คุณ มัทนา ณ หิมะวัน (อยู่ไกลจัง)



พระสมเด็จ ๙ประเทศ ก็ เอาตามที่ คุณกบ ไปนำข้อมูลมาจากอาจารย์กุ๊กกู๋ ก็ แล้วกันครับ


ได้ ทราบข้อมูล มาว่า มีการนำมวลสารเก่าของสมเด็จโต เข้าใจว่า น่าจะเป็น เศษพระแตกหัก และ ดิน จากก้นกรุ ที่วัดบางขุนพรหม (เปิดกรุเป็นทางการปี2500)มาเป็นมวลสารด้วย.


และ เห็นรายนามคณาจารย์ที่มาร่วมอธิษฐานจิต




เก็บไว้ดีๆเถิดครับ เป็นมงคลมากๆ




เป็นไปได้สูงมาก ว่า คุณอาจจะมีพระเก่าที่หายาก แต่ คุณดูไม่เป็น

ลอง ถ่ายรูป ด้านหน้า-หลัง มาลง ในกระทู้นี้ สิครับ

ใช้ กล้องดิจิตอล นี้ ก็ได้

1.ต้องใช้การตั้งกล้องด้วยขากล้อง และ หน่วงเวลาถ่ายภาพประมาณ2วินาทีขึ้นไป(กันภาพไหว)

2.เลือกแบบที่มีรายละเอียดภาพสูงหน่อย(น่าจะมากกว่า7ล้านพิกเซลขึ้นไป)

3.ใช้โหมดมาโคร พยายามถ่ายให้ใกล้ที่สุด เท่าที่กล้องจะทำได้

4.ให้แสงมาจากมุมเฉียง ประมาณ45องศา 2ด้าน ขององค์พระ คือ เฉียงขวาบน และ เฉียงซ้ายบน (ห้ามใช้แสงยิงตรงๆ และ ห้ามวางแสงมาจากด้านล่าง เพราะ จะทำให้ภาพดูหลอกตาได้) โดยให้มุมแสงทำมุม30-45องศา กับพื้นหลัง

5.พื้นหลัง ควรเป็นพื้นสีขาว ที่ไม่สะท้อนแสง

6.มุมกล้อง ต้องตั้งฉากกับพื้นหลัง

และ ลองนำมาวางในกระทู้นี้ สิครับ


จะได้ ช่วยๆกันดู

หลวงพ่อ แดง วัดเขาบันไดอิฐ เกจิแห่งเพชรบุรี เมืองคนจริง

รุ่นนี้ คุณตาของผม ท่านร่วมกับเพื่อนๆของท่าน สร้าง เมื่อปี 2513

หลวงปู่ พระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน

เป็นศิษย์อาวุโส ของ ครูบาศรีวิชัย มากด้วยเมตตาธรรม

บรรยายกาศที่วัด สมัยก่อน สวยงามครับ วัดอยู่บนเนินเขา

พระองค์นี้ เป็นของท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง

ปกติท่านจะไม่ให้ใครดูครับ.... บังเอิญว่า ผมสนิทกับท่านมาก และ ท่านเมตตาผมมาก จึง มีโอกาสถ่ายรูปมาศึกษา

........

คห.ส่วนตัวครับ

เป็น พระสมเด็จๆวัดระฆัง พิมพ์พระประธาน อกวี ทรงชลูด

ติดพิมพ์ไม่ลึกมากนัก แต่ ก็ถือว่าคมชัด

ตำหนิพิมพ์ทรง สมบูรณ์ (หาอ่านตำหนิเอกลักษณ์ ได้จาก หนังสือของ เล็ก วัดรวก และ หนังสือ ของ คุณรังสรรค์)

การตัดกรอบได้ดุลย์พอดี จะมีลักษณะที่เรียกว่า กรอบกระจก คือ มีเนื้อเกินขอบพิมพ์ออกไปเล็กน้อย. มองโดยรวม สง่ามาก.

เป็นพระเนื้อปูนแกร่ง ออกสีขาวเทา เนื้อกังใส(เอียงทำมุมกับแสงจะมีเงาสะท้อนเล็กน้อย)

มวลสารละเอียด จะมีมวลสารที่แยกตัวบ้า่งเป็นบางจุด เช่น ตรงซุ้มครอบแก้วด้านซ้ายบนขององค์พระ จะเห็นมีการหลุดของมวลสารออกไปเป็นหลุม ซึ่ง เป็นไปตามกาลเวลา

ด้านหน้า;
เดิมมีการลงรักปิดทอง แต่ ต่อมา ล้างรักทองออก จึง แตกลายงา งดงาม .สังเกตุดู รักเก่าที่ถูกล้างออก บางจุดที่ยังเหลืออยู่ จะมีสีออกน้ำตาลแดง.
มีการยุบตัว หดตัว ของเนื้อ ให้เห็นโดยเฉพาะด้านในของเส้นซุ้มครอบแก้ว ในระดับเดียวกันกับฐานพระ.

ด้านหลัง ;
ไม่มีการแตกลายงา(มีเพียงรอยร้าวรานตามธรรมชาติเล็กน้อย) .มีรอยรูพรุนปลายเข็มพร่างพราว.มีริ้วรอยของการปาดหลัง(ใช้ไม้ไผ่ หรือ ตอกตัด) ตรงกลางขององค์พระ ปรากฏมวลสารแยกตัวให้เห็นเป็นบางจุด แต่ ก็ไม่มีการหลุดร่อนของมวลสารมากนัก เพราะ เป็นพระเนื้อปูนแกร่ง.
มีมวลสารเม็ดเขื่องให้เห็นที่ริมขอบพระด้านขวา ตรงระดับกลางๆ.

มุม และ ขอบของพระ ถึงแม้นจะตัดเป็นสี่เหลี่ยมสมบูรณ์ และ เนื้อแกร่ง แต่ ก็ยังเห็นรอยมนที่เกิดตามกาลเวลาให้เห็น

ที่น่าสนใจมาก ของพระองค์นี้ คือ ด้านข้างครับ.... จะนำรูปด้านข้างมาลงต่อไป

ผมถ่ายรูปโดยใช้วิธีเจาะกล่องกระดาษ และ วางพระเข้ารอยเจาะ

ผมป้องกันการทำพระตกครับ ต้องระวังสุดๆ


เป็นด้านซ้ายของขอบพระ;

พระเศียรชี้ไปทางด้านบนในรูป
ด้านหน้าของพระเป็นทิศซ้ายบนในรูป

การตัดขอบ(ด้วยไม้ไผ่)จะตัดจากหลังไปหน้า สังเกตุดูจากรอยของเนื้อปูน
(ถ้า อยากรู้ ลองหาปูนใกล้แข็งตัว แล้วจำลองการตัดดู จะรู้ทิศทางการตัด)

เนื้อตรงขอบ จะมีลักษณะยุบตัวลง(ไม่ใช่พองออกน่ะครับ)

ประมาณตรงระดับ 1ใน4 นับจากขอบบนขององค์พระ จะมีมวลสารแยกตัว เป็นเป็นรอยเนื้อปูนว่างๆรอบมวลสาร

ประมาณตรงระดับ 3ใน4 นับจากขอบบนขององค์พระ จะมีมวลสารแยกตัว เป็นเป็นรอยเนื้อปูนว่างๆรอบมวลสาร เช่นกัน

หลายจุด จะเห็น มวลสารหลุดร่อนออก และ เนื้อพระยุบตัว โดยเฉพาะ ประมาณตรงกลางขององค์พระ จะมีรอยที่มวลสารหลุดออกไปแล้วเป็นรอยใหญ่ ด้วย

ลักษณะเหล่านี้ เป็นไปตามกาลเวลา ครับ

ขอบด้านล่างของพระ;

ด้านหน้าของพระอยู่ด้านบน ครับ

เห็นรอยยุบตัวของเนื้อพระ มีมวลสารหลุดร่อน มวลสารแยกตัว ชัดเจน

เห็นรอบตัดขอบจากหลังไปหน้า จากมุมนี้ชัดครับ

รูปหล่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

องค์นี้ เป็นของผมเอง


พระอาจารย์ ท่านหนึ่ง มอบให้ผมมา....ฟรีๆ ครับ

ถึงแม้นว่า จะไม่ได้สร้างโดยสมเด็จโตๆ ก็ตาม แต่ ก็เป็นของเก่าทีเดียว ทองแดงแบบนี้ เรียกว่า ทองแดงฝาบาตร ครับ.อายุ น่าจะเกือบร้อยปีเหมือนกัน .... เคยผ่านตาว่า มีการสร้างรูปหล่อของท่าน ที่วัดเกศไชโย

ตั้งแต่ได้รับรูปหล่อนี้มา เคารพบกราบไหว้.... รู้สึกว่า มีสิ่งดีๆในชีวิต ปรากฏเรื่อยๆ
(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดพิจารณาอย่างรอบครอบ)

อยากเรียนว่า

ถ้า เราท่าน หากไม่สามารถมีพระสมเด็จๆของยุคสมเด็จโตท่านมาบูชา
ก็ สามารถใช้พระรุ่นอื่นที่สร้างภายหลัง หรือ รูปภาพของท่าน ก็ได้ เป็นเครื่องระลึกถึงท่าน และ หมั่นสวด พระชินบัญชรคาถา ทุกๆวัน....
อธิษฐานสิ่งใด ถ้าเหตุปัจจัยเพียงพอ(ไม่ใช่งอมืองอเท้า) และ มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ ....สังเกตุว่า มักจะสำเร็จ ครับ

เล่าถึง พระคาถาชินบัญชร

ที่ผมฟังการสวดครั้งแรก คือ บนถ้ำผาป่อง ครับ
ไพเราะมาก ....อากาศ ก็เย็บเจี๊ยบ เสียงพระสามสิบรูปสวดกังวานทั้งถ้ำ



สมัยก่อน เวลาทำวัตรเช้า หลวงปู่ สิม ท่านไม่ได้พาสวดพระชินบัญชรคาถา....

มีอยู่วันหนึ่ง มีผู้นำรูปหล่อสมเด็จโต องค์คล้ายๆที่ผมได้มานี้ละครับ มาถวายหลวงปู่ท่าน.
ต่อมาภายหลัง หลวงปู่ท่านจึงพาพระเฌรสวดพระชินบัญชรคาถาในตอนทำวัตรเช้า ....

มีผู้ ถามท่านว่า ทำไมท่านจึงพาสวดพระคาถานี้...
หลวงปู่ ท่านตอบ แบบอารมณ์ดี ว่า
"สมเด็จโต เปิ้นมาบอกฮื้อสวด..."
(สมเด็จโต ท่านมาบอกให้สวด)

ผมก็เลยสวดตามหลวงปู่สิมครับ

พระอรหันตธาตุ



หลวงพี่ท่านหนึ่ง เดินทางขึ้นเหนือไปกราบ หลวงปู่ ประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ แม่แตง เชีียงใหม่

หลวงปู่ประสิทธิ์ ท่านเมตตา มอบให้หลวงพี่มา และ ผมได้รับไว้บูชาส่วนหนึ่ง

สมมติน่ะค่ะคุณหมอ คิดว่าไกลก็ไกล
คิดให้ใกล้ก็ใกล้นะคะ





ขอบพระคุณ คุณหมอตรงฯ ด้วยเจ้าค่ะ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
และกรุณาแนะนำเรื่องการถ่ายภาพมาให้
(แต่ถ้าต้องใช้ขาตั้งกล้อง สงสัยจะเป็นเรื่องใหญ่ของตัวเองแน่ๆ)
ไม่ค่อยมีฝีมือทางด้านนี้ซะด้วย
ที่ผ่านมาก็ต้องอาศัยไหว้วานกัลยาณมิตรใกล้ตัวถ่ายรูปให้อยู่เสมอๆน่ะ่ค่ะ

แต่จะลองดู...ขอเวลาหน่อยนะคะ

ตอนนี้ขอติดตามกระทู้นี้ไปพลางก่อนก็แล้วกันค่ะ

คุณ มัทนา ครับ

ขาตั้งกล้อง เดี๋ยวนี้ ชนิดที่ใช้งานได้พอใช้ ผลิตจากจีน ราคาไม่กี่ร้อยบาท(ประมาณ 400-600บาท)

ไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องราคาแพงๆเลย เพราะกล้องที่เราใช้เป็นกล้องดิจิตอลคอมแพ็ค น้ำหนักเบามาก และ ใช้โปรแกรมหน่วงเวลาถ่ายภาพ ช่วยป้องกันการไหวของกล้องด้วย ครับ

ขอบพระุคุณคุณหมอตรงฯมากเลยค่ะ
สำหรับคำแนะนำดีดีเรื่องอุปกรณ์ถ่ายภาพ

แต่จริงๆแล้วปัญหาของยายมัท
ไม่ได้อยุ่ที่อุปกรณ์เลยอ่ะค่ะ
เพราะที่บ้านก็มีกล้อง Manual พร้อมขาตั้งกล้องด้วย
(ของน้องชาย..คงหยิบยืมได้ไม่ยาก)

แต่ปัญหาอยู่มี่ skilll ของยายมัทเองตะหาก..นี่สิ
(น่าเป็นห่วง และสงสารคนที่จะดูรูปที่เราถ่ายอ่ะค่ะ!!!!)



ยังไงจะลองดูนะคะ..ขอเวลาหน่อย
ขอบพระคุณมากอีกครั้งค่ะ

อยากดู..อยากดู

ชัดไม่ชัด..ไม่ว่ากัน

คุณใสที่เลื่อมใสค่ะ..

ระหว่าง รอภาพจากคุณ มัทนา(นานหนอ ๆ)


ผม นำพระที่ผมถ่ายไว้ มาลงต่อ น่ะครับ




พระอุปคุตเถระ ศิลปะพม่า





เป็นรูปหล่อโบราณ ความเก่าได้ใจ

พระอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านจะไปแถวชายแดนบ่อยๆ ท่านได้มา และ มอบให้ผมมา

พระอุปคุต ที่เราท่าน คนไทยคุ้นกัน จะเป็น ปางจกบาตรมองตะวัน.
แต่ ที่นำมาลงนี้ เป็นปางประทับอยู่ในหอยสังข์.

ตามตำนาน ว่ากันว่า ท่านเป็นพระสงฆ์สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นองค์ธรรมถึกเอก และ มีฤิทธิ์มาก.

ท่านมักจะไปยังเมืองบาดาล โปรดพญานาคราช จึงมีประวัติท่านสัมพันธ์กับ ในน้ำ.
บางปาง จะเป็นรูปท่านมีใบบัวคลุมบนศรีษะ ก็มี.
ชาวพม่า เวลาลอยกะทง เขาหมายจะบูชาคุณท่าน (ในขณะคนไทยบูชาพระแม่คงคา)

ท่านตั้งจิตอธิษฐานให้พระศาสนาคงนานถึง5000ปี.

ท่านเป็นที่เชื่อกันว่า เป็นมงคลด้านความก้าวหน้าทางการงาน การประสบความสำเร็จ การมีโภคทรัพย์.