉงน
อธิบาย มากเกินธรรม จึงนำคน
เวียนวกวน จนอาจ คิดเบื่อธรรม

หยุดสร้างกรรม ทำบาป กำหราบจิต
เชื่อฟังมิตรทักท้วง ทวงกุศล
โปรดอย่าทำให้ธรรม ต้องวกวน
จงเป็นคน....ทำยากให้ง่าย...จึงใช่ธรรม

โสกะอ่านพุทธวจนะบทนี้ให้ดี จะได้ไม่หลง.....

"ภิกษุทั้งหลาย ! พวกภิกษุบริษัทในกรณีนี้, สุตตันตะเหล่าใด ที่กวีแต่งขึ้นใหม่เป็นคำร้อยกรอง
ประเภทกาพย์กลอน มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตรเป็นเรื่องนอกแนว เป็นคำกล่าวของสาวก
เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่ เธอจักไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง
และจักไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน.

"พวกนอกแนว"....................

"พวกนอกแนว"..

เฉพาะในกระทู้นี้ มีคนเห็นต่างจากคุณโฮฮับ 3 - 5 คน แสดงว่าท่านเหล่านั้นเป็น ....."พวกนอกแนว"..ทั้ังหมด มีแต่คุณโฮฮับคนเดียว ที่เป็นพวก....... "ในแนว".......อย่างนั้นใช่ไหมครับ?


มันดูกระไรๆอยู่นะครับคุณโฮ........

ลองพิจารณาตัวเองใหม่ดีไหมครับ?

"ที่นี่เพื่อ.....คลายพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิ"

(จากป้ายหน้าวัดหนองป่าพงและวัดสาขาหลายแห่ง ทั่วโลก)


ธรรมะแท้จริง นั้นเรียบง่าย
แต่อาจถูก ทำให้ ดูสับสน
เนื่องจากความไม่รู้ (อวิชชา)ของบางคน
ธรรมก็โดน ทำให้ยาก ลำบากใจ

เสวนาไร้พุทธธรรม นำเป็นหลัก
ย่อมจะชักพาให้ ได้ฉงน
อธิบาย มากเกินธรรม จึงนำคน
เวียนวกวน จนอาจ คิดเบื่อธรรม

หยุดสร้างกรรม ทำบาป กำหราบจิต
เชื่อฟังมิตรทักท้วง ทวงกุศล
โปรดอย่าทำให้ธรรม ต้องวกวน
จงเป็นคน....ทำยากให้ง่าย...จึงใช่ธรรม

3-5ท่านแล้วไงครับ ต่อให้เป็นร้อยเป็นพัน ถ้ามากล่าวธรรมในลักษณะที่พระพุทธองค์ห้าม
มันก็เป็นพวกนอกแนวทั้งนั้นครับ
"พวกนอกแนว" คำนี้ผมไม่ได้เป็นคนกล่าว แต่เป็นพระพุทธองค์กล่าว
และมีอยู่ในพระธรรมวินัย

โสกะเอาเรื่องที่ใช้ไม่ได้มาเป็นหลักในพุทธศาสนาครับ อย่าใช้วิธี"พวกมากลากไป"
แบบนี้มันจะพากันหลงไปซะหมด

ถ้าคิดแบบนี้ผมว่า พุทธศาสนาก็ไม่เกิดในชมพูทวีป
โสกะรู้มั้ยว่า ในสมัยพุทธกาล ก่อนที่พระพุทธองค์จะประกาศศาสนา
ในสมัยนั้น คนส่วนใหญ่เขานับถือศาสนาอะไรอยู่

ที่ยกคนนั้น วัดนี้ขึ้นเพื่อ.......? จะเอาพวกสาวกรุ่นหลังๆมาชนกับคำสอนของพระพุทธองค์หรือครับ
โสกะอย่าหน้ามืดตามั่วซะจนลืมดูว่าอะไรเหมาะ อะไรไม่ควร

เอาอย่างนี้ดีกว่า โสกะอ้างอิงวัดหนองป่าพงและวัดสาขา
ผมก็อยากแนะนำว่า เอากลอนหรือข้อความที่เราคุยกัน
ไปถามวัดที่เป็นสาขาหนึ่งของวัดหนองป่าพง นั้นก็คือวัดนาป่าพง

ไปถามหลวงพี่คึกฤทธิ์ดูว่า ท่านจะตอบอย่างไรกับคำกลอนบทนี้