วันเวลาปัจจุบัน 03 ต.ค. 2025, 02:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 19:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขันธ์5 เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวกับเรา

ขันธ์5 เป็น อนิจจัง

ก็เรื่องของขันธ์5 ไม่เกี่ยวกับเรา

ขันธ์5 เป็นทุกขัง(เป็นทุกข์)

ก็เรื่องของขันธ์5 ไม่เกี่ยวกับเรา

ขันธ์5 เป็นอนัตตา

ก็เรื่องของขันธ์5 ไม่เกี่ยวกับเรา

แต่ถ้าเมื่อไร เกี่ยวกับเรา ก็แสดงว่า อุปาทานในขันธ์5 กำลังทำงาน

อุปาทานทำงาน ตามหน้าที่ของอุปาทาน

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 22:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ไม่ว่าท่านจะพิจารณาขันธ์ 5 อายตนะภายใน อายตนะภายนอก ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ความพอใจ ไม่พอใจ สติ ปัญญา สุดท้ายก็ลงเอยที่ "ความไม่เที่ยง" เป็นเหตุแห่งความทุกข์ พิสูจน์ได้เลยครับ
สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นทุกข์ สรรพสิ่งทั้งหมด "ไม่เที่ยง" แสดงว่าสิ่งนั้นเป็นทุกข์

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน :b8:
**ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ของพี่ไม่เที่ยง เกิดดับ เพราะนี่เป็นความจริงที่เป็นไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์ ถ้าจะให้ผมพูดอีกความหมายหนึ่งก็คือ สมมติทั้งหลายล้วนอยู่ภายใต้กฏของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงตรงนี้เราจะได้คำตอบว่ามีเพียงสิ่งที่เที่ยงไม่แปรสภาพไม่มีเสื่อมเท่านั้นที่จะอยู่เหนือกฏแห่งไตรลักษณ์ สิ่งนั้นชื่อว่า วิมุตติธรรมหรือนิพพานธาตุ
**พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อยังทรงสังขารหรือรูปขันธ์อยู่ท่านเองก็ยังมีทุกข์ทางกายปรากฏอยู่ตามเหตุและปัจจัย เพราะรูปขันธ์ของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ก็ยังเป็นสมมติอยู๋นั่นเอง แต่ทุกข์ทางใจนั้นท่านดับสิ้นแล้วซึ่งอวิชชาทั้งหลาย
**เพราะดับอวิชชาได้หมดแล้วจึงปล่อยวางแล้วซึ่งอุปทานทั้งหลาย ภพจึงขาด ชาติจึงตัด เพราะชาติถูกตัด เกิดหรือกำเนิดจึงไม่มี ขันธ์ 5 รูปนามจึงไม่มี เพราะไม่มีความตั้งอยู่แห่งสมมติทั้งหลาย ทุกข์จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะมีได้อีกต่อไป
**ย้ำอีกครั้งนะครับ สำหรับผู้ที่รู้ตัวว่าตนเองยังอยู่ในระดับปุถุชนอย่างเช่นผมนั้น แม้จะยังไม่สามารถเข้าไปดับเหตุแห่งทุกข์หรืออวิชชาทั้งหมดได้ แต่เราก็สามารถทำให้ทุกข์ที่เกิดขึ้นมาทั้งทางกายและทางใจแสดงฤทธิ์หรืออาการให้น้อยที่สุดจนทำอะไรเราไม่ได้ ด้วยการรู้จักทุกข์ มองให้เห็นทุกข์ดูมันให้ออก แล้วก็ใช้สติปัญญาเราไปดับที่ผลหรือก็คือทุกข์ที่เกิดขึ้นมาตรงหน้านั่นแหละ อุปมาเหมือนเราดับไฟที่เพิ่งเริ่มลุกขึ้นมาทันทีนั่นแหละ แม้ความร้อนของไฟที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ไม่มีหรือแทบจะไม่มี
**แต่ถ้าผู้ใดหวังความหลุดพ้นในชาตินี้ก็ขอให้เร่งความเพียรพิจารณาปล่อยวางกายหรือรูปขันธ์ให้ได้โดยไว พิจารณากายนีี้เป็นก้าวแรกที่เราจะต้องก้าวผ่านให้ได้ จะมองข้ามแล้วไปพิจารณาเรื่องอื่นก่อนนั้นย่อมเป็นทางที่ผิด (เพราะผมเคยทำผิดครูมาแล้ว) มันจะไปต่อไม่ได้ มันจะต้องข้ามกายสังขารข้ามกองกระดูกนี้ไปให้ได้ก่อน ตามคำสอนที่พระพุทธเจ้าและพ่อแม่ครูอาจารย์พาปฏิบัติมาครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่
ผมขออภัยที่วันนี้พล่ามยาวไปซะหน่อยคือคำพูดพวกนี้มันผุดขึ้นมาเองเรื่อยๆน่ะครับ ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 23:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
.....
**แต่ถ้าผู้ใดหวังความหลุดพ้นในชาตินี้ก็ขอให้เร่งความเพียรพิจารณาปล่อยวางกายหรือรูปขันธ์ให้ได้โดยไว พิจารณากายนีี้เป็นก้าวแรกที่เราจะต้องก้าวผ่านให้ได้ จะมองข้ามแล้วไปพิจารณาเรื่องอื่นก่อนนั้นย่อมเป็นทางที่ผิด (เพราะผมเคยทำผิดครูมาแล้ว) มันจะไปต่อไม่ได้ มันจะต้องข้ามกายสังขารข้ามกองกระดูกนี้ไปให้ได้ก่อน.......


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 09:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน
ผมคิดว่าทุกคนในที่นี้คงรู้จักขันธ์ 5 กันดี ไม่มากก็น้อย ก็เลยอยากจะขอตั้งคำถามเกี่ยวกับ ขันธ์ 5 เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์เป็นความรู้แก่ผมและผู้ที่เข้ามาร่วมสนทนาทุกท่านครับ คำถามมีว่า..
**1. ขันธ์ 5 คืออะไรครับ
**2. เป็นธรรมข้อใดใน อริยะสัจ 4 ครับ
**3. รู้ขันธ์ 5 แล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรครับ
ขอบคุณครับ
:b12:
มาสายหน่อยนะน้องลูกพระป่า ขอแจมด้วยคนเด้อ!

ขันธ์ 5 ในอริยสัจ 4 นั้น คือตัว ทุกขสัจจะ หรือ"ผลทุกข์" นั่นเลยทีเดียว
เป็นเพราะอวิชชา ความไม่รู้ในอดีตชาติ จึงทำให้เกิดความเห็นผิดว่ากายใจนี้เป็นเรา เป็นตัวกู ของกู หรือสักกายทิฐิ เมื่อมีสักกายทิฐิอยู่ ความเวียนว่ายตายเกิดจึงมีอยู่ไม่รู้จบสิ้น ไม่ใช่แต่จะเวียนมาได้แต่ขันธ์ 5 ยังพาเวียนไปได้ ขันธ์ 4 ขันธ์ 1 ได้อีกต่างหาก การได้มาซึ่งขันธ์ จึงเป็นกองแห่งทุกข์โดยแท้ เมื่อมีกองแห่งทุกข์มาปรากฏในชาตินี้ พุทธบิดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเมื่อครั้งยังทรงเป็นเจ้าชายสิทธัตถะได้เกิดปัญญา เห็น ดู สังเกต พิจารณาสิ่งต่างๆรอบตัว จนได้พบเทวทูต ทั้ง 4 พบนักบวช มีคำถามต่อนายฉันนะมากมาย แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบอันแจ่มแจ้ง จึงทรงเสด็จออกบวช เจริญธรรม ฝ่ายสุดโต่งในครั้งแรกแล้วทรงค้นพบธรรมอันเป็นกลางๆในภายหลังจนเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระองค์ได้ทรงค้นพบอริยสัจทั้ง 4 ประการ ได้ความบรรลุธรรมเป็นสัมมาสัมพุทธะ

รู้จักขันธ์ 5 แล้ว ก็จะได้เห็นว่าความยึดแน่นในขันธ์ 5 ของจิตที่ยังมี กู มี เรา อยู่นี้ มันแน่นเหนียวยิ่งนัก แต่เมื่อได้วิชชาวิปัสสนาภาวนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใส่ใจ ปฏิบัติ จึงได้รู้ตามความรู้ในอนัตตลักขณสูตรว่า
รูปัง อนัตตา
เวทนาอนัตา
สัญญา อนัตตา
สังขารา อนัตตา
วิญญาณัง อนัตตา
เมื่อรู้โดยทฤษฎี พิสูจน์ทฤษฎีจนประจักษ์แจ้งแก่ใจ ความเห็นผิด ยึดผิดว่ากายใจนี้เป็นเราก็ขาดสะบั้น มีชาติภพที่จะต้องไปเวียนว่ายตายเกิดได้ขันธ์อีกไม่เกิน 7 ชาติ 3 ชาติ ชาติเดียว จนสุดท้ายทำลาย มานะทิฐิ ความเห็นผิดว่ากายใจนี้เป็น กู เป็น เรา ตัวละเอียด ขาดสะบั้นลง ก็หมดชาติที่จะต้องไปมีขันธ์อีกต่อไป
เอวัง

:b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 14:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
ลูกพระป่า เขียน:
สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน
ผมคิดว่าทุกคนในที่นี้คงรู้จักขันธ์ 5 กันดี ไม่มากก็น้อย ก็เลยอยากจะขอตั้งคำถามเกี่ยวกับ ขันธ์ 5 เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์เป็นความรู้แก่ผมและผู้ที่เข้ามาร่วมสนทนาทุกท่านครับ คำถามมีว่า..
**1. ขันธ์ 5 คืออะไรครับ
**2. เป็นธรรมข้อใดใน อริยะสัจ 4 ครับ
**3. รู้ขันธ์ 5 แล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรครับ
ขอบคุณครับ
:b12:
มาสายหน่อยนะน้องลูกพระป่า ขอแจมด้วยคนเด้อ!

ขันธ์ 5 ในอริยสัจ 4 นั้น คือตัว ทุกขสัจจะ หรือ"ผลทุกข์" นั่นเลยทีเดียว
เป็นเพราะอวิชชา ความไม่รู้ในอดีตชาติ จึงทำให้เกิดความเห็นผิดว่ากายใจนี้เป็นเรา เป็นตัวกู ของกู หรือสักกายทิฐิ เมื่อมีสักกายทิฐิอยู่ ความเวียนว่ายตายเกิดจึงมีอยู่ไม่รู้จบสิ้น ไม่ใช่แต่จะเวียนมาได้แต่ขันธ์ 5 ยังพาเวียนไปได้ ขันธ์ 4 ขันธ์ 1 ได้อีกต่างหาก การได้มาซึ่งขันธ์ จึงเป็นกองแห่งทุกข์โดยแท้ เมื่อมีกองแห่งทุกข์มาปรากฏในชาตินี้ พุทธบิดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเมื่อครั้งยังทรงเป็นเจ้าชายสิทธัตถะได้เกิดปัญญา เห็น ดู สังเกต พิจารณาสิ่งต่างๆรอบตัว จนได้พบเทวทูต ทั้ง 4 พบนักบวช มีคำถามต่อนายฉันนะมากมาย แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบอันแจ่มแจ้ง จึงทรงเสด็จออกบวช เจริญธรรม ฝ่ายสุดโต่งในครั้งแรกแล้วทรงค้นพบธรรมอันเป็นกลางๆในภายหลังจนเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระองค์ได้ทรงค้นพบอริยสัจทั้ง 4 ประการ ได้ความบรรลุธรรมเป็นสัมมาสัมพุทธะ

รู้จักขันธ์ 5 แล้ว ก็จะได้เห็นว่าความยึดแน่นในขันธ์ 5 ของจิตที่ยังมี กู มี เรา อยู่นี้ มันแน่นเหนียวยิ่งนัก แต่เมื่อได้วิชชาวิปัสสนาภาวนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใส่ใจ ปฏิบัติ จึงได้รู้ตามความรู้ในอนัตตลักขณสูตรว่า
รูปัง อนัตตา
เวทนาอนัตา
สัญญา อนัตตา
สังขารา อนัตตา
วิญญาณัง อนัตตา
เมื่อรู้โดยทฤษฎี พิสูจน์ทฤษฎีจนประจักษ์แจ้งแก่ใจ ความเห็นผิด ยึดผิดว่ากายใจนี้เป็นเราก็ขาดสะบั้น มีชาติภพที่จะต้องไปเวียนว่ายตายเกิดได้ขันธ์อีกไม่เกิน 7 ชาติ 3 ชาติ ชาติเดียว จนสุดท้ายทำลาย มานะทิฐิ ความเห็นผิดว่ากายใจนี้เป็น กู เป็น เรา ตัวละเอียด ขาดสะบั้นลง ก็หมดชาติที่จะต้องไปมีขันธ์อีกต่อไป
เอวัง

:b4:


ุถ้าหากสรรพสิ่ง "เที่ยง" ก็คงไม่ทุกข์
สุขก็สุขตลอด
รวยก็รวยตลอด
หนุ่มก็หนุ่มตลอด
สวยก็สวยตลอด
มียศก็ให้มีตลอด
สุขภาพดีก็ให้ดีตลอด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 19:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ุถ้าหากสรรพสิ่ง "เที่ยง" ก็คงไม่ทุกข์
สุขก็สุขตลอด
รวยก็รวยตลอด
หนุ่มก็หนุ่มตลอด
สวยก็สวยตลอด
มียศก็ให้มีตลอด
สุขภาพดีก็ให้ดีตลอด


ใครจน..ก็จนตลอดไป
ใครเจ็บ...ก็เจ็บตลอดไป
ใครขี้เร่..ก็ขี้เร่ตลอดไป
ใครเป็นสัตว์เดรัชฉาน..ก็เป้นตลอดไป
ใครไม่ฉลาด..ก็ไม่ฉลาดตลอดไป

หากสรรพสิ่งในโลกนี้..เที่ยง...
อะฮันจะไปประท้วงเป็นคนแรก...

หนูไม่ยอม...หนูไม่ยอม...หนูไม่ยอม... cry cry cry


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2012, 20:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ที่จริง...ก็มีท่านที่กล่าวได้ถูกแล้ว..แหละ..ทั้งคุณtonk ทั้งคุณโฮ..คือการเข้าไปยึดในขันธ์ 5 เป็นทุกข์

ทุกข์เพราะ...ไม่สมหวังทั้งใน..กามตัณหา...ภวตัณหา...วิภวตัณหา

เพราะหวังให้มันเที่ยง..มันก็ไม่เที่ยง..หวังให้มันยั่งยืน..มันก็ไม่ยั่งยืน..ก็มันมีธรรมดาเป็นอนัตตา

ธรรมชาติที่เหนี่ยวให้เข้าไปยึดในขันธ์...มีในขันธ์...จึงเป็นสมุทัยตัวแม่

แต่...ขอคลื่นรบกวนอีกนิด :b9:

อ้างคำพูด:
จิต หมดทุกข์
รูป ยังทุกข์ (ยังเจ็บ ยังแก่ )


แล้วสรุปรวมลงมาเป็นว่า...ยังทุกข์อยู่หรือไม่ทุกข์แล้ว...?
:b12:


สรุปแล้วเพราะอรหันต์หมดทุกข์ทางใจ
เหลือแต่ทุกข์กาย ยังแก่ ยังเจ็บ หมดสิ้นเมื่อปรินิพพานไม่เวียนว่ายตายเกิด
สิ้นทุกข์ถาวร


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 37 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร