วันเวลาปัจจุบัน 30 พ.ค. 2025, 01:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล


คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ

ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ

:b12:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา
ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ
เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา
:b13:
onion onion onion



อ้างคำพูด:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา



ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ

เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย

cool
เอกายโนมัคโค...มัคโคคือมรรคและมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิ=เข้าใจคำสอนถูกตรง1คำ=ปัญญา=วิปัสสนา
มีมรรค8เป็นหนทางเดียวที่รู้ที่กายใจตนทีละ1ตัวธัมมะตรง1คำวาจาสัจจะคือสิ่งที่ตนจะรู้ได้ทันปัจจุบันค่ะ



นั่นแหละธรรมปฏิรูป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
เอารูปร่างคนสัตว์เปรตอสุรกายเทวดาพรหมออกมีแต่จิตเกิดดับทีละ1ลักษณะจริงๆ
เป็น1ตัวธัมมะที่จิตแต่ละ1ดวงสะสมกำลังเกิดดับที่คิดเห็นถูกตามคำสอนได้หรือเห็นผิดพลาด
เป็นความคลาดเคลื่อนของตนที่ไม่ตรง1สัจจะของตนคือความจริงกำลังปรากฏกับความไม่รู้ไงคะ
เอก+กาย+มรรคคือเอกายโนมัคโคทางสายเอกสายเดียวคือฟังสะสมปัญญาตรงปัจจุบันขณะ1คำไงคะ

Rosarin เขียน:
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุใครจะกราบลงเห็นผ้าเหลืองเดินหนีค่ะ


ตรงปัจจุบันจริงๆ ก็ไม่มีแม้แต่ความเห็นเช่นนี้

ก็สมมุติสัจจะมีอยู่จริงและไม่ใช่ตัวตนไงคะแต่ยึดถือว่าเป็นตัวตนคือมิจฉาทิฏฐิ
ฟังเพื่อละคลายอุปาทานขันธ์ที่ยึดถือปรมัตถ์จิตเจตสิกรูปนิพพานรวมเป็นตัวตนมันผิดไงคะ
จึงต้องฟังเพื่อรู้ตามได้ว่าสิ่งที่กำลังมีจริงๆคือตัวธัมมะแรกคือจิตคือมีเหตุปัจจัยหลักคือจิตเป็นประธาน
ถ้าไม่มีจิตอะไรอะไรที่ยึดถือว่ามีตัวตนคนสัตว์วัตถุจะมีมาแต่ไหน
สมมุติตัวตนคนอย่างเช่นนั้นยังกินข้าวใช้เงินทำบุญทำทานหาเลี้ยงครอบครัว
กินได้24ชม.และศึกษาพระธรรมด้วยมันเป็นปกติของคนไม่ได้บวชตามธรรมวินัย
ส่วนคนที่บวชไม่ทำสังคมสงเคราะห์ใช้ปลีแข้งหากินวันละ1บาตรไม่พอคือโลภค่ะ
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงเพื่อมากล่าวให้สาวกเข้าใจถูกตามทีละคำอ่านตำราที่กาย
ไม่ใช่ไปอ่านตัวอักษรมาก่อนฟังยึดมั่นถึอมั่นทั้งตำราทั้งครูอาจารย์และทิฏฐิมานะถือตน
ไม่มีกาลามสูตร10ที่ทำตามๆกันเพราะเชื่อตำราเพราะอ่านตำราก่อนไปทำตรงไหมคะคิดสิคะไม่ยอมฟังไง
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุใครจะกราบลงเห็นผ้าเหลืองเดินหนีค่ะ


อะไร..ทำให้กราบไม่ลง?
อะไร..ทำให้อยากเดินหนีผ้าเหลือง?

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล


คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ

ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ

:b12:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา
ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ
เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา
:b13:
onion onion onion



อ้างคำพูด:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา



ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ

เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย

cool
เอกายโนมัคโค...มัคโคคือมรรคและมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิ=เข้าใจคำสอนถูกตรง1คำ=ปัญญา=วิปัสสนา
มีมรรค8เป็นหนทางเดียวที่รู้ที่กายใจตนทีละ1ตัวธัมมะตรง1คำวาจาสัจจะคือสิ่งที่ตนจะรู้ได้ทันปัจจุบันค่ะ



นั่นแหละธรรมปฏิรูป

เห็นกับคิดนึกคนละขณะจิต
ดูตาตัวเองเห็นกับคิดสิมันพร้อมหรือ
เห็นไม่มีเสียงปนไม่มีคิดปนเลยมีแต่สีเห็นแค่สีไหมคะ
มันคิดเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเลยแปลว่าจิตตนเองวิปลาสไงคะไม่ฟังความจริงเลย
แล้วจดยอมรับตัวเองไหมทุกคนเลยค่ะไม่ว่าบวชหรือไม่บวชจริงใจตรงต่อเห็นที่กำลังเห็นว่าเห็นสีไหมคะ
:b32:
:b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล


คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ

ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ

:b12:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา
ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ
เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา
:b13:
onion onion onion



อ้างคำพูด:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา



ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ

เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย

cool
เอกายโนมัคโค...มัคโคคือมรรคและมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิ=เข้าใจคำสอนถูกตรง1คำ=ปัญญา=วิปัสสนา
มีมรรค8เป็นหนทางเดียวที่รู้ที่กายใจตนทีละ1ตัวธัมมะตรง1คำวาจาสัจจะคือสิ่งที่ตนจะรู้ได้ทันปัจจุบันค่ะ



นั่นแหละธรรมปฏิรูป

เห็นกับคิดนึกคนละขณะจิต
ดูตาตัวเองเห็นกับคิดสิมันพร้อมหรือ
เห็นไม่มีเสียงปนไม่มีคิดปนเลยมีแต่สีเห็นแค่สีไหมคะ
มันคิดเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเลยแปลว่าจิตตนเองวิปลาสไงคะไม่ฟังความจริงเลย
แล้วจดยอมรับตัวเองไหมทุกคนเลยค่ะไม่ว่าบวชหรือไม่บวชจริงใจตรงต่อเห็นที่กำลังเห็นว่าเห็นสีไหมคะ


ตอบตรงๆนะ ที่ว่าเห็นกับคิดคนละขณะ คุณโรสเห็นว่าเป็นอย่างนั้น หรือไปเรียนไปจำมา ตอบตรงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุใครจะกราบลงเห็นผ้าเหลืองเดินหนีค่ะ


อะไร..ทำให้กราบไม่ลง?
อะไร..ทำให้อยากเดินหนีผ้าเหลือง?

:b32: :b32: :b32:

cool
ความเข้าใจคำสอนไงคะ
คนทำผิดบวชนอกธรรมวินัย
ใครสนับสนุนก็เชิญตามสะดวก
ขอคว่ำบาตรไม่ร่วมสังฆกรรมอีกต่อไป
รู้ไหมคะคนเที่ยวเทคเที่ยวบาร์เขาไม่ได้ทำลายคำสอนน๊า
มีแต่คนที่เข้าวัดทำตามๆกันแบบผิดๆแล้วคิดว่าตัวตนดีมันผิดไงคะไม่มีตัวตน
ถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้แล้วอยากอยู่ต่อไปเพื่อทำผิดๆต่อไปคือมิจฉาอาชีโวคิคิ
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุใครจะกราบลงเห็นผ้าเหลืองเดินหนีค่ะ


อะไร..ทำให้กราบไม่ลง?
อะไร..ทำให้อยากเดินหนีผ้าเหลือง?

:b32: :b32: :b32:

cool
ความเข้าใจคำสอนไงคะ
คนทำผิดบวชนอกธรรมวินัย
ใครสนับสนุนก็เชิญตามสะดวก
ขอคว่ำบาตรไม่ร่วมสังฆกรรมอีกต่อไป
รู้ไหมคะคนเที่ยวเทคเที่ยวบาร์เขาไม่ได้ทำลายคำสอนน๊า
มีแต่คนที่เข้าวัดทำตามๆกันแบบผิดๆแล้วคิดว่าตัวตนดีมันผิดไงคะไม่มีตัวตน
ถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้แล้วอยากอยู่ต่อไปเพื่อทำผิดๆต่อไปคือมิจฉาอาชีโวคิคิ
:b13:
:b32: :b32:


ไม่มีตัวตนอีกแระ คิกๆๆ

คุณโรสเอ๋ย ตัวตนยังไม่รู้เลย ดันไปคิดเรื่องไม่มีตัวตน คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล


คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ

ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ

:b12:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา
ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ
เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา
:b13:
onion onion onion



อ้างคำพูด:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา



ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ

เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย

cool
เอกายโนมัคโค...มัคโคคือมรรคและมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิ=เข้าใจคำสอนถูกตรง1คำ=ปัญญา=วิปัสสนา
มีมรรค8เป็นหนทางเดียวที่รู้ที่กายใจตนทีละ1ตัวธัมมะตรง1คำวาจาสัจจะคือสิ่งที่ตนจะรู้ได้ทันปัจจุบันค่ะ



นั่นแหละธรรมปฏิรูป

เห็นกับคิดนึกคนละขณะจิต
ดูตาตัวเองเห็นกับคิดสิมันพร้อมหรือ
เห็นไม่มีเสียงปนไม่มีคิดปนเลยมีแต่สีเห็นแค่สีไหมคะ
มันคิดเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเลยแปลว่าจิตตนเองวิปลาสไงคะไม่ฟังความจริงเลย
แล้วจดยอมรับตัวเองไหมทุกคนเลยค่ะไม่ว่าบวชหรือไม่บวชจริงใจตรงต่อเห็นที่กำลังเห็นว่าเห็นสีไหมคะ


ตอบตรงๆนะ ที่ว่าเห็นกับคิดคนละขณะ คุณโรสเห็นว่าเป็นอย่างนั้น หรือไปเรียนไปจำมา ตอบตรงๆ

:b12:
รู้คำตอบอยู่แล้วยังมาตั้งคำถามแบบตัวเองไม่เป็นคนตรงคนจริงใจนั่นน่ะ
ความจริงที่เห็นที่ตาตัวเองเห็นกับคิดมันเป็นคนสัตว์วัตถุเลยไหมคะ
แต่ความจริงตามคำสอนแค่กะพริบตามันหายไปหมดแล้วคนทั้งตัว
เอาอะไรมาเป็นกุศลเพราะมันสะสมไม่รู้ทันทางหนึ่งทางใดของตนแล้ว
คือไม่รู้ทั้งหมดแปลว่ามีกิเลสกลายเป็นอวิชชาใหม่ตลอดที่ไม่สะสม1สัจจะไงคะ
:b32:
:b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 09:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล


คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ

ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ

:b12:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา
ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ
เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา
:b13:
onion onion onion



อ้างคำพูด:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา



ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ

เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย

cool
เอกายโนมัคโค...มัคโคคือมรรคและมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิ=เข้าใจคำสอนถูกตรง1คำ=ปัญญา=วิปัสสนา
มีมรรค8เป็นหนทางเดียวที่รู้ที่กายใจตนทีละ1ตัวธัมมะตรง1คำวาจาสัจจะคือสิ่งที่ตนจะรู้ได้ทันปัจจุบันค่ะ



นั่นแหละธรรมปฏิรูป

เห็นกับคิดนึกคนละขณะจิต
ดูตาตัวเองเห็นกับคิดสิมันพร้อมหรือ
เห็นไม่มีเสียงปนไม่มีคิดปนเลยมีแต่สีเห็นแค่สีไหมคะ
มันคิดเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเลยแปลว่าจิตตนเองวิปลาสไงคะไม่ฟังความจริงเลย
แล้วจดยอมรับตัวเองไหมทุกคนเลยค่ะไม่ว่าบวชหรือไม่บวชจริงใจตรงต่อเห็นที่กำลังเห็นว่าเห็นสีไหมคะ


ตอบตรงๆนะ ที่ว่าเห็นกับคิดคนละขณะ คุณโรสเห็นว่าเป็นอย่างนั้น หรือไปเรียนไปจำมา ตอบตรงๆ

:b12:
รู้คำตอบอยู่แล้วยังมาตั้งคำถามแบบตัวเองไม่เป็นคนตรงคนจริงใจนั่นน่ะ
ความจริงที่เห็นที่ตาตัวเองเห็นกับคิดมันเป็นคนสัตว์วัตถุเลยไหมคะ
แต่ความจริงตามคำสอนแค่กะพริบตามันหายไปหมดแล้วคนทั้งตัว
เอาอะไรมาเป็นกุศลเพราะมันสะสมไม่รู้ทันทางหนึ่งทางใดของตนแล้ว
คือไม่รู้ทั้งหมดแปลว่ามีกิเลสกลายเป็นอวิชชาใหม่ตลอดที่ไม่สะสม1สัจจะไงคะ
:b32:
:b13: :b13:


นั่นแหละอุจเฉททิฏฐิ คิกๆๆ

และนั่นคือคนที่เรียนอภิธรรมมาบ้างจากสำนักบ้านธัมมะ เรียนแล้วก็มโนไปเองว่าอะไรๆก็ขาดสูญหมด ท่านว่าเป็นอุจเฉททิฏฐิบุคคล

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 09:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
ไตร่ตรองหลายๆรอบหน่อยนะ ตายแล้วนั้น ไม่มีใครกลับมาอธิบายความจริงให้รู้น๊า มีแต่ต้องเพียรฟังและมีศรัทธาเลื่อมใสคำสอน ไม่ใช่เลื่อมใสตัวบุคคล


คุณโรสจะสื่อถึงใครว่า ตายแล้วกลับมาอธิบายความจริงไม่ได้ ใครตาย ใครไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ใครไม่เข้าใจ

ไม่ใช่เลื่อมใสในตัวบุคคลว่า แต่คุณโรสก็ศรัทธาปสาทะฟังคลิปแม่บริหารฯอยู่นั่น เจ้าสำนักบ้านธัมมะไม่ใช่บุคคลหรือ ที่ฟังๆอยู่นั่นมันเป็นความคิดความเห็นเจ้าสำนัก เออ คิกๆๆ

:b12:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา
ไปไม่กลับมาบอกอะไรได้มีแต่ต้องฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าคือคำวาจาสัจจะ
เพื่อเข้าใจตรงปัจจุบันขณะไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อคิดเห็นถูกเข้าใจถูกเกิดสัมมามรรคตามได้คร่าาา
:b13:
onion onion onion



อ้างคำพูด:
ทางสายกลางคือทางเดียวที่เป็นเอกายโนมัคโค
คือฟังคำของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทุกคนนั่นแหละที่ตายลงจุติจิตสุดท้ายสิ้นลงไปเร็วแบบกะพริบตา



ปนกันมั่วไปหมด คิกๆๆ

เอกายนมรรค ทางอันเอก คือ ข้อปฏิบัติไปสู่ความบริสุทธิ์หมดจด หมดความทุกข์ และบรรลุนิพพาน ได้แก่ สติปัฏฐาน ๔; อย่างกว้างขวาง เช่น ในมหานิทเทส หมายถึง โพธิปักขิยธรรมด้วย

cool
เอกายโนมัคโค...มัคโคคือมรรคและมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิ=เข้าใจคำสอนถูกตรง1คำ=ปัญญา=วิปัสสนา
มีมรรค8เป็นหนทางเดียวที่รู้ที่กายใจตนทีละ1ตัวธัมมะตรง1คำวาจาสัจจะคือสิ่งที่ตนจะรู้ได้ทันปัจจุบันค่ะ



นั่นแหละธรรมปฏิรูป

เห็นกับคิดนึกคนละขณะจิต
ดูตาตัวเองเห็นกับคิดสิมันพร้อมหรือ
เห็นไม่มีเสียงปนไม่มีคิดปนเลยมีแต่สีเห็นแค่สีไหมคะ
มันคิดเป็นคนสัตว์วัตถุทันทีเลยแปลว่าจิตตนเองวิปลาสไงคะไม่ฟังความจริงเลย
แล้วจดยอมรับตัวเองไหมทุกคนเลยค่ะไม่ว่าบวชหรือไม่บวชจริงใจตรงต่อเห็นที่กำลังเห็นว่าเห็นสีไหมคะ


ตอบตรงๆนะ ที่ว่าเห็นกับคิดคนละขณะ คุณโรสเห็นว่าเป็นอย่างนั้น หรือไปเรียนไปจำมา ตอบตรงๆ

:b12:
รู้คำตอบอยู่แล้วยังมาตั้งคำถามแบบตัวเองไม่เป็นคนตรงคนจริงใจนั่นน่ะ
ความจริงที่เห็นที่ตาตัวเองเห็นกับคิดมันเป็นคนสัตว์วัตถุเลยไหมคะ
แต่ความจริงตามคำสอนแค่กะพริบตามันหายไปหมดแล้วคนทั้งตัว
เอาอะไรมาเป็นกุศลเพราะมันสะสมไม่รู้ทันทางหนึ่งทางใดของตนแล้ว
คือไม่รู้ทั้งหมดแปลว่ามีกิเลสกลายเป็นอวิชชาใหม่ตลอดที่ไม่สะสม1สัจจะไงคะ
:b32:
:b13: :b13:


นั่นแหละอุจเฉททิฏฐิ คิกๆๆ

และนั่นคือคนที่เรียนอภิธรรมมาบ้างจากสำนักบ้านธัมมะ เรียนแล้วก็มโนไปเองว่าอะไรๆก็ขาดสูญหมด ท่านว่าเป็นอุจเฉททิฏฐิบุคคล

cool
แสวงหาทุกอย่างเพื่อตนจริงไหมคะที่ไป
ทำทุกวิถีทางเพื่อจะรู้จากการทำมันผิดค่ะ
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลยคิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ
โรสกล่าวตามความเข้าใจความจริงที่กายใจตัวเองแล้วไม่ได้มั่ว
รู้ตรงสัจจะตรงปรมัตถสัจจะตามสมมุติสัจจะที่กำลังดำเนินไปตามเหตุปัจจัยมีแล้ว
:b32:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


แสวงหาทุกอย่างเพื่อตนจริงไหมคะที่ไป
ทำทุกวิถีทางเพื่อจะรู้จากการทำมันผิดค่ะ
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลยคิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ

โรสกล่าวตามความเข้าใจความจริงที่กายใจตัวเองแล้วไม่ได้มั่ว
รู้ตรงสัจจะตรงปรมัตถสัจจะตามสมมุติสัจจะที่กำลังดำเนินไปตามเหตุปัจจัยมีแล้ว
:b32:
:b16: :b16:


ไม่เอามาจากตำรา ไปเอามาจากไหนอ้าว จิต 89 หรือ 121 เจตสิก 52 ไปเอามาจากไหน คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


แสวงหาทุกอย่างเพื่อตนจริงไหมคะที่ไป
ทำทุกวิถีทางเพื่อจะรู้จากการทำมันผิดค่ะ
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลยคิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ

โรสกล่าวตามความเข้าใจความจริงที่กายใจตัวเองแล้วไม่ได้มั่ว
รู้ตรงสัจจะตรงปรมัตถสัจจะตามสมมุติสัจจะที่กำลังดำเนินไปตามเหตุปัจจัยมีแล้ว
:b32:
:b16: :b16:


ไม่เอามาจากตำรา ไปเอามาจากไหนอ้าว จิต 89 หรือ 121 เจตสิก 52 ไปเอามาจากไหน คิกๆๆ

อ้าวเรียนคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันนี่
ทำไม่ไม่เข้าใจความจริงตามคำสอนเลยหรือ
พระองค์อธิบายไว้หมดทั้งถูกผิดดีชั่วตรงๆ
การฟังเพื่อละไม่รู้พื่อรู้ประมาณตนเองค่ะ
ว่าตนเองรู้ถูกตรงความจริงที่ตัวตนมีไหม
1ขณะของตนคือ1ในจิต89ถึง121ประเภทไงคะ
เกาะตำรามาตั้งนานจิตแบ่งตามเจตสิกที่ปรุงแต่งไงคะ
สังขารขันธ์แต่ละ1ดวงจิตเป็นแต่ละ1ขณะจิตนั้น
เวลาดีก็ดีถึง7ชวนะเลยนะเวลาชั่วคือไม่รู้ก็ชั่ว7ชวนะ
จึงมีวลีว่าชั่ว7ทีดี7หนที่ยังเกิดมานี้แหละเป็นประทะปะระมะ
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


แสวงหาทุกอย่างเพื่อตนจริงไหมคะที่ไป
ทำทุกวิถีทางเพื่อจะรู้จากการทำมันผิดค่ะ
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลยคิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ

โรสกล่าวตามความเข้าใจความจริงที่กายใจตัวเองแล้วไม่ได้มั่ว
รู้ตรงสัจจะตรงปรมัตถสัจจะตามสมมุติสัจจะที่กำลังดำเนินไปตามเหตุปัจจัยมีแล้ว
:b32:
:b16: :b16:


ไม่เอามาจากตำรา ไปเอามาจากไหนอ้าว จิต 89 หรือ 121 เจตสิก 52 ไปเอามาจากไหน คิกๆๆ

อ้าวเรียนคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันนี่
ทำไม่ไม่เข้าใจความจริงตามคำสอนเลยหรือ
พระองค์อธิบายไว้หมดทั้งถูกผิดดีชั่วตรงๆ
การฟังเพื่อละไม่รู้พื่อรู้ประมาณตนเองค่ะ
ว่าตนเองรู้ถูกตรงความจริงที่ตัวตนมีไหม
1ขณะของตนคือ1ในจิต89ถึง121ประเภทไงคะ
เกาะตำรามาตั้งนานจิตแบ่งตามเจตสิกที่ปรุงแต่งไงคะ
สังขารขันธ์แต่ละ1ดวงจิตเป็นแต่ละ1ขณะจิตนั้น
เวลาดีก็ดีถึง7ชวนะเลยนะเวลาชั่วคือไม่รู้ก็ชั่ว7ชวนะ
จึงมีวลีว่าชั่ว7ทีดี7หนที่ยังเกิดมานี้แหละเป็นประทะปะระมะ
:b13:
:b32: :b32:



คุณโรสนี่พูดไปข้างหน้า ไม่ได้เหลียวดูข้างหลังเลยว่าพูดอะไรไว้มั่ง นี่

อ้างคำพูด:
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลย คิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ


จิต 89 เจตสิก 52 กายใจ ก็ตามตำรา คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 10:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7513

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


แสวงหาทุกอย่างเพื่อตนจริงไหมคะที่ไป
ทำทุกวิถีทางเพื่อจะรู้จากการทำมันผิดค่ะ
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลยคิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ

โรสกล่าวตามความเข้าใจความจริงที่กายใจตัวเองแล้วไม่ได้มั่ว
รู้ตรงสัจจะตรงปรมัตถสัจจะตามสมมุติสัจจะที่กำลังดำเนินไปตามเหตุปัจจัยมีแล้ว
:b32:
:b16: :b16:


ไม่เอามาจากตำรา ไปเอามาจากไหนอ้าว จิต 89 หรือ 121 เจตสิก 52 ไปเอามาจากไหน คิกๆๆ

อ้าวเรียนคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันนี่
ทำไม่ไม่เข้าใจความจริงตามคำสอนเลยหรือ
พระองค์อธิบายไว้หมดทั้งถูกผิดดีชั่วตรงๆ
การฟังเพื่อละไม่รู้พื่อรู้ประมาณตนเองค่ะ
ว่าตนเองรู้ถูกตรงความจริงที่ตัวตนมีไหม
1ขณะของตนคือ1ในจิต89ถึง121ประเภทไงคะ
เกาะตำรามาตั้งนานจิตแบ่งตามเจตสิกที่ปรุงแต่งไงคะ
สังขารขันธ์แต่ละ1ดวงจิตเป็นแต่ละ1ขณะจิตนั้น
เวลาดีก็ดีถึง7ชวนะเลยนะเวลาชั่วคือไม่รู้ก็ชั่ว7ชวนะ
จึงมีวลีว่าชั่ว7ทีดี7หนที่ยังเกิดมานี้แหละเป็นประทะปะระมะ
:b13:
:b32: :b32:



คุณโรสนี่พูดไปข้างหน้า ไม่ได้เหลียวดูข้างหลังเลยว่าพูดอะไรไว้มั่ง นี่

อ้างคำพูด:
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลย คิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ


จิต 89 เจตสิก 52 กายใจ ก็ตามตำรา คิกๆๆ

:b16:
จิตแต่ละ1ขณะกำลังเกิดดับสะสมหลากหลายทั้งจักรวาลนั้นน่ะ
เป็นแต่ละ1ขณะตามจิต89-121ประเภทตนเป็นประเภทไหน
1ประเภทใน89-121ใน1คนน่ะ1ขณะต้องรู้ไม่รู้คือกิเลสไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2018, 11:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:


แสวงหาทุกอย่างเพื่อตนจริงไหมคะที่ไป
ทำทุกวิถีทางเพื่อจะรู้จากการทำมันผิดค่ะ
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลยคิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ

โรสกล่าวตามความเข้าใจความจริงที่กายใจตัวเองแล้วไม่ได้มั่ว
รู้ตรงสัจจะตรงปรมัตถสัจจะตามสมมุติสัจจะที่กำลังดำเนินไปตามเหตุปัจจัยมีแล้ว
:b32:
:b16: :b16:


ไม่เอามาจากตำรา ไปเอามาจากไหนอ้าว จิต 89 หรือ 121 เจตสิก 52 ไปเอามาจากไหน คิกๆๆ

อ้าวเรียนคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันนี่
ทำไม่ไม่เข้าใจความจริงตามคำสอนเลยหรือ
พระองค์อธิบายไว้หมดทั้งถูกผิดดีชั่วตรงๆ
การฟังเพื่อละไม่รู้พื่อรู้ประมาณตนเองค่ะ
ว่าตนเองรู้ถูกตรงความจริงที่ตัวตนมีไหม
1ขณะของตนคือ1ในจิต89ถึง121ประเภทไงคะ
เกาะตำรามาตั้งนานจิตแบ่งตามเจตสิกที่ปรุงแต่งไงคะ
สังขารขันธ์แต่ละ1ดวงจิตเป็นแต่ละ1ขณะจิตนั้น
เวลาดีก็ดีถึง7ชวนะเลยนะเวลาชั่วคือไม่รู้ก็ชั่ว7ชวนะ
จึงมีวลีว่าชั่ว7ทีดี7หนที่ยังเกิดมานี้แหละเป็นประทะปะระมะ
:b13:
:b32: :b32:



คุณโรสนี่พูดไปข้างหน้า ไม่ได้เหลียวดูข้างหลังเลยว่าพูดอะไรไว้มั่ง นี่

อ้างคำพูด:
เรียนความจริงที่กายใจตนเองจากฟังตรงจริงๆ
ไม่ต้องกางตำราเลย คิดว่าโรสกล่าวตามตำราหรือคะ


จิต 89 เจตสิก 52 กายใจ ก็ตามตำรา คิกๆๆ

:b16:
จิตแต่ละ1ขณะกำลังเกิดดับสะสมหลากหลายทั้งจักรวาลนั้นน่ะ
เป็นแต่ละ1ขณะตามจิต89-121ประเภทตนเป็นประเภทไหน
1ประเภทใน89-121ใน1คนน่ะ1ขณะต้องรู้ ไม่รู้คือกิเลสไงคะ
:b32: :b32:


เอามาจากไหม ? เอามาจากตำรา รับแล้วนะ อิอิ

ทีนี่้ไปจักรวาลเลย :b32:

ก็ในเมื่อรู้ตามตำรา 1 ขณะ 2 ขณะ อย่างที่บอกว่า ไม่ใช่รู้จากประสบการณ์ เป็นการรู้ตำราว่าไว้ แล้วตัวเองมโนไป กิลงกิเลสที่เข้าใจก็ออกจาเพี้ยนๆไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 31 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร