วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 22:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 22, 23, 24, 25, 26, 27, 28 ... 61  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2015, 19:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
. tongue
:b12:
เทศนาธรรมกัณฑ์นี้หลวงตาพระมหาบัวเทศน์วันที่ 25 สิงหาคม 2505
กล่อมจิตดีมากค่ะ หลวงตาท่านเทศน์ไว้ตั้งแต่เรายังไม่เกิดเลย
ฟังตอนนั่งสมาธิโอเคมากๆเลยค่ะคุณกบคุณไอเดียคะ
:b20: :b20:
https://www.youtube.com/watch?v=Op6GsjcdGtQ


:b8:
ขอบคุณค่ะ...
ฟังธรรมหลวงตาเหมือนได้รับพลังมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ย. 2015, 19:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
tongue
:b12:
เทศนาธรรมกัณฑ์นี้หลวงตาพระมหาบัวเทศน์วันที่ 25 สิงหาคม 2505
กล่อมจิตดีมากค่ะ หลวงตาท่านเทศน์ไว้ตั้งแต่เรายังไม่เกิดเลย
ฟังตอนนั่งสมาธิโอเคมากๆเลยค่ะคุณกบคุณไอเดียคะ
:b20: :b20:
https://www.youtube.com/watch?v=Op6GsjcdGtQ


:b8: :b8: :b8:
ขอบคุณครับ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 06:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
ถกเถียงกันเรื่องกัลยาณมิตรมาพอสมควร ดูๆแล้วบางท่านอาจเข้าใจเอนเอียงไปในทางที่ว่ากัลยาณมิตรหมายถึงเพื่อนฝูง มิตรสหาย คนที่ได้รู้จักกัน คนอย่างไรธาตุอย่างไรก็ไหลไปหาและประชุมรวมกัน

กัลยาณมิตร มีความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นไปอีก แม้พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ก็อาจเป็นได้ทั้งกัลยาณมิตรเมื่อแนะนำชักพาไปทางกุศล และอาจกลายเป็นอกัลยาณมิตรเมื่อแนะนำชักพาไปในทางอกุศล

การจะได้พบกัลยาณมิตรก็มิได้มีเฉพาะการไหลไปหากันตามธาตุที่เหมือนกัน แต่อาจไหลไปหากันด้วยอำนาจของบุญบาป กุศลอกุศลเหตุ ปัจจัยที่แต่ละคนสร้างสมไว้ด้วย

โอกาสพบพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลาย กับโอกาสที่จะพบโจรคนชั่วร้ายทุกคนมืสิทธิเท่าเทียมกัน มันขึ้นอยู่กับกุศลอกุศลจิตในใจเจ้าของจะพาไปและเหตุปัจจัยมันพร้อมอำนวยให้

สำคัญที่การได้พบหลักใจเช่นได้พบได้ยินได้ฟังมงคล 38 สองข้อแรกแล้วนำมาใส่ใจประพฤติปฏิบัติ

อเสวนาจะพาลานัง การไม่คบคนพาล

ปัณฑิเตจะเสวนัง การคบแต่บัณฑิต

ทำได้ 2 ข้อนี้ก็ปิดทางชั่วเปิดทางดีไว้ตั้งเยอะแล้ว

พระบรมศาสดาทรงนำเรื่องของการเลือกคบมิตรมานำหน้าเป็นมงคล 2 ข้อแรกก็เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งพรหมจรรย์ นี่คือหลักการตัดสินใจเลือกทางเดินของมนุษย์เมื่อมาเจอทางหลายแพร่ง


การมาพบกันในลานธรรมเสวนาแห่งนี้ของทุกๆท่านก็มิใช่เรื่องบังเอิญ ล้วนมีเหตุปัจจัยเกี่ยวเนื่องกันมาทั้งนั้น
ในการที่ bigtoo กำลังถูกรุมเร้าด้วยคำชี้เตือนของมิตรสหายจำนวนมากเช่นนี้ น่าจะเป็นสัญญาณบอกเตือนอะไรสักอย่างให้ bigtoo กลับไปใช้ธัมมวิจัยสัมโภชฌงค์ วิเคราะห์วิจารณ์วิจัยตนเองด้วยความเที่ยงธรรมว่า เราอาจจะหลงผิดอะไรไปสักอย่างด้วยเส้นผมบังตา เพื่อนฝูงมิตรสหายจึงได้มารุมตักเตือนเช่นนี้


มีมากคนที่มาได้แรงกระทบแรงบันดาลใจจากการสนทนาในลานธรรมจักรแห่งนี้เปลี่ยนแปลงความเห็น คลายพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิ แล้วเข้าสู่ทางสายกลางอันถูกต้องชัดเจนยิ่งขึ้น

แต่ก็มีอีกมากท่านเช่นกันที่จากลานไปด้วยปฏิฆะ ขุ่นมัว เพราะไม่สามารถคลายพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิได้

ลานธรรมจักรแห่งนี้เป็นสถานที่ดีมากแห่งหนึ่งที่จะช่วยให้งานชำระจิตของตนให้ขาวรอบ ตามโอวาทของพระบรมศาสดาก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็วและตรงทาง


พึงรู้จักแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส มองเอาเลือกเฟ้นเอาแต่ บวก + จากทุกสถานการณ์ที่มากระทบจิต โดยเฉพาะสิ่งที่ชาวโลกธรรมดาทั่วไปคิดว่าเป็นปัญหา เป็นวิกฤต ที่นั่นแหละมีโอกาสเปิดให้สูงสุดในการที่จะทำลายสักกายทิฏฐิ มานะทิฏฐิให้ขาดสะบั้นและหมดเชื้อ
:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 06:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
ถกเถียงกันเรื่องกัลยาณมิตรมาพอสมควร ดูๆแล้วบางท่านอาจเข้าใจเอนเอียงไปในทางที่ว่ากัลยาณมิตรหมายถึงเพื่อนฝูง มิตรสหาย คนที่ได้รู้จักกัน คนอย่างไรธาตุอย่างไรก็ไหลไปหาและประชุมรวมกัน

กัลยาณมิตร มีความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นไปอีก แม้พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ก็อาจเป็นได้ทั้งกัลยาณมิตรเมื่อแนะนำชักพาไปทางกุศล และอาจกลายเป็นอกัลยาณมิตรเมื่อแนะนำชักพาไปในทางอกุศล

การจะได้พบกัลยาณมิตรก็มิได้มีเฉพาะการไหลไปหากันตามธาตุที่เหมือนกัน แต่อาจไหลไปหากันด้วยอำนาจของบุญบาป กุศลอกุศลเหตุ ปัจจัยที่แต่ละคนสร้างสมไว้ด้วย

โอกาสพบพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลาย กับโอกาสที่จะพบโจรคนชั่วร้ายทุกคนมืสิทธิเท่าเทียมกัน มันขึ้นอยู่กับกุศลอกุศลจิตในใจเจ้าของจะพาไปและเหตุปัจจัยมันพร้อมอำนวยให้

สำคัญที่การได้พบหลักใจเช่นได้พบได้ยินได้ฟังมงคล 38 สองข้อแรกแล้วนำมาใส่ใจประพฤติปฏิบัติ

อเสวนาจะพาลานัง การไม่คบคนพาล

ปัณฑิเตจะเสวนัง การคบแต่บัณฑิต

ทำได้ 2 ข้อนี้ก็ปิดทางชั่วเปิดทางดีไว้ตั้งเยอะแล้ว

พระบรมศาสดาทรงนำเรื่องของการเลือกคบมิตรมานำหน้าเป็นมงคล 2 ข้อแรกก็เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งพรหมจรรย์ นี่คือหลักการตัดสินใจเลือกทางเดินของมนุษย์เมื่อมาเจอทางหลายแพร่ง


การมาพบกันในลานธรรมเสวนาแห่งนี้ของทุกๆท่านก็มิใช่เรื่องบังเอิญ ล้วนมีเหตุปัจจัยเกี่ยวเนื่องกันมาทั้งนั้น
ในการที่ bigtoo กำลังถูกรุมเร้าด้วยคำชี้เตือนของมิตรสหายจำนวนมากเช่นนี้ น่าจะเป็นสัญญาณบอกเตือนอะไรสักอย่างให้ bigtoo กลับไปใช้ธัมมวิจัยสัมโภชฌงค์ วิเคราะห์วิจารณ์วิจัยตนเองด้วยความเที่ยงธรรมว่า เราอาจจะหลงผิดอะไรไปสักอย่างด้วยเส้นผมบังตา เพื่อนฝูงมิตรสหายจึงได้มารุมตักเตือนเช่นนี้


มีมากคนที่มาได้แรงกระทบแรงบันดาลใจจากการสนทนาในลานธรรมจักรแห่งนี้เปลี่ยนแปลงความเห็น คลายพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิ แล้วเข้าสู่ทางสายกลางอันถูกต้องชัดเจนยิ่งขึ้น

แต่ก็มีอีกมากท่านเช่นกันที่จากลานไปด้วยปฏิฆะ ขุ่นมัว เพราะไม่สามารถคลายพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิได้

ลานธรรมจักรแห่งนี้เป็นสถานที่ดีมากแห่งหนึ่งที่จะช่วยให้งานชำระจิตของตนให้ขาวรอบ ตามโอวาทของพระบรมศาสดาก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็วและตรงทาง


พึงรู้จักแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส มองเอาเลือกเฟ้นเอาแต่ บวก + จากทุกสถานการณ์ที่มากระทบจิต โดยเฉพาะสิ่งที่ชาวโลกธรรมดาทั่วไปคิดว่าเป็นปัญหา เป็นวิกฤต ที่นั่นแหละมีโอกาสเปิดให้สูงสุดในการที่จะทำลายสักกายทิฏฐิ มานะทิฏฐิให้ขาดสะบั้นและหมดเชื้อ
:b37:
อโสกะไม่คิดกลับล่ะว่า. สิ่งที่ผมกล่าวนั้นให้ประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย. บอกตรงๆนะครับผมยังไม่ได้ความรู้จากที่ได้สนทนากับท่านทั้งหลายไม่ได้ดูถูกนะ. แค่เรื่องสุรานี่นะก็หาจุดจบไม่ได้เลยเพราะคำพระศาสดาก็บอกอยู่แล้วต้องประกอบเนื่องๆและผมเป็นคนรู้จักสุราดีเพราะผมดื่มมันมาตลอดเกือบยี่สิบปี. แต่ผมก็เลิกมันมาถึง15ปี. แต่ผมยังอยู่ในสังคมช่วงหนึ่งผมจึงรู้ว่าการดื่มแบบเก่ากับการดื่มแบบใหม่มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง. พวกท่านอาจจะไม่เข้าใจเราไม่ว่ากันผมไม่อยากเข้าข้างตนเอง มากจนมาพบคำว่าเจตนาเป็นกรรม. และการประกอบเนื่องๆ. และอริยละเว้นกิเลสกรรม4ประการได้. อกุศลกรรมบทก็ไม่มี. ผมจึงเข้าใจเลยว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจที่เจตนา. ธรรมะลงตัวไม่มีขัดแย้งกัน. อโสกะไม่คิดเหรอว่าผมอาจจะนำความรู้ถูกมาให้พวกท่านก็ได้.
จากบางคนยังรดน้ำมนต์. ท่องคาถาเงินล้าน. วิ่งตามหาอรหันต์ อื่นๆอีกล่ะ. ท่านเหล่านี้ทำอะไรอยู่ท่านเหล่านี้หลงกันทั้งนั้นแล้วการวินิจฉัยธรรมจะถูกได้อย่างไรในเมื่อเขาวินิจฉัยเรื่องเหล่านั้นยังผิดตั้งเยอะ. ส่วนผมเลิกสิ่งเหล่านั้นเด็ดขาด. แค่วินิจฉัยเรื่องสุรามันหมูมากสำหรับผมนะบอกตรงๆ. เพราะเรืองมิจฉาทิฎฐินั้นเป็นเรื่องยากที่สุด. อริยะจึงเกิดได้น้อยมาก. และที่ผมแสดงธรรมแบบดุดันนี้ท่านเลิกคิดไปได้เลยนะ. ผมจะไม่แสดงธรรมแบบอ้อยสร้อยเด็ดขาดเสียแรงเสียเวลาผม. ถ้าพวกเขาเข้าใจป่านนี้พวกเขาเลิกขาดไปแล้วเรื่องมิจฉาทิฎฐิกระทำในสิ่งไร้ค่าไร้ปัญญาอยู่. และพวกเขาจะได้เห็นกิเลสตนเองไปในตัวจะได้ฝึกหัดกดข่มใจ. ส่วนผมนั้นไม่ต้องห่วงอัดมาได้เต็มที่. ผมเคยสนทนากับอาจารย์ท่านหนึ่งมีศิษย์เป็นพันๆท่านมีความเห็นผิดเรื่องการมีพระเครื่องของขลัง. ทำพิธีต่างๆมากมาย. ผมก็ใช้ความรู้ของพระองค์นี่แหล่ะค่อยบอกสอนโต้เถียงกันแรงกว่านี้มากบางครั้งผมถูกด่าควยหรืออะไรมากกว่านี้ผมก็ทนได้ฝึกฝนตนเองด้วย. ในที่สุดพระความรู้ที่ถูกของพระองค์ก็ได้ทำลายความเห็นเขาได้. เขาประกาศในเว็บบอร์ดขอบคุณผมที่ปลดปล่อยความเห็นผิดเขาได้เขาบอกว่าเขาหลุดพ้นแล้ว. แค่นี้ผมก็รู้สึกถึงการได้ทำหน้าที่ต่อตนเองและผู้อื่น. อโสกะลองคิดกลับกันดูนะ. ผมอาจเป็นผู้ชี้แสงสว่างให้ทุกคนในนี้ก็ได้โดยการนำคำพระพุทธองค์มาชี้ให้ดู

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 08 ก.ย. 2015, 15:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 07:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โอ้ว....กินมาแล้ว 20 ปี
เลิกมาแล้ว 15 ปี

ถ้าเริ่มกินตอนอายุ 15...นี้ก็อายุ 50 ปี เข้าไปแล้ว

แต่ถ้าเริ่มกินตอนอายุ 21 ปี...นี้อายุก็ปาไป 56 ปี...

50 - 56 นี้นะ ยัง...ยังไม่แก่เกินดัด...

แต่ก็จวนมากแล้วละ... :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 08:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
โอ้ว....กินมาแล้ว 20 ปี
เลิกมาแล้ว 15 ปี

ถ้าเริ่มกินตอนอายุ 15...นี้ก็อายุ 50 ปี เข้าไปแล้ว

แต่ถ้าเริ่มกินตอนอายุ 21 ปี...นี้อายุก็ปาไป 56 ปี...

50 - 56 นี้นะ ยัง...ยังไม่แก่เกินดัด...

แต่ก็จวนมากแล้วละ... :b32: :b32:

ใช่แล้วเรายังมีสิ่งที่ต้องดัดอีก. แต่ท่านล่ะ. ดัดหรือยัง. ท่องคาถาเงินล้านนะ. รดน้ำมนต์. อื่นๆอีกที่ไม่ได้บอก. ดัดหรือยัง. กระผมเหลือแต่ภายในของภายนอกหมดแล้ว

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 15:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
อ้างคำพูด:
อโสกะไม่คิดกลับล่ะว่า. สิ่งที่ผมกล่าวนั้นให้ประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย. บอกตรงๆนะครับผมยังไม่ได้ความรู้จากที่ได้สนทนากับท่านทั้งหลายไม่ได้ดูถูกนะ. แค่เรื่องสุรานี่นะก็หาจุดจบไม่ได้เลยเพราะคำพระศาสดาก็บอกอยู่แล้วต้องประกอบเนื่องๆและผมเป็นคนรู้จักสุราดีเพราะผมดื่มมันมาตลอดเกือบยี่สิบปี. แต่ผมก็เลิกมันมาถึง15ปี. แต่ผมยังอยู่ในสังคมช่วงหนึ่งผมจึงรู้ว่าการดื่มแบบเก่ากับการดื่มแบบใหม่มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง. พวกท่านอาจจะไม่เข้าใจเราไม่ว่ากันผมไม่อยากเข้าข้างตนเอง ากจนมาพบคำว่าเจตนาเป็นกรรม. และการประกิบเนื่องๆ. และอริยละเว้นกิเลสกรรม4ประการได้. อกุศลกรรมบทก็ไม่มี. ผมจึงเข้าใจเลยว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจที่เจตนา. ธรรมะลงตัวไม่มีขัดแย้งกัน. อโสกะไม่คิดเหรอว่าผมอาจจะนำความรู้ถูกมาให้พวกท่านก็ได้.
จากบางคนยังรดน้ำมนต์. ท่องคาถาเงินล้าน. วิ่งตามหาอรหันต์ อื่นๆอีกล่ะ. ท่านเหล่านี้ทำอะไรอยู่ท่านเหบ่านี้หลงกันทั้งนั้นแล้วการวินิจฉัยธรรมจะถูกได้อย่างไรในเมื่อเขาวินิจฉัยเรื่องเหล่านั้นยังผิดตั้งเยอะ. ส่วนผมเลิกสิ่งเหล่านั้นเด็ดขาด. แค่วินิจฉัยเรื่องสุรามันหมูมากสำหรับผมนะบอกตรงๆ. เพราะเรื่องมิจฉาทิฎฐินั้นเป็นเรื่องยากที่สุด. อริยะจึงเกิดได้น้อยมาก. และที่ผมแสดงธรรมแบบดุดันนี้ท่านเลิกคิดไปได้เลยนะ. ผมจะไม่แสดงธรรมแบบอ้อยสร้อยเด็ดขาดเสียแรงเสียเวลาผม. ถ้าพวกเขาเข้าใจป่านนี้พวกเขาเลิกขาดไปแล้วเรื่องมิจฉาทิฎฐิกระทำในสิ่งไร้ค่าไร้ปัญญาอยู่. และพวกเขาจะได้หนกิเลสตนเองไปในตัวจะได้ฝึกหัดกดข่มใจ. ส่วนผมนั้นไม่ต้องห่วงอัดมาได้เต็มที่. ผมเคยสนทนากับอาจารย์ท่านหนึ่งมีศิษย์เป็นพันๆท่านมีความเห็นผิดเรื่องการมีพระเครื่องของขลัง. ทำพิธีต่างๆมากมาย. ผมก็ใช้ความรู้ของพระองค์นี่แหล่ะค่อยบอกสอนโต้เถียงกันแรงกว่านี้มากบางครั้งผมถูกด่าควยหรืออะไรมากกว่านี้ผมก็ทนได้ฝึกฝนตนเองด้วย. ในที่สุดพระความรู้ที่ถูกของพระองค์ก็ได้ทำลายความเห็นเขาได้. เขาประกาศในเว็บบอร์ดขอบคุณผมที่ปลดปล่อยความเห็นผิดเขาได้เขาบอกว่าเขาหลุดพ้นแล้ว. แค่นี้ผมก็รู้สึกถึงการได้ทำหน้าที่ต่อตนเองและผู้อื่น. อโสกะลองคิดกลับกันดูนะ. ผมอาจเป็นผู้ชี้แสงสว่างให้ทุกคนในนี้ก็ได้โดยการนำคำพระพุทธองค์มาชี้ให้ดู

:b7:
ผมชี้แจง คุณกบยกข้อธรรมในพระสูตรที่เกี่ยวกับพระอริยะไม่ล่วงศีล ๕ คุณเช่นนั้นก็ชี้จุดของเหตุผลว่าพระอริยเจ้าเว้นขาดไม่เสพย์อบายมุข ๖ และอีกหลายท่านทักท้วง แต่คุณbigtoo ไม่ยอมรับฟัง อ้างแต่เรื่องเจตนา ไม่เจตนาก็ไม่ผิดศีลไม่เป็นกรรม ผมก็เคยชี้แจงแล้วว่า เจตนาที่คิดเอาว่าไม่มีเจตนานั้นมันเป็นโมหะบังความจริง

เพราะถ้าพิจารณาโดยอภิธรรม มโนกรรมและกายกรรมของbigtoo มันเกิดขึ้นมาแล้วโดยตลอดตั้งแต่คิดจะแค่ยกเหล้าขึ้นมาจิบ มือยกแก้วเหล้าขึ้นถึงปาก ปากอ้ารับ มือกระดกแก้วเอาเหล้าเข้ามาแตะลิ้นแล้วจิบกลืนลงคอไป
ถาไม่มีเจตนามันยกแก้วเหล้าขึ้นไปไม่ถึงปากหรอก แล้วจิบเหล้าลงคอไปแล้วยังมาสร้างวจีกรรมว่าไม่เจตนา โกหกผิดศีลข้อ 4 ไปอีก กรรมครบองค์ 3 ต้องเสวยวิบากอย่างแน่นอน

ผลกระทบตามมาถ้าคนหลงเชื่อตาม bigtoo ก็คือพระอริยะดื่มเหล้าได้ถ้าไม่เจตนา

น่าอนาถใจนัก พระอริยะดื่มเหล้าจิบเหล้าหรือเล่นการพนัน
:b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 15:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
อ้างคำพูด:
อโสกะไม่คิดกลับล่ะว่า. สิ่งที่ผมกล่าวนั้นให้ประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย. บอกตรงๆนะครับผมยังไม่ได้ความรู้จากที่ได้สนทนากับท่านทั้งหลายไม่ได้ดูถูกนะ. แค่เรื่องสุรานี่นะก็หาจุดจบไม่ได้เลยเพราะคำพระศาสดาก็บอกอยู่แล้วต้องประกอบเนื่องๆและผมเป็นคนรู้จักสุราดีเพราะผมดื่มมันมาตลอดเกือบยี่สิบปี. แต่ผมก็เลิกมันมาถึง15ปี. แต่ผมยังอยู่ในสังคมช่วงหนึ่งผมจึงรู้ว่าการดื่มแบบเก่ากับการดื่มแบบใหม่มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง. พวกท่านอาจจะไม่เข้าใจเราไม่ว่ากันผมไม่อยากเข้าข้างตนเอง ากจนมาพบคำว่าเจตนาเป็นกรรม. และการประกิบเนื่องๆ. และอริยละเว้นกิเลสกรรม4ประการได้. อกุศลกรรมบทก็ไม่มี. ผมจึงเข้าใจเลยว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจที่เจตนา. ธรรมะลงตัวไม่มีขัดแย้งกัน. อโสกะไม่คิดเหรอว่าผมอาจจะนำความรู้ถูกมาให้พวกท่านก็ได้.
จากบางคนยังรดน้ำมนต์. ท่องคาถาเงินล้าน. วิ่งตามหาอรหันต์ อื่นๆอีกล่ะ. ท่านเหล่านี้ทำอะไรอยู่ท่านเหบ่านี้หลงกันทั้งนั้นแล้วการวินิจฉัยธรรมจะถูกได้อย่างไรในเมื่อเขาวินิจฉัยเรื่องเหล่านั้นยังผิดตั้งเยอะ. ส่วนผมเลิกสิ่งเหล่านั้นเด็ดขาด. แค่วินิจฉัยเรื่องสุรามันหมูมากสำหรับผมนะบอกตรงๆ. เพราะเรื่องมิจฉาทิฎฐินั้นเป็นเรื่องยากที่สุด. อริยะจึงเกิดได้น้อยมาก. และที่ผมแสดงธรรมแบบดุดันนี้ท่านเลิกคิดไปได้เลยนะ. ผมจะไม่แสดงธรรมแบบอ้อยสร้อยเด็ดขาดเสียแรงเสียเวลาผม. ถ้าพวกเขาเข้าใจป่านนี้พวกเขาเลิกขาดไปแล้วเรื่องมิจฉาทิฎฐิกระทำในสิ่งไร้ค่าไร้ปัญญาอยู่. และพวกเขาจะได้หนกิเลสตนเองไปในตัวจะได้ฝึกหัดกดข่มใจ. ส่วนผมนั้นไม่ต้องห่วงอัดมาได้เต็มที่. ผมเคยสนทนากับอาจารย์ท่านหนึ่งมีศิษย์เป็นพันๆท่านมีความเห็นผิดเรื่องการมีพระเครื่องของขลัง. ทำพิธีต่างๆมากมาย. ผมก็ใช้ความรู้ของพระองค์นี่แหล่ะค่อยบอกสอนโต้เถียงกันแรงกว่านี้มากบางครั้งผมถูกด่าควยหรืออะไรมากกว่านี้ผมก็ทนได้ฝึกฝนตนเองด้วย. ในที่สุดพระความรู้ที่ถูกของพระองค์ก็ได้ทำลายความเห็นเขาได้. เขาประกาศในเว็บบอร์ดขอบคุณผมที่ปลดปล่อยความเห็นผิดเขาได้เขาบอกว่าเขาหลุดพ้นแล้ว. แค่นี้ผมก็รู้สึกถึงการได้ทำหน้าที่ต่อตนเองและผู้อื่น. อโสกะลองคิดกลับกันดูนะ. ผมอาจเป็นผู้ชี้แสงสว่างให้ทุกคนในนี้ก็ได้โดยการนำคำพระพุทธองค์มาชี้ให้ดู

:b7:
ผมชี้แจง คุณกบยกข้อธรรมในพระสูตรที่เกี่ยวกับพระอริยะไม่ล่วงศีล ๕ คุณเช่นนั้นก็ชี้จุดของเหตุผลว่าพระอริยเจ้าเว้นขาดไม่เสพย์อบายมุข ๖ และอีกหลายท่านทักท้วง แต่คุณbigtoo ไม่ยอมรับฟัง อ้างแต่เรื่องเจตนา ไม่เจตนาก็ไม่ผิดศีลไม่เป็นกรรม ผมก็เคยชี้แจงแล้วว่า เจตนาที่คิดเอาว่าไม่มีเจตนานั้นมันเป็นโมหะบังความจริง

เพราะถ้าพิจารณาโดยอภิธรรม มโนกรรมและกายกรรมของbigtoo มันเกิดขึ้นมาแล้วโดยตลอดตั้งแต่คิดจะแค่ยกเหล้าขึ้นมาจิบ มือยกแก้วเหล้าขึ้นถึงปาก ปากอ้ารับ มือกระดกแก้วเอาเหล้าเข้ามาแตะลิ้นแล้วจิบกลืนลงคอไป
ถาไม่มีเจตนามันยกแก้วเหล้าขึ้นไปไม่ถึงปากหรอก แล้วจิบเหล้าลงคอไปแล้วยังมาสร้างวจีกรรมว่าไม่เจตนา โกหกผิดศีลข้อ 4 ไปอีก กรรมครบองค์ 3 ต้องเสวยวิบากอย่างแน่นอน

ผลกระทบตามมาถ้าคนหลงเชื่อตาม bigtoo ก็คือพระอริยะดื่มเหล้าได้ถ้าไม่เจตนา

น่าอนาถใจนัก พระอริยะดื่มเหล้าจิบเหล้าหรือเล่นการพนัน
:b7:
คุณสอบตกนะเรื่องเจตนาที่พระองค์กล่าวว่าเป็นกรรม. คุณบอกว่าผมผิดทั้งมโกรรมกายกรรม. ทำไม่อกุศลกรรมบทไม่จัดลงไปล่ะถ้าผมผิดในเรื่องดื่มสุรา. และเรื่องเจตนาที่บอกว่าผมผิดเคยยกตัวอย่าวการรักษาคนของหมอหมอผ่าตัดเอามีดแทงเข้าไปในเนื้อคนทำให้คนตายทำไมไม่ผิด. แค่ผมยกสุราเข้าปากโดยใจที่ไม่ได้ยากดื่มเพียงแค่หมู่คณะเขาฉลองความสำเร็จผลงาน. สุรามันก็แค่ธาตุมันอะไรนักหนา. ตกจริงๆนะอโสกะ. ถ้าคุณมองเรื่องนี้ไม่ออก. เหมือนเรื่องกินอาหารคุณไม่ได้ฆ่าแต่กินมันก็ไม่บาป. คุณสอบตกนะจะบอกให้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 08 ก.ย. 2015, 15:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 15:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การกระทำกรรมลามก ก็ล่วงละเมิดศีลแล้วครับ
ทำด้วยเจตนา แล้วครับ

เป็นเจตนาลามก ทำด้วยเจตนาลามก

Bigtoo เลี่ยงบาลีแถไปเรื่อยๆ ว่าไม่มีเจตนา ไม่เป็นกรรม

ซึ่ง bigtoo ก็ยอมรับว่า เจตนา คือกรรม
และ กรรมลามก คือเจตนาลามก

ดังนั้น ความเห็นของ bigtoo จึงเป็นการเลือกเอาสิ่งที่เข้ากับความเห็นตน
ละเลยพุทธบัญญัติ
เพียงแต่เอาพุทธบัญญัติบางส่วนมาสนับสนุนความเห็นตน

ไม่มีสาระใดที่จะต้องสนทนาต่อไป

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 15:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
การกระทำกรรมลามก ก็ล่วงละเมิดศีลแล้วครับ
ทำด้วยเจตนา แล้วครับ

เป็นเจตนาลามก ทำด้วยเจตนาลามก

Bigtoo เลี่ยงบาลีแถไปเรื่อยๆ ว่าไม่มีเจตนา ไม่เป็นกรรม

ซึ่ง bigtoo ก็ยอมรับว่า เจตนา คือกรรม
และ กรรมลามก คือเจตนาลามก

ดังนั้น ความเห็นของ bigtoo จึงเป็นการเลือกเอาสิ่งที่เข้ากับความเห็นตน
ละเลยพุทธบัญญัติ
เพียงแต่เอาพุทธบัญญัติบางส่วนมาสนับสนุนความเห็นตน

ไม่มีสาระใดที่จะต้องสนทนาต่อไป
นี่ก็สอบตก. ไม่เข้าใจบริบทที่พระองค์แสดงว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่ากรรมลามก. ถ้าทางเสื่อมหกประการเป็นกรรมที่ไม่ต้องจำแนกว่าต้องประกอบเนื่องๆ. กรรมลามกพระองค์แสดงเรียงมาเลย. ว่าอริยสาวกเลิกกิเลสกรรมได้. 12345678910ถูกมั้ยจะต้องแยกเป็น4-4-6ทำไม. แสดงที่แยกออกมานั้นเพราะบางอย่างต้องประกอบเนื่อง. สอบตกนะ. กลับนั่งคิดดีแล้วจะเข้าใจ. ถ้ายังไม่เข้าใจก็ปล่อยเลย

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
การกระทำกรรมลามก ก็ล่วงละเมิดศีลแล้วครับ
ทำด้วยเจตนา แล้วครับ

เป็นเจตนาลามก ทำด้วยเจตนาลามก

Bigtoo เลี่ยงบาลีแถไปเรื่อยๆ ว่าไม่มีเจตนา ไม่เป็นกรรม

ซึ่ง bigtoo ก็ยอมรับว่า เจตนา คือกรรม
และ กรรมลามก คือเจตนาลามก

ดังนั้น ความเห็นของ bigtoo จึงเป็นการเลือกเอาสิ่งที่เข้ากับความเห็นตน
ละเลยพุทธบัญญัติ
เพียงแต่เอาพุทธบัญญัติบางส่วนมาสนับสนุนความเห็นตน

ไม่มีสาระใดที่จะต้องสนทนาต่อไป
นี่ก็สอบตก. ไม่เข้าใจบริบทที่พระองค์แสดงว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่ากรรมลามก. ถ้าทางเสื่อมหกประการเป็นกรรมที่ไม่ต้องจำแนกว่าต้องประกอบเนื่องๆ. กรรมลามกพระองค์แสดงเรียงมาเลย. ว่าอริยสาวกเลิกกิเลสกรรมได้. 12345678910ถูกมั้ยจะต้องแยกเป็น4-4-6ทำไม. แสดงที่แยกออกมานั้นเพราะบางอย่างต้องประกอบเนื่อง. สอบตกนะ. กลับนั่งคิดดีแล้วจะเข้าใจ. ถ้ายังไม่เข้าใจก็ปล่อยเลน

ฺBigtoo ...อย่าเลี่ยง อย่าแถอีก
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=3926&Z=4206&pagebreak=0
สิงคาลกสูตร
พระสูตรนี้ แสดง เรื่อง กรรมลามกไว้ 14 ประการ เป็นพุทธวจนะ ใช่หรือไม่

พระสูตรนี้ บอกว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖"
ไม่ได้ตรัสว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมเนืองๆ แห่งโภคะ ๖"
ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์ มีการตรัสว่า เจตนา เป็นกรรม ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์วางพระวินัย ห้ามภิกษุดื่มสุรา หากดื่มเป็นอาบัติปาจิตตีย์
โดยไม่ได้วางพระวินัยไว้ว่า ห้ามภิกษุดื่มสุราเนืองๆ หากดื่มเนืองๆ เป็นอาบัติปาจิตตีย์
ใช่หรือไม่

ิbigtoo ....
กรรมลามก ก็เป็นการกระทำด้วยเจตนาลามก

ถ้าจะอ้างอกุศลกรรมบถ
ก็ต้องแสดงถึงวิถีแห่งอกุศล 10
ผู้ใดเดินตามวิถีนั้น ชือว่ามีเจตนา มีกรรมอันเป็นอกุศล
จึงเรียกว่า อกุศลกรรมบถ

ในอกุศลกรรมบถ 1-9 สามารถสงเคราะห์ลงได้กับ
กรรมกิเล 4 และ บาปกรรมโดยฐานะ 4
อีกทั้งอกุศลกรรมบถลำดับที่ 10 สามารถนำเอาการเสพย์ทางเสื่อมอีก 6 เข้าไปสงเคราะห์ได้
กรรมอันลามก อกุศลกรรมบถ 10 ศีล 5 ล้วนไม่ขัดแย้งกันเข้ากันได้ดี เป็นไปในทางเดียวกัน

มีแต่ Bigtoo ตะแบงแบกความเห็นตน ไม่ศึกษาพระสูตรให้ดี ถือเอาพระสูตรเป็นส่วนๆ ก็แค่นั้น

คำถาม 4 ข้อ ข้างบนน่ะ ตอบมาว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่...

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 16:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
bigtoo เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
การกระทำกรรมลามก ก็ล่วงละเมิดศีลแล้วครับ
ทำด้วยเจตนา แล้วครับ

เป็นเจตนาลามก ทำด้วยเจตนาลามก

Bigtoo เลี่ยงบาลีแถไปเรื่อยๆ ว่าไม่มีเจตนา ไม่เป็นกรรม

ซึ่ง bigtoo ก็ยอมรับว่า เจตนา คือกรรม
และ กรรมลามก คือเจตนาลามก

ดังนั้น ความเห็นของ bigtoo จึงเป็นการเลือกเอาสิ่งที่เข้ากับความเห็นตน
ละเลยพุทธบัญญัติ
เพียงแต่เอาพุทธบัญญัติบางส่วนมาสนับสนุนความเห็นตน

ไม่มีสาระใดที่จะต้องสนทนาต่อไป
นี่ก็สอบตก. ไม่เข้าใจบริบทที่พระองค์แสดงว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่ากรรมลามก. ถ้าทางเสื่อมหกประการเป็นกรรมที่ไม่ต้องจำแนกว่าต้องประกอบเนื่องๆ. กรรมลามกพระองค์แสดงเรียงมาเลย. ว่าอริยสาวกเลิกกิเลสกรรมได้. 12345678910ถูกมั้ยจะต้องแยกเป็น4-4-6ทำไม. แสดงที่แยกออกมานั้นเพราะบางอย่างต้องประกอบเนื่อง. สอบตกนะ. กลับนั่งคิดดีแล้วจะเข้าใจ. ถ้ายังไม่เข้าใจก็ปล่อยเลน

ฺBigtoo ...อย่าเลี่ยง อย่าแถอีก
พระสูตรนี้ แสดง เรื่อง กรรมลามกไว้ 14 ประการ เป็นพุทธวจนะ ใช่หรือไม่

พระสูตรนี้ บอกว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖"
ไม่ได้ตรัสว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมเนืองๆ แห่งโภคะ ๖"
ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์ มีการตรัสว่า เจตนา เป็นกรรม ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์วางพระวินัย ห้ามภิกษุดื่มสุรา หากดื่มเป็นอาบัติปาจิตตีย์
โดยไม่ได้วางพระวินัยไว้ว่า ห้ามภิกษุดื่มสุราเนืองๆ หากดื่มเนืองๆ เป็นอาบัติปาจิตตีย์
ใช่หรือไม่

ิbigtoo ....
กรรมลามก ก็เป็นการกระทำด้วยเจตนาลามก

ถ้าจะอ้างอกุศลกรรมบถ
ก็ต้องแสดงถึงวิถีแห่งอกุศล 10
ผู้ใดเดินตามวิถีนั้น ชือว่ามีเจตนา มีกรรมอันเป็นอกุศล
จึงเรียกว่า อกุศลกรรมบถ

ในอกุศลกรรมบถ 1-9 สามารถสงเคราะห์ลงได้กับ
กรรมกิเล 4 และ บาปกรรมโดยฐานะ 4
อีกทั้งอกุศลกรรมบถลำดับที่ 10 สามารถนำเอาการเสพย์ทางเสื่อมอีก 6 เข้าไปสงเคราะห์ได้
กรรมอันลามก อกุศลกรรมบถ 10 ศีล 5 ล้วนไม่ขัดแย้งกันเข้ากันได้ดี เป็นไปในทางเดียวกัน

มีแต่ Bigtoo ตะแบงแบกความเห็นตน ไม่ศึกษาพระสูตรให้ดี ถือเอาพระสูตรเป็นส่วนๆ ก็แค่นั้น

คำถาม 4 ข้อ ข้างบนน่ะ ตอบมาว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่...
คุณวินิจฉัยธรรมเละมากนะ. คำตอบที่คุณต้องการใช่หรือไม่ใช่มันใช้ไม่ได้หรอกนะที่จะทำให้ตรงธรรม. มันต้องวินิจฉัยให้ถูก
แค่คำว่าอริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อม มันเสพไม่ได้อยู่แล้วเข้าใจมั้ย. แต่ต้องมาตีความที่พระองค์ว่าทางเสื่อมคืออะไร. อะไรที่เป็นทางเสื่อม. พระองค์ตรัสว่าการประกอบเนื่องๆ. คือความเสื่อม. คุณไม่เข้าใจตรงนี้แค่นั้นถ้าไม่ประกอบเนื่องๆ. พระองค็ก็จะกล่าวลงในอริยะสาวกละกิเลสกรรมได้แล้ว1234567891011121314เรียงไปแแบบนี้. จะมาตรัสว่าภิกษุละเว้นกิเลสกรรม4ทางเสื่อม6และอะไรอีก4ทำไม. ท่านจึงจำแนกต้องประกอบเนื่องๆ. บริบทแบบนี้คุณยังขาดมากเลย. เพียงเห็นหัวข้อธรรมลามก14
กรรมลามกก็คือกรรมชั่วเอาง่ายๆ. ถ้ากระทำโดยเจตนาคือกรรมชั่ว. ถ้าไม่เจตนาก็ไม่ใช่กรรมชั่วเขาใจมั้ย
ศิลทุกข้อห้ามกระทำอยู่แล้วเพราะเป็นเจตนารักษาให้บริสุทธิ์. พระเป็นวินัย. ฆราวาสเป็นศิล. วินัยต่างจากศิลเป็นกฎของหมู่ขณะย่องมีการลงโทษ. ฆราวาสถ้ามีเจตนาผิดศิล. ถ้าไม่เจตนาไม่ผิดศิลเพราะพระองค์ตรัสไว้ต้องประกอบเนื่องๆ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 16:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ฺBigtoo ...อย่าเลี่ยง อย่าแถอีก
พระสูตรนี้ แสดง เรื่อง กรรมลามกไว้ 14 ประการ เป็นพุทธวจนะ ใช่หรือไม่

พระสูตรนี้ บอกว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖"
ไม่ได้ตรัสว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมเนืองๆ แห่งโภคะ ๖"
ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์ มีการตรัสว่า เจตนา เป็นกรรม ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์วางพระวินัย ห้ามภิกษุดื่มสุรา หากดื่มเป็นอาบัติปาจิตตีย์
โดยไม่ได้วางพระวินัยไว้ว่า ห้ามภิกษุดื่มสุราเนืองๆ หากดื่มเนืองๆ เป็นอาบัติปาจิตตีย์
ใช่หรือไม่



คำถาม 4 ข้อ ข้างบนน่ะ ตอบมาว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่...
คุณวินิจฉัยธรรมเละมากนะ. คำตอบที่คุณต้องการใช่หรือไม่ใช่มันใช้ไม่ได้หรอกนะที่จะทำให้ตรงธรรม. มันต้องวินิจฉัยให้ถูก
แค่คำว่าอริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อม มันเสพไม่ได้อยู่แล้วเข้าใจมั้ย. แต่ต้องมาตีความที่พระองค์ว่าทางเสื่อมคืออะไร. อะไรที่เป็นทางเสื่อม. พระองค์ตรัสว่าการประกอบเนื่องๆ. คือความเสื่อม. คุณไม่เข้าใจตรงนี้แค่นั้นถ้าไม่ประกอบเนื่องๆ. พระองค็ก็จะกล่าวลงในอริยะสาวกละกิเลสกรรมได้แล้ว1234567891011121314เรียงไปแแบบนี้. จะมาตรัสว่าภิกษุละเว้นกิเลสกรรม4ทางเสื่อม6และอะไรอีก4ทำไม. ท่านจึงจำแนกต้องประกอบเนื่องๆ. บริบทแบบนี้คุณยังขาดมากเลย. เพียงเห็นหัวข้อธรรมลามก14
กรรมลามกก็คือกรรมชั่วเอาง่ายๆ. ถ้ากระทำโดยเจตนาคือกรรมชั่ว. ถ้าไม่เจตนาก็ไม่ใช่กรรมชั่วเขาใจมั้ย
ศิลทุกข้อห้ามกระทำอยู่แล้วเพราะเป็นเจตนารักษาให้บริสุทธิ์. พระเป็นวินัย. ฆราวาสเป็นศิล. วินัยต่างจากศิลเป็นกฎของหมู่ขณะย่องมีการลงโทษ. ฆราวาสถ้ามีเจตนาผิดศิล. ถ้าไม่เจตนาไม่ผิดศิลเพราะพระองค์ตรัสไว้ต้องประกอบเนื่องๆ

ไม่มีการวินิจฉัยโดยความเห็นส่วนตัว

ตอบมา bigtoo
เอาตรงตามพุทธวจนะนะครับว่า พุทธบัญญัติแสดงไว้อย่างนั้นหรือไม่

bigtoo จะตีความอย่างไรต่อไป ก็ตอบคำถาม 4 ประการ ก่อน
และต้องเพิ่มอีกข้อ

พระพุทธองค์แสดง กรรมกิเลส 4
ไม่ใช่ตรัสว่า กิเลสกรรม4 ใช่หรือไม่

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 16:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
bigtoo เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ฺBigtoo ...อย่าเลี่ยง อย่าแถอีก
พระสูตรนี้ แสดง เรื่อง กรรมลามกไว้ 14 ประการ เป็นพุทธวจนะ ใช่หรือไม่

พระสูตรนี้ บอกว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖"
ไม่ได้ตรัสว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมเนืองๆ แห่งโภคะ ๖"
ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์ มีการตรัสว่า เจตนา เป็นกรรม ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์วางพระวินัย ห้ามภิกษุดื่มสุรา หากดื่มเป็นอาบัติปาจิตตีย์
โดยไม่ได้วางพระวินัยไว้ว่า ห้ามภิกษุดื่มสุราเนืองๆ หากดื่มเนืองๆ เป็นอาบัติปาจิตตีย์
ใช่หรือไม่



คำถาม 4 ข้อ ข้างบนน่ะ ตอบมาว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่...
คุณวินิจฉัยธรรมเละมากนะ. คำตอบที่คุณต้องการใช่หรือไม่ใช่มันใช้ไม่ได้หรอกนะที่จะทำให้ตรงธรรม. มันต้องวินิจฉัยให้ถูก
แค่คำว่าอริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อม มันเสพไม่ได้อยู่แล้วเข้าใจมั้ย. แต่ต้องมาตีความที่พระองค์ว่าทางเสื่อมคืออะไร. อะไรที่เป็นทางเสื่อม. พระองค์ตรัสว่าการประกอบเนื่องๆ. คือความเสื่อม. คุณไม่เข้าใจตรงนี้แค่นั้นถ้าไม่ประกอบเนื่องๆ. พระองค็ก็จะกล่าวลงในอริยะสาวกละกิเลสกรรมได้แล้ว1234567891011121314เรียงไปแแบบนี้. จะมาตรัสว่าภิกษุละเว้นกิเลสกรรม4ทางเสื่อม6และอะไรอีก4ทำไม. ท่านจึงจำแนกต้องประกอบเนื่องๆ. บริบทแบบนี้คุณยังขาดมากเลย. เพียงเห็นหัวข้อธรรมลามก14
กรรมลามกก็คือกรรมชั่วเอาง่ายๆ. ถ้ากระทำโดยเจตนาคือกรรมชั่ว. ถ้าไม่เจตนาก็ไม่ใช่กรรมชั่วเขาใจมั้ย
ศิลทุกข้อห้ามกระทำอยู่แล้วเพราะเป็นเจตนารักษาให้บริสุทธิ์. พระเป็นวินัย. ฆราวาสเป็นศิล. วินัยต่างจากศิลเป็นกฎของหมู่ขณะย่องมีการลงโทษ. ฆราวาสถ้ามีเจตนาผิดศิล. ถ้าไม่เจตนาไม่ผิดศิลเพราะพระองค์ตรัสไว้ต้องประกอบเนื่องๆ

ไม่มีการวินิจฉัยโดยความเห็นส่วนตัว

ตอบมา bigtoo
เอาตรงตามพุทธวจนะนะครับว่า พุทธบัญญัติแสดงไว้อย่างนั้นหรือไม่

bigtoo จะตีความอย่างไรต่อไป ก็ตอบคำถาม 4 ประการ ก่อน
และต้องเพิ่มอีกข้อ

พระพุทธองค์แสดง กรรมกิเลส 4
ไม่ใช่ตรัสว่า กิเลสกรรม4 ใช่หรือไม่
ผมนี่พุทธวจนเลยนะท่าน คุณกลับไปดูดีๆก่อนนะครับผมเหนื่อยมากกับเรื่องง่ายๆแบบนี้. อะไรๆที่เป็นกรรมชั่วพระองค์ห้ามหมดเลย(เว้นขาดโดยเจตนานะ)เพราะองค์กล่าวว่าเจตนาเป็นตัวกรรม. คุณอย่ามองอาการมันละเอียดอ่อน. แล้วที่นี้คุณก็ไปดูซิว่าพระองค์กล่าวอะไรคือกรรมชั่วหรือกรรมลามกของคุณ. ดูซิพระองค์ว่าอย่างไร. ก็แค่นั้นหมูจะตาย. และทางเสื่อม6ประการนั้นที่เป็นกรรมชั่วท่านแจงว่าอย่างไรก็แค่นั้น. เอานะถ้าไม่เข้าใจก็ตามใจ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2015, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
bigtoo เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
ฺBigtoo ...อย่าเลี่ยง อย่าแถอีก
พระสูตรนี้ แสดง เรื่อง กรรมลามกไว้ 14 ประการ เป็นพุทธวจนะ ใช่หรือไม่

พระสูตรนี้ บอกว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖"
ไม่ได้ตรัสว่า
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมเนืองๆ แห่งโภคะ ๖"
ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์ มีการตรัสว่า เจตนา เป็นกรรม ใช่หรือไม่

พระพุทธองค์วางพระวินัย ห้ามภิกษุดื่มสุรา หากดื่มเป็นอาบัติปาจิตตีย์
โดยไม่ได้วางพระวินัยไว้ว่า ห้ามภิกษุดื่มสุราเนืองๆ หากดื่มเนืองๆ เป็นอาบัติปาจิตตีย์
ใช่หรือไม่



คำถาม 4 ข้อ ข้างบนน่ะ ตอบมาว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่...
คุณวินิจฉัยธรรมเละมากนะ. คำตอบที่คุณต้องการใช่หรือไม่ใช่มันใช้ไม่ได้หรอกนะที่จะทำให้ตรงธรรม. มันต้องวินิจฉัยให้ถูก
แค่คำว่าอริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อม มันเสพไม่ได้อยู่แล้วเข้าใจมั้ย. แต่ต้องมาตีความที่พระองค์ว่าทางเสื่อมคืออะไร. อะไรที่เป็นทางเสื่อม. พระองค์ตรัสว่าการประกอบเนื่องๆ. คือความเสื่อม. คุณไม่เข้าใจตรงนี้แค่นั้นถ้าไม่ประกอบเนื่องๆ. พระองค็ก็จะกล่าวลงในอริยะสาวกละกิเลสกรรมได้แล้ว1234567891011121314เรียงไปแแบบนี้. จะมาตรัสว่าภิกษุละเว้นกิเลสกรรม4ทางเสื่อม6และอะไรอีก4ทำไม. ท่านจึงจำแนกต้องประกอบเนื่องๆ. บริบทแบบนี้คุณยังขาดมากเลย. เพียงเห็นหัวข้อธรรมลามก14
กรรมลามกก็คือกรรมชั่วเอาง่ายๆ. ถ้ากระทำโดยเจตนาคือกรรมชั่ว. ถ้าไม่เจตนาก็ไม่ใช่กรรมชั่วเขาใจมั้ย
ศิลทุกข้อห้ามกระทำอยู่แล้วเพราะเป็นเจตนารักษาให้บริสุทธิ์. พระเป็นวินัย. ฆราวาสเป็นศิล. วินัยต่างจากศิลเป็นกฎของหมู่ขณะย่องมีการลงโทษ. ฆราวาสถ้ามีเจตนาผิดศิล. ถ้าไม่เจตนาไม่ผิดศิลเพราะพระองค์ตรัสไว้ต้องประกอบเนื่องๆ

ไม่มีการวินิจฉัยโดยความเห็นส่วนตัว

ตอบมา bigtoo
เอาตรงตามพุทธวจนะนะครับว่า พุทธบัญญัติแสดงไว้อย่างนั้นหรือไม่

bigtoo จะตีความอย่างไรต่อไป ก็ตอบคำถาม 4 ประการ ก่อน
และต้องเพิ่มอีกข้อ

พระพุทธองค์แสดง กรรมกิเลส 4
ไม่ใช่ตรัสว่า กิเลสกรรม4 ใช่หรือไม่
ผมนี่พุทธวจนเลยนะท่าน คุณกลับไปดูดีๆก่อนนะครับผมเหนื่อยมากกับเรื่องง่ายๆแบบนี้. อะไรๆที่เป็นกรรมชั่วพระองค์ห้ามหมดเลย(เว้นขาดโดยเจตนานะ)เพราะองค์กล่าวว่าเจตนาเป็นตัวกรรม. คุณอย่ามองอาการมันละเอียดอ่อน. แล้วที่นี้คุณก็ไปดูซิว่าพระองค์กล่าวอะไรคือกรรมชั่วหรือกรรมลามกของคุณ. ดูซิพระองค์ว่าอย่างไร. ก็แค่นั้นหมูจะตาย. และทางเสื่อม6ประการนั้นที่เป็นกรรมชั่วท่านแจงว่าอย่างไรก็แค่นั้น. เอานะถ้าไม่เข้าใจก็ตามใจ

อย่าแถ
5 ข้อตอบมา ใช่ หรือไม่ ไม่ต้องมาย้อนถาม
อย่าเอาตัวเองเทียบพระศาสดาว่า "ผมนี่พุทธวจนะเลยนะท่าน"

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 22, 23, 24, 25, 26, 27, 28 ... 61  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร