วันเวลาปัจจุบัน 28 ก.ค. 2025, 16:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 197 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2016, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
6 ตุลา รำลึก..


รูปภาพ
http://www.naewna.com/politic/columnist/26633

อ้างคำพูด:
40 ปี 6 ตุลา...กิจกรรมที่ถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์
สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าวการจัดกิจกรรมระลึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่นายโจชัว หว่องนักเคลื่อนไหววัยรุ่นชาวฮ่องกง จะเป็นวิทยากรคนสำคัญและเผยแพร่ตัวอย่างละครใบ้ที่อ้างว่าจัดแสดง เพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้ขุดคุ้ยประวัติศาสตร์วันทมิฬขึ้นมาถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ความเคลื่อนไหวต่างๆ นี้ ทำให้เห็นความตกต่ำของกิจกรรมเดือนตุลาคมที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนสามานย์

นายโจชัว หว่อง มีชื่อเสียงพอสมควรในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต่อสู้เรื่องประชาธิปไตย แต่ก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า เขาเป็นนักเคลื่อนไหวที่รับใช้ทุนสามานวอลสตรีท หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เคยรายงานว่า สหรัฐอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนายโจชัว หว่อง ในการประท้วงเรียกร้องให้เลือกตั้งเสรีในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่เรียกว่า “ปฏิวัติร่ม” เมื่อเดือน ก.ย. 2557 คราวนั้นเขาได้รับเงินบริจาคการทำกิจกรรมและค่าใช้จ่ายจากชาวสหรัฐ นอกจากนั้นในปี 2554 นายโจชัว หว่อง กับครอบครัวได้รับเชิญจากหอการค้าสหรัฐให้พักที่ Venetian Macao ของบริษัท แซนส์ คอร์ป

นายโจชัว หว่อง เป็นนักเคลื่อนไหวที่รับเงินNEZ ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และจาก FreedomHouse มูลนิธิล้างสมองของนายจอร์จ โซรอร์จในประเทศไทย NEZ และ Freedom House ให้การสนับสนุนการเงินและวิชาการแก่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและ เอ็นจีโอ กลุ่มต่างๆ ดังนั้น การจัดกิจกรรมวาระต่างๆ ของเดือนตุลาคม จึงถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์ปล้นชาติและทุนสามานย์วอลสตรีท


สื่อตะวันตกนอกจากกระพือข่าวนายโจชัว หว่อง ร่วมกิจกรรมครบรอบ 40 ปี 6 ตุลาทมิฬ แล้ว ยังช่วยโหมกระพือข่าวนักเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมกระตุ้นให้คนไทยขุดคุ้ยเหตุการณ์สังหารหมู่ นักศึกษาเมื่อ 40 ปีก่อน ขึ้นมาถกเถียงกันมากขึ้น นายเวร์น เฮร์ จากทีวีฮาลจาซีระห์ เสนอรายงานพิเศษเรื่อง “ละครเวทีกระตุ้นให้คนไทยถกกันถึงความขมขื่นในอดีต”

ภาพข่าวของทีวีฮาลจาซีระห์ฉายให้เห็นภาพนักศึกษาแสดงละครใบ้ พร้อมคำบรรยายจากนายเวร์น เฮร์ว่า“นี่คือตัวอย่างบางตอนของละครที่สื่อให้เห็นถึงปฐมภูมิการสังหารหมู่นักศึกษาในมหาวิทยาธรรมศาสตร์เมื่อปี 2519 ซึ่งผู้กำกับละครบอกว่า ทำไมเราไม่ขุดคุ้ยความจริงขึ้นมาถกเถียงกันให้ตกผลึก” แล้วภาพก็ตัดไปที่นาย TeerawatMulvilai พูดว่า “ผมไม่ชัดเจนในภาพรวมของประเทศนี้ว่า เราจะระลึกถึง (6 ต.ค. 19) ได้อย่างไร เราจะนำมันมาเป็นบทเรียนได้อย่างไร ที่ไม่ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก...”

เสียงนายเวร์น เฮว์ พากษ์ต่อว่า...“เมื่อสี่สิบปีก่อน กองกำลังรักษาความปลอดภัยถล่มยิงใส่นักศึกษาที่ประท้วงการกลับมาของ จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้ซึ่งถูกบังคับให้ออกจากประเทศเมื่อสามปีก่อน มีรายงานพอปะติดปะต่อได้ว่า...เหตุที่นักศึกษาหลายร้อยคนถูกสังหารหมู่ เพราะแสดงละครล้อเลียนบุคคลสำคัญ..ที่กองทัพและกฎหมายปกป้องอย่างแข็งขัน.. นักศึกษาถูกสังหารหมู่ โดยไม่มีผู้ใดถูกลงโทษ เนื่องจากวัฒนธรรม เอกสิทธิ์คุ้มครองทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ...

...นักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์แห่งนี้มีคำถามว่า...ทำไมไม่มีใครพูดความจริงที่น่าเชื่อถือได้ ถึงวันประวัติศาสตร์ทมิฬที่สุดเกิดขึ้น ยุคนี้ 40 ปีให้หลัง ประเทศไทยถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารอีกครั้ง ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าไม่แตกต่างจากสี่สิบปีก่อน... นักศึกษาเรียกร้องให้เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการสังหารหมู่วันนั้น เพราะกลัวว่า มันอาจเป็นเงื่อนไขกระตุ้นให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาอีก... พวกเขาแสดงละครใบ้กระตุ้นให้คนพูดถึงความจริงอันขมขื่นในอดีต...”ถึงตอนนี้เสียงผู้กำกับถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง “ผมยินดีที่ได้สร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งคนสามารถตีความ แสดงความคิดเห็นได้ต่างๆ นานา” นายเวน เฮร์ บรรยายต่อว่า “...ผู้กำกับไม่กังวลที่เจ้าหน้าที่จับตาดูการแสดงละคร แต่เขากังวลว่าความรุนแรงทางการเมืองจะกลายเป็นสันดานของสังคมไทย และ เรื่องต่างๆ เกิดขึ้นแล้วผ่านไปโดยไม่มีใครอธิบาย...”

ทีวีฮาลจาซีระห์ มีความยาวประมาณสองนาที มีภาพไฟล์เหตุการณ์ 6 ต.ค. อินเซิร์ต สลับกับภาพแสดงละครภาพผู้กำกับละคร และ คำบรรยายของนายเวร์น เฮย์ ที่นำความจริงเพียงเสี้ยวเดียวมาเสนอ และบรรยายเป็นนัยว่า นักศึกษาถูกสังหารหมู่เพราะแสดงละครล้อเลียนคนสำคัญ ประกอบกับจุดประสงค์เพื่อปลุกเร้าให้ค้นหาความจริง ถึงมูลเหตุของการสังหารหมู่ อาจทำให้ผู้ชมที่ได้รับรู้ความจริงไม่รอบด้าน ตีความไปต่างๆ นานาได้

ผู้กำกับละครและผู้จัดกิจกรรมครบรอบ 40 ปี ตุลาฯมหาวิปโยค ถ้ามีจิตกุศลต้องการให้นำเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเป็นบทเรียน ไม่ต้องไปเชิญนักเคลื่อนไหวสมุนทุนสามานย์วอลสตรีทมาบรรยาย หรือใช้สื่อต่างชาติช่วยกระตุ้นให้คนขุดคุ้ยความจริง ความผิดพลาดอันชั่วร้ายที่เกิดขึ้นคราวนั้นความจริงสามารถหาได้จากพยานทางประวัติศาสตร์ที่ยังหายใจได้ เช่น นายสุธรรม แสงประทุม อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และแกนนำการประท้วงในวันนั้น

นายสุธรรมและแกนนำคนเดือนตุลาฯหลายคนเคยเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านนายทุน ขุนศึก ศักดินาในยุคสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์เฟื่องฟู และเปลี่ยนสีทิ้งอุดมการณ์มาเป็นฝ่ายสนับสนุนทุนนิยมสามานย์ในวันนี้ย่อมรู้ดีว่า ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายคราวนั้น เกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมือง และความขัดแย้งของนักการเมืองขวาจัดที่แย่งชิงตำแหน่งกับกลุ่มนักการเมืองอนุรักษ์นิยมซ้ายอ่อนๆ ประกอบกับพรรคการเมืองขวาจัดที่ร่วมรัฐบาลสมคบกับตำรวจ ทหารขวาจัดบางส่วนวางแผนกวาดล้าง นักศึกษาและประชาชนที่มีความคิดก้าวหน้า ด้วยแผนการ “ขวาพิฆาตซ้าย”

นักการเมืองขวาจัดในพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งปลุกระดมกล่าวหาว่า รัฐมนตรีบางคนในพรรครัฐบาลเป็นคอมมิวนิสต์ ประกอบกับพรรคร่วมรัฐบาลและตำรวจ ทหารขวาจัด ไม่พอใจนักศึกษาที่เหลิงในชัยชนะมาตั้งแต่ ปี 2516 จึงได้สร้างกลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ขึ้นมาไล่ล่านักศึกษา

การปลุกระดมต่อต้านนักศึกษา ที่มี สส.บางคนจากพรรคแกนนำ และผู้นำพรรคร่วมรัฐบาล ทำกันเป็นล่ำเป็นสันผ่านวิทยุ 39 สถานี เพลงหนักแผ่นดินปลุกเร้าให้ทำร้ายนักศึกษามีทุกวัน พระผู้ใหญ่บางรูปออกมาประกาศว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป ฯลฯ นอกจากนั้นมีรายงานว่าแผนการขวาพิฆาตซ้าย ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติด้วย


สถานการณ์สุขงอมเมื่อ จอมพลถนอม บวชเป็นเณร และเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางการประท้วงของนักศึกษา และประชาชนที่ออกมาในรูปสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ขบวนการขวาพิฆาตซ้ายส่งนวพล กระทิงแดงออกทำร้ายฆ่าฟัน นักศึกษา แกนนำสหภาพแรงงาน เหมือนกับที่กองกำลังติดอาวุธของทุนสามานย์ปล้นชาติ ไล่ล่าฆ่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. ทุกครั้งที่ชุมนุมประท้วงรัฐบาลทุนสามานย์

ถ้าจำไม่ผิดตอนบ่ายวันที่ 4 ต.ค. 2519 หนังสือพิมพ์บางกอกเวิร์ล ซึ่งเป็นแทบลอยของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยแพร่ภาพตัดต่อบนหน้าหนึ่ง และในตอนเช้าวันที่ 5 ต.ค. หนังสือพิมพ์ดาวสยามก็นำภาพนั้นขึ้นหน้าหนึ่ง พร้อมคำบรรยายว่า เป็นการแสดงละครล้อเลียนของนักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์

วันที่ 5 ต.ค.ตอนเย็น ตำรวจตระเวนชายแดนหลายร้อยนายกับลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง นวพล ถูกนำมาปิดล้อมธรรมศาสตร์ ปฏิบัติการโหด ขวาพิฆาตซ้ายก็เริ่มขึ้นในตอนดึก เป็นที่มาของตุลาทมิฬ ตามมาด้วยการยึดอำนาจ นายสุธรรมและนักศึกษาประชาชนนับพันคนถูกจับ นักศึกษาจำนวนมากหนีเข้าป่าไปเป็นสหายร่วมรบกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย 20 กว่าปีผ่านไป แกนนำคนเดือนต.ค.จำนวนมากที่ทิ้งป่าคืนเมือง ปีกกล้าขาแข็งวิทยายุทธ์ถึงขั้นเปลี่ยนอุดมการณ์แปรพักตร์ มาเป็นสมุนรับใช้ทุนสามานย์ปล้นชาติ ประกาศสงครามโค่นล้มอำมาตย์ แทนการต่อสู้โค่นล้มนายทุน ขุนศึก ศักดินา

ความจริงง่ายๆ แค่นี้ไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากนายโชจัว หว่อง และไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องจัดแสดงละครปลุกระดมให้คนค้นหาความจริงมาถกเกียงกันอีก และไม่จำเป็นต้องไปเชื้อเชิญสื่อต่างชาติมาเสนอความจริงเสี้ยวเดียว แล้วตั้งคำถามที่เป็นนัย ให้คนเกิดความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายให้แก่สถาบันที่คนไทยทั้งชาติเคารพเทิดทูน



สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ

บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป บาปย่อมทำโทษซ้ำ ใส่ผู้บาปเอง

แปลความ

สนิมของเหล็กนั้นที่แท้แล้วก็เกิดขึ้นมาจากเนื้อเหล็กนั่นเองและสนิมนั้นก็จะกัดกินเนื้อเหล็กจนผุกร่อนไปจนสิ้น เปรียบได้กับบาปนั้นก็เกิดขึ้นจากตัวบุคคลเอง แล้วผลแห่งบาปนั้นก็จะให้ทุกข์ให้โทษแก่ผู้ที่กระทำบาปนั่นเอง

http://thaisara.exteen.com/20150221/entry-1


บุญได้แก่กุศลจิต บาปได้แก่อกุศลจิต

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2016, 18:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
6 ตุลา รำลึก..


รูปภาพ
http://www.naewna.com/politic/columnist/26633

อ้างคำพูด:
40 ปี 6 ตุลา...กิจกรรมที่ถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์
สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าวการจัดกิจกรรมระลึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่นายโจชัว หว่องนักเคลื่อนไหววัยรุ่นชาวฮ่องกง จะเป็นวิทยากรคนสำคัญและเผยแพร่ตัวอย่างละครใบ้ที่อ้างว่าจัดแสดง เพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้ขุดคุ้ยประวัติศาสตร์วันทมิฬขึ้นมาถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ความเคลื่อนไหวต่างๆ นี้ ทำให้เห็นความตกต่ำของกิจกรรมเดือนตุลาคมที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนสามานย์

นายโจชัว หว่อง มีชื่อเสียงพอสมควรในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต่อสู้เรื่องประชาธิปไตย แต่ก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า เขาเป็นนักเคลื่อนไหวที่รับใช้ทุนสามานวอลสตรีท หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เคยรายงานว่า สหรัฐอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนายโจชัว หว่อง ในการประท้วงเรียกร้องให้เลือกตั้งเสรีในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่เรียกว่า “ปฏิวัติร่ม” เมื่อเดือน ก.ย. 2557 คราวนั้นเขาได้รับเงินบริจาคการทำกิจกรรมและค่าใช้จ่ายจากชาวสหรัฐ นอกจากนั้นในปี 2554 นายโจชัว หว่อง กับครอบครัวได้รับเชิญจากหอการค้าสหรัฐให้พักที่ Venetian Macao ของบริษัท แซนส์ คอร์ป

นายโจชัว หว่อง เป็นนักเคลื่อนไหวที่รับเงินNEZ ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และจาก FreedomHouse มูลนิธิล้างสมองของนายจอร์จ โซรอร์จในประเทศไทย NEZ และ Freedom House ให้การสนับสนุนการเงินและวิชาการแก่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและ เอ็นจีโอ กลุ่มต่างๆ ดังนั้น การจัดกิจกรรมวาระต่างๆ ของเดือนตุลาคม จึงถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์ปล้นชาติและทุนสามานย์วอลสตรีท


สื่อตะวันตกนอกจากกระพือข่าวนายโจชัว หว่อง ร่วมกิจกรรมครบรอบ 40 ปี 6 ตุลาทมิฬ แล้ว ยังช่วยโหมกระพือข่าวนักเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมกระตุ้นให้คนไทยขุดคุ้ยเหตุการณ์สังหารหมู่ นักศึกษาเมื่อ 40 ปีก่อน ขึ้นมาถกเถียงกันมากขึ้น นายเวร์น เฮร์ จากทีวีฮาลจาซีระห์ เสนอรายงานพิเศษเรื่อง “ละครเวทีกระตุ้นให้คนไทยถกกันถึงความขมขื่นในอดีต”

ภาพข่าวของทีวีฮาลจาซีระห์ฉายให้เห็นภาพนักศึกษาแสดงละครใบ้ พร้อมคำบรรยายจากนายเวร์น เฮร์ว่า“นี่คือตัวอย่างบางตอนของละครที่สื่อให้เห็นถึงปฐมภูมิการสังหารหมู่นักศึกษาในมหาวิทยาธรรมศาสตร์เมื่อปี 2519 ซึ่งผู้กำกับละครบอกว่า ทำไมเราไม่ขุดคุ้ยความจริงขึ้นมาถกเถียงกันให้ตกผลึก” แล้วภาพก็ตัดไปที่นาย TeerawatMulvilai พูดว่า “ผมไม่ชัดเจนในภาพรวมของประเทศนี้ว่า เราจะระลึกถึง (6 ต.ค. 19) ได้อย่างไร เราจะนำมันมาเป็นบทเรียนได้อย่างไร ที่ไม่ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก...”

เสียงนายเวร์น เฮว์ พากษ์ต่อว่า...“เมื่อสี่สิบปีก่อน กองกำลังรักษาความปลอดภัยถล่มยิงใส่นักศึกษาที่ประท้วงการกลับมาของ จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้ซึ่งถูกบังคับให้ออกจากประเทศเมื่อสามปีก่อน มีรายงานพอปะติดปะต่อได้ว่า...เหตุที่นักศึกษาหลายร้อยคนถูกสังหารหมู่ เพราะแสดงละครล้อเลียนบุคคลสำคัญ..ที่กองทัพและกฎหมายปกป้องอย่างแข็งขัน.. นักศึกษาถูกสังหารหมู่ โดยไม่มีผู้ใดถูกลงโทษ เนื่องจากวัฒนธรรม เอกสิทธิ์คุ้มครองทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ...

...นักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์แห่งนี้มีคำถามว่า...ทำไมไม่มีใครพูดความจริงที่น่าเชื่อถือได้ ถึงวันประวัติศาสตร์ทมิฬที่สุดเกิดขึ้น ยุคนี้ 40 ปีให้หลัง ประเทศไทยถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารอีกครั้ง ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าไม่แตกต่างจากสี่สิบปีก่อน... นักศึกษาเรียกร้องให้เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการสังหารหมู่วันนั้น เพราะกลัวว่า มันอาจเป็นเงื่อนไขกระตุ้นให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาอีก... พวกเขาแสดงละครใบ้กระตุ้นให้คนพูดถึงความจริงอันขมขื่นในอดีต...”ถึงตอนนี้เสียงผู้กำกับถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง “ผมยินดีที่ได้สร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งคนสามารถตีความ แสดงความคิดเห็นได้ต่างๆ นานา” นายเวน เฮร์ บรรยายต่อว่า “...ผู้กำกับไม่กังวลที่เจ้าหน้าที่จับตาดูการแสดงละคร แต่เขากังวลว่าความรุนแรงทางการเมืองจะกลายเป็นสันดานของสังคมไทย และ เรื่องต่างๆ เกิดขึ้นแล้วผ่านไปโดยไม่มีใครอธิบาย...”

ทีวีฮาลจาซีระห์ มีความยาวประมาณสองนาที มีภาพไฟล์เหตุการณ์ 6 ต.ค. อินเซิร์ต สลับกับภาพแสดงละครภาพผู้กำกับละคร และ คำบรรยายของนายเวร์น เฮย์ ที่นำความจริงเพียงเสี้ยวเดียวมาเสนอ และบรรยายเป็นนัยว่า นักศึกษาถูกสังหารหมู่เพราะแสดงละครล้อเลียนคนสำคัญ ประกอบกับจุดประสงค์เพื่อปลุกเร้าให้ค้นหาความจริง ถึงมูลเหตุของการสังหารหมู่ อาจทำให้ผู้ชมที่ได้รับรู้ความจริงไม่รอบด้าน ตีความไปต่างๆ นานาได้

ผู้กำกับละครและผู้จัดกิจกรรมครบรอบ 40 ปี ตุลาฯมหาวิปโยค ถ้ามีจิตกุศลต้องการให้นำเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเป็นบทเรียน ไม่ต้องไปเชิญนักเคลื่อนไหวสมุนทุนสามานย์วอลสตรีทมาบรรยาย หรือใช้สื่อต่างชาติช่วยกระตุ้นให้คนขุดคุ้ยความจริง ความผิดพลาดอันชั่วร้ายที่เกิดขึ้นคราวนั้นความจริงสามารถหาได้จากพยานทางประวัติศาสตร์ที่ยังหายใจได้ เช่น นายสุธรรม แสงประทุม อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และแกนนำการประท้วงในวันนั้น

นายสุธรรมและแกนนำคนเดือนตุลาฯหลายคนเคยเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านนายทุน ขุนศึก ศักดินาในยุคสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์เฟื่องฟู และเปลี่ยนสีทิ้งอุดมการณ์มาเป็นฝ่ายสนับสนุนทุนนิยมสามานย์ในวันนี้ย่อมรู้ดีว่า ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายคราวนั้น เกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมือง และความขัดแย้งของนักการเมืองขวาจัดที่แย่งชิงตำแหน่งกับกลุ่มนักการเมืองอนุรักษ์นิยมซ้ายอ่อนๆ ประกอบกับพรรคการเมืองขวาจัดที่ร่วมรัฐบาลสมคบกับตำรวจ ทหารขวาจัดบางส่วนวางแผนกวาดล้าง นักศึกษาและประชาชนที่มีความคิดก้าวหน้า ด้วยแผนการ “ขวาพิฆาตซ้าย”

นักการเมืองขวาจัดในพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งปลุกระดมกล่าวหาว่า รัฐมนตรีบางคนในพรรครัฐบาลเป็นคอมมิวนิสต์ ประกอบกับพรรคร่วมรัฐบาลและตำรวจ ทหารขวาจัด ไม่พอใจนักศึกษาที่เหลิงในชัยชนะมาตั้งแต่ ปี 2516 จึงได้สร้างกลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ขึ้นมาไล่ล่านักศึกษา

การปลุกระดมต่อต้านนักศึกษา ที่มี สส.บางคนจากพรรคแกนนำ และผู้นำพรรคร่วมรัฐบาล ทำกันเป็นล่ำเป็นสันผ่านวิทยุ 39 สถานี เพลงหนักแผ่นดินปลุกเร้าให้ทำร้ายนักศึกษามีทุกวัน พระผู้ใหญ่บางรูปออกมาประกาศว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป ฯลฯ นอกจากนั้นมีรายงานว่าแผนการขวาพิฆาตซ้าย ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติด้วย


สถานการณ์สุขงอมเมื่อ จอมพลถนอม บวชเป็นเณร และเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางการประท้วงของนักศึกษา และประชาชนที่ออกมาในรูปสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ขบวนการขวาพิฆาตซ้ายส่งนวพล กระทิงแดงออกทำร้ายฆ่าฟัน นักศึกษา แกนนำสหภาพแรงงาน เหมือนกับที่กองกำลังติดอาวุธของทุนสามานย์ปล้นชาติ ไล่ล่าฆ่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. ทุกครั้งที่ชุมนุมประท้วงรัฐบาลทุนสามานย์

ถ้าจำไม่ผิดตอนบ่ายวันที่ 4 ต.ค. 2519 หนังสือพิมพ์บางกอกเวิร์ล ซึ่งเป็นแทบลอยของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยแพร่ภาพตัดต่อบนหน้าหนึ่ง และในตอนเช้าวันที่ 5 ต.ค. หนังสือพิมพ์ดาวสยามก็นำภาพนั้นขึ้นหน้าหนึ่ง พร้อมคำบรรยายว่า เป็นการแสดงละครล้อเลียนของนักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์

วันที่ 5 ต.ค.ตอนเย็น ตำรวจตระเวนชายแดนหลายร้อยนายกับลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง นวพล ถูกนำมาปิดล้อมธรรมศาสตร์ ปฏิบัติการโหด ขวาพิฆาตซ้ายก็เริ่มขึ้นในตอนดึก เป็นที่มาของตุลาทมิฬ ตามมาด้วยการยึดอำนาจ นายสุธรรมและนักศึกษาประชาชนนับพันคนถูกจับ นักศึกษาจำนวนมากหนีเข้าป่าไปเป็นสหายร่วมรบกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย 20 กว่าปีผ่านไป แกนนำคนเดือนต.ค.จำนวนมากที่ทิ้งป่าคืนเมือง ปีกกล้าขาแข็งวิทยายุทธ์ถึงขั้นเปลี่ยนอุดมการณ์แปรพักตร์ มาเป็นสมุนรับใช้ทุนสามานย์ปล้นชาติ ประกาศสงครามโค่นล้มอำมาตย์ แทนการต่อสู้โค่นล้มนายทุน ขุนศึก ศักดินา

ความจริงง่ายๆ แค่นี้ไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากนายโชจัว หว่อง และไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องจัดแสดงละครปลุกระดมให้คนค้นหาความจริงมาถกเกียงกันอีก และไม่จำเป็นต้องไปเชื้อเชิญสื่อต่างชาติมาเสนอความจริงเสี้ยวเดียว แล้วตั้งคำถามที่เป็นนัย ให้คนเกิดความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายให้แก่สถาบันที่คนไทยทั้งชาติเคารพเทิดทูน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2016, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
6 ตุลา รำลึก..


รูปภาพ
http://www.naewna.com/politic/columnist/26633

อ้างคำพูด:
40 ปี 6 ตุลา...กิจกรรมที่ถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์
สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าวการจัดกิจกรรมระลึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่นายโจชัว หว่องนักเคลื่อนไหววัยรุ่นชาวฮ่องกง จะเป็นวิทยากรคนสำคัญและเผยแพร่ตัวอย่างละครใบ้ที่อ้างว่าจัดแสดง เพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้ขุดคุ้ยประวัติศาสตร์วันทมิฬขึ้นมาถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ความเคลื่อนไหวต่างๆ นี้ ทำให้เห็นความตกต่ำของกิจกรรมเดือนตุลาคมที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนสามานย์

นายโจชัว หว่อง มีชื่อเสียงพอสมควรในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต่อสู้เรื่องประชาธิปไตย แต่ก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า เขาเป็นนักเคลื่อนไหวที่รับใช้ทุนสามานวอลสตรีท หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เคยรายงานว่า สหรัฐอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนายโจชัว หว่อง ในการประท้วงเรียกร้องให้เลือกตั้งเสรีในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่เรียกว่า “ปฏิวัติร่ม” เมื่อเดือน ก.ย. 2557 คราวนั้นเขาได้รับเงินบริจาคการทำกิจกรรมและค่าใช้จ่ายจากชาวสหรัฐ นอกจากนั้นในปี 2554 นายโจชัว หว่อง กับครอบครัวได้รับเชิญจากหอการค้าสหรัฐให้พักที่ Venetian Macao ของบริษัท แซนส์ คอร์ป

นายโจชัว หว่อง เป็นนักเคลื่อนไหวที่รับเงินNEZ ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และจาก FreedomHouse มูลนิธิล้างสมองของนายจอร์จ โซรอร์จในประเทศไทย NEZ และ Freedom House ให้การสนับสนุนการเงินและวิชาการแก่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและ เอ็นจีโอ กลุ่มต่างๆ ดังนั้น การจัดกิจกรรมวาระต่างๆ ของเดือนตุลาคม จึงถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์ปล้นชาติและทุนสามานย์วอลสตรีท


สื่อตะวันตกนอกจากกระพือข่าวนายโจชัว หว่อง ร่วมกิจกรรมครบรอบ 40 ปี 6 ตุลาทมิฬ แล้ว ยังช่วยโหมกระพือข่าวนักเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมกระตุ้นให้คนไทยขุดคุ้ยเหตุการณ์สังหารหมู่ นักศึกษาเมื่อ 40 ปีก่อน ขึ้นมาถกเถียงกันมากขึ้น นายเวร์น เฮร์ จากทีวีฮาลจาซีระห์ เสนอรายงานพิเศษเรื่อง “ละครเวทีกระตุ้นให้คนไทยถกกันถึงความขมขื่นในอดีต”

ภาพข่าวของทีวีฮาลจาซีระห์ฉายให้เห็นภาพนักศึกษาแสดงละครใบ้ พร้อมคำบรรยายจากนายเวร์น เฮร์ว่า“นี่คือตัวอย่างบางตอนของละครที่สื่อให้เห็นถึงปฐมภูมิการสังหารหมู่นักศึกษาในมหาวิทยาธรรมศาสตร์เมื่อปี 2519 ซึ่งผู้กำกับละครบอกว่า ทำไมเราไม่ขุดคุ้ยความจริงขึ้นมาถกเถียงกันให้ตกผลึก” แล้วภาพก็ตัดไปที่นาย TeerawatMulvilai พูดว่า “ผมไม่ชัดเจนในภาพรวมของประเทศนี้ว่า เราจะระลึกถึง (6 ต.ค. 19) ได้อย่างไร เราจะนำมันมาเป็นบทเรียนได้อย่างไร ที่ไม่ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก...”

เสียงนายเวร์น เฮว์ พากษ์ต่อว่า...“เมื่อสี่สิบปีก่อน กองกำลังรักษาความปลอดภัยถล่มยิงใส่นักศึกษาที่ประท้วงการกลับมาของ จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้ซึ่งถูกบังคับให้ออกจากประเทศเมื่อสามปีก่อน มีรายงานพอปะติดปะต่อได้ว่า...เหตุที่นักศึกษาหลายร้อยคนถูกสังหารหมู่ เพราะแสดงละครล้อเลียนบุคคลสำคัญ..ที่กองทัพและกฎหมายปกป้องอย่างแข็งขัน.. นักศึกษาถูกสังหารหมู่ โดยไม่มีผู้ใดถูกลงโทษ เนื่องจากวัฒนธรรม เอกสิทธิ์คุ้มครองทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ...

...นักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์แห่งนี้มีคำถามว่า...ทำไมไม่มีใครพูดความจริงที่น่าเชื่อถือได้ ถึงวันประวัติศาสตร์ทมิฬที่สุดเกิดขึ้น ยุคนี้ 40 ปีให้หลัง ประเทศไทยถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารอีกครั้ง ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าไม่แตกต่างจากสี่สิบปีก่อน... นักศึกษาเรียกร้องให้เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการสังหารหมู่วันนั้น เพราะกลัวว่า มันอาจเป็นเงื่อนไขกระตุ้นให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาอีก... พวกเขาแสดงละครใบ้กระตุ้นให้คนพูดถึงความจริงอันขมขื่นในอดีต...”ถึงตอนนี้เสียงผู้กำกับถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง “ผมยินดีที่ได้สร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งคนสามารถตีความ แสดงความคิดเห็นได้ต่างๆ นานา” นายเวน เฮร์ บรรยายต่อว่า “...ผู้กำกับไม่กังวลที่เจ้าหน้าที่จับตาดูการแสดงละคร แต่เขากังวลว่าความรุนแรงทางการเมืองจะกลายเป็นสันดานของสังคมไทย และ เรื่องต่างๆ เกิดขึ้นแล้วผ่านไปโดยไม่มีใครอธิบาย...”

ทีวีฮาลจาซีระห์ มีความยาวประมาณสองนาที มีภาพไฟล์เหตุการณ์ 6 ต.ค. อินเซิร์ต สลับกับภาพแสดงละครภาพผู้กำกับละคร และ คำบรรยายของนายเวร์น เฮย์ ที่นำความจริงเพียงเสี้ยวเดียวมาเสนอ และบรรยายเป็นนัยว่า นักศึกษาถูกสังหารหมู่เพราะแสดงละครล้อเลียนคนสำคัญ ประกอบกับจุดประสงค์เพื่อปลุกเร้าให้ค้นหาความจริง ถึงมูลเหตุของการสังหารหมู่ อาจทำให้ผู้ชมที่ได้รับรู้ความจริงไม่รอบด้าน ตีความไปต่างๆ นานาได้

ผู้กำกับละครและผู้จัดกิจกรรมครบรอบ 40 ปี ตุลาฯมหาวิปโยค ถ้ามีจิตกุศลต้องการให้นำเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเป็นบทเรียน ไม่ต้องไปเชิญนักเคลื่อนไหวสมุนทุนสามานย์วอลสตรีทมาบรรยาย หรือใช้สื่อต่างชาติช่วยกระตุ้นให้คนขุดคุ้ยความจริง ความผิดพลาดอันชั่วร้ายที่เกิดขึ้นคราวนั้นความจริงสามารถหาได้จากพยานทางประวัติศาสตร์ที่ยังหายใจได้ เช่น นายสุธรรม แสงประทุม อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และแกนนำการประท้วงในวันนั้น

นายสุธรรมและแกนนำคนเดือนตุลาฯหลายคนเคยเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านนายทุน ขุนศึก ศักดินาในยุคสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์เฟื่องฟู และเปลี่ยนสีทิ้งอุดมการณ์มาเป็นฝ่ายสนับสนุนทุนนิยมสามานย์ในวันนี้ย่อมรู้ดีว่า ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายคราวนั้น เกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมือง และความขัดแย้งของนักการเมืองขวาจัดที่แย่งชิงตำแหน่งกับกลุ่มนักการเมืองอนุรักษ์นิยมซ้ายอ่อนๆ ประกอบกับพรรคการเมืองขวาจัดที่ร่วมรัฐบาลสมคบกับตำรวจ ทหารขวาจัดบางส่วนวางแผนกวาดล้าง นักศึกษาและประชาชนที่มีความคิดก้าวหน้า ด้วยแผนการ “ขวาพิฆาตซ้าย”

นักการเมืองขวาจัดในพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งปลุกระดมกล่าวหาว่า รัฐมนตรีบางคนในพรรครัฐบาลเป็นคอมมิวนิสต์ ประกอบกับพรรคร่วมรัฐบาลและตำรวจ ทหารขวาจัด ไม่พอใจนักศึกษาที่เหลิงในชัยชนะมาตั้งแต่ ปี 2516 จึงได้สร้างกลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ขึ้นมาไล่ล่านักศึกษา

การปลุกระดมต่อต้านนักศึกษา ที่มี สส.บางคนจากพรรคแกนนำ และผู้นำพรรคร่วมรัฐบาล ทำกันเป็นล่ำเป็นสันผ่านวิทยุ 39 สถานี เพลงหนักแผ่นดินปลุกเร้าให้ทำร้ายนักศึกษามีทุกวัน พระผู้ใหญ่บางรูปออกมาประกาศว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป ฯลฯ นอกจากนั้นมีรายงานว่าแผนการขวาพิฆาตซ้าย ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติด้วย


สถานการณ์สุขงอมเมื่อ จอมพลถนอม บวชเป็นเณร และเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางการประท้วงของนักศึกษา และประชาชนที่ออกมาในรูปสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ขบวนการขวาพิฆาตซ้ายส่งนวพล กระทิงแดงออกทำร้ายฆ่าฟัน นักศึกษา แกนนำสหภาพแรงงาน เหมือนกับที่กองกำลังติดอาวุธของทุนสามานย์ปล้นชาติ ไล่ล่าฆ่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. ทุกครั้งที่ชุมนุมประท้วงรัฐบาลทุนสามานย์

ถ้าจำไม่ผิดตอนบ่ายวันที่ 4 ต.ค. 2519 หนังสือพิมพ์บางกอกเวิร์ล ซึ่งเป็นแทบลอยของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยแพร่ภาพตัดต่อบนหน้าหนึ่ง และในตอนเช้าวันที่ 5 ต.ค. หนังสือพิมพ์ดาวสยามก็นำภาพนั้นขึ้นหน้าหนึ่ง พร้อมคำบรรยายว่า เป็นการแสดงละครล้อเลียนของนักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์

วันที่ 5 ต.ค.ตอนเย็น ตำรวจตระเวนชายแดนหลายร้อยนายกับลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง นวพล ถูกนำมาปิดล้อมธรรมศาสตร์ ปฏิบัติการโหด ขวาพิฆาตซ้ายก็เริ่มขึ้นในตอนดึก เป็นที่มาของตุลาทมิฬ ตามมาด้วยการยึดอำนาจ นายสุธรรมและนักศึกษาประชาชนนับพันคนถูกจับ นักศึกษาจำนวนมากหนีเข้าป่าไปเป็นสหายร่วมรบกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย 20 กว่าปีผ่านไป แกนนำคนเดือนต.ค.จำนวนมากที่ทิ้งป่าคืนเมือง ปีกกล้าขาแข็งวิทยายุทธ์ถึงขั้นเปลี่ยนอุดมการณ์แปรพักตร์ มาเป็นสมุนรับใช้ทุนสามานย์ปล้นชาติ ประกาศสงครามโค่นล้มอำมาตย์ แทนการต่อสู้โค่นล้มนายทุน ขุนศึก ศักดินา

ความจริงง่ายๆ แค่นี้ไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากนายโชจัว หว่อง และไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องจัดแสดงละครปลุกระดมให้คนค้นหาความจริงมาถกเกียงกันอีก และไม่จำเป็นต้องไปเชื้อเชิญสื่อต่างชาติมาเสนอความจริงเสี้ยวเดียว แล้วตั้งคำถามที่เป็นนัย ให้คนเกิดความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายให้แก่สถาบันที่คนไทยทั้งชาติเคารพเทิดทูน


กดดู :b1:
https://pbs.twimg.com/media/CRQMJ-nUcAAeH6q.jpg

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2016, 19:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ปู..เพื่อแม้ว...ดับเครื่องชน..เลือดเข้าตาพิษคดีจำนำข้าว

รูปภาพ
อาทิตย์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น
อ้างคำพูด:
คดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์คาดว่าเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 7 แสนล้าน และยังส่งผลกระทบมาจนปัจจุบันและอนาคต

คืบหน้ามาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้ลงนามในคำสั่งปกครองเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และพวกรวม 6 คน กรณีทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีเก๊ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อรัฐเป็นมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งที่มี นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน สรุปตัวเลขเพื่อฟ้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯชดใช้ความเสียหายแก่รัฐเป็นมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาท ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย

คดีโครงการรับจำนำข้าวนั้นแยกเป็นสองส่วนคือ คดีทางอาญาซึ่งมีโทษจำคุกและคดีทางแพ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายแก่แผ่นดิน โดยคดีทางอาญาขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายบุญทรง และพวกเป็นจำเลย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดต่อหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและสร้างความเสียหายแก่รัฐมูลค่ามหาศาล ส่วน นายบุญทรง และพวกถูกตั้งข้อหาร่วมกันทุจริตการซื้อขายข้าวจีทูจีเก๊ ซึ่งโทษทางอาญาสูงสุดคือจำคุก 10 ปี และเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม กว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำตัดสินคาดว่าคงจะเป็นราวกลางปีหน้าก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป

ส่วนทางแพ่งเพื่อฟ้องให้จำเลยชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินแยกเป็นสองคดีคือการฟ้องทางปกครองต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐซึ่งขณะนี้กำลังรอการสรุปตัวเลขการชดใช้โดยคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง โดยมีข่าวว่าตัวเลขล่าสุดที่คณะกรรมการเคาะออกมาก็คือ ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ความเสียหายมูลค่าเพียง 35,717 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สำนักนายกฯตั้งขึ้นก่อนหน้านี้เคยสรุปตัวเลขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวมีมูลค่าสูงถึง 286,639 ล้านบาท

ส่วนการฟ้องทางแพ่งอีกคดีหนึ่งก็คือ กรณีซื้อขายข้าวจีทูจีเก๊ที่มีการลงนามในคำสั่งปกครองให้ นายบุญทรง และพวกชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐเป็นมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย นายบุญทรง ต้องชดใช้ราว 1.7 พันล้านบาท นายภูมิ 2.2 พันล้านบาท และอีก 4 คน รายละ 4 พันล้านบาท คือ พ.ต.น.พ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ

คดีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายคืนแก่รัฐเริ่มเดินหน้าด้วยมาตรา 44 ที่เปิดทางให้กรมบังคับคดีซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการยึดทรัพย์เป็นผู้ดำเนินการ ประกอบกับคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ให้การคุ้มครองสร้างความมั่นใจแก่ข้าราชการว่าจะไม่ถูกเช็คบิลในภายหลังทำให้การเดินหน้าคดีทางแพ่งเป็นไปอย่างราบรื่นไม่เกิดการสะดุดเกียร์ว่างจากข้าราชการที่เกี่ยวข้อง

สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง ตลอดจนบรรดาบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายพยายามดิ้นรนหนีโทษความผิดสุดฤทธิ์โดยพยายามตะแบงอ้างว่าคดีโครงการรับจำนำข้าวเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองและตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ก็ข่มขู่บรรดาข้าราชการว่าให้ระวังจะถูกเอาคืนหากระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจอีกครั้ง หรือแม้แต่ขู่จะฟ้องกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

อาการดังกล่าวสะท้อนถึงความหวาดหวั่นและดิ้นรนหวังเอาตัวรอดในยามใกล้เข้าตาจน และที่สำคัญกว่าคดีทางแพ่งก็คือคดีทางอาญาที่มีโทษถึงขั้นจำคุก ซึ่งหากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกผิดจริงและให้รับโทษโดยไม่รอลงอาญาเท่ากับต้องเดินเข้าคุกทันที และที่สำคัญคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง ต้องปิดฉากหมดอนาคตทางการเมืองเนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหมดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับตลอดชีวิตซึ่งนี่คือสิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง หวาดผวาที่สุด

ทั้งนี้คดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นข่าวใหญ่อื้อฉาวที่ถูกจับตาจากสังคมว่าจะมีจุดจบอย่างไร โดยคนที่โกงชาติปล้นแผ่นดินสร้างความล่มจมให้ชาติบ้านเมืองจะลอยนวลหรือไม่ หรือจะเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สร้างบรรทัดฐานให้เห็นว่า ใครก็ตามที่ทำร้ายแผ่นดินแม้จะเป็นถึงอดีตนายกฯหรือยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตามต้องชดใช้กรรมที่ก่ออย่างสาสมเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ทีมข่าวการเมือง



http://www.naewna.com/creative/238067


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2016, 19:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
6 ตุลา รำลึก..


รูปภาพ
http://www.naewna.com/politic/columnist/26633

อ้างคำพูด:
40 ปี 6 ตุลา...กิจกรรมที่ถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์
สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าวการจัดกิจกรรมระลึกถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่นายโจชัว หว่องนักเคลื่อนไหววัยรุ่นชาวฮ่องกง จะเป็นวิทยากรคนสำคัญและเผยแพร่ตัวอย่างละครใบ้ที่อ้างว่าจัดแสดง เพื่อกระตุ้นให้คนไทยได้ขุดคุ้ยประวัติศาสตร์วันทมิฬขึ้นมาถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ความเคลื่อนไหวต่างๆ นี้ ทำให้เห็นความตกต่ำของกิจกรรมเดือนตุลาคมที่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของทุนสามานย์

นายโจชัว หว่อง มีชื่อเสียงพอสมควรในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต่อสู้เรื่องประชาธิปไตย แต่ก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า เขาเป็นนักเคลื่อนไหวที่รับใช้ทุนสามานวอลสตรีท หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เคยรายงานว่า สหรัฐอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวนายโจชัว หว่อง ในการประท้วงเรียกร้องให้เลือกตั้งเสรีในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่เรียกว่า “ปฏิวัติร่ม” เมื่อเดือน ก.ย. 2557 คราวนั้นเขาได้รับเงินบริจาคการทำกิจกรรมและค่าใช้จ่ายจากชาวสหรัฐ นอกจากนั้นในปี 2554 นายโจชัว หว่อง กับครอบครัวได้รับเชิญจากหอการค้าสหรัฐให้พักที่ Venetian Macao ของบริษัท แซนส์ คอร์ป

นายโจชัว หว่อง เป็นนักเคลื่อนไหวที่รับเงินNEZ ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และจาก FreedomHouse มูลนิธิล้างสมองของนายจอร์จ โซรอร์จในประเทศไทย NEZ และ Freedom House ให้การสนับสนุนการเงินและวิชาการแก่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและ เอ็นจีโอ กลุ่มต่างๆ ดังนั้น การจัดกิจกรรมวาระต่างๆ ของเดือนตุลาคม จึงถูกครอบงำด้วยทุนสามานย์ปล้นชาติและทุนสามานย์วอลสตรีท


สื่อตะวันตกนอกจากกระพือข่าวนายโจชัว หว่อง ร่วมกิจกรรมครบรอบ 40 ปี 6 ตุลาทมิฬ แล้ว ยังช่วยโหมกระพือข่าวนักเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมกระตุ้นให้คนไทยขุดคุ้ยเหตุการณ์สังหารหมู่ นักศึกษาเมื่อ 40 ปีก่อน ขึ้นมาถกเถียงกันมากขึ้น นายเวร์น เฮร์ จากทีวีฮาลจาซีระห์ เสนอรายงานพิเศษเรื่อง “ละครเวทีกระตุ้นให้คนไทยถกกันถึงความขมขื่นในอดีต”

ภาพข่าวของทีวีฮาลจาซีระห์ฉายให้เห็นภาพนักศึกษาแสดงละครใบ้ พร้อมคำบรรยายจากนายเวร์น เฮร์ว่า“นี่คือตัวอย่างบางตอนของละครที่สื่อให้เห็นถึงปฐมภูมิการสังหารหมู่นักศึกษาในมหาวิทยาธรรมศาสตร์เมื่อปี 2519 ซึ่งผู้กำกับละครบอกว่า ทำไมเราไม่ขุดคุ้ยความจริงขึ้นมาถกเถียงกันให้ตกผลึก” แล้วภาพก็ตัดไปที่นาย TeerawatMulvilai พูดว่า “ผมไม่ชัดเจนในภาพรวมของประเทศนี้ว่า เราจะระลึกถึง (6 ต.ค. 19) ได้อย่างไร เราจะนำมันมาเป็นบทเรียนได้อย่างไร ที่ไม่ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก...”

เสียงนายเวร์น เฮว์ พากษ์ต่อว่า...“เมื่อสี่สิบปีก่อน กองกำลังรักษาความปลอดภัยถล่มยิงใส่นักศึกษาที่ประท้วงการกลับมาของ จอมพลถนอม กิตติขจร ผู้ซึ่งถูกบังคับให้ออกจากประเทศเมื่อสามปีก่อน มีรายงานพอปะติดปะต่อได้ว่า...เหตุที่นักศึกษาหลายร้อยคนถูกสังหารหมู่ เพราะแสดงละครล้อเลียนบุคคลสำคัญ..ที่กองทัพและกฎหมายปกป้องอย่างแข็งขัน.. นักศึกษาถูกสังหารหมู่ โดยไม่มีผู้ใดถูกลงโทษ เนื่องจากวัฒนธรรม เอกสิทธิ์คุ้มครองทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ...

...นักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์แห่งนี้มีคำถามว่า...ทำไมไม่มีใครพูดความจริงที่น่าเชื่อถือได้ ถึงวันประวัติศาสตร์ทมิฬที่สุดเกิดขึ้น ยุคนี้ 40 ปีให้หลัง ประเทศไทยถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารอีกครั้ง ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าไม่แตกต่างจากสี่สิบปีก่อน... นักศึกษาเรียกร้องให้เปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของการสังหารหมู่วันนั้น เพราะกลัวว่า มันอาจเป็นเงื่อนไขกระตุ้นให้เกิดการลุกฮือขึ้นมาอีก... พวกเขาแสดงละครใบ้กระตุ้นให้คนพูดถึงความจริงอันขมขื่นในอดีต...”ถึงตอนนี้เสียงผู้กำกับถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง “ผมยินดีที่ได้สร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งคนสามารถตีความ แสดงความคิดเห็นได้ต่างๆ นานา” นายเวน เฮร์ บรรยายต่อว่า “...ผู้กำกับไม่กังวลที่เจ้าหน้าที่จับตาดูการแสดงละคร แต่เขากังวลว่าความรุนแรงทางการเมืองจะกลายเป็นสันดานของสังคมไทย และ เรื่องต่างๆ เกิดขึ้นแล้วผ่านไปโดยไม่มีใครอธิบาย...”

ทีวีฮาลจาซีระห์ มีความยาวประมาณสองนาที มีภาพไฟล์เหตุการณ์ 6 ต.ค. อินเซิร์ต สลับกับภาพแสดงละครภาพผู้กำกับละคร และ คำบรรยายของนายเวร์น เฮย์ ที่นำความจริงเพียงเสี้ยวเดียวมาเสนอ และบรรยายเป็นนัยว่า นักศึกษาถูกสังหารหมู่เพราะแสดงละครล้อเลียนคนสำคัญ ประกอบกับจุดประสงค์เพื่อปลุกเร้าให้ค้นหาความจริง ถึงมูลเหตุของการสังหารหมู่ อาจทำให้ผู้ชมที่ได้รับรู้ความจริงไม่รอบด้าน ตีความไปต่างๆ นานาได้

ผู้กำกับละครและผู้จัดกิจกรรมครบรอบ 40 ปี ตุลาฯมหาวิปโยค ถ้ามีจิตกุศลต้องการให้นำเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเป็นบทเรียน ไม่ต้องไปเชิญนักเคลื่อนไหวสมุนทุนสามานย์วอลสตรีทมาบรรยาย หรือใช้สื่อต่างชาติช่วยกระตุ้นให้คนขุดคุ้ยความจริง ความผิดพลาดอันชั่วร้ายที่เกิดขึ้นคราวนั้นความจริงสามารถหาได้จากพยานทางประวัติศาสตร์ที่ยังหายใจได้ เช่น นายสุธรรม แสงประทุม อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และแกนนำการประท้วงในวันนั้น

นายสุธรรมและแกนนำคนเดือนตุลาฯหลายคนเคยเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านนายทุน ขุนศึก ศักดินาในยุคสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์เฟื่องฟู และเปลี่ยนสีทิ้งอุดมการณ์มาเป็นฝ่ายสนับสนุนทุนนิยมสามานย์ในวันนี้ย่อมรู้ดีว่า ประวัติศาสตร์อันโหดร้ายคราวนั้น เกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมือง และความขัดแย้งของนักการเมืองขวาจัดที่แย่งชิงตำแหน่งกับกลุ่มนักการเมืองอนุรักษ์นิยมซ้ายอ่อนๆ ประกอบกับพรรคการเมืองขวาจัดที่ร่วมรัฐบาลสมคบกับตำรวจ ทหารขวาจัดบางส่วนวางแผนกวาดล้าง นักศึกษาและประชาชนที่มีความคิดก้าวหน้า ด้วยแผนการ “ขวาพิฆาตซ้าย”

นักการเมืองขวาจัดในพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ผิดหวังไม่ได้ตำแหน่งปลุกระดมกล่าวหาว่า รัฐมนตรีบางคนในพรรครัฐบาลเป็นคอมมิวนิสต์ ประกอบกับพรรคร่วมรัฐบาลและตำรวจ ทหารขวาจัด ไม่พอใจนักศึกษาที่เหลิงในชัยชนะมาตั้งแต่ ปี 2516 จึงได้สร้างกลุ่มนวพล กลุ่มกระทิงแดง ขึ้นมาไล่ล่านักศึกษา

การปลุกระดมต่อต้านนักศึกษา ที่มี สส.บางคนจากพรรคแกนนำ และผู้นำพรรคร่วมรัฐบาล ทำกันเป็นล่ำเป็นสันผ่านวิทยุ 39 สถานี เพลงหนักแผ่นดินปลุกเร้าให้ทำร้ายนักศึกษามีทุกวัน พระผู้ใหญ่บางรูปออกมาประกาศว่า ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป ฯลฯ นอกจากนั้นมีรายงานว่าแผนการขวาพิฆาตซ้าย ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติด้วย


สถานการณ์สุขงอมเมื่อ จอมพลถนอม บวชเป็นเณร และเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางการประท้วงของนักศึกษา และประชาชนที่ออกมาในรูปสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ขบวนการขวาพิฆาตซ้ายส่งนวพล กระทิงแดงออกทำร้ายฆ่าฟัน นักศึกษา แกนนำสหภาพแรงงาน เหมือนกับที่กองกำลังติดอาวุธของทุนสามานย์ปล้นชาติ ไล่ล่าฆ่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กปปส. ทุกครั้งที่ชุมนุมประท้วงรัฐบาลทุนสามานย์

ถ้าจำไม่ผิดตอนบ่ายวันที่ 4 ต.ค. 2519 หนังสือพิมพ์บางกอกเวิร์ล ซึ่งเป็นแทบลอยของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เผยแพร่ภาพตัดต่อบนหน้าหนึ่ง และในตอนเช้าวันที่ 5 ต.ค. หนังสือพิมพ์ดาวสยามก็นำภาพนั้นขึ้นหน้าหนึ่ง พร้อมคำบรรยายว่า เป็นการแสดงละครล้อเลียนของนักศึกษาใน ม.ธรรมศาสตร์

วันที่ 5 ต.ค.ตอนเย็น ตำรวจตระเวนชายแดนหลายร้อยนายกับลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง นวพล ถูกนำมาปิดล้อมธรรมศาสตร์ ปฏิบัติการโหด ขวาพิฆาตซ้ายก็เริ่มขึ้นในตอนดึก เป็นที่มาของตุลาทมิฬ ตามมาด้วยการยึดอำนาจ นายสุธรรมและนักศึกษาประชาชนนับพันคนถูกจับ นักศึกษาจำนวนมากหนีเข้าป่าไปเป็นสหายร่วมรบกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย 20 กว่าปีผ่านไป แกนนำคนเดือนต.ค.จำนวนมากที่ทิ้งป่าคืนเมือง ปีกกล้าขาแข็งวิทยายุทธ์ถึงขั้นเปลี่ยนอุดมการณ์แปรพักตร์ มาเป็นสมุนรับใช้ทุนสามานย์ปล้นชาติ ประกาศสงครามโค่นล้มอำมาตย์ แทนการต่อสู้โค่นล้มนายทุน ขุนศึก ศักดินา

ความจริงง่ายๆ แค่นี้ไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากนายโชจัว หว่อง และไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องจัดแสดงละครปลุกระดมให้คนค้นหาความจริงมาถกเกียงกันอีก และไม่จำเป็นต้องไปเชื้อเชิญสื่อต่างชาติมาเสนอความจริงเสี้ยวเดียว แล้วตั้งคำถามที่เป็นนัย ให้คนเกิดความเข้าใจผิด สร้างความเสียหายให้แก่สถาบันที่คนไทยทั้งชาติเคารพเทิดทูน



โต้สื่อให้ข้อมูล 'โจชัว หว่อง' เปลี่ยนชื่อ เพื่อลักลอบเข้าประเทศไทยพร้อมตั้งคำถามถึงเจตนาของผู้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว

นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะผู้จัดงานงานปาฐกถา 6 ตุลาฯ ประจำปี หัวข้อ "การเมืองของคนรุ่นใหม่" แถลงการณ์ชี้แจง กรณีสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับนำเสนอว่า โจชัว หว่อง ปลอมรายชื่อ เพื่อลักลอบเข้าประเทศไทย ยืนยัน ไม่เป็นความจริง เพราะโจชัว หว่อง เดินทางมาในชื่อ โจชัว หว่อง ไค ฟุง ซึ่งเป็นชื่อจริง คณะนิสิตในฐานะเป็นฝ่ายประสาน ก็จองตั๋วในชื่อนี้ พร้อมตั้งคำถามถึงเจตนาของผู้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว

http://news.voicetv.co.th/thailand/419454.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2016, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ปู..เพื่อแม้ว...ดับเครื่องชน..เลือดเข้าตาพิษคดีจำนำข้าว

รูปภาพ
อาทิตย์ ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น
อ้างคำพูด:
คดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์คาดว่าเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 7 แสนล้าน และยังส่งผลกระทบมาจนปัจจุบันและอนาคต

คืบหน้ามาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้ลงนามในคำสั่งปกครองเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และพวกรวม 6 คน กรณีทุจริตการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีเก๊ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อรัฐเป็นมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งที่มี นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน สรุปตัวเลขเพื่อฟ้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯชดใช้ความเสียหายแก่รัฐเป็นมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาท ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย

คดีโครงการรับจำนำข้าวนั้นแยกเป็นสองส่วนคือ คดีทางอาญาซึ่งมีโทษจำคุกและคดีทางแพ่งฟ้องเรียกค่าเสียหายแก่แผ่นดิน โดยคดีทางอาญาขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายบุญทรง และพวกเป็นจำเลย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดต่อหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและสร้างความเสียหายแก่รัฐมูลค่ามหาศาล ส่วน นายบุญทรง และพวกถูกตั้งข้อหาร่วมกันทุจริตการซื้อขายข้าวจีทูจีเก๊ ซึ่งโทษทางอาญาสูงสุดคือจำคุก 10 ปี และเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม กว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำตัดสินคาดว่าคงจะเป็นราวกลางปีหน้าก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป

ส่วนทางแพ่งเพื่อฟ้องให้จำเลยชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินแยกเป็นสองคดีคือการฟ้องทางปกครองต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐซึ่งขณะนี้กำลังรอการสรุปตัวเลขการชดใช้โดยคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง โดยมีข่าวว่าตัวเลขล่าสุดที่คณะกรรมการเคาะออกมาก็คือ ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ความเสียหายมูลค่าเพียง 35,717 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สำนักนายกฯตั้งขึ้นก่อนหน้านี้เคยสรุปตัวเลขความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวมีมูลค่าสูงถึง 286,639 ล้านบาท

ส่วนการฟ้องทางแพ่งอีกคดีหนึ่งก็คือ กรณีซื้อขายข้าวจีทูจีเก๊ที่มีการลงนามในคำสั่งปกครองให้ นายบุญทรง และพวกชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐเป็นมูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย นายบุญทรง ต้องชดใช้ราว 1.7 พันล้านบาท นายภูมิ 2.2 พันล้านบาท และอีก 4 คน รายละ 4 พันล้านบาท คือ พ.ต.น.พ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรมว.พาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ

คดีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายคืนแก่รัฐเริ่มเดินหน้าด้วยมาตรา 44 ที่เปิดทางให้กรมบังคับคดีซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการยึดทรัพย์เป็นผู้ดำเนินการ ประกอบกับคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ให้การคุ้มครองสร้างความมั่นใจแก่ข้าราชการว่าจะไม่ถูกเช็คบิลในภายหลังทำให้การเดินหน้าคดีทางแพ่งเป็นไปอย่างราบรื่นไม่เกิดการสะดุดเกียร์ว่างจากข้าราชการที่เกี่ยวข้อง

สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง ตลอดจนบรรดาบริวารระบอบทักษิณทั้งหลายพยายามดิ้นรนหนีโทษความผิดสุดฤทธิ์โดยพยายามตะแบงอ้างว่าคดีโครงการรับจำนำข้าวเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองและตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ก็ข่มขู่บรรดาข้าราชการว่าให้ระวังจะถูกเอาคืนหากระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจอีกครั้ง หรือแม้แต่ขู่จะฟ้องกลับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

อาการดังกล่าวสะท้อนถึงความหวาดหวั่นและดิ้นรนหวังเอาตัวรอดในยามใกล้เข้าตาจน และที่สำคัญกว่าคดีทางแพ่งก็คือคดีทางอาญาที่มีโทษถึงขั้นจำคุก ซึ่งหากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกผิดจริงและให้รับโทษโดยไม่รอลงอาญาเท่ากับต้องเดินเข้าคุกทันที และที่สำคัญคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง ต้องปิดฉากหมดอนาคตทางการเมืองเนื่องจากรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหมดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับตลอดชีวิตซึ่งนี่คือสิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายบุญทรง หวาดผวาที่สุด

ทั้งนี้คดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นข่าวใหญ่อื้อฉาวที่ถูกจับตาจากสังคมว่าจะมีจุดจบอย่างไร โดยคนที่โกงชาติปล้นแผ่นดินสร้างความล่มจมให้ชาติบ้านเมืองจะลอยนวลหรือไม่ หรือจะเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สร้างบรรทัดฐานให้เห็นว่า ใครก็ตามที่ทำร้ายแผ่นดินแม้จะเป็นถึงอดีตนายกฯหรือยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตามต้องชดใช้กรรมที่ก่ออย่างสาสมเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ทีมข่าวการเมือง



http://www.naewna.com/creative/238067



เหตุผลในการ รปห. ปี 57 คือ กำจัดพรรคการเมืองฝ่าย ปชต. ให้พ้นทาง อย่างเคยว่า ข้ออ้าง รปห. คือ รัฐบาลโกง แทรกแซง ขรก. ล้มล้างสถาบัน

ปกติ รปห. แล้วเขายึดทรัพย์เลย แต่จะซ้ำกับ รปห. 49 ผดก. จึงยักเยื้องแผนด้วยการใช้ ม. 44 บังคับ ขรก.

ถ้าพวกเขาไม่ทำก็เสียของเหมือน รปห. ปี 49 อีก คือปล่อยให้พรรคการเมืองตัวแทนปชต.ลงแข่งขันได้ :b13: แค่นี้เองเกมรักษาอำนาจ

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2016, 20:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.naewna.com/politic/238900

อ้างคำพูด:
6 ต.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโสสังกัดสำนักข่าวเอพี เจ้าของฉายา "นักข่าวสายโจร" คอลัมนิสต์ คอลัมน์ “วิภาคสื่อเทศ วิเทศสื่อไทย”ในนสพ.แนวหน้า และแนวหน้าออนไลน์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเพจส่วนตัวชื่อ "Sutin Wannabovorn" ตั้งสมมติฐานการทำงานของสื่อมวลชนไทยบางค่าย เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล พนักงานบริษัทการบินไทยที่ออกมารี่วมกันตรวจสอบรัฐบาลอย่างเอาเป็เอาตายกรณีที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เช่าเหมาลำเครื่องบริษัทการบินไทยขนคณะกว่า 38 ชีวิตไปประชุมร่วมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนบวก 1 (รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา)โดยใช้งบประมาณไปกว่า 21 ล้านบาทในช่วง 4 วัน ซึ่งหากว่าสื่อและทุกคนได้ทำหน้าที่นี้อย่างขะมักเขม้นเหมือนในวันนี้คงไม่ต้องมี คมช.และคสช.ต้องเข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศแน่นอน

นายสุทิน ได้โพสต์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือน ก.ย. 2549 ว่า นายกฯรักษาการ(นายทักษิณ ชินวัตร) นำสื่อมวลชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลคณะใหญ่เดินทางไปประเทศฟินแลนด์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 747 ชื่อว่า “เครื่องบินไทยคู่ฟ้า” ซึ่งครั้งนั้นนายกฯรักษาการและคณะไปทำอะไรไม่เป็นที่เปิดเผย แต่หลังจากเครื่องไทยคู่ฟ้า จอดอยู่ทีสนามบินเมืองเฮลซิงกิ 3 วัน นายทักษิณได้เช่าเหมาลำเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบินไทยอีกหนึ่งลำ เพื่อขนกระเป๋าขนาดใหญ่ 76 ใบ โดยมีผู้โดยสารควบคุมกระเป๋าไปเพียง 6 คน บินออกจากสนามบินทหาร (บน. 6) ตรงไปยังฟินแลนด์ เพื่อรับนายกรักษาการและคณะ เดินทางต่อไปนิวยอร์ก ว่ากันเพื่อร่วมประชุมสหประชาชาติ

“วันที่ 19 ก.ย. ทหารยึดอำนาจในกรุงเทพฯ นายกรักษาการและคณะใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 ที่เหมาลำไปพร้อมกับกระเป๋า 76 ใบ และผู้โดยสารเพียง 6 คน เดินทางต่อมากรุงลอนดอน ประเทอังกฤษ สถานที่ที่นายทักษิณใช้เป็นที่ลี้ภัยอยู่เป็นเวลานาน ขณะที่เครื่องบินไทยคู่ฟ้าจอดทิ้งอยู่สนามบินในเมืองเฮงซิงกิ 19 วัน ก่อนกองทัพอากาศจะนำกลับมายังประเทศไทย เครื่อง 747 ที่เหมาลำไปจากการบินไทยหลังส่งนายทักษิณและคณะที่กรุงลอนดอนแล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ”

นายสุทินตั้งข้อสงสัยว่า ตั้งแต่วันนั้น 19 ก.ย. 49 จนถึงวันนี้ทำไมยังไม่เห็น สื่อมวลชน นักเคลื่อนไหว ปปช. ปปง. กระทั่งสตง. ได้ตั้งคำถามหรือตรวจสอบว่า ตอนนั้นทำไมคณะเดินทางจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 ถึง 2 ลำ ลำแรกออกจากกรุงเทพฯไปกับเครื่องบินไทยคู่ฟ้าพร้อมกระเป๋าเดินขนาดใหญ่ 50 กว่าใบ และทำไมต้องเช่าเครื่องจัมโบ้ 747 ของสายบินไทยไปอีกหนึ่งลำ เพื่อให้ผู้โดยสารเพียงหกคน พร้อมกระเป๋า 76 ใบไปรับช่วงต่อเครื่องบินไทยคู่ฟ้า


“เจ้าหน้าการบินไทย เจ้าหน้าที่ทำเนียบ ทีแอบเผยรายการอาหารและรายชื่อผู้โดยสาร เปิดเผยได้ไหมครับว่าค่าเช่าเครื่องบินจัมโบ้ 747 ใส่กระเป๋าขนาดใหญ่ไป 76 ใบกับผู้โดยสารเพียง 6 คน ค่าเช่าเท่าไหร่ ใครเป็นคนจ่าย สำนักข่าวจอมแฉทั้งหลายช่วยสร้างความกระจ่างหน่อยได้ไหมว่าทำไมพวกท่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยในระหว่างที่คณะผู้เดินทางชุดนั้นมีอำนาจ ยกเรื่องขึ้นมาพูดเพราะเห็นหลายคนขุดคุ้ยกันอย่างขมีขมัน ให้เกิดความประหลาดใจว่าผีความเป็นธรรม ผีจริยธรรมได้สิงสื่อและนักตรวจสอบไทยแล้ว จึงอยากได้ความกระจ่างเรื่องนี้ขึ้นมาบ้าง


รูปภาพ

:b32: :b32: :b32:

ราตรีสวัสดิ์..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2016, 05:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
http://www.naewna.com/politic/238900

อ้างคำพูด:
6 ต.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโสสังกัดสำนักข่าวเอพี เจ้าของฉายา "นักข่าวสายโจร" คอลัมนิสต์ คอลัมน์ “วิภาคสื่อเทศ วิเทศสื่อไทย”ในนสพ.แนวหน้า และแนวหน้าออนไลน์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเพจส่วนตัวชื่อ "Sutin Wannabovorn" ตั้งสมมติฐานการทำงานของสื่อมวลชนไทยบางค่าย เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล พนักงานบริษัทการบินไทยที่ออกมารี่วมกันตรวจสอบรัฐบาลอย่างเอาเป็เอาตายกรณีที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เช่าเหมาลำเครื่องบริษัทการบินไทยขนคณะกว่า 38 ชีวิตไปประชุมร่วมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนบวก 1 (รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา)โดยใช้งบประมาณไปกว่า 21 ล้านบาทในช่วง 4 วัน ซึ่งหากว่าสื่อและทุกคนได้ทำหน้าที่นี้อย่างขะมักเขม้นเหมือนในวันนี้คงไม่ต้องมี คมช.และคสช.ต้องเข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศแน่นอน

นายสุทิน ได้โพสต์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือน ก.ย. 2549 ว่า นายกฯรักษาการ(นายทักษิณ ชินวัตร) นำสื่อมวลชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลคณะใหญ่เดินทางไปประเทศฟินแลนด์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 747 ชื่อว่า “เครื่องบินไทยคู่ฟ้า” ซึ่งครั้งนั้นนายกฯรักษาการและคณะไปทำอะไรไม่เป็นที่เปิดเผย แต่หลังจากเครื่องไทยคู่ฟ้า จอดอยู่ทีสนามบินเมืองเฮลซิงกิ 3 วัน นายทักษิณได้เช่าเหมาลำเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของสายการบินไทยอีกหนึ่งลำ เพื่อขนกระเป๋าขนาดใหญ่ 76 ใบ โดยมีผู้โดยสารควบคุมกระเป๋าไปเพียง 6 คน บินออกจากสนามบินทหาร (บน. 6) ตรงไปยังฟินแลนด์ เพื่อรับนายกรักษาการและคณะ เดินทางต่อไปนิวยอร์ก ว่ากันเพื่อร่วมประชุมสหประชาชาติ

“วันที่ 19 ก.ย. ทหารยึดอำนาจในกรุงเทพฯ นายกรักษาการและคณะใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 ที่เหมาลำไปพร้อมกับกระเป๋า 76 ใบ และผู้โดยสารเพียง 6 คน เดินทางต่อมากรุงลอนดอน ประเทอังกฤษ สถานที่ที่นายทักษิณใช้เป็นที่ลี้ภัยอยู่เป็นเวลานาน ขณะที่เครื่องบินไทยคู่ฟ้าจอดทิ้งอยู่สนามบินในเมืองเฮงซิงกิ 19 วัน ก่อนกองทัพอากาศจะนำกลับมายังประเทศไทย เครื่อง 747 ที่เหมาลำไปจากการบินไทยหลังส่งนายทักษิณและคณะที่กรุงลอนดอนแล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ”

นายสุทินตั้งข้อสงสัยว่า ตั้งแต่วันนั้น 19 ก.ย. 49 จนถึงวันนี้ทำไมยังไม่เห็น สื่อมวลชน นักเคลื่อนไหว ปปช. ปปง. กระทั่งสตง. ได้ตั้งคำถามหรือตรวจสอบว่า ตอนนั้นทำไมคณะเดินทางจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 ถึง 2 ลำ ลำแรกออกจากกรุงเทพฯไปกับเครื่องบินไทยคู่ฟ้าพร้อมกระเป๋าเดินขนาดใหญ่ 50 กว่าใบ และทำไมต้องเช่าเครื่องจัมโบ้ 747 ของสายบินไทยไปอีกหนึ่งลำ เพื่อให้ผู้โดยสารเพียงหกคน พร้อมกระเป๋า 76 ใบไปรับช่วงต่อเครื่องบินไทยคู่ฟ้า


“เจ้าหน้าการบินไทย เจ้าหน้าที่ทำเนียบ ทีแอบเผยรายการอาหารและรายชื่อผู้โดยสาร เปิดเผยได้ไหมครับว่าค่าเช่าเครื่องบินจัมโบ้ 747 ใส่กระเป๋าขนาดใหญ่ไป 76 ใบกับผู้โดยสารเพียง 6 คน ค่าเช่าเท่าไหร่ ใครเป็นคนจ่าย สำนักข่าวจอมแฉทั้งหลายช่วยสร้างความกระจ่างหน่อยได้ไหมว่าทำไมพวกท่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยในระหว่างที่คณะผู้เดินทางชุดนั้นมีอำนาจ ยกเรื่องขึ้นมาพูดเพราะเห็นหลายคนขุดคุ้ยกันอย่างขมีขมัน ให้เกิดความประหลาดใจว่าผีความเป็นธรรม ผีจริยธรรมได้สิงสื่อและนักตรวจสอบไทยแล้ว จึงอยากได้ความกระจ่างเรื่องนี้ขึ้นมาบ้าง


รูปภาพ



ราตรีสวัสดิ์..


เผด็จการกลัว กลัวจนทนไม่ได้ ถาม กลัวอะไร? ตอบ กลัวความจริงเหมือนผีกลัวแสงสว่างดอกจ้า :b13:

รูปภาพ

อรุณสวัสด์ิ อิอิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2016, 11:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การบินไทย' ขอ 2 เดือนสรุปตัวเลขค่าใช้จ่าย 'ประวิตร' บินฮาวาย

'การบินไทย' รอสรุปตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนอีก 2 เดือนถึงจะทราบผลค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ยันทำตามระเบียบ ตรวจสอบได้

http://news.voicetv.co.th/thailand/419541.html


ขอเวลาไม่นาน :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม' โพสต์เฟซบุ๊คโชว์ปณิธานหนักแน่น "เราเป็นทนายแผ่นดิน เราเป็นอัยการของประชาชน และเป็นครูกฎหมาย... ศัตรูของเราคือ ความไม่ถูกต้อง"

รูปภาพ


ภาพถ่ายหน้า สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนรัชดาภิเษก.


นี่ไม่ใช่แถลงข่าว นี่ไม่ใช่เรื่องคดี แต่นี่คือสิ่งที่จะบอก "เพื่อนๆในเฟส" ในภาพที่เห็นเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย ไม่นับในเฟส ไม่นับโทรศัพท์ ไม่นับจดหมายทั้งเพื่อนพ้องพี่น้องอัยการ ตุลาการ ทหาร ตำรวจข้าราชในหน่วยงานต่างๆ อธิการบดีและคณบดีหลายสถาบัน ลูกศิษย์ลูกหา แฟนรายการวิทยุ สวพ 91 และ อสมท 107.75 แฟนทีวี TNN 24. สถานีประชน Thailand PBS และที่สำคัญ อดีตอัยการสูงสุดหลายท่านที่เป็นห่วงใยผม. ซึ่งหลายท่านผมไม่เคยรู้จกมาก่อน ผมขอเรียนว่าผมไม่เป็นไรครับ พร้อมทำงานเสมอ ที่ไหนก็ได้ครับ เราเป็นนักกฏหมาย เราเป็นทนายแผ่นดิน เราเป็นอัยการของประชน และเป็นครูกฏหมาย เราท้อไม่ได้ เราหมดกำลังใจไม่ได้ ยังมีประชาชนอีกหลายคนขอความช่วยเหลือทางกฏหมายจากผมอยู่ ศัตรูของเราคือ ความไม่ถูกต้อง ความไม่ชอบธรรม และความไม่ยุติธรรม. ผมสัญญากับทุกท่านว่าผมจะไม่ทรยศต่ออุดมการณ์ และประชาชนครับ สองสามวันนี้มีความสุขมากครับ

http://www.matichon.co.th/news/313139

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 08 ต.ค. 2016, 05:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 05:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เปิดเอกสารเด้ง ปรเมศวร์ รองอธิบดีอัยการ-สั่งสอบโพสต์ติงบิ๊กตู่

รูปภาพ

http://hilight.kapook.com/view/143013

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2016, 07:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตรวจสอบบ้างก็ดี....พวกนี้มีเงินจากไหนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน...
NGO ...หลายๆคน..นี้ตัวดี..

ถูกตรวจสอบบ้าง..ไม่ได้รึงัย?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2016, 11:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตรวจสอบบ้างก็ดี....พวกนี้มีเงินจากไหนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน...
NGO ...หลายๆคน..นี้ตัวดี..

ถูกตรวจสอบบ้าง..ไม่ได้รึงัย?



พวกเดียวกันสอบก็ขาวจั๊วะ ไร้มลทินโดยประการทั้งปวงแล :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2016, 20:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พูดถึง ดร.จากเมกา...ก็ทำให้นึงถึง..ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์

คนรู้ทันเมกา..คนหนึ่ง..

อ้างคำพูด:
ดูเตอร์เต"ลั่นยินดีคุกเข่าให้กษัตริย์ไทย-บรูไนแต่ไม่ยอมอเมริกา

09 ตุลาคม 2559 เวลา 15:53 น.

ผู้นำฟิลิปปินส์กร้าวไล่โอบามา-กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ.......

http://www.posttoday.com/world/news/459303


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2016, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
พูดถึง ดร.จากเมกา...ก็ทำให้นึงถึง..ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์

คนรู้ทันเมกา..คนหนึ่ง..

อ้างคำพูด:
ดูเตอร์เต"ลั่นยินดีคุกเข่าให้กษัตริย์ไทย-บรูไนแต่ไม่ยอมอเมริกา

09 ตุลาคม 2559 เวลา 15:53 น.

ผู้นำฟิลิปปินส์กร้าวไล่โอบามา-กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ.......

http://www.posttoday.com/world/news/459303


ต่อหน้าสื่อ ทำกร้าวแกร่ง ลับหลังคุมเป้า :b32: เยสๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 197 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร