วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 18:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2016, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แรงงานเมียนมาไหลกลับ 5 หมื่น ‘ประมง-ก่อสร้าง’มหาชัย-อัมพวา’วิกฤต
ฯลฯ
ด้านนายอานนท์ ตันติดำรงกุล ประธานเครือดำรงกุล ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า หลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ แรงงานเมียนมาที่ทำงานในภาคธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วไม่กลับมาทำงานอีกมากถึง 50% แนวโน้มแรงงานจะทยอยกลับบ้านเกิดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานก่อสร้างและแม่บ้าน เพราะเมียนมากำลังเปิดประเทศรับการค้าการลงทุน รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการจ้างงาน ส่งผลให้แรงงานกลับไปทำงานบ้านเกิดกันมาก

http://www.matichon.co.th/news/133356

ถ้าคนไทยยังแบ่งฝักแบ่งฝ่าย นี่พวกเรา นั่นพวกอื่นอยู่ คนระดับล่างเตรียมตัวไปเข็นรถส่งผักส่งปลาที่ประเทศเมียนมาร์ได้

กว่าเผด็จการจะวางมือจากอำนาจทางการเมือง อีก 5-20 ปี แม้จะมีเลือกตั้ง ปี 2560 ถึงตอนนั้นจะเหลืออะไร :b14:

หรือตอนนั้นใกล้เข้ามา ดัง

https://www.facebook.com/44798411536817 ... =2&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2016, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เลขา สมช. รับ ไทยถูกถามละเมิดสิทธิกลางเวทียูเอ็น กระทบภาพลักษณ์ การค้า-การเมือง

พล.อ.ทวีป กล่าวว่า การชี้แจงของคณะไทยที่ยูเอ็น สำหรับท่าทีของต่างประเทศไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แต่ยอมรับว่าส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศแน่ และย่อมมีผลต่อทุกเรื่องทั้งการค้า การลงโทษ การเมือง ความมั่นคง และการทหาร ซึ่งจากนี้ก็จะต้องติดตามท่าทีของต่างประเทศที่ได้ตั้งคำถามว่าจะมีความเคลื่อนไหวต่อไปหรือไม่ หรือจะขยายผลอย่างไรหรือไม่ เพราะองค์กรระหว่างประเทศอาจไม่เข้าใจต่อสถานการณ์ปัจจุบันของไทย หรือกฎหมายของไทย ซึ่งถ้าเราทำความเข้าใจก็ไม่มีปัญหา เพราะเราล้วนปฏิบัติตามกฎหมายทั้งสิ้น


http://www.matichon.co.th/news/132868

ทั่วโลกเขารู้เขาเห็น ปิดหูปิดตาเขาไม่ได้ดอก ไทยเป็นสมาชิกยูเอ็น ถ้าไม่อยากให้เขาวุ่นวายกับเรา ก็ลาออกจากสมาชิกปิดประเทศไปเลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ค. 2016, 07:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พม่ายุบกระทรวงทิ้ง ลดรายจ่ายทุ่มพัฒนาชาติ

สภาเมียนมามีมติ 611 ต่อ 3 ปรับลดตำแหน่งรัฐมนตรีลงจากเดิมที่ 36 ตำแหน่ง เป็น 21 ตำแหน่ง เพื่อสร้างประสิทธิภาพให้กับการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยการปรับลดสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐ

ฯลฯ

ชูกระทรวงชาติพันธุ์แก้ขัดแย้ง

ถิ่นจอ เปิดเผยว่า การจัดตั้งกระทรวงชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นกระทรวงใหม่ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อประเทศที่มีความขัดแย้งทางชนกลุ่มน้อย ในขณะที่เมียนมาต้องการสันติภาพ การพัฒนา และความยั่งยืน สำนักข่าวเอเอฟพี


http://www.posttoday.com/world/news/422751

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มิ.ย. 2016, 08:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธุรกิจจับตา "ซูจี" บุกมหาชัยชวนแรงงานกลับประเทศ


"อองซาน ซูจี" เยี่ยมแรงงานเมียนมา 23 มิ.ย.ที่ตลาดทะเลไทย เอกชนหวั่นดึงแรงงานกลับ หลังการเมืองนิ่งเศรษฐกิจโต

ดร.ปรีชา ศิริแสงอารำพี ประธานหอการค้า จ.สมุทรสาคร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา มีกำหนดการที่จะมาเยี่ยมแรงงานเมียนมาในวันที่ 23 มิ.ย. 2559 ที่ตลาดทะเลไทย สมุทรสาคร โดยในเบื้องต้นจะมีการพูดคุยกับแรงงานเมียนมาเกี่ยวกับการชี้แจงแนวทางการ บริหารประเทศภายใต้การทำงานของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD)

ฯลฯ

http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1466246560

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2016, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แรงงานพม่าอยู่เมืองไทยประมาณ 3 ล้าน คน

ชาวพม่าพูดถึงนางซูจี

https://www.facebook.com/BBCThai/videos ... =2&theater

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 มิ.ย. 2016, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


"น้ำตาในสายฝน"

จากคนที่พลัดบ้านพลัดเมืองไปอยู่ต่างแดน

รูปภาพ

http://www.matichon.co.th/news/186402


ชาวพม่าร้อนรับนางซูจี ท่ามกลางสายฝน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.พ. 2017, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แม่ลูกจันทร์..ก็มองแบบแม่ลูกจันทร์..มองตามเทรน..ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรเลย..

ไปถามครูที่โรงเรียนไป๊...เขามีงบเยอะ ๆ ให้โรงเรียน..ใครได้ประโยชน์สูงสุด..

ธุรกิจสิ่งพิมพ์... :b32: :b32: :b32:

สมุทัย..หรอ..กรัชกาย...

ละเมอมั้ง?

ปูมีชัย..คิดถูกต้องแล้ว..ว่า..อนุบาลมีความสำคัญมาก..

เด็กก่อนวัยเรียนค่าเรียนแพงกว่าเด็กโต...ใครจะเชื่อ..


เห็นข่าวแล้ว นึกถึงความคิดแบบกบนอกกะลา เลยขุด กท.แปะข่าวให้สะหน่อย :b32:

............

สังคมเหลื่อมล้ำ ลูกคนจนเสียโอกาสเรียนต่ออุดมศึกษาสูง 20 เท่า เมื่อเทียบคนรวย

รูปภาพ

ยูเนสโกเผยเด็กไทยช่วงประถมวัยกว่า 2 แสนคน อยู่นอกระบบการศึกษา ขณะที่โอกาสเรียนคนจน-รวยเหลื่อมล้ำกว่า 20 เท่า

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมสุโกศล กระทรวงศึกษาธิการ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมมือกับองการยูเนสโก สำนักงานกรุงเทพฯ เปิดตัวรายงานการติดตามผลการศึกษาทั่วโลก ประจำปี 2559 เรื่องการศึกษาเพื่อมนุษย์และโลกของเรา:สร้างอนาคตให้ยั่งยืนเพื่อปวงชน

ในตอนหนึ่งของเวทีเสวนา ดร.ไกรยส ภัทราวาท สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) กล่าวถึงผลการสำรวจของยูเนสโกระบุว่า

มีเด็กไทยกว่า 2 แสนคนในวัยประถมศึกษาที่ยังอยู่นอกระบบการศึกษา ซึ่งสะท้อนข้อมุลความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทย เด็กในครอบครัวที่ร่ำรวยที่จบมัธยมต้น 100%

เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ยากจนมีเพียง 30-40% เท่านั้น เพราะฉะนั้นช่องว่างการจบการศึกษาภาคบังคับของประเทศไทย มากจากปัจจัยเหล่านี้คือ

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

2.ปัจจัยความเป็นเมืองและชนบท เพราะฉะนั้นหากเราต้องการให้ภายใน 15 ปี ข้างหน้า ที่ไทยตั้งเป้าจะสามารถก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางและสร้างการศึกษาเพื่อปวงชนให้สำเร็จได้ ปัจจัยทางเศรษฐกิจและช่องว่างของเมือง และชนบทคือโจทย์สำคัญ

ดร.ไกรยส กล่าวถึงข้อมูลบัญชีรายจ่ายการศึกษาแห่งชาติพบว่า เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ยากจนที่สุด 20% ของประเทศไทย มีโอกาสเข้าสู่ระดับอุดมศึกษาเพียง 5% หมายความว่า หากเด็กจากทุกๆ ชั้นของรายได้เข้า ป.1 พร้อมกันครอบครัวยากจนมีโอกาสไปถึงระดับอุดมศึกษาเพียง 5% เท่านั้น

ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัวร่ำรวยเข้าถึงโอกาสศึกษาในระดับที่สูงขึ้นถึง 100%

"ถ้าพูดในชัดๆ ในเรื่องบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาจำนวน แสนล้านในแต่ละปี แต่เด็กที่ครอบครัวยากจนกว่า 95% ไปไม่ถึงเงินก้อนนั้น ที่ผู้ใหญ่ในกระทรวงตั้งไว้ให้พวกเขาเข้ามาแสวงหาความเจริญ ความมั่งคั่งให้ครอบครัวแล้วก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลางให้ได้" นักวิชาการจาก สสค. กล่าว และว่า

เรามีความเหลื่อมล้ำตรงนี้มากในแง่การเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา แต่ที่น่าตกใจคือตัวเลข 5% กับ 100% ต่างกัน 20 เท่า ถ้าเราตกอยู่ในฟากครอบครัวยากจน 20% ล่างกับจำนวนอีก 20% บนของคนรวย เท่ากับว่า ชีวิตของเด็กไทยคนหนึ่งต่างกันถึง 20 เท่า อันนี้คือความเหลื่อมล้ำที่สอดคล้องการสำรวจของยูเนสโก

ดร.ไกรยส กล่าวว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจของความเหลื่อมล้ำจากการที่ประเทศไทยไม่สามารถจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทุกคนได้นั้นมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ร้อยละ 3 ของ GDP หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดสิบปีที่ผ่านมาของประเทศไทย เพราะฉะนั้นหมายความว่า

ประเทศไทยโตต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริงครึ่งหนึ่งมาโดยตลอด เมื่อมองไกลๆ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีถึงการเป็นประเทศที่ก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลางได้ ถ้าเกิดเราต้องสูญเสีย 3% ทุกปี ไปอีก15 ปีข้างหน้า เท่ากับเราต้องชะลอการออกจากกับดักตรงนั้นไปอีกราว 30 ปี แต่ถ้าหากเราสามารถดึง 3% ที่หายไปกลับมาได้ในทุกๆ ปี นับจากนี้ไป อีก 15 ปีข้างหน้า ไทยจะสามารถก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางพร้อมๆ กับมาเลเซีย

ดร.ไกรยส กล่าวด้วยว่า ในเมื่อเรามีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เรายังต้องก้าวไปอีกถึงหลักประกันทางการศึกษาให้ประเทศไทยสามารถกล้าพูดได้ว่า ไม่มีเด็กคนไหนตกหล่นจากการดูเเลของระบบการศึกษาไทย

“ความเหลื่อมล้ำของการศึกษามีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และที่สำคัญเมื่อการศึกษาทั่วถึงทุกคน สังคมแห่งกาเรียนรู้ก็จะเพิ่มขึ้น การพุดคุย การขัดแย้งในสังคมก็จะลดลง เพราะการศึกษามีการกว่าแค่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แค่คือการหล่อหลอมการพัฒนาคนตามแผนพัฒนาของแต่ละประเทศ” ดร.ไกรยส กล่าว

http://www.isranews.org/thaireform-othe ... -3426.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร