วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 21:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 246 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2016, 20:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ชืวิตนี้ว่างเปล่าทุกขณะจิตอยู่แล้วค่ะเพราะเป็นธัมมะและเป็นอนัตตา
ไม่มีใครสามารถบังคับให้อะไรเกิดแล้วไม่ดับได้และเปลี่ยนไม่ได้
เพราะธัมมะทั้งหลายเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยที่กำลังมีจริงๆ
อะไรรู้ไหม :b12: มีจิต มีเจตสิกและมีรูปเท่านั้นที่เกิดดับ
1ขณะจิตที่เกิดขึ้นแล้วดับไปไม่มีใครทำร้ายจิตได้เลย
เพราะทุกอย่างเป็นธัมมะเป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา
มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปธรรมดา
มีแค่2อย่างที่จิตแต่ละดวงมีคือรู้หรือไม่รู้น๊า
ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนคนสัตว์สิ่งของใดๆ
มีแต่จิตเสวยวิบากกรรมด้วยความไม่รู้
แล้วปรุงแต่งจิตด้วยความไม่รู้ขึ้นใหม่
ไปกว้านเอานิมิตตามภพภูมิที่ปรากฏ
ปรุงเป็นกุศลหรืออกุศลคือกิเลส
กิเลสของตนน๊าที่ทำร้ายจิต
ฝั่งนี้คือฝั่งไม่รู้ไกลกันนะ
กะฝั่งที่รู้ยังเดินทางไกล
เพราะไม่รู้เดี๋ยวนี้เอง
ว่างเปล่าจากตัวตน
ฟังไม่เข้าใจเป็น
อกุศลจิตแล้ว
รู้และเข้าใจ
เป็นปัญญา



ตอนนี้คุณโรสยังมีสมบัติอะไรอีกบ้าง ถ้าสละออกหมดแล้ว สาธุๆๆ ชีวิตว่างเปล่าเป็นอนิจจัง ทุกขังอนัตตา ตายก็เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่เงินในปากสัปเหร่อยังควักเอาไป หากยังมีอะไรเหลืออยู่อีกควรรีบเร่งสละออกให้หมดโดยเร็ว :b15: :b1:

http://www.khaosod.co.th/view_newsonlin ... 1461312741

tongue
ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo
:b20: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 เม.ย. 2016, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:



ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo


อะไรขอรับ อรหัตผล :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2016, 02:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo


อะไรขอรับ อรหัตผล :b10:

Kiss
อ้าวก็การเป็นพุทธบริษัททั้ง4กลุ่มนะคะ
สามารถขัดเกลากิเลสต่างกันเป็น2ิอย่าง
อย่างแรกคือสามารบรรลุโสดาสกิทาอนาคา
ในเพศคฤหัสถ์ในฐานะอุบาสกอุบาสิกาโดย
ยังไม่ต้องบวชเพราะการออกบวชต้องสลัดทิ้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีทั้งเงินทองทรัพย์ที่ดินญาติ
เพื่อขัดเกลากิเลสในฐานะพระภิกษุพระภิกษุณี
ครั่งพุทธกาลบวชเพราะอัทธยาศัยพร้อมสละน๊า
แต่ปัจจุบันนี้บวชตามประเพณีส่วนใหญ่7วันเพื่อ
คิดว่าเป็นการทดแทนคุณบุพการีคือพ่อแม่ถูกไหม
แต่ถามว่าบวชไม่เป็นตามธรรมวินัยไม่ได้สลัดทิ้งอะไร
แถมสึกออกมาแล้วถือเงินตอนที่บวชออกมาด้วยตกนรกน๊า
จะแก้ต้องแก้ตอนเป็นๆยังมีลมหายใจใครที่เคยบวชแล้วสึก
ให้เข้าไปบวชใหม่เพื่อปลงอาบัติก่อนแล้วสึกครั้งใหม่มาตัวเปล่า
ถึงจะพ้นโทษเรียกว่ายังมีโอกาสแก้ตัวส่วนที่บวชตลอดชีวิตมีเงินด้วย
ตายแล้วอบายภูมิเป็นที่ไปแน่นอนก็เงินคือข้อห้ามยินดีเป็นวินัยกำจัดออก
คุณกรัชกายรีบก็บวชได้เลยเพราะบวชหมายถึงรู้ตัวว่าถึงอรหันต์ไม่บวชต้องตาย
ถ้าศึกษา/สิกขาตามพระธรรมวินัยเป็นการขจัดขัดเกลากิเลสตามปกติในชีวิตประจำวัน
ของพุทธบริษัทที่สะดวกขัดเกลากิเลสตามความเหมาะสมของการครองเพศคฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ถ้าเป็นบรรพชิตจะถือเงินเดินทางไปเลือกซื้ออาหารที่อร่อยหรือซื้อโน่นนี่นั่นตามห้างไม่ได้ผิดวินัย
ถ้าบวชอยู่และรู้ตัวว่าผิดวินัยรับเงินทุกวันสมควรลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์จะไม่ได้รับโทษหนักอะไร
เพราะคฤหัสถ์ทำได้ส่วนบรรพชิตทำไม่ได้และการผิดวินัยนั้นเองเป็นเครื่องกั้นการบรรลุธรรมนะคะ
การจะดำรงพระศาสนาเป็นความปกติของจิตตามสิกขาบทถึงเฉพาะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนี่เอง
:b16: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2016, 06:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
สาธุอนุโมทนากับคุณรสรินที่เมตตานำข้อมูลดีๆและนิ่มนวลมาคลายพยศลดมานะละทิฏฐิให้กับคุณกรัชกายและทุกๆคนที่ยังทลายจอมปลวกในใจไม่ได้
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 เม.ย. 2016, 15:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo


อะไรขอรับ อรหัตผล :b10:

Kiss
อ้าวก็การเป็นพุทธบริษัททั้ง4กลุ่มนะคะ
สามารถขัดเกลากิเลสต่างกันเป็น2ิอย่าง
อย่างแรกคือสามารบรรลุโสดาสกิทาอนาคา
ในเพศคฤหัสถ์ในฐานะอุบาสกอุบาสิกาโดย
ยังไม่ต้องบวชเพราะการออกบวชต้องสลัดทิ้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีทั้งเงินทองทรัพย์ที่ดินญาติ
เพื่อขัดเกลากิเลสในฐานะพระภิกษุพระภิกษุณี
ครั่งพุทธกาลบวชเพราะอัทธยาศัยพร้อมสละน๊า
แต่ปัจจุบันนี้บวชตามประเพณีส่วนใหญ่7วันเพื่อ
คิดว่าเป็นการทดแทนคุณบุพการีคือพ่อแม่ถูกไหม
แต่ถามว่าบวชไม่เป็นตามธรรมวินัยไม่ได้สลัดทิ้งอะไร
แถมสึกออกมาแล้วถือเงินตอนที่บวชออกมาด้วยตกนรกน๊า
จะแก้ต้องแก้ตอนเป็นๆยังมีลมหายใจใครที่เคยบวชแล้วสึก
ให้เข้าไปบวชใหม่เพื่อปลงอาบัติก่อนแล้วสึกครั้งใหม่มาตัวเปล่า
ถึงจะพ้นโทษเรียกว่ายังมีโอกาสแก้ตัวส่วนที่บวชตลอดชีวิตมีเงินด้วย
ตายแล้วอบายภูมิเป็นที่ไปแน่นอนก็เงินคือข้อห้ามยินดีเป็นวินัยกำจัดออก
คุณกรัชกายรีบก็บวชได้เลยเพราะบวชหมายถึงรู้ตัวว่าถึงอรหันต์ไม่บวชต้องตาย
ถ้าศึกษา/สิกขาตามพระธรรมวินัยเป็นการขจัดขัดเกลากิเลสตามปกติในชีวิตประจำวัน
ของพุทธบริษัทที่สะดวกขัดเกลากิเลสตามความเหมาะสมของการครองเพศคฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ถ้าเป็นบรรพชิตจะถือเงินเดินทางไปเลือกซื้ออาหารที่อร่อยหรือซื้อโน่นนี่นั่นตามห้างไม่ได้ผิดวินัย
ถ้าบวชอยู่และรู้ตัวว่าผิดวินัยรับเงินทุกวันสมควรลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์จะไม่ได้รับโทษหนักอะไร
เพราะคฤหัสถ์ทำได้ส่วนบรรพชิตทำไม่ได้และการผิดวินัยนั้นเองเป็นเครื่องกั้นการบรรลุธรรมนะคะ
การจะดำรงพระศาสนาเป็นความปกติของจิตตามสิกขาบทถึงเฉพาะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนี่เอง
:b16: :b12:



วิธีขัดเกลากิเลส แต่ละขั้นๆ ทำยังไงขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2016, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

สาธุอนุโมทนากับคุณรสรินที่เมตตานำข้อมูลดีๆและนิ่มนวลมาคลายพยศลดมานะละทิฏฐิให้กับคุณกรัชกายและทุกๆคนที่ยังทลายจอมปลวกในใจไม่ได้


ท่านอโศก คุณโรสยังดำน้ำไม่โผล่เลยเนี่ย :b1:

ชีวิตว่างเปล่า สุญตา อนัตตา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2016, 09:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo


อะไรขอรับ อรหัตผล :b10:

Kiss
อ้าวก็การเป็นพุทธบริษัททั้ง4กลุ่มนะคะ
สามารถขัดเกลากิเลสต่างกันเป็น2ิอย่าง
อย่างแรกคือสามารบรรลุโสดาสกิทาอนาคา
ในเพศคฤหัสถ์ในฐานะอุบาสกอุบาสิกาโดย
ยังไม่ต้องบวชเพราะการออกบวชต้องสลัดทิ้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีทั้งเงินทองทรัพย์ที่ดินญาติ
เพื่อขัดเกลากิเลสในฐานะพระภิกษุพระภิกษุณี
ครั่งพุทธกาลบวชเพราะอัทธยาศัยพร้อมสละน๊า
แต่ปัจจุบันนี้บวชตามประเพณีส่วนใหญ่7วันเพื่อ
คิดว่าเป็นการทดแทนคุณบุพการีคือพ่อแม่ถูกไหม
แต่ถามว่าบวชไม่เป็นตามธรรมวินัยไม่ได้สลัดทิ้งอะไร
แถมสึกออกมาแล้วถือเงินตอนที่บวชออกมาด้วยตกนรกน๊า
จะแก้ต้องแก้ตอนเป็นๆยังมีลมหายใจใครที่เคยบวชแล้วสึก
ให้เข้าไปบวชใหม่เพื่อปลงอาบัติก่อนแล้วสึกครั้งใหม่มาตัวเปล่า
ถึงจะพ้นโทษเรียกว่ายังมีโอกาสแก้ตัวส่วนที่บวชตลอดชีวิตมีเงินด้วย
ตายแล้วอบายภูมิเป็นที่ไปแน่นอนก็เงินคือข้อห้ามยินดีเป็นวินัยกำจัดออก
คุณกรัชกายรีบก็บวชได้เลยเพราะบวชหมายถึงรู้ตัวว่าถึงอรหันต์ไม่บวชต้องตาย
ถ้าศึกษา/สิกขาตามพระธรรมวินัยเป็นการขจัดขัดเกลากิเลสตามปกติในชีวิตประจำวัน
ของพุทธบริษัทที่สะดวกขัดเกลากิเลสตามความเหมาะสมของการครองเพศคฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ถ้าเป็นบรรพชิตจะถือเงินเดินทางไปเลือกซื้ออาหารที่อร่อยหรือซื้อโน่นนี่นั่นตามห้างไม่ได้ผิดวินัย
ถ้าบวชอยู่และรู้ตัวว่าผิดวินัยรับเงินทุกวันสมควรลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์จะไม่ได้รับโทษหนักอะไร
เพราะคฤหัสถ์ทำได้ส่วนบรรพชิตทำไม่ได้และการผิดวินัยนั้นเองเป็นเครื่องกั้นการบรรลุธรรมนะคะ
การจะดำรงพระศาสนาเป็นความปกติของจิตตามสิกขาบทถึงเฉพาะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนี่เอง
:b16: :b12:



วิธีขัดเกลากิเลส แต่ละขั้นๆ ทำยังไงขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ :b1:

Kiss
คุณกรัชกายแปลความหมายของกิเลสออกไหมคะ
ถ้าแปลได้ก็จะเริ่มรู้วิธีขัดเกลากิเลสของตนได้เอง
ละชั่ว ทำดี ทำจิตให้ผ่องใส ไม่ใช่ว่ามีตัวตนไปทำ
ถ้าไม่รู้จักกิเลสก็ไม่รู้จักธัมมะก็ขัดเกลากิเลสไม่ได้
:b1: :b12:
onion onion onion


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 26 เม.ย. 2016, 09:45, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2016, 09:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

สาธุอนุโมทนากับคุณรสรินที่เมตตานำข้อมูลดีๆและนิ่มนวลมาคลายพยศลดมานะละทิฏฐิให้กับคุณกรัชกายและทุกๆคนที่ยังทลายจอมปลวกในใจไม่ได้


ท่านอโศก คุณโรสยังดำน้ำไม่โผล่เลยเนี่ย :b1:

ชีวิตว่างเปล่า สุญตา อนัตตา

Kiss
...คิดเอาเองเป็นอกุศลจิตน๊าคุณกรัชกาย...
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2016, 09:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo


อะไรขอรับ อรหัตผล :b10:

Kiss
อ้าวก็การเป็นพุทธบริษัททั้ง4กลุ่มนะคะ
สามารถขัดเกลากิเลสต่างกันเป็น2ิอย่าง
อย่างแรกคือสามารบรรลุโสดาสกิทาอนาคา
ในเพศคฤหัสถ์ในฐานะอุบาสกอุบาสิกาโดย
ยังไม่ต้องบวชเพราะการออกบวชต้องสลัดทิ้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีทั้งเงินทองทรัพย์ที่ดินญาติ
เพื่อขัดเกลากิเลสในฐานะพระภิกษุพระภิกษุณี
ครั่งพุทธกาลบวชเพราะอัทธยาศัยพร้อมสละน๊า
แต่ปัจจุบันนี้บวชตามประเพณีส่วนใหญ่7วันเพื่อ
คิดว่าเป็นการทดแทนคุณบุพการีคือพ่อแม่ถูกไหม
แต่ถามว่าบวชไม่เป็นตามธรรมวินัยไม่ได้สลัดทิ้งอะไร
แถมสึกออกมาแล้วถือเงินตอนที่บวชออกมาด้วยตกนรกน๊า
จะแก้ต้องแก้ตอนเป็นๆยังมีลมหายใจใครที่เคยบวชแล้วสึก
ให้เข้าไปบวชใหม่เพื่อปลงอาบัติก่อนแล้วสึกครั้งใหม่มาตัวเปล่า
ถึงจะพ้นโทษเรียกว่ายังมีโอกาสแก้ตัวส่วนที่บวชตลอดชีวิตมีเงินด้วย
ตายแล้วอบายภูมิเป็นที่ไปแน่นอนก็เงินคือข้อห้ามยินดีเป็นวินัยกำจัดออก
คุณกรัชกายรีบก็บวชได้เลยเพราะบวชหมายถึงรู้ตัวว่าถึงอรหันต์ไม่บวชต้องตาย
ถ้าศึกษา/สิกขาตามพระธรรมวินัยเป็นการขจัดขัดเกลากิเลสตามปกติในชีวิตประจำวัน
ของพุทธบริษัทที่สะดวกขัดเกลากิเลสตามความเหมาะสมของการครองเพศคฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ถ้าเป็นบรรพชิตจะถือเงินเดินทางไปเลือกซื้ออาหารที่อร่อยหรือซื้อโน่นนี่นั่นตามห้างไม่ได้ผิดวินัย
ถ้าบวชอยู่และรู้ตัวว่าผิดวินัยรับเงินทุกวันสมควรลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์จะไม่ได้รับโทษหนักอะไร
เพราะคฤหัสถ์ทำได้ส่วนบรรพชิตทำไม่ได้และการผิดวินัยนั้นเองเป็นเครื่องกั้นการบรรลุธรรมนะคะ
การจะดำรงพระศาสนาเป็นความปกติของจิตตามสิกขาบทถึงเฉพาะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนี่เอง
:b16: :b12:



วิธีขัดเกลากิเลส แต่ละขั้นๆ ทำยังไงขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ :b1:


คุณกรัชกายแปลความหมายของกิเลสออกไหมคะ
ถ้าแปลได้ก็จะเริ่มรู้วิธีขัดเกลากิเลสของตนได้เอง
ละชั่ว ทำดี ทำจิตให้ผ่องใส ไม่ใช่ว่ามีตัวตนไปทำ
ถ้าไม่รู้จักกิเลสก็ไม่รู้จักธัมมะก็ขัดเกลากิเลสไม่ได้


เขาถามวิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธีกำจัดกิเลสว่า ทำยังไง ก็บอกเขาไปสิขอรับ ไม่ใช่มาย้อนถาม :b1:

หนึง ทำยังงี้ สองทำยังงี้ สามทำยังงี้ๆ สี่ทำยังงี้ๆและยังงี้ จบกิจ จะไม่กลับมาเกิดอีก :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2016, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

สาธุอนุโมทนากับคุณรสรินที่เมตตานำข้อมูลดีๆและนิ่มนวลมาคลายพยศลดมานะละทิฏฐิให้กับคุณกรัชกายและทุกๆคนที่ยังทลายจอมปลวกในใจไม่ได้


ท่านอโศก คุณโรสยังดำน้ำไม่โผล่เลยเนี่ย :b1:

ชีวิตว่างเปล่า สุญตา อนัตตา

Kiss
...คิดเอาเองเป็นอกุศลจิตน๊าคุณกรัชกาย...
:b32: :b32:


ทำให้นึกถึงนิทานพื้นบ้านเรื่องไกรทอง

http://bkkseek.com/wp-content/uploads/2 ... %B8%87.jpg

ตอนชาละวันถูกหอกสัตตโลหะของไกรทองบาดเจ็บ ได้หนีกลับเข้าถ้ำทอง ไปถือศีลตามคำของอาจารย์ว่าภายใน ๗ วัน ห้ามออกจากถ้้ำ แต่ชาละวันดื้อไม่เชื่ออาจารย์หนีออกจากถ้ำ เพราะไกรทองร่ายมนต์เรียก ทนไม่ไหว จึงโดดออกจากถ้้ำ มาสู้กับไกรทองแล้วเสียชีวิต :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2016, 15:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo


อะไรขอรับ อรหัตผล :b10:

Kiss
อ้าวก็การเป็นพุทธบริษัททั้ง4กลุ่มนะคะ
สามารถขัดเกลากิเลสต่างกันเป็น2ิอย่าง
อย่างแรกคือสามารบรรลุโสดาสกิทาอนาคา
ในเพศคฤหัสถ์ในฐานะอุบาสกอุบาสิกาโดย
ยังไม่ต้องบวชเพราะการออกบวชต้องสลัดทิ้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีทั้งเงินทองทรัพย์ที่ดินญาติ
เพื่อขัดเกลากิเลสในฐานะพระภิกษุพระภิกษุณี
ครั่งพุทธกาลบวชเพราะอัทธยาศัยพร้อมสละน๊า
แต่ปัจจุบันนี้บวชตามประเพณีส่วนใหญ่7วันเพื่อ
คิดว่าเป็นการทดแทนคุณบุพการีคือพ่อแม่ถูกไหม
แต่ถามว่าบวชไม่เป็นตามธรรมวินัยไม่ได้สลัดทิ้งอะไร
แถมสึกออกมาแล้วถือเงินตอนที่บวชออกมาด้วยตกนรกน๊า
จะแก้ต้องแก้ตอนเป็นๆยังมีลมหายใจใครที่เคยบวชแล้วสึก
ให้เข้าไปบวชใหม่เพื่อปลงอาบัติก่อนแล้วสึกครั้งใหม่มาตัวเปล่า
ถึงจะพ้นโทษเรียกว่ายังมีโอกาสแก้ตัวส่วนที่บวชตลอดชีวิตมีเงินด้วย
ตายแล้วอบายภูมิเป็นที่ไปแน่นอนก็เงินคือข้อห้ามยินดีเป็นวินัยกำจัดออก
คุณกรัชกายรีบก็บวชได้เลยเพราะบวชหมายถึงรู้ตัวว่าถึงอรหันต์ไม่บวชต้องตาย
ถ้าศึกษา/สิกขาตามพระธรรมวินัยเป็นการขจัดขัดเกลากิเลสตามปกติในชีวิตประจำวัน
ของพุทธบริษัทที่สะดวกขัดเกลากิเลสตามความเหมาะสมของการครองเพศคฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ถ้าเป็นบรรพชิตจะถือเงินเดินทางไปเลือกซื้ออาหารที่อร่อยหรือซื้อโน่นนี่นั่นตามห้างไม่ได้ผิดวินัย
ถ้าบวชอยู่และรู้ตัวว่าผิดวินัยรับเงินทุกวันสมควรลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์จะไม่ได้รับโทษหนักอะไร
เพราะคฤหัสถ์ทำได้ส่วนบรรพชิตทำไม่ได้และการผิดวินัยนั้นเองเป็นเครื่องกั้นการบรรลุธรรมนะคะ
การจะดำรงพระศาสนาเป็นความปกติของจิตตามสิกขาบทถึงเฉพาะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนี่เอง
:b16: :b12:



วิธีขัดเกลากิเลส แต่ละขั้นๆ ทำยังไงขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ :b1:


คุณกรัชกายแปลความหมายของกิเลสออกไหมคะ
ถ้าแปลได้ก็จะเริ่มรู้วิธีขัดเกลากิเลสของตนได้เอง
ละชั่ว ทำดี ทำจิตให้ผ่องใส ไม่ใช่ว่ามีตัวตนไปทำ
ถ้าไม่รู้จักกิเลสก็ไม่รู้จักธัมมะก็ขัดเกลากิเลสไม่ได้


เขาถามวิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธีกำจัดกิเลสว่า ทำยังไง ก็บอกเขาไปสิขอรับ ไม่ใช่มาย้อนถาม :b1:

หนึง ทำยังงี้ สองทำยังงี้ สามทำยังงี้ๆ สี่ทำยังงี้ๆและยังงี้ จบกิจ จะไม่กลับมาเกิดอีก :b32:

Kiss
...อ้าว...
huh
...ก็ถ้าคนถามไม่รู้จักกิเลส...
cool
...วิธีแก้1ฟัง2ฟัง3ฟัง4ฟัง...
...ไปไหนไม่พ้นกิเลสล่ะก็
...หนีไม่พ้นเกิดรำ่ไปแหละ...
...ต้องฟังให้รู้จักกิเลสไงคะ...
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2016, 15:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

สาธุอนุโมทนากับคุณรสรินที่เมตตานำข้อมูลดีๆและนิ่มนวลมาคลายพยศลดมานะละทิฏฐิให้กับคุณกรัชกายและทุกๆคนที่ยังทลายจอมปลวกในใจไม่ได้


ท่านอโศก คุณโรสยังดำน้ำไม่โผล่เลยเนี่ย :b1:

ชีวิตว่างเปล่า สุญตา อนัตตา

Kiss
...คิดเอาเองเป็นอกุศลจิตน๊าคุณกรัชกาย...
:b32: :b32:


ทำให้นึกถึงนิทานพื้นบ้านเรื่องไกรทอง

http://bkkseek.com/wp-content/uploads/2 ... %B8%87.jpg

ตอนชาละวันถูกหอกสัตตโลหะของไกรทองบาดเจ็บ ได้หนีกลับเข้าถ้ำทอง ไปถือศีลตามคำของอาจารย์ว่าภายใน ๗ วัน ห้ามออกจากถ้้ำ แต่ชาละวันดื้อไม่เชื่ออาจารย์หนีออกจากถ้ำ เพราะไกรทองร่ายมนต์เรียก ทนไม่ไหว จึงโดดออกจากถ้้ำ มาสู้กับไกรทองแล้วเสียชีวิต :b32:

Kiss
:b12:
...ก็ถ้าคุณกรัชกายรู้จักกิเลสตัวเองก็จะไม่ถามเพราะสงสัยคือนิวรณ์ธรรม...
...ความไม่รู้จักตนความสงสัยในตนนั่นแหละเป็นจระข้ขวางคลองยังไงคะ...
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2016, 10:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ถามว่า...เจ้าชายสิทธัตถะสละสมบัติพระมหาจักรพรรดิออกบวชเพื่ออะไรคะ
ตอบว่า...เพื่อถึงความตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบารมีถึงที่สุดแล้ว
:b8:
ถ้าเข้าใจเหตุและผลว่าตนมีบารมีแก่กล้ามีกำลังที่จะไปได้จะไม่ประมาทในคำสอนเพราะ
การละชั่วเป็นปัญญาไม่ใช่มีตัวตนไปทำโนืนนี่นั่นจะสละแค่ไหนไม่มีใครสั่งใครได้นะคุณกรัชกาย
ขึ้นอยู่กับว่าการใช้ประโยชน์ในสิ่งที่มีเพื่อข้ามผ่านกาลเวลาจนกว่าจะสิ้นสุดการเดินทางในสังสารวัฏ
:b12:
ข้าพเจ้าไม่รีบเพราะทางด่วนที่สุดคือการสะสมการฟังสำคัญที่สุด
ส่วนประกอบอื่นๆล้วนเป็นนิมิตที่ปรากฏตามผลกรรมที่ทำไว้ดีแล้ว
อนุโมทนาล่วงหน้าถ้าคุณกรัชกายที่จะสละออกบวชเพื่ออรหัตตผล
:b13:
https://m.youtube.com/watch?v=LTq2bkYwTMo


อะไรขอรับ อรหัตผล :b10:

Kiss
อ้าวก็การเป็นพุทธบริษัททั้ง4กลุ่มนะคะ
สามารถขัดเกลากิเลสต่างกันเป็น2ิอย่าง
อย่างแรกคือสามารบรรลุโสดาสกิทาอนาคา
ในเพศคฤหัสถ์ในฐานะอุบาสกอุบาสิกาโดย
ยังไม่ต้องบวชเพราะการออกบวชต้องสลัดทิ้ง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีทั้งเงินทองทรัพย์ที่ดินญาติ
เพื่อขัดเกลากิเลสในฐานะพระภิกษุพระภิกษุณี
ครั่งพุทธกาลบวชเพราะอัทธยาศัยพร้อมสละน๊า
แต่ปัจจุบันนี้บวชตามประเพณีส่วนใหญ่7วันเพื่อ
คิดว่าเป็นการทดแทนคุณบุพการีคือพ่อแม่ถูกไหม
แต่ถามว่าบวชไม่เป็นตามธรรมวินัยไม่ได้สลัดทิ้งอะไร
แถมสึกออกมาแล้วถือเงินตอนที่บวชออกมาด้วยตกนรกน๊า
จะแก้ต้องแก้ตอนเป็นๆยังมีลมหายใจใครที่เคยบวชแล้วสึก
ให้เข้าไปบวชใหม่เพื่อปลงอาบัติก่อนแล้วสึกครั้งใหม่มาตัวเปล่า
ถึงจะพ้นโทษเรียกว่ายังมีโอกาสแก้ตัวส่วนที่บวชตลอดชีวิตมีเงินด้วย
ตายแล้วอบายภูมิเป็นที่ไปแน่นอนก็เงินคือข้อห้ามยินดีเป็นวินัยกำจัดออก
คุณกรัชกายรีบก็บวชได้เลยเพราะบวชหมายถึงรู้ตัวว่าถึงอรหันต์ไม่บวชต้องตาย
ถ้าศึกษา/สิกขาตามพระธรรมวินัยเป็นการขจัดขัดเกลากิเลสตามปกติในชีวิตประจำวัน
ของพุทธบริษัทที่สะดวกขัดเกลากิเลสตามความเหมาะสมของการครองเพศคฤหัสถ์หรือบรรพชิต
ถ้าเป็นบรรพชิตจะถือเงินเดินทางไปเลือกซื้ออาหารที่อร่อยหรือซื้อโน่นนี่นั่นตามห้างไม่ได้ผิดวินัย
ถ้าบวชอยู่และรู้ตัวว่าผิดวินัยรับเงินทุกวันสมควรลาสิกขามาเป็นคฤหัสถ์จะไม่ได้รับโทษหนักอะไร
เพราะคฤหัสถ์ทำได้ส่วนบรรพชิตทำไม่ได้และการผิดวินัยนั้นเองเป็นเครื่องกั้นการบรรลุธรรมนะคะ
การจะดำรงพระศาสนาเป็นความปกติของจิตตามสิกขาบทถึงเฉพาะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนี่เอง
:b16: :b12:



วิธีขัดเกลากิเลส แต่ละขั้นๆ ทำยังไงขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ :b1:


คุณกรัชกายแปลความหมายของกิเลสออกไหมคะ
ถ้าแปลได้ก็จะเริ่มรู้วิธีขัดเกลากิเลสของตนได้เอง
ละชั่ว ทำดี ทำจิตให้ผ่องใส ไม่ใช่ว่ามีตัวตนไปทำ
ถ้าไม่รู้จักกิเลสก็ไม่รู้จักธัมมะก็ขัดเกลากิเลสไม่ได้


เขาถามวิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธี วิธีกำจัดกิเลสว่า ทำยังไง ก็บอกเขาไปสิขอรับ ไม่ใช่มาย้อนถาม :b1:

หนึง ทำยังงี้ สองทำยังงี้ สามทำยังงี้ๆ สี่ทำยังงี้ๆและยังงี้ จบกิจ จะไม่กลับมาเกิดอีก :b32:

Kiss
...อ้าว...
huh
...ก็ถ้าคนถามไม่รู้จักกิเลส...
cool
...วิธีแก้1ฟัง2ฟัง3ฟัง4ฟัง...
...ไปไหนไม่พ้นกิเลสล่ะก็
...หนีไม่พ้นเกิดรำ่ไปแหละ...
...ต้องฟังให้รู้จักกิเลสไงคะ...
:b32: :b32: :b32:

tongue
...ขณะนี้เองสิ่งที่จิตทุกดวงกำลังมีกำลังเป็นคือเป็นสาวกคือผู้ฟังแล้วรู้ตามค่ะ...
...การฟังต้องตั้งจิตไว้ชอบเพื่อให้เสียงตกกระทบหูแล้วไตร่ตรองสิ่งที่ได้ยินว่า...
...สิ่งที่ได้ยินนั้นมีความจริงที่กำลังมีให้รู้ที่กายกับจิตตนหรือไม่ถ้าเป็นเราได้ยิน...
...แสดงว่ากำลังสะสมอกุศลจิตเพราะการสะสมกุศลจิตต้องมีแต่ธัมมะไร้ตัวตนค่ะ...
...ที่กายกับจิตกำลังรู้สึกนั้นถึงธัมมะทีละ1ขณะหรือไม่รู้อะไรเลยก็เป็นจริงตามนั้น...
...ปัญญาเกิดจากการฟังแล้วไตร่ตรองตามสิ่งที่ได้ยินว่ามีเหตุผลเป็นความจริงไหม...
https://www.youtube.com/watch?v=TYGtkREpNyA
:b17: :b17:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2016, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กรัชกาย
หนึง ทำยังงี้ สองทำยังงี้ สามทำยังงี้ๆ สี่ทำยังงี้ๆและยังงี้ จบกิจ จะไม่กลับมาเกิดอีก


อ้างคำพูด:
...

Rosarin
อ้าว...

...ก็ถ้าคนถามไม่รู้จักกิเลส...

...วิธีแก้1ฟัง2ฟัง3ฟัง4ฟัง...
...ไปไหนไม่พ้นกิเลสล่ะก็
...หนีไม่พ้นเกิดรำ่ไปแหละ...
...ต้องฟังให้รู้จักกิเลสไงคะ..


คุณโรสว่างั้น ท่านอโศกว่าไง
1. ฟัง
2. ฟัง
3. ฟัง
4. ฟัง

แล้วจะจบกิจ ไม่เวียนกลับมาเกิดอีก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2016, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามท่านอโศก กับ คุณโรส อธิบายสิขอรับ ทำไมถึงไม่อยากเกิด :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 246 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร