วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 04:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 925 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 21, 22, 23, 24, 25, 26, 27 ... 62  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 07 ก.พ. 2014, 20:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ทำตัวเป็นเด็กอมมือไม่รู้จักโตอีกแล้วกรัชกายนี้่

หลักปฏิบัติใครเขาไม่เอาไปท่องเป็นคาถาหรือคำบริกรรมภาวนาอย่างทีกรัชกายเข้าใจผิดไปหรอก หรือพวกนักวิชาการเขาชอบทำกันอย่างนี้

หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริงพิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ

ลองดูจริงๆซิกรัชกาย รับรองไม่เกิน 5 นาทีจะพบ กู ที่ลุกขึ้นมาสู้ มาสั่งใจกรัชกายเองเลยเชียวนะ

ถ้ามีความสังเกตดีพอกรัชกายจะรู้ได้เดี๋ยวนี้เลยว่า
ทั้งกูพี่ (สักกายทิฏฐิ)และกูน้อง (มานะทิฏฐิ)ที่ครอบครองใจกรัชกายมาหลายกัปป์หลายกัลป์ มันลุกขึ้นมาตอบโต้ ยินดียินร้ายต่อข้อความที่กำลังอ่านอยู่เดี๋ยวนี้เลยทีเดียว แล้วเดี๋ยวมันก็จะสั่งกรัชกายให้ทำกรรมตอบโต้ไปด้วยอำนาจความยินดียินร้ายนั้น




อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง พิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง


ที่ว่า "จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริง" เห็นชัดเลย อโศกไม่มีหลักการปฏิบัติด้านฝึกฝนอบรมจิตโดยตรง

ที่ตัวว่านั่่นมันเป็นภาคทฤษฎี เหมือนพระเทศน์บนธรรมาสน์ พูดไปเทศน์ไป (มีอะไรบ้างก็ว่าไป)



แล้วก็สำทับก่อนจะเทสนาวสาเนว่า จำไว้นะลูกหลานเอ้ย จำไว้นะโยมว่า

ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย ถ้าสู้ได้
ทนได้ ไม่ตะบอย กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


เท่านั้นเอง คิกๆๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้ง เพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ



พอเจอของจริงทีไร ก็บอกไม่ใช่ของจริง :b32: เดี๊ยะๆได้แบกจักรยานเดินกลับสำนักกันมั่ง :b13: บอกไม่เชื่อ

:b13:
กรัชกายนี่ยิ่งนานยิ่งทำตัวคล้ายเด็กอมมือยิ่งขึ้นทุกที

หลักปฏิบัติเขาให้จำแล้วมาลงมือทำ ไม่ใช่ยังไม่จำยังไม่ได้ลงมือทำแล้วมาวิจารณ์ฉอดๆว่าเป็นแค้หลักทฤษฎี ลองทำดูจริงๆตามคำบอกหรือยังล่ะ ง่ายจะตายไป

สำรวมกายใจ......ทำยังไง? ทำเป็นไหม?

มา นิ่งรู้ นิ่งสังเกต......ทำยังไง ทำเป็นไหม?

ปัจจุบันอารมณ์......เป็นยังไงรู้จักหรือเปล่า?

เอาให้ได้แค่นี้มีอะไรเกิดขึ้นมามากกว่าที่หลักปฏิบัติบอกไว้ให้เอาอารมณ์จริงทีเกิดขึ้นถามมา

อย่าเอาแต่คิดฟุ้งซ่านวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ได้ลงมือทำหรือพิสูจน์เสียก่อนนะกรัชกาย
:b4:
ปล:ของจริงเรื่องคนอื่นไม่อยากตอบอยากตอบของจริงที่เกิดกับกายใจของกรัชกายนี่แหละ จะดีทั้งกับกรัชกายและผู้ตอบ
:b38:


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ทำตัวเป็นเด็กอมมือไม่รู้จักโตอีกแล้วกรัชกายนี้่

หลักปฏิบัติใครเขาไม่เอาไปท่องเป็นคาถาหรือคำบริกรรมภาวนาอย่างทีกรัชกายเข้าใจผิดไปหรอก หรือพวกนักวิชาการเขาชอบทำกันอย่างนี้

หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริงพิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ

ลองดูจริงๆซิกรัชกาย รับรองไม่เกิน 5 นาทีจะพบ กู ที่ลุกขึ้นมาสู้ มาสั่งใจกรัชกายเองเลยเชียวนะ

ถ้ามีความสังเกตดีพอกรัชกายจะรู้ได้เดี๋ยวนี้เลยว่า
ทั้งกูพี่ (สักกายทิฏฐิ)และกูน้อง (มานะทิฏฐิ)ที่ครอบครองใจกรัชกายมาหลายกัปป์หลายกัลป์ มันลุกขึ้นมาตอบโต้ ยินดียินร้ายต่อข้อความที่กำลังอ่านอยู่เดี๋ยวนี้เลยทีเดียว แล้วเดี๋ยวมันก็จะสั่งกรัชกายให้ทำกรรมตอบโต้ไปด้วยอำนาจความยินดียินร้ายนั้น




อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง พิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง


ที่ว่า "จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริง" เห็นชัดเลย อโศกไม่มีหลักการปฏิบัติด้านฝึกฝนอบรมจิตโดยตรง

ที่ตัวว่านั่่นมันเป็นภาคทฤษฎี เหมือนพระเทศน์บนธรรมาสน์ พูดไปเทศน์ไป (มีอะไรบ้างก็ว่าไป)



แล้วก็สำทับก่อนจะเทสนาวสาเนว่า จำไว้นะลูกหลานเอ้ย จำไว้นะโยมว่า

ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย ถ้าสู้ได้
ทนได้ ไม่ตะบอย กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


เท่านั้นเอง คิกๆๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้ง เพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ



พอเจอของจริงทีไร ก็บอกไม่ใช่ของจริง :b32: เดี๊ยะๆได้แบกจักรยานเดินกลับสำนักกันมั่ง :b13: บอกไม่เชื่อ

:b13:
กรัชกายนี่ยิ่งนานยิ่งทำตัวคล้ายเด็กอมมือยิ่งขึ้นทุกที

หลักปฏิบัติเขาให้จำแล้วมาลงมือทำ ไม่ใช่ยังไม่จำยังไม่ได้ลงมือทำแล้วมาวิจารณ์ฉอดๆว่าเป็นแค้หลักทฤษฎี ลองทำดูจริงๆตามคำบอกหรือยังล่ะ ง่ายจะตายไป

สำรวมกายใจ......ทำยังไง? ทำเป็นไหม?

มา นิ่งรู้ นิ่งสังเกต......ทำยังไง ทำเป็นไหม?

ปัจจุบันอารมณ์......เป็นยังไงรู้จักหรือเปล่า?

เอาให้ได้แค่นี้มีอะไรเกิดขึ้นมามากกว่าที่หลักปฏิบัติบอกไว้ให้เอาอารมณ์จริงทีเกิดขึ้นถามมา

อย่าเอาแต่คิดฟุ้งซ่านวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ได้ลงมือทำหรือพิสูจน์เสียก่อนนะกรัชกาย
:b4:
ปล:ของจริงเรื่องคนอื่นไม่อยากตอบอยากตอบของจริงที่เกิดกับกายใจของกรัชกายนี่แหละ จะดีทั้งกับกรัชกายและผู้ตอบ
:b38:




อ้างคำพูด:
"จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง"


อโศกนี่ไม่เข้าใจความหมายคำพูดของตัวเองนะขอรับ :b13:

ดูที่อโศกพูด "จำ ไว้สอน ใจ" (พูดช้าๆชัดๆนะขอรับ) -------จำ ...........ไว้สอน ...............ใจ :b1:

จำอะไร ก็จำตะบอย ตะงอยเป็นต้นนี่
อ้างคำพูด:
ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย ถ้าสู้ได้
ทนได้ ไม่ตะบอย กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


จำไว้ทำไม? ก็ จำ ไว้สอน ใจ ก็เห็นๆว่า อโศกท่องจำข้อความดังกล่าว จำเอาไว้สอนใจ เวลาที่อโศกลงมือทำจริง ถูกไหม

อโศกทำยังไง ไม่บอกเลย ทำยังไงที่ว่าทำจริง (ตรงนี้ไม่ชัด) เอาล่ะเอาเป็นว่า ทำไปๆๆๆๆๆๆๆๆ นะ ทำไปๆก็ก็นึกถึงตะบอย ตะงอย เป็นต้น นั่น สอนใจ เสียทีหนึ่ง ถูกไหม :b1: กรัชกายวิเคราะห์คำพุดอโศกขาดไหม (จำเอาไว้สอนใจ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 19:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ทำตัวเป็นเด็กอมมือไม่รู้จักโตอีกแล้วกรัชกายนี้่

หลักปฏิบัติใครเขาไม่เอาไปท่องเป็นคาถาหรือคำบริกรรมภาวนาอย่างทีกรัชกายเข้าใจผิดไปหรอก หรือพวกนักวิชาการเขาชอบทำกันอย่างนี้

หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริงพิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ

ลองดูจริงๆซิกรัชกาย รับรองไม่เกิน 5 นาทีจะพบ กู ที่ลุกขึ้นมาสู้ มาสั่งใจกรัชกายเองเลยเชียวนะ

ถ้ามีความสังเกตดีพอกรัชกายจะรู้ได้เดี๋ยวนี้เลยว่า
ทั้งกูพี่ (สักกายทิฏฐิ)และกูน้อง (มานะทิฏฐิ)ที่ครอบครองใจกรัชกายมาหลายกัปป์หลายกัลป์ มันลุกขึ้นมาตอบโต้ ยินดียินร้ายต่อข้อความที่กำลังอ่านอยู่เดี๋ยวนี้เลยทีเดียว แล้วเดี๋ยวมันก็จะสั่งกรัชกายให้ทำกรรมตอบโต้ไปด้วยอำนาจความยินดียินร้ายนั้น




อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง พิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง


ที่ว่า "จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริง" เห็นชัดเลย อโศกไม่มีหลักการปฏิบัติด้านฝึกฝนอบรมจิตโดยตรง

ที่ตัวว่านั่่นมันเป็นภาคทฤษฎี เหมือนพระเทศน์บนธรรมาสน์ พูดไปเทศน์ไป (มีอะไรบ้างก็ว่าไป)



แล้วก็สำทับก่อนจะเทสนาวสาเนว่า จำไว้นะลูกหลานเอ้ย จำไว้นะโยมว่า

ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย ถ้าสู้ได้
ทนได้ ไม่ตะบอย กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


เท่านั้นเอง คิกๆๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้ง เพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ



พอเจอของจริงทีไร ก็บอกไม่ใช่ของจริง :b32: เดี๊ยะๆได้แบกจักรยานเดินกลับสำนักกันมั่ง :b13: บอกไม่เชื่อ

:b13:
กรัชกายนี่ยิ่งนานยิ่งทำตัวคล้ายเด็กอมมือยิ่งขึ้นทุกที

หลักปฏิบัติเขาให้จำแล้วมาลงมือทำ ไม่ใช่ยังไม่จำยังไม่ได้ลงมือทำแล้วมาวิจารณ์ฉอดๆว่าเป็นแค้หลักทฤษฎี ลองทำดูจริงๆตามคำบอกหรือยังล่ะ ง่ายจะตายไป

สำรวมกายใจ......ทำยังไง? ทำเป็นไหม?

มา นิ่งรู้ นิ่งสังเกต......ทำยังไง ทำเป็นไหม?

ปัจจุบันอารมณ์......เป็นยังไงรู้จักหรือเปล่า?

เอาให้ได้แค่นี้มีอะไรเกิดขึ้นมามากกว่าที่หลักปฏิบัติบอกไว้ให้เอาอารมณ์จริงทีเกิดขึ้นถามมา

อย่าเอาแต่คิดฟุ้งซ่านวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ได้ลงมือทำหรือพิสูจน์เสียก่อนนะกรัชกาย
:b4:
ปล:ของจริงเรื่องคนอื่นไม่อยากตอบอยากตอบของจริงที่เกิดกับกายใจของกรัชกายนี่แหละ จะดีทั้งกับกรัชกายและผู้ตอบ
:b38:




อ้างคำพูด:
"จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง"


อโศกนี่ไม่เข้าใจความหมายคำพูดของตัวเองนะขอรับ :b13:

ดูที่อโศกพูด "จำ ไว้สอน ใจ" (พูดช้าๆชัดๆนะขอรับ) -------จำ ...........ไว้สอน ...............ใจ :b1:

จำอะไร ก็จำตะบอย ตะงอยเป็นต้นนี่
อ้างคำพูด:
ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย ถ้าสู้ได้
ทนได้ ไม่ตะบอย กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


จำไว้ทำไม? ก็ จำ ไว้สอน ใจ ก็เห็นๆว่า อโศกท่องจำข้อความดังกล่าว จำเอาไว้สอนใจ เวลาที่อโศกลงมือทำจริง ถูกไหม

อโศกทำยังไง ไม่บอกเลย ทำยังไงที่ว่าทำจริง (ตรงนี้ไม่ชัด) เอาล่ะเอาเป็นว่า ทำไปๆๆๆๆๆๆๆๆ นะ ทำไปๆก็ก็นึกถึงตะบอย ตะงอย เป็นต้น นั่น สอนใจ เสียทีหนึ่ง ถูกไหม :b1: กรัชกายวิเคราะห์คำพุดอโศกขาดไหม (จำเอาไว้สอนใจ)

:b12:
เลียงบาลีอีกแล้วกรัชกาย

ทำไมไม่ยกคำถามที่ถามว่าทำเป็นไหมมาด้วย

สำรวมกายใจ....ทำยังไง.....ทำเป็นไหม?

มานิ่งรู้ นิ่งสังเกต......ทำยังไง......ทำเป็นไหม?

ปัจจุบันอารมณ์......เป็นยังไง.......รู้จีกไหม?

นีแหละหลักปฏิบัติง่ายๆ เด็กชั้นประถมก็น่าจะเข้าใจวิธีทำ แต่นักวิชาการใหญ่กลับไม่เข้าใจ.......

ความรู้ค่อนข้างจะท่วมท้นเกินไปหรือเปล่า ภาษาชาวบ้านธรรมดาๆจึงไม่เข้าใจ
s004 s006
แล้วก็พูดซ้ำย้ำแต่คำว่าตะบอยอยู่นั่นแหละ...แล้วรู้หรือเปล่าว่า ไม่ตะบอย......นั้นแปลว่าอะไร พ่อนักวิชาการเอก กรัชกาย
:b32:


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ทำตัวเป็นเด็กอมมือไม่รู้จักโตอีกแล้วกรัชกายนี้่

หลักปฏิบัติใครเขาไม่เอาไปท่องเป็นคาถาหรือคำบริกรรมภาวนาอย่างทีกรัชกายเข้าใจผิดไปหรอก หรือพวกนักวิชาการเขาชอบทำกันอย่างนี้

หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริงพิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ

ลองดูจริงๆซิกรัชกาย รับรองไม่เกิน 5 นาทีจะพบ กู ที่ลุกขึ้นมาสู้ มาสั่งใจกรัชกายเองเลยเชียวนะ

ถ้ามีความสังเกตดีพอกรัชกายจะรู้ได้เดี๋ยวนี้เลยว่า
ทั้งกูพี่ (สักกายทิฏฐิ)และกูน้อง (มานะทิฏฐิ)ที่ครอบครองใจกรัชกายมาหลายกัปป์หลายกัลป์ มันลุกขึ้นมาตอบโต้ ยินดียินร้ายต่อข้อความที่กำลังอ่านอยู่เดี๋ยวนี้เลยทีเดียว แล้วเดี๋ยวมันก็จะสั่งกรัชกายให้ทำกรรมตอบโต้ไปด้วยอำนาจความยินดียินร้ายนั้น




อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง พิสูจน์ความจริง
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้งเพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติเขาให้จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง


ที่ว่า "จำไว้สอนใจเวลาลงมือทำจริง" เห็นชัดเลย อโศกไม่มีหลักการปฏิบัติด้านฝึกฝนอบรมจิตโดยตรง

ที่ตัวว่านั่่นมันเป็นภาคทฤษฎี เหมือนพระเทศน์บนธรรมาสน์ พูดไปเทศน์ไป (มีอะไรบ้างก็ว่าไป)



แล้วก็สำทับก่อนจะเทสนาวสาเนว่า จำไว้นะลูกหลานเอ้ย จำไว้นะโยมว่า

ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย ถ้าสู้ได้
ทนได้ ไม่ตะบอย กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


เท่านั้นเอง คิกๆๆ


อ้างคำพูด:
หลักปฏิบัติที่ดียิ่งทำจริงยิ่งใช่ยิ่งซึ้ง เพราะมันเจอของจริงอย่างที่หลักท่านว่าจริงๆ



พอเจอของจริงทีไร ก็บอกไม่ใช่ของจริง :b32: เดี๊ยะๆได้แบกจักรยานเดินกลับสำนักกันมั่ง :b13: บอกไม่เชื่อ

:b13:
กรัชกายนี่ยิ่งนานยิ่งทำตัวคล้ายเด็กอมมือยิ่งขึ้นทุกที

หลักปฏิบัติเขาให้จำแล้วมาลงมือทำ ไม่ใช่ยังไม่จำยังไม่ได้ลงมือทำแล้วมาวิจารณ์ฉอดๆว่าเป็นแค้หลักทฤษฎี ลองทำดูจริงๆตามคำบอกหรือยังล่ะ ง่ายจะตายไป

สำรวมกายใจ......ทำยังไง? ทำเป็นไหม?

มา นิ่งรู้ นิ่งสังเกต......ทำยังไง ทำเป็นไหม?

ปัจจุบันอารมณ์......เป็นยังไงรู้จักหรือเปล่า?

เอาให้ได้แค่นี้มีอะไรเกิดขึ้นมามากกว่าที่หลักปฏิบัติบอกไว้ให้เอาอารมณ์จริงทีเกิดขึ้นถามมา

อย่าเอาแต่คิดฟุ้งซ่านวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ได้ลงมือทำหรือพิสูจน์เสียก่อนนะกรัชกาย
:b4:
ปล:ของจริงเรื่องคนอื่นไม่อยากตอบอยากตอบของจริงที่เกิดกับกายใจของกรัชกายนี่แหละ จะดีทั้งกับกรัชกายและผู้ตอบ
:b38:




อ้างคำพูด:
"จำไว้สอนใจ เวลาลงมือทำจริง"


อโศกนี่ไม่เข้าใจความหมายคำพูดของตัวเองนะขอรับ :b13:

ดูที่อโศกพูด "จำ ไว้สอน ใจ" (พูดช้าๆชัดๆนะขอรับ) -------จำ ...........ไว้สอน ...............ใจ :b1:

จำอะไร ก็จำตะบอย ตะงอยเป็นต้นนี่
อ้างคำพูด:
ใจปัญญาอย่ายอมใจเป็นกู นิ่งดู นิ่งสังเกต พิจารณา
ด้วยวิริยะ อุตสาหะ ตบะ ขันติ มิยอมถอย ถ้าสู้ได้
ทนได้ ไม่ตะบอย กู จะถอยหรือตายดับ ไปจากใจ


จำไว้ทำไม? ก็ จำ ไว้สอน ใจ ก็เห็นๆว่า อโศกท่องจำข้อความดังกล่าว จำเอาไว้สอนใจ เวลาที่อโศกลงมือทำจริง ถูกไหม

อโศกทำยังไง ไม่บอกเลย ทำยังไงที่ว่าทำจริง (ตรงนี้ไม่ชัด) เอาล่ะเอาเป็นว่า ทำไปๆๆๆๆๆๆๆๆ นะ ทำไปๆก็ก็นึกถึงตะบอย ตะงอย เป็นต้น นั่น สอนใจ เสียทีหนึ่ง ถูกไหม :b1: กรัชกายวิเคราะห์คำพุดอโศกขาดไหม (จำเอาไว้สอนใจ)

:b12:
เลียงบาลีอีกแล้วกรัชกาย

ทำไมไม่ยกคำถามที่ถามว่าทำเป็นไหมมาด้วย

สำรวมกายใจ....ทำยังไง.....ทำเป็นไหม?

มานิ่งรู้ นิ่งสังเกต......ทำยังไง......ทำเป็นไหม?

ปัจจุบันอารมณ์......เป็นยังไง.......รู้จีกไหม?

นีแหละหลักปฏิบัติง่ายๆ เด็กชั้นประถมก็น่าจะเข้าใจวิธีทำ แต่นักวิชาการใหญ่กลับไม่เข้าใจ.......

ความรู้ค่อนข้างจะท่วมท้นเกินไปหรือเปล่า ภาษาชาวบ้านธรรมดาๆจึงไม่เข้าใจ
s004 s006
แล้วก็พูดซ้ำย้ำแต่คำว่าตะบอยอยู่นั่นแหละ...แล้วรู้หรือเปล่าว่า ไม่ตะบอย......นั้นแปลว่าอะไร พ่อนักวิชาการเอก กรัชกาย
:b32:


สำรวมกาย ยกตัวอย่างสิครับ สำรวมกาย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตัวอย่างนี้บอกวิธีสำรวมกายสิครับเนี่ย :b32:



.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 20:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ตัวอย่างนี้บอกวิธีสำรวมกายสิครับเนี่ย :b32:



:b12:
ปลุกเด็กให้ตื่น อย่าฝืนให้นั่งต่อ
พาไปเปลี่ยนอิริยาบถ ล้างหน้าล้างตา อาบน้ำอาบท่า พักผ่อนให้สบายสักครู่ก่อน

แล้วเอามาสอนมาอบรมวิธีทำกันใหม่ให้ถูกต้อง

พี่เลี้ยงต้องกำกับใกล้ชิดหรือแยกตัวออกมาฝึกต่างหาก

เหมือนหมอจำแนกคนไข้แล้วแยกรักษาตามอาการ
:b11:


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 20:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ตัวอย่างนี้บอกวิธีสำรวมกายสิครับเนี่ย :b32:



:b12:
ปลุกเด็กให้ตื่น อย่าฝืนให้นั่งต่อ
พาไปเปลี่ยนอิริยาบถ ล้างหน้าล้างตา อาบน้ำอาบท่า พักผ่อนให้สบายสักครู่ก่อน

แล้วเอามาสอนมาอบรมวิธีทำกันใหม่ให้ถูกต้อง

พี่เลี้ยงต้องกำกับใกล้ชิดหรือแยกตัวออกมาฝึกต่างหาก

เหมือนหมอจำแนกคนไข้แล้วแยกรักษาตามอาการ
:b11:


เห็นพูดนิวรณ์ๆๆ คิกๆๆ

นี่ก็เป็นคำตอบของผู้เข้าไม่ถึงธรรมะ

ถ้าจับไปล้างหน้าล้างตา ฯลฯ ดังว่านั่นแล้ว ให้นั่งอีก แล้วเป็นยังงี้อีก ทำไงอีกล่ะทีนี้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 21:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


Onion_L
บอกแล้วว่าไม่อยากทำงานที่ไม่รูแล้ว

เอาปัญหาการปฏิบัติจริงขิองตัวกรัชกายเองมาถามดีกว่า

ตัวอย่างเช่นทำไมยังไม่

"สำรวมกายใจ มานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์"

ได้สักที ติดอะไรอยู่ ...กู..?.หรือ มานะทิฏฐิ?
:b13:


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 21:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
Onion_L
บอกแล้วว่าไม่อยากทำงานที่ไม่รูแล้ว

เอาปัญหาการปฏิบัติจริงขิองตัวกรัชกายเองมาถามดีกว่า

ตัวอย่างเช่นทำไมยังไม่

"สำรวมกายใจ มานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์"

ได้สักที ติดอะไรอยู่ ...กู..?.หรือ มานะทิฏฐิ?
:b13:


ก็บอกมาสิขอรับ สำรวมยังไง บอกให้เขานำไปใช้ได้สิครับ สำรวมกาย สำรวมยังไง ตอบดังๆชัดๆ เอาแบบมั่นใจน่ะ :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาอย่างกรัชกาย นะ ซ้าย ย่าง หนอ ขวา ย่าง หนอ ฯลฯ นี่กรัชกายบอกชัดเลย

นั่งก็พองหนอ ยุบหนอ เป็นต้นนี่ บอกชัดเลย :b32:

ในชีวิตประจำวันทำอะไรอยู่ก็รู้สิ่งที่กำลังทำนั้น ชัดเลย

พิมพ์หนังสืออยู่นี่ก็อยู่กัีบการพิมพ์นี่ กรัชกายบอกชัด :b1:


อโศกบอกสำรวมที่ว่ามั่งเอ้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ก.พ. 2014, 21:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เอาอย่างกรัชกาย นะ ซ้าย ย่าง หนอ ขวา ย่าง หนอ ฯลฯ นี่กรัชกายบอกชัดเลย

นั่งก็พองหนอ ยุบหนอ เป็นต้นนี่ บอกชัดเลย :b32:

ในชีวิตประจำวันทำอะไรอยู่ก็รู้สิ่งที่กำลังทำนั้น ชัดเลย

พิมพ์หนังสืออยู่นี่ก็อยู่กัีบการพิมพ์นี่ กรัชกายบอกชัด :b1



นี่คือมรรค (วิธีปฏิบัติ) ขั้นริ่มต้น ใครทีรู้เพียงรูปแบบว่าทำยังงี้ๆ ไม่่ควรนำไปทำไปปฏิบัติ หรือแนะนำบุคคลอื่น หากเกิดปัญหาแล้วจะว่าไม่เตือน :b32:





นี่รู้เพียงรูปแบบ พอง-ยุบๆๆๆๆ ก็อย่างนี้ ที่อโศกว่าทำหนอมาจนพรุน ยังเข้าใจเพียงรูปแบบการปฏิบัติเท่านั้น :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.พ. 2014, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สังเกตอโศกเจอของจริงทีไรคิดนาน หรือไม่ก็เพ่นหนีหายวับ แต่เรื่องเพ้อๆฝันๆ โดดใส่่ รู้นั่นรู้นี่ เป็นพระโสดาบัน จะเป็นพระอรหันต์ จะไปนิพพาน วาดภาพไปเรื่อย คิกๆ ขยันคิดจริงๆ

คิดๆๆ แล้วมันจะนิพพานไหมน่า :b1: จะโสดาบันไหมน่ะ จะอรหันต์ไหม เออจริงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 09 ก.พ. 2014, 12:28, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 09 ก.พ. 2014, 12:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
บอกแล้วนะในอีกกระทู้หนึ่งหรือเปล่า กรัชกายน่าจะได้อ่านผ่านตาแล้วถ้าไม่ลวกๆจนเกินไปเดี๋ยวเจอจะก้อปมาให้อ่านซ้ำ
:b38:
ไอ้หนอในชีวิตประจำวันนั้นก็ดีนะ แต่ ไม่ใช่ดีที่สุดที่ระดับสติปัญญาอย่างกรัชกายควรจะไปย่ำเท้าอยู่แค่ตรงนั้น อยู่แค่ตรงคำบริกรรม "หนอ"

น่าจะทิ้งหนอได้ตั้งนานแล้วนะ

มาใช้จิตรู้....คือสติ รู้ทัน ปัญญารู้ถึงปัจจุบันสภาวะ

ลองวางหนอมาทำอย่างที่แนะนำดูบ้างซิ สังเกตให้ดี มีอะไรดีๆซ่อนอยู่เยอะเลยนะ แล้วทันเกมของมารและมายาของจิตด้วย

:b38:
อ้อแล้วอย่าสำคัญผิดว่าอโศกะ คิดเอาจนได้นิพพาน นั่นเห็นผิดแล้ว

การปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา เป็นการทำเหตุ เหมือนชาวสวนปลูกต้นมะม่วงลงในดิน

นักวิปัสสนาภาวนา ก็ปลูกต้นธรรมะลงในใจ

งานของชาวสวนสำหรับการปลูกต้นมะม่วง คือ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน ดายหญ้า คอยกำจัดศัตรู โรค แมลง ตัดแต่งกิ่ง

งานของนักวิปัสสนาภาวนาคือ นิ่งรู้ นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์ จนมันดับไปต่อหน้าต่อตาทุกอารมณ์ โดยไร้ปฏิกิริยาตอบโต้ ด้วยความยินดียินร้าย ใดๆ(สติปัฏฐาน 4 โดยธรรมชาติ)

เมื่อถึงเวลาอันควร ถึงฤดูกาลและอายุที่เหมาะสม ต้นมะม่วงมันออกดอกติดลูก ผลแก่ ผลสุก กินได้เองของมัน

มรรค ผล นิพพาน สำหรับนักวิปัสสนาภาวนาก็เช่นกัน

ทำเหตุ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ที่ถูกต้อง ถูกวิธี ทุกวัน...เวลา....นาที....วินาที ....ที่ระลึกได้และมีโอกาส(ข้อความท่อนนี้มีความหมายและความสำคัญมากลองตรองดูด้วยสติปัญญาที่ปราศจากอคติให้ดี จะได้ประโยชน์กับชีวิตที่เหลือต่อไปนี้มาก)

แล้วผล ก็เป็นเรื่องของผล เหมือนการแตกดอกออกลูกเป็นเรื่องของต้นมะม่วงมันไม่ใช่งานและหน้าที่ของชาวสวน

กรัชกายพอจะเข้าใจไหม อโศกะ ไม่ได้คิดเอาจนถึงนิพพาน แต่ทำเหตุ ปฏิบัติเอา จนกว่าจะถึงอนุปาทิเสสะนิพพานเป็นที่สุด ถึงเมื่อไหร่ไม่เป็นกังวล มันเป็นเรื่องของผลเขาจักเป็นเอง

smiley smiley smiley


แก้ไขล่าสุดโดย asoka เมื่อ 09 ก.พ. 2014, 12:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 09 ก.พ. 2014, 12:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
บอกแล้วนะในอีกกระทู้หนึ่งหรือเปล่า กรัชกายน่าจะได้อ่านผ่านตาแล้วถ้าไม่ลวกๆจนเกินไปเดี๋ยวเจอจะก้อปมาให้อ่านซ้ำ
:b38:
ไอ้หนอในชีวิตประจำวันนั้นก็ดีนะ แต่ ไม่ใช่ดีที่สุดที่ระดับสติปัญญาอย่างกรัชกายควรจะไปย่ำเท้าอยู่แค่ตรงนั้น อยู่แค่ตรงคำบริกรรม "หนอ"

น่าจะทิ้งหนอได้ตั้งนานแล้วนะ

มาใช้จิตรู้....คือสติ รู้ทัน ปัญญารู้ถึงปัจจุบันสภาวะ

ลองวางหนอมาทำอย่างที่แนะนำดูบ้างซิ สังเกตให้ดี มีอะไรดีๆซ่อนอยู่เยอะเลยนะ แล้วทันเกมของมารและมายาของจิตด้วย

:b38:



หนออีกแล้วๆๆๆ คิกๆ สภาวธรรมมองไม่เห็น บอกไม่จำ :b32:

นั่นๆนี่ พูดเอาทั้งนั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ก.พ. 2014, 12:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
บอกแล้วนะในอีกกระทู้หนึ่งหรือเปล่า กรัชกายน่าจะได้อ่านผ่านตาแล้วถ้าไม่ลวกๆจนเกินไปเดี๋ยวเจอจะก้อปมาให้อ่านซ้ำ
:b38:
ไอ้หนอในชีวิตประจำวันนั้นก็ดีนะ แต่ ไม่ใช่ดีที่สุดที่ระดับสติปัญญาอย่างกรัชกายควรจะไปย่ำเท้าอยู่แค่ตรงนั้น อยู่แค่ตรงคำบริกรรม "หนอ"

น่าจะทิ้งหนอได้ตั้งนานแล้วนะ

มาใช้จิตรู้....คือสติ รู้ทัน ปัญญารู้ถึงปัจจุบันสภาวะ

ลองวางหนอมาทำอย่างที่แนะนำดูบ้างซิ สังเกตให้ดี มีอะไรดีๆซ่อนอยู่เยอะเลยนะ แล้วทันเกมของมารและมายาของจิตด้วย

:b38:



หนออีกแล้วๆๆๆ คิกๆ สภาวธรรมมองไม่เห็น บอกไม่จำ :b32:

นั่นๆนี่ พูดเอาทั้งนั้น

:b34:
กลับขึ้นไปอ่านใหม่ ยังใส่ไม่ครบ รีบตอบทำไม?
:b12: :b12: :b12:
แล้วสภาวธรรมที่กรัชกายเห็นมันเป็นอย่างไรไหนลองเล่ามาให้ฟังซิ
:b4: :b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 925 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 21, 22, 23, 24, 25, 26, 27 ... 62  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร