วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 02:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25 ... 61  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2015, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้รู้คือจิตที่ประกอบด้วยปัญญารอบรู้ในสภาวะธรรมเป็นธัมมะวิจะยะ
ความสอดส่องในธรรมที่รู้แล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
เลือกได้ไหมถ้าจะต้องไปรวมหมู่คณะที่มีแต่ปุถุชนจำนวนมาก
ในการทำสิ่งเดียวกันของปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันมาก
ตรงที่วิถีจิตของอริยบุุคลจางคลายจากการยึดถือตัวตน
ส่วนปุถุชน หุหุ ฟังธรรมก็นั่งง่วงหงาวหาวนอนหลับ
เหตุของอริยบุคคลจางคลายแล้วผลคืออะไรล่ะ
การมีดวงตาเห็นธรรมเป็นการจางคลายจิต
จากสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนเราเขา
เข้าใจก็คือธัมมะได้จัดสรรพร้อม
เพื่อเป็นเครื่องทดสอบจิตไง
จะดีขึ้นด้วยจิตละอกุศล
ไม่ใช่ดีขึ้นจากตัวตน
ที่คิดเองนั่นน่ะอกุศล
อะไรที่ปิดกั้นล่ะ
ก็ไม่รู้จิตตนไง
สงสัยทำไม
เป็นอกุศล
:b32: :b32:
onion onion onion
ดวงตาเห็นธรรมคือเห็นตรงธรรมตามความจริง. การกระทำก็ต้องตรงไม่ใช่เชื่ออะไรอย่างไรเหตุผลกระทำอะไรอย่างไร้เหตุผล

:b32:
ตรงเหตุการสวดสาธยายธัมมะเป็นการทำสมาธิที่ไม่ได้ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ไม่ผิดเพศไม่มุสาไม่จิบเหล้า
เค้าเอาจิตที่ดีงามสวดด้วยดี ความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระรัตนตรัยไม่ได้หายไปไหนนี่ กายเป็นเครื่องมือน๊า
:b44: :b44:

ไม่ใช่เรื่องนี้. เรื่องมี่ไปรดน้ำมนต์. ตามหาอรหันต์แล้วรู้ด้วยว่าใช่. ท่องคาถาเงินล้าน

:b12:
คบบัณฑิต ไม่คบพาล ปัญญารู้ต่างกัน ไม่ใช่ตัวตนไปทำ เป็นจิตคิดดี ทำดี พูดี
พูดอย่างทำอีกอย่างที่เขาเรียกว่าตอแหล ตลบตะแลง ตะแบงไปข้างๆคูๆ
เคยไปร่วมพิธีลงเสาเอกสร้างพระอุโบสถไหมล่ะ เขาสาดน้ำเสียหรือน้ำดี
ทำอะไรคิดอะไรมีแต่จิตที่เป็นอกุศล มือสนิท บอดทั้งตา บอดทั้งหู
บอดทั้ง6ทางไม่รู้ตัวเลยเหรอ หรือว่าแกล้งไม่รู้พระอรหันต์อยู่ที่ใจ
ไม่ได้อยู่ที่ตำรา อยู่ที่จิตของผู้ที่คิดดี พูดดี ทำดี ทำเป็นไหมล่ะ
:b32: :b32: :b32:
คิดอย่างไรถึงทำอย่างนั้นและได้อะไรที่ทำอย่างนั้น. และถ้าไม่มีของอย่างนั้นชีวิตคุณจะไปต่อได้หรือเปล่า

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2015, 12:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้รู้คือจิตที่ประกอบด้วยปัญญารอบรู้ในสภาวะธรรมเป็นธัมมะวิจะยะ
ความสอดส่องในธรรมที่รู้แล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
เลือกได้ไหมถ้าจะต้องไปรวมหมู่คณะที่มีแต่ปุถุชนจำนวนมาก
ในการทำสิ่งเดียวกันของปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันมาก
ตรงที่วิถีจิตของอริยบุุคลจางคลายจากการยึดถือตัวตน
ส่วนปุถุชน หุหุ ฟังธรรมก็นั่งง่วงหงาวหาวนอนหลับ
เหตุของอริยบุคคลจางคลายแล้วผลคืออะไรล่ะ
การมีดวงตาเห็นธรรมเป็นการจางคลายจิต
จากสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนเราเขา
เข้าใจก็คือธัมมะได้จัดสรรพร้อม
เพื่อเป็นเครื่องทดสอบจิตไง
จะดีขึ้นด้วยจิตละอกุศล
ไม่ใช่ดีขึ้นจากตัวตน
ที่คิดเองนั่นน่ะอกุศล
อะไรที่ปิดกั้นล่ะ
ก็ไม่รู้จิตตนไง
สงสัยทำไม
เป็นอกุศล
:b32: :b32:
onion onion onion
ดวงตาเห็นธรรมคือเห็นตรงธรรมตามความจริง. การกระทำก็ต้องตรงไม่ใช่เชื่ออะไรอย่างไรเหตุผลกระทำอะไรอย่างไร้เหตุผล

:b32:
ตรงเหตุการสวดสาธยายธัมมะเป็นการทำสมาธิที่ไม่ได้ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ไม่ผิดเพศไม่มุสาไม่จิบเหล้า
เค้าเอาจิตที่ดีงามสวดด้วยดี ความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระรัตนตรัยไม่ได้หายไปไหนนี่ กายเป็นเครื่องมือน๊า
:b44: :b44:

ไม่ใช่เรื่องนี้. เรื่องมี่ไปรดน้ำมนต์. ตามหาอรหันต์แล้วรู้ด้วยว่าใช่. ท่องคาถาเงินล้าน

:b12:
คบบัณฑิต ไม่คบพาล ปัญญารู้ต่างกัน ไม่ใช่ตัวตนไปทำ เป็นจิตคิดดี ทำดี พูดี
พูดอย่างทำอีกอย่างที่เขาเรียกว่าตอแหล ตลบตะแลง ตะแบงไปข้างๆคูๆ
เคยไปร่วมพิธีลงเสาเอกสร้างพระอุโบสถไหมล่ะ เขาสาดน้ำเสียหรือน้ำดี
ทำอะไรคิดอะไรมีแต่จิตที่เป็นอกุศล มือสนิท บอดทั้งตา บอดทั้งหู
บอดทั้ง6ทางไม่รู้ตัวเลยเหรอ หรือว่าแกล้งไม่รู้พระอรหันต์อยู่ที่ใจ
ไม่ได้อยู่ที่ตำรา อยู่ที่จิตของผู้ที่คิดดี พูดดี ทำดี ทำเป็นไหมล่ะ
:b32: :b32: :b32:
คิดอย่างไรถึงทำอย่างนั้นและได้อะไรที่ทำอย่างนั้น. และถ้าไม่มีของอย่างนั้นชีวิตคุณจะไปต่อได้หรือเปล่า

ล้างหน้าศพ จิบเหล้า รดน้ำมนต์ ทำผ่านทางไหน อายตนะ6 ตลอดเวลามีแต่ธัมมะ
จิตทุกขณะที่เลือกทำความดีคิดดีพูดดีทำดีวิรัติทุจริตด้วยความไม่มีเราจะไปบังคับ
แต่เป็นเจตนาฝ่ายดีกับฝ่ายไม่ดี จับน้ำเปล่าที่เจริญพุทธมนต์น่ใจสบาย108อย่าง
กับจิบเหล้าที่เจริญพุทธมนต์ตามความคิดของทู่น่ะ นรกต้มน้ำทองแดงเดือดๆรอน๊า
:b43:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2015, 12:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้รู้คือจิตที่ประกอบด้วยปัญญารอบรู้ในสภาวะธรรมเป็นธัมมะวิจะยะ
ความสอดส่องในธรรมที่รู้แล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
เลือกได้ไหมถ้าจะต้องไปรวมหมู่คณะที่มีแต่ปุถุชนจำนวนมาก
ในการทำสิ่งเดียวกันของปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันมาก
ตรงที่วิถีจิตของอริยบุุคลจางคลายจากการยึดถือตัวตน
ส่วนปุถุชน หุหุ ฟังธรรมก็นั่งง่วงหงาวหาวนอนหลับ
เหตุของอริยบุคคลจางคลายแล้วผลคืออะไรล่ะ
การมีดวงตาเห็นธรรมเป็นการจางคลายจิต
จากสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนเราเขา
เข้าใจก็คือธัมมะได้จัดสรรพร้อม
เพื่อเป็นเครื่องทดสอบจิตไง
จะดีขึ้นด้วยจิตละอกุศล
ไม่ใช่ดีขึ้นจากตัวตน
ที่คิดเองนั่นน่ะอกุศล
อะไรที่ปิดกั้นล่ะ
ก็ไม่รู้จิตตนไง
สงสัยทำไม
เป็นอกุศล
:b32: :b32:
onion onion onion
ดวงตาเห็นธรรมคือเห็นตรงธรรมตามความจริง. การกระทำก็ต้องตรงไม่ใช่เชื่ออะไรอย่างไรเหตุผลกระทำอะไรอย่างไร้เหตุผล

:b32:
ตรงเหตุการสวดสาธยายธัมมะเป็นการทำสมาธิที่ไม่ได้ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ไม่ผิดเพศไม่มุสาไม่จิบเหล้า
เค้าเอาจิตที่ดีงามสวดด้วยดี ความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระรัตนตรัยไม่ได้หายไปไหนนี่ กายเป็นเครื่องมือน๊า
:b44: :b44:

ไม่ใช่เรื่องนี้. เรื่องมี่ไปรดน้ำมนต์. ตามหาอรหันต์แล้วรู้ด้วยว่าใช่. ท่องคาถาเงินล้าน

:b12:
คบบัณฑิต ไม่คบพาล ปัญญารู้ต่างกัน ไม่ใช่ตัวตนไปทำ เป็นจิตคิดดี ทำดี พูดี
พูดอย่างทำอีกอย่างที่เขาเรียกว่าตอแหล ตลบตะแลง ตะแบงไปข้างๆคูๆ
เคยไปร่วมพิธีลงเสาเอกสร้างพระอุโบสถไหมล่ะ เขาสาดน้ำเสียหรือน้ำดี
ทำอะไรคิดอะไรมีแต่จิตที่เป็นอกุศล มือสนิท บอดทั้งตา บอดทั้งหู
บอดทั้ง6ทางไม่รู้ตัวเลยเหรอ หรือว่าแกล้งไม่รู้พระอรหันต์อยู่ที่ใจ
ไม่ได้อยู่ที่ตำรา อยู่ที่จิตของผู้ที่คิดดี พูดดี ทำดี ทำเป็นไหมล่ะ
:b32: :b32: :b32:
คิดอย่างไรถึงทำอย่างนั้นและได้อะไรที่ทำอย่างนั้น. และถ้าไม่มีของอย่างนั้นชีวิตคุณจะไปต่อได้หรือเปล่า

ล้างหน้าศพ จิบเหล้า รดน้ำมนต์ ทำผ่านทางไหน อายตนะ6 ตลอดเวลามีแต่ธัมมะ
จิตทุกขณะที่เลือกทำความดีคิดดีพูดดีทำดีวิรัติทุจริตด้วยความไม่มีเราจะไปบังคับ
แต่เป็นเจตนาฝ่ายดีกับฝ่ายไม่ดี จับน้ำเปล่าที่เจริญพุทธมนต์น่ใจสบาย108อย่าง
กับจิบเหล้าที่เจริญพุทธมนต์ตามความคิดของทู่น่ะ นรกต้มน้ำทองแดงเดือดๆรอน๊า
:b43:
:b32: :b32:

จิบน้ำเปล่าพุทธมนต์ดื่มด้วยความสบายใจหายโรคภัยไข้เจ็บเพราะพุทธคุณเป็นกำลังใจ
ส่วนจิบเหล้าของทู่น่ะไม่รู้เสกพุทธมนต์ยังไง จะดีหรือชั่วผลตรงเหตุน๊า ใครเขาสรรเสริญ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2015, 13:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


[quote="bigtoo"][quote="asoka"]s004
bigtoo เขียน:
ข้ออื่นเอาไว้ก่อน ลองดูข้อสอง. พุทธโธนี้คือพระนามของพระองค์ พระพุทธ้เจ้าทำไมไม่รู้ว่าการท่องชื่อพระองค์คือมรรค. ทำไมพระองค์ไม่สอนให้ท่องพุทธโธครับ
s006
พระพุทธเจ้าเป็นบรมครู ไม่ใช่ครูน้อยอย่างพุทธสาวกทั้งหลายจึงไม่ทรงสอนให้ท่องพุทโธเพียงอย่างเดียวเพราะมันแคบไป ไม่ครอบคลุม จะพุทโธ จะเพ่งพุทธรูป จะพุทธังสรณังคัจฉามิ จะนะโมพุทธายะ จะอะไรก็ตามที่มีนิมิตหรือคำบริกรรมที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ให้ระลึกรู้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือคุณของพระพุทธเจ้า ล้วนรวมอยู่ในพุทธานุสติทั้งสิ้น

อนึ่งพุทธานุสติเป็นเพียงส่วนสร้างเสริมให้เกิดมรรคเป็น :b14: แค่อุบายหนึ่งที่ทำจิตให้เกิดสมาธิจนได้ถึงฌาณ ๔ จึงจะเกิดเป็นสัมมาสมาธิที่เป็นตามที่พระบรมครูทรงบอกไว้
onion
เหลืออีกข้อกลับจากวัดแล้วจะมาตอบครับ
:b12:[/quote]
นี่เขาเรียกว่าไม่เข้าใจจริงๆ. พุทธานุสตินั้นคือการระลึกถึงคุณของพระองค์ที่มีประมาณไม่ได้. ที่พระองค์ไม่สอนให้ท่องพระนามของพระองค์นั้น เพราะการทำอย่างนั้นมันมีโทษปะปนอยู่พระองค์จะสอนได้อย่างไรถึงแม้การที่ระลึกถึงพระนามนั้นจะสามารถพริกไปสู่พุทธคุณได้. แต่โทษที่มีอยู่ถ้าบุคคลใดเพียงยึดติดกับการท่องพระนามโดยไม่สนใจศึกษาอริยสัจ. บุคคลนั้นก็จะได้เพียงมิจฉาสมาธิคิดแต่เรื่องฤทธิ์คุณวิเศษที่เป็นโลกียธรรม. ก็จะกลายเป็นบุคคลที่เจือปนสิ่งผิดประดิษฐ์ธรรมไปต่างๆนาๆผสมผสานระหว่างความผิดกับถูก. ดูได้จากตัวอย่างในปัจจุบัน. ที่มักออกตัวมาเป็นอริยะที่ทำอะไรไม่ตรงคำสอนพระองค์. เช่นทำเดรัชฉานวิชา. เดรัชฉานคาถามากมาย. ผมถึงยกตัวอย่างว่าถ้าอย่างนั้นพระนามของพระองค์มีมากมายเคยมีมั้ยสักชื่อที่พระองค์ให้ท่อง. ถ้าอย่างนั้นท่องพระนามอื่นก็ได้ทำไมต้องพุทธโธ. พระองค์สอนแต่สิ่งที่เป็นสาระแก่นธรรมคือ. อนิจจัง. ทุกขัง. อนัตตานี่ต่างหากที่สมควรท่องให้คล่องปากขึ้นใจแทงตลอดอย่างดีด้วยความเห็น. ดั่งพระสูตรว่าผู้ใดมีใจปักลงไปในความเป็นอนิจัง. ทุกขัง. อนัตตาผู้นั่นก็หวังได้ซึ่งอรหันตผล ท่านอโสกะคงรังเรสินะ. เอ้.คงท่องได้ซินะหรือไม่ท่องดี. กลับมาในคำสอนเถอะมีแต่สิ่งถูกฝ่ายเดียว. ผมขอแนะนำ. คำถาม. ทำไมต้องทำสิ่งที่พระองค์ไม่เคยสอน?[/quote]
:b16:
ผมได้บอก bigtoo ไว้แล้วว่าพุทธานุสติเป็นเพียงเครื่องช่วยเสริมให้เกิดสัมมาสมาธิ คือช่วยสร้างผู้รู้บริสุทธิ์ขึ้นมาเพื่อไปต่อยอดเจริญปัญญาเข้าหาทางแห่งอริยสัจ 4 มรรค 8

แต่ถ้าจะมาต่อยอดไปทางค้นหาความหมายของพุทโธ ที่แปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนั้นก็อาจทำได้อีกทางหนึ่ง

ส่วนที่แฉลบออกนอกทางไปทำฤทธิ์ทำคุณไสยอะไรต่างๆนั้นเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล

ส่วนที่ไปกล่าวว่าการท่องพุทโธนั้นมีโทษปะปนอยู่คงต้องไปพิจารณาเสียใหม่แล้วเพราะในเมืองไทยเริ่มจากทางสายอีสาณเขาใช้การท่องพุทโธเป็นหลักในการภาวนามานับร้อยปีในกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นและมีท่านผู้สำเร็จธรรมมากมายจากการเริ่มต้นภาวนาด้วยคำว่า"พุทโธ

อันที่ว่าอโศกะลังเลเส้นทางอยู่นั้นเป็นความเข้าใจผิดและเดาเอาเองของ bigtoo

อโศกะเดินตรงภาวนาปัจจุบันอารมณ์กับเจริญสติปัฏฐานสี่เป็นหลักประจำใจ ไม่ถนัดทางสายพุทโธหรือกรรมฐาน 40 ครับ
Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2015, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้รู้คือจิตที่ประกอบด้วยปัญญารอบรู้ในสภาวะธรรมเป็นธัมมะวิจะยะ
ความสอดส่องในธรรมที่รู้แล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
เลือกได้ไหมถ้าจะต้องไปรวมหมู่คณะที่มีแต่ปุถุชนจำนวนมาก
ในการทำสิ่งเดียวกันของปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันมาก
ตรงที่วิถีจิตของอริยบุุคลจางคลายจากการยึดถือตัวตน
ส่วนปุถุชน หุหุ ฟังธรรมก็นั่งง่วงหงาวหาวนอนหลับ
เหตุของอริยบุคคลจางคลายแล้วผลคืออะไรล่ะ
การมีดวงตาเห็นธรรมเป็นการจางคลายจิต
จากสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนเราเขา
เข้าใจก็คือธัมมะได้จัดสรรพร้อม
เพื่อเป็นเครื่องทดสอบจิตไง
จะดีขึ้นด้วยจิตละอกุศล
ไม่ใช่ดีขึ้นจากตัวตน
ที่คิดเองนั่นน่ะอกุศล
อะไรที่ปิดกั้นล่ะ
ก็ไม่รู้จิตตนไง
สงสัยทำไม
เป็นอกุศล
:b32: :b32:
onion onion onion
ดวงตาเห็นธรรมคือเห็นตรงธรรมตามความจริง. การกระทำก็ต้องตรงไม่ใช่เชื่ออะไรอย่างไรเหตุผลกระทำอะไรอย่างไร้เหตุผล

:b32:
ตรงเหตุการสวดสาธยายธัมมะเป็นการทำสมาธิที่ไม่ได้ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ไม่ผิดเพศไม่มุสาไม่จิบเหล้า
เค้าเอาจิตที่ดีงามสวดด้วยดี ความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระรัตนตรัยไม่ได้หายไปไหนนี่ กายเป็นเครื่องมือน๊า
:b44: :b44:

ไม่ใช่เรื่องนี้. เรื่องมี่ไปรดน้ำมนต์. ตามหาอรหันต์แล้วรู้ด้วยว่าใช่. ท่องคาถาเงินล้าน

:b12:
คบบัณฑิต ไม่คบพาล ปัญญารู้ต่างกัน ไม่ใช่ตัวตนไปทำ เป็นจิตคิดดี ทำดี พูดี
พูดอย่างทำอีกอย่างที่เขาเรียกว่าตอแหล ตลบตะแลง ตะแบงไปข้างๆคูๆ
เคยไปร่วมพิธีลงเสาเอกสร้างพระอุโบสถไหมล่ะ เขาสาดน้ำเสียหรือน้ำดี
ทำอะไรคิดอะไรมีแต่จิตที่เป็นอกุศล มือสนิท บอดทั้งตา บอดทั้งหู
บอดทั้ง6ทางไม่รู้ตัวเลยเหรอ หรือว่าแกล้งไม่รู้พระอรหันต์อยู่ที่ใจ
ไม่ได้อยู่ที่ตำรา อยู่ที่จิตของผู้ที่คิดดี พูดดี ทำดี ทำเป็นไหมล่ะ
:b32: :b32: :b32:
คิดอย่างไรถึงทำอย่างนั้นและได้อะไรที่ทำอย่างนั้น. และถ้าไม่มีของอย่างนั้นชีวิตคุณจะไปต่อได้หรือเปล่า

ล้างหน้าศพ จิบเหล้า รดน้ำมนต์ ทำผ่านทางไหน อายตนะ6 ตลอดเวลามีแต่ธัมมะ
จิตทุกขณะที่เลือกทำความดีคิดดีพูดดีทำดีวิรัติทุจริตด้วยความไม่มีเราจะไปบังคับ
แต่เป็นเจตนาฝ่ายดีกับฝ่ายไม่ดี จับน้ำเปล่าที่เจริญพุทธมนต์น่ใจสบาย108อย่าง
กับจิบเหล้าที่เจริญพุทธมนต์ตามความคิดของทู่น่ะ นรกต้มน้ำทองแดงเดือดๆรอน๊า
:b43:
:b32: :b32:
มีด้วยเหรอน้ำพุทธมนต์. คิดอย่างไรว่าเป็นเจตนาฝ่ายดีที่ไปรดน้ำมนต์. นั้นเป็นความหลงที่ปุถุชนเขาทำกัน. อริยชนเขาเลิกได้แล้วกับสิ่งที่เรียกว่ามงคลนอกศาสนา. ถ้าอยากจะเป็นอริยะชนคุณต้องมีคุณสมบัตินี้ก่อนนะ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2015, 15:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
s004
bigtoo เขียน:
ข้ออื่นเอาไว้ก่อน ลองดูข้อสอง. พุทธโธนี้คือพระนามของพระองค์ พระพุทธ้เจ้าทำไมไม่รู้ว่าการท่องชื่อพระองค์คือมรรค. ทำไมพระองค์ไม่สอนให้ท่องพุทธโธครับ
s006
พระพุทธเจ้าเป็นบรมครู ไม่ใช่ครูน้อยอย่างพุทธสาวกทั้งหลายจึงไม่ทรงสอนให้ท่องพุทโธเพียงอย่างเดียวเพราะมันแคบไป ไม่ครอบคลุม จะพุทโธ จะเพ่งพุทธรูป จะพุทธังสรณังคัจฉามิ จะนะโมพุทธายะ จะอะไรก็ตามที่มีนิมิตหรือคำบริกรรมที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ให้ระลึกรู้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือคุณของพระพุทธเจ้า ล้วนรวมอยู่ในพุทธานุสติทั้งสิ้น

อนึ่งพุทธานุสติเป็นเพียงส่วนสร้างเสริมให้เกิดมรรคเป็น :b14: แค่อุบายหนึ่งที่ทำจิตให้เกิดสมาธิจนได้ถึงฌาณ ๔ จึงจะเกิดเป็นสัมมาสมาธิที่เป็นตามที่พระบรมครูทรงบอกไว้
onion
เหลืออีกข้อกลับจากวัดแล้วจะมาตอบครับ
:b12:

นี่เขาเรียกว่าไม่เข้าใจจริงๆ. พุทธานุสตินั้นคือการระลึกถึงคุณของพระองค์ที่มีประมาณไม่ได้. ที่พระองค์ไม่สอนให้ท่องพระนามของพระองค์นั้น เพราะการทำอย่างนั้นมันมีโทษปะปนอยู่พระองค์จะสอนได้อย่างไรถึงแม้การที่ระลึกถึงพระนามนั้นจะสามารถพริกไปสู่พุทธคุณได้. แต่โทษที่มีอยู่ถ้าบุคคลใดเพียงยึดติดกับการท่องพระนามโดยไม่สนใจศึกษาอริยสัจ. บุคคลนั้นก็จะได้เพียงมิจฉาสมาธิคิดแต่เรื่องฤทธิ์คุณวิเศษที่เป็นโลกียธรรม. ก็จะกลายเป็นบุคคลที่เจือปนสิ่งผิดประดิษฐ์ธรรมไปต่างๆนาๆผสมผสานระหว่างความผิดกับถูก. ดูได้จากตัวอย่างในปัจจุบัน. ที่มักออกตัวมาเป็นอริยะที่ทำอะไรไม่ตรงคำสอนพระองค์. เช่นทำเดรัชฉานวิชา. เดรัชฉานคาถามากมาย. ผมถึงยกตัวอย่างว่าถ้าอย่างนั้นพระนามของพระองค์มีมากมายเคยมีมั้ยสักชื่อที่พระองค์ให้ท่อง. ถ้าอย่างนั้นท่องพระนามอื่นก็ได้ทำไมต้องพุทธโธ. พระองค์สอนแต่สิ่งที่เป็นสาระแก่นธรรมคือ. อนิจจัง. ทุกขัง. อนัตตานี่ต่างหากที่สมควรท่องให้คล่องปากขึ้นใจแทงตลอดอย่างดีด้วยความเห็น. ดั่งพระสูตรว่าผู้ใดมีใจปักลงไปในความเป็นอนิจัง. ทุกขัง. อนัตตาผู้นั่นก็หวังได้ซึ่งอรหันตผล ท่านอโสกะคงรังเรสินะ. เอ้.คงท่องได้ซินะหรือไม่ท่องดี. กลับมาในคำสอนเถอะมีแต่สิ่งถูกฝ่ายเดียว. ผมขอแนะนำ. คำถาม. ทำไมต้องทำสิ่งที่พระองค์ไม่เคยสอน?

:b16:
ผมได้บอก bigtoo ไว้แล้วว่าพุทธานุสติเป็นเพียงเครื่องช่วยเสริมให้เกิดสัมมาสมาธิ คือช่วยสร้างผู้รู้บริสุทธิ์ขึ้นมาเพื่อไปต่อยอดเจริญปัญญาเข้าหาทางแห่งอริยสัจ 4 มรรค 8

แต่ถ้าจะมาต่อยอดไปทางค้นหาความหมายของพุทโธ ที่แปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนั้นก็อาจทำได้อีกทางหนึ่ง

ส่วนที่แฉลบออกนอกทางไปทำฤทธิ์ทำคุณไสยอะไรต่างๆนั้นเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล

ส่วนที่ไปกล่าวว่าการท่องพุทโธนั้นมีโทษปะปนอยู่คงต้องไปพิจารณาเสียใหม่แล้วเพราะในเมืองไทยเริ่มจากทางสายอีสาณเขาใช้การท่องพุทโธเป็นหลักในการภาวนามานับร้อยปีในกลุ่มลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นและมีท่านผู้สำเร็จธรรมมากมายจากการเริ่มต้นภาวนาด้วยคำว่า"พุทโธ

อันที่ว่าอโศกะลังเลเส้นทางอยู่นั้นเป็นความเข้าใจผิดและเดาเอาเองของ bigtoo

อโศกะเดินตรงภาวนาปัจจุบันอารมณ์กับเจริญสติปัฏฐานสี่เป็นหลักประจำใจ ไม่ถนัดทางสายพุทโธหรือกรรมฐาน 40 ครับ
Kiss
ผมไม่ได้กล่าวว่าคุณภาวนาพุทธโธ. เราคุยกันด้วยหลักการ. ผมถามความคิดง่ายๆพระองค์ไม่สอนแล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องกระทำอย่างนั้น

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ย. 2015, 19:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2015, 06:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้รู้คือจิตที่ประกอบด้วยปัญญารอบรู้ในสภาวะธรรมเป็นธัมมะวิจะยะ
ความสอดส่องในธรรมที่รู้แล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม
เลือกได้ไหมถ้าจะต้องไปรวมหมู่คณะที่มีแต่ปุถุชนจำนวนมาก
ในการทำสิ่งเดียวกันของปุถุชนกับอริยบุคคลต่างกันมาก
ตรงที่วิถีจิตของอริยบุุคลจางคลายจากการยึดถือตัวตน
ส่วนปุถุชน หุหุ ฟังธรรมก็นั่งง่วงหงาวหาวนอนหลับ
เหตุของอริยบุคคลจางคลายแล้วผลคืออะไรล่ะ
การมีดวงตาเห็นธรรมเป็นการจางคลายจิต
จากสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนเราเขา
เข้าใจก็คือธัมมะได้จัดสรรพร้อม
เพื่อเป็นเครื่องทดสอบจิตไง
จะดีขึ้นด้วยจิตละอกุศล
ไม่ใช่ดีขึ้นจากตัวตน
ที่คิดเองนั่นน่ะอกุศล
อะไรที่ปิดกั้นล่ะ
ก็ไม่รู้จิตตนไง
สงสัยทำไม
เป็นอกุศล
:b32: :b32:
onion onion onion
ดวงตาเห็นธรรมคือเห็นตรงธรรมตามความจริง. การกระทำก็ต้องตรงไม่ใช่เชื่ออะไรอย่างไรเหตุผลกระทำอะไรอย่างไร้เหตุผล

:b32:
ตรงเหตุการสวดสาธยายธัมมะเป็นการทำสมาธิที่ไม่ได้ฆ่าสัตว์ไม่ลักทรัพย์ไม่ผิดเพศไม่มุสาไม่จิบเหล้า
เค้าเอาจิตที่ดีงามสวดด้วยดี ความนอบน้อมถ่อมตนต่อพระรัตนตรัยไม่ได้หายไปไหนนี่ กายเป็นเครื่องมือน๊า
:b44: :b44:

ไม่ใช่เรื่องนี้. เรื่องมี่ไปรดน้ำมนต์. ตามหาอรหันต์แล้วรู้ด้วยว่าใช่. ท่องคาถาเงินล้าน

:b12:
คบบัณฑิต ไม่คบพาล ปัญญารู้ต่างกัน ไม่ใช่ตัวตนไปทำ เป็นจิตคิดดี ทำดี พูดี
พูดอย่างทำอีกอย่างที่เขาเรียกว่าตอแหล ตลบตะแลง ตะแบงไปข้างๆคูๆ
เคยไปร่วมพิธีลงเสาเอกสร้างพระอุโบสถไหมล่ะ เขาสาดน้ำเสียหรือน้ำดี
ทำอะไรคิดอะไรมีแต่จิตที่เป็นอกุศล มือสนิท บอดทั้งตา บอดทั้งหู
บอดทั้ง6ทางไม่รู้ตัวเลยเหรอ หรือว่าแกล้งไม่รู้พระอรหันต์อยู่ที่ใจ
ไม่ได้อยู่ที่ตำรา อยู่ที่จิตของผู้ที่คิดดี พูดดี ทำดี ทำเป็นไหมล่ะ
:b32: :b32: :b32:
คิดอย่างไรถึงทำอย่างนั้นและได้อะไรที่ทำอย่างนั้น. และถ้าไม่มีของอย่างนั้นชีวิตคุณจะไปต่อได้หรือเปล่า

ล้างหน้าศพ จิบเหล้า รดน้ำมนต์ ทำผ่านทางไหน อายตนะ6 ตลอดเวลามีแต่ธัมมะ
จิตทุกขณะที่เลือกทำความดีคิดดีพูดดีทำดีวิรัติทุจริตด้วยความไม่มีเราจะไปบังคับ
แต่เป็นเจตนาฝ่ายดีกับฝ่ายไม่ดี จับน้ำเปล่าที่เจริญพุทธมนต์น่ใจสบาย108อย่าง
กับจิบเหล้าที่เจริญพุทธมนต์ตามความคิดของทู่น่ะ นรกต้มน้ำทองแดงเดือดๆรอน๊า
:b43:
:b32: :b32:

จิบน้ำเปล่าพุทธมนต์ดื่มด้วยความสบายใจหายโรคภัยไข้เจ็บเพราะพุทธคุณเป็นกำลังใจ
ส่วนจิบเหล้าของทู่น่ะไม่รู้เสกพุทธมนต์ยังไง จะดีหรือชั่วผลตรงเหตุน๊า ใครเขาสรรเสริญ
:b32: :b32:

นี่ก็มิจฉาทิฎฐิที่คิดว่ามีสิ่งหนึ่งบันดาลอะไรให้ได้. สุขหรือทุกข์ไม่ได้เกิดจากมีใครหรืออะไรบันดาลให้นะจ๊ะตัว

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2015, 06:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:

นี่ก็มิจฉาทิฎฐิที่คิดว่ามีสิ่งหนึ่งบันดาลอะไรให้ได้. สุขหรือทุกข์ไม่ได้เกิดจากมีใครหรืออะไรบันดาลให้นะจ๊ะตัว


:b32: :b32:

นึกอะไรขำขำได้..อิอิ

ไม่มีใครบันดาลให้ใครสุข..ใครทุกข์..ได้จริงเหรอ?

มีข่าวเกือบทุกวันเลยนะ..

ตำรวจสอบสวนผู้ต้องหา..." คุณไปตีหัวเขาทำไม"??
ผู้ต้องหา...".บันดาลโทสะครับหมวด.."

:b3: :b3: :b3:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2015, 07:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:

นี่ก็มิจฉาทิฎฐิที่คิดว่ามีสิ่งหนึ่งบันดาลอะไรให้ได้. สุขหรือทุกข์ไม่ได้เกิดจากมีใครหรืออะไรบันดาลให้นะจ๊ะตัว


:b32: :b32:

นึกอะไรขำขำได้..อิอิ

ไม่มีใครบันดาลให้ใครสุข..ใครทุกข์..ได้จริงเหรอ?

มีข่าวเกือบทุกวันเลยนะ..

ตำรวจสอบสวนผู้ต้องหา..." คุณไปตีหัวเขาทำไม"??
ผู้ต้องหา...".บันดาลโทสะครับหมวด.."

:b3: :b3: :b3:
นี่ไงที่เขาเรียกว่า. คำพูดเป็นข้าศึกแกพระศาสดา

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2015, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
แค่เป็นผู้ตื่น
รู้เข้าใจพระธรรมจริง
มีสติจริง
ก็ถึงพระพุทธ. พระธรรม พระสงฆ์แล้ว
ไม่ใช่ยังหลับอยู่
ไม่ใช่ท่องคาถา
ไม่ใช่ตามหาอรหันต์
จะถึงพระรัตนตรัยได้อย่างไร

wink
:b32: ไม่ใช่แค่เป็นผู้ตื่นจากนอนหลับนะจ๊ะ
รู้พระธรรมจริงคือพระอรหันต์ที่ดำรงไว้ในใจ
ไม่ใช่คิดคำของพระองค์ได้ทั้งพระไตรปิฎกน๊า
ถามจริงๆเถอะได้ธรรมอะไรที่เป็นจริงในตนหรือยัง
:b16:
:b28: :b28:
ผมคงไม่ใช่แบบคุณโรสหรอกครับ ที่ตามหาอรหันต์ ท่องคาถาเงินล้านรดน้ำมนต์ ท่องพุทธโธ

:b12:
ฟังเรื่องจิตพระอรหันต์หน่อยดีไหม
:b17: :b17:
https://m.youtube.com/watch?v=6jhMMlk2aYs
https://m.youtube.com/watch?v=qBzKReJeHRo
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2015, 20:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


วันไหนคุณไม่เอื้อมใจไปรับความช่วยเหลือจากสิ่งอื่นเมื่อนั้นคุณจะพบกับความหลุดพ้นจากทุกสิ่ง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2015, 23:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
วันไหนคุณไม่เอื้อมใจไปรับความช่วยเหลือจากสิ่งอื่นเมื่อนั้นคุณจะพบกับความหลุดพ้นจากทุกสิ่ง

:b1: :b16: :b12:
พระพุทธเจ้าสอนให้คบบัณฑิตนะทู่นะ
บุญตาที่ได้เห็นพระอรหันต์ยุคปัจจุบัน
onion onion onion
https://m.youtube.com/watch?v=QAYMXPa4q_M


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2015, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
วันไหนคุณไม่เอื้อมใจไปรับความช่วยเหลือจากสิ่งอื่นเมื่อนั้นคุณจะพบกับความหลุดพ้นจากทุกสิ่ง

:b1: :b16: :b12:
พระพุทธเจ้าสอนให้คบบัณฑิตนะทู่นะ
บุญตาที่ได้เห็นพระอรหันต์ยุคปัจจุบัน
onion onion onion
https://m.youtube.com/watch?v=QAYMXPa4q_M
นั้นคือขั้นตอน. เหมือนท่านที่กำลังเดินอยู่แต่ยังหาจุดหมายไม่เจอ. ถ้าวันไหนคุณไม่เอื้อมใจไปนั้นแหล่ะ. คุณจะวางได้จากสิ่งที่คุณทำอยู่. เช่นไม่รดน้ำมนต์. ไม่วิ่งหาอรหันต์. ไม่เสกไม่ท่องอะไรๆ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2015, 15:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
วันไหนคุณไม่เอื้อมใจไปรับความช่วยเหลือจากสิ่งอื่นเมื่อนั้นคุณจะพบกับความหลุดพ้นจากทุกสิ่ง

:b1: :b16: :b12:
พระพุทธเจ้าสอนให้คบบัณฑิตนะทู่นะ
บุญตาที่ได้เห็นพระอรหันต์ยุคปัจจุบัน
onion onion onion
https://m.youtube.com/watch?v=QAYMXPa4q_M
นั้นคือขั้นตอน. เหมือนท่านที่กำลังเดินอยู่แต่ยังหาจุดหมายไม่เจอ. ถ้าวันไหนคุณไม่เอื้อมใจไปนั้นแหล่ะ. คุณจะวางได้จากสิ่งที่คุณทำอยู่. เช่นไม่รดน้ำมนต์. ไม่วิ่งหาอรหันต์. ไม่เสกไม่ท่องอะไรๆ

:b12:
ผู้ที่มั่นคงต่อพระรัตนตรัยจะไม่เดือดร้อนว่าจะผิดศีล
เพราะจิตเป็นปกติในกุศลไม่ได้รีบไม่ได้อยากเพราะ
ถึงความรู้เฉพาะตรงทางสายกลางที่มีประสิทธิภาพ
จะทำบุญให้ทานกับคนหรือสัตว์หรือสิ่งที่มองไม่เห็น
จะกับใครศาสนาไหนเค้าทำด้วยจิตเป็นกุศลมั่นคงนี่
ตีตราจองที่นั่งไปนิพพานแล้วไม่รู้เหรอไม่เกินกี่ชาติ
ไม่รีบไม่หวังถึงแล้วก็รู้เองทำบุญได้กับคนทุกศาสนา
แล้วจะผิดตรงไหนทำกับดิรัจฉานก็เป็นบุญไม่เปลี่ยน
ก็เป็นพุทธศาสนิกชนที่เป็นผู้ไม่มีกรรมอันต่ำทรามอันใด
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25 ... 61  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร