วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 16:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2018, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
แม้แต่ตัวคุณเองยังทำอะไรไม่ได้
จะให้คนอื่นทำอะไรแทนคุณได้เล่า
ทั้งคุณและแฟนไม่คิดหรือเห็นสิ่งเดียวกัน
เอาง่ายๆนั่งรถยนต์ไปด้วยกัน4คนคุณขับรถ
คุณว่าทั้ง4คนนั่งคิดอะไรเห็นอะไรเหมือนและพร้อมได้รึ


นี่ไง :b32: ถึงได้บอกว่า มีคนนั่งฟังแม่สุจินพูด (สุตะ) กันอยู่ร้อยคน ฟังแล้วก็คิดตีความกันไปคนละทาง อุปมาเหมือนให้คนร้อยคนวาดภาพผีในใจของแต่ละคน ก็จะได้ภาพผีออกมาหน้าตาร้อยแบบตามจินตนาการในใจแต่ละคนๆ.

นั่นการฟัง แต่การปฏิบัติ เรียนจากประสบการณ์ตรงซึ่งปรากฏในขณะนั้นๆ อันผู้ปฏิบัติจะต้องผ่านไปให้จงได้


ผู้ปฏิบัติเรียนรู้สภาวะจากประสบการตรงของเขาเอง ที่ทำแทนกันไม่ได้ ดู

อ้างคำพูด:
จิต (ความคิด) ด่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น
ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม
ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น
กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพ
พระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง
ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา

ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ มันจะทำให้มรรค 8 ด่าง
พร้อยมั้ยครับ ย้ำอีกทีว่าใจผมเคารพพระรัตนตรัย
ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่
ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมา
หลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค

:b8:
ตถาคตตรัสรู้ความจริงสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรทั้งนั้น
คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และตถาคตสอนให้เข้าใจความจริง
ไม่ได้ให้เชื่องมงายในความศักดิ์สิทธิ์แต่ประการใดทั้งหมดทั้งสิ้น
ทรงบอกให้ฟังเพื่อดับความเห็นผิดเพราะความจริงที่ทรงแสดง
มีตรงตามเหตุปัจจัยไม่มีใครบังคับหรือบันดาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เพราะธัมมะเป็นสิ่งที่มีจริงที่กำลังเกิดดับตรงตามที่ทรงตรัส
ไว้ดีแล้วที่เกิดโดยความเป็นอนัตตาไม่มีการเลือกหรือบังคับ
ให้เกิดขึ้นได้ตามใจอยากถ้าเลือกได้คงไปนิพพานหมดแระ
:b12:
:b32: :b32:


สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีไม่มีไม่รู้ แต่จิตมันคิดเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาบอกว่า พระรัตนตรัย อิอิ มีไม่มี ไม่รู้ แต่จิตมันด่า เข้าใจไหม จิตมันคิดด่า คิกๆๆ

ถ้าจะไปนิพพานอะไรที่คิดนั่น คุณโรสจะต้องเรียนรู้จากสภาวธรรมไปทางนั้น ซึ่งก็ทำแทนกันไม่ได้ ใครทำใครได้ ไม่ใช่จากการฟังแม่สุจินพูด :b13:

:b32:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วจึงมาสอนสาวก
คนไม่ฟังจึงไม่ใช่สาวกตรงต่อการฟังไหม
เพราะตถาคตกล่าวความจริงตรงขณะทุกคำ
ทั้งหมดในพระไตรปิฎกมีตรงขณะเดี๋ยวนี้ตรงคำไหน
ต้องรู้จักตรงที่กายใจตนกำลังมีเกิดขึ้นและกำลังตั้งอยู่ตอนเกิดแล้วก่อนดับ
กะพริบตามีครบ6ทางเกิดและดับสลับกันนับไม่ถ้วนแล้วสติปัญญารู้ทันตรงคำไหน
พอจะนึกออกไหมว่าที่ไม่รู้ตรงจริงที่กายใจตนมีตรง1สัจจะที่ปรากฏกับปัญญาก็คือปรากฏกับอวิชชาของคุณ
ศาสนาแปลว่าคำสอนและพระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้าการสะสมปัญญาเริ่มที่ฟังทุกครั้งเลย
:b12:
:b4: :b4:



เล่นเอาซื่อๆเลยนะขอรับ สาวก แปลว่าผู้ฟัง ผู้ไม่ฟังไม่ใช่สาวก :b13:


ความจริงตรงๆมี1เดียวคือสัจจะที่เหลือคือปรุงแต่งเกินจริงไงคะ


มันอะไรนี้ สัจจะ ความจริง เห็นพูดอยู่นั่นแหละ ความจริงๆ คือ สัจจะ 1 เดียว ไม่มี 2 :b32:

คุณโรส ตั้งคำถามๆตัวเองสิ สัจจะที่ว่านั่นนะมันอะไร ? ตอบตัวเองได้แล้วว่าเป็นอะไรแล้ว เอาโพสต์บอกไอ้เรืองที คิกๆๆ


เห็นไม่ใช่ได้ยินไม่มีอะไรเกิดพร้อมกัน
ทุกอย่างเกิดดับสลับกันเรียงลำดับอยู่
ไม่มีใครบังคับการเกิดขึ้นการตั้งอยู่นะ
และไม่มีใครทำให้ดับไปการปรุงแต่งคือ
ความคิดเห็นและความคิดเห็นไม่ใช่สัจจะ
สัจจะคือความจริงที่กำลังปรากฏให้รู้ว่ามี
ตรงรูปที่กำลังปรากฏคือวิสยรูป7ในชีวิตประจำวัน
ตัวคุณต้องกำลังระลึกรู้ตรงรูปที่กำลังปรากฏนั้นๆของตนเอง
ทันทีที่มีรูปนั้นๆปรากฏตรงทางตามที่คุณสะสมที่ตัวตนที่ตามรู้ทัน
ถ้าไม่ทันเลยสัก1คำก็คือมีความคิดเห็นผิดไปจากสัจจะมากเกินสัจจะไงคะ
คุณคิดเอาเองว่าคุณรู้และจำได้เยอะแต่จิตเกิดดับ1ขณะมีรูปปรมัตถ์นับไม่ได้ไม่เคยรู้สึกตัวถึงสัจจะที่มีเลย
เพราะไม่รู้ว่ามีแล้วแต่ชอบไปทำตามความคิดเห็นผิดของตนไม่รู้จักสุตมยปัญญาว่าคือการพึ่ง1คำสัจจะตรงๆ


อ้างคำพูด:
เห็น ไม่ใช่ได้ยิน ไม่มีอะไรเกิดพร้อมกัน

ทุกอย่างเกิดดับสลับกันเรียงลำดับอยู่


คิกๆๆ คุณโรสนี่ไม่ใช่ทำมะดาจินๆ

เห็น ก็เห็น ไม่ใช่ได้ยิน ได้ยินก็ได้ยิน ไม่ใช่ได้กลิ่น ได้กลิ่นก็ได้กลิ่น ไม่ใช่ลิ้มรส ลิ้มรสก็ลิ้มรส ไม่ใช่ถูกต้องโผฏฐัพพะ :b32:


เพราะคุณยายโรสฉลาดกว่าลุงกรัชกาย ถูกต้องตามพระธรรม

เรยเห็นจากทางตา ได้กลิ่นจากทางจมูก

แต่ลุงกรัชกาย ได้รส จากทางตา

คริคริ



ไปไม่เป็นทั้งคู่

มันก็รู้ๆเห็นๆกันอยู่ หน้าที่ของตา (ไม่ใช่ตา ผัวยายนะกันไว้ก่อน) สำหรับไว้ดู หน้าที่หูสำหรับไว้ฟัง ฯลฯ เด็กๆยังรู้เลย แต่แปลกผู้ใหญ่พอมาเรียนพุทธธรรมเห็นไขว่เขวไปได้ ไม่ข้าวจัย ธรรมะก็ทิ่มหูทิ่มตาอยู่ทุกวี่วันแท้ๆ มองผิดเพี้ยนไปได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ส.ค. 2020, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กท.นี้มี ตย. ภาคปฏิบัติอยู่สองสาม ตย. แต่ยังไม่ได้บอกวิธีแก้อารมณ์ หรือ แก้สภาวะ หรือจะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ ยังไม่ได้บอก บอกทิ้งไว้ด้วยเพื่อเป็นแนวทางให้โยคาวจรใช้แก้อารมณ์ให้ตนเอง


อ้างคำพูด:
จิตด่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์

มันเริ่มจากคำหยาบเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วพอมันเกิดขึ้น ผมจะรู้สึกแย่ แล้วพอเวลาผ่านไป ผมอยากปฏิบัติธรรม ให้ได้ตามหลักมรรค 8 จิตมันเริ่มรู้ว่าต้องระวังให้มากขึ้น กลายเป็นเกร็งมากขึ้น มีคำหยาบมากขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
ผมก็พยายามทำใจว่าใจจริงเราเคารพพระรัตนตรัย กลายเป็นทำศึกสองด้าน ด้านหนึ่งระวัง ไม่ให้จิตสร้างคำหยาบ ด้านหนึ่งเจริญปัญญา
ผมควรจะทำอย่างไรดี มันจะทำให้มรรค 8 ด่างพร้อยมั้ยครับ
ย้ำอีกที ว่า ใจผมเคารพพระรัตนตรัย ในรอบหลายปีมานี่ ไม่เคยมีวาจาหรือการกระทำที่ลบหลู่พระรัตนตรัยครับ มีแต่คำหยาบที่จิตผลิตมาหลอกหลอนวันละหลาย ๆ ประโยค


ตัวอย่างนี้หรือตัวอย่างที่ผ่านว่าหูแว่วก็ตาม วิธีกำจัดสิ่งกีดกั้นขัดขวางทางมรรคผลนั่น มีอันเดียวคือกำหนดมันตรงๆ ด่าก็ด่า ชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ หลงก็หลง โกรธก็โกรธ เกลียดก็เกลียด รำคาญก็รำคาญ ฯลฯ สรุป มันเป็นยังไง คิดยังไง กำหนดยังงั้นไม่เลี่ยงหนีสภาวธรรม

ตย.คิดด่าปุ๊บ กำหนดปั้ป ด่าหนอๆๆๆๆ นี่ตรงๆเลย อย่าหนึความจริงที่เกิดขึ้น ด่าหนอๆๆๆ

หูแว่ว ใจแว่ว ได้ยินเสียงอะไรแล้วแต่ เสียงหนอๆๆๆๆ

เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัส คิด กำหนดตามนั้น นี่ใช้สติสัมปชัญญะอุดประตูหมดเลย

จบข่าว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 32 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร