วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 03:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 62 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 09:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


น้องพลอย เขียน:
เงินตรา เหตุวิบัติของสงฆ์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=55978

วินัยของพระภิกษุสงฆ์ที่ประชาชนควรทราบ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=28703



ขอบคุณ น้องพลอยที่นำบทความดีๆ ที่เกี่ยวข้องไว้มาโพส จะได้เป็นประโยชน์สำหรับคนที่มาอ่านในภายหลัง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 09:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b32:
ภิกษุเป็นหัวหน้าพุทธบริษัททำไม่รู้ไม่ชี้
ชาวบ้านที่เขาศึกษาเข้าใจประกาศให้รู้ตัว
ไม่สำนึกต่อว่าผู้กล่าวตามคำตถาคตเข้าไป
ไม่รู้ตัวว่ากำลังตำหนิศาสดาต้องตกนรกแน่นอน
แต่ไม่สำนึกยังรวมหัวกันจะเปลี่ยนคำสอนตามใจกิเลส
onion onion onion


นี่แหละถึงว่าเหนื่อยใจ คณะสงฆ์จะต้องได้รับการเปลี่ยนโฉมใหม่ให้ดีขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งผู้ที่จะเริ่มแก้ไข ต้องเริ่มจากผู้มีอำนาจในรัฐหรือในคณะสงฆ์ ที่มีความเคารพในพระวินัย จึงจะสำเร็จ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 09:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
วัดไหนสำนักใดที่ถูกรื้อถูกเผาใช้เป็นที่เลี้ยงแพะเลี้ยงสัตว์ทางรัฐก็ต้องฟื้นฟูให้กลับคืนมาเป็นของพุทธดังเดิม

รูปภาพ


https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... =3&theater



นิมนต์พระย้ายเถอะ ถ้าจะทำกันรุนแรงขนาดนี้ อันตรายเกินไป รอให้เหตุการสงบค่อยกลับมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 09:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฤษฎี เขียน:
ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

พระท่านมิรู้หรือว่า พระพุทธเจ้าบัญญัติสิกขาบทห้ามพระภิกษุรับเงินและทอง และห้ามยินดีในเงินทอง ไม่ว่าจะรับเพื่อส่วนตัวและส่วนรวมก็ตาม ไม่รู้หรือว่ารับแล้วผิด ต้องอาบัติ

ถ้ารู้แล้วจะทำทำไม ไม่ใช่สิ่งที่ควร การบวชนี่คือการสละเพศคฤหัสถ์ สละหมู่ญาติ สละบ้านเรือน สละเงินทอง
สละทุกสิ่งทุกอย่างในเพศคฤหัสถ์ แล้วเวียนกลับมารับเงินทองเพื่อ เหมือนถ่มน้ำลายทิ้งแล้วก็กลับมากลืน
น้ำลายที่ตัวถ่มทิ้งไป คือไม่กลัวบาป ไม่กลัวนรกกันเลยหรืออย่างไร ความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี หายไปไหนหมด

ภาครัฐ ควรออกกฎหมาย บางอย่างมาจัดการเรื่องนี้โดยด่วน จะเป็นการสร้างกุศลอย่างใหญ่หลวง


เพื่อให้เห็นภาพชัด สมมติว่าเราทำงานอยู่ในบริษัทๆหนึ่ง แลเห็นข้อบกพร่องในบริษัทนั้นว่ามีอะไรบ้างว่าไป แต่ขณะเดียวกัน เมื่อเสนอข้อบกพร่องแล้ว เราก็เสนอวิธีแก้ปัญหาทางออกจากปัญหานั้นควบไปด้วย เพื่อที่พนักงาน หรือคนในบริษัทนำไปปฏิบัติเพื่อจะได้ออกจากปัญหานั้น

กลับมาที่ปัญหาดังกระทู้ตั้ง เมื่อ จขกท. ว่านั่นคือข้อต้องแก้ไข ไหน จขกท. บอกทางออกจากปัญหานั่นสิว่า ต้องทำยังไงบ้างว่าไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 09:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฤษฎี เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มองให้กว้าง ก็ไม่รู้นะ แต่จะลองยกตัวอย่าง ให้ดู ค่าใช้จ่ายภายในวัด/สำนัก มีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเก็บขยะ แต่ละเดือนๆ ค่าก่อสร้างกุฏิวิหาร ค่าบูรณะปฏิสังขรณ์กุฎีวิหารลานเจดีย์ที่คร่ำคร่า แต่ละปีๆ ฯลฯ จะให้วัดแต่ละวัดๆทำอย่างไร ถ้าอย่างนั้นรัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้วัดทั่วประเทศ ข่าวว่าทั้งประเทศมีวัดสามหมื่นกว่าวัด สำนักสงฆ์อีก คิกๆๆ

ไม่ให้พระจับเฮินเอง ทางรัฐก็ต้องจัดคนรับใช้พระแต่ละรูปๆ พระจะไปไหนก็ต้องไปส่ง จะไปเรียนหนังสือก็ต้องไปส่ง สมุดดินสอปากกาก็ต้องหาให้ เขาว่าพระทั่วประเทศมีประมาณสามแสนกว่ารูป ก็ต้องจัดคนรับใช้พระสามแสนกว่าคน อิอิ



เรื่องนี้คงต้องมีคนมาดูแล แต่ต้องไม่ใช่หน้าที่พระโดยตรงที่จะมารับเงิน ต้องมีตัวแทน พระอาจมีเพียงหน้าที่เห็นชอบในการใช้จ่ายเงิน เช่นเซ็นอนุมัติ ทุกย่างมีแนวทางสามารถจัดการได้อย่างเป็นระบบ และไม่ขัดพระวินัย

:b12:
เข้าใจไหมคะไม่ได้คือไม่ได้คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่มี2มาตรฐาน
ทำตามไม่ได้ก็ต้องไม่มี...ภิกษุณีหมดไปได้...ภิกษุก็ไม่มีได้เข้าใจไหมคะ
อริยบุคคลคือสังฆรัตนะมีได้ครบ4บริษัทในครั้งพุทธกาลห่มจีวรเพราะถึงอรหันต์
บวชคือขอเป็นบุตรเพื่อกระทำตามอารมณ์พระบิดาตนเองน่ะจำคำพูดตามบัญญัติคำได้
แต่เวลาพูดไม่ได้รู้จักตัวแท้ๆของธัมมะนั่นแหละกิเลสติดในบัญญัติคำไม่สำนึกว่าตนไม่ได้รู้ความจริง
เอาชัดๆนะคะทุกคำที่ทรงบัญญัติไว้ทั้ง3ปิฎกคือความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงแล้วรู้จริงแล้วทั้งหมด
ด้วยพระบารมีที่ทรงบำเพ็ญมาเพื่อบัญญัติคำต่างๆขึ้นมาเพื่อสื่อให้แยกรายละเอียดได้ชัดเจนเท่านั้นค่ะ
ไม่ได้ให้ใครไปทำตามเพราะไม่มีพระพุทธเจ้า2คนพร้อมกันและยังมีคำสอนให้ฟังให้ศึกษาเข้าใจตาม
คือตามเข้าใจว่าความจริงละเอียดอย่างไรเท่านั้นจะรู้ละเอียดด้วยการฟังอ่านจะรู้จริงตามหมดไม่ได้
รู้ตามได้เฉพาะสิ่งที่ปรากฏว่ามีตามปกติที่ตาไม่บอดและหูไม่หนวกจึงจะเข้าใจตามได้ทีละน้อยค่ะ
และยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีพระอรหันต์แล้วทรงแสดงไว้ว่าพันปีที่3จะมีผู้บรรลุธรรมแค่อนาคามีเท่านั้น
เพศคฤหัสถ์บริหารกิจการค้าบ้านเรือนมีบริวารใช้สอยต้องใช้เงินทองในการบริหารจัดการกิจการ
บวชสละการทำอย่างคฤหัสถ์มีแค่บาตรจีวร3ผืนเก็บสะสมอะไรไม่ได้กุฏิศาลาก็มีคนสร้างให้อยู่
มีหน้าที่ไม่ทำอย่างคฤหัสถ์เพราะไม่ต้องมีคนรับใช้บวชแล้วพักอาศัย1คนในกุฏิ1หลังไม่คลุกคลี
หมู่คณะแล้วทุกวันนี้บ้าไหมสำรวมตาหูจมูกลิ้นกายใจยังไงมิทราบให้คนเข้าวัดไปเยอะๆขนเงิน
ขนภาระอย่างชาวโลกเข้าไปขวนขวายหาเงินผิดไหมไม่รู้ว่าทำตามคำสอนไม่ได้ต้องไปอบายภูมิ
เห็นด้วยตาไหมทำไมผู้หญิงเกิดเยอะก็ผู้ชายอยู่ในนรกโน่นกลับมาบอกได้ไหมมีแต่ต้องเข้าใจ
และทำตามคำสอนให้ถูกตรงตามเพศของตนจะทำลายคำสอนกันไปถึงไหนบวชไม่จริงใจนะ
ตถาคตแสดงว่าผู้ที่ทำตามสิกขาบทน้อยใหญ่ไม่ได้แล้วปลงอาบัติเจตนาเหยียบย่ำทำลาย
ให้สิกขาบทไม่มีความหมายไม่มีว่ารับก่อนค่อยไปปลงอาบัติเข้าใจไหมคะมีแต่ชั่วแล้วที่รับ
ปลงอาบัติคือสารภาพบาปต่อภิกษุด้วยกันว่าละอายสำนึกผิดสละเหมือนโยนทิ้งแต่ไม่ใช่
เอาไปให้ญาติพี่น้องแบบระบุเจาะจง555กิเลสไหมเราเห็นนะผ่อนรถให้คนในครอบครัว
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 18 ก.ค. 2018, 10:03, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
กรัชกาย เขียน:
มองให้กว้าง ก็ไม่รู้นะ แต่จะลองยกตัวอย่าง ให้ดู ค่าใช้จ่ายภายในวัด/สำนัก มีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเก็บขยะ แต่ละเดือนๆ ค่าก่อสร้างกุฏิวิหาร ค่าบูรณะปฏิสังขรณ์กุฎีวิหารลานเจดีย์ที่คร่ำคร่า แต่ละปีๆ ฯลฯ จะให้วัดแต่ละวัดๆทำอย่างไร ถ้าอย่างนั้นรัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้วัดทั่วประเทศ ข่าวว่าทั้งประเทศมีวัดสามหมื่นกว่าวัด สำนักสงฆ์อีก คิกๆๆ

ไม่ให้พระจับเฮินเอง ทางรัฐก็ต้องจัดคนรับใช้พระแต่ละรูปๆ พระจะไปไหนก็ต้องไปส่ง จะไปเรียนหนังสือก็ต้องไปส่ง สมุดดินสอปากกาก็ต้องหาให้ เขาว่าพระทั่วประเทศมีประมาณสามแสนกว่ารูป ก็ต้องจัดคนรับใช้พระสามแสนกว่าคน อิอิ



เรื่องนี้คงต้องมีคนมาดูแล แต่ต้องไม่ใช่หน้าที่พระโดยตรงที่จะมารับเงิน ต้องมีตัวแทน พระอาจมีเพียงหน้าที่เห็นชอบในการใช้จ่ายเงิน เช่นเซ็นอนุมัติ ทุกย่างมีแนวทางสามารถจัดการได้อย่างเป็นระบบ และไม่ขัดพระวินัย

:b12:
เข้าใจไหมคะไม่ได้คือไม่ได้คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่มี2มาตรฐาน
ทำตามไม่ได้ก็ต้องไม่มี...ภิกษุณีหมดไปได้...ภิกษุก็ไม่มีได้เข้าใจไหมคะ
อริยบุคคลคือสังฆรัตนะมีได้ครบ4บริษัทในครั้งพุทธกาลห่มจีวรเพราะถึงอรหันต์
บวชคือขอเป็นบุตรเพื่อกระทำตามอารมณ์พระบิดาตนเองน่ะจำคำพูดตามบัญญัติคำได้
แต่เวลาพูดไม่ได้รู้จักตัวแท้ๆของธัมมะนั่นแหละกิเลสติดในบัญญัติคไม่สำนึกว่าตนไม่ได้รู้ความจริง
เอาชัดๆนะคะทุกคำที่ทรงบัญญัติไว้ทั้ง3ปิฎกคือความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงแล้วรู้จริงแล้วทั้งหมด
ด้วยพระบารมีที่ทรงบำเพ็ญมาเพื่อบัญญัติคำต่างๆขึ้นมาเพื่อสื่อให้แยกรายละเอียดได้ชัดเจนเท่านั้นค่ะ
ไม่ได้ให้ใครไปทำตามเพราะไม่มีพระพุทธเจ้า2คนพร้อมกันและยังมีคำสอนให้ฟังให้ศึกษาเข้าใจตาม
คือตามเข้าใจว่าความจริงละเอียดอย่างไรเท่านั้นจะรู้ละเอียดด้วยการฟังอ่านจะรู้จริงตามหมดไม่ได้
รู้ตามได้เฉพาะสิ่งที่ปรากฏว่ามีตามปกติที่ตาไม่บอดและหูไม่หนวกจึงจะเข้าใจตามได้ทีละน้อยค่ะ
และยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีพระอรหันต์แล้วทรงแสดงไว้ว่าพันปีที่3จะมีผู้บรรลุธรรมแค่อนาคามีเท่านั้น
เพศคฤหัสถ์บริหารกิจการค้าบ้านเรือนมีบริวารใช้สอยต้องใช้เงินทองในการบริหารจัดการกิจการ
บวชสละการทำอย่างคฤหัสถ์มีแค่บาตรจีวร3ผืนเก็บสะสมอะไรไม่ได้กุฏิศาลาก็มีคนสร้างให้อยู่
มีหน้าที่ไม่ทำอย่างคฤหัสถ์เพราะไม่ต้องมีคนรับใช้บวชแล้วพักอาศัย1คนในกุฏิ1หลังไม่คลุกคลี
หมู่คณะแล้วทุกวันนี้บ้าไหมสำรวมตาหูจมูกลิ้นกายใจยังไงมิทราบให้คนเข้าวัดไปเยอะๆขนเงิน
ขนภาระอย่างชาวโลกเข้าไปขวนขวายหาเงินผิดไหมไม่รู้ว่าทำตามคำสอนไม่ได้ต้องไปอบายภูมิ
เห็นด้วยตาไหมทำไมผู้หญิงเกิดเยอะก็ผู้ชายอยู่ในนรกโน่นกลับมาบอกไ ด้ไหมมีแต่ต้องเข้าใจ
และทำตามคำสอนให้ถูกตรงตามเพศของตนจะทำลายคำสอนกันไปถึงไหนบวชไม่จริงใจนะ
ตถาคตแสดงว่าผู้ที่ทำตามสิกขาบทน้อยใหญ่ไม่ได้แล้วปลงอาบัติเจตนาเหยียบย่ำทำลาย
ให้สิกขาบทไม่มีความหมายไม่มีว่ารับก่อนค่อยไปปลงอาบัติเข้าใจไหมคะมีแต่ชั่วแล้วที่รับ
ปลงอาบัติคือสารภาพบาปต่อภิกษุด้วยกันว่าละอายสำนึกผิดสละเหมือนโยนทิ้งแต่ไม่ใช่
เอาไปให้ญาติพี่น้องแบบระบุเจาะจง555กิเลสไหมเราเห็นนะผ่อนรถให้คนในครอบครัว
:b32: :b32:



คุณโรสบอกวิธีสิทำไง เอาตรงๆนะไม่ต้องอ้อมโลกมาก เอาชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฤษฎี เขียน:
ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

พระท่านมิรู้หรือว่า พระพุทธเจ้าบัญญัติสิกขาบทห้ามพระภิกษุรับเงินและทอง และห้ามยินดีในเงินทอง ไม่ว่าจะรับเพื่อส่วนตัวและส่วนรวมก็ตาม ไม่รู้หรือว่ารับแล้วผิด ต้องอาบัติ

ถ้ารู้แล้วจะทำทำไม ไม่ใช่สิ่งที่ควร การบวชนี่คือการสละเพศคฤหัสถ์ สละหมู่ญาติ สละบ้านเรือน สละเงินทอง
สละทุกสิ่งทุกอย่างในเพศคฤหัสถ์
แล้วเวียนกลับมารับเงินทองเพื่อ เหมือนถ่มน้ำลายทิ้งแล้วก็กลับมากลืนน้ำลายที่ตัวถ่มทิ้งไป คือไม่กลัวบาป ไม่กลัวนรกกันเลยหรืออย่างไร ความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี หายไปไหนหมด

ภาครัฐ ควรออกกฎหมาย บางอย่างมาจัดการเรื่องนี้โดยด่วน จะเป็นการสร้างกุศลอย่างใหญ่หลวง


ถามต่ออีกหน่อย

ถ้าเขาบวช 7 วัน 15 วัน หรือ 1 พรรษา จะทำยังไง ตอบตรงๆคำถามนะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทั้งสองคน คือ จขกท. กับ คุณโรส พูดประเด็นเดียวพอ จะให้ทำยังไง หนึ่ง สอง สาม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
:b12:
ผลาญเงินประเทศชาติไปเท่าไหร่มีวัดใหญ่โตเกินฐานะไม่จริงใจ
ดูสิแค่เงินค่าอาหารกลางวันเด็กยังได้กินแค่ขนมจีนใส่น้ำปลา
ชาวบ้านเขาไม่รู้อะไรดีๆขนให้พระก่อนเพราะไม้รู้
แล้วพระละอายไหมทำไม่ไม่บอกไม่สอน
ตามที่พระพุทธเจ้าสอนให้ทำ
เพราะไม่ศึกษาไง
ทุกวันนี้ที่ทำกันอยู่นี่
เกณฑ์เด็กชายเกณฑ์ผู้ชายไปบวชทำด้วยความไม่รู้
ยังไม่ตายน่ะลาสิกขาพ้นโทษอาบัติไม่ต้องตกนรก
จะจำได้ไหมว่าอดีตชาติเคยบวชแล้วรับเงินไหม
เวลาอยากบวชก็เข้าไปบวชอาบัติเก่าๆกลับมาทั้งหมด
รู้จักตนเองไงคะว่ามีอัธยาศัยตรงต่อการบวชไหม
ถ้ายังยินดีในการใข้จ่ายเงินก็ลาสิกขาออกมาตรงไหมคำสอนตรงมากนรกรออยู่
ไปทำให้พระศาสนาแปดเปื้อนทำไมมันทดแทนคุณพ่อแม่ไม่ได้
ไม่มีข้อห้ามลาสิกขานี่ที่อยู่เพราะโลภไงไม่มีหิริโอตัปปะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
ผลาญเงินประเทศชาติไปเท่าไหร่มีวัดใหญ่โตเกินฐานะไม่จริงใจ
ดูสิแค่เงินค่าอาหารกลางวันเด็กยังได้กินแค่ขนมจีนใส่น้ำปลา
ชาวบ้านเขาไม่รู้อะไรดีๆขนให้พระก่อนเพราะไม้รู้
แล้วพระละอายไหมทำไม่ไม่บอกไม่สอน
ตามที่พระพุทธเจ้าสอนให้ทำ
เพราะไม่ศึกษาไง
ทุกวันนี้ที่ทำกันอยู่นี่
เกณฑ์เด็กชายเกณฑ์ผู้ชายไปบวชทำด้วยความไม่รู้
ยังไม่ตายน่ะลาสิกขาพ้นโทษอาบัติไม่ต้องตกนรก
จะจำได้ไหมว่าอดีตชาติเคยบวชแล้วรับเงินไหม
เวลาอยากบวชก็เข้าไปบวชอาบัติเก่าๆกลับมาทั้งหมด
รู้จักตนเองไงคะว่ามีอัธยาศัยตรงต่อการบวชไหม
ถ้ายังยินดีในการใข้จ่ายเงินก็ลาสิกขาออกมาตรงไหมคำสอนตรงมากนรกรออยู่
ไปทำให้พระศาสนาแปดเปื้อนทำไมมันทดแทนคุณพ่อแม่ไม่ได้
ไม่มีข้อห้ามลาสิกขานี่ที่อยู่เพราะโลภไงไม่มีหิริโอตัปปะ
:b32: :b32:



บอกให้นำเสนอทางออก คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
:b12:
ผลาญเงินประเทศชาติไปเท่าไหร่มีวัดใหญ่โตเกินฐานะไม่จริงใจ
ดูสิแค่เงินค่าอาหารกลางวันเด็กยังได้กินแค่ขนมจีนใส่น้ำปลา
ชาวบ้านเขาไม่รู้อะไรดีๆขนให้พระก่อนเพราะไม้รู้

แล้วพระละอายไหมทำไม่ไม่บอกไม่สอน
ตามที่พระพุทธเจ้าสอนให้ทำ
เพราะไม่ศึกษาไง
ทุกวันนี้ที่ทำกันอยู่นี่
เกณฑ์เด็กชายเกณฑ์ผู้ชายไปบวชทำด้วยความไม่รู้
ยังไม่ตายน่ะลาสิกขาพ้นโทษอาบัติไม่ต้องตกนรก
จะจำได้ไหมว่าอดีตชาติเคยบวชแล้วรับเงินไหม
เวลาอยากบวชก็เข้าไปบวชอาบัติเก่าๆกลับมาทั้งหมด
รู้จักตนเองไงคะว่ามีอัธยาศัยตรงต่อการบวชไหม
ถ้ายังยินดีในการใข้จ่ายเงินก็ลาสิกขาออกมาตรงไหมคำสอนตรงมากนรกรออยู่
ไปทำให้พระศาสนาแปดเปื้อนทำไมมันทดแทนคุณพ่อแม่ไม่ได้
ไม่มีข้อห้ามลาสิกขานี่ที่อยู่เพราะโลภไงไม่มีหิริโอตัปปะ
:b32: :b32:



เอ้ยๆๆ นั่นมันตรรกะวิบัตินะ คุณโรสคุณเริ่มใช้อารมณ์แก้ปัญหาแล้วนะ :b1:

ถ้ายังงั้นมิต้องรื้อวัดสร้างใหม่เป็นกระท่อมมุงจากหรอ คิกๆๆ

วัดพระแก้วก็ต้องรื้อสร้างใหม่ อิอิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
กิจของพระคือคันถธุระและวิปัสนาธุระไม่ทำ
คิดแต่วิธีหาเงินชัดไหมมุ่งลาภสักการะโดยตรง
ขนสีกาเข้าวัดบวชชีพราหมณ์สำรวมอินทรีย์แบบไหน
ไม่มีชีพราหมณ์ในคำสอนของพระพุทธเจ้าฟังธรรมเข้าใจ
ก็กลับไปนอนบ้านใครบ้านมันขนคนเข้าไปปรุงอาหารให้อร่อยๆ
อินทรียสังวรศีลทำยังไงเพราะตาเนื้อตามภพภูมิเห็นเป็นกิเลสเหมือนกันหมด
แจกซองขาวกฐินผ้าป่าเพื่อเงินเพื่อขอเงินมาก่อสร้างมีวัดไปทำไมไม่บอกความจริงให้เข้าใจ
มีแต่อยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ที่แห่กันแยกตัวออกไปสร้างวัดขยายสาขาเพราะเงินและลาภสักการะจริงไหม
ใครกล่าวให้ผู้อื่นเข้าใจความจริงนั่นคือคำของเราตถาคตเข้าใจไหมคะหงายของที่คว่ำเปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทางคือคำจริงที่ฟังแล้วรู้สึกตัวสำนึกได้ไม่ใช่เกิดเกิดโทสะแล้วออกมาด่าโยม555
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ตาดีหูดีกันทุกคนดูความจริงที่เห็นพฤติกรรมต่างๆเทียบคำสอน
พระพุทธเจ้าบอกสอนทั้งดีและชั่วไว้ละเอียดต้องศึกษาด้วยการฟัง
เพราะตามคำสอนปัญญาเกิดจากการตั้งใจฟังว่าพระองค์กำลังบอกอะไร
เพราะไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนทุกคำในพระไตรปิฎกกำลังมีเดี๋ยวนี้
แค่ตั้งจิตไว้ชอบตั้งใจฟังให้เข้าใจไม่มีใครเอากิเเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรฟังเพื่อคิดเห็นถูกตามได้
:b17:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
กิจของพระคือคันถธุระและวิปัสนาธุระไม่ทำ
คิดแต่วิธีหาเงินชัดไหมมุ่งลาภสักการะโดยตรง
ขนสีกาเข้าวัดบวชชีพราหมณ์สำรวมอินทรีย์แบบไหน
ไม่มีชีพราหมณ์ในคำสอนของพระพุทธเจ้าฟังธรรมเข้าใจ
ก็กลับไปนอนบ้านใครบ้านมันขนคนเข้าไปปรุงอาหารให้อร่อยๆ
อินทรียสังวรศีลทำยังไงเพราะตาเนื้อตามภพภูมิเห็นเป็นกิเลสเหมือนกันหมด
แจกซองขาวกฐินผ้าป่าเพื่อเงินเพื่อขอเงินมาก่อสร้างมีวัดไปทำไมไม่บอกความจริงให้เข้าใจ
มีแต่อยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ที่แห่กันแยกตัวออกไปสร้างวัดขยายสาขาเพราะเงินและลาภสักการะจริงไหม
ใครกล่าวให้ผู้อื่นเข้าใจความจริงนั่นคือคำของเราตถาคตเข้าใจไหมคะหงายของที่คว่ำเปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทางคือคำจริงที่ฟังแล้วรู้สึกตัวสำนึกได้ไม่ใช่เกิดเกิดโทสะแล้วออกมาด่าโยม555
:b32: :b32:


ที่ทำเขาก็ทำ ที่ไม่ทำเขาทำงานอื่นไป


ถามหน่อย คันถธุระ อะไร ? วิปัสสนาธุระนี่อะไรขอรับ เอาชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2018, 10:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ปฤษฎี เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ปฤษฎี เขียน:
ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

พระท่านมิรู้หรือว่า พระพุทธเจ้าบัญญัติสิกขาบทห้ามพระภิกษุรับเงินและทอง และห้ามยินดีในเงินทอง ไม่ว่าจะรับเพื่อส่วนตัวและส่วนรวมก็ตาม ไม่รู้หรือว่ารับแล้วผิด ต้องอาบัติ

ถ้ารู้แล้วจะทำทำไม ไม่ใช่สิ่งที่ควร การบวชนี่คือการสละเพศคฤหัสถ์ สละหมู่ญาติ สละบ้านเรือน สละเงินทอง
สละทุกสิ่งทุกอย่างในเพศคฤหัสถ์ แล้วเวียนกลับมารับเงินทองเพื่อ เหมือนถ่มน้ำลายทิ้งแล้วก็กลับมากลืนน้ำลายที่ตัวถ่มทิ้งไป คือไม่กลัวบาป ไม่กลัวนรกกันเลยหรืออย่างไร ความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี หายไปไหนหมด

ภาครัฐ ควรออกกฎหมาย บางอย่างมาจัดการเรื่องนี้โดยด่วน จะเป็นการสร้างกุศลอย่างใหญ่หลวง


ไปเหนื่อยอะไรกับเขา..เขาใช้ให้ไปรับใช้พระที่ไหนหรอ?
:b32: :b32:

ผมเห็นด้วยกับกักกาย..ถ้าไม่อยากให้พระจับเงินเลย...รัฐก็ต้องจัดคนเข้ารับใช้วัดให้ครบทุกวัด...นะ

ถ้าทำไม่ได้..จะมาบ่นทำแพะอะไร :b9: :b9:

ส่วนตัว..ต่อให้รัฐจัดคนได้ครบทุกวัด..จัดคนค่อยตามจ่ายตังค์ค่ารถค่าเรือ..ค่าก๊วยเตียวเพล..อาจแก้ปัญหาการจับเงินและทองได้...แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาการยินดีเงินและทอง...หรอกคุณ

ปัญหาพระจับเงินทองนั้น.ตามกฎแล้ว..ทุกวัดก็มีไวยาวัจกร..มีกรรมการวัด...แต่ก็มีปัญหาเพราะฆราวาสเหล่านี่นี้แหละ..หลายๆที่...ไวยาวัจกร..นี้แหละไม่น่าใว้วางใจ...แล้วจะให้พระมองเฉยๆไม่จัดการอะไรเลยหรอ?

ต้องแยกเป็นสองประเด็น..คือ..จับ..กับ..ยินดี

การจับเงินและทอง...เป็นกิริยาภายนอก..เมื่อจำเป็นต้องจับ.ในพระวินัยก็มีช่องทางให้แก้ไขใว้แล้ว..แล้วคุณจะไปปวดหัวแทนคนอื่นให้เมื่อยใจทำไม?

ส่วนการยินดีในเงินและทอง..เป็นกิริยาภายใน...ไม่มีใครเห็นด้วยตาหรอก...มันเป็นการแก้ในระดับกิเลส...ซึ่งในพระธรรมวินัยนี้ก็มีเพื่อแก้ไขลดละเลิกอยู่ในตัว..อยู่แล้ว..ซึ่งกิเลสนี้..ไม่ใช่บวชแล้วกิเลสมันจะหมดไปเองได้นี้ครับ..ก็ปฏิบัติกันไป....กิเลสมันมีเป็นเรื่องธรรมดา..แล้วคุณจะไปปวดหัวแทนคนอื่นให้เมื่อยใจทำไม?

เมื่อหลายปีก่อน...มีวัดหนึ่งจ้างคนมาแจกใบปลิว...ข้ามจังหวัดกันเลยนะคุณ..เรื่องจับเงินและทอง..นี้แหละ...แล้วเป็นงัยละ...ตัวเองดันมาปาราชิก..เรื่องเสพเมถุน..ซะนี้..นี้งัยกิเลส...

อย่าไปปวดหัวเลยครับ....หากอยากได้พระดีเพิ่มขึ้น..ผมแนะนำ..บวชเองเลยครับ

:b32: :b32: :b32:

หากเราศึกษา..ปฏิบัติ...ในพระธรรมคำสอนแล้ว..เราจะเห็นว่าเราเองนั้นแหละเป็นตัวปัญหา..ควรจะมาปวดหัวกับปัญหาตัวเองจะดีกว่า...แก้ปัญหาตัวได้สังคมก็จะได้รับอานิสงค์นี้...ปัญหาสังคมก็จะค่อยๆคลี่คลายไปเองครับ...

มาปวดหัวกับปัญหาของตัวเอง...ดีกว่ามั้ย?


อะไรที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ได้ แก่บวรพระพุทธศาสนาก็ควรทำ ถ้าไม่พูดไม่กล่าว นิ่งเงียบไปหมด ก็แย่สิครับ
ในฐานะพุทธบริษัทที่ดีอะไรที่พอจะทำได้เพื่อเกื้อกูลแก่พระศาสนาก็ควรทำจริงมั้ยครับ

การทุจริตมีในทุกวงการ มันอยู่ที่จิตสำนึกของคน การตรวจสอบและลงโทษอย่างจริงจังก็อาจพอช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้ ต้องยอมรับว่าเงิน บางวัดนี่มีมาก แต่กฎหมายและระเบียบที่จะมาจัดการตรงนี้มีน้อยเหลือเกิน


การพูด...ต้องพูดให้เกิดประโยชน์...นั้นถูกต้องครับ..เห็นด้วยอย่างยิ่ง...

ลองยกประโยชน์ที่จะได้...จากการที่คุณปฤษฎีบ่นเรื่องพระ...เรื่องวินัยการจับเงินและทอง..ในลานฯนี้หน่อยซิครับ...มีประโยชน์อย่างไรบ้าง..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 62 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร