วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 22:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 21:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ก็อย่างที่บอกเขามนสิการ (ซึ่งก็คือเจริญสมาธิ) นามรูปอยู่ เมื่อเขามนสิการนามรูป พอจิตเริ่มจะมีสมาธิ สภาวธรรมก็ปรากฎ :b1:


ขอบคุณครับ เชิญต่อครับ ^ ^


ต่อประเด็นไหนล่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว


ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ



รายนี้เขาก็ทำอานาปานสติ อย่างที่ถามๆพูดๆกัน แต่มาตกม้าตายกันที่ขีดเส่้นใต้ :b1: แล้วก็โทษนั่นโทษนี่ เป็นนั่นเป็นนี่ซึ่งไม่เกี่ยวกับนามรูปนี่ หลุดไปหมดครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 21:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แม่นางนี้ ตกม้าตายตั้งแต่ต้นจนจบครับ
ในความเห็นของผมนะครับ
แม่นางไม่ได้ทำสมาธิไรๆ เลยครับ

คุณกรัชกายครับ
การมนสิการ นามรูป ก็ไม่ได้หมายความว่า ทำสมาธิ จริงไหมคร้บ
แม้จิตที่ฟุ้งไปต่อนามรูป จิตก็มีมนสิการเช่นกัน จริงไหมครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
แม่นางนี้ ตกม้าตายตั้งแต่ต้นจนจบครับ
ในความเห็นของผมนะครับ
แม่นางไม่ได้ทำสมาธิไรๆ เลยครับ

คุณกรัชกายครับ
การมนสิการ นามรูป ก็ไม่ได้หมายความว่า ทำสมาธิ จริงไหมคร้บ
แม้จิตที่ฟุ้งไปต่อนามรูป จิตก็มีมนสิการเช่นกัน จริงไหมครับ


ไม่ได้ทำสมาธิไรๆ เลย

การทำสมาธิตามนิยามของเช่นนั้น คือเป็นเช่นไรรึ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
แม่นางนี้ ตกม้าตายตั้งแต่ต้นจนจบครับ
ในความเห็นของผมนะครับ
แม่นางไม่ได้ทำสมาธิไรๆ เลยครับ

คุณกรัชกายครับ
การมนสิการ นามรูป ก็ไม่ได้หมายความว่า ทำสมาธิ จริงไหมคร้บ
แม้จิตที่ฟุ้งไปต่อนามรูป จิตก็มีมนสิการเช่นกัน จริงไหมครับ


อ้างคำพูด:
จิตที่ฟุ้งไปต่อนามรูป


เช่นนั้น น่าจะเข้าใจนามรูปผิดไปกระมัง จิตเป็นนามแล้ว รูป ก็ได้แก่ เรียกกันกายนี่แหละ

แต่ฉันนั้น พูดว่า "จิตที่ฟุ้งไปต่อนามรูป" ดูมันทะแม่งๆน้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่ผมกล่าวว่าแม่นางนั้นไม่ได้ ทำสมาธิไรๆ เลย เพียงมนสิการซึ่งนามรูป
และฟุ้งไปกับนามรูป

ด้วยเหตุว่า แม่นางคนนั้น ไม่ได้กำหนดจิตไว้ในภายใน เรียกว่า สำรวมจิตให้มั่นคง
ทำความรู้สึกตัวด้วยจิตนั้น และคอยระมัดระวังไม่ให้ไหลซ่าน ไปพัวพันกับอารมณ์

ซึ่งแม่นางนั้น ไม่ศึกษา ไม่ถามไถ่ครูอาจารย์ เพียงเข้าใจว่า ถ้าจิตตั้งมั่นอยู่ที่อารมณ์เดียวนั่นคือ
"การทำสมาธิ" ซึ่งไม่ใช่อย่างที่นางเข้าใจ

จิตที่เป็นสมาธิ จะกำหนดด้วยสติที่สำรวมระวังไม่พัวพัน ต่ออารมณ์ภายนอก ทำความรู้สึกตัวอย่างนี้
แม้จะมีอารมณ์อื่นใดปรากฏ ขึ้นแทรกในระหว่าง จิตนั้นก็มีสติคุ้มครองอยู่

แม่นางกลับปล่อยในอารมณ์มีอิทธิพลเหนือจิตตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างนี้ คือฟุ้งไปกับนามรูป
ถึงนางจะมนสิการนามรูป อยู่ก็ตาม นางก็ไม่ได้มนสิการ ด้วยสมาธิด้วยสติ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
ที่ผมกล่าวว่าแม่นางนั้นไม่ได้ ทำสมาธิไรๆ เลย เพียงมนสิการซึ่งนามรูป
และฟุ้งไปกับนามรูป

ด้วยเหตุว่า แม่นางคนนั้น ไม่ได้กำหนดจิตไว้ในภายใน เรียกว่า สำรวมจิตให้มั่นคง
ทำความรู้สึกตัวด้วยจิตนั้น และคอยระมัดระวังไม่ให้ไหลซ่าน ไปพัวพันกับอารมณ์

ซึ่งแม่นางนั้น ไม่ศึกษา ไม่ถามไถ่ครูอาจารย์ เพียงเข้าใจว่า ถ้าจิตตั้งมั่นอยู่ที่อารมณ์เดียวนั่นคือ
"การทำสมาธิ" ซึ่งไม่ใช่อย่างที่นางเข้าใจ

จิตที่เป็นสมาธิ จะกำหนดด้วยสติที่สำรวมระวังไม่พัวพัน ต่ออารมณ์ภายนอก ทำความรู้สึกตัวอย่างนี้
แม้จะมีอารมณ์อื่นใดปรากฏ ขึ้นแทรกในระหว่าง จิตนั้นก็มีสติคุ้มครองอยู่

แม่นางกลับปล่อยในอารมณ์มีอิทธิพลเหนือจิตตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างนี้ คือฟุ้งไปกับนามรูป
ถึงนางจะมนสิการนามรูป อยู่ก็ตาม นางก็ไม่ได้มนสิการ ด้วยสมาธิด้วยสติ



บอกวิธีทำของเช่นนั้นเทียบเคียง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้นี้ กรัชกายเป็นเจ้าภาพ
เช่นนั้น เพียงแสดงความเห็นประกอบ เรื่องมนสิการ เพิ่มเติม

กรัชกายเห็นด้วยหรือเปล่าครับ เรื่องมนสิการ ที่เช่นนั้นอธิบาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กระทู้นี้ กรัชกายเป็นเจ้าภาพ
เช่นนั้น เพียงแสดงความเห็นประกอบ เรื่องมนสิการ เพิ่มเติม

กรัชกายเห็นด้วยหรือเปล่าครับ เรื่องมนสิการ ที่เช่นนั้นอธิบาย



มนสิการตามนิยามของเช่นนั้นคืออย่างไร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ก็อย่างที่บอกเขามนสิการ (ซึ่งก็คือเจริญสมาธิ) นามรูปอยู่ เมื่อเขามนสิการนามรูป พอจิตเริ่มจะมีสมาธิ สภาวธรรมก็ปรากฎ :b1:



การมนสิการ ไม่ใช่เป็นตัวบอกเพียงตัวเดียวว่า คือการเจริญสมาธิ
การคิดพิจารณา ของจิตต่ออารมณ์ เป็นอาการของจิต ขณะฟุ้งไปต่ออารมณ์นั้น ก็อาศัยมนสิการเช่นกัน

เช่นคิดพิจารณาไปเรื่อยๆ ตามอำนาจของกิเลสที่ทำงานร่วมกับมนสิการ

ดังนั้นเพียง มนสิการ องค์ธรรมเพียงตัวเดียวที่ประกอบอยู่กับจิต จึงยังไม่อาจระบุลงไปว่า คือการเจริญสมาธิ จริงไหมครับ กรัชกาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แก้ไขล่าสุดโดย เช่นนั้น เมื่อ 20 พ.ค. 2014, 22:27, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ก็อย่างที่บอกเขามนสิการ (ซึ่งก็คือเจริญสมาธิ) นามรูปอยู่ เมื่อเขามนสิการนามรูป พอจิตเริ่มจะมีสมาธิ สภาวธรรมก็ปรากฎ :b1:



การมนสิการ ไม่ใช่เป็นตัวบอกเพียงตัวเดียวว่า คือการเจริญสมาธิ
การคิดพิจารณา ของจิตต่ออารมณ์ เป็นอาการของจิต ขณะฟุ้งไปต่ออารมณ์นั้น ก็อาศัยมนสิการเช่นกัน

เช่นคิดพิจารณาไปเรื่อยๆ ตามอำนาจของกิเลสที่ทำงานร่วมกับมนสิการ

ดังนั้นเพียง มนสิการ องค์ธรรมเพียงตัวเดียวที่ประกอบอยู่กับจิต จึงยังไม่อาจระบุลงไปว่า คือการเจริญสมาธิ จริงไหมครับ กรัชกาย


บอกเจาะจงตัวมนสิการตามความเข้าใจของเช่นนั้นหน่อย เอาชัดๆตรงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ก็อย่างที่บอกเขามนสิการ (ซึ่งก็คือเจริญสมาธิ) นามรูปอยู่ เมื่อเขามนสิการนามรูป พอจิตเริ่มจะมีสมาธิ สภาวธรรมก็ปรากฎ :b1:



การมนสิการ ไม่ใช่เป็นตัวบอกเพียงตัวเดียวว่า คือการเจริญสมาธิ
การคิดพิจารณา ของจิตต่ออารมณ์ เป็นอาการของจิต ขณะฟุ้งไปต่ออารมณ์นั้น ก็อาศัยมนสิการเช่นกัน

เช่นคิดพิจารณาไปเรื่อยๆ ตามอำนาจของกิเลสที่ทำงานร่วมกับมนสิการ

ดังนั้นเพียง มนสิการ องค์ธรรมเพียงตัวเดียวที่ประกอบอยู่กับจิต จึงยังไม่อาจระบุลงไปว่า คือการเจริญสมาธิ จริงไหมครับ กรัชกาย


บอกจงตัวมนสิการตามความเข้าใจของเช่นนั้นหน่อย เอาชัดๆตรงๆ


ผมได้อ้างอิง ตัวมนสิการ จากกรัชกาย
มนสิการของกรัชกาย คืออะไร เอาชัดๆ ตรงๆ ก่อน จะได้ไม่ลอกคำตอบมาใส่กัน

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:

คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว


ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ



รายนี้เขาก็ทำอานาปานสติ อย่างที่ถามๆพูดๆกัน แต่มาตกม้าตายกันที่ขีดเส่้นใต้ :b1: แล้วก็โทษนั่นโทษนี่ เป็นนั่นเป็นนี่ซึ่งไม่เกี่ยวกับนามรูปนี่ หลุดไปหมดครับ



เขามนสิการแล้ว

อ้างคำพูด:
กำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:

คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว


ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ



รายนี้เขาก็ทำอานาปานสติ อย่างที่ถามๆพูดๆกัน แต่มาตกม้าตายกันที่ขีดเส่้นใต้ :b1: แล้วก็โทษนั่นโทษนี่ เป็นนั่นเป็นนี่ซึ่งไม่เกี่ยวกับนามรูปนี่ หลุดไปหมดครับ



เขามนสิการแล้ว

อ้างคำพูด:
กำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ


ขอบคุณครับ กรัชกาย
แม่นางคนนี้ มนสิการแล้ว จึงเรียกดวงไฟ บอกสีสัน บอกสันฐาน บอกอาการของต่างๆ ได้
และมนสิการ ถึงนามรูปที่ปรากฏ และให้ค่ากับสิ่งที่เห็นว่าเป็นหน้าตัวเองต่างๆ เป็นต้น

ผมก็เห็นด้วยกับ กรัชกาย
แต่ที่ ต้องบอกเพิ่มเติมก็คือ มนสิการ ตัวเดียวไม่พอจะบอกว่า คือการทำสมาธิครับ

โปรดสังเกต การมนสิการของแม่นาง คือจิตนั้นพล่านไปกับอารมณ์แล้ว ถูกอารมณ์ครอบงำแล้ว
มีความหลง มีโทสะ จิตแบบนี้ ขาดสติขาดสมาธิ เป็นมนสิการที่ถูกกิเลสครอบงำ

จริงไหมครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ค. 2014, 22:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:

คือดิฉันลองนั่งสมาธิ แล้วได้เห็นนิมิต เป็นดวงไฟกลมๆสีเหลือง ลอยวนไปวนมา แต่ดิฉันก็ไม่สนใจ ไม่ใด้เพ่งมองดวงไฟนั้น สุดท้ายมันก็หายไป และอีกครั้งนึงตอนนั่งอยู่ ดิฉันเห็นหน้าตัวเอง เป็นหน้าที่ใหญ่มาก และใบหน้านั้นจ้องเขม่งมาที่ดิฉัน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ จนทำให้ดิฉันกลัว และไม่กล้านั่งสมาธิอีกเปนปีเลยค่ะ แต่ตอนนี้หายกลัวแล้ว


ดิฉันนั่งโดยการกำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ



รายนี้เขาก็ทำอานาปานสติ อย่างที่ถามๆพูดๆกัน แต่มาตกม้าตายกันที่ขีดเส่้นใต้ :b1: แล้วก็โทษนั่นโทษนี่ เป็นนั่นเป็นนี่ซึ่งไม่เกี่ยวกับนามรูปนี่ หลุดไปหมดครับ



เขามนสิการแล้ว

อ้างคำพูด:
กำหนดลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ


ขอบคุณครับ กรัชกาย
แม่นางคนนี้ มนสิการแล้ว จึงเรียกดวงไฟ บอกสีสัน บอกสันฐาน บอกอาการของต่างๆ ได้
และมนสิการ ถึงนามรูปที่ปรากฏ และให้ค่ากับสิ่งที่เห็นว่าเป็นหน้าตัวเองต่างๆ เป็นต้น

ผมก็เห็นด้วยกับ กรัชกาย
แต่ที่ ต้องบอกเพิ่มเติมก็คือ มนสิการ ตัวเดียวไม่พอจะบอกว่า คือการทำสมาธิครับ

โปรดสังเกต การมนสิการของแม่นาง คือจิตนั้นพล่านไปกับอารมณ์แล้ว ถูกอารมณ์ครอบงำแล้ว
มีความหลง มีโทสะ จิตแบบนี้ ขาดสติขาดสมาธิ เป็นมนสิการที่ถูกกิเลสครอบงำ

จริงไหมครับ


ท่านเช่นนั้น มนสิการเพียงเจตสิกดวงหนึ่ง มิใช่มีเพียงเท่านี้ ยังมีอีกมากที่เกิดร่วมกับจิตแต่ละขณะๆเช่น สมาธิ สติ สัมปชัญญะ เจตนา ฯลฯ ยังต้องฝึกฝนอบรมมันอีก คือตามดูรู้ทันสภาวธรรมที่เกิดขึ้นต่อไปอีก :b1: เป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดรู้ยังงั้น ไม่ว่าดีหรือไม่ดี ถูกใจขัดใจ

มิใช่เอาแต่ถูกใจอย่างที่เช่นนั้นต้องการ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 288 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร