วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 20:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2018, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ย้อนกลับมาดูแล้วก็นึกขำ :b9: :b32:

Kiss
โลกแต่ละทางทั้ง6ทางเลยไม่ปนกัน
มีเห็นสีกระทบตาแล้วก็ดับทันที
ไม่มีจิตทางอื่นๆปนอะไรเลย
สีล้วนสีเดียวไม่มีรูปร่างไรเลย
ไม่มีเสียงไม่มีกลิ่นไม่มีรสปน
ไม่รู้ความจริงก็มีมิจฉาไง
เป็นตัวตนชื่อไรมีบ้านอยู่
อยู่ดีๆไม่มีงานทำก็อยากไป
บวชเพราะอยากได้เงิน
เป็นจอว.สร้างวัดเอง
(จอว.=เจ้าอาวาส) :b9:
มีอะไรเต็มไปหมด
คือมิจฉาทิฏฐิค่ะ
เข้าใจไหมคะ
ไม่มีอะไรเลย
สร้างแต่วัตถุ
ธัมมะในใจไม่มี
กุฏิศาลาที่ขยันสร้างตายแล้วไม่ตามไปด้วยนะคะ


อ่ะนะ คิกๆๆ แล้วหูที่ฟัง ที่สุตะ ตายแล้วมันตามไปด้วยไหม

บ้านช่องห้องหอที่ทำที่สร้างอยู่กันตายแล้วมันตามไปด้วยไหม :b32:

คุณโรสพูดอะไรเหมือนคนกินยาลืมเขย่าขวดนะ

ตรงๆเลยนะคำตถาคตไม่มีอ้อมและไม่มีเกรงใจกิเลสคำว่าอวิชชาแปลเป็นไทยคือโง่ที่ไม่เริ่มตามการฟัง
ก็จิตเกิดแล้วดับสะสมที่จิตทันทีเอากิเลสออกเมื่อไหร่เดี๋ยวนี้มีจิตครบ6ทางเป็นกิเลสตั้งแต่ขณะที่3ดับนะ
กะพริบตาทุกครั้งเป็นกิเลสไหลไปครบ6ทางอายตนะไหนบอกหน่อยสิถอนกิเลสทางไหนที่กะพริบตาแล้ว
:b32: :b32:


บอกแล้วว่าเป็นธรรมปฏิรูป ของปลอม มันจึงไม่สั่นไม่ไหว คิกๆๆ หมายควายว่า คุณโรสและเจ้าสำนักบ้านธัมมะ เอาศัพท์ทางธรรมของเขามาแล้วมานโมความหมายเอาเอง นั่นแหละตัวอย่าง ธรรมปฏิรป ปฏิสังขรณ์ ต่อไปจะเป็นปฏิกูล บอกไม่เชื่อ :b32:

:b12:
คิดเองมันผิดไง
มองตัวเองไม่ออก
คิดตามสิคะกำลังเห็น
ไม่รู้รูปของเห็นที่ดับแล้ว
แต่คิดเห็นที่ลืมตาเห็นเป็นคนสัตว์วัตถุทันที
คือคิดเองตามเห็นที่กำลังเห็นผิดของตนเองไงคะลืมว่าต้องกำลังคิดตามคำสอนได้อยู่
:b32: :b32:
ตถาคตบอกว่าเห็นเป็นเห็นดับแล้วเห็นเป็นธัมมะไม่ใช่เราแต่เป็นเราเห็นสิ่งหนุ่งสิงใด
เดียวนี้กำลังเห็นผิดเป็นเราเห็นแล้วคิดนึกครบ6ทางเป็นตัวตนกรัชกายตรงไหมคะวิปลาส3อยู่ครบ



คุณโรส คนมีไหม ?


วันนี้ ไม่เห็นโพสต์คุณโรสเลย หรือว่าม่ายฉะบาย :b32: ถามไม่ตอบ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2018, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทฺโธ (พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น) ทรงเป็นผู้ตื่น ไม่หลงงมงายเองด้วย และทรงปลุกผู้อื่นให้ตื่นพ้นจากความหลงงมงายนั้นด้วย ทรงเป็นผู้เบิกบาน มีพระทัยผ่องแผ้ว บำเพ็ญพุทธกิจได้ถูกต้องบริบูรณ์

พุทธพจน์ พระดำรัสของพุทธเจ้า, คำพูดของพระพุทธเจ้า

พุทธภาษิต ภาษิตของของพุทธเจ้า, ถ้อยคำที่พระพุทธเจ้าพูด

พหุลธรรมีกถา ธรรมีกถา หรือธรรมกถา ที่ตรัสมาก, พระพุทธดำรัสบรรยายอธิบายธรรม ที่ตรัสเป็นอันมาก,

ความในมหาปรินิพพานสูตร เล่าเหตุการณ์ เมื่อพระพุทธเจ้า เสด็จผ่านและทรงหยุดประทับในที่หลายแห่ง โดยกล่าวเพียงสั้นๆ อย่างรวบรัด ว่า ณ ที่นั้นๆ (มี ๘ แห่ง เริ่มแต่ ที.ม.10/75/95) พระพุทธเจ้าตรัสพหุลธรรมีกถา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังตัวอย่างว่า ได้ทราบว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฎ เขตพระนครราชคฤห์ แม้นั้น ทรงกระทำธรรมีกถาอันนี้แหละเป็นอันมากแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
"ศีลเป็นอย่างนี้ สมาธิเป็นอย่างนี้ ปัญญาเป็นอย่างนี้, สมาธิ อันศีลบ่มแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก, ปัญญา อันสมาธิบ่มแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก, จิตอันปัญญาบ่มแล้ว ย่อมหลุดพ้นโดยชอบ จากอาสวะทั้งหลาย คือ จากกามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ" โดยใจความ ก็คือหลัก ไตรสิกขา,
จะใช้ว่า พหุลธัมมีกถาหรือ พหุลธรรมกถา ก็ได้


พระเจ้า พระพุทธเจ้า, พระพุทธรูป, เทพผู้เป็นใหญ่; คนไทยใช้คำว่า พระเจ้า หมายถึง พระพุทธเจ้า มาแต่โบราณ เช่นว่า “พระเจ้าห้าพระองค์” ก็คือ พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ แต่คงเป็นด้วยว่า
ต่อมาเมื่อศาสนิกแห่งศาสนาที่นับถือเทพเป็นใหญ่ ใช้คำนี้เรียกเทพเป็นใหญ่ของตนกันแพร่หลายขึ้น พุทธศาสนิกชนจึงใช้คำนี้น้อยลงๆ จนบัดนี้แทบไม่เข้าใจว่าเป็นคำที่ใช้มาในพระพุทธศาสนา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2018, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วัตถุ เรื่อง, สิ่งของ, ข้อความ, ที่ดิน, ที่ตั้งเรื่อง หมายถึงบุคคลผู้เป็นที่ตั้งแห่งการทำกรรมของสงฆ์ เช่น ในการอุปสมบท คนที่จะบวชเป็นวัตถุแห่งการให้อุปสมบท

(นึกถึงคำพูด ไม่รู้จะจริงอย่างว่าหรือเปล่า เขาว่าหลวงพ่อโตว่า บาลีศัพท์หนึ่ง มีอรรถตั้งร้อย คนรู้น้อยหาว่าไอ้โตบ้า)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2018, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ย้อนกลับมาดูแล้วก็นึกขำ :b9: :b32:

Kiss
โลกแต่ละทางทั้ง6ทางเลยไม่ปนกัน
มีเห็นสีกระทบตาแล้วก็ดับทันที
ไม่มีจิตทางอื่นๆปนอะไรเลย
สีล้วนสีเดียวไม่มีรูปร่างไรเลย
ไม่มีเสียงไม่มีกลิ่นไม่มีรสปน
ไม่รู้ความจริงก็มีมิจฉาไง
เป็นตัวตนชื่อไรมีบ้านอยู่
อยู่ดีๆไม่มีงานทำก็อยากไป
บวชเพราะอยากได้เงิน
เป็นจอว.สร้างวัดเอง
(จอว.=เจ้าอาวาส) :b9:
มีอะไรเต็มไปหมด
คือมิจฉาทิฏฐิค่ะ
เข้าใจไหมคะ
ไม่มีอะไรเลย
สร้างแต่วัตถุ
ธัมมะในใจไม่มี
กุฏิศาลาที่ขยันสร้างตายแล้วไม่ตามไปด้วยนะคะ


อ่ะนะ คิกๆๆ แล้วหูที่ฟัง ที่สุตะ ตายแล้วมันตามไปด้วยไหม

บ้านช่องห้องหอที่ทำที่สร้างอยู่กันตายแล้วมันตามไปด้วยไหม :b32:

คุณโรสพูดอะไรเหมือนคนกินยาลืมเขย่าขวดนะ


ตรงๆเลยนะคำตถาคตไม่มีอ้อม และไม่มีเกรงใจกิเลส คำว่า อวิชชา แปลเป็นไทย คือ โง่ที่ไม่เริ่มตามการฟัง

ก็จิตเกิดแล้วดับสะสมที่จิตทันที เอากิเลสออกเมื่อไหร่ เดี๋ยวนี้ มีจิตครบ 6 ทาง เป็นกิเลสตั้งแต่ขณะที่ 3 ดับนะ

กะพริบตาทุกครั้งเป็นกิเลสไหลไปครบ 6 ทาง อายตนะไหนบอกหน่อยสิ ถอนกิเลสทางไหนที่กะพริบตาแล้ว


อ้างคำพูด:
ตรงๆเลยนะคำตถาคตไม่มีอ้อม และไม่มีเกรงใจกิเลส คำว่า อวิชชา แปลเป็นไทย คือ โง่ที่ไม่เริ่มตามการฟัง


อวิชชา ความไม่รู้จริง, ความหลงอันเป็นเหตุไม่รู้จริง มี ๔ คือ ความไม่รู้อริยสัจจ์ ๔ แต่ละอย่าง (ไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้เหตุเกิดแห่งทุกข์ ไม่รู้ความดับทุกข์ ไม่รู้ทางให้ถึงความดับทุกข์)

อวิชชา ๘ คือ อวิชชา ๔ นั้น และเพิ่ม ๕ ไม่รู้อดีต ๖. ไม่รู้อนาคต ๗ ไม่รู้ทั้งอดีตทั้งอนาคต ๘. ไม่รู้ปฏิจจสมุปบาท


ภาวะที่เป็นอวิชชา ก็คือ การไม่มองเห็นไตรลักษณ์ โดยเฉพาะความเป็นอนัตตา ตาม แนวปฏิจจสมุปบาท คือ ไม่รู้ตระหนักว่า สภาพที่ถือกันว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา นั้น เป็นเพียงกระแสแห่งรูปธรรมนามธรรมส่วนย่อยต่างๆมากมาย ที่สัมพันธ์เนื่องอาศัยกันเป็นเหตุปัจจัยสืบต่อกัน โดยอาการเกิดสลายๆ ทำให้กระแสนั้นอยู่ในภาวะที่กำลังแปรรูปอยู่ตลอดเวลา หรือพูดให้ง่ายขึ้นว่า
บุคคลก็ คือผลรวมแห่งความรู้สึกนึกคิด ความปรารถนา ความเคยชิน ความโน้มเอง ทัศนคติ ความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อถือ (ตั้งแต่ขั้นหยาบที่ผิดหรือไม่มีเหตุผล จนถึงขั้นละเอียดที่ถูกต้องและมีเหตุผล) ความคิดเห็น ความรู้สึก ในคุณค่าต่างๆ ฯลฯ ทั้งหมดในขณะนั้นๆ ที่เป็นผลมาจากการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม การศึกษาอบรม และปฏิกิริยาต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นภายใน และที่มีต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย อันกำลังดำเนินไปอยู่ตลอดเวลา

เมื่อไม่ตระหนักรู้เช่นนี้ จึงยึดถือเอาสิ่งเหล่านั้นอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นตัวตนของตนในขณะหนึ่งๆ เมื่อยึดถือสิ่งเหล่านี้เป็นตัวตน ก็คือถูกสิ่งเหล่านั้นหลอกเอา จึงเท่ากับตกอยู่ในอำนาจของมัน ถูกมันชักจูงบังคับเอาให้เห็นว่าตัวตนนั้นเป็นไปต่างๆ พร้อมทั้งความเข้าใจว่า ตนเองกำลังทำการต่างๆตามความต้องการของตน เป็นต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2018, 20:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ย้อนกลับมาดูแล้วก็นึกขำ :b9: :b32:

Kiss
โลกแต่ละทางทั้ง6ทางเลยไม่ปนกัน
มีเห็นสีกระทบตาแล้วก็ดับทันที
ไม่มีจิตทางอื่นๆปนอะไรเลย
สีล้วนสีเดียวไม่มีรูปร่างไรเลย
ไม่มีเสียงไม่มีกลิ่นไม่มีรสปน
ไม่รู้ความจริงก็มีมิจฉาไง
เป็นตัวตนชื่อไรมีบ้านอยู่
อยู่ดีๆไม่มีงานทำก็อยากไป
บวชเพราะอยากได้เงิน
เป็นจอว.สร้างวัดเอง
(จอว.=เจ้าอาวาส) :b9:
มีอะไรเต็มไปหมด
คือมิจฉาทิฏฐิค่ะ
เข้าใจไหมคะ
ไม่มีอะไรเลย
สร้างแต่วัตถุ
ธัมมะในใจไม่มี
กุฏิศาลาที่ขยันสร้างตายแล้วไม่ตามไปด้วยนะคะ


วัดโพธิ์ ได้รับการโหวตให้เป็นที่หมายสำคัญด้านการท่องเที่ยว 'อันดับ 17' ของโลก แซงหน้ากำแพงเมืองจีน

เว็บไซต์วางแผนและจองตั๋วการเดินทางของสหรัฐฯ จัดอันดับให้ 'วัดโพธิ์' ของไทยเป็น Landmark หรือที่หมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว อันดับ 1 ของไทย และเป็นอันดับที่ 17 ของโลก ขณะที่ 'พระบรมมหาราชวัง' และ 'วัดอรุณ' ได้อันดับที่ 2 และ 3 ของไทย

https://voicetv.co.th/read/ryOW3ga_7

คุณโรส ผู้สร้างสิ้นชีพวายชนม์หมดแล้ว เป็นวัตถุทั้งนั้น ไม่ตามผู้สร้างไปด้วย แต่กลับทำเงินให้คนรุ่นหลังได้ด้วย

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/187 ... s=1280x854

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/02e ... ?s=600x314

ยังมีอีกหลายวัดทั้งเหนือ อีสาน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ย้อนกลับมาดูแล้วก็นึกขำ :b9: :b32:

Kiss
โลกแต่ละทางทั้ง6ทางเลยไม่ปนกัน
มีเห็นสีกระทบตาแล้วก็ดับทันที
ไม่มีจิตทางอื่นๆปนอะไรเลย
สีล้วนสีเดียวไม่มีรูปร่างไรเลย
ไม่มีเสียงไม่มีกลิ่นไม่มีรสปน
ไม่รู้ความจริงก็มีมิจฉาไง
เป็นตัวตนชื่อไรมีบ้านอยู่
อยู่ดีๆไม่มีงานทำก็อยากไป
บวชเพราะอยากได้เงิน
เป็นจอว.สร้างวัดเอง
(จอว.=เจ้าอาวาส) :b9:
มีอะไรเต็มไปหมด
คือมิจฉาทิฏฐิค่ะ
เข้าใจไหมคะ
ไม่มีอะไรเลย
สร้างแต่วัตถุ
ธัมมะในใจไม่มี
กุฏิศาลาที่ขยันสร้างตายแล้วไม่ตามไปด้วยนะคะ


วัดโพธิ์ ได้รับการโหวตให้เป็นที่หมายสำคัญด้านการท่องเที่ยว 'อันดับ 17' ของโลก แซงหน้ากำแพงเมืองจีน

เว็บไซต์วางแผนและจองตั๋วการเดินทางของสหรัฐฯ จัดอันดับให้ 'วัดโพธิ์' ของไทยเป็น Landmark หรือที่หมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว อันดับ 1 ของไทย และเป็นอันดับที่ 17 ของโลก ขณะที่ 'พระบรมมหาราชวัง' และ 'วัดอรุณ' ได้อันดับที่ 2 และ 3 ของไทย

https://voicetv.co.th/read/ryOW3ga_7

คุณโรส ผู้สร้างสิ้นชีพวายชนม์หมดแล้ว เป็นวัตถุทั้งนั้น ไม่ตามผู้สร้างไปด้วย แต่กลับทำเงินให้คนรุ่นหลังได้ด้วย

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/187 ... s=1280x854

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/02e ... ?s=600x314

ยังมีอีกหลายวัดทั้งเหนือ อีสาน

cool
เคยเห็นตาลปัตรคติธรรมตอนงานศพไหมคะเข้าใจไหม
ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น หมายถึงอะไร
ตอนไปฟังสวดกุสลาทำมาอกุสลาทำมาอัพยากตาทำมา
การสวดคือการท่องบ่นสาธยายมนต์คือปัญญาตถาคต
ถามว่าพวกท่านไปนั่งคุยกันระบายทุกข์ให้กันฟังไม่ได้รู้
ความหมายของการสวดมนต์นั้นและไม่เข้าใจตาลปัตรเลย
ไปไม่กลับคือพระพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าพระสาวกอรหันต์
ตายแล้วไม่กลับมาเกิดและทุกคนที่ตายไปแล้วไม่กลับมาบอกว่าตายแล้วไปไหน
หลับไม่ตื่นคือคนที่ไม่เข้าใจคำสอนมีชีวิตที่ไม่รู้ทั้งหลับและตื่นเสมือนคนนอนหลับไม่รู้ตื่น
ฟื้นไม่มีคือตายลงไปแล้วไม่มีจิตแล้วจะลุกมานั่งฟังเพื่อเข้าใจคำสอนได้เป็นไม่มีแล้วเวลาที่
พระสวดอภิธรรมคนตายฟื้นคืนมาฟังก็ไม่ได้ไม่รู้เรื่องส่วนคนเป็นฟังไม่รู้เรื่องก็เหมือนตายทั้งเป็นไงไม่รู้เรื่องนี่
หนีไม่พ้นคือเมื่อตายลงด้วยความไม่รู้ไม่มีปัญญาเข้าใจคำสอนถึงที่สุดคือตายลงย่อมหนีไม่พ้นกลับมาเกิดอีก
:b32: :b32:
ฟังให้มันเข้าถึงใจแบบรู้เรื่องไม่ใช่ปล่อยตัวเองเชื่อแต่คนอื่นบอกให้ทำเพราะพระพุทธเจ้าบอกให้ฟังเองด้วยดี
ย่อมได้ปัญญาฟังบ้างนะก่อนไม่มีโอกาสทำสุตมยปัญญาคือฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร
https://youtu.be/DSakJ0sCQZU
:b16:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ย้อนกลับมาดูแล้วก็นึกขำ :b9: :b32:

Kiss
โลกแต่ละทางทั้ง6ทางเลยไม่ปนกัน
มีเห็นสีกระทบตาแล้วก็ดับทันที
ไม่มีจิตทางอื่นๆปนอะไรเลย
สีล้วนสีเดียวไม่มีรูปร่างไรเลย
ไม่มีเสียงไม่มีกลิ่นไม่มีรสปน
ไม่รู้ความจริงก็มีมิจฉาไง
เป็นตัวตนชื่อไรมีบ้านอยู่
อยู่ดีๆไม่มีงานทำก็อยากไป
บวชเพราะอยากได้เงิน
เป็นจอว.สร้างวัดเอง
(จอว.=เจ้าอาวาส) :b9:
มีอะไรเต็มไปหมด
คือมิจฉาทิฏฐิค่ะ
เข้าใจไหมคะ
ไม่มีอะไรเลย
สร้างแต่วัตถุ
ธัมมะในใจไม่มี
กุฏิศาลาที่ขยันสร้างตายแล้วไม่ตามไปด้วยนะคะ


อ่ะนะ คิกๆๆ แล้วหูที่ฟัง ที่สุตะ ตายแล้วมันตามไปด้วยไหม

บ้านช่องห้องหอที่ทำที่สร้างอยู่กันตายแล้วมันตามไปด้วยไหม :b32:

คุณโรสพูดอะไรเหมือนคนกินยาลืมเขย่าขวดนะ

ตรงๆเลยนะคำตถาคตไม่มีอ้อมและไม่มีเกรงใจกิเลสคำว่าอวิชชาแปลเป็นไทยคือโง่ที่ไม่เริ่มตามการฟัง
ก็จิตเกิดแล้วดับสะสมที่จิตทันทีเอากิเลสออกเมื่อไหร่เดี๋ยวนี้มีจิตครบ6ทางเป็นกิเลสตั้งแต่ขณะที่3ดับนะ
กะพริบตาทุกครั้งเป็นกิเลสไหลไปครบ6ทางอายตนะไหนบอกหน่อยสิถอนกิเลสทางไหนที่กะพริบตาแล้ว
:b32: :b32:


บอกแล้วว่าเป็นธรรมปฏิรูป ของปลอม มันจึงไม่สั่นไม่ไหว คิกๆๆ หมายควายว่า คุณโรสและเจ้าสำนักบ้านธัมมะ เอาศัพท์ทางธรรมของเขามาแล้วมานโมความหมายเอาเอง นั่นแหละตัวอย่าง ธรรมปฏิรป ปฏิสังขรณ์ ต่อไปจะเป็นปฏิกูล บอกไม่เชื่อ :b32:

:b12:
คิดเองมันผิดไง
มองตัวเองไม่ออก
คิดตามสิคะกำลังเห็น
ไม่รู้รูปของเห็นที่ดับแล้ว
แต่คิดเห็นที่ลืมตาเห็นเป็นคนสัตว์วัตถุทันที
คือคิดเองตามเห็นที่กำลังเห็นผิดของตนเองไงคะลืมว่าต้องกำลังคิดตามคำสอนได้อยู่
:b32: :b32:
ตถาคตบอกว่าเห็นเป็นเห็นดับแล้วเห็นเป็นธัมมะไม่ใช่เราแต่เป็นเราเห็นสิ่งหนุ่งสิงใด
เดียวนี้กำลังเห็นผิดเป็นเราเห็นแล้วคิดนึกครบ6ทางเป็นตัวตนกรัชกายตรงไหมคะวิปลาส3อยู่ครบ



คุณโรส คนมีไหม ?


วันนี้ ไม่เห็นโพสต์คุณโรสเลย หรือว่าม่ายฉะบาย :b32: ถามไม่ตอบ

:b1:
ตามความรู้ความเข้าใจจากการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
และเข้าใจว่ามีกายใจแต่ไม่ต้องเรียกชื่อว่าคนเพราะมีแต่
ธัมมะที่ไม่มีคนทั้งตัวมีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงตาม
ที่ตถาคตตรัสรู้และแสดงความจริงให้เข้าใจถูกตามได้
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 17:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

ตามความรู้ความเข้าใจจากการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
และเข้าใจว่ามีกายใจแต่ไม่ต้องเรียกชื่อว่าคนเพราะมีแต่
ธัมมะที่ไม่มีคนทั้งตัวมีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงตาม
ที่ตถาคตตรัสรู้และแสดงความจริงให้เข้าใจถูกตามได้



จิต เจตสิก รูป เขาเรียกกันว่าคนไหม

ส่วนนิพพงนิพพานอะไรนั่น อย่าเพิ่งเว้าถึงเลย คิกๆๆ เรื่องเห็นๆยังเลอะเทอะขนาดนี้ โดดไปเล่นนิพพาน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2018, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ตามความรู้ความเข้าใจจากการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
และเข้าใจว่ามีกายใจแต่ไม่ต้องเรียกชื่อว่าคนเพราะมีแต่
ธัมมะที่ไม่มีคนทั้งตัวมีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงตาม
ที่ตถาคตตรัสรู้และแสดงความจริงให้เข้าใจถูกตามได้



จิต เจตสิก รูป เขาเรียกกันว่าคนไหม

ส่วนนิพพงนิพพานอะไรนั่น อย่าเพิ่งเว้าถึงเลย คิกๆๆ เรื่องเห็นๆยังเลอะเทอะขนาดนี้ โดดไปเล่นนิพพาน


เรียกว่าปรมัตถธรรมหรืออภิธรรม
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 07:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ตามความรู้ความเข้าใจจากการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
และเข้าใจว่ามีกายใจแต่ไม่ต้องเรียกชื่อว่าคนเพราะมีแต่
ธัมมะที่ไม่มีคนทั้งตัวมีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงตาม
ที่ตถาคตตรัสรู้และแสดงความจริงให้เข้าใจถูกตามได้



จิต เจตสิก รูป เขาเรียกกันว่าคนไหม

ส่วนนิพพงนิพพานอะไรนั่น อย่าเพิ่งเว้าถึงเลย คิกๆๆ เรื่องเห็นๆยังเลอะเทอะขนาดนี้ โดดไปเล่นนิพพาน


เรียกว่าปรมัตถธรรมหรืออภิธรรม
:b32: :b32: :b32:


แล้วปรมัตถ์ เขาเรียกว่าคนไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ย. 2018, 07:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

ตามความรู้ความเข้าใจจากการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
และเข้าใจว่ามีกายใจแต่ไม่ต้องเรียกชื่อว่าคนเพราะมีแต่
ธัมมะที่ไม่มีคนทั้งตัวมีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงตาม
ที่ตถาคตตรัสรู้และแสดงความจริงให้เข้าใจถูกตามได้



จิต เจตสิก รูป เขาเรียกกันว่าคนไหม

ส่วนนิพพงนิพพานอะไรนั่น อย่าเพิ่งเว้าถึงเลย คิกๆๆ เรื่องเห็นๆยังเลอะเทอะขนาดนี้ โดดไปเล่นนิพพาน


เรียกว่าปรมัตถธรรมหรืออภิธรรม
:b32: :b32: :b32:


แล้วปรมัตถ์ เขาเรียกว่าคนไหม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2018, 19:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณโรสและเจ้าสำนักคิดทำนองว่า จะสร้างวัตถุกันทำไม

อ้างคำพูด:
Rosarin
พระรัตนตรัยสูงสุดคือคำสอนแทนศาสดาไม่ใช่หรือคะและ
ถ้าภิกษุที่เหยียบย่ำคำสอน...เคารพพระศาสดาไหมที่รับเงินนั้นน่ะ
อริยบุคคลที่บวชในธรรมวินัยนี้ไม่รับเงินแน่นอนและที่รับเงินน่ะไม่รู้อกุศลที่ควรละ
ในเมื่อทำเพื่อมุ่งรับเงินสร้างวัตถุให้เป็นภาระหาเงินเพิ่มสมควรสอนผู้อื่นได้ไหมไม่รู้ความสมควรเลย

viewtopic.php?f=1&t=56488&start=75



อ้างคำพูด:
บรรพชาแต่ไม่สำนึกว่าตนเป็นผู้ขอแต่รับเงินคือโจรปล้นปัจจัย4ของภิกษุในธรรมวินัย
แล้วก็มีแต่สร้างวัตถุขึ้นมาทำไมมากมายเพื่อขอเงินกวนเงินชาวบ้าน
ไม่สร้างธรรมในใจไม่ศึกษาคำสอนด้วยดีเป็นบรรพชิตรับเงินไม่ได้
และใช้เงินก็ไม่ได้และไม่มีสิกขาบทข้อใดบอกให้ใช้เงินรับเงิน
ชงกาแฟกินเองยังไม่ได้เลย ไม่รู้หรือสร้างเยอะ แล้วก็บ่นไม่มีค่าน้ำไฟ



นี่วัตถุที่ใช้ประกอบศาสนกิจ ใช้หลบแดดหลบฝน ไม่เพียงพอ ฝนเทลงมาได้วิ่งกันแทบไม่ทัน

รูปภาพ

นี่คือความสำคัญของที่อยู่อาศัย เขาว่าชาวบ้านยากจน พูดง่ายๆก็ว่าไม่มีเฮินสร้างนั่นแหละ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร