วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 11:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 278 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 10:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ

ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 10:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง



ไม่มีคนมีแต่จิต แต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q




ไม่มีคน มีแต่จิต

มีแต่จิต ไม่มีคน แล้วจิตมันจะอยู่กับใครล่ะ ถ้าไม่อยู่กับคน กับตัว คิกๆๆ

คุณโรสน่าจะสับสน เรื่องจิตนี่อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง สับสนเรื่องคน อิอิ จะบร้าตายย :b32:

นี่่คือพุทธธรรม ซึ่งไม่เหมาะเลยกับคนทั่วๆไป คนทั่วๆไปนั่นเหมาะกับคำสอนเหมาะกับศาสนาที่มีพระเจ้าผู้สร้างสรรค์สรรพสิ่ง :b32:

ส่วนพุทธธรรมนั่นเป็นเรื่องของคนหมดทั้งเนื้อทั้งตัว เรื่องของชีวิตจิตใจ มันใกล้ตัวเกินไป :b16: พูดยาก เหมือนขนคิ้ว ติดกับหน้าแท้ๆแต่มองไม่เห็น

:b32:

มีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงกับทุกคำในพระไตรปิฎกตนรู้ไม่ตรงก็คือมีีกิิเลสอวิชชาไม่มีปัญญา
ก็มีแต่ธัมมะแต่ละ1ที่ต่างอันต่างจริงกำลังแยกกันเกิดดับเป็นแต่ละ1ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไง
มีคนทั้งตัวที่ไหนการรู้ตรงสัจจะที่เป็นอริยสัจจธรรมต้องรู้ตรงปัจจุบันขณะตามลำดับปัญญาเริ่มที่ฟัง


ศิษย์แม่สุจินแห่งบ้านธัมมะ เลอะเทอะ เสียเวลาเปล่า ไอ้เรืองว่า เอาเวลาไปปลูกผักปลูกมะเขือส่งตลาดไทได้ประโยชน์กว่า อิอิ ถ้าปลูกไม่มากไม่มายก็ปลูกแค่พอไม่ต้องซื้อเขากินก็ทุ่นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนไปได้เยอะ :b32:

:b32:
ปัจจุบันขณะคือเดี๋ยวนี้ใช่ไหมที่กำลังไม่รู้กำลังลังเลสงสัยถึงได้ถามเพราะอยากรู้
:b32:
ก็ดับไปแล้วผ่านไปแล้วก็ไม่รู้ว่าอดีตผ่านไปแล้วเอากลับมาแก้ให้ถูกตรงไม่ได้ไงคะ
ที่กำลังลังเลสงสัยอยู่เดี๋ยวนี้ก็คือไม่รู้ว่าความจริงที่กายใจตนเองดับนับไม่ถ้วนไม่ทันคือกิเลสล่ะ
จนกว่าจะเริ่มสะสมปัญญาเพื่อไตร่ตรองให้รอบรู้ทันปัจจุบันขณะเดี๋ยวนี้แหละที่ขาดสุตะคือขาดปัญญา
อนาคตนั้นมาไม่ถึงเพราะมัวแต่ลังเลจะหาทางแก้โดยมีตัวตนไปทำลืมไปนะว่าปัญญาแรกเกิดจากฟังจริงม๊ะ
:b32: :b32: :b32:

:b13:
แค่ฟังยังเอากิเลสไม่ทันแล้วไม่ฟังนี่ไหลไปเองเลยดักให้ตรงตามคำตถาคตไม่ทันแม้1คำก็ไม่ทันเลยสักทาง
เพราะความจริงเกิดดับตามเหตุตามปัจจัยที่กายใจตนเองกำลังเป็นไปตรงตามที่ตถาคตตรัสรู้แต่ตนไม่รู้ไง
:b32: :b32:



เลอะเทอะไร้สาระ :b32:

:b12:
มีแต่กิเลสตนที่ทำร้ายจิตตน
ประมาทกิเลสตนเองก็สะสม
ไม่มีใครบันดาลปัญญามาให้
เพราะตถาคตบอกความจริง
ไม่พึ่งคิดตามก็ไม่รู้ไปเรื่อยๆ
ใครจะทำอะไรได้แม้ตถาคต
เทศนาจากพระโอษฐ์โดยตรง
ทุกคนสมัยนั้นได้ฟังทุกคนไหมคะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 10:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

สัจจะมีที่กายใจตนกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางมัวแต่ดูข้างนอกมาทับถมตน
อยู่ดีๆไม่มีเหตุปัจจัยมาทำให้โกรธจะโกรธไหมคนได้ยินก็ขุ่นใจตามไปด้วยไง
มีคนมาด่านี่ด่าตอบไหมคริคริคริคนบ้า2คนทะเลาะกันให้ได้ยินใจตัวเองเป็นไงถึงไปได้ยินล่ะทำกรรมไรมา
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 12 ต.ค. 2018, 11:08, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

สัจจะมีที่กายใจตนกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางมัวแต่ดูข้างนอกมาทับถมตน
อยู่ดีๆไม่มีเหตุปัจจัยมาทำให้โกรธจะโกรธไหมคนได้ยินก็ขุ่นใจตามไปด้วยไง

มีคนมาด่านี่ด่าตอบไหมคริคริคริคนบ้า2คนทะเลาะกันให้ได้ยิน ใจตัวเองเป็นไงถึงไปได้ยินล่ะทำกรรมไรมา


มาอีกแว้วนิครนถ์ เวนกำ เอางี้ดิ ถ้าไม่อยากได้ยิน ก็หาอะไรทะลวงหูสะให้หนวก จะได้ไม่ได้ยิน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

สัจจะมีที่กายใจตนกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางมัวแต่ดูข้างนอกมาทับถมตน
อยู่ดีๆไม่มีเหตุปัจจัยมาทำให้โกรธจะโกรธไหมคนได้ยินก็ขุ่นใจตามไปด้วยไง

มีคนมาด่านี่ด่าตอบไหมคริคริคริคนบ้า2คนทะเลาะกันให้ได้ยิน ใจตัวเองเป็นไงถึงไปได้ยินล่ะทำกรรมไรมา


มาอีกแว้วนิครนถ์ เวนกำ เอางี้ดิ ถ้าไม่อยากได้ยิน ก็หาอะไรทะลวงหูสะให้หนวก จะได้ไม่ได้ยิน

ทุกอย่างเกิดที่จิตดับที่จิตไปแล้วนี่จะทำอะไรถ้าไม่เริ่มฟังจะเข้าใจได้รึ...แก้ความไม่รู้ที่กำลังมีได้ตอนกำลังฟัง


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 12 ต.ค. 2018, 11:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไปทำมาบ้านธัมมะ เลอะเทอะชัดเจน คือ เรียนอภิธรรมแล้วเหมือนคนละเมอเพ้อเจ้อ คิกๆๆ

จบข่าว เสียเวลาไร้สาระ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

สัจจะมีที่กายใจตนกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางมัวแต่ดูข้างนอกมาทับถมตน
อยู่ดีๆไม่มีเหตุปัจจัยมาทำให้โกรธจะโกรธไหมคนได้ยินก็ขุ่นใจตามไปด้วยไง

มีคนมาด่านี่ด่าตอบไหมคริคริคริคนบ้า2คนทะเลาะกันให้ได้ยิน ใจตัวเองเป็นไงถึงไปได้ยินล่ะทำกรรมไรมา


มาอีกแว้วนิครนถ์ เวนกำ เอางี้ดิ ถ้าไม่อยากได้ยิน ก็หาอะไรทะลวงหูสะให้หนวก จะได้ไม่ได้ยิน

ทุกอย่างเกิดที่จิตดับที่จิตไปแล้วนี่จะทำอะไรถ้าไม่เริ่มฟังจะเข้าใจได้รึ...แก้ความไม่รู้ที่กำลังมีได้ตอนกำลังฟัง


วนกลับไปฟังอีก :b4: :b4:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ทำไปทำมาบ้านธัมมะ เลอะเทอะชัดเจน คือ เรียนอภิธรรมแล้วเหมือนคนละเมอเพ้อเจ้อ คิกๆๆ

จบข่าว เสียเวลาไร้สาระ :b13:

:b1:
ที่ไปไหนๆไปแสวงหานายช่างผู้สร้างเรือนทั้งนั้นแหละไปธนาคาร
ไปตลาดไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินวัตถุสิ่งของ
เป็นกิจวัตรปกติของเพศคฤหัสถ์ส่วนบรรพชิตสละเพศคฤหัสถ์ทำถูกไหมล่ะ555
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

สัจจะมีที่กายใจตนกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางมัวแต่ดูข้างนอกมาทับถมตน
อยู่ดีๆไม่มีเหตุปัจจัยมาทำให้โกรธจะโกรธไหมคนได้ยินก็ขุ่นใจตามไปด้วยไง

มีคนมาด่านี่ด่าตอบไหมคริคริคริคนบ้า2คนทะเลาะกันให้ได้ยิน ใจตัวเองเป็นไงถึงไปได้ยินล่ะทำกรรมไรมา


มาอีกแว้วนิครนถ์ เวนกำ เอางี้ดิ ถ้าไม่อยากได้ยิน ก็หาอะไรทะลวงหูสะให้หนวก จะได้ไม่ได้ยิน

ทุกอย่างเกิดที่จิตดับที่จิตไปแล้วนี่จะทำอะไรถ้าไม่เริ่มฟังจะเข้าใจได้รึ...แก้ความไม่รู้ที่กำลังมีได้ตอนกำลังฟัง


วนกลับไปฟังอีก :b4: :b4:

:b32:
ฟังบ้างเทอะยากที่จะได้เกิดมาเป็นคน
แถมมีตาไม่บอดและหูไม่หนวกขาดแค่ฟัง
ก็ที่ทุกชีวิตที่เกิดอยู่นี่เพราะไม่มีปัญญาไม่รู้เหรอคะ
พระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่เกิดมาให้เห็นหน้าส่วนคนตายก็ไม่กลับมาบอก
มีแต่คนตัวเป็นๆที่ขาดการฟังคำสอนเพื่อสร้างปัญญาให้เกิดสัมมาตามคำสอนได้ไงคะ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 11:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

สัจจะมีที่กายใจตนกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางมัวแต่ดูข้างนอกมาทับถมตน
อยู่ดีๆไม่มีเหตุปัจจัยมาทำให้โกรธจะโกรธไหมคนได้ยินก็ขุ่นใจตามไปด้วยไง

มีคนมาด่านี่ด่าตอบไหมคริคริคริคนบ้า2คนทะเลาะกันให้ได้ยิน ใจตัวเองเป็นไงถึงไปได้ยินล่ะทำกรรมไรมา


มาอีกแว้วนิครนถ์ เวนกำ เอางี้ดิ ถ้าไม่อยากได้ยิน ก็หาอะไรทะลวงหูสะให้หนวก จะได้ไม่ได้ยิน

ทุกอย่างเกิดที่จิตดับที่จิตไปแล้วนี่จะทำอะไรถ้าไม่เริ่มฟังจะเข้าใจได้รึ...แก้ความไม่รู้ที่กำลังมีได้ตอนกำลังฟัง


วนกลับไปฟังอีก :b4: :b4:

ปัญญาตนเองรู้ตรงได้แค่คิดตรง1คำตรงตัวธัมมะ
คิดตามให้มันตรงทางเกิด
จิตเห็นสี1สีดับ
จิตได้ยินเสียง1เสียงดังหรือเบาดับ
จิตได้กลิ่น1กลิ่นดับ
จิตรู้1รสดับ
จิตรู้เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวแค่1ลักษณะ
จิตคิดถูกตามทีละ1คำเท่านั้นดับ
ทั้งหมดมันสลับกันไม่พร้อมกันมีแล้วเดี๋ยวนี้ค่ะดับหมดแล้วด้วยทำอะไรได้ไหมคะ
ทั้งหมดเนี่ยคิดตรงทางแค่1ลักษณะตรงที่กายใจตนมีก็ดับทั้ง6ทางนับไม่ถ้วนกิเลสใหม่เยอะน๊า555
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 12:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นำคุณสมบัติของจิต หรือที่ชอบเรียกกันว่าเจตสิกมาวางให้ทัศนากัน ซึ่งทั้งอกุศล ทั้งกุศล


@ อกุศลเจตสิก (เจตสิกที่เป็นอกุศล) ๑๔ คือ

(๑) อกุศลสาธารณเจตสิก (เกิดกับจิตที่เป็นอกุศลทุกดวง) ๔ คือ โลภะ อหิริกะ อโนตตัปปะ และอุทธัจจะ

(๒) ปกิณณกอกุุศลเจตสิก (เกิดกับจิตที่เป็นอกุศลแต่ไม่ตายตัวทุกครั้ง) ๑๐ คือ โลภะ ทิฏฐิ มานะ โทสะ อิสสา มัจฉริยะ กุกกุจจะ ถีนะ มิทธะ และวิจิกิจฉา



@ โสภณเจตสิก เจตสิกฝ่ายดีงาม มี ๒๕ แบ่งเป็น

ก. โสภณสาธารณเจตสิก (เจตสิกที่เกิดทั่วไปกับจิตดีงามทุกดวง) ๑๙ คือ

ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ อโลภะ อโทสะ ตัตรมัชฌัตตตา (ความเป็นกลางในอารมณ์นั้นๆ = อุเบกขา)

กายปัสสัทธิ (ความคลายสงบแห่งกองเจตสิก) จิตตปัสสัทธิ (แห่งจิต)

กายลหุตา (ความเบาแห่งกองเจตสิก) จิตตลหุตา (แห่งจิต)

กายมุทุตา (ความนุ่มนวลแห่งกองเจตสิก) จิตตมุทุตา (แห่งจิต)

กายกัมมัญญุตา (ความควรแก่งานแห่งกองเจตสิก) จิตตกัมมัญญุตา (แห่งจิต)

กายปาคุญญตา (ความคล่องแคล่วแห่งกองเจตสิก) จิตตปาคุญญตา (แห่งจิต)

กายุชุกตา (ความซื่อตรงแห่งกองเจตสิก) จิตตุชุกตา (แห่งจิต)

ข. วีรตีเจตสิก (เจตสิกที่เป็นตัวงดเว้น) ๓. คือ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ

ค. อัปปมัญญาเจตสิก (เจตสิกคืออัปปมัญญา) ๒ คือ กรุณา มุทิตา (อีก ๒ ซ้ำกับ อโทสะ และตัตรมัชฌัตตตา)

ง. ปัญญินทรียเจตสิก ๑ คือ ปัญญินทรีย์ หรืออโมหะ


เจตสิกเป็นธรรมชาติที่เกิดร่วมกับจิต คือ เป็นคุณสมบัติของจิต ตำราท่านแยกไว้ละเอียด ใครเรียนเพื่อนำไปสอบสนามเพื่อวัดความรู้ก็ต้องท่องจำให้ได้ จำไม่ได้ก็สอบตก

แต่ผู้ที่ปฏิบัติเพื่อต้องการรู้จักรู้เท่าทันมัน ไม่ต้องแยกกันขนาดนั้น เพียงแต่สังเกตความรู้สึกนึกคิดแต่ละครั้งละขณะๆที่คิดที่นึกก็พอ คิดดีเป็นกุศลจิต คิดไม่ดีก็เป็นอกุศลจิต ทั้งจิตทั้งเจตสิกก็รวมอยู่ด้วยกัน (เกิดพร้อม, ดับพร้อมกัน, มีอารมณ์เป็นอย่างเดียวกัน.)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ปรโตโฆสะ ระยะนี้ คุณโรสพูดบ่อยเหมือนกัน จะนำหลักมาวางให้ดูด้วย แล้วก็บอกว่า แม่สุจินไปพูดที่นี่ที่นั่นก็ดี จากยูทูปก็ดี นี่เรียกปรโตโฆสะ นี่ตอนหนึ่ง

ส่วนผู้ติดตามฟัง เช่น คุณโรสเป็นต้น ฟังจากไหนก็แล้วแต่ฟังแล้วจะมีโยนิโสมนสิการ หรือมี อโยนิโสมนสิการ นี่อีกตอนหนึ่ง

ไม่มีคนมีแต่จิตแต่ละ1เกิดดับไม่ซ้ำเข้าใจไหมดับไม่ย้อนกลับมาให้รู้อีก
เห็นแค่สีกระทบตาดับทันทีมีสิ่งที่กำลังเห็นไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด
มีแค่เสียงคำตถาคตเท่านั้นที่บอกทางแก่คนหลงทาง5555
ตถาคตทรงตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้ได้เองขาดแค่ฟัง
https://youtu.be/e55hZH0zG1Q


ถ้ายังงั้น กิเลส มีโทสะ เป็นต้น ดับไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก ใช่หรือไม่

ตอบตรงๆ ไม่ต้องชักแม่น้ำมากสาย เอาแค่ว่า ใช่ ไม่ใช่ พอ

:b12:
นี่แหละน๊าคนมีกิเลสแต่ไม่รู้ตัวว่าตนมีกิเลสเพราะขาดสุตมยปัญญาไงคะกิเลสเกิด2แบบ
1โมหะ+โทสะ...ขุ่นใจแม้เพียงเล็กน้อยไปจนถึงล่วงออกมาด่าคนจนบันดาลโทสะฆ่าคนได้
2โมหะ+โลภะ...แค่เดินผ่านดอกไม้ชอบดูเฉยๆถึงล่วงออกมาโดยเด็ดออกมาครอบครอง
จะมากหรือน้อยก็คือกิเลสที่สะสมในจิตตัวเองรอปรุงแต่งให้มีกำลังแรงขึ้นสะสมเข้าไปใหม่
แค่เสียงโทรศัพท์ดังก็ขุ่นใจแล้วปล่อยให้ดังนานๆหรือรีบรับล่ะหรือทำเป็นเสียงเพลงรอสาย
ถ้าบรรพชิตมีทุกอย่างแบบตอนเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ใช่การขัดเกลากิเลสแต่เป็นภิกษุหยากเยื่อ


อย่างนี้นะ ถ้าเป็นสนามสอบ เขาให้ตกเลย อิอิ คือ ตอบคำถาม ไม่ดูโจทก์

เขาถามว่า ถ้าอย่างคุณโรสพูด แบบนี้ กิเลส มีโทสะเป็นต้น เกิดแล้ว ดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาเกิดอีกใช่หรือไม่ ?

ดูๆ ดูคุณโรสตอบ


ตอนโกรธน่ะไม่ชอบและไม่รู้ตัวด้วยว่าโกรธแล้วเอาโกรธออกตอนไหนมิทราบ ได้ทรงแสดงเรื่องโกรธให้รู้ตัว
ตถาคตตรัสคำว่าโกรธให้คนที่กำลังโกรธรู้ตัวเดี๋ยวนั้นไม่ใช่บอกไปนั่งหลับตาจะหายโกรธอย่างนั้นหรือคะ
คำวาจาสัจจะทุกคำของตถาคตดับกิเลสทุกระดับตามลำดับปัญญาที่ฟังจนรู้จักกิเลสตนเองแจ้งชัดตรงน๊า
รู้สึกตัวตามได้ตอนกำลังฟังตอนมีตัวเป็นๆนะถึงจะคิดตามได้และต้องเป็นคนที่ตาไม่บอดหูไม่หนวกถึงจะรู้



มีใครโกรธทั้งวัน ทั้งปี ทั้งชาติบ้าง ความโกรธมันดับไปพร้อมกับจิต เพราะกิเลสมันก็เป็นเจตสิก คิกๆๆ อยู่ในอกุศลจิต เมื่ออกุศลจิตดับ อกุศลเจตสิก คือ โทสะก็ดับ ถูกไหม

คำถามอยู่ตรงนี้ เมื่อโทสะจิตดับกิเลสคืออกุศลเจตสิกก็ดับไปพร้อมกับจิต (เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน มีอารมณ์อย่างเดียวกัน) เมื่อมันดับแล้ว คือ คนโกรธแล้วก็ดับไปแล้ว เมื่อมันดับไปแล้ว เขาจะกลับมาโกรธอีกไหม

ไหนตอบชัดๆตอบให้ตรงคำถามสักทีเถอะทูลหัวของบ่าว :b13: :b32:

สัจจะมีที่กายใจตนกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางมัวแต่ดูข้างนอกมาทับถมตน
อยู่ดีๆไม่มีเหตุปัจจัยมาทำให้โกรธจะโกรธไหมคนได้ยินก็ขุ่นใจตามไปด้วยไง

มีคนมาด่านี่ด่าตอบไหมคริคริคริคนบ้า2คนทะเลาะกันให้ได้ยิน ใจตัวเองเป็นไงถึงไปได้ยินล่ะทำกรรมไรมา


มาอีกแว้วนิครนถ์ เวนกำ เอางี้ดิ ถ้าไม่อยากได้ยิน ก็หาอะไรทะลวงหูสะให้หนวก จะได้ไม่ได้ยิน

ทุกอย่างเกิดที่จิตดับที่จิตไปแล้วนี่จะทำอะไรถ้าไม่เริ่มฟังจะเข้าใจได้รึ...แก้ความไม่รู้ที่กำลังมีได้ตอนกำลังฟัง


วนกลับไปฟังอีก :b4: :b4:

ปัญญาตนเองรู้ตรงได้แค่คิดตรง1คำตรงตัวธัมมะ
คิดตามให้มันตรงทางเกิด
จิตเห็นสี1สีดับ
จิตได้ยินเสียง1เสียงดังหรือเบาดับ
จิตได้กลิ่น1กลิ่นดับ
จิตรู้1รสดับ
จิตรู้เย็นร้อนอ่อนแข็งตึงไหวแค่1ลักษณะ
จิตคิดถูกตามทีละ1คำเท่านั้นดับ
ทั้งหมดมันสลับกันไม่พร้อมกันมีแล้วเดี๋ยวนี้ค่ะดับหมดแล้วด้วยทำอะไรได้ไหมคะ
ทั้งหมดเนี่ยคิดตรงทางแค่1ลักษณะตรงที่กายใจตนมีก็ดับทั้ง6ทางนับไม่ถ้วนกิเลสใหม่เยอะน๊า555
:b32: :b32:


ดับแล้วมันจะกลับมาอีกไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 12:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สรุปคุณโรสศิษย์แม่สุจินได้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ คุณโรสเข้าใจ (จะว่าเข้าใจก็ไม่ถูกนัก จะว่าบ้าอยู่คนเดียวก็แรงไป คิกๆๆ) คือว่า พูดวกไปวนมาซ้ำรอยเดิมนั่นแหละ ครั้นมีคนถามว่า ที่พูดพูดนั่นหมายถึงอะไร ? ตอบไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ตนเองพูดหมายถึงอะไร พูดได้แต่ไม่รู้ว่าอะไร ไม่ฮงนะ ทำนองว่าเขาถามว่า สวัสดีครับคุณโรส ไปไหนมาครับ/ค่ะ ดันตอบว่า 3 วา 2 ศอก

ตัวไปกินอาหารกลางวันมา ก็ตอบเขาไปว่าไปกินข้าวมา ตรงๆแบบนี้ นี่ไม่ ไปไหนมา ? สามวาสองศอก คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2018, 13:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
สรุปคุณโรสศิษย์แม่สุจินได้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ คุณโรสเข้าใจ (จะว่าเข้าใจก็ไม่ถูกนัก จะว่าบ้าอยู่คนเดียวก็แรงไป คิกๆๆ) คือว่า พูดวกไปวนมาซ้ำรอยเดิมนั่นแหละ ครั้นมีคนถามว่า ที่พูดพูดนั่นหมายถึงอะไร ? ตอบไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ตนเองพูดหมายถึงอะไร พูดได้แต่ไม่รู้ว่าอะไร ไม่ฮงนะ ทำนองว่าเขาถามว่า สวัสดีครับคุณโรส ไปไหนมาครับ/ค่ะ ดันตอบว่า 3 วา 2 ศอก

ตัวไปกินอาหารกลางวันมา ก็ตอบเขาไปว่าไปกินข้าวมา ตรงๆแบบนี้ นี่ไม่ ไปไหนมา ? สามวาสองศอก คิกๆๆ


คือเอกอนก็ไม่ค่อยได้เจอบ่อย ๆ แบบนี้อ่ะ ทำไมคุยกับนักปฏิบัติธรรมแท้ ๆ
แต่ทำไมเหมือนกับกำลังคุยกับคนเมาเรยอ่ะ
ไม่ใช่เมาแบบธรรมดานะ เมาแบบเละเป็นแป้งเรยอ่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 278 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร