วันเวลาปัจจุบัน 26 ก.ค. 2025, 13:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2016, 08:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s006

อ้างคำพูด:
อริยสัจ 4 ก็เรื่องของคน เรื่องในตัวคน เอาสั้นๆนะขอรับ "สังขิตเตน ปัญจุปาทานนักขันธา ทุกขา"

อ้างคำพูด:
ไปเที่ยวเชียงใหม่สักวันสิ ใช้เวลาบรรยายประกอบการปฏิบัติไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถ้าคำถามไม่มาก


เอาตรงนี้เลยครับ :b20: ว่าไป


ขนาดมีแผนภูมิให้ดูโดยละเอียดกรัชกายยังตีความจับประเด็นยังไม่ออกเลย อธิบายด้วยตัวหนังสือยิ่งจะเข้าใจยากกว่ากระมังครับ?

ก็จะลองๆดูสักหน่อยดูว่ากรัชกายจะพอรู้เรื่องไหม?

อริยสัจ 4 เป็นหัวใจของการค้นพบของพระพุทธเจ้า

พระธรรมทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ล้วนแล้วแต่งอกออกมาจากอริยสัจ 4 นี้ทั้งสิ้น ดังที่พระบรมศาสดาทรงแสดงไว้ว่า ร้อยเท้าสัตว์อื่นใดย่อมรวมลงไปได้ในรอยเท้าช้างทั้งหมด อันอุปมัยหรือแปลความหมายได้ว่า ธรรมทั้งปวงไม่มีอะไรใหญ่ไปกว่าอริยสัจ 4

ดั้งนั้นใครที่ศึกษาแลทำความเข้าใจอริยสัจ 4 ได้อย่างถูกต้อง ละเอียดละออ ลึกซึ้งย่อมจะเหมือนกับได้เนื้อธรรมแก่นธรรมทั้งหมดไปเลยทีเดียว

ทั้งเมื่อมีความสงสัยในธรรมใดว่าใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ การศึกษาปฏิบัติธรรม เผยแพร่ธรรมนี้เป็นไปตามพุทธวัจนะหรือเปล่า ก็สามารถเอาอริยสัจ 4 นี้เป็นเครื่องวัดและตรวจสอบได้

อริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ มีบาลีว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
แต่เมื่อแปลเป็นไทยและทำให้ง่ายแล้วก็อาจอธิบายได้ง่ายๆว่า

อริยสัจ 4 คือ กฎของเหตุและผล

มีเหตุทุกข์กับผลทุกข์ คู่หนึ่ง และ เหตุสุขกับผลสุขอีกคู่หนึ่ง (ดูภาพประกอบ)
การปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าคือการเอาเหตุสุขไปต่อสู้กับเหตุทุกข์ ถ้าเหตุทุกข์ดับ ผลทุกข์ก็ดับ

คือเอามรรคไปต่อสู้กับสมุทัย ไม่ใช่เอามรรคไปต่อสู้กับทุกข์อย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกันเพราะการสู้สมุทัยเป็นการสู้ที่เหตุ แต่การสู้กับทุกข์เป็นการสู้ที่ผล ผล นั้นแก้ไม่ได้ต้องรับอย่างเดียว แต่เหตุนั้นแก้ได้

ดังนั้นคนที่ไปพยายามต่อสู้กับกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง จึงเป็นการต่อสู้ที่ไม่ถูกต้อง จึงเหน็ดเหนื่อย ยากและหนัก

คนที่ฉลาดมีปัญญาดีเข้าใจอริยสัจ 4 ถูกต้องเขาจะสู้ที่ เหตุที่มาของกิเลส ตัณหา โลภโกรธ หลง

กรัชกายรู้ไหมว่า อะไรเป็นเหตุที่มา หรือเป็นที่เกิดของกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง

ตอนที่ 1 เอาแค่นี้ก่อนไหม ถ้าเข้าใจถูกต้องแล้วค่อยไปต่อกันอีก

:b38:



ว่าไปให้สุดสายเลยเถอะครับ เอาให้จบไปเลย

อ้างคำพูด:
ไปเที่ยวเชียงใหม่สักวันสิ ใช้เวลาบรรยายประกอบการปฏิบัติไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถ้าคำถามไม่มาก


ส่งเฮินค่าตั๋วเครื่องไปกลับมาสิขอรับ จะไปพักด้วยสักสองคืน แล้วจะรู้ว่าหมู่หรือจ๋า คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2016, 08:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
s006

อ้างคำพูด:
อริยสัจ 4 ก็เรื่องของคน เรื่องในตัวคน เอาสั้นๆนะขอรับ "สังขิตเตน ปัญจุปาทานนักขันธา ทุกขา"

อ้างคำพูด:
ไปเที่ยวเชียงใหม่สักวันสิ ใช้เวลาบรรยายประกอบการปฏิบัติไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถ้าคำถามไม่มาก


เอาตรงนี้เลยครับ :b20: ว่าไป


ขนาดมีแผนภูมิให้ดูโดยละเอียดกรัชกายยังตีความจับประเด็นยังไม่ออกเลย อธิบายด้วยตัวหนังสือยิ่งจะเข้าใจยากกว่ากระมังครับ?

ก็จะลองๆดูสักหน่อยดูว่ากรัชกายจะพอรู้เรื่องไหม?

อริยสัจ 4 เป็นหัวใจของการค้นพบของพระพุทธเจ้า

พระธรรมทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ล้วนแล้วแต่งอกออกมาจากอริยสัจ 4 นี้ทั้งสิ้น ดังที่พระบรมศาสดาทรงแสดงไว้ว่า ร้อยเท้าสัตว์อื่นใดย่อมรวมลงไปได้ในรอยเท้าช้างทั้งหมด อันอุปมัยหรือแปลความหมายได้ว่า ธรรมทั้งปวงไม่มีอะไรใหญ่ไปกว่าอริยสัจ 4

ดั้งนั้นใครที่ศึกษาแลทำความเข้าใจอริยสัจ 4 ได้อย่างถูกต้อง ละเอียดละออ ลึกซึ้งย่อมจะเหมือนกับได้เนื้อธรรมแก่นธรรมทั้งหมดไปเลยทีเดียว

ทั้งเมื่อมีความสงสัยในธรรมใดว่าใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ การศึกษาปฏิบัติธรรม เผยแพร่ธรรมนี้เป็นไปตามพุทธวัจนะหรือเปล่า ก็สามารถเอาอริยสัจ 4 นี้เป็นเครื่องวัดและตรวจสอบได้

อริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ มีบาลีว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
แต่เมื่อแปลเป็นไทยและทำให้ง่ายแล้วก็อาจอธิบายได้ง่ายๆว่า

อริยสัจ 4 คือ กฎของเหตุและผล

มีเหตุทุกข์กับผลทุกข์ คู่หนึ่ง และ เหตุสุขกับผลสุขอีกคู่หนึ่ง (ดูภาพประกอบ)
การปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าคือการเอาเหตุสุขไปต่อสู้กับเหตุทุกข์ ถ้าเหตุทุกข์ดับ ผลทุกข์ก็ดับ

คือเอามรรคไปต่อสู้กับสมุทัย ไม่ใช่เอามรรคไปต่อสู้กับทุกข์อย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกันเพราะการสู้สมุทัยเป็นการสู้ที่เหตุ แต่การสู้กับทุกข์เป็นการสู้ที่ผล ผล นั้นแก้ไม่ได้ต้องรับอย่างเดียว แต่เหตุนั้นแก้ได้

ดังนั้นคนที่ไปพยายามต่อสู้กับกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง จึงเป็นการต่อสู้ที่ไม่ถูกต้อง จึงเหน็ดเหนื่อย ยากและหนัก

คนที่ฉลาดมีปัญญาดีเข้าใจอริยสัจ 4 ถูกต้องเขาจะสู้ที่ เหตุที่มาของกิเลส ตัณหา โลภโกรธ หลง

กรัชกายรู้ไหมว่า อะไรเป็นเหตุที่มา หรือเป็นที่เกิดของกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง

ตอนที่ 1 เอาแค่นี้ก่อนไหม ถ้าเข้าใจถูกต้องแล้วค่อยไปต่อกันอีก

:b38:



ว่าไปให้สุดสายเลยเถอะครับ เอาให้จบไปเลย

อ้างคำพูด:
ไปเที่ยวเชียงใหม่สักวันสิ ใช้เวลาบรรยายประกอบการปฏิบัติไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถ้าคำถามไม่มาก


ส่งเฮินค่าตั๋วเครื่องไปกลับมาสิขอรับ จะไปพักด้วยสักสองคืน แล้วจะรู้ว่าหมู่หรือจ๋า คิกๆๆ

:b13:
เอาแค่ค่าตั๋วรถนครชัยแอร์ไปกลับก็พอละมั้ง จะไปหาธรรมะที่ถูกต้องทั้งทีต้องนั่งเครื่องบินไปเชียวหรือกลับหัวกลับหางกลับข้างกับสมัยพุทธกาลเลยนะ
:b12:
ท่านใดมีศรัทธาจะบริจาคค่ารถ หรือเอาคุณกรัชกายติดรถไปด้วย ไปทัวร์ธรรมะที่เชียงใหม่ช่วงหยุดยาวหลายวันตามที่ คสช.ท่านจัดสรรให้ ไปสนทนาธรรมนำเที่ยวกราบพระอริยเจ้าเมืองเหนือก็เชิญเลยนะครับ ยินดีเป็นไกด์พาทัวร์ครับ
smiley


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2016, 08:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




วิธีไปนิพพาน_0002_resize_resize.jpg
วิธีไปนิพพาน_0002_resize_resize.jpg [ 33.71 KiB | เปิดดู 2245 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
s006

อ้างคำพูด:
อริยสัจ 4 ก็เรื่องของคน เรื่องในตัวคน เอาสั้นๆนะขอรับ "สังขิตเตน ปัญจุปาทานนักขันธา ทุกขา"

อ้างคำพูด:
ไปเที่ยวเชียงใหม่สักวันสิ ใช้เวลาบรรยายประกอบการปฏิบัติไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถ้าคำถามไม่มาก


เอาตรงนี้เลยครับ :b20: ว่าไป


ขนาดมีแผนภูมิให้ดูโดยละเอียดกรัชกายยังตีความจับประเด็นยังไม่ออกเลย อธิบายด้วยตัวหนังสือยิ่งจะเข้าใจยากกว่ากระมังครับ?

ก็จะลองๆดูสักหน่อยดูว่ากรัชกายจะพอรู้เรื่องไหม?

อริยสัจ 4 เป็นหัวใจของการค้นพบของพระพุทธเจ้า

พระธรรมทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ล้วนแล้วแต่งอกออกมาจากอริยสัจ 4 นี้ทั้งสิ้น ดังที่พระบรมศาสดาทรงแสดงไว้ว่า ร้อยเท้าสัตว์อื่นใดย่อมรวมลงไปได้ในรอยเท้าช้างทั้งหมด อันอุปมัยหรือแปลความหมายได้ว่า ธรรมทั้งปวงไม่มีอะไรใหญ่ไปกว่าอริยสัจ 4

ดั้งนั้นใครที่ศึกษาแลทำความเข้าใจอริยสัจ 4 ได้อย่างถูกต้อง ละเอียดละออ ลึกซึ้งย่อมจะเหมือนกับได้เนื้อธรรมแก่นธรรมทั้งหมดไปเลยทีเดียว

ทั้งเมื่อมีความสงสัยในธรรมใดว่าใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ การศึกษาปฏิบัติธรรม เผยแพร่ธรรมนี้เป็นไปตามพุทธวัจนะหรือเปล่า ก็สามารถเอาอริยสัจ 4 นี้เป็นเครื่องวัดและตรวจสอบได้

อริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ มีบาลีว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
แต่เมื่อแปลเป็นไทยและทำให้ง่ายแล้วก็อาจอธิบายได้ง่ายๆว่า

อริยสัจ 4 คือ กฎของเหตุและผล

มีเหตุทุกข์กับผลทุกข์ คู่หนึ่ง และ เหตุสุขกับผลสุขอีกคู่หนึ่ง (ดูภาพประกอบ)
การปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าคือการเอาเหตุสุขไปต่อสู้กับเหตุทุกข์ ถ้าเหตุทุกข์ดับ ผลทุกข์ก็ดับ

คือเอามรรคไปต่อสู้กับสมุทัย ไม่ใช่เอามรรคไปต่อสู้กับทุกข์อย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกันเพราะการสู้สมุทัยเป็นการสู้ที่เหตุ แต่การสู้กับทุกข์เป็นการสู้ที่ผล ผล นั้นแก้ไม่ได้ต้องรับอย่างเดียว แต่เหตุนั้นแก้ได้

ดังนั้นคนที่ไปพยายามต่อสู้กับกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง จึงเป็นการต่อสู้ที่ไม่ถูกต้อง จึงเหน็ดเหนื่อย ยากและหนัก

คนที่ฉลาดมีปัญญาดีเข้าใจอริยสัจ 4 ถูกต้องเขาจะสู้ที่ เหตุที่มาของกิเลส ตัณหา โลภโกรธ หลง

กรัชกายรู้ไหมว่า อะไรเป็นเหตุที่มา หรือเป็นที่เกิดของกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง

ตอนที่ 1 เอาแค่นี้ก่อนไหม ถ้าเข้าใจถูกต้องแล้วค่อยไปต่อกันอีก

:b38:



ว่าไปให้สุดสายเลยเถอะครับ เอาให้จบไปเลย

อ้างคำพูด:
ไปเที่ยวเชียงใหม่สักวันสิ ใช้เวลาบรรยายประกอบการปฏิบัติไม่เกิน 3 ชั่วโมง ถ้าคำถามไม่มาก


ส่งเฮินค่าตั๋วเครื่องไปกลับมาสิขอรับ จะไปพักด้วยสักสองคืน แล้วจะรู้ว่าหมู่หรือจ๋า คิกๆๆ

:b13:
เอาแค่ค่าตั๋วรถนครชัยแอร์ไปกลับก็พอละมั้ง จะไปหาธรรมะที่ถูกต้องทั้งทีต้องนั่งเครื่องบินไปเชียวหรือกลับหัวกลับหางกลับข้างกับสมัยพุทธกาลเลยนะ
:b12:
ท่านใดมีศรัทธาจะบริจาคค่ารถ หรือเอาคุณกรัชกายติดรถไปด้วย ไปทัวร์ธรรมะที่เชียงใหม่ช่วงหยุดยาวหลายวันตามที่ คสช.ท่านจัดสรรให้ ไปสนทนาธรรมนำเที่ยวกราบพระอริยเจ้าเมืองเหนือก็เชิญเลยนะครับ ยินดีเป็นไกด์พาทัวร์ครับ
smiley
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 พ.ค. 2016, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อันที่จริงแค่ข้างต้นก็พอแล้ว ลงมือทำได้เลย แต่อยากแถมให้อีกหน่อย แต่อย่าฮงนะ :b32:


เข้าถึงระบบสัมพันธ์ของธรรมแล้ว ก็จัดแยกจับโยงได้ทั่วสรรพสิ่ง


จากหลักหน้าที่ต่ออริยสัจนี้ พระพุทธเจ้าก็ทรงจัดหมวดธรรมขึ้นอีกชุดหนึ่ง คือ

๑. ปริญไญยธรรม ธรรมที่พึงปริญญา คือ พึงกำหนดรู้ ต้องรู้จัก รู้เท่าทัน เช่น ขันธ์ ๕ ไตรลักษณ์ เป็นต้น ตลอดจนอายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ ฯลฯ

๒. ปหาตัพพธรรม ธรรมที่ต้องปหาน คือ ต้องละ เช่น อกุศลมูล โลภะ โทสะ โมหะ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ พวกบาปอกุศลต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง ตลอดจนในที่สุดคือ อวิชชา

๓. สัจฉิกาตัพพธรรม ธรรมที่ต้องสัจฉิกิริยา พึงทำให้แจ้ง ต้องบรรลุถึง เช่น สันติ ความสงบ วิสุทธิ ความบริสุทธิ์ ความสะอาด วิมุตติ ความหลุดพ้น ความเป็นอิสระ พระนิพพาน

๔. ภาเวตัพพธรรม ธรรมที่ต้องภาวนา พึงปฏิบัติ พึงทำให้มีให้เป็นขึ้นมา พึงเจริญ พึงพัฒนา ยกตัวอย่าง ศรัทธาก็ดี ศีลก็ดี ปัญญาก็ดี สมาธิก็ดี หิริโอตตัปปะเป็นต้นก็ดี ธรรมต่างๆ เหล่านี้เป็นข้อปฏิบัติ จัดเป็น ภาเวตัพพธรรม ธรรมที่พึงเจริญ

ภาเวตัพพธรรม ธรรมที่พึงทำให้เกิดมี พึงปฏิบัติ รวมเข้าด้วยกัน ก็มี ๓ หมวด เรียกง่ายๆว่า ศีล สมาธิ ปัญญา มรรคมีองค์ ๘ หรือ จะเป็นโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ก็ตาม รวมอยู่ในภาเวตัพพธรรมทั้งหมด

ธรรมทั้งหมดบรรดามีนั้น จัดลงในชุด ๔ นี้ เป็นปริญไญยธรรมพวกหนึ่ง เป็นปหาตัพพธรรมพวกหนึ่ง เป็นสัจฉิกาตัพพธรรมพวกหนึ่ง เป็นภาเวตัพพธรรมพวกหนึ่ง

พอจัดแล้ว ก็ประสาน กับ หลักอริยสัจ ๔ โยงไปสู่เรื่องกิจต่ออริยสัจ

เมื่อปฏิบัติกิจต่ออริยสัจถูกต้อง ก็คือปฏิบัติต่อธรรม ๔ หมวดในชุดท้ายนี้

นี่เป็นตัวอย่างของการจัดแยกและจับโยง ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของธรรม ที่เราจะต้องเกี่ยวข้อง และจะนำเราเข้าสู่ทางของพระพุทธศาสนาอยู่ถูกต้อง


คือว่าในการปฏิบัติธรรม อันจะทำให้ธรรมที่เจริญพัฒนาขึ้นแล้วประชุมกันเป็นธรรมกายในตัวเรา อันเป็นกายที่ไม่มีรูปร่าง ไม่ต้องเห็นด้วยตา แต่เห็นด้วยปัญญาที่เห็นธรรม

แต่ในระยะแรกธรรมกายนี้ก็มีเสื่อมบ้างเจริญบ้าง อันนั้นหายไปอันนี้เข้ามาใหม่ ธรรมกายพอง - ธรรมกายยุบ จนกระทั่งไปถึงมรรค ผล นิพพาน เมื่อไร ก็จะเป็นธรรมกายที่แน่นแฟ้นมั่นคง



รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ค. 2016, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศกดูชีวิตแท้ๆ ขอรับ :b20:



ทุกข์เป็นสภาวะด้านหนึ่งของชีวิต หรือว่าชีวิตนี้มีทุกข์เป็นสภาวะด้านหนึ่งของมัน หมายความว่า เป็นธรรมดาตามธรรมชาติของชีวิตนั่นเอง ที่เป็นสังขาร ซึ่งเกิดมีเป็นไปโดยขึ้นต่อเหตุปัจจัยหลากหลาย ไม่เที่ยง ไม่คงที่ ไม่คงทน แปรปรวนเรื่อยไป ไม่มี ไม่เป็นตัวตนของมันเองอย่างแท้จริง เช่น จะให้คงอยู่หรือเป็นไปอย่างที่ใจปรารถนาไม่ได้ ต้องว่ากันไปตามเหตุปัจจัย พูดสั้นๆ นี่ก็คือมันเป็นทุกข์

ตราบใด มนุษย์ยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาพื้นฐานแห่งชีวิตของตน ยังวางตัววางใจหาที่ลงไม่ได้กับทุกข์ถึงขั้นตัวสภาวะ ตราบนั้น มนุษย์ก็จะยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จ ยังหลีกไมพ้นการตามรังควาญของทุกข์ ไม่ว่าจะพบสุขขนาดไหน และจะไม่ประสบความสุขที่แท้จริง

ถ้ามนุษย์อยู่กับความเป็นจริง รู้เข้าใจทุกข์ตามสภาวะของมัน ไม่ซ่อนปัญหา ไม่ปิดตา ไม่หลอกตัวเอง มีใจลงตัวกับทุกข์นั้นตามที่มันเป็นของมันได้ นอกจากว่าเขาจะไม่มีปมซ้อนข้างในที่จะก่อปัญหาใหม่ที่จะขยายปัญหาเก่าแล้ว ปัญญาที่เขามีเป็นพื้นฐานนั้น ก็จะพัฒนาขึ้นไป มาปลอดปล่อยจิตใจของเขาให้เป็นอิสระแม้แต่จากทุกข์ที่เป็นสภาวะพื้นฐานของชีวิตด้วย โดยที่ว่า ทุกข์ที่มีเป็นสภาวะตามธรรมดาของมันในธรรมชาติ ก็เป็นเพียงทุกข์ของธรรมชาติตามธรรมดาของมันไป ไม่มีผลที่จะก่อปัญหาทำให้เกิดเป็นทุกข์ขึ้นในจิตใจของเขา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2016, 05:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ทางไปของสัตว์โลก_resize_resize.jpg
ทางไปของสัตว์โลก_resize_resize.jpg [ 38.02 KiB | เปิดดู 2213 ครั้ง ]
:b38:
"ความดับทุกข์ มีอยู่ในทุกข์ นั่นแหละพึงค้นหาให้เจอ"
คำสอนของหลวงพ่อพุทธทาส
onion
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2016, 15:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
"ความดับทุกข์ มีอยู่ในทุกข์ นั่นแหละพึงค้นหาให้เจอ"
คำสอนของหลวงพ่อพุทธทาส
onion



ถ้ายังงั้น พระพุทธเจ้าตรัส มรรค (เรียกเต็มๆ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อริยสัจจ์) ไว้ทำไมอีกล่ะ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2016, 05:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




Untitled-1_resize.jpg
Untitled-1_resize.jpg [ 76.3 KiB | เปิดดู 2200 ครั้ง ]
ทางออกสู่นิพพาน2_resize.jpg
ทางออกสู่นิพพาน2_resize.jpg [ 41.02 KiB | เปิดดู 2200 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b38:
"ความดับทุกข์ มีอยู่ในทุกข์ นั่นแหละพึงค้นหาให้เจอ"
คำสอนของหลวงพ่อพุทธทาส
onion



ถ้ายังงั้น พระพุทธเจ้าตรัส มรรค (เรียกเต็มๆ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อริยสัจจ์) ไว้ทำไมอีกล่ะ :b10:

s004
กรัชกายนี่เอาหลักวิชามาปฏิบัติจริงๆไม่เป็นเชียวหรือ?

ความดับทุกข์ = สมุทัย+นิโรธสัจจะ

มีอยู่ในทุกข์ = ทุกขสัจจะ

ค้นหาให้เจอ = มรรคสัจจะ

onion
"หันทะทานิ อมันตยามิโวภิกขุ
วะยะธัมมา สังขารา อัปมาเทนะ สัมปาเทธะ"

วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ

สังขารา = สมุทัยสัจจะ

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ

:b38:
ใบ้ให้แค่นี้เข้าใจไหม?กรัชกาย

ถ้ายังไม่เข้าใจก็คุยต่อ
onion
(ภาพข้างบนเป็นการถอดสภาวะออกมาเป็นภาพครั้งแรกหลังจากการเข้ากรรมฐาน 20 วันที่ศูนย์กมลา
ภาพต่อมาหลังจากท่านมหายาจินต์ปรับปรุงให้ดูง่ายขึ้น)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2016, 06:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องแก่ไขนิดหน่อย..ว่า...ที่ว่าบ้าเพราะอะไร

asoka เขียน:
onion
(ภาพข้างบนเป็นการถอดสภาวะออกมาเป็นภาพครั้งแรกหลังจากการเข้ากรรมฐาน 20 วันที่ศูนย์กมลา
ภาพต่อมาหลังจากท่านมหายาจินต์ปรับปรุงให้ดูง่ายขึ้น)


คนบ้า....นี้เอง..

บ้าตัวเอง..
บ้าสิ่งที่ตัวเองคิด..
บ้าหลงตัวเอง..
บ้าภูมิใจตัวเอง..
บ้าแสดง...

นี้เอง..

มานะมาก..มักฟุ้งซ่าน..อุปทานกิน...ความตั้งมั่นชอบย่อมไม่เกิด..
ความตั่งมั่นไม่เกิด...การรู้เห็นก็รู้เห็นตามอำนาจอุปาทาน...


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 16 พ.ค. 2016, 21:15, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2016, 08:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศก กบนอกกะลา ว่าอโศกบ้านะขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2016, 08:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b38:
"ความดับทุกข์ มีอยู่ในทุกข์ นั่นแหละพึงค้นหาให้เจอ"
คำสอนของหลวงพ่อพุทธทาส
onion



ถ้ายังงั้น พระพุทธเจ้าตรัส มรรค (เรียกเต็มๆ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อริยสัจจ์) ไว้ทำไมอีกล่ะ :b10:

s004
กรัชกายนี่เอาหลักวิชามาปฏิบัติจริงๆไม่เป็นเชียวหรือ?

ความดับทุกข์ = สมุทัย+นิโรธสัจจะ

มีอยู่ในทุกข์ = ทุกขสัจจะ

ค้นหาให้เจอ = มรรคสัจจะ

onion
"หันทะทานิ อมันตยามิโวภิกขุ
วะยะธัมมา สังขารา อัปมาเทนะ สัมปาเทธะ"

วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ

สังขารา = สมุทัยสัจจะ

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ

:b38:
ใบ้ให้แค่นี้เข้าใจไหม?กรัชกาย

ถ้ายังไม่เข้าใจก็คุยต่อ
onion
(ภาพข้างบนเป็นการถอดสภาวะออกมาเป็นภาพครั้งแรกหลังจากการเข้ากรรมฐาน 20 วันที่ศูนย์กมลา
ภาพต่อมาหลังจากท่านมหายาจินต์ปรับปรุงให้ดูง่ายขึ้น)



ก่อนหน้าว่าพุทธทาสว่าไว้สอนไว้ รุ่งขึ้นว่าไปเข้ากัมมัฏฐานมา 20 วัน แล้วท่านมหายาจินต์ปรับปรุงให้ง่ายดาย :b13:

ตกลงท่านอโศกจะเอายังไงกับชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิดขอรับ :b32:


ถามนอกเรื่องหน่อย เมื่อไรท่านอโศกจะมามณฑปเนินฆ้ออีกขอรับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2016, 08:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นห่วงผู้ปฏิบัติกัมมัฏฐาน (ปฏิบัติทางจิต) เมืองไทยปัจจุบันจริงๆนะขอรับท่านอโศก :b14:

https://www.youtube.com/watch?v=uCvFQ7vcR0Q

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2016, 15:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

"หันทะทานิ อมันตยามิโวภิกขุ วะยะธัมมา สังขารา อัปมาเทนะ สัมปาเทธะ"

วะยะธัมมา = ทุกขสัจจะ

สังขารา = สมุทัยสัจจะ

อัปมาเทนะ = มรรคสัจจะ

สัมปาเทธะ = นิโรธะสัจจะ

ใบ้ให้แค่นี้เข้าใจไหม?กรัชกาย

ถ้ายังไม่เข้าใจก็คุยต่อ

(ภาพข้างบนเป็นการถอดสภาวะออกมาเป็นภาพครั้งแรกหลังจากการเข้ากรรมฐาน 20 วันที่ศูนย์กมลา
ภาพต่อมาหลังจากท่านมหายาจินต์ปรับปรุงให้ดูง่ายขึ้น)



อ้างคำพูด:
หันทะทานิ อมันตยามิโวภิกขุ วะยะธัมมา สังขารา อัปมาเทนะ สัมปาเทธะ
"

อ้าวๆ บาลีเถื่อน เละครับ หลอกใครไม่หลอกมาหลอกกรัชกาย คิกๆๆ :b32:

บาลีตรงนี้ เป็นปัจฉิมโอวาท

"หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺมาเทน สมฺปาเทถ" (ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลาย จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด)

(หรือ...เธอทั้งหลาย จงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาท)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 พ.ค. 2016, 21:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศก กบนอกกะลา ว่าอโศกบ้านะขอรับ :b1:


:b17: ช่าย..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ค. 2016, 20:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ปาติโมกข์ 45.3 kb.jpg
ปาติโมกข์ 45.3 kb.jpg [ 45.34 KiB | เปิดดู 2180 ครั้ง ]
ปาติโมกข์ 45.3 kb.jpg
ปาติโมกข์ 45.3 kb.jpg [ 45.34 KiB | เปิดดู 2180 ครั้ง ]
onion
ฟังดูหลายๆตอนนะครับ

https://youtu.be/dKA7qetsmEs

:b36:
มณฑปเนินฆ้อ ชื่อใหม่คือ "ศูนย์วิปัสสนาภาวนาพระพุทธบาทเนินฆ้อ"

ผมไม่ได้ไปแล้วครับสุขภาพไม่อำนวยให้ไปไกลๆแล้ว ตอนนี้ปักหลักสนทนาธรรมอยู่ที่วัดสันป่าสักวรอุไร อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เชิญได้ทุกท่านทุกคนครับ
06.15 -11.00 น.
:b8:
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร