เรื่องโลกจ๋า...พิจารณาธรรมได้ยาก....ก็เป็นเรื่องของอโสกะ..นะ

ผมก็บอกแนวทางไปแล้ว....นี้

ว่าแต่...อโสกะไม่เอาโลกมาพิจารณาธรรม..แล้วเอาเรื่องอะไรมาพิจารณาธรรม..ละคับ

เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก...

ระบบการเงินเครือข่ายโยงใย..กำลังล่ม

ธนบัตร...หลายๆประเทศ..กำลังเป็นเศษกระดาษ...มีแต่ตัวเลขบนธนบัตรแต่มูลค่าลดต่ำ...

ผู้คนเดือดร้อนกันถ้วนหน้าไม่ว่าเศรษฐีรึคนจน...ทุกข์ถ้วนทั่ว..ทุกข์ทั่วถึง...

ผู้ไม่รู้ธรรม...ก็หาทุกข์มากลบทุกข์..ทุกข์ทวี

ผู้มีธรรม...รู้เท่าทัน...ทุกข์ลด...ปลดทุกข์

ผู้รู้ธรรม..จึงรอด

ใครรู้ธรรม..รึ?

ใจคือผู้รู้...ผู้รอดจากกรรม....

กาย...ไม่รอด...ต้องเป็นไปตามกรรม...ต้องตายไปตามกฎไตรลักษณ์

ก็เอาธรรม เรื่องธรรมดาๆของโลก อย่างเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย สุข ทุกข์ ร้อน หนาว เย็น อุ่น หนัก เบา แข็ง อ่อน แจ่มใส ขุ่นมัว ขัดข้อง โปร่งโล่ง โลภ โกรธ หลง ชอบใจ ไม่ชอบใจ ดีใจ เสียใจ ฯลฯ เอาของง่ายๆ ธรรมชาติพื้นๆเหล่านี้แหละมาพิจารณา ไม่เห็นจำเป็นต้องเอาเรื่องเศรษฐกิจเศรษฐกายอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อนเป็นเรื่องของโลกสมมุติไกลกายไกลใจแท้ๆมาพิจารณาหลายซับหลายซ้อนให้ลำบากเลยครับ

ทุกข์...นี้มันต้องเป็นทุกข์..ที่ตนเจอ..ตนประสบ...แล้วรู้สึกว่าตนทุกข์

การเห็นทุกข์..ของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไป....เขาเรียกรวม ๆ ว่า..แล้วแต่บุญวาสนาทำมาแนวไหน..จริตไหน

เห็นทุกข์..จึงเป็นเรื่องเฉพาะตน..อย่างหนึ่ง

เรื่องไหนที่เป็นทุกข์..ทำให้เราคิดออกจากทุกข์..ทุกข์ตัวนั้นแหละ..เป็นทุกข์ของเรา..ที่เป็นเหตุให้เราออกจากทุกข์ได้...ไม่ใช่ทุกข์..ที่เขียนใว้ให้ท่อง..ให้จำ...

ผมเห็นต่าง..นะ

คนเห็นไตรลักษณ์..ก็เห็นไตรลักษณ์ในเรื่องระบบเศรษฐกิจ..ได้..อโสกะเห็นพระไตรลักษณ์ในเรื่องที่ยกมามั้ยคับ?....

ส่วนคนธรรมดา...แม้ไม่เห็นพระไตรลักษณ์...แต่ก็ยังเห็นภัยความไม่แน่ไม่นอนของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมที่ครองโลกอยู่....กลับมาอยู่ที่การพึ่งพาตัวเองมากขึ้น....แม้จะเป็นการเห็นทุกข์แบบโลกๆ..แก้ทุกข์แบบโลกๆ...ก็ยังดีในระดับหนึ่ง..นะ...ทำให้กายสงบเพราะกินอิ่มอยู่อุ่น....ใจก็สงบตาม...สงบพอให้มีแก่ใจมาทำทาน..รักษาศีล....ปฏิบัติธรรม..ได้

กบ!มันยังไกลนัก พระศาสดาสอนไม่ให้เอาจิตออกจากกายในการพิจารณาธรรมทั้งปวง กบออกนอกทางตลอดเลยนะ

เอาคำพูดตนเองใส่ปากพระพุทธเจ้า..แล้วยังกล้าว่าคนอื่นหลงได้อยู่อีกรึ...

อายตัวเองเป็นบ้างมั้ยนี้



หิริ..โอตัปปะ....ทำไม่ได้....ก็ท่องใว้..ท่องใว้...ก่อน

รู้แค่ว่าเป็นคนก็เพียงพอที่จะช่วยเหลือกัน
จุดประสงค์เพื่ออะไรใครจะรู้ถึงผลที่เกิดแล้ว
การไม่มีสาระก็คือสาระเห็นสิ่งใดก็ให้พิจารณา
เคยเกิดตายมานับภพชาติไม่ได้ถ้าจะเข้าใจก็คือ
ที่เห็นเคยเป็นอย่างนั้นมาแล้วทุกอย่างเพราะกรรม
จะเฉยเมยหรือจะเอื้อเฟื้อสงเคราะห์ไปก็ตามกำลังนะ
หรืออย่างน้อยสวดมนต์ไหว้พระทำบุญก็อุทิศบุญไปค่ะ

แค่รู้ว่าเป็นคนพอแล้ว...หลวงตาพระมหาบัวท่านว่าไว้

พูดจาไปกันใหญ่กบน้อย

กระแทกดังดัง....เผื่อจะรู้สึกตัวบ้าง...

เมตตา....กรุณา..นะเนี้ย...

ยาง...ยัง...ยังไม่รู้สึกตัว

ถ้าคนรู้สึกตัวนะ....มันจะกระดาก...อาย..
พูดคำธรรมะใดใด.....คำธรรมะนั้นน้ัน..มันจะกระแทกใจตนก่อนเลยละนะ...แล้วมันจะพูดไม่ออก..มันกระดาก..มันจะอายม๊าก...จนพูดไม่ออก...ถ้ารู่้สึกตัวนะ..มันจะเป็นอย่างนี้

อายธรรมะที่ตนพูดออกมาบ้าง....ก็ดีนะ

อะไรนะ...."เราควรพูดแต่คำตถาคต"...นิ

ใครนะ....จับคำตนยัดใส่ปากพระพุทธเจ้า...ว่า.."พระพุทธเจ้ากล่าวว่าสิ้นความดีแล้ว."..



แล้วอะไรนะ...ไปน้ำขุ่น ๆ ว่า..

" กบเอ๋ยกบน้อย แค่นั้นยังไม่เพียงพออีกเหรอกับคำว่าความดีสิ้นแล้ว. กบถึงไปไม่ถึงไหนไง "
viewtopic.php?f=1&t=50558&start=30

ยาง...ยังอีก..


แถไปอื่นเลย...แต่ไม่พูดนะว่าตัวเอง...เอาคำพูดตัวยัดใส่ปากพระพุทธเจ้า...

นี้หรือ...คนที่มักอ้างว่า...ว่าต้องพุทธพจน์..พุทธพจน์...

อิอิ..

รีวิว...ให้เห็นชัดขึ้น...

อย่าว่าเอาความเก่ามาเล่าเลยนะ...Bigtoo

รักดอก...

...เบาๆก็ได้...เด๋วสหายธรรมตกใจ...หายไปจากลานธรรมจักรกันหมดน๊า...ระวังหมดยก

อาจเป็นบทเรียนที่ดีมาก...ก็ได้นะ

สุขสดใส..ก็ให้สดใสทั้งในทั้งนอก...

ใสนอก...เน่าใน...อาจเป็นพิษภัยสำหรับผู้มาใหม่...

แต่เน่านอก...ก็ไม่ทำให้น่าสนใจ..เช่นกันเน๊าะ

ฝนตกหนักในหลายพื้นที่....พม่า..น้ำท่วมหนัก

สงสัยพี่กบแกนอกจากหลงดีไม่ดูทิศทางก็ยังไม่เข้าใจอะไรอีกเยอะ ที่กล่าวว่าพุทธวจนนั้นคือการกล่าวธรรมตรงตรงความหมายตรงธรรม ไม่ใช่กล่าวคำตามพยัญชนะที่ภาษาไทยในฝ่ายเดียวเลย ในแต่ละที่พม่าอินเดีย หรือที่อื่นๆที่ให้ความหมายที่ไม่คลาดเคลื่อนความจริงที่ตรวจสอบแล้วตรงความหมายตรงธรรม เขาเรียกพุทธวจน กบนี้ต้องศึกษาอีกมากนะ ผมไม่ได้ยึดติดสำนักวัดนาป่าพงนะครับ ผมยึดหลักการจองพระพุธเจ้าซึ่งคือพุทธวจน ไม่ใช่สำนักพุทธวจน(วัดนาป่าพง)กบพอเข้าใจนะ. อย่าคิดมาก. อันไหนดีอันไหนไม่รู้ก็เก็บไว้เถอะ ผมของจริง

ผมรู้..อันไหนของจริง..จริง ๆ

อันไหนของจริง...ก๊องแก๊ง

คนสอนยังดูออก...งั้ยจะดูลูกศิษย์ไม่ออก

ตถาคตสอนว่ายังงัยนะ..?....อย่ายึดมั่น...ให้สละ..ให้ละ...ให้วาง...รึเปล่า

ยึดมั่นมากๆ...ก็ของจริงก๊องแก๊ง...ดีดีนี้เอง...ครับ

ผมบอกแล้ว....หิริ..โอตัปปะ...เครื่องวัดง่าย ๆ

โยนิโสมนสิการ...เอานะครับ