คนเราเลือกเกิดได้
พระพุทธองค์ก็สอนและทรงชี้ทางไว้แล้วไม่ใช่หรือ
เช่น อยากเกิดในสวรรค์ ก็ต้องทำความดี มีการรักษาศีลให้ทาน
ถ้าอยากเกิดเป็นพรหม ก็ต้องฝึกฝนทำฌานตามความต้องการ
เมื่อเราทำเหตุเช่นไรผลก็ต้องได้เช่นนั้น และเมื่อไม่อยากเกิดก็ต้องดับที่เหตุเช่นกัน
ดังที่พระอัชสชิได้ทรงแสดงธรรมกับพระสารีบุตร

"เย ธัมมา เหตุปปะภะวา เตสัง เหตุ ตะถาคะโต เตสัญจะ โย นิโรโธจะ
เอวัง วาที มะหาสะมะโณ"....

ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตเจ้าตรัสบอกถึงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น
พร้อมทั้งความดับแห่งเหตุของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณเจ้ามีปกติตรัสสอนอย่างนี้.....

เห็นธรรม คือเห็นอะไร? เห็นอย่างไร?แล้วส่งผลให้เห็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร?
พระพุทธเจ้าที่เราไปเห็นนั้นเป็นรูปร่างหรือคุณของพระพุทธเจ้ากันแน่?

นี่คือคำถามที่ควรจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจากคำถามของกระทู้นี้

เห็นธรรม อยู่ในธรรมคุณข้อที่ 2 สันทิฏฐิโก ซึ่งแปลว่า

"ผู้ใดทำความเห็นให้ถูกต้องแล้วจักเห็นเอง"

เห็นถูกต้องคือเห็นอย่างไร?

เห็นถูกต้องคือ "เห็นอนัตตา" เพราะพระพุทธเจ้าทรงตรัสสรุปไว้ชัดเจนว่า

"สัพเพธัมมา อนัตตา" ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็น อนัตตา

ผู้ใดเห็นอนัตตา ผู้นั้นเห็นธรรม

ผู้ใดเห็นอนัตตา ยอมรับอนัตตา เรียกว่า "ได้ดวงตาเห็นธรรม" มรรค ผลและนิพพานจะเกิดตามมาทันที

เมื่อผู้เจริญธรรมได้รับผลอันสมบูรณ์คือได้เสวยพระนิพพานด้วยตนเองจริงๆแล้ว
หลังจากนั้นปฏิจจสมุปบาทจะชัดเจนขึ้นมาในหัวใจของเขาผู้นั้นก่อนแล้วจิตดวงที่ซาบซึ้งในคุณของพระพุทธเจ้า จะเกิดขึ้นอย่างแรงกล้า พร้อมทั้งเห็นคุณของพระธรรมและพระสงฆ์อย่างเต็มท่วมท้นหัวใจ จนสลายความเห็นความเชื่อและสรณะอื่นทิ้งไปได้หมด คงเหลือไว้แต่พระรัตนตรัยเป็นสรณะสูงสุด แทบทุกคนอาจมีน้ำตาไหลน้ำตาคลอด้วยอำนาจปีติซาบซึ้งในคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์

ตอนนี้ละกระมังครับที่กล่าวว่า

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต"

ต่อไปอีกว่า "ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้นเห็นปฏิจจสมุปบาท"

เจริญสุข เจริญธรรมกันตลอดปีใหม่ 2559 นะครับ