วันเวลาปัจจุบัน 14 มิ.ย. 2025, 13:27  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2015, 19:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้คุนน้องมันอาจจะสะเทือนใจ..พวกแพทย์สาขาที่จบมาด้านรักษามะเร็งโดยตรง :b6:

แต่คุนน้องพูดความจริง..พูดความจริงเพื่อช่วยมนุษย์เพื่อนร่วมโลก..พวกเขาจะได้รู้วิธีป้องกันไว้ :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2015, 06:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่สะเทือนใจกว่านั้น..คือ....ไม่เป็นมะเร็ง....เราก็ตาย

ผมเคยพูดกับหลายๆคน...กับคนที่ยังไม่เป็นอะไร..ว่า...
" คนที่ตาย....เขารู้แล้วว่า..เขาเป็นอะไรตาย...เบาใจไปอย่างหนึ่งแล้ว
แต่..เรา...ยังไม่รู้...เลย..ว่า...จะเป็นอะไรตาย"


ไม่รู้ว่า..จะถูกโจรปล้นฆ่า..หรือว่า...จมน้ำตาย.
ไม่รู้ว่า...จะถูกข่มขืนแล้วฆ่า..หรือว่า...งูเหลือมรัดตาย
ไม่รู้ว่า....จะทุกข์ระทมแค่ไหนก่อนตาย

การมีชีวิตอยู่...แต่ไม่รู้ว่าจะเจออะไร..ในนาทีสุดท้ายของชีวิต...เป็นเรื่องที่น่ากลัว...ไม่ใช่รึ?

ปุถุชน....ก็ควานหา..เสาะหา...พยายามทำ....อย่างคร่ำเคร่ง...เคร่งเครียต...หาวิธีหลีกเลี่ยง...ปิดโอกาสเสี่ยง...ที่จะเจอกับความทรมานก่อนตาย...แม้ขณะมีชีวิตอยู่ก็หาสุขเวทนามากล่อม..มอมเมาจิตใจให้หลงลืมความตาย..ที่ตนต้องเจอ...ถึงขนาดที่...แทบจะทุกคนลืมไปแล้วว่าตน...จะต้องตาย....ดำเนินชีวิตไปด้วยการสะสมสุขเวทนา..สร้างสุขเวทนา...ทุกข์เพราะไม่ได้สุขเวทนา....เกิดทุกข์..ที่เปลือกของเวทนาซ้ำเข้าไปอีก....น่าเวทนามากนัก

อริยะชน...และคนที่อยากเป็นอริยะ...ย่อมรู้ความจริง...ตระหนักในความจริง...ไม่หลงไปจากความจริง...ว่า...ร่างกายนี้..ตายแน่...จึงมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท...เพียรอยู่แต่ในทางที่ถูกต้อง...เพื่อไม่เกิด..ไม่ตาย..ไม่ต้องมาทุกข์อีก

เรา....เป็นอะไรตาย....ก็ไม่รู้.....
แต่ตอนนี้..เราเลือกได้

จะเลือก...ลืมๆความตาย..แล้วต้องกลับมาตายแล้วตายอีก
หรือ...จะเตือนตนเสมอๆ..ว่า..กูตายแน่...กระทุ้งต่อมเพียรหนีการเกิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2015, 11:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ที่สะเทือนใจกว่านั้น..คือ....ไม่เป็นมะเร็ง....เราก็ตาย

ผมเคยพูดกับหลายๆคน...กับคนที่ยังไม่เป็นอะไร..ว่า...
" คนที่ตาย....เขารู้แล้วว่า..เขาเป็นอะไรตาย...เบาใจไปอย่างหนึ่งแล้ว
แต่..เรา...ยังไม่รู้...เลย..ว่า...จะเป็นอะไรตาย"

ไม่รู้ว่า..จะถูกโจรปล้นฆ่า..หรือว่า...จมน้ำตาย.
ไม่รู้ว่า...จะถูกข่มขืนแล้วฆ่า..หรือว่า...งูเหลือมรัดตาย
ไม่รู้ว่า....จะทุกข์ระทมแค่ไหนก่อนตาย

การมีชีวิตอยู่...แต่ไม่รู้ว่าจะเจออะไร..ในนาทีสุดท้ายของชีวิต...เป็นเรื่องที่น่ากลัว...ไม่ใช่รึ?

ปุถุชน....ก็ควานหา..เสาะหา...พยายามทำ....อย่างคร่ำเคร่ง...เคร่งเครียต...หาวิธีหลีกเลี่ยง...ปิดโอกาสเสี่ยง...ที่จะเจอกับความทรมานก่อนตาย...แม้ขณะมีชีวิตอยู่ก็หาสุขเวทนามากล่อม..มอมเมาจิตใจให้หลงลืมความตาย..ที่ตนต้องเจอ...ถึงขนาดที่...แทบจะทุกคนลืมไปแล้วว่าตน...จะต้องตาย....ดำเนินชีวิตไปด้วยการสะสมสุขเวทนา..สร้างสุขเวทนา...ทุกข์เพราะไม่ได้สุขเวทนา....เกิดทุกข์..ที่เปลือกของเวทนาซ้ำเข้าไปอีก....น่าเวทนามากนัก

อริยะชน...และคนที่อยากเป็นอริยะ...ย่อมรู้ความจริง...ตระหนักในความจริง...ไม่หลงไปจากความจริง...ว่า...ร่างกายนี้..ตายแน่...จึงมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท...เพียรอยู่แต่ในทางที่ถูกต้อง...เพื่อไม่เกิด..ไม่ตาย..ไม่ต้องมาทุกข์อีก

เรา....เป็นอะไรตาย....ก็ไม่รู้.....
แต่ตอนนี้..เราเลือกได้

จะเลือก...ลืมๆความตาย..แล้วต้องกลับมาตายแล้วตายอีก
หรือ...จะเตือนตนเสมอๆ..ว่า..กูตายแน่...กระทุ้งต่อมเพียรหนีการเกิด




:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2015, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุนน้องเป็นคนที่...กลัวความตาย..คุนน้องเห็นภาพในมโนทวาร..ความตายที่จิตปรุงแต่ง..จะรถชนตาย..โดนฆ่าตาย.จมน้ำตาย..หรือเป็นโรคตาย..ภาพเหล่านั้นผุดขึ้นมา..และเกิดความกลัวต่อความตาย..บางครั้งคุนน้องถามตนเอง..มันคือวิบากที่ต้องเสวยกรรมนั้น..หรือแท้จริง เกิดจากกรรมปัจจุบัน..ส่งผลเป็นวิบาก (เพราะคุนน้องไม่มีญาณระลึกได้ถึงกรรมของสัตว์)
บางครั้งคุนน้องเคยกลัวนะ..ว่าตนเคยมีกรรมชั่วอะไรในอดีตบ้าง..คุนน้องกลัวการเวียนว่ายตายเกิด..กลัวโลกภายนอกอันโหดร้าย..คุนน้องพูดกับตนเองว่า..คุนน้องไม่สมควรเกิดยุคเสื่อมทรามเช่นนี้..(เวลาเห็นข่าวอะไรที่เกี่ยวกับอาชกรรมหรือเห็นคนเคราะห์ร้ายคุนน้องสะเทือนใจ..)

มีคนสอนคุนน้องว่า..เมื่อเกิดมาแล้ว..ก็จงอยู่กับมันใช้ชีวิตอย่างมีสติ..เป็นผู้ประพฤติตนอยู่ในศีล..เป็นผู้ฝักใฝ่ในธรรม.. สิ่งนี้จักทำให้เอาตัวรอดในสังสารวัฏ..แท้จริงแล้ว..ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นของธรรมดา เพราะรู้ว่ามันเป็นธรรมดา..ย่อมจะเปลื้องสิ่งนั้นออกไปจากจิต..ไม่มีความยึดไว้ว่า เป็นตัวตน..ไม่มีความอาลัยอาวรในขันธ์แล้ว..ย่อมไม่มีทุกข์มาผูกติดไว้..ใจก็เป็นอิสระ

มารเค้าปกปิดความจริง..เค้าไม่ต้องการให้เรารู้
เมื่อเรารู้เราจะเป็นอิสระ..เมื่อเรารู้สิ่งใดเป็นทุกข์
และเปลื้องสิ่งนั้นออกไป..เราไม่มีความกลัวในสิ่งนั้น..แม้กระทั่งเกิด แก่ เจ็บ ตาย เมื่อรู้เป็นสิ่งนั้นเป็นธรรมดาของสรรพสัตว์แล้วไซร้..
จะมีอะไรในโลกนี้..ที่มายึดจิตให้ติดอยู่ในห้วงทุกข์ได้อีก.. :b40:
เมื่อคุนน้องรู้แบบนี้..คุนน้องถึงมีสติ..เดินทางสายกลาง ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ 8..สร้างความเพียร..หมั่นเจริญภาวนา..เพื่อสั่งสมบารมี..


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร