วันเวลาปัจจุบัน 16 มิ.ย. 2025, 07:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 186 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนบนเขา เขียน:
ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "


สวัสดีครับ "คนบนเขา"
ไม่ใช่คำของพระตถาคต หรือคำพระอรหันตเจ้าที่พระองค์รับรองด้วยพระองค์เอง
ไม่ต้องไปใส่ใจให้เสียเวลาครับ
เอาเวลาศึกษาพุทธวจนะ
มีประโยชน์กว่าเสียเวลาคิดเรื่องไร้สาระเยี่ยงนั้นครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
สัมมาทิฐิคือการรู้เห็นตามความเป็นจริง
รู้ตามความเป็นจริงของตน(แต่ขัดคอชาวบ้าน) ปล่อยวางด้วยเพราะถ้ารู้แล้วไม่ปล่อย ยิ่งเพิ่มกิเลสให้ตัวเอง คืออัตตาสูงมาก รู้มากกว่าปถุชน วางตัวยากเพราะรู้เยอะรู้ไปหมด แยกแยะผิดถูกออกจากกันได้หมด ทำให้วางตัวลำบากในทางโลกเจอคนเหม็นขี้หน้าบ้าง หมั่นไส้ อิจฉาบ้าง เพราะปถุชนยังไม่มีสัมมาทิฏฐิ เป็นมิจฉาทิฏทิ กิเลศหนาด้วย มักจะทนฟังคนอื่นพูดความจริงที่มันสวนทางกับตัวเองไม่ได้ พูดง่ายๆ คนที่เป็นอริยะบุคคล วางตัวในสังคมต้องมีสติเยอะๆ รู้เยอะก็ไม่ใช่พูดมันไปหมดทุกเรื่อง เด่วเค้าหาว่าบ้า เพราะมันเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน อิอิ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ท่านอยู่กับความมืด...ท่านไม่เข้าใจ

ท่านเข้าใจมั้ย....ใครเขาจะมีคุณธรรมปลอม...แล้วงัย

ใครจะออกทีวี..มีหน้ามีตา...แล้วงัย

อะไรทำให้เราไปมีปัณหา...กับมัน

ความชั่วของเราเองทั้งนั้น...ไม่ใช่เพราะความชั่วของเขาเลย

สังขารเรามันปรุงไปเอง...ไม่รู้ตั้งกี่รอบต่อกี่รอบ

เราก็ยังยินดีอยู่กับมันสะยังงั้น...ยินดีทั้งที่จมอยู่ในถังส้วม..นี้นะหรอ

เขาชั่ว..ไม่ชั่ว...เราปรุงแต่ง..ต่อเติมเสริมต่อ...ทั้งนั้น

เอาละ..เราห้ามมันไม่ให้ปรุงไม่ได้...ก็ให้มาห้ามไม่ให้มันแสดงออกมาทางกาย...ทางวาจา..ห้ามด้วยศีล..ด้วยธรรม..

ก็แล้วกัน :b8: :b8:


ถ้าสิ่งที่เขาทำหรือใครๆทำแล้วไม่กระทบถึงการดำเนินชีวิตคนอื่นก้ไม่ว่าหรออะไรแต่นี้สิ่งที่เขาทำมันกระทบถึงคนที่เขาไม่ยุงด้วยแล้วอย่างนี้จะให้ปล่อยวางเฉยๆได้ไง คุณต้องเข้าใจคำว่าสิทธิเสรีภาพให้ดีๆนะ :b9:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
คนบนเขา เขียน:
ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "


สวัสดีครับ "คนบนเขา"
ไม่ใช่คำของพระตถาคต หรือคำพระอรหันตเจ้าที่พระองค์รับรองด้วยพระองค์เอง
ไม่ต้องไปใส่ใจให้เสียเวลาครับ
เอาเวลาศึกษาพุทธวจนะ
มีประโยชน์กว่าเสียเวลาคิดเรื่องไร้สาระเยี่ยงนั้นครับ


แล้วเขาจะรู้ไหมเนี่ยคุณรู้คุณก็อธิบายให้เขาเข้าใจดิ เขาก็บอกอยู่ว่าตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ยังสับสนว่าพระไตรปิฏกส่วนใหนถูกส่วนใหนผิด อันใหนเป็นสอนของพุทธเจ้าอันใหนเป็นของพระอรหันต์

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


จงทำตน..ให้บริบูรณ์ด้วยพรหมวิหารธรรม..

มองเขา...ก็ให้เห็นเขา...กับ..ความไม่รู้ของเขา...แยกกัน

บางครั้ง...เขาทำความดี..หวังให้มันดีไปทั้ง ๆ ความไม่รู้ของเขานั้นแหละ...

ก็ให้..มุติตา..กับส่วนที่ดี

ส่วนที่ยังไม่ดี..ก็ให้มีเมตตา

เพราะความไม่รู้..นี้นา..จะให้ทำยังงัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงพี่มืด เขียน:
ถ้าสิ่งที่เขาทำหรือใครๆทำแล้วไม่กระทบถึงการดำเนินชีวิตคนอื่นก้ไม่ว่าหรออะไรแต่นี้สิ่งที่เขาทำมันกระทบถึงคนที่เขาไม่ยุงด้วยแล้วอย่างนี้จะให้ปล่อยวางเฉยๆได้ไง คุณต้องเข้าใจคำว่าสิทธิเสรีภาพให้ดีๆนะ

หลวงพี่เจ้าค่ะ หลวงพี่เป็นพระที่มี มานะฐิถิสูงมาก อยากรู้มั้ยเจ้าค่ะว่าเป็นแบบไหน ถือตนว่าดีเลิศกว่าคนอื่นทั้งหมด คิดว่าตนอยู่เหนือคนอื่นก็จะตั้งตนอยู่ในความประมาท แล้วมักจะทำอะไรผิดพลาดเสมอ หรือพูดอีกอย่างนึงคือ ปมเขื่อง เจ้าค่ะ ดิฉันรู้ว่าห้ามไม่ให้หลวงพี่ใช้ความคิดเห็นในโลกไซเบอร์ได้ เพราะทุกคนมีอิสระเสรี ในการใช้บอร์ดเท่ากัน แต่หลวงพี่เป็นพระก็พูดอะไรในทางที่มันกุศลหน่อยหรือแนวทางปฏิบัติหาทางพ้นทุกให้ปถุชน ไม่ใช่มาพูดแต่เรื่องทางโลกทั้งที่ตัวเองก็ช่วยอะไรใครเขาไม่ได้แล้วพูดมามันจะเกิดประโยชน์อะไรรึ เหมือนหลวงพี่มาปลดทุกข์ให้คนอื่นฟัง สักแต่ว่า ขอให้กูได้พูดหน่อยเหอะ กุเก็บกดเพราะทางโลกกูเป็นพระต้องอยู่ในวินัย(พูดในสิ่งที่คิดไม่ได้) ต้องอยู่ในคราบสำรวมซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของกูเลย อย่าว่าเลยนะเจ้าค่ะหลวงพี่ ดิฉันก็มีอิสระในความคิดทางโลกไซเบอร์เช่นกัน แล้วดิฉันก็ปรุงแต่งออกไปเป็นเวทนาด้วยจิตที่เป็นกุศลต่อหลวงพี่จริงๆนะเจ้าค่ะ :b9: เชิญหลวงพี่ปลดทุกข์ต่อไปเถิดเจ้าค่ะถ้าทำแล้วหลวงพี่สบายใจขึ้น คนอื่นฟังหลวงพี่พูดก็จะได้กุศลด้วย เพราะช่วยให้หลวงพี่พ้นทุกข์ :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
จงทำตน..ให้บริบูรณ์ด้วยพรหมวิหารธรรม..

มองเขา...ก็ให้เห็นเขา...กับ..ความไม่รู้ของเขา...แยกกัน

บางครั้ง...เขาทำความดี..หวังให้มันดีไปทั้ง ๆ ความไม่รู้ของเขานั้นแหละ...

ก็ให้..มุติตา..กับส่วนที่ดี

ส่วนที่ยังไม่ดี..ก็ให้มีเมตตา

เพราะความไม่รู้..นี้นา..จะให้ทำยังงัย

แล้วคนที่รู้ทั้งรู้แต่ยังทำล่ะ พี่กบนอกกะลาเห็นว่าควรทำเช่นไรครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตั้งที่ใจก่อน...ว่าสิ่งที่เราจะทำต่อไปนี้...ทำเพื่อกุศล

ขณะที่ทำ....ก็ดูใจว่า...ที่กำลังพูด..กำลังทำนี้...กระพื้มออกจากใจแบบไหน

หากออกจาก..กุศล...ก็ทำต่อไป

หากออกจากใจ...ที่กำลังโกรธ...ก็กลับมาแก้ที่ใจตนก่อน

เคยเห็นพ่อแม่ที่ตีลูกมั้ย

ตีด้วยความโกรธ...กะ..ตีด้วยความรัก...มันต่างกัน

แต่ก็ตีเหมือนกัน...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
หลวงพี่มืด เขียน:
ถ้าสิ่งที่เขาทำหรือใครๆทำแล้วไม่กระทบถึงการดำเนินชีวิตคนอื่นก้ไม่ว่าหรออะไรแต่นี้สิ่งที่เขาทำมันกระทบถึงคนที่เขาไม่ยุงด้วยแล้วอย่างนี้จะให้ปล่อยวางเฉยๆได้ไง คุณต้องเข้าใจคำว่าสิทธิเสรีภาพให้ดีๆนะ

หลวงพี่เจ้าค่ะ หลวงพี่เป็นพระที่มี มานะฐิถิสูงมาก อยากรู้มั้ยเจ้าค่ะว่าเป็นแบบไหน ถือตนว่าดีเลิศกว่าคนอื่นทั้งหมด คิดว่าตนอยู่เหนือคนอื่นก็จะตั้งตนอยู่ในความประมาท แล้วมักจะทำอะไรผิดพลาดเสมอ หรือพูดอีกอย่างนึงคือ ปมเขื่อง เจ้าค่ะ ดิฉันรู้ว่าห้ามไม่ให้หลวงพี่ใช้ความคิดเห็นในโลกไซเบอร์ได้ เพราะทุกคนมีอิสระเสรี ในการใช้บอร์ดเท่ากัน แต่หลวงพี่เป็นพระก็พูดอะไรในทางที่มันกุศลหน่อยหรือแนวทางปฏิบัติหาทางพ้นทุกให้ปถุชน ไม่ใช่มาพูดแต่เรื่องทางโลกทั้งที่ตัวเองก็ช่วยอะไรใครเขาไม่ได้แล้วพูดมามันจะเกิดประโยชน์อะไรรึ เหมือนหลวงพี่มาปลดทุกข์ให้คนอื่นฟัง สักแต่ว่า ขอให้กูได้พูดหน่อยเหอะ กุเก็บกดเพราะทางโลกกูเป็นพระต้องอยู่ในวินัย(พูดในสิ่งที่คิดไม่ได้) ต้องอยู่ในคราบสำรวมซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของกูเลย อย่าว่าเลยนะเจ้าค่ะหลวงพี่ ดิฉันก็มีอิสระในความคิดทางโลกไซเบอร์เช่นกัน แล้วดิฉันก็ปรุงแต่งออกไปเป็นเวทนาด้วยจิตที่เป็นกุศลต่อหลวงพี่จริงๆนะเจ้าค่ะ :b9: เชิญหลวงพี่ปลดทุกข์ต่อไปเถิดเจ้าค่ะถ้าทำแล้วหลวงพี่สบายใจขึ้น คนอื่นฟังหลวงพี่พูดก็จะได้กุศลด้วย เพราะช่วยให้หลวงพี่พ้นทุกข์ :b16:


อืม...ตอนนี้เราอยู่ในสภาพสังคมที่สดวกสบายเกิดไปบางครั้งก็ปลอดปล่อยความรู้สึกไปตามสภาพสังคมไปบ้างก้เป้นเรื่องธรรมดาเน้อ...อย่าคิดมาก ... :b9: เมื่อไหร่จะได้ไปจากตรงนี้สักทีเบื่อเต็มทนละ

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตั้งที่ใจก่อน...ว่าสิ่งที่เราจะทำต่อไปนี้...ทำเพื่อกุศล

ขณะที่ทำ....ก็ดูใจว่า...ที่กำลังพูด..กำลังทำนี้...กระพื้มออกจากใจแบบไหน

หากออกจาก..กุศล...ก็ทำต่อไป

หากออกจากใจ...ที่กำลังโกรธ...ก็กลับมาแก้ที่ใจตนก่อน

เคยเห็นพ่อแม่ที่ตีลูกมั้ย

ตีด้วยความโกรธ...กะ..ตีด้วยความรัก...มันต่างกัน

แต่ก็ตีเหมือนกัน...


ไม่เห็นต่างเลย เพราะตีแล้วก็เจ็บเหมือนกัน :b9:

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 11:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยู่กับความมืด เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
คนบนเขา เขียน:
ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "


สวัสดีครับ "คนบนเขา"
ไม่ใช่คำของพระตถาคต หรือคำพระอรหันตเจ้าที่พระองค์รับรองด้วยพระองค์เอง
ไม่ต้องไปใส่ใจให้เสียเวลาครับ
เอาเวลาศึกษาพุทธวจนะ
มีประโยชน์กว่าเสียเวลาคิดเรื่องไร้สาระเยี่ยงนั้นครับ


แล้วเขาจะรู้ไหมเนี่ยคุณรู้คุณก็อธิบายให้เขาเข้าใจดิ เขาก็บอกอยู่ว่าตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ยังสับสนว่าพระไตรปิฏกส่วนใหนถูกส่วนใหนผิด อันใหนเป็นสอนของพุทธเจ้าอันใหนเป็นของพระอรหันต์

สวัสดี Nongkong
เพราะเขากำลังศึกษาล่ะครับ ถึงยังไม่ต้องสงสัยก่อน
ศีกษาไปก่อน ความสงสัย จะคลายลงเอง

มัวแต่สงสัย ก็อาจจะตายก่อนได้ศึกษา ล่ะครับ ^ ^

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 12:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
หลวงพี่มืด เขียน:
ถ้าสิ่งที่เขาทำหรือใครๆทำแล้วไม่กระทบถึงการดำเนินชีวิตคนอื่นก้ไม่ว่าหรออะไรแต่นี้สิ่งที่เขาทำมันกระทบถึงคนที่เขาไม่ยุงด้วยแล้วอย่างนี้จะให้ปล่อยวางเฉยๆได้ไง คุณต้องเข้าใจคำว่าสิทธิเสรีภาพให้ดีๆนะ

หลวงพี่เจ้าค่ะ หลวงพี่เป็นพระที่มี มานะฐิถิสูงมาก อยากรู้มั้ยเจ้าค่ะว่าเป็นแบบไหน ถือตนว่าดีเลิศกว่าคนอื่นทั้งหมด คิดว่าตนอยู่เหนือคนอื่นก็จะตั้งตนอยู่ในความประมาท แล้วมักจะทำอะไรผิดพลาดเสมอ หรือพูดอีกอย่างนึงคือ ปมเขื่อง เจ้าค่ะ ดิฉันรู้ว่าห้ามไม่ให้หลวงพี่ใช้ความคิดเห็นในโลกไซเบอร์ได้ เพราะทุกคนมีอิสระเสรี ในการใช้บอร์ดเท่ากัน แต่หลวงพี่เป็นพระก็พูดอะไรในทางที่มันกุศลหน่อยหรือแนวทางปฏิบัติหาทางพ้นทุกให้ปถุชน ไม่ใช่มาพูดแต่เรื่องทางโลกทั้งที่ตัวเองก็ช่วยอะไรใครเขาไม่ได้แล้วพูดมามันจะเกิดประโยชน์อะไรรึ เหมือนหลวงพี่มาปลดทุกข์ให้คนอื่นฟัง สักแต่ว่า ขอให้กูได้พูดหน่อยเหอะ กุเก็บกดเพราะทางโลกกูเป็นพระต้องอยู่ในวินัย(พูดในสิ่งที่คิดไม่ได้) ต้องอยู่ในคราบสำรวมซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของกูเลย อย่าว่าเลยนะเจ้าค่ะหลวงพี่ ดิฉันก็มีอิสระในความคิดทางโลกไซเบอร์เช่นกัน แล้วดิฉันก็ปรุงแต่งออกไปเป็นเวทนาด้วยจิตที่เป็นกุศลต่อหลวงพี่จริงๆนะเจ้าค่ะ :b9: เชิญหลวงพี่ปลดทุกข์ต่อไปเถิดเจ้าค่ะถ้าทำแล้วหลวงพี่สบายใจขึ้น คนอื่นฟังหลวงพี่พูดก็จะได้กุศลด้วย เพราะช่วยให้หลวงพี่พ้นทุกข์ :b16:


ในชีวิตจริงนะไม่มีใครรู้หรอว่าเราเป็นคนแบบใหน แต่คุณถึงกับรู้ว่าเป้นแบบใหน แสดงว่าไม่ธรรมดาจริงคนๆนี้ แต่นั้นก็เป็นแค่ความคิดปรุงแต่ของคุณเองนะ

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 12:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ม.ค. 2012, 16:39
โพสต์: 209


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
หลวงพี่มืด เขียน:
ถ้าสิ่งที่เขาทำหรือใครๆทำแล้วไม่กระทบถึงการดำเนินชีวิตคนอื่นก้ไม่ว่าหรออะไรแต่นี้สิ่งที่เขาทำมันกระทบถึงคนที่เขาไม่ยุงด้วยแล้วอย่างนี้จะให้ปล่อยวางเฉยๆได้ไง คุณต้องเข้าใจคำว่าสิทธิเสรีภาพให้ดีๆนะ

หลวงพี่เจ้าค่ะ หลวงพี่เป็นพระที่มี มานะฐิถิสูงมาก อยากรู้มั้ยเจ้าค่ะว่าเป็นแบบไหน ถือตนว่าดีเลิศกว่าคนอื่นทั้งหมด คิดว่าตนอยู่เหนือคนอื่นก็จะตั้งตนอยู่ในความประมาท แล้วมักจะทำอะไรผิดพลาดเสมอ หรือพูดอีกอย่างนึงคือ ปมเขื่อง เจ้าค่ะ ดิฉันรู้ว่าห้ามไม่ให้หลวงพี่ใช้ความคิดเห็นในโลกไซเบอร์ได้ เพราะทุกคนมีอิสระเสรี ในการใช้บอร์ดเท่ากัน แต่หลวงพี่เป็นพระก็พูดอะไรในทางที่มันกุศลหน่อยหรือแนวทางปฏิบัติหาทางพ้นทุกให้ปถุชน ไม่ใช่มาพูดแต่เรื่องทางโลกทั้งที่ตัวเองก็ช่วยอะไรใครเขาไม่ได้แล้วพูดมามันจะเกิดประโยชน์อะไรรึ เหมือนหลวงพี่มาปลดทุกข์ให้คนอื่นฟัง สักแต่ว่า ขอให้กูได้พูดหน่อยเหอะ กุเก็บกดเพราะทางโลกกูเป็นพระต้องอยู่ในวินัย(พูดในสิ่งที่คิดไม่ได้) ต้องอยู่ในคราบสำรวมซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของกูเลย อย่าว่าเลยนะเจ้าค่ะหลวงพี่ ดิฉันก็มีอิสระในความคิดทางโลกไซเบอร์เช่นกัน แล้วดิฉันก็ปรุงแต่งออกไปเป็นเวทนาด้วยจิตที่เป็นกุศลต่อหลวงพี่จริงๆนะเจ้าค่ะ :b9: เชิญหลวงพี่ปลดทุกข์ต่อไปเถิดเจ้าค่ะถ้าทำแล้วหลวงพี่สบายใจขึ้น คนอื่นฟังหลวงพี่พูดก็จะได้กุศลด้วย เพราะช่วยให้หลวงพี่พ้นทุกข์ :b16:


อ่านชะ

พระเป็นส่วนหนึ่งของประชาชน ดังนั้นพระก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับการเมืองบ้าง เพราะคำว่าการเมืองในความหมายของพระคืออะไรคือการจัดการทำให้คนที่อยู่ร่วมกันเป้นจำนวนมากเป้นไปอย่างสันติ สงบสุข เมื่อเป้นเช่นนี้อะไรที่ทำให้บ้านเมืองสงบสุขพระก็มีสิทธที่จะทำ

.....................................................
_______________(-_-) (๑_๑)____________(^_^) (^ ^)_____________


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยู่กับความมืด เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ตั้งที่ใจก่อน...ว่าสิ่งที่เราจะทำต่อไปนี้...ทำเพื่อกุศล

ขณะที่ทำ....ก็ดูใจว่า...ที่กำลังพูด..กำลังทำนี้...กระพื้มออกจากใจแบบไหน

หากออกจาก..กุศล...ก็ทำต่อไป

หากออกจากใจ...ที่กำลังโกรธ...ก็กลับมาแก้ที่ใจตนก่อน

เคยเห็นพ่อแม่ที่ตีลูกมั้ย

ตีด้วยความโกรธ...กะ..ตีด้วยความรัก...มันต่างกัน

แต่ก็ตีเหมือนกัน...


ไม่เห็นต่างเลย เพราะตีแล้วก็เจ็บเหมือนกัน :b9:


ต่างสิ่ครับ ทำไมจะไม่ต่าง แต่ผู้ที่มีสติปัญญาเท่านั้น จึงจะมองเห็นว่ามันต่างกันยังไง
ส่วนผู้ที่ยังงมโข่งอยู่จะมองไม่เห็นความต่าง คิดไปว่ามันเหมือนกัน
ลองถามคุณกบ ดูสิ่ครับ คุณกบ อธิบายได้ว่ามันต่างกันยังไง จริงมั๊ยครับคุณกบ

ฮาข่ะ :b32:

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 เม.ย. 2012, 22:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฮ่วย.... :b10:

งั้ยห่วยกลับมาออกที่เดิม..
s006
ฮาขะ.. :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 186 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร