วันเวลาปัจจุบัน 26 มิ.ย. 2025, 16:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2015, 21:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
...ท่านกบคะ...ข้าพเจ้าว่าน่าเห็นใจการเข้าไม่ถึงบุคคลที่ควรการเคารพบูชากราบไหว้นะว่าไหม...
...ท่านกบดูสิ...ท่านบิกทู่ไม่รู้จักพระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโณ วัดป่าบ้านตาด...
...เวรกรรมแท้ๆ คนอเมริกันยังรู้จักว่าท่านเป็นผู้นำในการกู้ชาติขนทองคำเข้าคลังหลวง...
...แน๊...มาถามข้าพเจ้าได้ว่ารู้ได้ยังไงว่าท่านเป็นพระอรหันต์...หุหุ...หุหุ...หุหุ...
:b22: :b23:
:b44:


รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2015, 21:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


https://th-th.facebook.com/notes/196418457049887/

พุทธดำรัส

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพยากรณ์อรหัตตผลว่า ข้าพเจ้ารู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าพึ่งยินดี อย่าพึ่งคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พึงถามปัญหาเธอว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ โวหารอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบนี้มี 4 ประการ คือคำกล่าวว่าเห็นอารมณ์ที่ตนเห็นแล้ว ได้ยินในอารมณ์ที่ตนฟังแล้ว ทราบในอารมณ์ที่ตนทราบแล้ว รู้ชัดในอารมณ์ที่ตนรู้ชัดแล้ว ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบตอบถูก จึงนับว่ามีธรรมอันสมควร จะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดี ไม่ยินร้าย อันกิเลศไม่อาศัย ไม่พัวพัน พ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้เห็น มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ยิน พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ทราบ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้ารู้ชัด จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พวกเธอควรชื่นชม อนุโมทนาสาธุ”

.................

หลวงตามหาบัว ท่านตอบว่า

ธรรมแท้ต้องตรงไปตรงมา เหมือนเรามีเงินอยู่ 2 บาท ถ้าเราบอกว่ามี 1 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 3 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 2 บาท นั้นก็เป็นคำจริง “รู้” ต้องบอกว่า “รู้” “เห็น” ต้องบอกว่า “เห็น”

ความจริงเอามาพูดจะเป็นการอวดที่ตรงไหน

พระพุทธเจ้าเอาความจริงมาพูดอวดที่ตรงไหน

พระสาวกอรหันต์เอาความจริงมาพูด อวดที่ตรงไหน ผิดที่ตรงไหน

จิตของเรานี้ครอบโลกธาตุ อย่าเอาฝ่ามือมากั้น ไม่งั้นขาดสะบั้นไปหมดนะ

พระพุทธเจ้าตรัสรู้วันเพ็ญเดือนหกไม่บอกใครจะรู้

ย่นลงมาพระอานนท์ตรัสรู้ธรรมในอิริยาบถ 4 หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านไม่บอกใครจะรู้ นั่นท่านอวดไหม

พูดให้สัตว์โลกมีแก่จิตแก่ใจในการประพฤติปฏิบัติต่างหาก การประกาศศาสนธรรมขั้นสุดยอดเหล่านี้เป็นการอวดอุตตริมนุสธรรม แล้วจะเอาอะไรไปประกาศ

...กล้า...เราก็ไม่เคยมี

...กลัว...เราก้ไม่เคยมี

กับสามแดนโลกธาตุนี้ เราเรียกว่า “ถังขยะ”

คุณธรรมความดีอะไรต่างๆ ก็เหมือนกัน ถ้าพูดตามความเป็นจริงและมีอยู่จริง ปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ท่านไม่ตำหนิ มีแต่ท่านจะอนุโมทนา ของที่มีอยู่จริง พูดพองามท่านไม่เรียกว่าอวด


ถ้าอวดอุตริก็คืออวดในสิ่งที่ไม่มีในตน

อ้างอิง : พระมหาธรนาถ อัคคธีโร, “หนังสือหลวงตามหาบัว มหัสจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่.” – กรุงเทพฯ : ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, 2546. 156 หน้า

...........

รูปภาพ

.................
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.ค. 2015, 21:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
...ท่านกบคะ...ข้าพเจ้าว่าน่าเห็นใจการเข้าไม่ถึงบุคคลที่ควรการเคารพบูชากราบไหว้นะว่าไหม...
...ท่านกบดูสิ...ท่านบิกทู่ไม่รู้จักพระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโณ วัดป่าบ้านตาด...

:b22: :b23:
:b44:


บุญกรรมทำมาไม่เหมือนกัน....จะโทษกันก็ไม่ได้ครับ
แล้วอีกอย่าง...สร้างบุญบารมีมากับคนที่ต่างกัน..ย่อมมีกัลยาณมิตรต่างกันไปเป็นธรรมดา..ครับ

สมัยพุทธกาล....พระพุุทธเจ้าก็ยังอยู่...พระอรหันต์ก็มากมาย......เรา..เรา...ก็ยังอุตส่าเป็นขี้ไก่..จนไหลมาเกิดในกึ่งพุทธกาลนี้...จนได้..เห็นมะ
:b32:

เจออรหันต์แล้ว..ไปนิพพานก่อนคนยังไม่เจอ..ให้ได้นะ

ไม่งั้นจะเสียฟอร์ม..นะเอ้า.. :b16:
rolleyes rolleyes rolleyes


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2015, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ท่านกบคะ...ข้าพเจ้าว่าน่าเห็นใจการเข้าไม่ถึงบุคคลที่ควรการเคารพบูชากราบไหว้นะว่าไหม...
...ท่านกบดูสิ...ท่านบิกทู่ไม่รู้จักพระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโณ วัดป่าบ้านตาด...
...เวรกรรมแท้ๆ คนอเมริกันยังรู้จักว่าท่านเป็นผู้นำในการกู้ชาติขนทองคำเข้าคลังหลวง...
...แน๊...มาถามข้าพเจ้าได้ว่ารู้ได้ยังไงว่าท่านเป็นพระอรหันต์...หุหุ...หุหุ...หุหุ...
:b22: :b23:
:b44:


รูปภาพ

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2015, 05:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
https://th-th.facebook.com/notes/196418457049887/

พุทธดำรัส

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพยากรณ์อรหัตตผลว่า ข้าพเจ้ารู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าพึ่งยินดี อย่าพึ่งคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พึงถามปัญหาเธอว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ โวหารอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบนี้มี 4 ประการ คือคำกล่าวว่าเห็นอารมณ์ที่ตนเห็นแล้ว ได้ยินในอารมณ์ที่ตนฟังแล้ว ทราบในอารมณ์ที่ตนทราบแล้ว รู้ชัดในอารมณ์ที่ตนรู้ชัดแล้ว ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบตอบถูก จึงนับว่ามีธรรมอันสมควร จะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดี ไม่ยินร้าย อันกิเลศไม่อาศัย ไม่พัวพัน พ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้เห็น มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ยิน พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ทราบ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้ารู้ชัด จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พวกเธอควรชื่นชม อนุโมทนาสาธุ”

.................

หลวงตามหาบัว ท่านตอบว่า

ธรรมแท้ต้องตรงไปตรงมา เหมือนเรามีเงินอยู่ 2 บาท ถ้าเราบอกว่ามี 1 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 3 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 2 บาท นั้นก็เป็นคำจริง “รู้” ต้องบอกว่า “รู้” “เห็น” ต้องบอกว่า “เห็น”

ความจริงเอามาพูดจะเป็นการอวดที่ตรงไหน

พระพุทธเจ้าเอาความจริงมาพูดอวดที่ตรงไหน

พระสาวกอรหันต์เอาความจริงมาพูด อวดที่ตรงไหน ผิดที่ตรงไหน

จิตของเรานี้ครอบโลกธาตุ อย่าเอาฝ่ามือมากั้น ไม่งั้นขาดสะบั้นไปหมดนะ

พระพุทธเจ้าตรัสรู้วันเพ็ญเดือนหกไม่บอกใครจะรู้

ย่นลงมาพระอานนท์ตรัสรู้ธรรมในอิริยาบถ 4 หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านไม่บอกใครจะรู้ นั่นท่านอวดไหม

พูดให้สัตว์โลกมีแก่จิตแก่ใจในการประพฤติปฏิบัติต่างหาก การประกาศศาสนธรรมขั้นสุดยอดเหล่านี้เป็นการอวดอุตตริมนุสธรรม แล้วจะเอาอะไรไปประกาศ

...กล้า...เราก็ไม่เคยมี

...กลัว...เราก้ไม่เคยมี

กับสามแดนโลกธาตุนี้ เราเรียกว่า “ถังขยะ”

คุณธรรมความดีอะไรต่างๆ ก็เหมือนกัน ถ้าพูดตามความเป็นจริงและมีอยู่จริง ปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ท่านไม่ตำหนิ มีแต่ท่านจะอนุโมทนา ของที่มีอยู่จริง พูดพองามท่านไม่เรียกว่าอวด


ถ้าอวดอุตริก็คืออวดในสิ่งที่ไม่มีในตน

อ้างอิง : พระมหาธรนาถ อัคคธีโร, “หนังสือหลวงตามหาบัว มหัสจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่.” – กรุงเทพฯ : ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, 2546. 156 หน้า

...........

รูปภาพ

.................
:b8: :b8: :b8:

Kiss
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2015, 05:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s005
กบนอกกะลา เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ท่านกบคะ...ข้าพเจ้าว่าน่าเห็นใจการเข้าไม่ถึงบุคคลที่ควรการเคารพบูชากราบไหว้นะว่าไหม...
...ท่านกบดูสิ...ท่านบิกทู่ไม่รู้จักพระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโณ วัดป่าบ้านตาด...

:b22: :b23:
:b44:


บุญกรรมทำมาไม่เหมือนกัน....จะโทษกันก็ไม่ได้ครับ
แล้วอีกอย่าง...สร้างบุญบารมีมากับคนที่ต่างกัน..ย่อมมีกัลยาณมิตรต่างกันไปเป็นธรรมดา..ครับ

สมัยพุทธกาล....พระพุุทธเจ้าก็ยังอยู่...พระอรหันต์ก็มากมาย......เรา..เรา...ก็ยังอุตส่าเป็นขี้ไก่..จนไหลมาเกิดในกึ่งพุทธกาลนี้...จนได้..เห็นมะ
:b32:

เจออรหันต์แล้ว..ไปนิพพานก่อนคนยังไม่เจอ..ให้ได้นะ

ไม่งั้นจะเสียฟอร์ม..นะเอ้า.. :b16:
rolleyes rolleyes rolleyes

ก็ไม่รู้สินะบงการจิตอยู่เผลอบ่อย
:b9: :b32: ตราบนานอสงไขยเวลา :b53:
ไม่ได้มีฟอร์มก็เลยไม่ต้องเสียฟอร์ม ตรงๆ
ก็บอกว่ายังปุถุชนไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก
ปัญญาจดจำได้จากการฟังเทศน์มีค้นตำราบ้าง
ไม่ขาดวิปัสสนาภาวนาแบบเอาเป็นเอาตายเลยค่ะ
:b24: :b31: :b31:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2015, 06:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
s005

ก็ไม่รู้สินะบงการจิตอยู่เผลอบ่อย
:b9: :b32: ตราบนานอสงไขยเวลา :b53:
ไม่ได้มีฟอร์มก็เลยไม่ต้องเสียฟอร์ม ตรงๆ
ก็บอกว่ายังปุถุชนไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก
ปัญญาจดจำได้จากการฟังเทศน์มีค้นตำราบ้าง
ไม่ขาดวิปัสสนาภาวนาแบบเอาเป็นเอาตายเลยค่ะ :b24: :b31: :b31:


:b17: :b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ค. 2015, 07:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสเขียน
ก็ไม่รู้สินะบงการจิตอยู่เผลอบ่อย
:b9: :b32: ตราบนานอสงไขยเวลา :b53:
ไม่ได้มีฟอร์มก็เลยไม่ต้องเสียฟอร์ม ตรงๆ
ก็บอกว่ายังปุถุชนไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก
ปัญญาจดจำได้จากการฟังเทศน์มีค้นตำราบ้าง
ไม่ขาดวิปัสสนาภาวนาแบบเอาเป็นเอาตายเลยค่ะ
:b24: :b31: :b31:


tongue
rolleyes rolleyes
:b20:
:b4: :b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร