วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 17:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 280 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 31 ต.ค. 2016, 05:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




1473058893144-600x600.jpg
1473058893144-600x600.jpg [ 131.82 KiB | เปิดดู 2325 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ธรรมะของจริง
onion
:b36:


เพียงจินตนาการตามคำพูดของเค้า ก็เป็นเพียงคิดๆวาดภาพไป อุปมาเหมือนคนเมากัญชานอนวาดภาพก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมาในอากาศเป็นรูปเสือ สิงห์ กระทิง แรด นก หนู เป็นต้นไปตามจินตนาการ= ตัณหา แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นว่า นั่นแหละนก หนู จริงๆ = อุปาทาน ต่อนั้นก็สร้างภพ (ภว) ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส แล้วก็หมุนวนเริ่มต้นที่อวิชชา (ความไม่รู้ = โฮ่) เป็นต้นอีก ทั้งปี ทั้งชีวิต :b13: :b32:
โพสต์ เมื่อ: 31 ต.ค. 2016, 05:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ธรรมะของจริง
onion
:b36:


เพียงจินตนาการตามคำพูดของเค้า ก็เป็นเพียงคิดๆวาดภาพไป อุปมาเหมือนคนเมากัญชานอนวาดภาพก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมาในอากาศเป็นรูปเสือ สิงห์ กระทิง แรด นก หนู เป็นต้นไปตามจินตนาการ= ตัณหา แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นว่า นั่นแหละนก หนู จริงๆ = อุปาทาน ต่อนั้นก็สร้างภพ (ภว) ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส แล้วก็หมุนวนเริ่มต้นที่อวิชชา (ความไม่รู้ = โฮ่) เป็นต้นอีก ทั้งปี ทั้งชีวิต :b13: :b32:



พระพุทธเจ้าสอนเรื่องชีวิต (คน) นั่นเอง ดังนั้น ธรรมะคือชีวิตนี่ รึจะเถียง :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 31 ต.ค. 2016, 06:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




1477868379185-240x332.jpg
1477868379185-240x332.jpg [ 30.36 KiB | เปิดดู 2318 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ธรรมะของจริง
onion
:b36:


เพียงจินตนาการตามคำพูดของเค้า ก็เป็นเพียงคิดๆวาดภาพไป อุปมาเหมือนคนเมากัญชานอนวาดภาพก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมาในอากาศเป็นรูปเสือ สิงห์ กระทิง แรด นก หนู เป็นต้นไปตามจินตนาการ= ตัณหา แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นว่า นั่นแหละนก หนู จริงๆ = อุปาทาน ต่อนั้นก็สร้างภพ (ภว) ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส แล้วก็หมุนวนเริ่มต้นที่อวิชชา (ความไม่รู้ = โฮ่) เป็นต้นอีก ทั้งปี ทั้งชีวิต :b13: :b32:



พระพุทธเจ้าสอนเรื่องชีวิต (คน) นั่นเอง ดังนั้น ธรรมะคือชีวิตนี่ รึจะเถียง :b1:


:b12:
ธรรมะ คือชีวิต อาจจะใช่ ถ้าตีความว่าธรรมะคือธรรมชาติ

แต่

ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน......สังเกตคำพูดนี้ให้ดี

"ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน"

เป็นสิ่งที่ชี้ตรง เจาะจงลงไปเฉพาะเรื่อง ไม่ครอบคลุมเรื่องของชีวิตทั้งหมดอย่างที่กรัชกายเห็นและเข้าใจ

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า

นี่ทุกข์

นี่เหตุเกิดทุกข์

นี่ความดับทุกข์

นี่วิธีดับเหตุทุกข์หรือทางดำเนินไปให้ถึงความดับทุกข์

พระพุทธองค์ทรงสอนและชี้ชัดลงไปเฉพาะในเรื่องทั้ง 4 เรื่องนี้เป็นสำคัญ เรื่องอื่นนอกจากนี้ที่มีแสดงไว้เป็นเพียงเรื่องประกอบหรือเรื่องที่จะเอามาชี้นำให้ผู้คนเข้าถึงประเด็นธรรมทั้ง 4 ข้อ คืออริยสัจทั้ง 4 ประการนี้


ใครมีความเห็น ศึกษา ค้นคว้า ลงมือปฏิบัติ คิด พูด ทำอยู่ใน 4 เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นผู้มี สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ
สัมมาสมาธิ

ใครทำนอกไปจากสี่เรื่องนี้ถือว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิทั้งหมด

ใครเจริญการกระทำไปในอริยสัจ 4 ได้ชื่อว่าผู้ปฏิบัติตรง
เป็นอุชุปฏิปันโน เป็นสุปฏิปันโน ญายะปฏิปันโน สามีจิปฏิปันโน บุคคล ย่อมมีที่สุดอยู่ในกลุ่มของจัตตาริปุริสสะ ยุคานิ อัฐปุริสสะบุคคลา คู่แห่งบุรุษ 4 คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ 8 บุรุษ
นั่นแหละสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า

พึงสำเหนียกจดจำใส่ใจไว้ใหดีนะกรัชกาย อย่ามาเอาความเห็นผิด ความอวดรู้อวดใหญ่ที่ไม่ตรงประเด็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงคัดเลือกไว้ดีแล้วมาสอน ให้บิดเบือนไป ขยายประเด็นจนทำให้ผู้ใหม่ ผู้ยังไม่รู้ หลงทางไปในเรื่องที่ไม่รู้จบอย่างเรื่องของ ชีวิต ที่ยกมานั้น มันจะเป็นบาปมหันต์ที่มาทำให้ผู้คนหลงทางหลงประเด็นศึกษาปฏิบัติในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง เปลืองสมองเปลืองชีวิตไปกับคำแนะนำที่เป็นมิจฉาทิฏฐิของกรัชกาย ดังจะพิจารณาได้จักพฤติกรรมการเขียนการโพสต์เรื่องราวความรู้ต่างๆตามกระทู้ของกรัชกายซึ่งสะเปะสะปะ กินความกว้างขวางไปหมดจนไม่รู้ว่าจะชี้ชัดลงตรงไหนกันแน่ จะเอายังไงกัน เดี๋ยวธรรมหลุด เดี๋ยวธรรมโลกย์ มั่วกันไปหมด ไม่เป็นอุชุปัญญา อุชุวาจา อุชุกัมมะ อุชุปฏิปันโน

ปรับจิตปรับใจปรับทิศทางความเห็นเสียใหม่ให้ถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิโดยแท้เสียนะกรัชกาย จะได้ไม่เป็นบาปเป็นกรรมเป็นครุกรรมหรืออนันตริยกรรมกับชีวิตของกรัชกายอีกต่อไป

onion
โพสต์ เมื่อ: 31 ต.ค. 2016, 17:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ธรรมะของจริง
onion
:b36:


เพียงจินตนาการตามคำพูดของเค้า ก็เป็นเพียงคิดๆวาดภาพไป อุปมาเหมือนคนเมากัญชานอนวาดภาพก้อนเมฆที่ลอยไปลอยมาในอากาศเป็นรูปเสือ สิงห์ กระทิง แรด นก หนู เป็นต้นไปตามจินตนาการ= ตัณหา แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นว่า นั่นแหละนก หนู จริงๆ = อุปาทาน ต่อนั้นก็สร้างภพ (ภว) ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส แล้วก็หมุนวนเริ่มต้นที่อวิชชา (ความไม่รู้ = โฮ่) เป็นต้นอีก ทั้งปี ทั้งชีวิต :b13: :b32:



พระพุทธเจ้าสอนเรื่องชีวิต (คน) นั่นเอง ดังนั้น ธรรมะคือชีวิตนี่ รึจะเถียง :b1:


ธรรมะ คือชีวิต อาจจะใช่ ถ้าตีความว่าธรรมะคือธรรมชาติ

แต่ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน......สังเกตคำพูดนี้ให้ดี

"ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอน"

เป็นสิ่งที่ชี้ตรง เจาะจงลงไปเฉพาะเรื่อง ไม่ครอบคลุมเรื่องของชีวิตทั้งหมดอย่างที่กรัชกายเห็นและเข้าใจ

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า

นี่ทุกข์

นี่เหตุเกิดทุกข์

นี่ความดับทุกข์

นี่วิธีดับเหตุทุกข์หรือทางดำเนินไปให้ถึงความดับทุกข์

พระพุทธองค์ทรงสอนและชี้ชัดลงไปเฉพาะในเรื่องทั้ง 4 เรื่องนี้เป็นสำคัญ เรื่องอื่นนอกจากนี้ที่มีแสดงไว้เป็นเพียงเรื่องประกอบหรือเรื่องที่จะเอามาชี้นำให้ผู้คนเข้าถึงประเด็นธรรมทั้ง 4 ข้อ คืออริยสัจทั้ง 4 ประการนี้[/color]

ใครมีความเห็น ศึกษา ค้นคว้า ลงมือปฏิบัติ คิด พูด ทำอยู่ใน 4 เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นผู้มี สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ
สัมมาสมาธิ

ใครทำนอกไปจากสี่เรื่องนี้ถือว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิทั้งหมด

ใครเจริญการกระทำไปในอริยสัจ 4 ได้ชื่อว่าผู้ปฏิบัติตรง
เป็นอุชุปฏิปันโน เป็นสุปฏิปันโน ญายะปฏิปันโน สามีจิปฏิปันโน บุคคล ย่อมมีที่สุดอยู่ในกลุ่มของจัตตาริปุริสสะ ยุคานิ อัฐปุริสสะบุคคลา คู่แห่งบุรุษ 4 คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ 8 บุรุษ
นั่นแหละสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า

พึงสำเหนียกจดจำใส่ใจไว้ใหดีนะกรัชกาย อย่ามาเอาความเห็นผิด ความอวดรู้อวดใหญ่ที่ไม่ตรงประเด็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงคัดเลือกไว้ดีแล้วมาสอน ให้บิดเบือนไป ขยายประเด็นจนทำให้ผู้ใหม่ ผู้ยังไม่รู้ หลงทางไปในเรื่องที่ไม่รู้จบอย่างเรื่องของ ชีวิต ที่ยกมานั้น มันจะเป็นบาปมหันต์ที่มาทำให้ผู้คนหลงทางหลงประเด็นศึกษาปฏิบัติในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง เปลืองสมองเปลืองชีวิตไปกับคำแนะนำที่เป็นมิจฉาทิฏฐิของกรัชกาย ดังจะพิจารณาได้จักพฤติกรรมการเขียนการโพสต์เรื่องราวความรู้ต่างๆตามกระทู้ของกรัชกายซึ่งสะเปะสะปะ กินความกว้างขวางไปหมดจนไม่รู้ว่าจะชี้ชัดลงตรงไหนกันแน่ จะเอายังไงกัน เดี๋ยวธรรมหลุด เดี๋ยวธรรมโลกย์ มั่วกันไปหมด ไม่เป็นอุชุปัญญา อุชุวาจา อุชุกัมมะ อุชุปฏิปันโน

ปรับจิตปรับใจปรับทิศทางความเห็นเสียใหม่ให้ถูกต้องเป็นสัมมาทิฏฐิโดยแท้เสียนะกรัชกาย จะได้ไม่เป็นบาปเป็นกรรมเป็นครุกรรมหรืออนันตริยกรรมกับชีวิตของกรัชกายอีกต่อไป


จับตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยมาพูดผสมๆกันไป ซึ่งเรียกว่าจับแพะชนแกะ จับรถชนกับเรือ คิกๆๆ

เสียดายเวลาที่ผ่านมาแทนจริงๆ :b1:

พูดด้วยความปรารถนาดีนะ เข้าไปศึกษายังสำนักเรียนที่เปิดสอนหลักให้ถูกต้องก่อน นี่คือเบื้องต้น การเรียนรู้ (ปริยัติ) เมื่อพอเข้าใจหลักถูกถ้วนแล้ว จะปฏิบัติจะอะไรก็ได้เค้าได้แนวพอสมควร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ย. 2016, 06:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




1473058893144-600x600.jpg
1473058893144-600x600.jpg [ 131.82 KiB | เปิดดู 2309 ครั้ง ]
onion
ประมวลธรรมมาชี้ตรงให้ฟัง ให้ศึกษา ให้สำเนียก ให้จดจำ
ยังไม่รู้ไม่เข้าใจแถมยังมาพูดเฉไฉให้เสียเนื้อธรรมอีก

ช่างน่าเวทนาสงสารเสียจริงๆนักวิชาการใหญ่ที่ถูกความรู้ท่วมหัว หู ตา ทับสติปัญญาจนจับประเด็นธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ได้ จักตายเสียเปล่าอยู่บนกองความรู้และตำรา ขอชาวประชาทั้งหลายพึงดูไว้และอย่าได้เอาเยี่ยงอย่างกันเลยนะครับ

onion
โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ย. 2016, 13:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


ประมวลธรรมมาชี้ตรงให้ฟัง ให้ศึกษา ให้สำเนียก ให้จดจำ
ยังไม่รู้ไม่เข้าใจแถมยังมาพูดเฉไฉให้เสียเนื้อธรรมอีก

ช่างน่าเวทนาสงสารเสียจริงๆนักวิชาการใหญ่ที่ถูกความรู้ท่วมหัว หู ตา ทับสติปัญญาจนจับประเด็นธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ได้ จักตายเสียเปล่าอยู่บนกองความรู้และตำรา ขอชาวประชาทั้งหลายพึงดูไว้และอย่าได้เอาเยี่ยงอย่างกันเลยนะครับ



ธรรมอะไร ธรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ธรรมอะไร :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ย. 2016, 15:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ประมวลธรรมมาชี้ตรงให้ฟัง ให้ศึกษา ให้สำเนียก ให้จดจำ
ยังไม่รู้ไม่เข้าใจแถมยังมาพูดเฉไฉให้เสียเนื้อธรรมอีก

ช่างน่าเวทนาสงสารเสียจริงๆนักวิชาการใหญ่ที่ถูกความรู้ท่วมหัว หู ตา ทับสติปัญญาจนจับประเด็นธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ได้ จักตายเสียเปล่าอยู่บนกองความรู้และตำรา ขอชาวประชาทั้งหลายพึงดูไว้และอย่าได้เอาเยี่ยงอย่างกันเลยนะครับ



ธรรมอะไร ธรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ธรรมอะไร :b9:


s004
แล้วกรัชกายรู้ถูกต้องหรือยังล่ะ ว่าธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนคืออะไร?

ไหนลองสรุปมาให้ฟังให้น่าชื่นใจในความเป็นนักวิชาการใหญ่หน่อยซิ

s006


โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ย. 2016, 15:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


ประมวลธรรมมาชี้ตรงให้ฟัง ให้ศึกษา ให้สำเนียก ให้จดจำ
ยังไม่รู้ไม่เข้าใจแถมยังมาพูดเฉไฉให้เสียเนื้อธรรมอีก

ช่างน่าเวทนาสงสารเสียจริงๆนักวิชาการใหญ่ที่ถูกความรู้ท่วมหัว หู ตา ทับสติปัญญาจนจับประเด็นธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ได้ จักตายเสียเปล่าอยู่บนกองความรู้และตำรา ขอชาวประชาทั้งหลายพึงดูไว้และอย่าได้เอาเยี่ยงอย่างกันเลยนะครับ



ธรรมอะไร ธรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ธรรมอะไร :b9:


s004
แล้วกรัชกายรู้ถูกต้องหรือยังล่ะ ว่าธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนคืออะไร?

ไหนลองสรุปมาให้ฟังให้น่าชื่นใจในความเป็นนักวิชาการใหญ่หน่อยซิ

s006



ถามน่ารำคาญ ตอบไปไม่รู้กี่รอบแล้ว ก็ชีวิตท่านอโศกที่นั่งหัวโด่อยู่นั่นแหละธรรมะ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ย. 2016, 15:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b7:
เศร้ามากที่นักวิชาการใหญ่อย่างกรัชกายสรุปธรรมะของพระพุทธเจ้าได้แค่นี้
s002


โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ย. 2016, 15:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b7:
เศร้ามากที่นักวิชาการใหญ่อย่างกรัชกายสรุปธรรมะของพระพุทธเจ้าได้แค่นี้
s002



ก็บอกแล้วว่า ถ้าท่านอโศกปฏิบัติธรรมหรือปฏิบัติกรรมฐาน บ้าชัวร์ คิกๆ เพราะมองปัญหาชีวิต (ทุกข์) ที่บนฟ้า ก๊ากๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 01 พ.ย. 2016, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

เศร้ามากที่นักวิชาการใหญ่อย่างกรัชกายสรุปธรรมะของพระพุทธเจ้าได้แค่นี้



อย่าเศร้าไปเลยขอรับ มีปัญหามาถาม แต่บอกก่อนนะชอบว่าอยู่เรื่อยว่าเป็นศิษย์ของกรัชกาย ไม่ใช่นะ

ปัญหาเขา มีดังนี้


มีวิธีการเอาชนะความเกียจคร้านในการสวดมนต์นั่งสมาธิ กันวิธีไหนบ้างค่ะ

วันนี้เตรียมคำถามมาหลายข้อ ยังไงเพื่อนๆเข้ามาอ่านแล้วช่วยตอบคำถามของเราด้วยนะคะ ถือว่าเป็นบุญและชี้ทางสว่างให้ลูกหมูลูกหมาสักตัวคะ อิ๊อิ๊

ด้วยภาระหน้าที่และการงาน กว่าเราจะเลิกงาน จัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ดึกแทบทุกวัน พอครั้นจะเข้านอนก็ขี้เกียดที่จะสวดมนต์ทุกทีเลยค่ะ อยากสอบถามหลายๆคนในที่นี้ว่า

1.คุณมีวิธีขัดการกับความขี้เกียดสวดมนต์นั่งสมาธินี้กันยังไงบ้างคะ เช่น สร้างแรงบันดารใจให้กับตัวเองฮึ๊ดสู้ที่อยากจะสวดมนต์-ทำสมาธิโดยไม่อิดออด / ใช้ความคิดแบบไหน คำสอนไหนมาเตือนสติให้ตัวเองพยุงกายอันอืดอ้วนขึ้นมาสวดมนต์ ฯลฯ อะไรประมาณนี้ค่ะ

2. แล้วมีการจัดการยังให้จิตใจของเราไม่วอกแวกเวลาที่สวดมนต์ แบบว่า แน่วแน่ ไม่ไหวเอนไปตามจิต คิดโน้นคิดนี่ เรื่องเก่าเรื่องใหม่ เรื่องงาน เรื่องคนนั้น เรื่องคนนี้ไปเรื่อย (อยากปลง อยากสงบแต่เรายังไม่มีความรู้พอที่จะเข้าใจได้ว่า การปล่อยวางที่แท้จริงนั้นจะต้องทำได้ยังไง)

3. มีคนบอกว่า สวดมนต์นั่งสมาธิที่ไหน ถ้าจิตสงบก็ไม่จำเป็นต้องไปวัด ทำที่บ้านก็ได้บุญเหมือนกัน อันนี้จริงมั้ยค่ะ

4. แล้วถ้าเราอยากถือศีล 8 ที่บ้านในวันหยุดงาน เราอาราธนาศีลเอง แบบนี้จะได้มั้ยค่ะ ถือว่าเป็นบุคคลมีศีล8 ที่สมบูรณ์หรือเปล่า

5. เวลาเราสวดมนต์ บางเล่มก็ไม่มีบทอาราธนาศีล5 มีแต่ศีล5ที่เป็นข้อๆขึ้นมาให้เราสวดเลย แบบนี้ก็ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ หรือจำเป็นต้องท่องบทอาราธนาศีลก่อน ถึงจะถือว่ามีศีล5 ที่สมบูรณ์




ตอบเป็นข้อๆไปสิขอรับ :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ย. 2016, 07:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

เศร้ามากที่นักวิชาการใหญ่อย่างกรัชกายสรุปธรรมะของพระพุทธเจ้าได้แค่นี้



อย่าเศร้าไปเลยขอรับ มีปัญหามาถาม แต่บอกก่อนนะชอบว่าอยู่เรื่อยว่าเป็นศิษย์ของกรัชกาย ไม่ใช่นะ

ปัญหาเขา มีดังนี้


มีวิธีการเอาชนะความเกียจคร้านในการสวดมนต์นั่งสมาธิ กันวิธีไหนบ้างค่ะ

วันนี้เตรียมคำถามมาหลายข้อ ยังไงเพื่อนๆเข้ามาอ่านแล้วช่วยตอบคำถามของเราด้วยนะคะ ถือว่าเป็นบุญและชี้ทางสว่างให้ลูกหมูลูกหมาสักตัวคะ อิ๊อิ๊

ด้วยภาระหน้าที่และการงาน กว่าเราจะเลิกงาน จัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ดึกแทบทุกวัน พอครั้นจะเข้านอนก็ขี้เกียดที่จะสวดมนต์ทุกทีเลยค่ะ อยากสอบถามหลายๆคนในที่นี้ว่า

1.คุณมีวิธีขัดการกับความขี้เกียดสวดมนต์นั่งสมาธินี้กันยังไงบ้างคะ เช่น สร้างแรงบันดารใจให้กับตัวเองฮึ๊ดสู้ที่อยากจะสวดมนต์-ทำสมาธิโดยไม่อิดออด / ใช้ความคิดแบบไหน คำสอนไหนมาเตือนสติให้ตัวเองพยุงกายอันอืดอ้วนขึ้นมาสวดมนต์ ฯลฯ อะไรประมาณนี้ค่ะ

2. แล้วมีการจัดการยังให้จิตใจของเราไม่วอกแวกเวลาที่สวดมนต์ แบบว่า แน่วแน่ ไม่ไหวเอนไปตามจิต คิดโน้นคิดนี่ เรื่องเก่าเรื่องใหม่ เรื่องงาน เรื่องคนนั้น เรื่องคนนี้ไปเรื่อย (อยากปลง อยากสงบแต่เรายังไม่มีความรู้พอที่จะเข้าใจได้ว่า การปล่อยวางที่แท้จริงนั้นจะต้องทำได้ยังไง)

3. มีคนบอกว่า สวดมนต์นั่งสมาธิที่ไหน ถ้าจิตสงบก็ไม่จำเป็นต้องไปวัด ทำที่บ้านก็ได้บุญเหมือนกัน อันนี้จริงมั้ยค่ะ

4. แล้วถ้าเราอยากถือศีล 8 ที่บ้านในวันหยุดงาน เราอาราธนาศีลเอง แบบนี้จะได้มั้ยค่ะ ถือว่าเป็นบุคคลมีศีล8 ที่สมบูรณ์หรือเปล่า

5. เวลาเราสวดมนต์ บางเล่มก็ไม่มีบทอาราธนาศีล5 มีแต่ศีล5ที่เป็นข้อๆขึ้นมาให้เราสวดเลย แบบนี้ก็ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ หรือจำเป็นต้องท่องบทอาราธนาศีลก่อน ถึงจะถือว่ามีศีล5 ที่สมบูรณ์




ตอบเป็นข้อๆไปสิขอรับ :b14:

s004
ทำไมจะต้องไปตอบเป็นข้อๆล่ะ กรัชกาย การไปตอบเป็นข้อๆตามคำถามของศิษย์อย่างนั้น เป็นการจมลงไปในปัญหาแล้วตอบ ย่อมไม่ได้คำตอบที่ครอบคลุมสมบูรณ์ในการแก้ปัญหา

จงอ่านคำถามทั้งหมดแล้ววิเคราะห์ว่าปัญหาที่ถามทั้งหมดนั้นเกิดมาจากสมุฐานหรือเหตุที่แท้จริงอย่างไร

จากการวิเคราะห์ปัญหารวมทั้ง 5 ข้อแล้ว สังเกตเห็นได้ว่า
ศิษย์คนนี้มีปัญหาเรื่องขี้เกียจไม่เอาจริงเอาจังและไม่มีความรู้พื้นฐาน....หรือไม่ได้รับการสอนความรู้พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับชาวพุทธมาอย่างถูกต้องเพียงพอ จำเป็นต้องเอามาฟังและการอบรมเสียใหม่ ก่อนลงมือปฏิบัติจริง

1.ขี้เกียจไม่เอาจริง อาจเพราะ ไม่เห็นภัยในทุกข์ วัฏฏะสงสารความเวียนว่ายตายเกิดอย่างแท้จริง ทุกข์อันเปรียบเหมือนไฟลุกไหม้อยู่บนศีรษะนี้เขายังไม่เห็นชัด เขาจึงไม่รีบเร่ง ไม่ขยัน ไม่ขวันขวาย ไม่กระตือรือร้น ไม่เอาจริงเอาจังในการปฏิบัติภาวนา สวดมนต์ไหว้พระหรือทำการอื่นอันเกี่ยวข้อง

ต้องทำให้เขาเห็นทุกข์ชัดๆจริงๆเหมือนไฟไหม้บนหัวต้องรีบดับให้ได้ก่อนสิ่งอื่นใด ดังนี้เป็นต้น

หลวงพ่อเคยสอนว่าถ้าใครขยันและรีบเร่งหาธรรมเหมือนกับคนที่ไปทำลูกหายในกลางหมู่ชนจำนวนมากในงานมหกรรมใหญ่ๆ จะต้องค้นหาและรับลูกกลับมาบ้านให้ได้ จะต้องทำอย่างไร การค้นหาธรรมก็ให้ทำอย่างนั้น

2.ความรู้พื้นฐานทางธรรมสำหรับชาวพุทธยังมีไม่เพียงพอ

อันนี้ต้องเอามารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้นตามกระบวนการและหัวข้อที่อโศกะแนะนำข้างต้น นะกรัชกาย
onion


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ย. 2016, 08:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

เศร้ามากที่นักวิชาการใหญ่อย่างกรัชกายสรุปธรรมะของพระพุทธเจ้าได้แค่นี้



อย่าเศร้าไปเลยขอรับ มีปัญหามาถาม แต่บอกก่อนนะชอบว่าอยู่เรื่อยว่าเป็นศิษย์ของกรัชกาย ไม่ใช่นะ

ปัญหาเขา มีดังนี้


มีวิธีการเอาชนะความเกียจคร้านในการสวดมนต์นั่งสมาธิ กันวิธีไหนบ้างค่ะ

วันนี้เตรียมคำถามมาหลายข้อ ยังไงเพื่อนๆเข้ามาอ่านแล้วช่วยตอบคำถามของเราด้วยนะคะ ถือว่าเป็นบุญและชี้ทางสว่างให้ลูกหมูลูกหมาสักตัวคะ อิ๊อิ๊

ด้วยภาระหน้าที่และการงาน กว่าเราจะเลิกงาน จัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ดึกแทบทุกวัน พอครั้นจะเข้านอนก็ขี้เกียดที่จะสวดมนต์ทุกทีเลยค่ะ อยากสอบถามหลายๆคนในที่นี้ว่า

1.คุณมีวิธีขัดการกับความขี้เกียดสวดมนต์นั่งสมาธินี้กันยังไงบ้างคะ เช่น สร้างแรงบันดารใจให้กับตัวเองฮึ๊ดสู้ที่อยากจะสวดมนต์-ทำสมาธิโดยไม่อิดออด / ใช้ความคิดแบบไหน คำสอนไหนมาเตือนสติให้ตัวเองพยุงกายอันอืดอ้วนขึ้นมาสวดมนต์ ฯลฯ อะไรประมาณนี้ค่ะ

2. แล้วมีการจัดการยังให้จิตใจของเราไม่วอกแวกเวลาที่สวดมนต์ แบบว่า แน่วแน่ ไม่ไหวเอนไปตามจิต คิดโน้นคิดนี่ เรื่องเก่าเรื่องใหม่ เรื่องงาน เรื่องคนนั้น เรื่องคนนี้ไปเรื่อย (อยากปลง อยากสงบแต่เรายังไม่มีความรู้พอที่จะเข้าใจได้ว่า การปล่อยวางที่แท้จริงนั้นจะต้องทำได้ยังไง)

3. มีคนบอกว่า สวดมนต์นั่งสมาธิที่ไหน ถ้าจิตสงบก็ไม่จำเป็นต้องไปวัด ทำที่บ้านก็ได้บุญเหมือนกัน อันนี้จริงมั้ยค่ะ

4. แล้วถ้าเราอยากถือศีล 8 ที่บ้านในวันหยุดงาน เราอาราธนาศีลเอง แบบนี้จะได้มั้ยค่ะ ถือว่าเป็นบุคคลมีศีล8 ที่สมบูรณ์หรือเปล่า

5. เวลาเราสวดมนต์ บางเล่มก็ไม่มีบทอาราธนาศีล5 มีแต่ศีล5ที่เป็นข้อๆขึ้นมาให้เราสวดเลย แบบนี้ก็ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ หรือจำเป็นต้องท่องบทอาราธนาศีลก่อน ถึงจะถือว่ามีศีล5 ที่สมบูรณ์




ตอบเป็นข้อๆไปสิขอรับ :b14:

s004
ทำไมจะต้องไปตอบเป็นข้อๆล่ะ กรัชกาย การไปตอบเป็นข้อๆตามคำถามของศิษย์อย่างนั้น เป็นการจมลงไปในปัญหาแล้วตอบ ย่อมไม่ได้คำตอบที่ครอบคลุมสมบูรณ์ในการแก้ปัญหา

จงอ่านคำถามทั้งหมดแล้ววิเคราะห์ว่าปัญหาที่ถามทั้งหมดนั้นเกิดมาจากสมุฐานหรือเหตุที่แท้จริงอย่างไร

จากการวิเคราะห์ปัญหารวมทั้ง 5 ข้อแล้ว สังเกตเห็นได้ว่า
ศิษย์คนนี้มีปัญหาเรื่องขี้เกียจไม่เอาจริงเอาจังและไม่มีความรู้พื้นฐาน....หรือไม่ได้รับการสอนความรู้พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับชาวพุทธมาอย่างถูกต้องเพียงพอ จำเป็นต้องเอามาฟังและการอบรมเสียใหม่ ก่อนลงมือปฏิบัติจริง

1.ขี้เกียจไม่เอาจริง อาจเพราะ ไม่เห็นภัยในทุกข์ วัฏฏะสงสารความเวียนว่ายตายเกิดอย่างแท้จริง ทุกข์อันเปรียบเหมือนไฟลุกไหม้อยู่บนศีรษะนี้เขายังไม่เห็นชัด เขาจึงไม่รีบเร่ง ไม่ขยัน ไม่ขวันขวาย ไม่กระตือรือร้น ไม่เอาจริงเอาจังในการปฏิบัติภาวนา สวดมนต์ไหว้พระหรือทำการอื่นอันเกี่ยวข้อง

ต้องทำให้เขาเห็นทุกข์ชัดๆจริงๆเหมือนไฟไหม้บนหัวต้องรีบดับให้ได้ก่อนสิ่งอื่นใด ดังนี้เป็นต้น

หลวงพ่อเคยสอนว่าถ้าใครขยันและรีบเร่งหาธรรมเหมือนกับคนที่ไปทำลูกหายในกลางหมู่ชนจำนวนมากในงานมหกรรมใหญ่ๆ จะต้องค้นหาและรับลูกกลับมาบ้านให้ได้ จะต้องทำอย่างไร การค้นหาธรรมก็ให้ทำอย่างนั้น

2.ความรู้พื้นฐานทางธรรมสำหรับชาวพุทธยังมีไม่เพียงพอ

อันนี้ต้องเอามารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้นตามกระบวนการและหัวข้อที่อโศกะแนะนำข้างต้น นะกรัชกาย
onion


อ้างคำพูด:
ทำไมจะต้องไปตอบเป็นข้อๆล่ะ กรัชกาย การไปตอบเป็นข้อๆตามคำถามของศิษย์อย่างนั้น เป็นการจมลงไปในปัญหาแล้วตอบ


นี่ไงเขาถามว่า ไปไหนมา ? ถึงได้ตอบว่า สามวาสองศอก

แล้วก็สมกับตัวอย่างที่ยกมาให้ดูบ่อยๆ คือ ผู้ปฏิบัติมีปัญหาทางกาย แต่ไปตอบ ข้าวเปลือกใหญ่เท่าผลมะพร้าว คิกๆๆ ซึ่งมันคนละเรื่องนะตัวเอง

การตอบปัญหา ต้องตอบตามโจทก์ตั้ง ถึงจะได้คะแนน นี่ก็ข้อหนึ่งนะว่าท่านอโศกขาดการศึกษาปริยัติ ปฏิบัติ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ย. 2016, 14:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b7:
น่าสงสารและเวทนากรัชกายที่ไม่รู้ความนัยของเรื่องที่บอก

จงมุดใต้โคลนตมต่อไป
onion


โพสต์ เมื่อ: 02 พ.ย. 2016, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b7:
น่าสงสารและเวทนากรัชกายที่ไม่รู้ความนัยของเรื่องที่บอก

จงมุดใต้โคลนตมต่อไป
onion


เขาถามเป็นข้อๆ 5 ข้อ มันเป็นยังไงก็ว่าไป แต่นี่ยังมามีความนัย ความนอก มีจิตมีจมในปัญหาที่เขาถามอีก อุต่ะ :b13: มันจมก็กู้ขึ้นมาซี่ เออ :b32:

แบบนี้เข้าป่าไปเถอะขอรับ อย่าออกมาอยู่กับผู้คนเลย :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 280 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร