วันเวลาปัจจุบัน 13 มิ.ย. 2025, 01:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 338 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20 ... 23  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




q195a5.gif
q195a5.gif [ 18.27 KiB | เปิดดู 5067 ครั้ง ]
ก็ลงตัวแล้วนิ มีลูกคู่ลูกคิดกันคนละคน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
แล้วไม่ต้องเถียงมาอีกว่านะว่า อริยมรรคไม่ได้ปฏิบัติที่กระบวนการขันธ์
หรือมรรคสมังคีหรือสัมมาวิมุติไม่ได้ดับกระบวนการปฏิจจฯ

อริยมรรค ไม่ได้ปฏิบัติที่กระบวนการขันธ์
และมรรคสมังคีหรือสัมมาวิมุติก็ไม่ได้ดับกระบวนการปฏิจจสมุปบาท

แล้วอริยมรรค เขาปฏิบัติกันที่ไหนครับ
แล้วอะไรดับกระบวนการปฏิจจ์ หรือไม่ก็ต้องทำอย่างไรกับกระบวนการปฏิจจ์ครับ

คุณเช่นนั้นครับ คุณยังไม่ได้ให้ความกระจ่างแก่
ผู้มีปัญญาอันน้อยนิดอย่างผมเลยนะครับ


ผมถามคุณว่า...
โฮฮับ เขียน:
แล้วอริยมรรค เขาปฏิบัติกันที่ไหนครับ
แล้วอะไรดับกระบวนการปฏิจจ์ หรือไม่ก็ต้องทำอย่างไรกับกระบวนการปฏิจจ์ครับ


รบกวนช่วยตอบหน่อยครับ :b32:

ตอบให้แล้วไม่อ่าน
อริยมรรค ปฏิบัติกันที่จิต
ไม่มีการดับกระบวนการปฏิจจสมุปบาท
มีแต่การดำเนินไปตามปฏิจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร

นี่เป็นการตอบครั้งที่ สอง

สติ ปัญญา ความเพียร ฯลฯ พวกนี้เป็นมรรคหรือเปล่า
แล้วพวกนี้เป็นอาการของจิตหรือเจตสิกหรือเปล่า
และอาการของจิตหรือเจตสิกที่ว่า เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์และสังขารขันธ์หรือเปล่า
พูดโถ่! ริจะมาคุยเรื่องปฏิจจ์ แต่ไม่รู้จักหาเหตุปัจจัย ตลกดีครับ :b9:

และเรื่องไม่มีการดับ ถ้าเป็นพระอรหันต์ รูปนามยังอยู่มันก็ยังไม่ดับ
แต่ต่อเมื่อรูปนามดับ นั้นก็คือมรณะกระบวนการปฏิจจ์ก็ดับ
ผมว่าผมบอกไว้ตอนต้นๆแล้วนะ สงสัยไม่ใส่ใจล่ะมั้ง :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ไปอธิบายมาใหม่ เอาให้มันเป็นภาษาพูด ภาษาใบ้หรือภาษาโมเมไม่เอาครับ
ขอโทษก่อนครับ แบบนี้นึกจะแถอย่างไรก็ได้ ให้เวลาครับ ถ้าอธิบายไม่ได้พรุ่งนี้
ผมจะมาสาธยายให้ฟัง

ปล. ถามหน่อยไม่รู้จักอายลูกศิษย์ที่ชื่อซาลาเปาเลยรึ คุณใช้ภาษาแบบนี้
ลูกศิษย์ก็พยักหน้าเข้าใจคะ เข้าใจค่า! แต่ไปคุยกับผมดันห้ามผมพูดภาษาแบบที่คุณพูด
บอกว่าฟังไม่เข้าใจ พิลึกทั้งครู ทั้งลูกศิษย์ :b32:

พระพุทธองค์ ใช้ภาษาพูดครับ
โฮฮับ คงไม่มีปัญญา เข้าใจได้

ใช่ครับพระพุทธองค์ใช้ภาษาพูด
แต่คุณแสดงอาการอยากพูด แต่ไม่ยอมพูด
ทำมือชี้โบ้ชี้เบ้ชี้ไปที่ตัวอักษร โดยไม่บอกกล่าว
:b32:

คุณซาลาเปาครับ ครูคุณฝากบอกมาว่า
พระพุทธเจ้าใช้ภาษาพูด ที่หลังฟังธรรมไม่รู้เรื่องก็ให้ไปฟังกับพระพุทธเจ้า
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 16:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ไปอธิบายมาใหม่ เอาให้มันเป็นภาษาพูด ภาษาใบ้หรือภาษาโมเมไม่เอาครับ
ขอโทษก่อนครับ แบบนี้นึกจะแถอย่างไรก็ได้ ให้เวลาครับ ถ้าอธิบายไม่ได้พรุ่งนี้
ผมจะมาสาธยายให้ฟัง

ปล. ถามหน่อยไม่รู้จักอายลูกศิษย์ที่ชื่อซาลาเปาเลยรึ คุณใช้ภาษาแบบนี้
ลูกศิษย์ก็พยักหน้าเข้าใจคะ เข้าใจค่า! แต่ไปคุยกับผมดันห้ามผมพูดภาษาแบบที่คุณพูด
บอกว่าฟังไม่เข้าใจ พิลึกทั้งครู ทั้งลูกศิษย์ :b32:

พระพุทธองค์ ใช้ภาษาพูดครับ
โฮฮับ คงไม่มีปัญญา เข้าใจได้

ใช่ครับพระพุทธองค์ใช้ภาษาพูด
แต่คุณแสดงอาการอยากพูด แต่ไม่ยอมพูด
ทำมือชี้โบ้ชี้เบ้ชี้ไปที่ตัวอักษร โดยไม่บอกกล่าว
:b32:

คุณซาลาเปาครับ ครูคุณฝากบอกมาว่า
พระพุทธเจ้าใช้ภาษาพูด ที่หลังฟังธรรมไม่รู้เรื่องก็ให้ไปฟังกับพระพุทธเจ้า
:b13:

ดีแล้วครับ โฮฮับ ที่อย่างน้อยก็ยังรู้ภาษา ว่า พระพุทธองค์ใช้ภาษาพูด
โฮฮับ ควรศึกษา ให้มาก
อย่าโมเม นั่งเทียน เขียนอีกล่ะครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 16:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวพุทธประเทศไทย ยิ่งศึกษาธรรมะกันเหมือนยิ่งไกลเรื่องของคนเรื่องของมนุษย์เข้าไปทุกทีๆๆๆ :b5: :b7:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 16:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
สติ ปัญญา ความเพียร ฯลฯ พวกนี้เป็นมรรคหรือเปล่า
แล้วพวกนี้เป็นอาการของจิตหรือเจตสิกหรือเปล่า
และอาการของจิตหรือเจตสิกที่ว่า เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์และสังขารขันธ์หรือเปล่า
พูดโถ่! ริจะมาคุยเรื่องปฏิจจ์ แต่ไม่รู้จักหาเหตุปัจจัย ตลกดีครับ :b9:

และเรื่องไม่มีการดับ ถ้าเป็นพระอรหันต์ รูปนามยังอยู่มันก็ยังไม่ดับ
แต่ต่อเมื่อรูปนามดับ นั้นก็คือมรณะกระบวนการปฏิจจ์ก็ดับ
ผมว่าผมบอกไว้ตอนต้นๆแล้วนะ สงสัยไม่ใส่ใจล่ะมั้ง :b32:

โฮฮับ อริยมรรค ปฏิบัติที่จิต
สิ่งที่คุณบอกมา คืออาการของจิต ไม่ใช่มรรค
นามรูปมีเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
โฮฮับคงไม่ลืม นะครับ

กระบวนการปฏิจจดับแบบโฮฮับ ไงล่ะครับ นั่งเทียนออกมาอีกแน่ะ

ตราบใดที่จิตยังดำรงอยู่ โดยเหตุปัจจัย
ถึงเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จะเกิดดับอย่างไร
อริยมรรค ก็ยังสืบต่อไปตราบเท่าที่จิตยังภาวนาอยู่
อริยมรรค ไม่ได้ดับไปตาม เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
หากแม้ ปฏิบัติอริยมรรคที่ขันธ์ 5 อริยมรรค ก็จะเกิดดับไปพร้อมกับขันธ์ 5
โฮฮับ คงไม่เคยปฏิบัติธรรม จึงไม่รู้ไม่เห็น ว่าจิต ต่างจากขันธ์ 5 จริงๆ

ในอรหัตผล รูปนาม ดับไปแล้ว
ในอรหัตผล ไม่มีแม้ชราและมรณะ
ในอรหัตผล จิตบรรลุอมตะธาตุ
:b32: :b17:
ถ้าจิต เป็นประการเดียวกันกับขันธ์ 5
ในวิชชาแรก คือการระลึกชาติได้ของพระพุทธองค์
พระพุทธองค์ ทรงระลึกถึงขันธ์ได้กาลก่อน
ขันธ์ 5 ในกาลก่อนแตกดับ จิตของพระองค์ก็คงแตกดับตามไปด้วย ระลึกถึงขันธ์ในกาลก่อนคงไม่ได้
จริงหรือไม่จริงโฮฮับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าวนี่ยังคุยเรื่องนี้กันไม่จบอีกเหรอ เห็นคุยกับเรื่องนี้เป็นชาติละ กะคุยยันตายเลยนะนี่ ว๊าาาา
:b22: :b22: :b22:
ฮาฮ๊าฮา

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 17:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอ้า ไหนๆก็เข้ามาช่วยกันขุดๆๆๆ กระทู้หน่อยนะค๊าฟฟฟฟ สะสมโพสต์ได้สัก 1,000 โพสต์ล่ะก็นะคุณแม่ปลื๊มปลื้ม รีบเข้ามาช่วยกันโพสต์ด้วยนะทุกโค้นนนนนน อย่าลืมกดไลค์ให้ด้วยนะ บ๊ะเจ้าาาาารูปภาพ
ฮานะเจ้ามะฮะ กั๊ก กั๊ก กั๊ก

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 18:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 35


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ขนมจีบซาลาเปา เขียน:
..

แก้ไขล่าสุดโดย ขนมจีบซาลาเปา เมื่อ 11 พ.ค. 2012, 15:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

ช้าไปแล้วครับ :b32:


cry cry ..เสียใจจริงๆค่ะ ตาไวจังนะค่ะ cry cry เฮ้อ.. :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 18:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 35


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ขนมจีบซาลาเปา เขียน:
โฮฮับ เขียน:
คุณครับที่ว่าเข้าใจน่ะเข้าใจจริงหรือเปล่า ให้ผมทดสอบอารมณ์แบบที่
ชาวบ้านเขาชอบพูดกันมั้ยครับ จะชี้ให้เห็นเลยว่า คำพูดของคุณ ความเห็นของคุณ
ที่แสดงออกมา มันมีสังโยชน์สามอย่างไร ที่รู้วิจิกิจฉายังเต็มเปี่ยมอยู่เลยครับ


สังโยขน์3 มีอะไรบ้างค่ะ เอาตามเข้าใจของคุณโฮนะค่ะ ไม่ต้องเอาบัญญัติมาพูดกัน เรานักปฎิบัติคุยกันอย่างง่ายๆ เอาใจคุยด้วยใจแต่เขียนออกมาเป็นตัวอักษรในสิ่งที่คุณโฮเข้าใจ เอาแค่นิยามก่อน ค่ะ...เราจะได้คุยกันแบบเป็นหลักการ ...เพราะจริงแล้ว คุณเป็นคนคุยสนุกจากที่ได้อ่านๆของคุณมา แต่ในส่วนตัวดิฉันคิดว่า ดิฉันคงเหนื่อยในการคุยกับคุณ เพราะสำนวนคุณนั้นแพรวพราวดิฉันคงตามไม่ทัน ดิฉันจะคุยกับคุณในแบบของดิฉันแล้วกัน ตอนนี้เอาแค่สังโยชน์3 ในแบบที่คุณเข้าใจ บัญญัตนะ หาอ่านได้มากมาย คนปฎิบัติธรรมเพื่อเดินทางถึงพระนิพพานนะ เข้าอ่านสังโยชน์10 กันทุกคนอยู่แล้ว หาอ่านที่ไหนก็ได้ แต่เรามาคุยเรื่องความเข้าใจในสังโยชน์3 กันดีกว่า

คุณ7/11ครับ ตั้งสติให้ดีก่อนแล้วก็ลำดับ ความเห็นของคุณกับของผมใหม่ครับ

มันเป็นคุณไม่ใช่หรือที่บอกว่าเข้าใจหมดแล้ว
ผมต่างหากที่ต้องถามคุณครับ ไม่ใช่คุณมาถามผม
ผมจะสอบอารมณ์คุณ ผมต้องเป็นผู้ถาม

แล้วอีกอย่างนะครับยังไม่ได้สอบอารมณ์เลยถอดใจซะแล้ว
หาว่าผมพูดจาแพรวพราว ไอ้พูดจาแบบนี่แหล่ะที่งัดเอากิเลสคน
ออกมาเต้นมูนวอล์คหลายคนแล้ว

เอาใหม่นะครับ ที่คุณถามผมคุณต้องตอบมาก่อนครับ:b13:


จริงๆ ที่ลบน่ะ เพราะอยากอยู่อยากสงบ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับใคร..ตามใจคุณเถอะ เพราะเราถือว่าเราได้ลบไปแล้ว แต่คุณสามารถขุดมันขึ้นมาได้..คุณจะว่าอย่างไรก็ตามใจ สังโยชน์แค่สัก 1 ข้อ ดิฉันไม่ได้ก็ตามใจ ว่าเราเป็นคนหลงตนกัตามใจ ว่าเราเป็นคนบ้าก็ตามใจ แล้วแต่ใจของคนจะตัดสิน เพราะคุณมีมาตรฐานของคุณเองในการตัดสินใจคนอื่นอยู่แล้ว ไม่ว่า ดิฉันจะพูดอย่างไรหรือให้เหตุผลอะไรไป มันก็ไมมีผลหรอก เพราะคุณได้ตัดสินใจในตัวเราไปแล้ว..เมื่อเราคิดว่า เราผิดเองที่ไปต่อความยาวสาวความยืด มันเลยเป็นอย่างนี้..เฮ้อ..ใครแต่งตั้งคุณให้เป็นคนตัดสินใจหรือเป็นคนทดสอบคนอื่นค่ะ คุณเอามาตรฐานอะไรในการตัดสินใจหรือทดสอบจิตคนอื่น เอาธรรมใดมาเป็นมาตรฐานค่ะว่า คนนั้นสอบตก คนนั้นสอบได้ ทุกคนต่างทำดี ต่างคนต่างดี แต่ดีของเขาก็คือดีในทางของเขา เราจะเอาดีของเราไปตัดสินคนอื่นได้อย่างไร..ผลกรรมดิฉันได้รับแล้วในทันที เนื่องจากคุณสามารถขุดในสิ่งที่ดิฉันลบขึ้นมาได้..เราจำเป็นต้องตอบคำถามคุณไหม ในเมื่อคุณยังไม่ตอบคำถามเรา เพราะคุณจะเอาอะไรมาตัดสิน คุณต้องบอกเกณฑ์ในการตัดสินใจก่อน ไม่ใช่ว่า ใช้มาตรฐานของคุณมาวัด เพราะเรายังไม่ใช้มมาตรฐานตัวเองตัดสินคนอื่นเลย ในเมื่อเรายังไม่ถึงสังโยชน์10 เมื่อคุณก็ยังไม่ถึงสังโยชน์10 คุณจะเอาอะไรมาวัดดิฉัน...เอาแบบแฟร์ๆดิ แบบว่า บอกเกณฑ์ก่อน ว่าจะคุยเรื่องสังโยขน์10 เป็นหลักใช่หรือไม่..ศัพท์ธรรมวิชาการเยอะ ถ้าคุณเอามาใช้ดิฉันก็จบกัน..คุยกันธรรมดาได้ม่ะ สำนวนเยอะ ปวดหัว..ตั้งเกรฑ์มาก่อน แล้วเราจะคุยด้วย อยากทดสอบเราไม่ใช่หรือ..ก็คุณตั้งตัวเพื่อจะทดสอบเรา งั้นเรามาคุยเกณฑ์มาตรฐานกันก่อน เราบอกก่อน เราไม่เก่งเรื่องมหาสติมากนัก เราได้กรรมฐาน40 และสังโยชน์ ได้สายจิตที่ปฎิบัติอีกนิดหน่อย แต่ถ้าคุณเรื่องศัพท์ธรรมวิชาการขอผ่าน แต่ถ้าคุยเรื่องปฎิบัติล้วนๆ เราก็โอเคน่ะ..เอาแบบว่าคุยกันตรงๆ ข้างๆคูๆ แถๆ ไถๆไปไม่เอา..ปวดหัวกับสำนวนของคุณ..อยากทดสอบเรามา..เราจะเอาภูมิทุกภูมิที่เราสะสมมา มาคุยกับคุณ เราอยากทดสอบตัวเองเหมือนกัน ว่า ภูมิที่เราสะสมมานั้นจะผ่านเกณฑ์มาตรฐานของคุณหรือไม่..แต่เราก็ว่าเราก็บ้าพอน่ะ เพราะเกณฑ์ในการตัดสินนั้น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ตั้งเกณฑ์ไว้แล้วให้ปฎิบัต แต่มีคุณนี้แปลกที่ตั้งตัวเองอีกคนว่า คนนั้นจะผ่านเกณฑ์ได้ ต้องผ่านการยั่วของคุณมาก่อน..ลึกๆเราว่าไร้สาระน่ะ เราถึงลบออกน่ะ...แต่ถ้าคุณจะท้ารบเราจริงๆ มาเลย แต่ขออย่าง แถไปทางข้าง ถูๆไถๆตามสำนวน อย่าเอาศัทพ์ธรรมมาเล่นคำ ตามแบบของคุณน่ะ...เราได้มหาสตินิดหน่อย สังโยชน์ก็อ่านมาครบ10 แต่ทำได้ก็ไม่ครบนิดหน่อย กรรมฐาน40 อ่านครบแต่ทำได้นิดหน่อย คุณชอบแบบนี้ใช่ไหม..แต่จริงๆน่ะ กับคุณน่ะ ดิฉันจะอวดสักร้อยรอบก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะดิฉันถือแค่ศีล5 อวดสักนิดก็ไม่ิผิดศีลอะไรหรอก มา..มาคุยกันตรงๆ ห้ามแถไปด้านข้าง ไถไปข้างๆคูๆ..แล้วเราจะคุยด้วย อยากท้ารบกับเราไม่ใช่หรือ เราเห็ฯหลายกระทู้แล้ว...มา กันสักตั้ง เราอยากรู้เหมือนกัน..ว่าภุมิที่เรามีนั้น พอทนพอทานการยั่วแบบข้างๆคูๆ ของคุณได้หรือป่าว


แก้ไขล่าสุดโดย ขนมจีบซาลาเปา เมื่อ 11 พ.ค. 2012, 18:33, แก้ไขแล้ว 4 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 18:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:

พิสูจน์โดยประสบการณ์ตรงอย่างไร โดยไม่ต้องคิดพิจารณาปฏิจสมุปบาท




ที่ว่าพิจารณากันนั่นน่า มันพิจารณาตัวอักษรเหล่านี้ฮิ

อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส = ทุกขสมุทัย


นี่ปฏิจจสมุปบาทของจริงจากประสบการณ์ตรง :b1:



เมื่อไหร่รู้เข้าใจแล้วมันสงบระงับ จะเป็นไปตามตัวอักษรเหล่านี้ฮิ :b1:

(วิชชา) อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส = ทุกขนิโรธ

คุณน้องไม่เห็นด้วยนะถ้า คนไม่เข้าถึงธรรมแล้วไปนั่งกรรมฐาน มีแต่ฟุ้งซ่านกับฟุ้งซ่าน ศีลบริสุทธิ์ดีแล้วหรือ คนที่ศีลไม่บริสุทธิ์มักจะมีอาการแปลกๆ จิตวิปลาศ เพราะนั่งนานเกินไป การนั่งคือการทำจิตใจให้สงบแต่ถ้าปรุงแต่งฟุ้งซ่านไม่ควรนั่งนาน เพราะจะสติแตกปรุงแต่งไปตามจิตใต้สำนึกของตน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 18:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
คุณน้องไม่เห็นด้วยนะถ้า คนไม่เข้าถึงธรรมแล้วไปนั่งกรรมฐาน มีแต่ฟุ้งซ่านกับฟุ้งซ่าน ศีลบริสุทธิ์ดีแล้วหรือ คนที่ศีลไม่บริสุทธิ์มักจะมีอาการแปลกๆ จิตวิปลาศ เพราะนั่งนานเกินไป การนั่งคือการทำจิตใจให้สงบแต่ถ้าปรุงแต่งฟุ้งซ่านไม่ควรนั่งนาน เพราะจะสติแตกปรุงแต่งไปตามจิตใต้สำนึกของตน



คุณ nong เข้าใจกรรมฐานยังไง เล่าตามที่ตนเองเข้าใจสิครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
คุณน้องไม่เห็นด้วยนะถ้า คนไม่เข้าถึงธรรมแล้วไปนั่งกรรมฐาน มีแต่ฟุ้งซ่านกับฟุ้งซ่าน ศีลบริสุทธิ์ดีแล้วหรือ คนที่ศีลไม่บริสุทธิ์มักจะมีอาการแปลกๆ จิตวิปลาศ เพราะนั่งนานเกินไป การนั่งคือการทำจิตใจให้สงบแต่ถ้าปรุงแต่งฟุ้งซ่านไม่ควรนั่งนาน เพราะจะสติแตกปรุงแต่งไปตามจิตใต้สำนึกของตน



คุณ nong เข้าใจกรรมฐานยังไง เล่าตามที่ตนเองเข้าใจสิครับ :b1:

คุณน้องก็นั่งกรรมฐานไปตามความเข้าใจของตน ไม่ได้มีครูบาอาจารย์ แค่กำหนดจิตให้ระลึกอยู่กับ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แค่นั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนแล้วอารมณ์คุณน้อง ก็โปร่ง สบาย ตลอด ไม่ได้ไปหงุดหงิดหรือโกรธใครมา ส่วนนิมิตเป็นแสงม่วงๆดำๆ ก็มีแว๊บเข้ามาเล่นกะจิตเราแต่คุณน้องไม่ได้ไปเพ่งแสงคุณน้องก็กำหนดจิตตามรู้อารมณ์ฌานไปเรื่อยๆ คุณน้องอยู่ที่ฌาน1 เพราะเกิดปิติ ตัวโยกไปมาแล้วก็สงบนิ่งเบาสบาย สลับกันอยู่แบบนี้ ทั้งที่มีเสียงภายนอกดังมาเป็นระยะก็ไม่ติดใจเสียงภายนอก ยังเข้าสมาธิระดับลึกกว่านี้ไม่ได้เพราะไม่มีโอกาส ไม่ได้นั่งนานหรอก แค่ 30-40นาที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:

พิสูจน์โดยประสบการณ์ตรงอย่างไร โดยไม่ต้องคิดพิจารณาปฏิจสมุปบาท




ที่ว่าพิจารณากันนั่นน่า มันพิจารณาตัวอักษรเหล่านี้ฮิ

อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส = ทุกขสมุทัย


นี่ปฏิจจสมุปบาทของจริงจากประสบการณ์ตรง :b1:



เมื่อไหร่รู้เข้าใจแล้วมันสงบระงับ จะเป็นไปตามตัวอักษรเหล่านี้ฮิ :b1:

(วิชชา) อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส = ทุกขนิโรธ

คุณน้องไม่เห็นด้วยนะถ้า คนไม่เข้าถึงธรรมแล้วไปนั่งกรรมฐาน มีแต่ฟุ้งซ่านกับฟุ้งซ่าน ศีลบริสุทธิ์ดีแล้วหรือ คนที่ศีลไม่บริสุทธิ์มักจะมีอาการแปลกๆ จิตวิปลาศ เพราะนั่งนานเกินไป การนั่งคือการทำจิตใจให้สงบแต่ถ้าปรุงแต่งฟุ้งซ่านไม่ควรนั่งนาน เพราะจะสติแตกปรุงแต่งไปตามจิตใต้สำนึกของตน


จะบอกให้ แบบนี้ผมก็เคยทำนะ คือแบบว่าเห็นเขาทำแล้วเกิดอาการหมั่นไส้น่ะ เลยทำบ้าง ผมนี่แกล้งดิ้นไปดิ้นมาทุรนทุราย ร้องว๊ากๆๆเสียงดังลั่งแล้วก็ลุกขึ้นมาเต้นระบำไปร้องไปหัวเราะไป คือที่ทำทั้งหมดน่ะแกล้งทำ ก็ด้วยความหมั่นไส้ไง ผมว่ามันบ้า สติไม่ดี
ฮาฮ๊าฮา

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2012, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลงซะ เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เช่นนั้น เขียน:

พิสูจน์โดยประสบการณ์ตรงอย่างไร โดยไม่ต้องคิดพิจารณาปฏิจสมุปบาท




ที่ว่าพิจารณากันนั่นน่า มันพิจารณาตัวอักษรเหล่านี้ฮิ

อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส = ทุกขสมุทัย


นี่ปฏิจจสมุปบาทของจริงจากประสบการณ์ตรง :b1:



เมื่อไหร่รู้เข้าใจแล้วมันสงบระงับ จะเป็นไปตามตัวอักษรเหล่านี้ฮิ :b1:

(วิชชา) อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส = ทุกขนิโรธ

คุณน้องไม่เห็นด้วยนะถ้า คนไม่เข้าถึงธรรมแล้วไปนั่งกรรมฐาน มีแต่ฟุ้งซ่านกับฟุ้งซ่าน ศีลบริสุทธิ์ดีแล้วหรือ คนที่ศีลไม่บริสุทธิ์มักจะมีอาการแปลกๆ จิตวิปลาศ เพราะนั่งนานเกินไป การนั่งคือการทำจิตใจให้สงบแต่ถ้าปรุงแต่งฟุ้งซ่านไม่ควรนั่งนาน เพราะจะสติแตกปรุงแต่งไปตามจิตใต้สำนึกของตน


จะบอกให้ แบบนี้ผมก็เคยทำนะ คือแบบว่าเห็นเขาทำแล้วเกิดอาการหมั่นไส้น่ะ เลยทำบ้าง ผมนี่แกล้งดิ้นไปดิ้นมาทุรนทุราย ร้องว๊ากๆๆเสียงดังลั่งแล้วก็ลุกขึ้นมาเต้นระบำไปร้องไปหัวเราะไป คือที่ทำทั้งหมดน่ะแกล้งทำ ก็ด้วยความหมั่นไส้ไง ผมว่ามันบ้า สติไม่ดี
ฮาฮ๊าฮา

แต่บางคนเขาก็เป็นจริงๆไม่ได้แกล้ง เคยเห็นในข่าวเด็กนักเรียนผู้หญิง นั่งกรรมฐาน ร้องกรี๊ดเหมือนถูกเชือด แล้วผู้ปกครองพาไปพบหมอเชคร่างกาย หมอบอกเส้นประสาทตาแตกหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ จำไม่ได้แล้ว :b5:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 338 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20 ... 23  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร