ว่าย่อๆตามหลักก็มี 3 คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ศีล สมาธิ ปัญญา เรียกว่า ไตรสิกขา ไตร 3 สิกขา ได้แก่ การฝึกหัด การปฏิบัติ ฯลฯ การฝึกหัดพัฒนามนุษย์ 3 ด้าน

ศีล (กาย วาจา) สมาธิ (สมถะ = นาม) ปัญญา (วิปัสสนา =นาม) ก็เท่ากับ รูปนาม

ok ท่านเช่นนั้น ต่อไปเราจะสนทนากัน เรื่องศีล สมาธิ ปัญญา เรื่อง สมถะ วิปัสสนา เรื่องคน

ถามเลย เช่นนั้น มีวิธีฝึกสมถะ วิปัสสนา อย่างไร ว่าไปเลยครับ เอาแบบชัดๆ สุดลิ่มทิ่มประตูเลยเอ้า

ก๊อปทั้งที ก็ก๊อปให้ถูกนะครับ

กายภาวนาจิตตภาวนา ก็คือสมถะวิปัสสนา

ไม่ใช่ กายภาวนา จิตตภาวนา ก็คือสมถะวิปัสสนา



อย่าสรุปมั่วเลยครับ

กรัชกาย กลับไปอ่านพระสูตร
ศึกษาจับเนื้อหาแต่ละพระสูตร ว่าพระพุทธองค์สอนอะไร ในแต่ละพระสูตร และนำไปปฏิบัติอย่างไร
ดีกว่ามาเวิ่นเว๊อ แสดงสิ่งที่กรัชกายไม่รู้ไม่เข้าใจต่อไปเลยครับ

เห็นจากที่กรัชกายสรุปพร้อมใส่วงเล็บก็ทราบแล้วล่ะครับว่า กรัชกายแสดง สิ่งที่กรัชกายไม่รู้

เช่นนั้น สรุปบ้าง เอาชัดๆสั้นๆ แล้วมาถกกันเรื่องสมถะวิปัสสนา ที่่เช่นนั้นว่าตนเองรู้นี่แหละ คิกๆๆ ไปอ่านพระสูตรมาให้แม่นนะ ไม่ต้องนอนกันละคืนนี้

จบหัวข้อกระทู้นี้แล้วครับ
ที่กรัชกาย โยงเนื้อหาพระสูตรอย่างมั่วๆ

มัวยังไงครับ

กลับไปอ่านคำอธิบายใหม่ สามรอบ ครับ

จะสรุปให้ฟังอีกที เช่นนั้นนะ รู้ธรรมะทั้งเปลือก รู้เข้าใจหลักธรรมแบบขอนไม้ รู้แล้วนำใช้ประโยชน์ต่อชีวิตไม่ได้ เพราะเข้าใจธรรมะแบบแก้วสารพัดนึก ก็จึงไม่เข้าใจชีวิต อ่านๆพระสูตรเพื่อให้เกิดความปลาบปลื้มใจ อ่านแล้วนอนยิ้มกริ่ม อันนี้พอได้ แค่นี่เอง อ้าวจริงๆ

คิกๆๆ