วันเวลาปัจจุบัน 18 พ.ค. 2025, 06:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 338 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 19, 20, 21, 22, 23  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 06:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
หากทำให้ท่านเคือง ก็ขอโทษด้วยครับ
:b8:

ข้อความก็ไม่หยาบ...หวังก็หวังดี

แล้วทำไม...ถึงกลัวเขาเคืองด้วย? :b12:


ไม่อยากให้เขา จิตใจขุ่นมัว เพราะนักปฏิบัติ ส่วนใหญ่ที่ได้คุย รวมถึงที่นี้ จะมีอัตตา ที่ยึดมั่นทางความคิด สูงมากๆๆๆ บางครั้งเราคิดว่า เราหวังดี แต่เขา คิดว่าเราหวังร้าย อยากโชว์ดีไปเสียนี้ซิครับ จนแสดงออกมา เป็น วจีทุจริตไปเสีย แล้ว เดิน มรรค8 ให้สมบูรณ์กันยังไง ผมยัง งง s007
จาก มิลินทปัญหา
พระนาคเสนตอบว่า
" ถ้ามหาบพิตรจะสนทนาตามเยี่ยงอย่างบัณฑิต อาตมภาพก็จะสนทนากับมหาบพิตรได้ ถ้ามหาบพิตรจะสนทนาตามเยี่ยงอย่างของพระราชา อาตมาก็จะสนทนาด้วยไม่ได้ "
" บัณฑิตทั้งหลายสนทนากันอย่างไร ? "
" อ๋อ…ธรรมดาว่าบัณฑิตที่สนทนากันย่อมเจรจาข่มขี่กันได้ แก้ตัวได้ รับได้ ปฏิเสธได้ ผูกได้ แก้ได้ บัณฑิตทั้งหลายไม่โกรธบัณฑิตทั้งหลายสนทนากันอย่างนี้แหละมหาบพิตร "

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขนมจีบซาลาเปา เขียน:
โอเค งั้นถือว่าเรื่องที่คุณกับเราโต้แย้งกันถือว่าจบไป..:

มันไม่ได้จบหรอกครับ ปัญหามันอยู่ที่คุณไม่ยอมอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธรรม
หรือเรื่องตัวตนของบุคคลครับ คนเราถ้าไม่ยอมรับความเป็นตัวตนของคนอื่น
เรื่องธรรมยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ
สรุปก็คือผมมีเรื่องแย้งคุณตั้งมากมาย แต่คุณไม่เปิดโอกาสเท่านั้นเองครับ
ขนมจีบซาลาเปา เขียน:
.เรานะคุยกันธรรมดาน่ะ เราคุยได้น่ะ แบบที่คุณกำลังคุยกับเราอยู่นี่น่ะ เราคุยได้ แต่คุณคุยแบบแรกๆน่ะ เราปวดหัว เราอาจเรื่องมากก็ได้ แต่ช่างมันเถอะ เรายังคุยกับท่านอื่นๆอีกหลายท่านได้ ยังไม่มีปัญหา :

ไอ้ธรรมดาของคุณมันคืออะไรครับ ประเด็นมันก็แค่คุณเอาตัวคุณเป็นศูนย์กลางครับ
ใครจะคุยกับคุณ ต้องกระทำตามคุณซะทุกเรื่อง คุณลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้ว
ลองสมมุติตัวคุณเป็นผม คุณอาจจะมองคำพูดคำจาของตัวคุณเองว่า มันน่าเวียนหัว
ชวนหมั่นไส้ก็ได้ครับ แต่ไม่ใช่มาแก้ปัญหาด้วยการไม่คุยหรือมากำหนดกฎเกณท์ให้
อีกฝ่ายมาทำตามความประสงค์ของตัวเอง

ถ้าเรามามองดูให้ลึกแล้ว ปัญหาระหว่างคุณกับผม มันไม่น่าใช่หรือตรงกับสิ่งที่คุณกล่าว
ผมว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง ประเด็นก็คือคุณกลัวว่าผม จะต้อนคุณให้จนมุม
มันก็แค่การไม่เชื่อมั่นตัวเอง แต่ต้องการปกปิดเลยหาเรื่องอ้างไปอย่างนั้นครับ

ขนมจีบซาลาเปา เขียน:
เดี๋ยวเราจะไปลบ หวังว่าคราวหน้า เราคงได้คุยกันแบบดีๆบ้าง แต่ถ้าคิดว่า คุณจะคุยแบบเดิมบอกเราต่อจากกระทู้นี้เลยน่ะ เราจะได้อยู่ห่างๆคุณไว้น่ะ:

อยากลบก็ไปลบเถอะครับ แค่คุณพูดว่า จะเขียนความเห็นแล้วจะลบภายหลัง
มันก็ทำให้คนอื่นขาดความเชื่อถือในสิ่งที่คุณจะแสดงแล้วครับ มันบ่งบอกถึงการไม่มี
ความเชื่อมั่นในตัวเอง อยากบอกคุณครับ จะแสดงความเห็น แสดงไปเลยครับ
ไม่ต้องกลัวว่ามันจะผิดจะถูก มันต้องมีความศรัทธาตัวเองก่อนซิครับ ตัวคุณเอง
ยังกลัวไม่ศรัทธาตัวเอง แล้วปากบอกศรัทธาคนอื่นป่าว มันจริงหรือครับ

ขนมจีบซาลาเปา เขียน:
.คือเราเป็นคนพูดอ้อมค้อมไม่เป็น เล่นสำนวนก็ไม่เป็น เป็นแต่คุยทื้อๆแบบนี้แหละ ใจคิดอย่างไรก็พิมพ์ไปอย่างนั้น เอางี้ เพื่อความตัดปัญหา เราขออ่านบทความของคุณอย่างเดียวดีกว่า เพราะเราคงไม่มีความสามารถและมีความรุ้ที่จะคุยกับคุณได้...โมทนาในธรรมทานที่คุณได้ให้ไว้ :b8:

ตัวคุณเองนั้นแหล่ะ พูดอ้อมค้อมอ้างโน้นอ้างนี่สารพัด อ้างจนจับประเด็นไม่ถูก
คุณบอกว่าใจคิดอย่างไรก็พิมพ์อย่างนั้น แบบนี้แสดงว่า คุณกำลังหลงอยู่นะครับ
ดูง่ายๆเลยครับ...
ผมแค่บอกว่าไม่ได้อ่านความเห็นคุณ เพราะคุณเรื่องมาก
คุณก็สาธยายมามันคนล่ะเรื่อง มาพูดตอนหลังเหมือนกับว่า
ไม่ต้องการคุยกับผม ประชดด้วยการบอกว่าไม่มีความสามารถพอ
ใจจริงแล้วคุณกลัว ผมเอากิเลสในใจคุณออกมา มันก็แค่อายคนหมู่มากเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2012, 12:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
หากทำให้ท่านเคือง ก็ขอโทษด้วยครับ
:b8:

ข้อความก็ไม่หยาบ...หวังก็หวังดี

แล้วทำไม...ถึงกลัวเขาเคืองด้วย? :b12:


ไม่อยากให้เขา จิตใจขุ่นมัว เพราะนักปฏิบัติ ส่วนใหญ่ที่ได้คุย รวมถึงที่นี้ จะมีอัตตา ที่ยึดมั่นทางความคิด สูงมากๆๆๆ บางครั้งเราคิดว่า เราหวังดี แต่เขา คิดว่าเราหวังร้าย อยากโชว์ดีไปเสียนี้ซิครับ จนแสดงออกมา เป็น วจีทุจริตไปเสีย แล้ว เดิน มรรค8 ให้สมบูรณ์กันยังไง ผมยัง งง s007
จาก มิลินทปัญหา
พระนาคเสนตอบว่า
" ถ้ามหาบพิตรจะสนทนาตามเยี่ยงอย่างบัณฑิต อาตมภาพก็จะสนทนากับมหาบพิตรได้ ถ้ามหาบพิตรจะสนทนาตามเยี่ยงอย่างของพระราชา อาตมาก็จะสนทนาด้วยไม่ได้ "
" บัณฑิตทั้งหลายสนทนากันอย่างไร ? "
" อ๋อ…ธรรมดาว่าบัณฑิตที่สนทนากันย่อมเจรจาข่มขี่กันได้ แก้ตัวได้ รับได้ ปฏิเสธได้ ผูกได้ แก้ได้ บัณฑิตทั้งหลายไม่โกรธบัณฑิตทั้งหลายสนทนากันอย่างนี้แหละมหาบพิตร "

:b8: :b8: :b8:

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2012, 18:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




GEDC1726_resize.JPG
GEDC1726_resize.JPG [ 90.74 KiB | เปิดดู 3690 ครั้ง ]
ลูกพระป่า เขียน:
สักกายทิฏฐิอย่างหยาบกับอย่างละเอียด ทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่สักกายทิฏฐิในสังโยชน์เดียวกันหรือ เหตุใดพระพุทธองค์จึงไม่ได้ระบุลงไปอย่างชัดเจนว่าพระโสดาท่านข้ามสักกายทิฏฐิได้เพียงส่วนที่หยาบ แต่พระองค์ตรัสเพียงว่าพระโสดาท่านก้าวข้ามสังโชยน์ในเบื้องต่ำ 3 อย่างได้แล้ว จึงเป็นผู้ปิดอบายได้แล้ว ความเสื่อมอันมีทุกคติย่อมไม่มีในพระโสดาบันกันครับ...ถามเพิ่มอีกนิดนะครับ สักกายทิฏฐิกับอัตตานี้มีความหมายเหมือนกันหรือกว้างยาวเท่ากันหรือไม่ครับ?
ขอบคุณครับ :b8:

:b12:
กระทู้เดินเร็วเหลือเกินนะครับ คุณลูกพระป่า เผลอแป๊ปเดียวไปถึงหน้า 23 แล้ว
แต่คำถามของคุณลูกพระป่าตอนนี้ดีมากครับ คุณกบมาช่วยอธิบายได้นิด nongkong มาต่อติดให้อีกหน่อยแต่ยังไม่กระจ่างเรื่องสักกายทิฏฐิ....อัตตทิฏฐิและ มานะทิฏฐิ จึงขอนำคำอธิบายที่พระป่ารูปหนึ่งท่านเคยอธิบายให้ผมฟังผมจึงนำมาถ่ายทอดต่อมาให้พิจารณา


สักกายทิฏฐิ เป็น มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด
มานะทิฏฐิ เป็น ความยึดผิด
อัตตทิฏฐิ เป็นชื่อรวมของ สักกายทิฏฐิและมานะทิฏฐิ

:b48:
โสดาปัตติมรรค ตัดทำลายสังโยชน์ตัวที่ 1 คือ สักกายทิฏฐิ ....วิจิกิจฉาสังโยชน์ตัวที่ 2 จะตายตามโดยอัตโนมัติ สีลัพพตปรามาสเป็นผลพลอยได้จากการที่ วิจิกิจฉาตาย โสดาบันบุคคลจึงหมดสังโยชน์ทั้ง 3 โดยเด็ดขาดไม่คืนกลับมาอีก
:b43:
อัตตทิฏฐิซึ่งเคยมี 2 คือสักกายทิฏฐิ ความเห็นผิด กับมานะทิฐิ คือความยึดผิด จึงเหลือเพียง 1 คือมานะทิฏฐิ ความยึดผิด (ไม่ใช่สักกายทิฏฐิที่ละเอียด)
:b53:
มานะทิฏฐินั้นเป็นอัตตาตัวละเอียดซึ่งจะต้องถูกฆ่าทำลายให้หมดแรงและตายลงในที่สุดด้วย สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรคและอรหัตมรรค

ถึงตอนนี้พระอาจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวสรุปไว้ว่า

"รู้กายรู้จิต ลงปัจจุบัน จนละความเห็นผิด ได้ความเป็นโสดาบันและสกิทาคามี"
"รู้กายรู้จิต ลงปัจจุบัน จนละความยึดถือในกาย เป็น พระอนาคามี"
"รู้กายรู้จิต ลงปัจจุบัน จนละความยึดถือในจิต เป็นพระอรหันต์"
:b8:
นี่เป็นสำนวนที่ 1 หากยังติดใจหรือสงสัย ยังมีอีกสำนวนหนึ่งให้พิจารณาถ้ามีผู้สนใจครับ
:b16:
สำหรับท่านที่กำลังสนทนาแคะไค้กันมันๆอยู่ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่แทรกขึ้นมานะครับ
อนุโมทนาสาธุกับการสนทนาธรรมอันลึกซึ้งของคุณ Jumla กับคุณหนมจีบซาละเปาและ........ด้วยครับ

:b12:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2012, 18:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับพี่ asoka :b8:
เป็นคำอธิบายที่ให้ความชัดเจนได้ดีมากครับ ผมเองเห็นแบบเดียวกันแต่อธิบายได้ไม่ชัดเจนเหมือนพี่ asoka นี่แหละครับที่เค้าบอกว่า วาสนาไม่เท่ากัน...ขออนุโมทนาและขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 พ.ค. 2012, 18:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
สักกายทิฏฐิอย่างหยาบกับอย่างละเอียด ทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่สักกายทิฏฐิในสังโยชน์เดียวกันหรือ เหตุใดพระพุทธองค์จึงไม่ได้ระบุลงไปอย่างชัดเจนว่าพระโสดาท่านข้ามสักกายทิฏฐิได้เพียงส่วนที่หยาบ แต่พระองค์ตรัสเพียงว่าพระโสดาท่านก้าวข้ามสังโชยน์ในเบื้องต่ำ 3 อย่างได้แล้ว จึงเป็นผู้ปิดอบายได้แล้ว ความเสื่อมอันมีทุกคติย่อมไม่มีในพระโสดาบันกันครับ...ถามเพิ่มอีกนิดนะครับ สักกายทิฏฐิกับอัตตานี้มีความหมายเหมือนกันหรือกว้างยาวเท่ากันหรือไม่ครับ?
ขอบคุณครับ :b8:

:b12:
กระทู้เดินเร็วเหลือเกินนะครับ คุณลูกพระป่า เผลอแป๊ปเดียวไปถึงหน้า 23 แล้ว
แต่คำถามของคุณลูกพระป่าตอนนี้ดีมากครับ คุณกบมาช่วยอธิบายได้นิด nongkong มาต่อติดให้อีกหน่อยแต่ยังไม่กระจ่างเรื่องสักกายทิฏฐิ....อัตตทิฏฐิและ มานะทิฏฐิ จึงขอนำคำอธิบายที่พระป่ารูปหนึ่งท่านเคยอธิบายให้ผมฟังผมจึงนำมาถ่ายทอดต่อมาให้พิจารณา


สักกายทิฏฐิ เป็น มิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด
มานะทิฏฐิ เป็น ความยึดผิด
อัตตทิฏฐิ เป็นชื่อรวมของ สักกายทิฏฐิและมานะทิฏฐิ

:b48:
โสดาปัตติมรรค ตัดทำลายสังโยชน์ตัวที่ 1 คือ สักกายทิฏฐิ ....วิจิกิจฉาสังโยชน์ตัวที่ 2 จะตายตามโดยอัตโนมัติ สีลัพพตปรามาสเป็นผลพลอยได้จากการที่ วิจิกิจฉาตาย โสดาบันบุคคลจึงหมดสังโยชน์ทั้ง 3 โดยเด็ดขาดไม่คืนกลับมาอีก
:b43:
อัตตทิฏฐิซึ่งเคยมี 2 คือสักกายทิฏฐิ ความเห็นผิด กับมานะทิฐิ คือความยึดผิด จึงเหลือเพียง 1 คือมานะทิฏฐิ ความยึดผิด (ไม่ใช่สักกายทิฏฐิที่ละเอียด)
:b53:
มานะทิฏฐินั้นเป็นอัตตาตัวละเอียดซึ่งจะต้องถูกฆ่าทำลายให้หมดแรงและตายลงในที่สุดด้วย สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรคและอรหัตมรรค

ถึงตอนนี้พระอาจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวสรุปไว้ว่า

"รู้กายรู้จิต ลงปัจจุบัน จนละความเห็นผิด ได้ความเป็นโสดาบันและสกิทาคามี"
"รู้กายรู้จิต ลงปัจจุบัน จนละความยึดถือในกาย เป็น พระอนาคามี"
"รู้กายรู้จิต ลงปัจจุบัน จนละความยึดถือในจิต เป็นพระอรหันต์"
:b8:
นี่เป็นสำนวนที่ 1 หากยังติดใจหรือสงสัย ยังมีอีกสำนวนหนึ่งให้พิจารณาถ้ามีผู้สนใจครับ
:b16:
สำหรับท่านที่กำลังสนทนาแคะไค้กันมันๆอยู่ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่แทรกขึ้นมานะครับ
อนุโมทนาสาธุกับการสนทนาธรรมอันลึกซึ้งของคุณ Jumla กับคุณหนมจีบซาละเปาและ........ด้วยครับ

:b12:[/quote
ท่านอโสกะ เจ๋ง rolleyes เป็นกัลยามิตรที่น่ายกย่องชื่นชม ขนาดคุณน้องสงสัย บางครั้งแกล้งยุแหย่แบบกวนๆ ก็ยังไม่เคยถือสาหาความ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นเจ้าค่ะ :b27:ปล.ท่าน asokaเชค ข้อความขาเข้าของท่านด้วยเจ้าค่ะ ที่คุณน้องส่งข้อความไปถาม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2012, 07:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b8:
nongkong ........
ท่านอโสกะ เจ๋ง เป็นกัลยามิตรที่น่ายกย่องชื่นชม ขนาดคุณน้องสงสัย บางครั้งแกล้งยุแหย่แบบกวนๆ ก็ยังไม่เคยถือสาหาความ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นเจ้าค่ะ ปล.ท่าน asokaเชค ข้อความขาเข้าของท่านด้วยเจ้าค่ะ ที่คุณน้องส่งข้อความไปถาม
s006
ผมเข้าไปอ่านแล้วครับ พยายามตอบเป็นส่วนตัวแล้วแต่ส่งข้อความไม่เป็น เอาอีเมล์ไหมครับ
suriwong44@gmail.com
ขอให้เจริญในธรรมนำสุขมาสู่ครอบครัวยิ่งๆขึ้นไปเทอญ
:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2012, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ถึงท่านasoka คุนน้องได้คำตอบแล้วเจ้าค่ะ อนุโมทนากับคำตอบที่ท่านพยามตอบคุนน้องแบบส่วนตัวแต่ส่งข้อความไม่ได้ แสดงว่าคุนน้องไม่มีบุญได้อ่าน อิอิ :b9:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 338 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 19, 20, 21, 22, 23

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร