วันเวลาปัจจุบัน 12 มิ.ย. 2025, 09:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่ ถ้าเราเป็นผู้ดูแลเว็บ การอวดอุตริแบบนี้ จะไม่ได้รับการยอมรับทันที

นิมิตที่เล่ามา เป็นเพียงความฝันที่จิตสร้างขึ้น จากความคาดหวังและความต้องการลึกๆ ของคุณเท่านั้น มันไม่ได้มีลักษณะของนิมิต ที่เกิดจากอภิญญาจิตเลย...
แต่ถ้าคุณยืนยันว่า นิมิตนั้นเป็นของจริง นั่นก็หมายความว่า คุณสามารถรับรู้ถึงโลกทิพย์ได้ (ไม่ว่าจะเป็นขั้นต้น หรือขั้นใดๆ) ดังนั้น อย่างน้อยที่สุด คุณต้องสามารถอธิบายถึงสัมภเวสีได้... (เพราะมันจะเป็นสิ่งแรกในโลกทิพย์ ที่คุณจะได้เห็น)

แม้แต่คำว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" คุณยังไม่เข้าใจเลย คำว่าบรรลุธรรมจึงยังอยู่ห่างไกลนัก...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2009, 09:06
โพสต์: 45


 ข้อมูลส่วนตัว


บาปครับ ถามตัวเองว่ารักชีวิตไหม ถ้าได้คำตอบก็จะรู้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
ใช่ ถ้าเราเป็นผู้ดูแลเว็บ การอวดอุตริแบบนี้ จะไม่ได้รับการยอมรับทันที

นิมิตที่เล่ามา เป็นเพียงความฝันที่จิตสร้างขึ้น จากความคาดหวังและความต้องการลึกๆ ของคุณเท่านั้น มันไม่ได้มีลักษณะของนิมิต ที่เกิดจากอภิญญาจิตเลย...
แต่ถ้าคุณยืนยันว่า นิมิตนั้นเป็นของจริง นั่นก็หมายความว่า คุณสามารถรับรู้ถึงโลกทิพย์ได้ (ไม่ว่าจะเป็นขั้นต้น หรือขั้นใดๆ) ดังนั้น อย่างน้อยที่สุด คุณต้องสามารถอธิบายถึงสัมภเวสีได้... (เพราะมันจะเป็นสิ่งแรกในโลกทิพย์ ที่คุณจะได้เห็น)

แม้แต่คำว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" คุณยังไม่เข้าใจเลย คำว่าบรรลุธรรมจึงยังอยู่ห่างไกลนัก...


1. ผมว่าในชีวิตของผม อธิบายเรื่อง"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"ไปมากแล้วนะครับ คุณอธิบายความคิดของคุณมาดีกว่า การใช้คำพูดว่า "คุณยังไม่เข้าใจเลย คำว่าบรรลุธรรมจึงยังอยู่ห่างไกลนัก..." ไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆสักนิด นอกจากความอวดเก่ง อหังการ์ และกำแหงในใจตนเองเท่านั้น พยายามกดคนอื่นให้ต่ำ เพื่อตนเองจะได้สูง

2. "คุณสามารถรับรู้ถึงโลกทิพย์ได้ (ไม่ว่าจะเป็นขั้นต้น หรือขั้นใดๆ " คุณก็ถามมาซิครับว่า คุณอยากรู้เรื่องอะไรในโลกทิพย์ ผมมั่นใจว่า ตอบคุณได้ทุกเรื่อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 16:59
โพสต์: 79

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เชื้อโรคก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง(พระพุทธองค์เรียกสัตว์พวกนี้ว่า กิมิชาติ)

คนเราที่ตายกันส่วนมากก็จะตายจากเชื้อโรคนี่แหละ ล้วนแล้วแต่สัตว์ที่เรามองไม่เห็นตัวมันทั้งนั้น การฆ่าพวกมันตายนั้น ถามว่าบาปไหม จะครบองค์ประกอบมันก็ต้องรู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตและต้องมองเห็นด้วยตาเปล่าๆ แต่นี่เรามองไม่เห็นเชื้อโรคด้วยตาเปล่า จึงคิดว่าไม่บาป เพราะมันไม่ครบองค์ประกอบ

แต่เชื้อโรคก็เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่ง มันก็มีดวงจิตดวงใจของมัน ไม่สำคัญว่าจะตัวเล็กหรือใหญ่เพราะ ดวงจิตดวงใจของช้างก็ไม่ต่างดวงจิตดวงใจของมดหรอก

เมื่อเชื้อโรคมันตายด้วยน้ำมือเรามันก็ต้องโกรธแค้นเป็นธรรมดา หมอฉีดยาฆ่ามันตายบางตัวที่ตายก็กลับไปเกิดเป็นเชื้อโรคในคนป่วยอีก บางตัวก็โกรธแค้นตามจองเวรหมอที่ฆ่ามันแล้วก็จะทำให้หมอเจ็บป่วยได้เหมือนกัน

วิธีแก้ไขก็
สำหรับหมอ เมื่อฉีดยาให้คนป่วย บุญที่เกิดจากการรักษาคนเจ็บป่วยนี้ก็อุทิศให้เชื้อโรคที่ตัวเองฆ่าด้วย เพราะการรักษาคนเจ็บป่วยก็เกิดบุญเหมือนกัน

สำหรับคนป่วย เมื่อกินยาเพื่อรักษาตัวเองแต่ยานั้นก็ฆ่าเชื้อโรคตายไปไม่น้อย(แค่ยาคูล์ขวดเดียวยังมีจุลินทรีย์ตั้ง 84,000 ล้านตัวแหนะ) ฉะนั้นเมื่อทำบุญอะไรก็อุทิศบุญให้พวกเชื้อโรคที่เรากินยาเข้าไปแล้วทำให้พวกเชื้อโรคที่ตายนั้นด้วย ก็จะเป็นการใช้หนี้เวรหนี้กรรมกันไป ถ้าเขาได้บุญจากเรามากพอจนเขาพอใจเขาก็อโหสิกรรมให้เราไม่จองเวรเราไม่เป็นเชื้อโรคเข้าไปก่อกวนในร่างกายเราให้เราเจ็บป่วยอีก

ฆ่าเขาแล้วยังไงก็ต้องชดใช้ จะมากหรือน้อยก็เท่านั้น

(มีคนขว้างก้อนหินมาตกใส่หัวท่านแตก แล้วบอกว่าไม่มีเจตนาขว้างใส่ท่านมันเป็นอุบัติเหตุ แล้วท่านจะทำยังไง
ครั้งที่ 1
1.ไม่โกรธ ไม่ขอค่ารักษาพยาบาล อภัยให้
2.ไม่โกรธ แต่ขอค่ารักษาพยาบาล อภัยให้

ครั้งที่ 2 คนเดิมนี่แหละ
1.ไม่โกรธ ไม่ขอค่ารักษาพยาบาล อภัยให้
2.ไม่โกรธ แต่ขอค่ารักษาพยาบาล อภัยให้

ครั้งที่ 3 คนเดิมนี่แหละ
1.ไม่โกรธ ไม่ขอค่ารักษาพยาบาล อภัยให้
2.ไม่โกรธ แต่ขอค่ารักษาพยาบาล อภัยให้

ครั้งที่ 4 คนเดิมนี่แหละ
เขาก็ว่าไม่มีเจตนา แล้วท่านจะว่ายังไง


คุณไม่มีเจตนาแต่กระทำสิ่งนั้นอยู่บ่อยๆ แล้วคิดว่า คุณจะไม่ได้รับผลของการกระทำนั้นบ้างเลยหรือ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 14:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


หมอรักษาโรคพยาธิ ให้ยา คิดแค่ให้คนป่วยหาย...ไม่บาป :b12:
หมอรักษาโรคพยาธิ ให้ยา คิดว่าให้พยาธิตาย แล้วคนป่วยจะได้หาย.....บาป :b5:

เจ้าของร้านทำผ้าไหม สั่งลูกน้องทำผ้าไหม ลูกน้องเอารังไหมไปต้มตามขั้นตอน..เจ้าของไม่บาป :b12:
เจ้าของร้านทำผ้าไหม สั่งลูกน้องทำผ้าไหม สังให้ต้มรังไหมให้ดี ๆ ..เจ้าของบาป :b5:

เจ้าของบ้านมีปลวก สั่งบริษัทกำจัดปลวกมาฉีดยากันปลวกไม่ให้ขึ้นบ้าน ...ไม่บาป :b12:
เจ้าของบ้านมีปลวก สั่งบริษัทกำจัดปลวกมาฉีดยาฆ่าปลวกไม่ให้ขึ้นบ้าน ... บาป :b5:

ฉลาดคิด..ฉลาดพูด..ฉลาดทำ.. :b17:

ปลาก็ต้องการลม/อากาศ เพื่อการหายใจนะ แต่เอาอากาศจากน้ำนะ อิ . อิ . อิ . :b2:

ผมรู้แล้วว่า ทำไม่..เขาจึงแบนคุณพลศักด์นักหนา..อิ.อิ

กิเลสมาร..มารในหัวใจของคนอื่นนะ..สำคัญไฉน
กิเลสมาร..มารในหัวใจเจ้าของนี้นะ..ฆ่าให้ได้ก่อนเถอะ อิ.อิ.อิ.

ผมนะ มีเติม แต่ยังหาไม่เจอ.. 555


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 17:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


รู้สึกจะไปกันใหญ่ กลับมาตอบ จขกท.นะ
ถ้าตามนัยของ "กามโภคี" ชีวิตต้องประกอบไปด้วย จิตและเจตสิก ก็ต้องให้เขาอธิบายว่า ปลวกมีเจตสิกหรือไม่ (ซึ่งเรายังไม่ค่อยเข้าใจในเรื่อง เจตสิก เท่าไร)

แต่เท่าที่หาข้อมูลมา ถึงจะเป็นปาณาติบาต มันก็มีโทษน้อย เพราะเป็นสัตว์เล็ก เจตนาและความพยายามที่จะทำลายจึงน้อย พิธีการในการทำลายก็น้อย แล้วมันก็มีคุณน้อย เพราะงั้น จึงไม่มีอะไรต้องกังวล...

อ้อ ขอจบล่ะ กับการโต้เถียงที่หาประโยชน์อันใดมิได้...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 20:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
หมอรักษาโรคพยาธิ ให้ยา คิดแค่ให้คนป่วยหาย...ไม่บาป :b12:
หมอรักษาโรคพยาธิ ให้ยา คิดว่าให้พยาธิตาย แล้วคนป่วยจะได้หาย.....บาป :b5:

เจ้าของร้านทำผ้าไหม สั่งลูกน้องทำผ้าไหม ลูกน้องเอารังไหมไปต้มตามขั้นตอน..เจ้าของไม่บาป :b12:
เจ้าของร้านทำผ้าไหม สั่งลูกน้องทำผ้าไหม สังให้ต้มรังไหมให้ดี ๆ ..เจ้าของบาป :b5:

เจ้าของบ้านมีปลวก สั่งบริษัทกำจัดปลวกมาฉีดยากันปลวกไม่ให้ขึ้นบ้าน ...ไม่บาป :b12:
เจ้าของบ้านมีปลวก สั่งบริษัทกำจัดปลวกมาฉีดยาฆ่าปลวกไม่ให้ขึ้นบ้าน ... บาป :b5:

ฉลาดคิด..ฉลาดพูด..ฉลาดทำ.. :b17:

ปลาก็ต้องการลม/อากาศ เพื่อการหายใจนะ แต่เอาอากาศจากน้ำนะ อิ . อิ . อิ . :b2:

ผมรู้แล้วว่า ทำไม่..เขาจึงแบนคุณพลศักด์นักหนา..อิ.อิ

กิเลสมาร..มารในหัวใจของคนอื่นนะ..สำคัญไฉน
กิเลสมาร..มารในหัวใจเจ้าของนี้นะ..ฆ่าให้ได้ก่อนเถอะ อิ.อิ.อิ.

ผมนะ มีเติม แต่ยังหาไม่เจอ.. 555


ขอคารวะด้วยใจจริง

คุณกบนอกกะลาเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนภิกษุว่า:

ภิกษุสามารถฉันเนื้อที่ชาวบ้านนำมาบิณฑบาตร ....ไม่ต้องอาบัติ
แต่ถ้าภิกษุนั้นไปสงสัยว่า ชาวบ้านอาจจะไปฆ่าเนื้อมาเพื่อบิณฑบาตร ....ต้องอาบัติ

แท้จริง บาปนั้นขึ้นอยู่กับจิตคิดปรุงแต่งเป็นอกุศล นั่นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ถามคุณพลศักดิ์นะครับ
เกิดว่า นิพพาน หมายถึงดับ คือ ดับอวิชชา ดับกิเลส และดับทุกข์
เช่นว่า

ดับอวิชชา - หมายถึงการเกิดญาณทัศนะอันสูงสุด หยั่งรู้สัจธรรม
ดับกิเลส - หมายถึงกำจัดความชั่วร้าย และของเสียต่าง ๆ ภายในจิตใจ หมดเหตุที่จะก่อปัญหาความเดือดร้อนวุ่นวายต่างๆ แก่ชีวิต
และดับทุกข์ - หมายถึง หมดความทุกข์ บรรลุความสุขอันสูงสุด

ดังนี้ คุณพอรับได้ไหมและยังอยากไปนิพพานอีกไหมครับ :b1:


ยกมืออภิปรายนานแล้ว เมื่อไหร่จะถึงคิวของกรัชกายล่ะขอรับคุณพลศักดิ์ รออยู่นะ
ขอรับ :b1: :b38:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 21:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ในนิมิตของผม คนแจวเรือคือ พระพุทธเจ้าครับ รู้ในจิต แต่ผมขอลงที่ฝั่งก่อนจะถึงนิพพาน เพื่อทำงานบางอย่างก่อนเพื่อพระศาสนา ก่อนที่ศาสนาพุทธของเราจะโดนกลืนกินโดยแก๊งค์หัวโล้นที่ห่มผ้าเหลือง แต่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถึงขั้น


คุณมีบุญนะขอรับที่พระพุทธเจ้าแจวเรือให้นั่ง :b16: :b1:
คุณขอลงก่อนที่จะถึงนิพพาน ว่ามีงานในโลกมนุษย์ คุณมีงานอะไรต้องสะสางหรอครับ
เพื่อว่า ใจเราตรงกัน จะได้ช่วยกันทำให้แล้วเสร็จ แล้วไปนิพพานด้วยกัน ไปหาหลวงพ่อดังกล่าวกัน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 22 พ.ค. 2009, 21:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกายครับ


เรามาจากนิพพาน ไม่ช้าก็เร็วเราก็ต้องเข้านิพพาน แต่ชาตินี้และชาติหน้าผมยังไม่เข้าหรอกครับ เพราะผมยังต้องสอนธรรมะสู้กับพวกมาร ที่เผยแพร่และทำให้พุทธศาสนาเป็นของปลอม เป็นสัทธรรมปฏิรูป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณกรัชกายครับ
เรามาจากนิพพาน ไม่ช้าก็เร็วเราก็ต้องเข้านิพพาน แต่ชาตินี้และชาติหน้าผมยังไม่เข้าหรอกครับ เพราะผมยังต้องสอนธรรมะสู้กับพวกมาร ที่เผยแพร่และทำให้พุทธศาสนาเป็นของปลอม เป็นสัทธรรมปฏิรูป


หากเป็นแบบนี้ หลวงพ่อที่คุณกล่าวข้างต้นมิไปเกิดก่อนหรือครับ
แล้วคุณคิดว่า มารจะหมดหรือครับ หากไม่หมดสองชาติคือ
ชาตินี้ชาติหน้า คิดว่าจะปราบได้หมดหรอ หากไม่หมด คุณตกค้างค้างในโลกมนุษย์ คุณจะทำยังไง :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ในนิมิตของผม คนแจวเรือคือ พระพุทธเจ้าครับ รู้ในจิต แต่ผมขอลงที่ฝั่งก่อนจะถึงนิพพาน เพื่อทำงานบางอย่างก่อนเพื่อพระศาสนา ก่อนที่ศาสนาพุทธของเราจะโดนกลืนกินโดยแก๊งค์หัวโล้นที่ห่มผ้าเหลือง แต่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถึงขั้น


คุณมีบุญนะขอรับที่พระพุทธเจ้าแจวเรือให้นั่ง :b16: :b1:
คุณขอลงก่อนที่จะถึงนิพพาน ว่ามีงานในโลกมนุษย์
ถามว่า คุณมีงานอะไรหรือครับ เช่น ว่า ...
เพื่อว่า ใจเราตรงกัน จะได้ช่วยกันทำแล้วไปนิพพานด้วยกัน ไปหาหลวงพ่อดังกล่าวกัน :b1:


ในนิมิตผม มีพระ 2 คนที่ไม่ยอมปฏิบัติ พระคนหนึ่งเป็นพระที่มาทำงานหาเงิน พระอีกคนเป็นพระบ้าตำรา ขืนผมให้พระ 2 คนนี้ เผยแพร่ศาสนาโดยผมไม่ยอมออกมาสกัด มีหวังศาสนาพุทธไปไม่ถึง 5000 ปีแน่

คุณกับผมและผู้ที่อยู่ในเว็บพุทธศาสนาทุกเว็บ พวกเราเคยรับปากให้สัญญากับพระพุทธเจ้าว่า เมื่อครบ 2500 ปีที่มนุษย์เป็นผู้ดูแลพุทธศาสนา อีก 500 ปีเป็นหน้าที่ของเทพและพรหมช่วยกันดูแล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มิ.ย. 2008, 22:48
โพสต์: 1173


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณกรัชกายครับ


1. ผมไม่ได้มีหน้าที่ปราปมาร
2. มารกับพุทธะ ทุกจิตก็เป็นอณูของพระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรมทั้งนั้นแหละครับ เราออกมาเล่นเกมส์กันเท่านั้น เพราะพวกเราไม่ยอมทรงสภาวะแห่งพระเจ้า(อณูของพระพุทธเจ้า)เอาไว้
3. ผมจะไปตัดสินใจอีกทีตอนเกิดในยุคพระศรีอรยะเมตตรัยว่าจะเข้านิพพานหรือยัง ซึ่งท่านจะเกิดในปีพศ.5500 ปรินิพพานปีพศ. 84,000


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 21:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระ ๒ คนที่คุณเห็นอายุประมาณไหนครับ จำได้ไหมอยู่วัดอะไรขอรับ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2009, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ เขียน:
คุณกรัชกายครับ
1. ผมไม่ได้มีหน้าที่ปราปมาร
2. มารกับพุทธะ ทุกจิตก็เป็นอณูของพระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรมทั้งนั้นแหละครับ เราออกมาเล่นเกมส์กันเท่านั้น เพราะพวกเราไม่ยอมทรงสภาวะแห่งพระเจ้า(อณูของพระพุทธเจ้า)เอาไว้
3. ผมจะไปตัดสินใจอีกทีตอนเกิดในยุคพระศรีอรยะเมตตรัยว่าจะเข้านิพพานหรือยัง ซึ่งท่านจะเกิดในปีพศ.5500 ปรินิพพานปีพศ. 84,000



จะทำบุญด้วยอะไร เราจึงเกิดตรงกับยุคพระศรีอารยะเมตตรัยขอรับ
จะต้องไปเกิดภพใหนภูมิใด โลกมนุษย์ไม่เกินร้อยปีก็ตายแล้ว :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 61 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร