๑๐. ปัจจัยสูตร
[๖๐] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเราจักแสดงปฏิจจสมุปบาท
และธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้นแก่พวกเธอ พวกเธอจงฟังธรรมนั้น จงใส่ใจให้ดีเถิด เราจักกล่าว
ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
[๖๑] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิจจสมุปบาทเป็นไฉน ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ พระตถาคตทั้งหลายเสด็จอุบัติขึ้นก็ตาม
ไม่เสด็จอุบัติขึ้นก็ตาม ธาตุอันนั้น คือ ธัมมฐิติธัมมนิยาม อิทัปปัจจัย ก็ยังดำรงอยู่
พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ย่อมตรัสรู้ทั่วถึงซึ่งธาตุอันนั้น ครั้นแล้ว ย่อมตรัสบอก ทรงแสดง
บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้น และตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงดู ดังนี้ เพราะ
ชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ ... เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ... เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
จึงมีภพ ... เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ... เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ...เพราะผัสสะ
เป็นปัจจัย จึงมีเวทนา ... เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ...เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึง
มีสฬายตนะ ... เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป ... เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ...
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร พระตถาคตทั้งหลายเสด็จอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่เสด็จอุบัติขึ้นก็
ตาม ธาตุอันนั้นคือ ธัมมฐิติ ธัมมนิยาม อิทัปปัจจัย ก็ยังดำรงอยู่ พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ย่อมตรัสรู้
ทั่วถึงซึ่งธาตุอันนั้น ครั้นแล้วย่อมตรัสบอก ทรงแสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก
กระทำให้ตื้น และตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงดู ดังนี้ เพราะอวิชชาเป็นปัจจัยจึงมีสังขาร ภิกษุ
ทั้งหลาย ความจริงแท้ ความไม่คลาดเคลื่อน ความไม่เป็นอย่างอื่นมูลเหตุอันแน่นอนในธาตุ
อันนั้น ดังพรรณนามาฉะนี้แล เราเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท

พระตถาคตย่อมตรัสรู้ ย่อมตรัสรู้ทั่วถึงซึ่งธาตุอันนั้น ครั้นแล้วย่อมตรัสบอก ทรงแสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก กระทำให้ตื้น

น้องก้อง เข้าใจธรรมะ ดีนะ
อนุโมทนา
ธรรม ครอบคลุมความเป็นอย่างนั้น ความมีอยู่อย่างนั้น .....
ไม่อาจบรรยายด้วยถ้อยคำ ให้หมดได้

การศึกษาธรรมะ จึงต้องทำความศึกษาเฉพาะส่วน เพื่อเข้าใจธรรมทั้งหมดที่ไม่อาจบรรยายด้วยถ้อยคำ

พุทธภาษิตจึงทรงแสดงว่า

คิกๆ เช่นนั้นเอ้ย...เอ้ย

ไม่มีอะไร ได้พระสูตรมาสูตรหนึ่งก็แบกโชว์พาว แค่อ่านแล้วเกิดความซาบซึ่้ง ก็คล้ายๆคนศาสนาอื่นเชื่อพระเจ้านั่นแหละ คิกๆๆ

ไม่มีไรค่ะแค่รู้สึกอยากเป็นเชียร์หรีดเดอร์ขึ้นมา

กรัชกายเอ๊ยย
ไปไม่เป็น จบไม่ลง ก็แถออกมาเยี่ยงนี้

คุณน้องทำความรู้ต่อพระสูตรหนึ่ง
แม้เพียงเห็นได้เพียงนี้ ก็เป็นสิ่งน่าอนุโมทนา

กรัชกายมีปัญหาไรรึ

อยู่มาวันนึงหลังจากสวดมนต์เสร็จผมลองนั่งทำสมาธิต่อโดยนำ จาคานุสสติ ที่เคยพาพ่อไปปล่อยปลา ตักบาตร และเหตุการณ์ที่เคยร่วมหล่อระฆังเข้ามาเป็นกรรมฐาน สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ คือ พอผมเริ่มนึกภาพระหว่างปล่อยปลากับพ่อ ตักบาตร หรือร่วมหล่อระฆัง ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขมาก ผมอยากจะร้องไห้ในความดีครั้งนี้ ผมรู้ตัวว่าผมกำลังยิ้มปากฉีกอยู่

พยายามเปลี่ยนบรรยากาศ...
แต่ก็กระทำไม่สำเร็จสักที...
สงสัยคงต้องทำอย่างแม่น้องก้องมั่งแระ...

อิอิ

แถไปเรื่อยกรัชกาย
กรัชกายถลอกหมดแล้ว

หมดก๊อกจริงๆ นอกจากอ้างพระสูตรแล้ว ก็ไม่มีอะไร ครั้นบอกให้เอามาดู ก็ไม่เอามา เพราะอะไร เพราะไม่รู้จะเอาตรงไหนมา แต่เช่นนั้นอ่านแล้วปลื้มใจ ก็คล้ายๆนิครนถ์นึกถึงมหาวีระนั่นแหละ ทำนองเดียวกัน

ไม่มีอะไร ได้พระสูตรมาสูตรหนึ่งก็แบกโชว์พาว แค่อ่านแล้วเกิดความซาบซึ่้ง ก็คล้ายๆคนศาสนาอื่นเชื่อพระเจ้านั่นแหละ คิกๆๆ