56665.วิธีปฏิบัติ

โลกสวย

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

กรัชกาย

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

โลกสวย

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

กรัชกาย

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

นี่ขนาดพูดอธิบาย แถมยกตัวอย่างให้ดูให้เห็น ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อความหมายให้ คิกคักๆๆ

คนพูด "พระอภิธรรม" "พระไตรปิฎก" "ปรมัตถธรรม" เปรียบเหมือนยกท่อนซุงมาทั้งดุ้น

กรัชกาย

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

นี่ขนาดพูดอธิบาย แถมยกตัวอย่างให้ดูให้เห็น ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อความหมายให้ คิกคักๆๆ

คนพูด "พระอภิธรรม" "พระไตรปิฎก" "ปรมัตถธรรม" เปรียบเหมือนยกท่อนซุงมาทั้งดุ้น

โลกสวย

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

นี่ขนาดพูดอธิบาย แถมยกตัวอย่างให้ดูให้เห็น ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อความหมายให้ คิกคักๆๆ

คนพูด "พระอภิธรรม" "พระไตรปิฎก" "ปรมัตถธรรม" เปรียบเหมือนยกท่อนซุงมาทั้งดุ้น

เพราะลุงกรัชกายไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า

นี่คือความชาญฉลาดแสนปราชเปรื่องของพระพุทธองค์
ที่กล่าวปรมัตถ์ธรรมไว้

เพราะว่า ท่อนซุงท่อนเดียว
เอามาทำขี้เลื่อย ไส่ในหัวขี้เลื่อยแบบลุงกรัชกาย ได้หลายหัวหลายชาติ เรยค่ะ
คริคริ

กรัชกาย

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

นี่ขนาดพูดอธิบาย แถมยกตัวอย่างให้ดูให้เห็น ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อความหมายให้ คิกคักๆๆ

คนพูด "พระอภิธรรม" "พระไตรปิฎก" "ปรมัตถธรรม" เปรียบเหมือนยกท่อนซุงมาทั้งดุ้น

เพราะลุงกรัชกายไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า

นี่คือความชาญฉลาดแสนปราชเปรื่องของพระพุทธองค์
ที่กล่าวปรมัตถ์ธรรมไว้

เพราะว่า ท่อนซุงท่อนเดียว
เอามาทำขี้เลื่อย ไส่ในหัวขี้เลื่อยแบบลุงกรัชกาย ได้หลายหัวหลายชาติ เรยค่ะ
คริคริ

วน พายเรือในอ่างทองคำ :b1:

จบข่าว

โลกสวย

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

นี่ขนาดพูดอธิบาย แถมยกตัวอย่างให้ดูให้เห็น ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อความหมายให้ คิกคักๆๆ

คนพูด "พระอภิธรรม" "พระไตรปิฎก" "ปรมัตถธรรม" เปรียบเหมือนยกท่อนซุงมาทั้งดุ้น

เพราะลุงกรัชกายไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า

นี่คือความชาญฉลาดแสนปราชเปรื่องของพระพุทธองค์
ที่กล่าวปรมัตถ์ธรรมไว้

เพราะว่า ท่อนซุงท่อนเดียว
เอามาทำขี้เลื่อย ไส่ในหัวขี้เลื่อยแบบลุงกรัชกาย ได้หลายหัวหลายชาติ เรยค่ะ
คริคริ

วน พายเรือในอ่างทองคำ :b1:

จบข่าว

ยังไม่จบหรอกค่ะ ป้ากรัชกายหัวขี้เลื่อย

เพราะว่าป้าไม่ได้เรียนพระอภิธรรม

เรยไม่รู้ว่า ตั้งแต่ที่ป้ากรัชกายพูดเรื่องสติปัฎฐาน และวิปัสสนามา
หลายสิบปีในบอร์ดนี้ แต่ สอบตก

ทั้งๆที่เม สอนให้เมื่อหกเดือนกว่าที่ผ่านมาให้แล้ว ยังลืมอีกนะคะ

เพราะ
้ป้ากรัชกายทำธรรมมานุปัสสนาหายไปหนึ่ง

คือ

การพิจารณา นิพพาน
โดยประจักษ์ สำหรับพระอริยะบุคคล
และโดยอนุมาน สำหรับปุถุชน

คริๆ

กรัชกาย

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

นี่ขนาดพูดอธิบาย แถมยกตัวอย่างให้ดูให้เห็น ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อความหมายให้ คิกคักๆๆ

คนพูด "พระอภิธรรม" "พระไตรปิฎก" "ปรมัตถธรรม" เปรียบเหมือนยกท่อนซุงมาทั้งดุ้น

เพราะลุงกรัชกายไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า

นี่คือความชาญฉลาดแสนปราชเปรื่องของพระพุทธองค์
ที่กล่าวปรมัตถ์ธรรมไว้

เพราะว่า ท่อนซุงท่อนเดียว
เอามาทำขี้เลื่อย ไส่ในหัวขี้เลื่อยแบบลุงกรัชกาย ได้หลายหัวหลายชาติ เรยค่ะ
คริคริ

วน พายเรือในอ่างทองคำ :b1:

จบข่าว

ยังไม่จบหรอกค่ะ ป้ากรัชกายหัวขี้เลื่อย

เพราะว่าป้าไม่ได้เรียนพระอภิธรรม

เรยไม่รู้ว่า ตั้งแต่ที่ป้ากรัชกายพูดเรื่องสติปัฎฐาน และวิปัสสนามา
หลายสิบปีในบอร์ดนี้ แต่ สอบตก

ทั้งๆที่เม สอนให้เมื่อหกเดือนกว่าที่ผ่านมาให้แล้ว ยังลืมอีกนะคะ

เพราะ
้ป้ากรัชกายทำธรรมมานุปัสสนาหายไปหนึ่ง

คือ

การพิจารณา นิพพาน
โดยประจักษ์ สำหรับพระอริยะบุคคล
และโดยอนุมาน สำหรับปุถุชน

คริๆ

จะเอาขี้เลื่อยที่ไหนมาเล่า ยังไม่ได้เอาท่อนซุงไปเลื่อยเบย ท่อนซุงทั้งเพ "พระอภิธรรม" ก็ดี "สติปัฏฐาน" ก็ดี "วิปัสสนา" ก็ดี "นิพพาน" ก็ดี "พระอริยบุคคล" ก็ดี เป็นการยกเอามาทั้งดุ้น ยังไม่ได้เลื่อย คิกๆๆ

ธัมมานุปัสสนา จะหายไปไหน มี ๔ นี่ ถ้าหายก็มี ๓ ดิ ดูใหม่

กายานุปัสสนา

เวทนานุปัสสนา

จิตตานุปัสสนา

ธัมมานุปัสสนา

ครบ ๔แล้ว อย่างนี้แหละเรียกว่าเอามาทั้งดุ้น เพราะยกเป็นตัวอย่างเฉยๆ แต่ก่อนหน้าพูดไปมากแว้ว :b32:

โลกสวย

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

โลกสวย เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จบตอน กระบวนการปฏิบัติ

ต่อ ผลของการปฏิบัติ ที่

viewtopic.php?f=1&t=56668

จบตอน

ผลของการไม่เรียนพระอภิธรรม ไม่เรียนปริยัติให้ถ่องแท้
ลุงกรัชกาย เรยไม่รู้เรื่องสัมมาสติและองค์ธรรมของมหาสติปัฎฐาน

คริคริ ค่ะ

กะพี่เมเคยพูดท่อนซุงหนหนึ่งแล้ว แต่ไม่ชัดพอ ย้ำอีกที

การใช้คำพูดที่ว่า "พระอภิธรรม" ก็ดี "ปริยัติ" ก็ดี "สัมมาสติ" ก็ดี "มหาสติปัฏฐาน" ก็ดี พูดอย่างนี้แหละ น้องตั้งชื่อเรียกเองว่า ท่อนซุงทั้งดุ้น อิอิ เคยเห็นไหม ท่อนซุงที่เขาชักลากออกจากป่ามาวางเรียงๆกันไว้ตามริมถนน แถวๆภาคเหนือ นั่งรถผ่านจะเห็น คิกๆๆ (วางกองไว้เป็นปีๆๆๆ จนขอนไม้ผุเป็นอาหารของปลวกของมอดไป)

หนูลุงกรัชกาย เข้าใจผิดๆๆๆๆ ไปแระหละค่ะ

ที่ไม่รู้ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปรมัตถ

นี่เปรียบเสมือนไม้ทั้งป่า ที่พระพุทธองค์ได้ทรงพบและตรัสรู้
เมื่อประจักษ์ ได้พบต่อหน้าต่อตาขนะไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะรากไม้ ตอไม้ ที่มากอง

หรือ ใบไม้แค่ไม่กี่ใบในมือทีพระพุทธองค์ ทรงแสดงในใบไม้ที่เป็นประโยน์

ก็รู้ได้ทันที ว่า เป็นไม้ชนิดไหน

และชนิดไหนอยู่ เป็นร้อยปี ปลวกก็ไม่กิน มอดก็ไม่กิน

เช่นไม้ชนิดอิทธิบาทสี่ อายุยืนได้เป็นกัป

คริคริ

หมายถึงคนพูด พูดท่อนซุง คือ พูดได้นั่นๆนี่ๆ ปรมัตถ์ มัดๆๆ แต่ไม่รู้ว่าอะไร นำไปใช้ประโยชน์ไม่เป็น ไม่รู้ว่าเอาไปทำยังไงต่ออีกจึงเกิดประโยชน์

อิอิ ธรรมดาท่อนซุงนั้น เขาจะต้องนำไปแปรรูปเป็นแผ่นกระดานแล้วก็นำไปสร้างเป็นบ้านเป็นเรือนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน บ้านคือวิมานของเรา ยามทุกข์ยามเศร้ากลับบ้านเราจะเปรมปรีดา :b32:

เพราะลุงกรัชกาย ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก เรยเขลาเบาปัญญา
ไม่รู้ว่า ปรมัตถ์ธรรม ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ ทรงเคารพพระปรมัตถ์ธรรม

แต่ลุงกรัชกาย ผู้ตื้นเขิน เห็นปรมัตถ์ธรรม เป็นได้แค่ ท่อนซุง

น่าอนาจหนอ

นี่ขนาดพูดอธิบาย แถมยกตัวอย่างให้ดูให้เห็น ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สื่อความหมายให้ คิกคักๆๆ

คนพูด "พระอภิธรรม" "พระไตรปิฎก" "ปรมัตถธรรม" เปรียบเหมือนยกท่อนซุงมาทั้งดุ้น

เพราะลุงกรัชกายไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนปริยัติ
เรยไม่รู้ว่า

นี่คือความชาญฉลาดแสนปราชเปรื่องของพระพุทธองค์
ที่กล่าวปรมัตถ์ธรรมไว้

เพราะว่า ท่อนซุงท่อนเดียว
เอามาทำขี้เลื่อย ไส่ในหัวขี้เลื่อยแบบลุงกรัชกาย ได้หลายหัวหลายชาติ เรยค่ะ
คริคริ

วน พายเรือในอ่างทองคำ :b1:

จบข่าว

ยังไม่จบหรอกค่ะ ป้ากรัชกายหัวขี้เลื่อย

เพราะว่าป้าไม่ได้เรียนพระอภิธรรม

เรยไม่รู้ว่า ตั้งแต่ที่ป้ากรัชกายพูดเรื่องสติปัฎฐาน และวิปัสสนามา
หลายสิบปีในบอร์ดนี้ แต่ สอบตก

ทั้งๆที่เม สอนให้เมื่อหกเดือนกว่าที่ผ่านมาให้แล้ว ยังลืมอีกนะคะ

เพราะ
้ป้ากรัชกายทำธรรมมานุปัสสนาหายไปหนึ่ง

คือ

การพิจารณา นิพพาน
โดยประจักษ์ สำหรับพระอริยะบุคคล
และโดยอนุมาน สำหรับปุถุชน

คริๆ

จะเอาขี้เลื่อยที่ไหนมาเล่า ยังไม่ได้เอาท่อนซุงไปเลื่อยเบย ท่อนซุงทั้งเพ "พระอภิธรรม" ก็ดี "สติปัฏฐาน" ก็ดี "วิปัสสนา" ก็ดี "นิพพาน" ก็ดี "พระอริยบุคคล" ก็ดี เป็นการยกเอามาทั้งดุ้น ยังไม่ได้เลื่อย คิกๆๆ

ธัมมานุปัสสนา จะหายไปไหน มี ๔ นี่ ถ้าหายก็มี ๓ ดิ ดูใหม่

กายานุปัสสนา

เวทนานุปัสสนา

จิตตานุปัสสนา

ธัมมานุปัสสนา

ครบ ๔แล้ว อย่างนี้แหละเรียกว่าเอามาทั้งดุ้น เพราะยกเป็นตัวอย่างเฉยๆ แต่ก่อนหน้าพูดไปมากแว้ว :b32:

คริคริ

เพราะป้ากรัชกาย ไมไ่ด้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก
เรยไม่รู้ว่า หลักวิปัสสนาที่แท้จริง อารมณ์วิปัสสนาที่กำลังรู้ ต้องเป็นปรมัตถ์เท่านั้น

กรัชกาย

โลกสวย เขียน:

เพราะป้ากรัชกาย ไมไ่ด้เรียนพระอภิธรรม ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก
เรยไม่รู้ว่า หลักวิปัสสนาที่แท้จริง อารมณ์วิปัสสนาที่กำลังรู้ ต้องเป็นปรมัตถ์เท่านั้น

พระอภิธรรมก็อภิธรรมเอ้า พระไตรปิฏก ก็ไตรปิฏกเอ้า ปรมัตถ์ ก็ปะระมัด มัดมัด เอ้า ว่าอะไรว่าตามกัน :b13:

จบข่าว

56665.วิธีปฏิบัติ

ผู้ใช้งานขณะนี้